ความลับแห่งจินเหลียน 321 คำพูดโกหกกับความเข้าใจผิด

Now you are reading ความลับแห่งจินเหลียน Chapter 321 คำพูดโกหกกับความเข้าใจผิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความจริงซีเหมินจินเหลียนเสียใจกว่าไมโลตั้งหลายเท่า หยกแสงอาทิตย์สีเขียวหายไปต่อหน้าต่อตา อีกอย่างคนที่สามารถขโมยของในห้องที่มีระบบป้องกันหนาแน่นขนาดนั้น ตำรวจอยากจะไขคดีคงไม่ใช่เรื่องง่าย

 

 

หยกแสงอาทิตย์สีเขียว ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วตกไปอยู่ในมือใคร ซีเหมินจินเหลียนนั่งพิงเบาะรถและกุมขมับถอนหายใจ

 

 

เพราะเกิดเรื่องแบบนี้ งานเลี้ยงที่หรูหรายิ่งใหญ่กลับต้องจบสิ้นลงไปโดยปริยาย ตำรวจเริ่มสอบถามถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แน่นอนซีเหมินจินเหลียนไม่ได้หลบหนี แต่เธอมีไมโลเป็นพยาน แถมเธอยังไม่เคยเข้ามาห้องเก็บของ เลยไม่มีใครเอาความอะไรกับเธอได้?

 

 

มีตำรวจที่ไม่รู้มาจากไหนสงสัยเธอ และพูดประโยคไม่น่าฟังอยากจะสืบค้นเธอ

 

 

ผลสุดท้ายแลกไปด้วยมัดของหูชีเยี่ยน หูชีเยี่ยนพูดกับปากด้วยประโยคหนึ่งว่าเหมืองหยกที่พม่าเป็นของฉัน ฉันยังจะตกใจอะไรกับอีแค่หินไร้ค่าก้อนเดียว?

 

 

สำหรับเขาแล้ว ถ้าแสงอาทิตย์สีเขียวไม่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกันมาก มันก็แค่หินไร้ค่าก้อนเดียวเท่านั้น สิ่งสุดท้ายที่ทำให้ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกดีกับไมโลก็คือ ชายหนุ่มที่เพิ่งทำของล้ำค่าหายไป สุดท้ายแล้วยังตั้งใจที่จะมาส่งเธอ แถมยังเชื้อชวนเธอถ้ามีเวลาว่างให้แวะไปเยี่ยมเยียนหาเขาที่จวงหยวน

 

 

“เกิดอะไรขึ้น?” หูชีเยี่ยนขับรถเฟอร์รารี่สุดเท่พร้อมถาม

 

 

“หยกแสงอาทิตย์สีเขียวหายไปแล้วค่ะ เกรงว่า…คงไม่มีทางเจออีกแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจเบาๆ “พ่อไม่เสียใจเลยเหรอคะ?”

 

 

“อืม นิดหน่อย” หูชีเยี่ยนยิ้ม “แต่พ่อก็หวังจะให้มันหายไปเหมือนกัน”

 

 

“ทำไมล่ะคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม “ในเมื่อพ่อไม่ต้องการ ทำไมต้องให้หนูไปซื้อด้วยล่ะคะ?”

 

 

“พ่อไม่ได้บอกว่าพ่ออยากได้? แต่ของแบบนี้ถ้าตกไปอยู่ในมือคนอื่น มันก็ไม่ค่อยสบายใจ” หูชีเยี่ยนยิ้ม

 

 

“พ่อคะ พ่อกลัวอะไรอยู่กันแน่คะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม “หินซ่อมฟ้าเก่งกาจขนาดนั้นเลย?”

 

 

หูชีเยี่ยนไม่พูดอะไร ใจจดใจจ่อกับความสุขนั้น ส่วนซีเหมินจินเหลียนเองคิดเรื่อยเปื่อยถามไปว่า “พ่อคะ ยี่สิบปีที่พ่อหายไป คงไม่ใช่ถูกหินซ่อมฟ้าจับไปใช่ไหมคะ?”

 

 

“ลูก…ลูกนี่เด็กโชคร้าย” หูชีเยี่ยนเหยียบคันเร่งเ**้ยมเกรียม สมรรถนะยอดเยี่ยมของรถเฟอร์รารี่แล่นออกไปเหมือนลมพัดปลิว ซีเหมินจินเหลียนต้องระมัดระวังไว้ก่อน เอนตัวไปที่เบาะหลังให้แน่นเพื่อพิงกับเบาะที่นั่ง

 

 

รอให้ผ่อนลมหายใจอีกรอบ ซีเหมินจินเหลียนพูด “ถึงหนูจะทายถูก พ่อก็ไม่เห็นต้องทำแบบนี้นี่คะ? หรือว่าหินซ่อมฟ้าจะเป็นหญิงงาม? เลียนแบบจือจูชิงที่ตามตื้อพ่อไม่ปล่อยหรืออย่างไร?”

 

 

หูชีเยี่ยนถอนหายใจและขับรถช้าลงถึงเริ่มพูด “จินตนาการของลูกหลากหลายดีนี่ พ่อจะบอกกับลูกอย่างไรดี? พ่อจะบอกลูกให้ ตอนนั้นซีเหมินน่งเยว่ที่สมควรตายนั่นทำให้ดวงตาพ่อบอด ทำให้สองแขนพ่อพิการ จุดชนวนระเบิดใต้เหมืองหยก เพราะอย่างนี้ทั้งเหมืองหยกจึงระเบิด เรื่องพวกนี้ลูกรู้เรื่องทุกอย่าง? ใช่ไหมล่ะ?”

 

 

“อืม” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “ไม่ผิดค่ะ เป็นแบบนั้น พ่อบอกไว้แบบนั้น เขาก็บอกแบบนั้น เพราะอย่างนั้นที่เขาบอก พ่อไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่รอด”

 

 

หูชีเยี่ยนยิ้มเฝื่อน “ตอนนั้นเขาน่าจะฝังมีดไว้ที่หัวใจของพ่อ และก็ปลิดชีวิตพ่อซะสิ้นๆ เรื่อง แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เขาไม่รู้ว่าคนในตระกูลหูของพวกเราไม่เหมือนกับคนทั่วไป”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมึนงงพร้อมถาม “มีอะไรที่ไม่เหมือนกันคะ?”

 

 

“ลูกก็เคยมีประสบการณ์กับตัวเองมาก่อนนี่ ลองคิดดูดีๆ” หูชีเยี่ยนยิ้ม

 

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดถึงคำพูดของหลินเสวียนหลาน รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของเขาไม่ได้คร่าชีวิตของเธอไป ในเมื่อตัวเองยังรอด หูชีเยี่ยนกับตนก็เป็นสายเลือดเดียวกัน ทำไมเขาจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? และจากที่อ้ายกั๋วเคยพูดไว้ ตอนนั้นบาดแผลของจ่านป๋ายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าคนธรรมดาทั่วไป จนถึงตอนนี้น่าจะเป็นเพราะผลลัพธ์ในเลือดของเธอ

 

 

ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ถ้าให้เวลาสักหน่อยแก่หูชีเยี่ยน เขาน่าจะรักษาอาการบาดเจ็บให้ฟื้นตัวหายเร็วได้แน่นอน

 

 

หูชีเยี่ยนเห็นเธอไม่พูดอะไรเลยพูดต่อ “แต่เดิมชนวนระเบิดแค่เล็กน้อย ส่วนบนก็ทรุดตัวลง พ่อถูกฝังทั้งเป็น แม้ว่าพ่อจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยมสูงส่ง ก็ไม่ต้องคิดที่จะปีนออกมาหรอกถูกไหม?”

 

 

“อืม” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ”

 

 

“ผลสุดท้ายชนวนระเบิดนั่นทำให้เกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย มันเลยทำให้ใต้ดินเป็นหลุมโพรงขนาดใหญ่ ตอนนั้นพ่อเป็นลมหมดสติ ตื่นขึ้นมาเลยรู้สึกกระหายน้ำ ดังนั้นจึงใช้มือคลำหาน้ำไปทั่วทิศ โชคยังเข้าข้างพ่ออยู่บ้าง เลยหาน้ำเจอได้อย่างรวดเร็ว…ตอนนั้นพ่อไม่ได้คิดมาก เพราะสถานการณ์ของพ่อตอนนั้นย่ำแย่ ไม่มีอะไรย่ำแย่ไปกว่าตอนนั้นแล้ว และไม่ได้คำนึงถึงน้ำพวกนั้นว่ามีพิษหรือเปล่า อย่างไรเสียขอแค่ไม่ตายก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่” หูชีเยี่ยนถอนหายใจเบาๆ

 

 

“พ่อที่น่าสงสาร” ซีเหมินจินเหลียนพูดเสียงเบา

 

 

“ความจริงน้ำนั้นก็คือคาลซิโดนีโบราณ” หูชีเยี่ยนพูดแผ่วเบา “น้ำนี้มีผลการรักษาที่ยอดเยี่ยม ใช้ไปนานเข้าบาดแผลของพ่อก็ค่อยๆ ดีขึ้น ต่อมาดวงตาก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสภาพ สถานที่แบบนั้นมีหยกแสงเย็นจำพวกนี้ได้กลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงหลักของพ่อ”ในระหว่างที่พูดเขาก็ชี้ไปที่กำไลบนข้อมือเธอ “แสงนั้นแข็งแกร่งกว่าของหนูเล็กน้อย พ่อว่ามันไม่น่าเหมาะสมจะทำเป็นเครื่องประดับ”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ดู ถ้าแหล่งกำเนิดแสงเย็นมีพลังที่ยิ่งใหญ่ จนสามารถสาดแสงได้ขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นไม่มีทางทำเครื่องประดับที่เหมาะสมได้ ใครจะยอมให้หลอดไฟอยู่บนตัวกัน?

 

 

“สถานที่แห่งนั้นมีของที่เหมือนไข่อีกมากมายที่ฝังอยู่ข้างในหยก พ่อก็พยายามทุบทำลายมันจนแตกแล้วกินน้ำข้างในที่น่าเวทนาของมัน…” หูชีเยี่ยนพูดต่อ

 

 

“แล้วต่อมาพ่อออกมาได้อย่างไรคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม

 

 

“ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้ง สถานที่แห่งนั้นมีอุโมงค์ยาวลึก พ่อเลยปีนขึ้นมาได้” หูชีเยี่ยนยิ้ม

 

 

ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจ ในใจรู้สึกสงสัย คำพูดแบบนี้มีรอยรั่วมากมาย แต่เธอยอมที่จะเชื่อว่า…เธอยอมให้หลายปีนี้เขาถูกฝังไว้อยู่ใต้ดินและมีแผ่นดินไหวอีกครั้ง เลยอาศัยจังหวะนั้นปีนขึ้นมา เรื่องอื่นเธอไม่อยากจะไปเค้นหาเรื่องราวอะไรอีกแล้ว

 

 

กลับมาถึงคฤหาสน์ที่เช่า หูชีเยี่ยนส่งเธอถึงหน้าประตูและถามกะทันหัน “จ่านป๋ายยังไม่กลับมาเหรอ?”

 

 

ซีเหมินจินเหลียนมองไปที่ประตูของวิลล่าที่ปิดอยู่และข้างในยังคงมืดสนิท พยักหน้าพูด “คิดว่าน่าจะใช่ค่ะ”

 

 

“ให้พ่ออยู่เป็นเพื่อนลูกไหม?” หูชีเยี่ยนถาม

 

 

“ถ้าพ่อมีธุระ พ่อไปจัดแจงธุระก่อนเถอะค่ะ พรุ่งนี้พวกเราไปสถานที่พนันกัน” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเบาๆ

 

 

“โอเค” หูชีเยี่ยนตอบรับ เห็นซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปในคฤหาสน์ถึงได้ขับรถจากไปพร้อมกุมหน้าผากถอนหายใจ คนอื่นยังไม่เท่าไหร่ แต่ลูกสาวของตัวเองหลอกยาก แต่เขาก็หวังไว้ว่าเธอจะเชื่อในคำพูดของตน

 

 

ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก จ่านป๋ายยังไม่ได้กลับมาจริงๆ ด้วย ตอนนั้นจึงนั่งบนโซฟาอย่างเหม่อลอย…ครึ่งชั่วโมงผ่านไปจ่านป๋ายก็ยังไม่กลับมา เธอจะรอก็รู้สึกแหน่งหน่าย ทันใดนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายโทรไปหาเขา

 

 

แต่ในโทรศัพท์มีเสียงอัตโนมัติของหญิงสาวส่งมาว่า ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’

 

 

เวลาประมาณเที่ยงคืน จู่ๆ แสงไฟพลันสว่างจ้ากระแทกตาของซีเหมินจินเหลียน เธอใช้มือบดบังสายตา อีกด้านก็ขมวดคิ้วมองจ่านป๋าย

 

 

“จินเหลียน…” จ่านป๋ายก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน เห็นซีเหมินจินเหลียนสวมใส่ชุดราตรียาวและนั่งอยู่บนโซฟาแบบนั้น ขมวดคิ้วถาม “คุณกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมไม่ไปนอนในห้อง?แล้วทำไมถึงได้ใส่ชุดราตรีล่ะ?”

 

 

“กี่โมงแล้วเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่ถามกลับออกไป

 

 

“เพิ่งเลยเที่ยงคืน คุณรีบกลับไปนอนในห้องเถอะ ระวังจะตากลมเย็นเข้า” จ่านป๋ายพูด

 

 

“คุณไปไหนมางั้นเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าถาม

 

 

“ผมกับคุณสมิธออกไปกินข้าวกันข้างนอก จากนั้นยังไปเล่นพนันกันต่ออีกสองตา” จ่านป๋ายเดินเข้ามาประคองมือเธอถาม “เป็นอะไรไป คุณบอกว่าปวดหัว อาการดีขึ้นแล้วยัง?”

 

 

“สมิธที่คุณพูดถึง คือคุณสมิธที่จัดงานพนันของชิงซื่อคนนั้นหรือเปล่า?” ซีเหมินจินเหลียนถามเพื่อยืนยันอะไรบางอย่าง

 

 

“อืม” จ่านป๋ายพยักหน้าพูด “ใช่แล้ว ในอนาคตบริษัทจินเหลียน จิวเวอรี่ของพวกเราต้องตีตลาดโลก ยังต้องการความช่วยเหลือจากเขา ดังนั้นผมต้องเข้าสังคมไว้”

 

 

“ฉันไม่ได้ถามเรื่องนี้” ซีเหมินจินเหลียนส่ายศีรษะพูด “คุณจะคบค้าสมาคมก็ไม่เป็นไร หรือจะออกไปจีบสาวฉันก็ไม่สน ปัญหาก็คือ…ทำไมคุณต้องโกหกฉันด้วยล่ะ?”

 

 

จ่านป๋ายสับสน ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเย้ยหยัน “เมื่อสักครู่คุณถามฉันว่าทำไมถึงได้ใส่ชุดราตรีใช่ไหม? เพราะวันนี้ฉันไปร่วมงานเลี้ยงของสมิธ ไม่ทราบว่าตอนนั้นคุณไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”

 

 

จ่านป๋ายนิ่งชะงัก ซีเหมินจินเหลียนไม่อยากฟังคำตอบ ทันใดนั้นจึงนวดเท้าที่เหน็บชา จากนั้นเขวี้ยงรองเท้าส้นสูงบนเท้าและเดินเท้าเปล่าขึ้นไปด้านบน

 

 

เห็นเงาด้านหลังของซีเหมินจินเหลียนค่อยๆ หายไปที่มุมของบันได จ่านป๋ายหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา หมดกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเหรอ? ใครพาเธอไปงานเลี้ยงของสมิธกัน? จ่านมู่ฮวากับสวี่อี้หรานวันนี้ไปที่ฮอลลีวูดในงานปฐมรอบภาพยนตร์เรื่องเทพธิดาหนี่วาหินซ่อมฟ้า…

 

 

ฉินเฮ่า? ฉินเฮ่าพาอวิ๋นเจียมาด้วยกัน ไม่มีทางนัดเธอมาด้วยกันแน่

 

 

จ่านป๋ายคิดๆ ดูแล้วต่อสายโทรศัพท์โทรออก ไม่นานโทรติด ข้างในมีเสียงเคร่งขรึมดังขึ้น “ไม่มีอะไรแล้วดึกๆ ดื่นๆ จะโทรมารบกวนฉันทำไม”

 

 

จ่านป๋ายพูดเสียงเบา “หูชีเยี่ยนมาลาสเวกัสหรือเปล่า?”

 

 

“นายก็รู้ยังจะถามอะไรอีก?” ภายในโทรศัพท์มีเสียงดังแว่วเหมือนคนหมดพลัง

 

 

“ทำไมนายถึงไม่บอกฉัน?” จ่านป๋ายถาม

 

 

“เขาจะมาไม่มาก็ไม่ส่งผลกับนาย จะบอกนายไปเพื่ออะไรล่ะ?” เสียงในโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

 

 

“นายเกือบจะทำให้งานของฉันพังแล้ว” จ่านป๋ายโกรธจัด

 

 

“แค่ผู้หญิงคนเดียว คุ้มค่าเหรอ?” เสียงในโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างเคร่งขรึม “คุณป๋ายครับ คุณกำลังเล่นกับชีวิต”

 

 

“แม้จะเล่นกับชีวิต ฉันก็คิดว่าเป็นกฎของฟ้าดินที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ฉันเทียบกับนายไม่ได้ หรอก อย่างนายน่ะสมองเต็มไปด้วยหนอนแมลงวันที่เหม็นเน่า”

 

 

ในโทรศัพท์มีคนส่งเสียงสบถด่าออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็วางสายไป จ่านป๋ายนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดปัญญา หูชีเยี่ยนมาลาสเวกัส ไม่น่าล่ะซีเหมินจินเหลียนถึงได้ไปงานเลี้ยงของสมิธ…แย่แล้ว พวงกุญแจหยกสีเลือด เขาต้องรีบเอามันกลับมา ไม่อย่างนั้นคงเข้าใจผิดลงลึกขึ้นไปอีก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด