จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 347 การโจมตียามดึกที่เมืองชายแดน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 347 การโจมตียามดึกที่เมืองชายแดน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 347 การโจมตียามดึกที่เมืองชายแดน

สหพันธ์ศาสตร์มืด อัศวินโต๊ะกลมและจอมยุทธ์ของอีกหลายสำนักถูกฆ่าล้างบางอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้สั่นสะเทือนจิตใจของบรรดานักสู้ยุโรปที่ยังอยู่ในเวียดนามเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาต่างหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกตัดหัวแม้จะเป็นยามกลางวันแสกๆ ก็ตาม

แองกัส รองเจ้าสำนักวิหารดวงตะวันได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ ให้รีบเดินทางออกจากเวียดนามโดยเร็วที่สุด

แองกัสถอนหายใจออกมายาวแรง อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ เนื่องจากในกลุ่มนักสู้ที่เดินทางมาเวียดนามครั้งนี้ ตัวเขาเองเป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด

แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ แองกัสก็จำเป็นต้องปฏิบัติตาม

รัฐบาลเวียดนามคือผู้ที่ปวดหัวมากที่สุด นายกรัฐมนตรียังคงต้องพักฟื้นตัวในโรงพยาบาล นายทหารระดับสูงครึ่งกองทัพป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง ไม่สามารถบัญชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเผชิญแรงกดดันจากฝั่งยุโรปและอีกนานาประเทศ รัฐบาลเวียดนามจึงต้องกัดฟันยอมจ่ายค่าเสียหายให้แก่จอมยุทธ์ยุโรปด้วยความเจ็บใจ โดยต้องสูญเสียที่ดินและทรัพยากรในประเทศไปเป็นจำนวนมาก

ถึงจะทำขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครพอใจอยู่ดี แถมจอมยุทธ์จีนยังเข้ามาร่วมวงป่วนสถานการณ์อีกด้วย

ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ แองกัสถือแก้วไวน์ราคาแพงอยู่ในมือ แต่เขาไม่มีความสนใจที่จะดื่มมันแม้แต่น้อย ชายหนุ่มไม่อยากเดินทางกลับไปแบบนี้เลย

“เจ้าพวกเศษสวะ” แก้วไวน์ในมือถูกปาใส่กำแพง แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

แองกัสโกรธแค้นเป็นอย่างมากสำหรับเรื่องที่นักสู้ยุโรปถูกฆ่าตายไปมากมาย อย่างแรกเลยก็คือ เขาก็เป็นชาวยุโรปเหมือนกัน การที่ต้องมาเสียชีวิตในเวียดนาม ถือเป็นการสูญเสียเกียรติชนิดหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น แองกัสก้มมองหน้าจอและพบว่าผู้โทรมาก็คือหลุยส์ ครีเกอร์ สีหน้าของชายหนุ่มเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพนอบน้อมทันที หลุยส์ ครีเกอร์ก็คือชื่อของเจ้าสำนักวิหารดวงตะวัน

หลังจากสนทนาจบแล้ว ความเศร้าหมองบนใบหน้าของแองกัสก็หายวับไป เขาลุกขึ้นยืนเดินไปส่องกระจก จัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ยิ้มออกมาด้วยความเยือกเย็น ก่อนที่จะเดินทางออกมาจากคฤหาสน์

ไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง ฉู่ชวิ๋นก็มาปรากฏตัวที่คฤหาสน์หลังนี้ เขาได้แต่เดินสำรวจไปทั่วพร้อมกับพึมพำว่า “ออกไปไหนแล้วนะ?”

แต่เมื่อเขาเดินพ้นมุมห้องเข้ามา ก็พบกับขวดไวน์แดงราคาแพงที่ไม่ได้ถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาเป็นประกายครุ่นคิดขึ้นมาแล้ว

ในขณะเดียวกันนี้ ที่เขตชายแดนระหว่างประเทศจีนและเวียดนาม ร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นเหมือนภูตผี

ณ เมืองชายแดน สนามหญ้าซึ่งเป็นที่พักของสมาคมนักล่ามังกรที่กำลังมืดมิด

แองกัสเดินข้ามพรมแดนเข้ามาหยุดยืนอยู่กลางสนามหญ้าแห่งนี้ หลังจากนั้น เขาก็กระแอมไอออกมาเล็กน้อย

พรึบ!

สนามหญ้าถูกเปิดไฟสว่างไสว ผู้ที่ปรากฏตัวในสนามหญ้าก็คือหยานหวูซวงกับอี้เสี่ยวซู

ทั้งสองคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยรับรู้ว่าผู้มาเยือนมีฝีมือแข็งแกร่งมาก ถ้าอีกฝ่ายไม่ส่งเสียงไอ พวกเขาก็คงไม่รับรู้การมาถึงครั้งนี้ด้วยซ้ำ

สมาชิกคนอื่นๆ ของสมาคมนักล่ามังกรทยอยเดินออกมาที่สนามหญ้า

แองกัสกวาดสายตามองรอบตัวและยิ้มด้วยความสุภาพ ก่อนที่จะหันมาจ้องมองหยานหวูซวง “คุณเป็นเพื่อนของจอมมารฉู่ชวิ๋น มีนามว่าหยานหวูซวงใช่ไหม?”

“รองเจ้าสำนักวิหารดวงตะวัน แองกัส สินะ” หยานหวูซวงก็จดจำอีกฝ่ายได้เช่นกัน

“เป็นเกียรติมากครับที่จำผมได้” แองกัสโค้งตัวเล็กน้อย แล้วจึงหันไปมองถางโร้ว พูดว่า “คุณคงเป็นคนรักของจอมมารฉู่ชวิ๋น?”

ถางโร้วมีผ้าคลุมหน้าสีขาวปิดบังใบหน้าอยู่ แต่เมื่อโดนทักทายเข้าเช่นนี้ ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อแทบจะทะลุผ้าคลุมหน้าออกมาแล้ว

“ดูเหมือนว่าข้อมูลจะถูกต้องจริง ๆ ด้วย” แองกัสกระซิบบอกมาเสียงแผ่วเบา

หยานหวูซวงถามพร้อมกับมีดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ “ใครเป็นคนให้ข้อมูลกับแก?”

“ผมได้ข้อมูลมาจากวิหารดวงตะวัน มีคนแจ้งข้อมูลกับวิหารดวงตะวันว่าพวกคุณซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ยังไงแต่…” แองกัสพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “จอมมารฉู่ชวิ๋นมีศัตรูอยู่มากมาย พูดตามตรงเลยนะ คนจีนนี่เป็นอะไรทำไมชอบหักหลังกันเอง”

หยานหวูซวงไม่ตอบรับคำใดเพราะไม่มีอะไรให้ต้องปฏิเสธ มันไม่ใช่ความลับที่พวกเขาพักอยู่ที่นี่ แต่ถ้าไม่ได้รับการแจ้งข่าวจากจอมยุทธ์ชาวจีน แองกัสก็จะไม่มีทางรู้ข้อมูลเรื่องนี้เด็ดขาด

รอยยิ้มที่สุภาพเรียบร้อยของแองกัสเปลี่ยนไปกลายเป็นรอยยิ้มที่เศร้าหมอง “คุณรู้ไหม? จอมมารฉู่ชวิ๋นทำลายสำนักงานย่อยของวิหารดวงตะวัน และยังฆ่าคนของเราไปอีกมากมาย เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมสำนักของผม นี่คือความเจ็บปวดที่คุณคงไม่เข้าใจ”

ควับ!

คำตอบที่เขาได้รับคือประกายดาบที่วูบวาบขึ้น

ประกายดาบกินรัศมีราวสิบเมตร เป็นประกายกลางท้องฟ้าที่มืดสนิท พุ่งตรงเข้าไปหาแองกัส

แองกัสมาที่นี่ในยามดึกสงัด คงไม่ได้มาเพื่อพูดคุยอยู่แล้ว ดังนั้น หยานหวูซวงจึงเลือกที่จะชิงลงมือก่อนโดยไม่ออมมือแม้แต่น้อย

แองกัสไม่ได้ตื่นตระหนก ร่างกายปรากฏพลังลมปราณสีแดงแผ่ออกมา นี่คือพลังแสงอาทิตย์ที่พุ่งตรงเข้าไปหาฝ่ายตรงข้าม

เปรี้ยง!

การระเบิดเกิดขึ้น เปลวไฟลุกลามไปทั่ว คลื่นความร้อนแผ่กระจายออกมาอย่างรุนแรงและซึมซาบเข้าไปในความมืดมิด

ในพริบตานั้นเอง สมาชิกหลายคนของสมาคมนักล่ามังกรซึ่งยังมีฝีมือในระดับต่ำต้อย ก็ถึงกับร่างลอยกระเด็นกระอักเลือดออกมาแล้ว

กระท่อมน้อยหลายหลังที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ทนรับแรงระเบิดไม่ไหวพังทลายไปทันที ในขณะนี้พวกมันมีสภาพเป็นแค่เพียงก้อนไฟขนาดใหญ่เท่านั้น

เปลวไฟลุกโชติช่วงตัดกับท้องฟ้ายามราตรี ได้ยินเสียงเปลวไฟปะทุตัวดังเปรี๊ยะปร๊ะตลอดเวลา

“ไหนว่าพวกคุณเป็นประเทศที่มีประเพณีอันดีงามไงล่ะ ทำไมถึงต้อนรับแขกอย่างหยาบคายเช่นนี้?” แองกัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่กวาดสายตามองเปลวไฟที่อยู่รอบตัว

ดวงตาของหยานหวูซวงเป็นประกายระยิบระยับ ระดับฝีมือของแองกัสเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก อย่างน้อยแองกัสก็มีพลังเทียบเท่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 8

อี้เสี่ยวซูมีสีหน้าตึงเครียด หันไปสบตามองหยานหวูซวง แล้วพยักหน้าให้กันเล็กน้อย

“ทุกคนคุ้มครองแม่นางถางด้วย”

อี้เสี่ยวซูตะโกนออกคำสั่งในขณะที่กระโจนเข้าใส่แองกัสพร้อมกับหยานหวูซวง

แองกัสยิ้มกว้างมองคู่ต่อสู้ทั้งสองคนด้วยแววตาอำมหิต พลัน ฝ่ามือของเขารวบรวมพลังแสงอาทิตย์แผ่ออกมา อุณหภูมิในอากาศพุ่งสูงขึ้น เป็นเหตุให้มวลอากาศปั่นป่วนไปทันที

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สองหมัดต่อยหยานหวูซวงกับอี้เสี่ยวซูลอยกระเด็นไป

ช่องว่างระหว่างระดับพลัง ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยจำนวนคน

“ทำไมพวกแกยังไม่หนีกันไปอีก?” อี้เสี่ยวซูคำรามออกมาด้วยความฉุนเฉียวเมื่อพบว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“พวกเราก็ขอร่วมสู้ด้วย!” เยวี่ยต้าย่งคำรามพร้อมกับวิ่งเข้าหาแองกัสเหมือนวัวกระทิง

แองกัสสะบัดมือที่ขาวผ่องของเขา แทงออกไปข้างหน้าเหมือนกับคมดาบ มันพุ่งผ่านม่านพลังที่ห่อหุ้มร่างกายของเยวี่ยต้าย่งและทะลุเข้าไปในหน้าอกของชายร่างใหญ่

ฟู่!

เลือดสาดกระจาย

“ไม่นะ…”

ทั้งอี้เสี่ยวซูและหยานหวูซวงมีดวงตาแดงก่ำ แต่โชคร้ายที่พวกเขาหยุดยั้งเหตุร้ายครั้งนี้ไม่ได้

แองกัสยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มในตอนที่ควักหัวใจของเยวี่ยต้าย่งออกมาเต้นตุบๆ ในมือของเขา

ระดับพลังและความอำมหิตของชายคนนี้ ทำให้ทุกคนร่างเย็นเยียบไปถึงไขสันหลัง

ตุบ!

ร่างของเยวี่ยต้าย่งล้มลงบนพื้น เศษฝุ่นปลิวกระจาย

“หน็อย ฉันจะต้องฆ่าแก!”

อี้เสี่ยวซูคำราม ดวงตาลุกโชนด้วยประกายแห่งความแค้น ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยความบ้าคลั่ง เขาโคจรพลังลมปราณเต็มกำลัง กางมือของตนเองเป็นกรงเล็บ พยายามตะปบเข้าไปที่ลำคอของแองกัสในขณะที่ปล่อยพลังลมปราณออกไปด้วย

แองกัสถือหัวใจของเยวี่ยต้าย่งในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ปัดป้องการโจมตี

เปรี้ยง!

พลังลมปราณของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหนักหน่วง อี้เสี่ยวซูมีเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก แต่แทนที่ร่างจะลอยกระเด็นออกมา มือของเขากลับถูกแองกัสจับเอาไว้

ฉ่า! ฉ่า!

ควันสีขาวลอยขึ้นมาจากมือของอี้เสี่ยวซู

“อ๊าก…” หัวหน้าสมาคมนักล่ามังกรส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ได้ข่าวว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นชอบกินบาร์บีคิวใช่ไหม? ผมอยากให้เขาลองชิมเนื้อย่างชิ้นนี้ดูบ้างจัง” แองกัสไม่ได้ยิ้มเหมือนคนวิกลจริต แต่ก็ทำให้ทุกคนตัวสั่นเทา เขาโคจรพลังแสงอาทิตย์มาที่มือของตัวเองและกำลังทำการย่างมือของอี้เสี่ยวซูอย่างโหดเหี้ยม

“อีกอย่าง ผมยังมีหัวใจอยู่ด้วย หวังว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นคงจะชอบนะ” พลังแสงอาทิตย์ไหลไปที่มือซ้ายของแองกัสแล้วหัวใจของเยวี่ยต้าย่งก็มีเสียงฉู่ฉ่าดังขึ้นมา

กล่าวได้เลยว่าแองกัสมีความวิกลจริตอย่างยิ่ง

“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!”

หยานหวูซวงคำรามสุดเสียงพร้อมกับตวัดดาบกระโดดเข้าไป

แองกัสสะบัดมือ หัวใจที่ถูกเผาไหม้ก็พุ่งวาบออกไปปะทะเข้ากับดาบของคุณชายหนุ่ม แรงกระแทกทำให้หยานหวูซวงลอยกระเด็นไปข้างหลัง

“อ๊าก…” หลังจากที่ม้วนตัวตีลังกาขึ้นมาแล้ว หยานหวูซวงก็คำรามด้วยความเดือดดาล พุ่งตรงกลับไปหากัสอย่างไม่ยอมแพ้

แองกัสชำเลืองมองหยานหวูซวงที่กระโดดกลับเข้ามาอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น

ก่อนที่จะพุ่งตรงเข้าไปหาหยานหวูซวงและซัดพลังใส่จนคุณชายหยานล้มคว่ำลงไป

“อ๊าก…” อี้เสี่ยวซูส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด มือขวาของเขากำลังถูกย่างสดด้วยพลังความร้อนอันน่าหวาดกลัวจากมือของแองกัส

แองกัสได้ยินเสียงกรีดร้องของเขา ก็หันกลับมามองและพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจว่า “ขอโทษทีครับ ลืมไปเลยว่าผมยังจับมือคุณอยู่” มือของอี้เสี่ยวซูถูกเผาจนไหม้เกรียมไปแล้ว

ผลั่ก!

แองกัสสะบัดมือกระแทกเข้าใส่เต็มหน้าอกของอี้เสี่ยวซู

แองกัสหันกลับมามองหยานหวูซวงที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นดิน “ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนกับจอมมารฉู่ชวิ๋น…คุณก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ”

ไม่ทันขาดคำ รองเจ้าสำนักวิหารดวงตะวันก็กระโดดเข้าใส่คุณชายหยาน

ฟิ้ว! พลันลมปราณสีขาวถูกยิงเข้าใส่แองกัส

แองกัสกระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศและซัดพลังแสงอาทิตย์โต้ตอบกลับไป ลมปราณสีขาวนั้นจึงกระจายตัวหายไปทันที

ดวงตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังหญิงสาวในชุดขาวที่ดูโดดเด่นกลางแสงจันทร์ ในทันใดนั้น แองกัสก็อยากรู้ขึ้นมาจับใจว่าผู้หญิงของฉู่ชวิ๋นจะมีหน้าตาสวยงามขนาดไหนกันนะ?

“ฉันยอมรับเลยนะว่าเธอกล้าหาญไม่ใช่น้อย” แองกัสหันมาพูดกับถางโร้ว

ถางโร้วไม่ตอบรับคำใด พลังของเธออ่อนแอเกินไปสำหรับแองกัส แต่เธอก็ทนเห็นหยานหวูซวงถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้

แองกัสเดินตรงเข้ามาหาถางโร้ว “ฉันขอดูหน่อยได้ไหมว่าโฉมหน้าผู้หญิงของจอมมารฉู่ชวิ๋นจะงดงามขนาดไหน?”

เปรี้ยง!

ถางโร้วซัดพลังออกจากฝ่ามืออีกครั้ง แต่ก่อนที่มันจะกระทบถูกตัวแองกัส เขาก็โคจรพลังแสงอาทิตย์มาปัดป้องมันไว้ ระดับพลังของเขากับเธอห่างชั้นกันมากเกินไป

“พวกเราโจมตีพร้อมกันเลยเถอะ!” สมาชิกของสมาคมนักล่ามังกรที่เหลืออยู่ร้องคำรามเป็นเสียงเดียวกันและพร้อมใจกันพุ่งตรงเข้าเล่นงานแองกัส

เปรี้ยง!

เลือดสาดกระจาย พลังแสงอาทิตย์สาดแทงทะลุตัวคน

เปรี้ยง!

พลังแสงอาทิตย์ของแองกัสระเบิดตัวเจิดจ้า ผู้คนหลายสิบชีวิตที่เข้ารุมเล่นงานเขาถูกมวลพลังกระแทกลอยกระเด็นกลับออกมาพร้อมกับกระอักเลือด

ในตอนนี้ แองกัสเปรียบเสมือนเทพเจ้าไร้คู่ต่อกร

ถางโร้วรวบรวมพลังทั้งร่างกายที่เหลืออยู่และซัดลมปราณใส่แองกัสอีกครั้ง

เปรี้ยง!

แองกัสมีม่านพลังสีแดงห่อหุ้มร่างกาย ถางโร้วพลังสะท้อนกลับเล่นงานตัวเองจนกระอักเลือด ร่างที่แสนบอบบางของเธอปลิวกระเด็นไปกลางอากาศ ในจังหวะนั้น ผ้าคลุมหน้าของเธอได้หลุดออกมา เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้ทุกคนได้เห็น

แองกัสถึงกับยืนตกตะลึงอยู่กับที่ เขาเคยเห็นผู้หญิงจีนมาไม่น้อย และรู้สึกว่าพวกเธอไม่ได้สวยอะไรเลย แต่บัดนี้ เขายอมรับแล้วว่าทัศนคติที่ตนเองมีนั้นมันผิดไปโดยสิ้นเชิง

หญิงสาวคนนี้มีความงดงามยิ่งกว่าเทพธิดาประจำวิหารดวงตะวันเสียอีก

แองกัสไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ

เปรี้ยง!

บรรดาสมาชิกของสมาคมนักล่ามังกรถูกพลังแสงอาทิตย์เล่นงานจนมีสภาพร่อแร่ใกล้ตาย

“ไอ้ชาติชั่ว” หยานหวูซวงคำรามพร้อมกับลุกขึ้นพุ่งเข้าใส่แองกัสอีกคำรบ

ผลั่ก!

แองกัสกระแทกฝ่ามือใส่หยานหวูซวงจน หยานหวูซวงกระอักเลือดออกมาจากริมฝีปาก หลังจากนั้น หยานหวูซวงก็ถูกมือของแองกัสบีบลำคอเอาไว้

“ถ้าคุณร้องขอความเมตตาจากผม บางทีผมอาจจะปล่อยคุณไปก็ได้นะ” แองกัสมองหน้าหยานหวูซวง ซึ่งพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากมือของเขา

“ถุย!” หยานหวูซวงถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าของแองกัส

ดวงตาของแองกัสเย็นชา เขาเพิ่มแรงบีบที่มือ ลำคอของหยานหวูซวงจนบิดงอเล็กน้อย เป็นสัญญาณว่ากระดูกคอของเขากำลังจะหัก

“ปล่อยเขาไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นพี่ฉู่จะต้องมาฆ่าคุณแน่” ถางโร้วพยายามลุกขึ้นยืน และเริ่มต้นเจรจาเพื่อให้แองกัสปล่อยตัวหยานหวูซวง

แองกัสหันกลับมามองอย่างเยือกเย็น ก่อนที่จะยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า “ฉันคงปล่อยตัวเขาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าเธอยอมรับปากกับฉันข้อหนึ่ง มันก็อาจจะเป็นไปได้”

“จะให้ฉันรับปากเรื่องอะไร?” ถางโร้วออกมา

ดวงตาของแองกัสเป็นประกายระยิบระยับในขณะที่ตอบว่า “เธอต้องมาเป็นผู้หญิงของฉัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด