จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 411 ปะทะคารม

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 411 ปะทะคารม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 411 ปะทะคารม​

หัวใจ​ของ​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​เต้น​ไม่เป็นจังหวะ​ นาง​รู้สึก​ได้​ว่า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ไม่ได้​หมายความ​แบบ​นั้น​เลย​

เมื่อ​เห็น​เหตุการณ์​เป็น​เช่นนี้​ เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ก็​รีบ​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​ “พี่​ฉู่ คุณ​ลุง​ห​ยาน​ ผู้น้อย​ขอ​ดื่ม​ขอบคุณ​ที่​ท่าน​ทั้งสอง​มาช่วย​พวกเรา​ใน​ครั้งนี้​”

“ฉัน​ก็​แค่​อยาก​ปกป้อง​ลูกสะใภ้​ให้​ปลอดภัย​ ไม่ต้อง​มาก​พิธีการ​ก็ได้​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​พร้อมกับ​ยิ้ม​กว้าง​ ใน​หัวใจ​ยังคง​เต็มเปี่ยม​ไป​ด้วย​ความหวัง​ ลูก​รัก​ของ​พ่อ​ พ่อ​จะช่วย​เจ้าปกป้อง​หญิง​คนรัก​ของ​เจ้าเอง​

ฉู่ชวิ๋น​เกือบจะ​สำลัก​สุรา​ตาย​แล้ว​

เหยา​ไป๋​เยวี่ย​นั่ง​ตัว​แข็งทื่อ​

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ เจ้าหอ​กระจก​นิรันดร์​ขมวดคิ้ว​ มองหน้า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ด้วย​ความไม่พอใจ​

“นาย​ท่าน​ห​ยาน​ ข้า​เคารพ​ท่าน​ใน​ฐานะ​หัวหน้าครอบครัว​ วันนี้​ขอ​ขอบคุณ​ที่​ท่าน​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วยเหลือ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ พวกเรา​จงทำ​ต่อกัน​อย่าง​มิตรสหาย​ ได้​โปรด​ระมัดระวัง​คำพูด​ด้วย​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​มีแววตา​เย็นชา​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​ได้​แต่​หวัง​ว่า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​จะรู้ตัว​ว่า​ตนเอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​

ชายหนุ่ม​รีบ​กล่าว​ออกมา​ว่า​ “เจ้าสำนัก​ปี๋​อย่า​เพิ่ง​เข้าใจผิด​ นาย​ท่าน​ห​ยาน​เพียงแค่​ชื่นชม​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ เปรียบเสมือน​ว่า​ถ้าในอนาคต​มีลูกสะใภ้​ ก็​อยากได้​คน​ที่​ดีงาม​แบบ​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ มัน​เป็น​แค่​การ​เปรียบเปรย​เฉย ๆ​ ครับ​ เป็น​แค่​การ​เปรียบเปรย​เท่านั้น​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รู้ตัว​ว่า​ตนเอง​ไม่ได้​พูด​เปรียบเปรย​ และ​มองออก​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​มีเจตนา​บิดเบือน​คำพูด​ของ​เขา​ จอม​มาร​ร้าย​คน​นี้​คง​อยาก​จะแย่ง​คนรัก​ของ​ลูกชาย​เขา​ไป​เป็นที่​แน่นอน​แล้ว​ ชาย​ชรา​จึงหันไป​มองหน้า​ตาขวาง​ “ฉู่ชวิ๋น​ ครั้ง​ก่อนที่​คุณ​มาที่นี่​ก็​เพื่อ​มาตามหา​ผู้หญิง​ไม่ใช่เหรอ​ แล้ว​ตอนนี้​

ห​ยาน​เอ๋อร์​ของ​ฉัน​เป็น​เพื่อนรัก​กับ​คุณ​นะ​ บอก​มาเดี๋ยวนี้​ คุณ​คิด​จะตีท้ายครัว​เพื่อน​ของ​ตัวเอง​ใช่ไหม​ แอบ​หลงรัก​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​มานาน​แล้ว​สินะ​?”

ฉู่ชวิ๋น​ถึงกับ​พูด​อะไร​ไม่ออก​ ก่อนหน้านี้​เขา​รู้สึก​ได้​ว่า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​จะต้อง​เข้าใจ​อะไร​ผิด​อยู่​อย่าง​แน่นอน​ แต่​ไม่นึก​เลย​ว่า​มัน​จะเลยเถิด​ถึงขนาด​นี้​ และ​ทำให้​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ถึงกับ​เกรี้ยวกราด​อย่าง​หนัก​

“นาย​ท่าน​ห​ยาน​ ท่าน​คิด​เรื่อง​ผีสาง​อะไร​อยู่​ถึงได้​พูด​ถ้อยคำ​เช่นนี้​ออกมา​?” ปี๋​เค่อ​หยุ​นตบ​โต๊ะ​ปัง​ จาน​อาหาร​และ​ตะเกียบ​ลอย​ขึ้น​กลางอากาศ​ หลังจากนั้น​ นาง​ก็​กล่าว​ต่อว่า​ “ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ท่าน​มาช่วยเหลือ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ทำไม​? ที่แท้​พวกเรา​ก็​หนีเสือปะจระเข้​ ท่าน​ไม่ได้​มีเจตนา​ดี​มาตั้งแต่แรก​ หอ​กระจก​นิรันดร์​ของ​ข้า​กำลัง​พบ​เจอ​กับ​ปัญหา​ใหญ่​ ท่าน​คิด​ฉวยโอกาส​จาก​วิกฤตการณ์​ครั้งนี้​ รังแก​พวกเรา​ใช่หรือไม่​?”

“ใคร​คิด​ฉวยโอกาส​ไม่ทราบ​? ห​ยาน​เอ๋อร์​กับ​เยวี่ยเอ๋อร์​รัก​กัน​มาตั้ง​แต่ไหนแต่ไร​ วัน​นี้แหละ​ฉัน​จะขอ​ประกาศ​ให้​ชัดเจน​ ไม่สงสัย​บ้าง​หรือไง​ว่า​ทำไม​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ถึงได้​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วยเหลือ​หอ​กระจก​นิรันดร์​? บางคน​คง​คิด​ว่า​เขา​เห็นแก่หน้า​ห​ยาน​เอ๋อร์​ แต่​ลืม​ไป​หมด​แล้ว​หรือไง​ว่า​จอม​มาร​เป็น​คน​ชั่วช้า​ขนาด​ไหน​? ใน​ความเห็น​ของ​ฉัน​ รีบ​ให้​ห​ยาน​เอ๋อร์​กับ​เยวี่ยเอ๋อร์​แต่งงาน​กัน​ดีกว่า​ เรา​ทั้งสองฝ่าย​จะได้​กลายเป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​…”

“ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ สติ​เลอะเลือน​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ อวดดี​มากเกินไป​แล้ว​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​โกรธเคือง​จน​ใบหน้า​แดงก่ำ​

“เจ้าสำนัก​ปี๋​ พูด​อะไร​อยู่​รู้ตัว​หรือเปล่า​? เด็ก​มัน​รัก​กัน​ก็​ให้​แต่งงาน​กัน​สิ หรือว่า​ห​ยาน​เอ๋อร์​ของ​ผม​ไม่คู่ควร​กับ​ลูกศิษย์​ของ​คุณ​?”

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​อ้าปากค้าง​ หน้าอก​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง​อย่าง​รุนแรง​ พูด​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ว่า​ “ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ ข้า​ยังคง​ขอบคุณ​ท่าน​ที่​อุตส่าห์​มาช่วยเหลือ​ แต่​ที่แท้​พวก​ท่าน​ก็​ไม่ได้​ต่าง​จาก​พวก​ตระกูล​จัง ที่แท้​ก็​เป็น​พวก​หมาป่า​เจ้าเล่ห์​ไม่มีผิด​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​ความ​เดือดดาล​เช่นกัน​ว่า​ “เจ้าสำนัก​ปี๋​ กฎเกณฑ์​โบราณ​คร่ำครึ​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​สมควร​เปลี่ยนแปลง​ได้​แล้ว​ นี่​มัน​ยุค​ไหน​สมัย​ไหน​แล้ว​? ยัง​จะยึดติด​ขนบธรรมเนียม​โบราณ​บ้าบอ​อยู่​อีก​หรือ​ คนเรา​เกิด​มามีแค่​เพียง​ชีวิต​เดียว​ แต่​คุณ​กลับ​ห้าม​ลูกศิษย์​ไม่ให้​ทำ​ตามใจ​ตัวเอง​ แบบนี้​มัน​โรคจิต​ชัด​ ๆ”

เปรี้ยง​!

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ดวงตา​เหมือนกับ​มีเปลวไฟ​ลุกโชน​อยู่​ใน​นั้น​ นาง​ยก​เท้า​เตะ​โต๊ะ​กระจาย​ จาน​อาหาร​และ​ตะเกียบ​ปลิว​ว่อน​ใน​อากาศ​

“ศิษย์​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ฟังข้า​ให้​ดี​ ตระกูล​ห​ยาน​มีเจตนา​สกปรก​ พวก​มัน​ตั้ง​ใจมาข่มขู่​ทำร้าย​คน​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ รีบ​ขับไล่​พวก​มัน​ออก​ไป​เดี๋ยวนี้​”

“เจ้าสำนัก​ปี๋​ ใจเย็น​ก่อน​ครับ​ ใจเย็น​ก่อน​ นาย​ท่าน​ห​ยาน​ไม่ได้​หมายความ​แบบ​นั้น​” ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​แก้ไข​สถานการณ์​

“หุบปาก​!” ปี๋​เค่อ​หยุ​นตก​อยู่​ใน​สภาพ​โกรธ​จน​ควัน​ออก​หู​ แม้แต่​ญาติพี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ก็​ไม่น่าจะ​จำได้​ด้วยซ้ำ​

ฉู่ชวิ๋น​จึงต้อง​จำใจหันมา​พูด​กับ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​แทน​ว่า​ “นาย​ท่าน​ห​ยาน​ คุณ​กลับบ้าน​ไป​ก่อน​เถอะ​”

“แก​นั้น​ละ​ หุบปาก​!” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​จ้องมอง​ฉู่ชวิ๋น​ด้วย​ความไม่พอใจ​

“แม้แต่​แฟน​ของ​เพื่อน​ก็​คิด​จะแย่ง​ได้​ลงคอ​ แก​นี่​มัน​ไร้ยางอาย​จริง ๆ​”

ฉู่ชวิ๋น​ยืน​นิ่ง​ตกตะลึง​อยู่กับที่​ คิด​แย่ง​แฟน​เพื่อน​? นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​เนี่ย​?

“เยวี่ยเอ๋อร์​ บอก​เจ้าสำนัก​ของ​เจ้าไป​สิว่า​เจ้ารัก​ห​ยาน​เอ๋อร์​ใช่หรือเปล่า​? เพียงแค่​เจ้าพูด​ออกมา​ เดี๋ยว​ลุง​จะรับผิดชอบ​ทุกอย่าง​เอง​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​หันขวับ​ไป​มองหน้า​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​

เหยา​ไป๋​เยวี่ย​เกือบจะ​ร้องไห้​ออกมา​แล้ว​ตอน​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​

“เยวี่ยเอ๋อร์​ บอก​ข้า​มามัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​? ที่​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ออกมา​เป็น​ความจริง​หรือไม่​? ไม่ว่า​คำตอบ​คือ​อะไร​ ข้า​ยินดี​รับฟัง​เสมอ​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​หันไป​มองหน้า​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​อย่าง​กดดัน​

“ผู้น้อย​…ผู้น้อย​…” เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ดวงตา​แดงก่ำ​ ฝ่าย​หนึ่ง​ก็​เป็น​บิดา​ของ​ชายหนุ่ม​ที่​เธอ​รัก​ แต่​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ก็​เป็น​อาจารย์​ที่​เลี้ยงดู​เธอ​มาตั้งแต่​เด็ก​ สถานการณ์​แบบนี้​ เธอ​ตัดสินใจ​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​

“เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ พูด​ออกมา​เถอะ​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ใช้โอกาส​ที่​พวก​มัน​ช่วยชีวิต​พวกเรา​เอาไว้​กดดัน​เจ้าใช่ไหม​ แบบนี้​มัน​ไม่ยุติธรรม​เลย​นะ​” ผู้อาวุโส​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ก็​พูด​ออกมา​ด้วย​เช่นกัน​

“ฉวยโอกาส​บ้าบอ​อะไร​? พวก​เธอ​ลอง​ไป​ถามใคร​ดู​ก็ได้​ มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่รู้​ว่า​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​กับ​นาย​น้อย​ตระกูล​ห​ยาน​เป็น​แฟน​กัน​ มีแต่​พวก​ไดโนเสาร์​เต่า​โบราณ​เท่า​นั้นแหละ​ที่​ไม่รู้เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​ด้วย​ ซ้ำยัง​คิด​จะขัดขวาง​ความรัก​ของ​เด็ก​รุ่นใหม่​เสีย​อีก​” ผู้อาวุโส​จาก​ตระกูล​ห​ยาน​ส่งเสียง​ตะโกน​ออกมา​

“พูด​อะไร​ได้​โปรด​ระวัง​ปาก​สักหน่อย​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​คำราม​ด้วย​ความโกรธแค้น​ นาง​จ้องมอง​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ แล้ว​ถามว่า​ “เยวี่ยเอ๋อร์​ บอก​ข้า​มาเดี๋ยวนี้​ ที่​พวกเขา​พูด​มาเป็น​ความจริง​หรือไม่​?”

เหยา​ไป๋​เยวี่ย​น้ำตา​คลอ​เต็ม​สอง​เบ้า​ “อาจารย์​เจ้าคะ​ ผู้น้อย​…”

เธอ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อย่างไร​ดี​ จึงทำได้​เพียง​หันไป​กล่าว​กับ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ด้วย​น้ำเสียง​อ้อนวอน​ว่า​ “คุณ​ลุง​ห​ยาน​เจ้าคะ​ ได้​โปรด​อย่า​พูด​อะไร​อีก​เลย​”

สีหน้า​ของ​ปี๋​เค่อ​หยุ​นขา​ว​ซีด​ไป​ทันที​ เช่นเดียวกับ​สีหน้า​ของ​ผู้อาวุโส​ใน​หอ​กระจก​นิรันดร์​ที่อยู่​โดยรอบ​

เรื่อง​นี้​ชัดเจน​แล้ว​ เมื่อ​ดู​จาก​ปฏิกิริยา​ของ​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ ทุกคน​ก็​ตระหนัก​แล้ว​ว่า​สิ่งที่​พวก​ของ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ออกมา​เป็น​ความจริง​ทุก​ประการ​ มีแต่เพียง​พวก​นาง​เท่านั้น​ที่​ไม่เคย​รู้​ความจริง​

ตุบ​ ปี๋​เค่อ​หยุ​นท​รุด​ร่าง​ลง​นั่งพับเพียบ​กับ​พื้น​ ดวงตา​ฉายแวว​หมอง​เศร้า​ สำหรับ​นาง​ นี่​ไม่ต่าง​จาก​การ​ถูก​ฟ้าผ่า​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​อุทิศ​ชีวิต​ของ​นาง​เพื่อ​พัฒนา​หอ​กระจก​นิรันดร์​มาเสมอ​ นาง​ทุ่มเท​ใน​การ​ฝึก​ตน​ ฝึก​วิชา​ บำเพ็ญ​ตบะ​อยู่​ใน​กฎระเบียบ​อัน​เข้มงวด​ แม้แต่​คำหยาบ​สัก​คำ​นาง​ก็​ไม่เคย​กล้า​พูด​ ด้วย​กลัว​ว่า​มัน​จะเป็น​ความผิดพลาด​ที่​นำ​มาสู่หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​

“อาจารย์​เจ้าคะ​” เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ขยับ​เข้าไป​จะช่วย​ประคอง​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ แต่กลับ​ถูก​อีก​ฝ่าย​ผลัก​กระเด็น​ออกมา​

“สารเลว​ ไม่ต้อง​มายุ่ง​กับ​ข้า​ หอ​กระจก​นิรันดร์​คง​ภาพลักษณ์​อัน​ดีงาม​มาหลาย​ร้อย​ปี​ แต่​ตอนนี้​ทุกอย่าง​พังทลาย​หมด​แล้ว​ หาก​ข้า​ตาย​ไป​ เจ้าจะให้​ข้า​ไป​สู้หน้า​กับ​บรรดา​บรรพบุรุษ​เจ้าสำนัก​รุ่น​ก่อน​ ๆ ได้​อย่างไร​?”

“ท่าน​อาจารย์​!” เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ร้องไห้​น้ำตาไหล​แล้ว​

“เยวี่ยเอ๋อร์​ เขา​ไม่รัก​หนู​ก็ช่าง​เขา​เถอะ​ บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ยินดีต้อนรับ​เจ้าเสมอ​ เจ้ามาอยู่​กับ​ลูกชาย​ลุง​ตลอดชีวิต​เลย​ดีกว่า​นะ​”

“คุณ​ลุง​ห​ยาน​ ได้​โปรด​อย่า​พูด​อย่างนั้น​” เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ร้องไห้​อ้อนวอน​

เช้ง!

เสียง​ชักดาบ​ออกจาก​ฝัก​ดัง​ขึ้น​ บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ควง​ดาบ​ตรง​เข้าใส่​กลุ่มคน​ของ​ตระกูล​ห​ยาน​

“ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ วันนี้​แก​ต้อง​ตาย​อยู่​ที่นี่​ โทษ​ฐาน​ที่​ทำลาย​ภาพลักษณ์​อัน​ดีงาม​หลาย​ร้อย​ปี​ของ​พวกเรา​”

“นี่​พวก​เธอ​เสียสติ​กัน​ไป​หมด​แล้ว​หรือไง​? นี่​มัน​ยุค​ไหน​สมัย​ไหน​แล้ว​ คนเรา​จะรัก​ใครก็ได้​ จะแต่งงาน​กับ​ใครก็ได้​ มัว​ยึดติด​อยู่​แต่​ใน​กฎเกณฑ์​คร่ำครึ​ อีกไม่นาน​เดี๋ยว​หอ​กระจก​นิรันดร์​ คง​ได้​กลายเป็น​สำนัก​นาง​ชีกัน​พอดี​”

“ทุกคน​ครับ​ นี่​เป็นเรื่อง​เข้าใจผิด​กัน​เท่านั้นเอง​ ใจเย็น​กัน​ก่อน​นะ​ครับ​ ค่อยพูดค่อยจา​กัน​ก็ได้​” ฉู่ชวิ๋น​ยังคง​พยายาม​สงบศึก​ของ​ทั้งสองฝ่าย​

ผู้อาวุโส​จาก​หอ​กระจก​นิรันดร์​หันมา​มองหน้า​ฉู่ชวิ๋น​ แล้ว​พูดว่า​ “จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ ข้า​รู้​ว่า​ท่าน​โด่งดัง​ มีฝีมือ​ทัด​เทียมฟ้า​ดิน​ ไม่มีใคร​กล้า​ตอแย​ด้วย​ แต่​ข้า​ก็​รู้​เช่นกัน​ว่า​ท่าน​เป็น​สหาย​รัก​กับ​ห​ยาน​หวูซวง​ ที่​ท่าน​มาช่วย​พวกเรา​ใน​วันนี้​ หอ​กระจก​นิรันดร์​ขอ​ขอบคุณ​ แต่​ได้​โปรด​อย่า​ทำลาย​สำนัก​ของ​พวกเรา​ไป​มากกว่า​นี้​อีก​เลย​”

“…” ฉู่ชวิ๋น​อ้า​ปาก​เหวอ​ พูด​อะไร​ไม่ออก​อยู่​ชั่ว​ครู่ใหญ่​ ได้​แต่​ผงะ​ถอยหลัง​ไป​สอง​ก้าว​ ชัดเจน​แล้ว​ว่า​เขา​ไม่สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​เลย​ เขา​ไม่สามารถ​แก้ไข​สถานการณ์​ได้​อีกแล้ว​

“ขอ​ย้ำ​อีกครั้ง​ว่า​นี่​เป็น​แค่​การ​เข้าใจผิด​กัน​เท่านั้น​ ใจเย็น​กัน​ก่อน​เถอะ​ครับ​ อย่า​ลืม​สิว่า​พวกเรา​มีศัตรู​ร่วมกัน​คือ​ตระกูล​จังกับ​สำนัก​วัชระ​”

“ตระกูล​ห​ยาน​กับ​ตระกูล​จังแตก​ต่างกัน​ตรงไหน​? ไม่ว่า​งูตัว​ใด​อยู่​ใกล้​รัง​หนู​ สุดท้าย​ก็​อันตราย​เหมือนกัน​ทั้งคู่​นั่นแหละ​” ผู้อาวุโส​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​พูด​ด้วย​ความ​ฉุน​โกรธ​

“พูด​แบบนี้​หมายความว่า​ไงฮะ? เงียบ​ไป​เลย​นะ​ พวกเรา​อุตส่าห์​มาช่วย​ แต่​พวก​เธอ​กลับ​ทำ​กับ​เรา​แบบนี้​ ใคร​เป็น​งู ใคร​เป็น​หนู​กัน​แน่​?” ผู้อาวุโส​จาก​ตระกูล​ห​ยาน​พูด​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ไม่แพ้​กัน​

“หุบปาก​เดี๋ยวนี้​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ได้สติ​กลับมา​แล้ว​ นาง​โคจร​พลัง​ลมปราณ​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​

“ลูกศิษย์​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​จงฟังให้​ดี​ ถ้าสามชั่ว​ดีด​นิ้วมือ​ผ่าน​ไป​ คน​ของ​ตระกูล​ห​ยาน​ยังคง​ไม่ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ จงฆ่าทิ้ง​ให้​หมด​ทุกคน​!”

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​พูด​เสียงดัง​กังวาน​ปาน​ฟ้าผ่า​ สั่นสะเทือน​ตัวอาคาร​ไป​ทั้ง​หลัง​

“ทำไม​ทำตัว​เป็น​ผู้หญิง​ไม่มีเหตุผล​เช่นนี้​ คิด​ว่า​จะฆ่าพวกเรา​ได้​ฝ่าย​เดียว​หรือ​อย่างไร​?” ผู้อาวุโส​จาก​ตระกูล​ห​ยาน​พูด​ออกมา​ด้วย​ความโกรธแค้น​

“นาย​ท่าน​ห​ยาน​ จะกลับกัน​ได้​หรือยัง​?” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​หมดหวัง​

“ถ้าคุณ​ยังอยู่​ที่นี่​ต่อ​ ห​ยาน​หวูซวง​กับ​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ชีวิต​นี้​คง​ไม่มีทางได้​อยู่​ด้วยกัน​แน่​ ๆ”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​มีสีหน้า​เครียด​คล้ำ​ นิ่ง​คิด​อยู่​เล็กน้อย​ ก็​ออกคำสั่ง​ด้วย​ความ​เจ็บใจ​ว่า​ “พวกเรา​กลับ​”

“ทุกคน​ กลับ​!”

ฉู่ชวิ๋น​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ เมื่อ​เห็น​ว่า​กลุ่มคน​จาก​ตระกูล​ห​ยาน​ได้​เดิน​ออก​ไป​จน​หมด​แล้ว​

ลูกศิษย์​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ถือ​ดาบ​ออกมา​ขับไล่​ กลุ่มคน​ตระกูล​ห​ยาน​พ้นไป​จาก​ประตู​สำนัก​ได้​หลาย​ร้อย​เมตร​ พวก​เธอ​ถึงได้​เดิน​กลับ​ไป​

ฉู่ชวิ๋น​ได้​แต่​มองหน้า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ ตาแก่​คน​นี้​ไม่เคย​รู้เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​เลย​จริง ๆ​

“มอง​ฉัน​ทำไม​ฮะ? ที่​ทุกอย่าง​เป็น​แบบนี้​ ก็​เพราะ​แก​คนเดียว​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​หัน​กลับมา​ถลึงตา​ใส่เขา​

ฉู่ชวิ๋น​เลิกคิ้ว​ขึ้น​สูงด้วย​ความประหลาดใจ​ แม้แต่​ผู้อาวุโส​และ​ลูกศิษย์​ของ​ตระกูล​ห​ยาน​ก็​ประหลาดใจ​เช่นกัน​ เรื่อง​นี้​กลายเป็น​ความผิด​ของ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ได้​อย่างไร​?

“มัน​เกี่ยวกับ​ผม​ได้​ไงครับ​เนี่ย​? ถ้าคุณ​ระวัง​ปาก​ตัวเอง​ให้​มากกว่า​นี้​สักหน่อย​ เรา​จะโดน​พวก​เธอ​ไล่​ออกมา​แบบนี้​ไหม​?” ฉู่ชวิ๋น​ถามด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รอ​คอยจังหวะ​นี้​อยู่​นาน​แล้ว​ “ไม่ต้อง​มาแกล้ง​โง่ อย่า​คิด​ว่า​คนอื่น​จะอ่านใจ​แก​ไม่ออก​”

ฉู่ชวิ๋น​ยิ่ง​งงงัน​หนัก​มากขึ้น​กว่า​เดิม​เป็น​หลายเท่า​

“ยัง​ ยัง​ไม่เลิก​แกล้ง​โง่อีก​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​มองหน้า​ฉู่ชวิ๋น​ “แก​ปิดบัง​คนอื่น​ได้​ แต่​คิด​ว่า​จะปิดบัง​สายตา​ของ​ฉัน​ได้​หรือไง​? อย่า​คิด​นะ​ว่า​ฉัน​ไม่รู้​ แก​เอง​ก็​สนใจ​ใน​ตัว​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​เช่นกัน​ใช่ไหม​”

“…” ฉู่ชวิ๋น​พูด​อะไร​ไม่ออก​ พลัง​ลมปราณ​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​พวยพุ่ง​ขึ้น​มาโดยไม่รู้ตัว​ นี่​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​คิด​ว่า​เขา​ชอบ​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​จริง ๆ​ อย่างนั้น​หรือ​? เป็นไปได้​อย่างไร​กัน​?

“ไม่ต้อง​มาทำ​หน้า​แบบ​นั้น​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เหยียดหยาม​ รู้สึก​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​ยังคง​แกล้ง​โง่ไม่เลิกรา​ จึงกล่าว​ต่อ​ “คิด​ว่า​ฉัน​ไม่รู้​หรือไง​ที่​แก​ขัดขวาง​ฉัน​ไม่ให้​พูด​ทวงบุญคุณ​กับ​พวก​เธอ​ ก็​เพราะ​แก​จะเก็บ​มุก​นี้​เอาไว้​ใช้เอง​ไงล่ะ​ แก​มีฝีมือ​ทัด​เทียมฟ้า​ดิน​ ซ้ำยัง​มาช่วยเหลือ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ได้​อย่าง​ถูกที่​ถูก​เวลา​ เมื่อ​เห็น​ว่า​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ซาบซึ้ง​ใน​บุญคุณ​ครั้งนี้​ ก็​เลย​คิด​จะฉวยโอกาส​ขอแต่งงาน​กับ​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ โดยที่​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ไม่มีหนทาง​ปฏิเสธ​ได้​เลย​ จริง​ไหม​?”

ฉู่ชวิ๋น​นิ่งอึ้ง​ตะลึงงัน​ เกือบ​อดใจ​ไม่ไหว​ แทบจะ​ต่อย​หน้า​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​แล้ว​

“คุณ​พูด​อะไร​ของ​คุณ​เนี่ย​? เหยา​ไป๋​เยวี่ย​เป็น​คน​ที่​ห​ยาน​หวูซวง​รัก​ แล้ว​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ก็​มีใจให้​ห​ยาน​หวูซวง​เหมือนกัน​ ตราบใดที่​ไม่ได้​ตาบอด​ ยังไง​ก็​ต้อง​มองออก​ ที่​ผม​ห้ามไม่ให้​คุณ​พูด​ตอนนั้น​ก็​เพราะ​มัน​ผิดที่​ผิดเวลา​ คุณ​คิด​หรือว่า​พวก​เธอ​จะยินดี​เปลี่ยน​กฎเกณฑ์​ที่​ปฏิบัติตาม​กัน​มาหลาย​ร้อย​ปี​ง่าย ๆ​? ถ้าสามารถ​เปลี่ยน​ได้​จริง​ ห​ยาน​หวูซวง​กับ​เหยา​ไป๋​เยวี่ยคง​ไม่ต้อง​แอบ​คบ​กัน​มาเป็น​ 10 ปี​แบบนี้​หรอก​ แล้ว​ทำไม​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​ต้อง​ปิดบัง​เรื่อง​นี้​จาก​ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ด้วย​? คุณ​นี่​มันสมอง​หมู​หรือไง​ มีตา​ก็​เหมือน​ไม่มี มืด​บอด​ไป​หมด​ทั้ง​สายตา​และ​สติปัญญา​ แก่​กะโหลกกะลา​เหลือเกิน​” ฉู่ชวิ๋น​ กัดฟัน​กรอด​ รู้สึก​คันไม้คันมือ​ขึ้น​มายิบ ๆ​ ถ้าไม่ติด​ว่า​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​บิดา​ของ​ห​ยาน​หวูซวง​ มีหวัง​เขา​ได้​ตบ​คว่ำ​ไป​แล้ว​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด