จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 298 ปล้นกลางถนน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 298 ปล้นกลางถนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 298 ปล้นกลางถนน

ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมาก ๆ คืนนี้ทั้งคืนเขาทั้งเอากระบองฟาด ทั้งใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น กว่าจะได้ดอกบัวจิตวิญญาณมา แต่ดันมีคนออกมาปล้นกันดื้อๆ ซะงั้น จะให้เขายอมได้ยังไง

เขาเป็นปรมาจารย์ด้านการปล้นฆ่าเลยนะ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้บังอาจมาเล่นลูกไม้กับเขา

“ไปพูดเลย ดูซิว่าใครจะเชื่อเธอ” ฉู่ชวิ๋นไม่เกรงกลัว ทุกคนรู้หมดว่าเขาบาดเจ็บเพราะจังเฟิงหลิงในงานเลี้ยงคืนนี้ คนที่บาดเจ็บจะบุกรุกเข้าตระกูลหยานกลางค่ำกลางคืนได้ยังไง แถมยังกลับมาได้อย่างปลอดภัยอีก

“นายคิดว่านายทำตัวหน้าด้านไร้เหตุผลแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้งั้นเหรอ” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไม่แยแส ก่อนจะหยิบมือถือออกมาและเปิดคลิป ๆหนึ่งให้ฉู่ชวิ๋นดู

ฉู่ชวิ๋นตกตะลึงแล้วจริง ๆ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้ใช้มือถือเป็นงั้นเหรอ ถ้ายังไง พวกคุณลองจินตนาการภาพของนางฟ้านางเซียนแต่ใช้มือถืออยู่ในมือออกไหม ภาพมันก็ประมาณนั้นเลย…

คลิปในมือถือถ่ายภาพตอนที่ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้าไปในเมือง ภาพในนั้นคือเขาใช้กระบองเหล็กลอบโจมตีจังเฟิงหลิงก่อนจะกระโจนหายไป จากมุมที่ถ่ายดูเหมือนผู้หญิงผมม่วงน่าจะอยู่บนดาดฟ้าตึกใดสักตึกในตอนนั้น

“ทุเรศ ยัยบ้า” ฉู่ชวิ๋นโกรธจัด เขาประมาทเกินไปจนโดนแอบถ่ายไว้ได้ เป็นไปได้ยังไงทำไมเขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย

“เหมือนนายไง” ผู้หญิงผมม่วงไม่อารมณ์เสียต่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

“ฉันไม่มีงานอดิเรกแอบถ่ายคนอื่น” ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมากๆ

“แต่นายชอบใส่ร้ายป้ายสี ชอบถ้ำมองชาวบ้าน” ผู้หญิงผมม่วงเก็บมือถือและบอกเรียบๆ

“….” ฉู่ชวิ๋นหมดคำพูด “ฉันให้ใบเธอได้แค่ 1 ใบเท่านั้น”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดจา แต่มองฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาเป็นนัย

ฉู่ชวิ๋นปวดท้อง ปวดตับ ปวดไปทุกตรง ประเด็นคือคลิปถูกถ่ายไว้ชัดมาก อยากจะปฏิเสธได้ ใครดูก็ต้องรู้ว่าเป็นเขา

“2 ใบ มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

“ตกลง”

ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจ ง่ายแบบนี้เลยเหรอ?

“ดีๆ ยอมง่าย ๆ แบบนี้ มาเองไป” ฉู่ชวิ๋นรีบพูดขึ้นมา

“ฉันหมายถึงนายเอาไป 2 ใบ ที่เหลือของฉัน” หญิงสาวพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นแทบกระโดดเหยง “ทำไมเธอไม่ไปปล้นเอาเลยละ”

ผู้หญิงผมม่วงนัยน์ตาเป็นประกาย “ฉันก็กำลังปล้นนายอยู่นี่ไง”

“……” ฉู่ชวิ๋นโมโหสุด ๆ จนต้องพูดออกมา “อย่าแม้แต่จะคิด”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอแค่โบกมือถือไปมา เป็นอันสื่อความหมายว่าถ้าไม่ให้ก็โดยดีแน่

“ดอกบัวจิตวิญญาณมีประโยชน์กับฉันมาก ฉันให้เธอไม่ได้หรอก อย่าคิดจะเอาคลิป ๆ เดียวมาขู่ฉัน เธออยากจะบอกคนอื่นก็ตามสบาย” ฉู่ชวิ๋น พูดจบก็จะเดินอ้อมผู้หญิงผมม่วงกลับโรงแรมไป

แต่ผู้หญิงผมม่วงกระโจนมาขวางเขาเอาไว้ “ไม่ทิ้งดอกบัวจิตวิญญาณไว้ก็อย่าคิดจะไปไหน”

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเธอ เขาเดินอ้อมเธอไปแล้วเดินไปทางโรงแรมต่อ

พรึ่บ

ผู้หญิงผมม่วงขวางเขาไว้อีกครั้ง

ฉู่ชวิ๋นทำท่าทางเหนื่อยหน่ายใจ “ถ้าเธอถอดผ้าคลุมหน้าออกฉันจะให้ดอกบัวจิตวิญญาณกับเธอ”

เขาอยากรู้มาก ๆ ว่าผู้หญิงผมม่วงใช่จิงหงหรือเปล่า เมื่อก่อนเขาคาดเดาว่าผู้หญิงผมม่วงคือจิงหงมาตลอด แต่ตอนนี้ความคิดนี้จืดจางลงไปมาก เพราะจิงหงไม่มีทางทำแบบนี้กับเขาเด็ดขาด ต่อให้ท่าทางและวิชาต่อสู้เหมือนกันมากแค่ไหนแต่นิสัยคนเรา มันจะเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ

ผู้หญิงผมม่วงหัวเราะ หึๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปจับแหวนมิติของฉู่ชวิ๋น อย่างรวดเร็ว

ฉู่ชวิ๋นเอี๊ยบตัวหลบ “ถ้าเธอยังราวีอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

แต่ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดไม่จา ลงมืออย่างรวดเร็ว ลมปราณอันน่าหวาดกลัวถาโถมออกมา หวังจะบดขยี้ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นถอยพรวดออกไป ขณะเดียวกันลมปราณมหึมาก็พุ่งใส่ผู้หญิงผมม่วง

ตู้ม

พายุพัดโหม เจิดจ้าแสบตา

นัยน์ตาของผู้หญิงผมม่วงมีแววตะลึงปรากฏ “ดูเหมือนฉันจะดูถูกนายไปหน่อยสินะ”

เพราะว่าตอนนี้ ฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนรูปโฉมทำให้เธอจำฉู่ชวิ๋นไม่ได้เธอแค่อยากมาปล้นดอกบัวจิตวิญญาณเท่านั้น

“อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่มีทางมอบดอกบัวจิตวิญญาณให้เธอหรอก” ดอกบัวจิตวิญญาณต้องเอาไว้ช่วยฮวาชิงหวู่ ใครก็อย่าหวังจะเอาไป

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงผมม่วงกลับไม่ยอมเลิกรา ลมปราณอันมหาศาลถาโถมเข้ามาอีกครั้งในขณะที่เธอยกมือขึ้น

ฉู่ชวิ๋นกำหมัดและปล่อยออกไป พลังหมัดสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ตู้มๆ

พริบตาเดียวทั้ง 2 ก็ประมือกันไม่ต่ำกว่า 10 กว่ากระบวนท่า สู้กันชนิดพื้นดินถล่ม ฟ้าดินทลาย เม็ดหินดินทรายปลิวว่อน ตึกแทบจะถล่มลงมา

ผู้หญิงผมม่วงประสานอิน นิ้วเรียวยาวจิ้มกลางในอากาศ

วิชาดัชนีสังหารกระบวนท่า – ดัชนีสามอุสรา

พลังที่แฝงไปด้วยกลิ่นไอลมปราณโบราณกระจายออกมา เสามโหฬารตกลงมาจากท้องฟ้า แรงกดดันอันน่ากลัวถึงกับทำให้พื้นดินแยกออกจากกัน

มือฉู่ชวิ๋นกำหมัดแน่น ไอลมปราณสีม่วงรอบตัวพลุ่งพล่าน เขายกหมัดขึ้นชกสวนกลับไป

ตู้ม ตู้ม

หมัด 2 ข้างระเบิดนิ้วยักษ์บนฟ้าจนพายุโหมกระหน่ำปรากฏออกมา

“นาย….ฉู่ชวิ๋นงั้นเหรอ” ในที่สุดผู้หญิงผมม่วงก็พูดออกมา

ฉู่ชวิ๋นไม่พรางตัวอีกต่อไป กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขา ๆ ค่อยขยับเขยื้อนกลับคืนสู่รูปโฉมเดิม

“นายจริง ๆ ด้วย” ผู้หญิงผมม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

ฉู่ชวิ๋นมองเธอ “ที่ฉันมาเมืองหยานเซวี่ยก็เพราะมาหาเธอ”

“อยากได้วิญญาณคืนงั้นเหรอ?” ผู้หญิงผมม่วงถาม

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง “ถูกต้อง วิญญาณเธอสำคัญกับฉันมาก หวังว่าเธอจะคืนวิญญาณนั้นมา ฉันไม่อยากมีปัญหากับเธอ”

“ที่นายขโมยดอกบัวจิตวิญญาณก็เพื่อช่วยวิญญาณนี้งั้นเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า

ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นนิ่งๆ นัยน์ตาดุดันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนใจจืดใจดำจริง ๆ ก็ได้ เธอด่วนสรุปเกินไป

“ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ย

“ฉันบอกแล้ว ฉันไม่รู้จักนาย”

ฉู่ชวิ๋นไม่เร้าหรือกับเรื่องนี้ต่อ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเอาวิญญาณของฮวาชิงหวู่คืนมา

“คืนวิญญาณให้ฉันได้ไหม?”

สายตาของผู้หญิงผมม่วงเป็นประกายบางอย่าง จนเจิดจรัสในความมืดมิด “ฉันขอเจอเธอหน่อยได้ไหม?”

พูดจบผู้หญิงผมม่วงก็ชะงักตัวไปทันที ทำไมเธอถึงมีความคิดแบบนี้กันนะ

นัยน์ตาของฉู่ชวิ๋นโดดเดี่ยว เขาพูดอย่างเศร้าสร้อย “เธอถูกสะกดอยู่ในน้ำแข็งมาหลาย 10 ปีแล้วถ้าฮวาชิงหวู่ฟื้นขึ้นมาได้ ต้องได้เจออย่างแน่นอน”

“เท่าที่ฉันรู้มา วิญญาณออกจากร่างแบบนี้ต้องใช้ดอกซานเซิงเป็นตัวกระตุ้น แม้ว่าดาวดวงนี้กำลังฟื้นตัว แต่ดอกซันเชิงก็ยังหายากอยู่ดีนายจะทำยังไงต่อ”

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ ผ่านไปพักนึงเขาก็เงยหน้าขึ้นมา “ต่อให้บนโลกไม่มีดอกซานเซิง ฉันก็จะฝึกตนจนกลายเป็นจักรพรรดิเซียนเพื่อเปลี่ยนโชคชะตา จากนั้นทลายมิติเวลาอีกครั้ง กลับไปทวีปเซียนอีกสักรอบจะเป็นไรไป”

ผู้หญิงผมม่วงจู่ ๆ ก็ใจอ่อน กลับไปที่ทวีปเซียนหมายความว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องฝึกฝนใหม่ทั้งหมดแล้วถ้าจะกลายมาก็ต้องเป็นจักรพรรดิเซียนอย่างน้อยเรื่องนี้ต้องใช้เวลานับ….พันปี

“เอาใบของดอกบัวจิตวิญญาณมาให้ฉัน 1 ใบ” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

“วิญญาณของเธอคนนี้ต้องการหล่อเลี้ยงด้วยดอกบัวจิตวิญญาณ แบบนี้จะได้แข็งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นวิญญาณกลับร่างจะได้อย่างปลอดภัย”

“เธอจะเอาดอกบัวจิตวิญญาณไปเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณเหรอ” ฉู่ชวิ๋นอึ้ง

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้า เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม จิตใจของเธอถึงไม่อยากให้วิญญาณดวงนี้ได้รับอันตราย

“ที่นี่เป็นที่สังเกตได้ง่าย ตามฉันมา” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างจริงจัง

ผู้หญิงผมม่วงลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็กลับไปที่พักของฉู่ชวิ๋น

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณของฮวาชิงหวู่ ฉู่ชวิ๋นไม่ยอมใช้แค่ใบของดอกบัวจิตวิญญาณ แต่เขาจะใช้เม็ดบัวเลย

ดอกบัวจิตวิญญาณที่เติบโตเต็มจะมีเม็ดบัวอยู่ทั้งหมด 4 เม็ด มูลค่าของมันถือว่าซื้อเมืองได้ทั้งเมือง ถ้ามีคนรู้จะต้องฮือฮากันอย่างมากแน่นอน

เม็ดบัวขนาดเท่านิ้วโป้ง มีสีแดงเข้มราวกับอัญมณีที่เปร่งประกายสีแดง กลิ่นหอมของยาฟุ้งไปทั้งห้อง

โชคดีที่ฉู่ชวิ๋นตั้งค่ายกลผนึกห้องไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นแค่กลิ่นหอมของยานี้ก็มากพอจะเป็นจุดสนใจของคนอื่น

ผู้หญิงผมม่วงรับเม็ดบัวมา ก่อนจะตั้งค่ายกลป้องกันขนาดเล็กครอบคลุมตัวเองเอาไว้

ฉู่ชวิ๋นลูบจมูกตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ยังระแวงเขาอยู่ดี

เขาเห็นผู้หญิงผมม่วงถอดตุ้มหูใสสกาวที่หูออกก่อนจะปลดพันธนาการ ทันใดนั้นแสงสว่างก็เจิดจ้า

ฉู่ชวิ๋นเกือบจะตะโกนด่าออกไป นี่มันวิญญาณของฮวาชิงหวู่ แต่ผู้หญิงคนนี้ บังอาจเอาไปใส่เป็นตุ้มหู เขารู้สึกมาตลอดว่าวิญญาณอยู่ติดกับตัวเธอแต่ไม่รู้ว่าตรงไหนดีไม่ดีอาจอยู่ในร่างเดียวกันด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่ามันเป็นตุ้มหูเขาคงลงมือแย่งชิงไปนานแล้ว

ผู้หญิงผมม่วงประสานอินด้วยความว่องไว น้ำตาแห่งความคิดถึง*ลอยอยู่กลางอากาศ ฤทธิ์ของเม็ดบัวแผลงด้วยลมปราณ ถูกน้ำตาแห่งความคิดถึงดูดซับเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน (น้ำตาแห่งความคิดถึง ก็คือวิญญาณของฮวาชิงหวู่)

น้ำตาแห่งความคิดถึงใสสกาวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นไอแห่งความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ หมอกลมปราณหนาแน่น เม็ดบัวเล็กลงเรื่อยๆ

ผ่านไปพักใหญ่ น้ำตาแห่งความคิดถึงก็ดูดซับพลังของเม็ดบัวจนหมด

ผู้หญิงผมม่วงไม่ได้ปลดค่ายกลป้องกัน แต่เธอหันไปมองฉู่ชวิ๋น ก่อนจะยื่นมือออกไปจิ้มน้ำตาแห่งความคิดถึง มีแสงสีขาวพุ่งจากปลายนิ้วสู่น้ำตา

ภาพหนึ่งค่อย ๆ คลี่ออก

ผู้หญิงผมม่วงเคยเห็นภาพในน้ำตาแห่งความคิดถึงแล้ว

ฉู่ชวิ๋นมองภาพนั้นพอเห็นก็ตัวแข็งค้าง ข้างในภาพมีแต่เรื่องราวต่าง ๆ ของเขาและจิงหง

“อย่า!!!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนลั่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

ภาพหยุดไว้ที่จิงหงทะลุมิติ บุกเข้าไปในวังวนแห่งมิติเวลา

“เธอคือจิงหงที่นายว่าเหรอ” ไม่รู้ทำไม ผู้หญิงผมม่วงรู้สึกเจ็บปวดใจ อยากจะทำให้ความเศร้าหมองของฉู่ชวิ๋นหายไป

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ น้ำตาคลอเบ้า บัดนี้เขาได้รู้แล้วว่าจิงหงมาหาเขาจริงๆ

ถ้าอย่างงั้น จิงหง อยู่ที่ไหนละ

จิงหงไม่รู้เรื่องราวของโลกใบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะถูกวังวนแห่งมิติเวลาพาไปอยู่ที่ไหน

อีกอย่าง ทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของฮวาชิงหวู่ถึงมีภาพในอดีตของเขากับจิงหง

นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว เขามั่นใจว่าฮวาชิงหวู่เป็นคนของโลกนี้ แต่จิงหงไม่ใช่แน่นอน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกหัวจะระเบิด

“จิงหง บาดเจ็บได้ยังไง” ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นและถามออกมา

ฉู่ชวิ๋นตัวสั่นไป “จิงหงบาดเจ็บ? เธอเคยเจอจิงหงเหรอ ที่ไหน”

“วิญญาณนี้ของจิงหงไม่ใช่เหรอ? นายบอกว่าเธอถูกสะกดในน้ำแข็งนี่?”

ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยอย่างสงสัย

ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างโศกเศร้า “น้ำตาแห่งความคิดถึงนี่เป็นของเสี่ยวหวู่”

“เสี่ยวหวู่?” ผู้หญิงผมม่วงสงสัย “เสี่ยวหวู่ไม่ใช่จิงหงเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว

“ถ้าอย่างนั้นทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของเสี่ยวหวู่ถึงมีภาพของนายกับจิงหงล่ะ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัวอีกครั้ง เรื่องนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจ

“แปลกจริง ๆ” ผู้หญิงผมม่วงพึมพำ

“ตกลงเธอใช่จิงหงหรือเปล่า” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัยเรื่องนี้มันแปลกๆ

ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัวเบา ๆ

ฉู่ชวิ๋นถอนหายใจ สงสัยเขาจะคิดมากไป

ทั้งสองเข้าสู่ความเงียบงัน

เนิ่นนาน ผู้หญิงผมม่วงก็พูดขึ้น “ฉันเห็นนายในภาพนั้นบุกเข้าวังวนเวลาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะจะกลับมาที่โลกนี้เหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า “ใช่ ฉันเป็นจักรพรรดิเซียนก็เพื่อจะกลับมายังโลกนี้”

“ทำไมล่ะ” ผู้หญิงผมม่วงแปลกใจ

“ถ้าเธอจู่ ๆ โดนโยนเข้าคุก โดนกระทืบตายทั้งที่โดนใส่ความ จะไม่อยากรู้เหรอว่าทำไม ไม่อยากแก้แค้นบ้างเลยเหรอ”

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็พูดออกมา “…คุกคืออะไร”

“…..” ฉู่ชวิ๋นแทบจะล้มทั้งยืน ไม่รู้แล้วพยักหน้าทำไม ทำอย่างกับเธอฟังรู้เรื่องจริง ๆ งั้นแหละ

“เธอมาที่โลกได้ยังไง” ฉู่ชวิ๋นอยากรู้อยากเห็นในตัวผู้หญิงผมม่วงมาก

ใช้วิชาดัชนีสังหารได้แต่ไม่ใช่จิงหง เธอเป็นใครกันแน่

“ฉันไม่รู้” ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัว

“เธอสูญเสียความทรงจำเหรอ”

“เปล่า ฉันจำได้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าเรื่องที่มาโลกนี้ได้ยังไง”

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก แบบนี้มันก็คือเธอสูญเสียความทรงจำไม่ใช่หรือไง

“ไม่แน่เธออาจจะเป็นจิงหงก็ได้ ไม่สิต้องใช่แน่ๆ” ฉู่ชวิ๋นคิดว่าแบบนี้เรื่องราวทุกอย่างก็เชื่อมต่อกันได้พอดี

“เป็นไปไม่ได้” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างมั่นใจ

“ทำไม” ฉู่ชวิ๋นสงสัยมากๆ เอาอะไรมามั่นใจ ทำไมถึงกล้าพูดขนาดนี้

“เพราะฉันไม่มีทางรักผู้ชายอย่างนายแน่นอน” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกราวกับโดนมีดแทง “หมายความว่ายังไงผู้ชายอย่างฉัน”

“นายเจ้าชู้เกินไป”

“…..” ฉู่ชวิ๋นหมดคำจะพูด เขาเจ้าชู้ตรงไหนกัน ชีวิตนี้เขายังไม่เคยจีบสาวด้วยซ้ำ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 298 ปล้นกลางถนน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 298 ปล้นกลางถนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 298 ปล้นกลางถนน

ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมาก ๆ คืนนี้ทั้งคืนเขาทั้งเอากระบองฟาด ทั้งใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น กว่าจะได้ดอกบัวจิตวิญญาณมา แต่ดันมีคนออกมาปล้นกันดื้อๆ ซะงั้น จะให้เขายอมได้ยังไง

เขาเป็นปรมาจารย์ด้านการปล้นฆ่าเลยนะ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้บังอาจมาเล่นลูกไม้กับเขา

“ไปพูดเลย ดูซิว่าใครจะเชื่อเธอ” ฉู่ชวิ๋นไม่เกรงกลัว ทุกคนรู้หมดว่าเขาบาดเจ็บเพราะจังเฟิงหลิงในงานเลี้ยงคืนนี้ คนที่บาดเจ็บจะบุกรุกเข้าตระกูลหยานกลางค่ำกลางคืนได้ยังไง แถมยังกลับมาได้อย่างปลอดภัยอีก

“นายคิดว่านายทำตัวหน้าด้านไร้เหตุผลแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้งั้นเหรอ” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไม่แยแส ก่อนจะหยิบมือถือออกมาและเปิดคลิป ๆหนึ่งให้ฉู่ชวิ๋นดู

ฉู่ชวิ๋นตกตะลึงแล้วจริง ๆ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้ใช้มือถือเป็นงั้นเหรอ ถ้ายังไง พวกคุณลองจินตนาการภาพของนางฟ้านางเซียนแต่ใช้มือถืออยู่ในมือออกไหม ภาพมันก็ประมาณนั้นเลย…

คลิปในมือถือถ่ายภาพตอนที่ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้าไปในเมือง ภาพในนั้นคือเขาใช้กระบองเหล็กลอบโจมตีจังเฟิงหลิงก่อนจะกระโจนหายไป จากมุมที่ถ่ายดูเหมือนผู้หญิงผมม่วงน่าจะอยู่บนดาดฟ้าตึกใดสักตึกในตอนนั้น

“ทุเรศ ยัยบ้า” ฉู่ชวิ๋นโกรธจัด เขาประมาทเกินไปจนโดนแอบถ่ายไว้ได้ เป็นไปได้ยังไงทำไมเขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย

“เหมือนนายไง” ผู้หญิงผมม่วงไม่อารมณ์เสียต่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

“ฉันไม่มีงานอดิเรกแอบถ่ายคนอื่น” ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมากๆ

“แต่นายชอบใส่ร้ายป้ายสี ชอบถ้ำมองชาวบ้าน” ผู้หญิงผมม่วงเก็บมือถือและบอกเรียบๆ

“….” ฉู่ชวิ๋นหมดคำพูด “ฉันให้ใบเธอได้แค่ 1 ใบเท่านั้น”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดจา แต่มองฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาเป็นนัย

ฉู่ชวิ๋นปวดท้อง ปวดตับ ปวดไปทุกตรง ประเด็นคือคลิปถูกถ่ายไว้ชัดมาก อยากจะปฏิเสธได้ ใครดูก็ต้องรู้ว่าเป็นเขา

“2 ใบ มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

“ตกลง”

ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจ ง่ายแบบนี้เลยเหรอ?

“ดีๆ ยอมง่าย ๆ แบบนี้ มาเองไป” ฉู่ชวิ๋นรีบพูดขึ้นมา

“ฉันหมายถึงนายเอาไป 2 ใบ ที่เหลือของฉัน” หญิงสาวพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นแทบกระโดดเหยง “ทำไมเธอไม่ไปปล้นเอาเลยละ”

ผู้หญิงผมม่วงนัยน์ตาเป็นประกาย “ฉันก็กำลังปล้นนายอยู่นี่ไง”

“……” ฉู่ชวิ๋นโมโหสุด ๆ จนต้องพูดออกมา “อย่าแม้แต่จะคิด”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอแค่โบกมือถือไปมา เป็นอันสื่อความหมายว่าถ้าไม่ให้ก็โดยดีแน่

“ดอกบัวจิตวิญญาณมีประโยชน์กับฉันมาก ฉันให้เธอไม่ได้หรอก อย่าคิดจะเอาคลิป ๆ เดียวมาขู่ฉัน เธออยากจะบอกคนอื่นก็ตามสบาย” ฉู่ชวิ๋น พูดจบก็จะเดินอ้อมผู้หญิงผมม่วงกลับโรงแรมไป

แต่ผู้หญิงผมม่วงกระโจนมาขวางเขาเอาไว้ “ไม่ทิ้งดอกบัวจิตวิญญาณไว้ก็อย่าคิดจะไปไหน”

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเธอ เขาเดินอ้อมเธอไปแล้วเดินไปทางโรงแรมต่อ

พรึ่บ

ผู้หญิงผมม่วงขวางเขาไว้อีกครั้ง

ฉู่ชวิ๋นทำท่าทางเหนื่อยหน่ายใจ “ถ้าเธอถอดผ้าคลุมหน้าออกฉันจะให้ดอกบัวจิตวิญญาณกับเธอ”

เขาอยากรู้มาก ๆ ว่าผู้หญิงผมม่วงใช่จิงหงหรือเปล่า เมื่อก่อนเขาคาดเดาว่าผู้หญิงผมม่วงคือจิงหงมาตลอด แต่ตอนนี้ความคิดนี้จืดจางลงไปมาก เพราะจิงหงไม่มีทางทำแบบนี้กับเขาเด็ดขาด ต่อให้ท่าทางและวิชาต่อสู้เหมือนกันมากแค่ไหนแต่นิสัยคนเรา มันจะเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ

ผู้หญิงผมม่วงหัวเราะ หึๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปจับแหวนมิติของฉู่ชวิ๋น อย่างรวดเร็ว

ฉู่ชวิ๋นเอี๊ยบตัวหลบ “ถ้าเธอยังราวีอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

แต่ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดไม่จา ลงมืออย่างรวดเร็ว ลมปราณอันน่าหวาดกลัวถาโถมออกมา หวังจะบดขยี้ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นถอยพรวดออกไป ขณะเดียวกันลมปราณมหึมาก็พุ่งใส่ผู้หญิงผมม่วง

ตู้ม

พายุพัดโหม เจิดจ้าแสบตา

นัยน์ตาของผู้หญิงผมม่วงมีแววตะลึงปรากฏ “ดูเหมือนฉันจะดูถูกนายไปหน่อยสินะ”

เพราะว่าตอนนี้ ฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนรูปโฉมทำให้เธอจำฉู่ชวิ๋นไม่ได้เธอแค่อยากมาปล้นดอกบัวจิตวิญญาณเท่านั้น

“อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่มีทางมอบดอกบัวจิตวิญญาณให้เธอหรอก” ดอกบัวจิตวิญญาณต้องเอาไว้ช่วยฮวาชิงหวู่ ใครก็อย่าหวังจะเอาไป

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงผมม่วงกลับไม่ยอมเลิกรา ลมปราณอันมหาศาลถาโถมเข้ามาอีกครั้งในขณะที่เธอยกมือขึ้น

ฉู่ชวิ๋นกำหมัดและปล่อยออกไป พลังหมัดสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ตู้มๆ

พริบตาเดียวทั้ง 2 ก็ประมือกันไม่ต่ำกว่า 10 กว่ากระบวนท่า สู้กันชนิดพื้นดินถล่ม ฟ้าดินทลาย เม็ดหินดินทรายปลิวว่อน ตึกแทบจะถล่มลงมา

ผู้หญิงผมม่วงประสานอิน นิ้วเรียวยาวจิ้มกลางในอากาศ

วิชาดัชนีสังหารกระบวนท่า – ดัชนีสามอุสรา

พลังที่แฝงไปด้วยกลิ่นไอลมปราณโบราณกระจายออกมา เสามโหฬารตกลงมาจากท้องฟ้า แรงกดดันอันน่ากลัวถึงกับทำให้พื้นดินแยกออกจากกัน

มือฉู่ชวิ๋นกำหมัดแน่น ไอลมปราณสีม่วงรอบตัวพลุ่งพล่าน เขายกหมัดขึ้นชกสวนกลับไป

ตู้ม ตู้ม

หมัด 2 ข้างระเบิดนิ้วยักษ์บนฟ้าจนพายุโหมกระหน่ำปรากฏออกมา

“นาย….ฉู่ชวิ๋นงั้นเหรอ” ในที่สุดผู้หญิงผมม่วงก็พูดออกมา

ฉู่ชวิ๋นไม่พรางตัวอีกต่อไป กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขา ๆ ค่อยขยับเขยื้อนกลับคืนสู่รูปโฉมเดิม

“นายจริง ๆ ด้วย” ผู้หญิงผมม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

ฉู่ชวิ๋นมองเธอ “ที่ฉันมาเมืองหยานเซวี่ยก็เพราะมาหาเธอ”

“อยากได้วิญญาณคืนงั้นเหรอ?” ผู้หญิงผมม่วงถาม

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง “ถูกต้อง วิญญาณเธอสำคัญกับฉันมาก หวังว่าเธอจะคืนวิญญาณนั้นมา ฉันไม่อยากมีปัญหากับเธอ”

“ที่นายขโมยดอกบัวจิตวิญญาณก็เพื่อช่วยวิญญาณนี้งั้นเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า

ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นนิ่งๆ นัยน์ตาดุดันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนใจจืดใจดำจริง ๆ ก็ได้ เธอด่วนสรุปเกินไป

“ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ย

“ฉันบอกแล้ว ฉันไม่รู้จักนาย”

ฉู่ชวิ๋นไม่เร้าหรือกับเรื่องนี้ต่อ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเอาวิญญาณของฮวาชิงหวู่คืนมา

“คืนวิญญาณให้ฉันได้ไหม?”

สายตาของผู้หญิงผมม่วงเป็นประกายบางอย่าง จนเจิดจรัสในความมืดมิด “ฉันขอเจอเธอหน่อยได้ไหม?”

พูดจบผู้หญิงผมม่วงก็ชะงักตัวไปทันที ทำไมเธอถึงมีความคิดแบบนี้กันนะ

นัยน์ตาของฉู่ชวิ๋นโดดเดี่ยว เขาพูดอย่างเศร้าสร้อย “เธอถูกสะกดอยู่ในน้ำแข็งมาหลาย 10 ปีแล้วถ้าฮวาชิงหวู่ฟื้นขึ้นมาได้ ต้องได้เจออย่างแน่นอน”

“เท่าที่ฉันรู้มา วิญญาณออกจากร่างแบบนี้ต้องใช้ดอกซานเซิงเป็นตัวกระตุ้น แม้ว่าดาวดวงนี้กำลังฟื้นตัว แต่ดอกซันเชิงก็ยังหายากอยู่ดีนายจะทำยังไงต่อ”

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ ผ่านไปพักนึงเขาก็เงยหน้าขึ้นมา “ต่อให้บนโลกไม่มีดอกซานเซิง ฉันก็จะฝึกตนจนกลายเป็นจักรพรรดิเซียนเพื่อเปลี่ยนโชคชะตา จากนั้นทลายมิติเวลาอีกครั้ง กลับไปทวีปเซียนอีกสักรอบจะเป็นไรไป”

ผู้หญิงผมม่วงจู่ ๆ ก็ใจอ่อน กลับไปที่ทวีปเซียนหมายความว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องฝึกฝนใหม่ทั้งหมดแล้วถ้าจะกลายมาก็ต้องเป็นจักรพรรดิเซียนอย่างน้อยเรื่องนี้ต้องใช้เวลานับ….พันปี

“เอาใบของดอกบัวจิตวิญญาณมาให้ฉัน 1 ใบ” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

“วิญญาณของเธอคนนี้ต้องการหล่อเลี้ยงด้วยดอกบัวจิตวิญญาณ แบบนี้จะได้แข็งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นวิญญาณกลับร่างจะได้อย่างปลอดภัย”

“เธอจะเอาดอกบัวจิตวิญญาณไปเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณเหรอ” ฉู่ชวิ๋นอึ้ง

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้า เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม จิตใจของเธอถึงไม่อยากให้วิญญาณดวงนี้ได้รับอันตราย

“ที่นี่เป็นที่สังเกตได้ง่าย ตามฉันมา” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างจริงจัง

ผู้หญิงผมม่วงลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็กลับไปที่พักของฉู่ชวิ๋น

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณของฮวาชิงหวู่ ฉู่ชวิ๋นไม่ยอมใช้แค่ใบของดอกบัวจิตวิญญาณ แต่เขาจะใช้เม็ดบัวเลย

ดอกบัวจิตวิญญาณที่เติบโตเต็มจะมีเม็ดบัวอยู่ทั้งหมด 4 เม็ด มูลค่าของมันถือว่าซื้อเมืองได้ทั้งเมือง ถ้ามีคนรู้จะต้องฮือฮากันอย่างมากแน่นอน

เม็ดบัวขนาดเท่านิ้วโป้ง มีสีแดงเข้มราวกับอัญมณีที่เปร่งประกายสีแดง กลิ่นหอมของยาฟุ้งไปทั้งห้อง

โชคดีที่ฉู่ชวิ๋นตั้งค่ายกลผนึกห้องไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นแค่กลิ่นหอมของยานี้ก็มากพอจะเป็นจุดสนใจของคนอื่น

ผู้หญิงผมม่วงรับเม็ดบัวมา ก่อนจะตั้งค่ายกลป้องกันขนาดเล็กครอบคลุมตัวเองเอาไว้

ฉู่ชวิ๋นลูบจมูกตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ยังระแวงเขาอยู่ดี

เขาเห็นผู้หญิงผมม่วงถอดตุ้มหูใสสกาวที่หูออกก่อนจะปลดพันธนาการ ทันใดนั้นแสงสว่างก็เจิดจ้า

ฉู่ชวิ๋นเกือบจะตะโกนด่าออกไป นี่มันวิญญาณของฮวาชิงหวู่ แต่ผู้หญิงคนนี้ บังอาจเอาไปใส่เป็นตุ้มหู เขารู้สึกมาตลอดว่าวิญญาณอยู่ติดกับตัวเธอแต่ไม่รู้ว่าตรงไหนดีไม่ดีอาจอยู่ในร่างเดียวกันด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่ามันเป็นตุ้มหูเขาคงลงมือแย่งชิงไปนานแล้ว

ผู้หญิงผมม่วงประสานอินด้วยความว่องไว น้ำตาแห่งความคิดถึง*ลอยอยู่กลางอากาศ ฤทธิ์ของเม็ดบัวแผลงด้วยลมปราณ ถูกน้ำตาแห่งความคิดถึงดูดซับเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน (น้ำตาแห่งความคิดถึง ก็คือวิญญาณของฮวาชิงหวู่)

น้ำตาแห่งความคิดถึงใสสกาวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นไอแห่งความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ หมอกลมปราณหนาแน่น เม็ดบัวเล็กลงเรื่อยๆ

ผ่านไปพักใหญ่ น้ำตาแห่งความคิดถึงก็ดูดซับพลังของเม็ดบัวจนหมด

ผู้หญิงผมม่วงไม่ได้ปลดค่ายกลป้องกัน แต่เธอหันไปมองฉู่ชวิ๋น ก่อนจะยื่นมือออกไปจิ้มน้ำตาแห่งความคิดถึง มีแสงสีขาวพุ่งจากปลายนิ้วสู่น้ำตา

ภาพหนึ่งค่อย ๆ คลี่ออก

ผู้หญิงผมม่วงเคยเห็นภาพในน้ำตาแห่งความคิดถึงแล้ว

ฉู่ชวิ๋นมองภาพนั้นพอเห็นก็ตัวแข็งค้าง ข้างในภาพมีแต่เรื่องราวต่าง ๆ ของเขาและจิงหง

“อย่า!!!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนลั่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

ภาพหยุดไว้ที่จิงหงทะลุมิติ บุกเข้าไปในวังวนแห่งมิติเวลา

“เธอคือจิงหงที่นายว่าเหรอ” ไม่รู้ทำไม ผู้หญิงผมม่วงรู้สึกเจ็บปวดใจ อยากจะทำให้ความเศร้าหมองของฉู่ชวิ๋นหายไป

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ น้ำตาคลอเบ้า บัดนี้เขาได้รู้แล้วว่าจิงหงมาหาเขาจริงๆ

ถ้าอย่างงั้น จิงหง อยู่ที่ไหนละ

จิงหงไม่รู้เรื่องราวของโลกใบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะถูกวังวนแห่งมิติเวลาพาไปอยู่ที่ไหน

อีกอย่าง ทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของฮวาชิงหวู่ถึงมีภาพในอดีตของเขากับจิงหง

นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว เขามั่นใจว่าฮวาชิงหวู่เป็นคนของโลกนี้ แต่จิงหงไม่ใช่แน่นอน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกหัวจะระเบิด

“จิงหง บาดเจ็บได้ยังไง” ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นและถามออกมา

ฉู่ชวิ๋นตัวสั่นไป “จิงหงบาดเจ็บ? เธอเคยเจอจิงหงเหรอ ที่ไหน”

“วิญญาณนี้ของจิงหงไม่ใช่เหรอ? นายบอกว่าเธอถูกสะกดในน้ำแข็งนี่?”

ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยอย่างสงสัย

ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างโศกเศร้า “น้ำตาแห่งความคิดถึงนี่เป็นของเสี่ยวหวู่”

“เสี่ยวหวู่?” ผู้หญิงผมม่วงสงสัย “เสี่ยวหวู่ไม่ใช่จิงหงเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว

“ถ้าอย่างนั้นทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของเสี่ยวหวู่ถึงมีภาพของนายกับจิงหงล่ะ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัวอีกครั้ง เรื่องนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจ

“แปลกจริง ๆ” ผู้หญิงผมม่วงพึมพำ

“ตกลงเธอใช่จิงหงหรือเปล่า” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัยเรื่องนี้มันแปลกๆ

ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัวเบา ๆ

ฉู่ชวิ๋นถอนหายใจ สงสัยเขาจะคิดมากไป

ทั้งสองเข้าสู่ความเงียบงัน

เนิ่นนาน ผู้หญิงผมม่วงก็พูดขึ้น “ฉันเห็นนายในภาพนั้นบุกเข้าวังวนเวลาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะจะกลับมาที่โลกนี้เหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า “ใช่ ฉันเป็นจักรพรรดิเซียนก็เพื่อจะกลับมายังโลกนี้”

“ทำไมล่ะ” ผู้หญิงผมม่วงแปลกใจ

“ถ้าเธอจู่ ๆ โดนโยนเข้าคุก โดนกระทืบตายทั้งที่โดนใส่ความ จะไม่อยากรู้เหรอว่าทำไม ไม่อยากแก้แค้นบ้างเลยเหรอ”

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็พูดออกมา “…คุกคืออะไร”

“…..” ฉู่ชวิ๋นแทบจะล้มทั้งยืน ไม่รู้แล้วพยักหน้าทำไม ทำอย่างกับเธอฟังรู้เรื่องจริง ๆ งั้นแหละ

“เธอมาที่โลกได้ยังไง” ฉู่ชวิ๋นอยากรู้อยากเห็นในตัวผู้หญิงผมม่วงมาก

ใช้วิชาดัชนีสังหารได้แต่ไม่ใช่จิงหง เธอเป็นใครกันแน่

“ฉันไม่รู้” ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัว

“เธอสูญเสียความทรงจำเหรอ”

“เปล่า ฉันจำได้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าเรื่องที่มาโลกนี้ได้ยังไง”

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก แบบนี้มันก็คือเธอสูญเสียความทรงจำไม่ใช่หรือไง

“ไม่แน่เธออาจจะเป็นจิงหงก็ได้ ไม่สิต้องใช่แน่ๆ” ฉู่ชวิ๋นคิดว่าแบบนี้เรื่องราวทุกอย่างก็เชื่อมต่อกันได้พอดี

“เป็นไปไม่ได้” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างมั่นใจ

“ทำไม” ฉู่ชวิ๋นสงสัยมากๆ เอาอะไรมามั่นใจ ทำไมถึงกล้าพูดขนาดนี้

“เพราะฉันไม่มีทางรักผู้ชายอย่างนายแน่นอน” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกราวกับโดนมีดแทง “หมายความว่ายังไงผู้ชายอย่างฉัน”

“นายเจ้าชู้เกินไป”

“…..” ฉู่ชวิ๋นหมดคำจะพูด เขาเจ้าชู้ตรงไหนกัน ชีวิตนี้เขายังไม่เคยจีบสาวด้วยซ้ำ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 298 ปล้นกลางถนน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 298 ปล้นกลางถนน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 298 ปล้นกลางถนน

ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมาก ๆ คืนนี้ทั้งคืนเขาทั้งเอากระบองฟาด ทั้งใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น กว่าจะได้ดอกบัวจิตวิญญาณมา แต่ดันมีคนออกมาปล้นกันดื้อๆ ซะงั้น จะให้เขายอมได้ยังไง

เขาเป็นปรมาจารย์ด้านการปล้นฆ่าเลยนะ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้บังอาจมาเล่นลูกไม้กับเขา

“ไปพูดเลย ดูซิว่าใครจะเชื่อเธอ” ฉู่ชวิ๋นไม่เกรงกลัว ทุกคนรู้หมดว่าเขาบาดเจ็บเพราะจังเฟิงหลิงในงานเลี้ยงคืนนี้ คนที่บาดเจ็บจะบุกรุกเข้าตระกูลหยานกลางค่ำกลางคืนได้ยังไง แถมยังกลับมาได้อย่างปลอดภัยอีก

“นายคิดว่านายทำตัวหน้าด้านไร้เหตุผลแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้งั้นเหรอ” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไม่แยแส ก่อนจะหยิบมือถือออกมาและเปิดคลิป ๆหนึ่งให้ฉู่ชวิ๋นดู

ฉู่ชวิ๋นตกตะลึงแล้วจริง ๆ ผู้หญิงผมม่วงคนนี้ใช้มือถือเป็นงั้นเหรอ ถ้ายังไง พวกคุณลองจินตนาการภาพของนางฟ้านางเซียนแต่ใช้มือถืออยู่ในมือออกไหม ภาพมันก็ประมาณนั้นเลย…

คลิปในมือถือถ่ายภาพตอนที่ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้าไปในเมือง ภาพในนั้นคือเขาใช้กระบองเหล็กลอบโจมตีจังเฟิงหลิงก่อนจะกระโจนหายไป จากมุมที่ถ่ายดูเหมือนผู้หญิงผมม่วงน่าจะอยู่บนดาดฟ้าตึกใดสักตึกในตอนนั้น

“ทุเรศ ยัยบ้า” ฉู่ชวิ๋นโกรธจัด เขาประมาทเกินไปจนโดนแอบถ่ายไว้ได้ เป็นไปได้ยังไงทำไมเขาสัมผัสอะไรไม่ได้เลย

“เหมือนนายไง” ผู้หญิงผมม่วงไม่อารมณ์เสียต่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

“ฉันไม่มีงานอดิเรกแอบถ่ายคนอื่น” ฉู่ชวิ๋นไม่พอใจมากๆ

“แต่นายชอบใส่ร้ายป้ายสี ชอบถ้ำมองชาวบ้าน” ผู้หญิงผมม่วงเก็บมือถือและบอกเรียบๆ

“….” ฉู่ชวิ๋นหมดคำพูด “ฉันให้ใบเธอได้แค่ 1 ใบเท่านั้น”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดจา แต่มองฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาเป็นนัย

ฉู่ชวิ๋นปวดท้อง ปวดตับ ปวดไปทุกตรง ประเด็นคือคลิปถูกถ่ายไว้ชัดมาก อยากจะปฏิเสธได้ ใครดูก็ต้องรู้ว่าเป็นเขา

“2 ใบ มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

“ตกลง”

ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจ ง่ายแบบนี้เลยเหรอ?

“ดีๆ ยอมง่าย ๆ แบบนี้ มาเองไป” ฉู่ชวิ๋นรีบพูดขึ้นมา

“ฉันหมายถึงนายเอาไป 2 ใบ ที่เหลือของฉัน” หญิงสาวพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นแทบกระโดดเหยง “ทำไมเธอไม่ไปปล้นเอาเลยละ”

ผู้หญิงผมม่วงนัยน์ตาเป็นประกาย “ฉันก็กำลังปล้นนายอยู่นี่ไง”

“……” ฉู่ชวิ๋นโมโหสุด ๆ จนต้องพูดออกมา “อย่าแม้แต่จะคิด”

ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอแค่โบกมือถือไปมา เป็นอันสื่อความหมายว่าถ้าไม่ให้ก็โดยดีแน่

“ดอกบัวจิตวิญญาณมีประโยชน์กับฉันมาก ฉันให้เธอไม่ได้หรอก อย่าคิดจะเอาคลิป ๆ เดียวมาขู่ฉัน เธออยากจะบอกคนอื่นก็ตามสบาย” ฉู่ชวิ๋น พูดจบก็จะเดินอ้อมผู้หญิงผมม่วงกลับโรงแรมไป

แต่ผู้หญิงผมม่วงกระโจนมาขวางเขาเอาไว้ “ไม่ทิ้งดอกบัวจิตวิญญาณไว้ก็อย่าคิดจะไปไหน”

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเธอ เขาเดินอ้อมเธอไปแล้วเดินไปทางโรงแรมต่อ

พรึ่บ

ผู้หญิงผมม่วงขวางเขาไว้อีกครั้ง

ฉู่ชวิ๋นทำท่าทางเหนื่อยหน่ายใจ “ถ้าเธอถอดผ้าคลุมหน้าออกฉันจะให้ดอกบัวจิตวิญญาณกับเธอ”

เขาอยากรู้มาก ๆ ว่าผู้หญิงผมม่วงใช่จิงหงหรือเปล่า เมื่อก่อนเขาคาดเดาว่าผู้หญิงผมม่วงคือจิงหงมาตลอด แต่ตอนนี้ความคิดนี้จืดจางลงไปมาก เพราะจิงหงไม่มีทางทำแบบนี้กับเขาเด็ดขาด ต่อให้ท่าทางและวิชาต่อสู้เหมือนกันมากแค่ไหนแต่นิสัยคนเรา มันจะเปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ

ผู้หญิงผมม่วงหัวเราะ หึๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปจับแหวนมิติของฉู่ชวิ๋น อย่างรวดเร็ว

ฉู่ชวิ๋นเอี๊ยบตัวหลบ “ถ้าเธอยังราวีอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

แต่ผู้หญิงผมม่วงไม่พูดไม่จา ลงมืออย่างรวดเร็ว ลมปราณอันน่าหวาดกลัวถาโถมออกมา หวังจะบดขยี้ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นถอยพรวดออกไป ขณะเดียวกันลมปราณมหึมาก็พุ่งใส่ผู้หญิงผมม่วง

ตู้ม

พายุพัดโหม เจิดจ้าแสบตา

นัยน์ตาของผู้หญิงผมม่วงมีแววตะลึงปรากฏ “ดูเหมือนฉันจะดูถูกนายไปหน่อยสินะ”

เพราะว่าตอนนี้ ฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนรูปโฉมทำให้เธอจำฉู่ชวิ๋นไม่ได้เธอแค่อยากมาปล้นดอกบัวจิตวิญญาณเท่านั้น

“อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่มีทางมอบดอกบัวจิตวิญญาณให้เธอหรอก” ดอกบัวจิตวิญญาณต้องเอาไว้ช่วยฮวาชิงหวู่ ใครก็อย่าหวังจะเอาไป

คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงผมม่วงกลับไม่ยอมเลิกรา ลมปราณอันมหาศาลถาโถมเข้ามาอีกครั้งในขณะที่เธอยกมือขึ้น

ฉู่ชวิ๋นกำหมัดและปล่อยออกไป พลังหมัดสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ตู้มๆ

พริบตาเดียวทั้ง 2 ก็ประมือกันไม่ต่ำกว่า 10 กว่ากระบวนท่า สู้กันชนิดพื้นดินถล่ม ฟ้าดินทลาย เม็ดหินดินทรายปลิวว่อน ตึกแทบจะถล่มลงมา

ผู้หญิงผมม่วงประสานอิน นิ้วเรียวยาวจิ้มกลางในอากาศ

วิชาดัชนีสังหารกระบวนท่า – ดัชนีสามอุสรา

พลังที่แฝงไปด้วยกลิ่นไอลมปราณโบราณกระจายออกมา เสามโหฬารตกลงมาจากท้องฟ้า แรงกดดันอันน่ากลัวถึงกับทำให้พื้นดินแยกออกจากกัน

มือฉู่ชวิ๋นกำหมัดแน่น ไอลมปราณสีม่วงรอบตัวพลุ่งพล่าน เขายกหมัดขึ้นชกสวนกลับไป

ตู้ม ตู้ม

หมัด 2 ข้างระเบิดนิ้วยักษ์บนฟ้าจนพายุโหมกระหน่ำปรากฏออกมา

“นาย….ฉู่ชวิ๋นงั้นเหรอ” ในที่สุดผู้หญิงผมม่วงก็พูดออกมา

ฉู่ชวิ๋นไม่พรางตัวอีกต่อไป กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขา ๆ ค่อยขยับเขยื้อนกลับคืนสู่รูปโฉมเดิม

“นายจริง ๆ ด้วย” ผู้หญิงผมม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

ฉู่ชวิ๋นมองเธอ “ที่ฉันมาเมืองหยานเซวี่ยก็เพราะมาหาเธอ”

“อยากได้วิญญาณคืนงั้นเหรอ?” ผู้หญิงผมม่วงถาม

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง “ถูกต้อง วิญญาณเธอสำคัญกับฉันมาก หวังว่าเธอจะคืนวิญญาณนั้นมา ฉันไม่อยากมีปัญหากับเธอ”

“ที่นายขโมยดอกบัวจิตวิญญาณก็เพื่อช่วยวิญญาณนี้งั้นเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า

ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นนิ่งๆ นัยน์ตาดุดันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนใจจืดใจดำจริง ๆ ก็ได้ เธอด่วนสรุปเกินไป

“ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ย

“ฉันบอกแล้ว ฉันไม่รู้จักนาย”

ฉู่ชวิ๋นไม่เร้าหรือกับเรื่องนี้ต่อ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเอาวิญญาณของฮวาชิงหวู่คืนมา

“คืนวิญญาณให้ฉันได้ไหม?”

สายตาของผู้หญิงผมม่วงเป็นประกายบางอย่าง จนเจิดจรัสในความมืดมิด “ฉันขอเจอเธอหน่อยได้ไหม?”

พูดจบผู้หญิงผมม่วงก็ชะงักตัวไปทันที ทำไมเธอถึงมีความคิดแบบนี้กันนะ

นัยน์ตาของฉู่ชวิ๋นโดดเดี่ยว เขาพูดอย่างเศร้าสร้อย “เธอถูกสะกดอยู่ในน้ำแข็งมาหลาย 10 ปีแล้วถ้าฮวาชิงหวู่ฟื้นขึ้นมาได้ ต้องได้เจออย่างแน่นอน”

“เท่าที่ฉันรู้มา วิญญาณออกจากร่างแบบนี้ต้องใช้ดอกซานเซิงเป็นตัวกระตุ้น แม้ว่าดาวดวงนี้กำลังฟื้นตัว แต่ดอกซันเชิงก็ยังหายากอยู่ดีนายจะทำยังไงต่อ”

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ ผ่านไปพักนึงเขาก็เงยหน้าขึ้นมา “ต่อให้บนโลกไม่มีดอกซานเซิง ฉันก็จะฝึกตนจนกลายเป็นจักรพรรดิเซียนเพื่อเปลี่ยนโชคชะตา จากนั้นทลายมิติเวลาอีกครั้ง กลับไปทวีปเซียนอีกสักรอบจะเป็นไรไป”

ผู้หญิงผมม่วงจู่ ๆ ก็ใจอ่อน กลับไปที่ทวีปเซียนหมายความว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องฝึกฝนใหม่ทั้งหมดแล้วถ้าจะกลายมาก็ต้องเป็นจักรพรรดิเซียนอย่างน้อยเรื่องนี้ต้องใช้เวลานับ….พันปี

“เอาใบของดอกบัวจิตวิญญาณมาให้ฉัน 1 ใบ” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

“วิญญาณของเธอคนนี้ต้องการหล่อเลี้ยงด้วยดอกบัวจิตวิญญาณ แบบนี้จะได้แข็งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นวิญญาณกลับร่างจะได้อย่างปลอดภัย”

“เธอจะเอาดอกบัวจิตวิญญาณไปเพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณเหรอ” ฉู่ชวิ๋นอึ้ง

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้า เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม จิตใจของเธอถึงไม่อยากให้วิญญาณดวงนี้ได้รับอันตราย

“ที่นี่เป็นที่สังเกตได้ง่าย ตามฉันมา” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างจริงจัง

ผู้หญิงผมม่วงลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็กลับไปที่พักของฉู่ชวิ๋น

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวิญญาณของฮวาชิงหวู่ ฉู่ชวิ๋นไม่ยอมใช้แค่ใบของดอกบัวจิตวิญญาณ แต่เขาจะใช้เม็ดบัวเลย

ดอกบัวจิตวิญญาณที่เติบโตเต็มจะมีเม็ดบัวอยู่ทั้งหมด 4 เม็ด มูลค่าของมันถือว่าซื้อเมืองได้ทั้งเมือง ถ้ามีคนรู้จะต้องฮือฮากันอย่างมากแน่นอน

เม็ดบัวขนาดเท่านิ้วโป้ง มีสีแดงเข้มราวกับอัญมณีที่เปร่งประกายสีแดง กลิ่นหอมของยาฟุ้งไปทั้งห้อง

โชคดีที่ฉู่ชวิ๋นตั้งค่ายกลผนึกห้องไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นแค่กลิ่นหอมของยานี้ก็มากพอจะเป็นจุดสนใจของคนอื่น

ผู้หญิงผมม่วงรับเม็ดบัวมา ก่อนจะตั้งค่ายกลป้องกันขนาดเล็กครอบคลุมตัวเองเอาไว้

ฉู่ชวิ๋นลูบจมูกตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ยังระแวงเขาอยู่ดี

เขาเห็นผู้หญิงผมม่วงถอดตุ้มหูใสสกาวที่หูออกก่อนจะปลดพันธนาการ ทันใดนั้นแสงสว่างก็เจิดจ้า

ฉู่ชวิ๋นเกือบจะตะโกนด่าออกไป นี่มันวิญญาณของฮวาชิงหวู่ แต่ผู้หญิงคนนี้ บังอาจเอาไปใส่เป็นตุ้มหู เขารู้สึกมาตลอดว่าวิญญาณอยู่ติดกับตัวเธอแต่ไม่รู้ว่าตรงไหนดีไม่ดีอาจอยู่ในร่างเดียวกันด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่ามันเป็นตุ้มหูเขาคงลงมือแย่งชิงไปนานแล้ว

ผู้หญิงผมม่วงประสานอินด้วยความว่องไว น้ำตาแห่งความคิดถึง*ลอยอยู่กลางอากาศ ฤทธิ์ของเม็ดบัวแผลงด้วยลมปราณ ถูกน้ำตาแห่งความคิดถึงดูดซับเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน (น้ำตาแห่งความคิดถึง ก็คือวิญญาณของฮวาชิงหวู่)

น้ำตาแห่งความคิดถึงใสสกาวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นไอแห่งความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ หมอกลมปราณหนาแน่น เม็ดบัวเล็กลงเรื่อยๆ

ผ่านไปพักใหญ่ น้ำตาแห่งความคิดถึงก็ดูดซับพลังของเม็ดบัวจนหมด

ผู้หญิงผมม่วงไม่ได้ปลดค่ายกลป้องกัน แต่เธอหันไปมองฉู่ชวิ๋น ก่อนจะยื่นมือออกไปจิ้มน้ำตาแห่งความคิดถึง มีแสงสีขาวพุ่งจากปลายนิ้วสู่น้ำตา

ภาพหนึ่งค่อย ๆ คลี่ออก

ผู้หญิงผมม่วงเคยเห็นภาพในน้ำตาแห่งความคิดถึงแล้ว

ฉู่ชวิ๋นมองภาพนั้นพอเห็นก็ตัวแข็งค้าง ข้างในภาพมีแต่เรื่องราวต่าง ๆ ของเขาและจิงหง

“อย่า!!!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนลั่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

ภาพหยุดไว้ที่จิงหงทะลุมิติ บุกเข้าไปในวังวนแห่งมิติเวลา

“เธอคือจิงหงที่นายว่าเหรอ” ไม่รู้ทำไม ผู้หญิงผมม่วงรู้สึกเจ็บปวดใจ อยากจะทำให้ความเศร้าหมองของฉู่ชวิ๋นหายไป

ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ น้ำตาคลอเบ้า บัดนี้เขาได้รู้แล้วว่าจิงหงมาหาเขาจริงๆ

ถ้าอย่างงั้น จิงหง อยู่ที่ไหนละ

จิงหงไม่รู้เรื่องราวของโลกใบนี้ ไม่รู้เลยว่าจะถูกวังวนแห่งมิติเวลาพาไปอยู่ที่ไหน

อีกอย่าง ทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของฮวาชิงหวู่ถึงมีภาพในอดีตของเขากับจิงหง

นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว เขามั่นใจว่าฮวาชิงหวู่เป็นคนของโลกนี้ แต่จิงหงไม่ใช่แน่นอน

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกหัวจะระเบิด

“จิงหง บาดเจ็บได้ยังไง” ผู้หญิงผมม่วงมองฉู่ชวิ๋นและถามออกมา

ฉู่ชวิ๋นตัวสั่นไป “จิงหงบาดเจ็บ? เธอเคยเจอจิงหงเหรอ ที่ไหน”

“วิญญาณนี้ของจิงหงไม่ใช่เหรอ? นายบอกว่าเธอถูกสะกดในน้ำแข็งนี่?”

ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยอย่างสงสัย

ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างโศกเศร้า “น้ำตาแห่งความคิดถึงนี่เป็นของเสี่ยวหวู่”

“เสี่ยวหวู่?” ผู้หญิงผมม่วงสงสัย “เสี่ยวหวู่ไม่ใช่จิงหงเหรอ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว

“ถ้าอย่างนั้นทำไมในน้ำตาแห่งความคิดถึงของเสี่ยวหวู่ถึงมีภาพของนายกับจิงหงล่ะ”

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัวอีกครั้ง เรื่องนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจ

“แปลกจริง ๆ” ผู้หญิงผมม่วงพึมพำ

“ตกลงเธอใช่จิงหงหรือเปล่า” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัยเรื่องนี้มันแปลกๆ

ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัวเบา ๆ

ฉู่ชวิ๋นถอนหายใจ สงสัยเขาจะคิดมากไป

ทั้งสองเข้าสู่ความเงียบงัน

เนิ่นนาน ผู้หญิงผมม่วงก็พูดขึ้น “ฉันเห็นนายในภาพนั้นบุกเข้าวังวนเวลาครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะจะกลับมาที่โลกนี้เหรอ”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า “ใช่ ฉันเป็นจักรพรรดิเซียนก็เพื่อจะกลับมายังโลกนี้”

“ทำไมล่ะ” ผู้หญิงผมม่วงแปลกใจ

“ถ้าเธอจู่ ๆ โดนโยนเข้าคุก โดนกระทืบตายทั้งที่โดนใส่ความ จะไม่อยากรู้เหรอว่าทำไม ไม่อยากแก้แค้นบ้างเลยเหรอ”

ผู้หญิงผมม่วงพยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็พูดออกมา “…คุกคืออะไร”

“…..” ฉู่ชวิ๋นแทบจะล้มทั้งยืน ไม่รู้แล้วพยักหน้าทำไม ทำอย่างกับเธอฟังรู้เรื่องจริง ๆ งั้นแหละ

“เธอมาที่โลกได้ยังไง” ฉู่ชวิ๋นอยากรู้อยากเห็นในตัวผู้หญิงผมม่วงมาก

ใช้วิชาดัชนีสังหารได้แต่ไม่ใช่จิงหง เธอเป็นใครกันแน่

“ฉันไม่รู้” ผู้หญิงผมม่วงส่ายหัว

“เธอสูญเสียความทรงจำเหรอ”

“เปล่า ฉันจำได้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าเรื่องที่มาโลกนี้ได้ยังไง”

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก แบบนี้มันก็คือเธอสูญเสียความทรงจำไม่ใช่หรือไง

“ไม่แน่เธออาจจะเป็นจิงหงก็ได้ ไม่สิต้องใช่แน่ๆ” ฉู่ชวิ๋นคิดว่าแบบนี้เรื่องราวทุกอย่างก็เชื่อมต่อกันได้พอดี

“เป็นไปไม่ได้” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างมั่นใจ

“ทำไม” ฉู่ชวิ๋นสงสัยมากๆ เอาอะไรมามั่นใจ ทำไมถึงกล้าพูดขนาดนี้

“เพราะฉันไม่มีทางรักผู้ชายอย่างนายแน่นอน” ผู้หญิงผมม่วงพูดอย่างไร้เยื่อใย

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกราวกับโดนมีดแทง “หมายความว่ายังไงผู้ชายอย่างฉัน”

“นายเจ้าชู้เกินไป”

“…..” ฉู่ชวิ๋นหมดคำจะพูด เขาเจ้าชู้ตรงไหนกัน ชีวิตนี้เขายังไม่เคยจีบสาวด้วยซ้ำ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+