จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 309 ขโมยสมบัติ

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 309 ขโมยสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 309 ขโมยสมบัติ

สายฟ้าฟาดโหมกระหน่ำ

ฉู่ชวิ๋นยกมือกระชากสายฟ้าที่วนอยู่รอบตัวมาจับเล่นในมือ

พวกหลีหังยี่มองแล้วตากระตุก พวกเขากลัวสายฟ้าพวกนี้แทบตาย แต่ไอ้หนุ่มนี้กลับเห็นเป็นของเล่น เรื่องนี้ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกอย่างมาก

“เกราะวิเศษ 2 ชุดนี้ช่วยให้พวกนายปลอดภัยไร้กังวลได้ แต่พวกนายต้องตอบแทน” ฉู่ชวิ๋นกล่าวเรียบ ๆ

“สหายอยากได้อะไรเป็นการตอบแทน” หลีหังยี่ถาม

“พวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของฉันหายไป ถ้าพวกนายเห็นรบกวนจับมาให้ฉันด้วย”

สัตว์เลี้ยง?

หลีหังยี่ตะลึงนิดหน่อย

“สัตว์เลี้ยงของฉันเป็นพวกปลาที่ตัวเท่าฝ่ามือ ถ้าพวกนายเห็นแล้วช่วยจับกลับมาให้ฉันด้วย อย่าดูถูกสัตว์เลี้ยงของฉันนะ พวกมันฉลาดมาก หลังจากที่พวกนายเห็นแล้วต้องใช้พลังภายในพันธนาการเอาไว้ แล้วใส่ไว้ในกล่องหยก”

แม้หลีหังยี่จะอยากได้เกราะวิเศษ 2 ชุดนี้ แต่ก็ต้องถามให้ละเอียด

“สัตว์เลี้ยงของสหายพลังโจมตีเป็นยังไง”

“พลังโจมตีไม่มาก พวกนายจับได้ง่าย ๆ แต่วิชาการหนีของพวกมันใต้หล้านี้ไม่มีใครเทียบเทียม จำไว้นะ ต้องพันธนาการด้วยพลังภายในแล้วใส่ไว้ในกล่องหยก” ฉู่ชวิ๋นบอก

หลีหังยี่มีแผนแล้วในใจ “ได้ ตกลง” พูดจบก็จะไปเอาเกราะวิเศษ 2 ชุดนั้น

“ช้าก่อน” ฉู่ชวิ๋นห้ามเขาไว้ “หากมีคนถามพวกนายห้ามบอกที่มาของเกราะวิเศษ ในตอนที่พวกนายจะกลับไปจากที่นี่ต้องคืนเกราะมาด้วย ถึงตอนนั้นฉันจะรอพวกนายอยู่ที่นี่”

หลีหังยี่พยักหน้า

“จำคำสัญญาของพวกนายไว้ หากตอนนั้นเกิดพวกนายโลภก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ”

พูดจบ สายฟ้ารอบตัวฉู่ชวิ๋นก็ระเบิดออก

พวกหลีหังยี่ผวา พริบตาเดียวฉู่ชวิ๋นก็หายตัวไปแล้ว

“หรือว่าเขาจะอาศัยอยู่ในเขตปักษานี้จริง ๆ” หนึ่งในนั้นพึมพำ

เกราะวิเศษ 2 ชุด หลีหังยี่ใส่เอง 1 ชุด ส่วนอีกชุดให้ผู้ช่วยของเขา

นอกจากนั้น เขาลองทดลองดูแล้ว ต่อให้โดนสายฟ้าฟาดใส่เขาก็ไม่บาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่น้อย ของดีจริง ๆ

ส่วนทางฉู่ชวิ๋นก็ได้กลับไปรวมตัวกับพวกหยานหวูซวง

“พี่หลิว เกราะวิเศษอีก 2 ชุดล่ะ”

“ให้คนอื่นไปแล้ว” ฉู่ชวิ๋นบอก

ให้คนอื่น? หยานหวูซวงไม่เข้าใจว่าให้ของวิเศษคนอื่นไปทำไม

ฉู่ชวิ๋นก็ไม่อธิบาย และบอกให้คนอื่นค้นหากันต่อไป

พวกเขาอ้อมพวกจังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงไป จะได้ลดความน่าสงสัยลง

ที่นี่ฟ้าร้องฟ้าแลบสลับกันเปรี้ยงปร้าง ทัศนวิสัยที่มองเห็นมีแค่ 10 เมตรรอบ ๆ ตัวเท่านั้น

ฟิ้ว

หยานหวูซวงกระโจนออกไป พันธนาการปลาปักษาตัวหนึ่งแล้วกลับมา ก่อนจะใส่ไว้ในกล่องหยก

ปกติแล้วจอมยุทธ์จะพกกล่องหยกไว้กับตัวตลอด นี่เป็นความรู้พื้นฐาน

ตอนนี้พวกเขาน่าจะเข้าใกล้จุดศูนย์กลางของที่นี่แล้ว เริ่มมีปลาปักษาปรากฏเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 ทั้ง 4 คนของตระกูลหยานก็เริ่มลงมือ เพียงครู่เดียวก็ได้ปลาปักษามา 10 กว่าตัว

พรึ่บ

ปลาไหลไฟฟ้าตัวหนึ่งโจมตีหยานหวูซวง แต่โดนเขาหั่นขาดในกระบี่เดียว

ช่วงที่ผ่านมานี้พวกเขาเจอปลาไหลไฟฟ้ามาไม่น้อย แต่เมื่อเจอเข้ากับ

หยานหวูซวงและฉู่ชวิ๋นพวกมันก็ยากที่จะรอดชีวิตไปได้

“ดูสิ นั่นอะไร” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตระกูลหยานคนหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

ที่จริงคนอื่น ๆ เห็นกันหมดแล้ว

ตรงที่ไม่ไกลจากพวกเขามีแสงสีทองแวววับอยู่ ราวกับกำแพงสีทอง

พวกฉู่ชวิ๋นเข้าใจทันทีว่าที่นี่แหละจุดศูนย์กลาง

กำแพงสีทองนี้เป็นม่านพลังสายฟ้า ทำให้พื้นที่จุดศูนย์กลางกลายเป็นมิติอีกแห่งหนึ่ง

ฉู่ชวิ๋นส่งจิตวิญญาณเข้าไปก็พบว่าภายในฝาสีทองแห่งนี้ไม่มีสายฟ้า เป็นมิติที่แยกออกไปอย่างแท้จริง

เขาเดินเข้าไปและลองเอามือแนบดู ผลปรากฏว่าทะลุผ่านไปเลย เขาก้าวขาออกไปและก็ทะลุผ่านแสงไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่มีอันตรายเลยสักนิด

พวกหยานหวูซวงพอเห็นฉู่ชวิ๋นหายไปหลังม่านแสงก็รีบตามเข้าไป จอมยุทธ์ตระกูลหยานคนหนึ่งก้าวขาออกไปข้างหนึ่งหวังจะผ่านม่านแสงเข้าไป แต่จบที่เสียงดังตู้ม! แสงสีทองเป็นระลอกคลื่นและตัวเขากระเด็นออกไป

คนอื่นที่กำลังจะก้าวขารีบชักกลับมา

นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเห็นฉู่ชวิ๋นเข้าไปกับตา ไม่เป็นอันตรายเลยสักนิด

หยานหวูซวงแนบมือขึ้นไป ปรากฏว่าม่านสีทองเกิดเป็นคลื่นระเบิดออกสะเทือนจนเขาถอยไปหลายก้าว เลือดลมพลุ่งพล่าน

ขณะนั้นฉู่ชวิ๋นโผล่หัวมาจากม่านสีทองอีกฝั่งหนึ่งด้วยใบหน้าปลื้มปิติ “เอ๋ออะไรกันอยู่ รีบเข้ามาสิ มีของดีนะ”

หยานหวูซวงหัวเราะเฝื่อน ๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟัง

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกแปลกเหมือนกัน เขากระโดดออกจากม่านแสงแล้ววิ่งเข้าไปใหม่ ม่านแสงสีทองไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

“หรือว่าสันดานพวกนายแย่เกินไป” ฉู่ชวิ๋นพึมพำ

พวกหยานหวูซวงมองบน พูดถึงเรื่องสันดานทุกคนในที่นี้ดีกว่านายเยอะ

ขณะนั้นผู้หญิงผมม่วงเดินทะลุม่านแสงสีทองเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และหายไปที่อีกฟาก

“หรือว่าม่านแสงนี่ไม่มีผลกับผู้ฝึกตนเป็นเซียน” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตถามผู้หญิงผมม่วง

“ไม่ใช่” ผู้หญิงผมม่วงพูดเสร็จก็เดินออกจากม่านแสงสีทองและบอกกับพวกหยานหวูซวง “ตอนที่พวกนายเดินผ่านม่านแสงลองไม่ต้องใช้ลมปราณดู”

พวกหยานหวูซวงได้ยินดังนั้นก็กลั้นลมปราณเอาไว้ พวกเขามีเกราะวิเศษคุ้มกายอยู่ สายฟ้าทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สุดท้ายทุกคนก็ทะลุผ่านไปได้

ที่แท้ม่านแสงสีทองไม่ถูกกับพลังลมปราณ ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้ว

หลังจากที่หยานหวูซวงเข้ามาก็ตาค้างไปเหมือนกับคนอื่น ๆ

หินผารูปพัดมหึมานั่นยังอยู่ แต่ข้างบนมียาวิเศษสมุนไพรเต็มไปหมด แล้วยังมีดอกไม้ผลไม้แปลก ๆ งอกเงย สิ่งที่ทำให้พวกเขาอยากได้จริง ๆ ก็คือต้นสาลี่สีทองอร่ามที่อยู่บนหินผา บนต้นมีผลสาลี่ใสสกาว มันคือต้นวิเศษ บนนั้นก็คือผลไม้วิเศษ

หินผารูปพัดสีเทาหม่นหมองนั่นกลายเป็นภูเขาสมบัติ

“ยืนเอ๋ออะไรกันอยู่ ลุยสิ” ฉู่ชวิ๋นตะโกนและพุ่งเข้าไปหาต้นพิเศษต้นนั้นเป็นคนแรก

พวกหยานหวูซวงก็พากันลงมือ ทั้งหมดพุ่งไปที่ภูเขาสมบัติ แม้แต่ผู้หญิงผมม่วงก็ไม่ยกเว้น

ตู้ม!

ทันใดนั้น ในตอนที่พวกเขากำลังเข้าใกล้ภูเขาสมบัติ คลื่นสีทองกระจายออกเป็นวงกว้าง

ฉู่ชวิ๋นเห็นท่ารีบถอยออก

หยานหวูซวงและผู้หญิงผมม่วงก็เช่นกัน ถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย

แต่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้ง 4 ของตระกูลหยานแย่เอาการ พวกเขาโดนคลื่นแสงสีทองเข้าอย่างจัง เสือผ้าขาดรุ่ยและกระเด็นกลับมา หากไม่ได้เกราะวิเศษคอยคุ้มกันอยู่คงได้บาดเจ็บหนักแน่ ๆ

ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้น เพราะเขาลองใช้จิตวิญญาณสืบเสาะดูก็พอว่าคลื่นสีทองนี่มาจากไหนแต่กลับไม่พบที่มาของมัน

ไม่ใช่ค่ายกล ไม่ใช่วิชาเต๋า แล้วมันเป็นอะไรกันแน่

“เธอดูออกไหม?” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตหาผู้หญิงผมม่วง

“ไม่” ผู้หญิงผมม่วงเองก็ขมวดคิ้ว

“พวกนายถอยไป ฉันขอลองอีกรอบ” ฉู่ชวิ๋นกระโจนออกไป

ตู้ม!

แสงสีทองอันเจิดจ้าระเบิดออกเป็นคลื่น

ตู้ม!

คลื่นสีทองกระแทกโดนฉู่ชวิ๋นจนเกิดเป็นเสียงดัง ตู้ม! แต่ฉู่ชวิ๋นก็แบกรับเอาไว้ทั้งอย่างนั้น

ตู้ม!

คลื่นสีทองขยายออกอีกครั้งและระเบิดใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างต่อเนื่อง

ฉู่ชวิ๋นชกปั้นสวนกลับไปอย่างหนักหน่วง

ตู้ม!

คลื่นสีทองระเบิดออกเพราะการโจมตีของฉู่ชวิ๋น

พวกหยานหวูซวงตื่นเต้นจนกำหมัดแน่น

คลื่นสีทองขยาย กระพริบและกระจายไม่หยุดหย่อน

ฉู่ชวิ๋นชกหมัดออกไปไม่หยุด บางครั้งก็เอาร่างกายฝืนรับไว้

เรียกได้ว่าเขานั้นขยับตัวเข้าไปอย่างยากลำบาก เข้าใกล้ภูเขาสมบัติทีละก้าวอย่างทุลักทุเล ก่อนจะยื่นมือเด็ดหญ้าวิเศษลงมาต้นหนึ่ง

ตู้ม!

คลื่นสีทองดุดันยิ่งขึ้นไปอีก คลื่นขยายตัวออกไวมาก ฉู่ชวิ๋นโดนกระแทกจนถอยหลังไป 1 ก้าว

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันและชกหมัดออกไป ทำลายคลื่นพลังสีทองไม่หยุด เขากัดฟันก้าวไปข้างหน้าอีก 2 ก้าวและเด็ดดอกไม้วิเศษ 1 ดอกลงมาอย่างรวดเร็ว

แต่เป้าหมายของเขาคือผลไม้วิเศษด้านบนสุดนั่น หากได้มาทั้งต้นไม้วิเศษจะยอดเยี่ยมมาก

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันต่อสู้กับคลื่นพลังสีทอง คลื่นพลังสีทองพวกนี้ดุดันและบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

แรงหมัดของฉู่ชวิ๋นประหนึ่งพายุคลั่ง ปกคลุมไปทั้งผืนฟ้าด้วยพลังอันแกร่งกล้า แต่พลังคลื่นสีทองเองก็น่าหวาดกลัวมาก

ทุกก้าวที่ฉู่ชวิ๋นก้าวออกไปล้วนได้ผลดี ตอนนี้เขาเด็ดหญ้าวิเศษ สมุนไพรวิเศษลงมาได้ 10 กว่าต้นแล้ว

พรึ่บ

มีเงาคนปรากฏ คนกลุ่มหนึ่งทะลุม่านแสงสีทองเข้ามา

พวกจังเฟิงหลิงนั่นเอง พวกเขาเองก็ค้นพบความลับของม่านสีทองนี้แล้ว

“พี่หยานมาไวดีนะ” จังเฟิงหลิงมองหยานหวูซวงในปาดเดียว เขากล่าวพร้อมหัวเราะเย็น ๆ จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด

“พี่หยาน….พี่หยาน ทรงผมเก๋ดีนี่”

“นายเองก็ไม่ช้าเลยนะ” หยานหวูซวงตอบเรียบ ๆ ตอนนี้กะจิตกะใจเขาอยู่กับฉู่ชวิ๋นจนไม่สนใจจังเฟิงหลิงเลยแม้แต่น้อย

พันเฉิงเฟิงและจังเฟิงหลิงมองตามสายตาหยานหวูซวงไปก็ดวงตาก็เป็นประกายทันที ไม่ใช่เพราะฉู่ชวิ๋น แต่เพราะสมบัติมากมายที่กองเป็นภูเขาเลากา

ฟิ้ว

จังเฟิงหลิงพุ่งนำออกไปก่อน เขาไม่อยากให้ฉู่ชวิ๋นได้ทั้งหมดนี่เข้ากระเป๋า

พันเฉิงเฟิงไม่ยอมล้าหลัง พุ่งตามไปที่ภูเขาสมบัติ

จอมยุทธ์ตระกูลจังและคนของหอคอยอาภรณ์ม่วงไม่มีใครยอมอยู่เฉย ภูเขาสมบัติอยู่แค่ตรงหน้านี่ ไม่แย่งตอนนี้แล้วจะรอเมื่อไหร่

ตู้ม!

คลื่นระลอกใหญ่ระเบิดและถาโถมกระจายออกมา

เสียงร้องทุ้ม ๆ ดังขึ้นหลายเสียง รวมทั้งจังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงด้วยที่ถูกกระแทกกลับมา จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิบางคนที่วรยุทธต่ำต้อยโดนแรงกระแทกจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมา

หยานหวูซวงหัวเราะอย่่างเย็นชา ไอ้พวกโง่ ถ้ามันหยิบได้ง่ายขนาดนั้นเขาจะมามัวยืนร้อนใจอยู่ตรงนี้ทำไม

จังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงสบตากันด้วยนัยน์ตาเป็นประกายบางอย่าง

“พี่หยาน ภูเขาสมบัติลูกใหญ่ขนาดนี้ตระกูลหยานคงเอาคนเดียวไม่ไหวหรอกมั้ง” จังเฟิงหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอึมครึม

หยานหวูซวงหลุบสายตากลับมาด้วยสายตาไม่สนใจ “ภูเขาสมบัติอยู่แค่ตรงหน้า หากน้องจังสามารถก็ทะลุม่านแสงสีทองเข้าไปหยิบมาก็จบแล้ว”

พันเฉิงเฟิงหัวเราะด้วยเสียงพิลึกพิลั่น “พวกเราไม่มีดวงเหมือนพี่หยาน ที่จะหาคนที่ร่างกายไร้เทียมทานแบบนี้มาคอยรับใช้หรอกนะ”

หยานหวูซวงพูดออกมาอย่างโกรธแค้น “หอคอยอาภรณ์ม่วง พูดอะไรเกรงใจกันหน่อย ฉันและพี่หลิวเป็นเพื่อนกัน”

“ฮ่า ๆ … เพื่อนเหรอ สหายผู้นั้นเข้าไปชิงสมบัติตัวอาบเลือด พี่หยานกลับนั่งรอส่วนแบ่งเฉย ๆ อยู่ตรงนี้ ช่างเป็นเพื่อนที่ดีซะจริง ๆ” จังเฟิงหลิงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงจิกกัด

หยานหวูซวงโมโหสุดขีด “จังเฟิงหลิง แกอย่ามายุแยงตะแคงรั่ว ความสัมพันธ์ของฉันและพี่หลิวไม่ใช่อะไรที่แกจะมาทำให้แตกหักได้ในคำ 2 คำหรอกนะ”

“งั้นเหรอ ๆ” จังเฟิงหลิงหัวเราะเบา ๆ สายตาหันไปที่ผู้หญิงผมม่วงอย่างเร่าร้อนพลางพูดขึ้นมา “แม่นาง คน ๆ นี้เป็นพวกคิดคด ชอบโกหกพกลมเธออยู่กับเขาต้องโดนหลอกใช้แน่ ๆ มาอยู่กับฉันดีกว่า หากเจอโอกาสวาสนะ ฉันรับรองว่ามีส่วนแบ่งให้กับแม่นางแน่นอน”

“หุบปาก” ผู้หญิงผมม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

จังเฟิงหลิงชะงักไป เขากำลังจะเอ่ยต่อแต่หยานหวูซวงแทรกขึ้นมาซะก่อน

“จังเฟิงหลิง สงสัยกระบี่ของฉันจะทำให้สมองของแกเสียไปด้วยสินะ ถึงได้คิดพูดคำพูดโง่ ๆ แบบนี้ออกมาได้ แม่นางคนนี้เป็นศิษย์น้องของพี่หลิว แกอย่าฝันซะให้ยากเลย”

“ศิษย์น้อง?” จังเฟิงหลิงไม่อยากจะเชื่อ

พันเฉิงเฟิงได้ยินแบบนี้นัยน์ตาก็เป็นประกายบางอย่าง เขาเดินเข้าไปใกล้ๆจังเฟิงหลิงและกระซิบ “คุณชายจัง ฉันมีแผนแล้ว”

“แผนอะไร พี่พัน” จังเฟิงหลิงถาม

“นายกับฉันไม่อาจเข้าใกล้ภูเขาสมบัตินี้ได้ มีแค่ไอหนุ่มไร้นามนั่นที่ทำได้ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นศิษย์น้องของเขา หากโดนพวกเราจับตัวเธอเอาไว้ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่ทำงานให้เรา” พันเฉิงเฟิงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 309 ขโมยสมบัติ

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 309 ขโมยสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 309 ขโมยสมบัติ

สายฟ้าฟาดโหมกระหน่ำ

ฉู่ชวิ๋นยกมือกระชากสายฟ้าที่วนอยู่รอบตัวมาจับเล่นในมือ

พวกหลีหังยี่มองแล้วตากระตุก พวกเขากลัวสายฟ้าพวกนี้แทบตาย แต่ไอ้หนุ่มนี้กลับเห็นเป็นของเล่น เรื่องนี้ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกอย่างมาก

“เกราะวิเศษ 2 ชุดนี้ช่วยให้พวกนายปลอดภัยไร้กังวลได้ แต่พวกนายต้องตอบแทน” ฉู่ชวิ๋นกล่าวเรียบ ๆ

“สหายอยากได้อะไรเป็นการตอบแทน” หลีหังยี่ถาม

“พวกสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของฉันหายไป ถ้าพวกนายเห็นรบกวนจับมาให้ฉันด้วย”

สัตว์เลี้ยง?

หลีหังยี่ตะลึงนิดหน่อย

“สัตว์เลี้ยงของฉันเป็นพวกปลาที่ตัวเท่าฝ่ามือ ถ้าพวกนายเห็นแล้วช่วยจับกลับมาให้ฉันด้วย อย่าดูถูกสัตว์เลี้ยงของฉันนะ พวกมันฉลาดมาก หลังจากที่พวกนายเห็นแล้วต้องใช้พลังภายในพันธนาการเอาไว้ แล้วใส่ไว้ในกล่องหยก”

แม้หลีหังยี่จะอยากได้เกราะวิเศษ 2 ชุดนี้ แต่ก็ต้องถามให้ละเอียด

“สัตว์เลี้ยงของสหายพลังโจมตีเป็นยังไง”

“พลังโจมตีไม่มาก พวกนายจับได้ง่าย ๆ แต่วิชาการหนีของพวกมันใต้หล้านี้ไม่มีใครเทียบเทียม จำไว้นะ ต้องพันธนาการด้วยพลังภายในแล้วใส่ไว้ในกล่องหยก” ฉู่ชวิ๋นบอก

หลีหังยี่มีแผนแล้วในใจ “ได้ ตกลง” พูดจบก็จะไปเอาเกราะวิเศษ 2 ชุดนั้น

“ช้าก่อน” ฉู่ชวิ๋นห้ามเขาไว้ “หากมีคนถามพวกนายห้ามบอกที่มาของเกราะวิเศษ ในตอนที่พวกนายจะกลับไปจากที่นี่ต้องคืนเกราะมาด้วย ถึงตอนนั้นฉันจะรอพวกนายอยู่ที่นี่”

หลีหังยี่พยักหน้า

“จำคำสัญญาของพวกนายไว้ หากตอนนั้นเกิดพวกนายโลภก็อยู่ที่นี่ตลอดไปเถอะ”

พูดจบ สายฟ้ารอบตัวฉู่ชวิ๋นก็ระเบิดออก

พวกหลีหังยี่ผวา พริบตาเดียวฉู่ชวิ๋นก็หายตัวไปแล้ว

“หรือว่าเขาจะอาศัยอยู่ในเขตปักษานี้จริง ๆ” หนึ่งในนั้นพึมพำ

เกราะวิเศษ 2 ชุด หลีหังยี่ใส่เอง 1 ชุด ส่วนอีกชุดให้ผู้ช่วยของเขา

นอกจากนั้น เขาลองทดลองดูแล้ว ต่อให้โดนสายฟ้าฟาดใส่เขาก็ไม่บาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่น้อย ของดีจริง ๆ

ส่วนทางฉู่ชวิ๋นก็ได้กลับไปรวมตัวกับพวกหยานหวูซวง

“พี่หลิว เกราะวิเศษอีก 2 ชุดล่ะ”

“ให้คนอื่นไปแล้ว” ฉู่ชวิ๋นบอก

ให้คนอื่น? หยานหวูซวงไม่เข้าใจว่าให้ของวิเศษคนอื่นไปทำไม

ฉู่ชวิ๋นก็ไม่อธิบาย และบอกให้คนอื่นค้นหากันต่อไป

พวกเขาอ้อมพวกจังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงไป จะได้ลดความน่าสงสัยลง

ที่นี่ฟ้าร้องฟ้าแลบสลับกันเปรี้ยงปร้าง ทัศนวิสัยที่มองเห็นมีแค่ 10 เมตรรอบ ๆ ตัวเท่านั้น

ฟิ้ว

หยานหวูซวงกระโจนออกไป พันธนาการปลาปักษาตัวหนึ่งแล้วกลับมา ก่อนจะใส่ไว้ในกล่องหยก

ปกติแล้วจอมยุทธ์จะพกกล่องหยกไว้กับตัวตลอด นี่เป็นความรู้พื้นฐาน

ตอนนี้พวกเขาน่าจะเข้าใกล้จุดศูนย์กลางของที่นี่แล้ว เริ่มมีปลาปักษาปรากฏเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 ทั้ง 4 คนของตระกูลหยานก็เริ่มลงมือ เพียงครู่เดียวก็ได้ปลาปักษามา 10 กว่าตัว

พรึ่บ

ปลาไหลไฟฟ้าตัวหนึ่งโจมตีหยานหวูซวง แต่โดนเขาหั่นขาดในกระบี่เดียว

ช่วงที่ผ่านมานี้พวกเขาเจอปลาไหลไฟฟ้ามาไม่น้อย แต่เมื่อเจอเข้ากับ

หยานหวูซวงและฉู่ชวิ๋นพวกมันก็ยากที่จะรอดชีวิตไปได้

“ดูสิ นั่นอะไร” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตระกูลหยานคนหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

ที่จริงคนอื่น ๆ เห็นกันหมดแล้ว

ตรงที่ไม่ไกลจากพวกเขามีแสงสีทองแวววับอยู่ ราวกับกำแพงสีทอง

พวกฉู่ชวิ๋นเข้าใจทันทีว่าที่นี่แหละจุดศูนย์กลาง

กำแพงสีทองนี้เป็นม่านพลังสายฟ้า ทำให้พื้นที่จุดศูนย์กลางกลายเป็นมิติอีกแห่งหนึ่ง

ฉู่ชวิ๋นส่งจิตวิญญาณเข้าไปก็พบว่าภายในฝาสีทองแห่งนี้ไม่มีสายฟ้า เป็นมิติที่แยกออกไปอย่างแท้จริง

เขาเดินเข้าไปและลองเอามือแนบดู ผลปรากฏว่าทะลุผ่านไปเลย เขาก้าวขาออกไปและก็ทะลุผ่านแสงไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่มีอันตรายเลยสักนิด

พวกหยานหวูซวงพอเห็นฉู่ชวิ๋นหายไปหลังม่านแสงก็รีบตามเข้าไป จอมยุทธ์ตระกูลหยานคนหนึ่งก้าวขาออกไปข้างหนึ่งหวังจะผ่านม่านแสงเข้าไป แต่จบที่เสียงดังตู้ม! แสงสีทองเป็นระลอกคลื่นและตัวเขากระเด็นออกไป

คนอื่นที่กำลังจะก้าวขารีบชักกลับมา

นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเห็นฉู่ชวิ๋นเข้าไปกับตา ไม่เป็นอันตรายเลยสักนิด

หยานหวูซวงแนบมือขึ้นไป ปรากฏว่าม่านสีทองเกิดเป็นคลื่นระเบิดออกสะเทือนจนเขาถอยไปหลายก้าว เลือดลมพลุ่งพล่าน

ขณะนั้นฉู่ชวิ๋นโผล่หัวมาจากม่านสีทองอีกฝั่งหนึ่งด้วยใบหน้าปลื้มปิติ “เอ๋ออะไรกันอยู่ รีบเข้ามาสิ มีของดีนะ”

หยานหวูซวงหัวเราะเฝื่อน ๆ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ฟัง

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกแปลกเหมือนกัน เขากระโดดออกจากม่านแสงแล้ววิ่งเข้าไปใหม่ ม่านแสงสีทองไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

“หรือว่าสันดานพวกนายแย่เกินไป” ฉู่ชวิ๋นพึมพำ

พวกหยานหวูซวงมองบน พูดถึงเรื่องสันดานทุกคนในที่นี้ดีกว่านายเยอะ

ขณะนั้นผู้หญิงผมม่วงเดินทะลุม่านแสงสีทองเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และหายไปที่อีกฟาก

“หรือว่าม่านแสงนี่ไม่มีผลกับผู้ฝึกตนเป็นเซียน” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตถามผู้หญิงผมม่วง

“ไม่ใช่” ผู้หญิงผมม่วงพูดเสร็จก็เดินออกจากม่านแสงสีทองและบอกกับพวกหยานหวูซวง “ตอนที่พวกนายเดินผ่านม่านแสงลองไม่ต้องใช้ลมปราณดู”

พวกหยานหวูซวงได้ยินดังนั้นก็กลั้นลมปราณเอาไว้ พวกเขามีเกราะวิเศษคุ้มกายอยู่ สายฟ้าทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สุดท้ายทุกคนก็ทะลุผ่านไปได้

ที่แท้ม่านแสงสีทองไม่ถูกกับพลังลมปราณ ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้ว

หลังจากที่หยานหวูซวงเข้ามาก็ตาค้างไปเหมือนกับคนอื่น ๆ

หินผารูปพัดมหึมานั่นยังอยู่ แต่ข้างบนมียาวิเศษสมุนไพรเต็มไปหมด แล้วยังมีดอกไม้ผลไม้แปลก ๆ งอกเงย สิ่งที่ทำให้พวกเขาอยากได้จริง ๆ ก็คือต้นสาลี่สีทองอร่ามที่อยู่บนหินผา บนต้นมีผลสาลี่ใสสกาว มันคือต้นวิเศษ บนนั้นก็คือผลไม้วิเศษ

หินผารูปพัดสีเทาหม่นหมองนั่นกลายเป็นภูเขาสมบัติ

“ยืนเอ๋ออะไรกันอยู่ ลุยสิ” ฉู่ชวิ๋นตะโกนและพุ่งเข้าไปหาต้นพิเศษต้นนั้นเป็นคนแรก

พวกหยานหวูซวงก็พากันลงมือ ทั้งหมดพุ่งไปที่ภูเขาสมบัติ แม้แต่ผู้หญิงผมม่วงก็ไม่ยกเว้น

ตู้ม!

ทันใดนั้น ในตอนที่พวกเขากำลังเข้าใกล้ภูเขาสมบัติ คลื่นสีทองกระจายออกเป็นวงกว้าง

ฉู่ชวิ๋นเห็นท่ารีบถอยออก

หยานหวูซวงและผู้หญิงผมม่วงก็เช่นกัน ถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย

แต่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้ง 4 ของตระกูลหยานแย่เอาการ พวกเขาโดนคลื่นแสงสีทองเข้าอย่างจัง เสือผ้าขาดรุ่ยและกระเด็นกลับมา หากไม่ได้เกราะวิเศษคอยคุ้มกันอยู่คงได้บาดเจ็บหนักแน่ ๆ

ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้น เพราะเขาลองใช้จิตวิญญาณสืบเสาะดูก็พอว่าคลื่นสีทองนี่มาจากไหนแต่กลับไม่พบที่มาของมัน

ไม่ใช่ค่ายกล ไม่ใช่วิชาเต๋า แล้วมันเป็นอะไรกันแน่

“เธอดูออกไหม?” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตหาผู้หญิงผมม่วง

“ไม่” ผู้หญิงผมม่วงเองก็ขมวดคิ้ว

“พวกนายถอยไป ฉันขอลองอีกรอบ” ฉู่ชวิ๋นกระโจนออกไป

ตู้ม!

แสงสีทองอันเจิดจ้าระเบิดออกเป็นคลื่น

ตู้ม!

คลื่นสีทองกระแทกโดนฉู่ชวิ๋นจนเกิดเป็นเสียงดัง ตู้ม! แต่ฉู่ชวิ๋นก็แบกรับเอาไว้ทั้งอย่างนั้น

ตู้ม!

คลื่นสีทองขยายออกอีกครั้งและระเบิดใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างต่อเนื่อง

ฉู่ชวิ๋นชกปั้นสวนกลับไปอย่างหนักหน่วง

ตู้ม!

คลื่นสีทองระเบิดออกเพราะการโจมตีของฉู่ชวิ๋น

พวกหยานหวูซวงตื่นเต้นจนกำหมัดแน่น

คลื่นสีทองขยาย กระพริบและกระจายไม่หยุดหย่อน

ฉู่ชวิ๋นชกหมัดออกไปไม่หยุด บางครั้งก็เอาร่างกายฝืนรับไว้

เรียกได้ว่าเขานั้นขยับตัวเข้าไปอย่างยากลำบาก เข้าใกล้ภูเขาสมบัติทีละก้าวอย่างทุลักทุเล ก่อนจะยื่นมือเด็ดหญ้าวิเศษลงมาต้นหนึ่ง

ตู้ม!

คลื่นสีทองดุดันยิ่งขึ้นไปอีก คลื่นขยายตัวออกไวมาก ฉู่ชวิ๋นโดนกระแทกจนถอยหลังไป 1 ก้าว

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันและชกหมัดออกไป ทำลายคลื่นพลังสีทองไม่หยุด เขากัดฟันก้าวไปข้างหน้าอีก 2 ก้าวและเด็ดดอกไม้วิเศษ 1 ดอกลงมาอย่างรวดเร็ว

แต่เป้าหมายของเขาคือผลไม้วิเศษด้านบนสุดนั่น หากได้มาทั้งต้นไม้วิเศษจะยอดเยี่ยมมาก

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันต่อสู้กับคลื่นพลังสีทอง คลื่นพลังสีทองพวกนี้ดุดันและบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

แรงหมัดของฉู่ชวิ๋นประหนึ่งพายุคลั่ง ปกคลุมไปทั้งผืนฟ้าด้วยพลังอันแกร่งกล้า แต่พลังคลื่นสีทองเองก็น่าหวาดกลัวมาก

ทุกก้าวที่ฉู่ชวิ๋นก้าวออกไปล้วนได้ผลดี ตอนนี้เขาเด็ดหญ้าวิเศษ สมุนไพรวิเศษลงมาได้ 10 กว่าต้นแล้ว

พรึ่บ

มีเงาคนปรากฏ คนกลุ่มหนึ่งทะลุม่านแสงสีทองเข้ามา

พวกจังเฟิงหลิงนั่นเอง พวกเขาเองก็ค้นพบความลับของม่านสีทองนี้แล้ว

“พี่หยานมาไวดีนะ” จังเฟิงหลิงมองหยานหวูซวงในปาดเดียว เขากล่าวพร้อมหัวเราะเย็น ๆ จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาด

“พี่หยาน….พี่หยาน ทรงผมเก๋ดีนี่”

“นายเองก็ไม่ช้าเลยนะ” หยานหวูซวงตอบเรียบ ๆ ตอนนี้กะจิตกะใจเขาอยู่กับฉู่ชวิ๋นจนไม่สนใจจังเฟิงหลิงเลยแม้แต่น้อย

พันเฉิงเฟิงและจังเฟิงหลิงมองตามสายตาหยานหวูซวงไปก็ดวงตาก็เป็นประกายทันที ไม่ใช่เพราะฉู่ชวิ๋น แต่เพราะสมบัติมากมายที่กองเป็นภูเขาเลากา

ฟิ้ว

จังเฟิงหลิงพุ่งนำออกไปก่อน เขาไม่อยากให้ฉู่ชวิ๋นได้ทั้งหมดนี่เข้ากระเป๋า

พันเฉิงเฟิงไม่ยอมล้าหลัง พุ่งตามไปที่ภูเขาสมบัติ

จอมยุทธ์ตระกูลจังและคนของหอคอยอาภรณ์ม่วงไม่มีใครยอมอยู่เฉย ภูเขาสมบัติอยู่แค่ตรงหน้านี่ ไม่แย่งตอนนี้แล้วจะรอเมื่อไหร่

ตู้ม!

คลื่นระลอกใหญ่ระเบิดและถาโถมกระจายออกมา

เสียงร้องทุ้ม ๆ ดังขึ้นหลายเสียง รวมทั้งจังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงด้วยที่ถูกกระแทกกลับมา จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิบางคนที่วรยุทธต่ำต้อยโดนแรงกระแทกจนเลือดลมพลุ่งพล่าน กระอักเลือดออกมา

หยานหวูซวงหัวเราะอย่่างเย็นชา ไอ้พวกโง่ ถ้ามันหยิบได้ง่ายขนาดนั้นเขาจะมามัวยืนร้อนใจอยู่ตรงนี้ทำไม

จังเฟิงหลิงและพันเฉิงเฟิงสบตากันด้วยนัยน์ตาเป็นประกายบางอย่าง

“พี่หยาน ภูเขาสมบัติลูกใหญ่ขนาดนี้ตระกูลหยานคงเอาคนเดียวไม่ไหวหรอกมั้ง” จังเฟิงหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอึมครึม

หยานหวูซวงหลุบสายตากลับมาด้วยสายตาไม่สนใจ “ภูเขาสมบัติอยู่แค่ตรงหน้า หากน้องจังสามารถก็ทะลุม่านแสงสีทองเข้าไปหยิบมาก็จบแล้ว”

พันเฉิงเฟิงหัวเราะด้วยเสียงพิลึกพิลั่น “พวกเราไม่มีดวงเหมือนพี่หยาน ที่จะหาคนที่ร่างกายไร้เทียมทานแบบนี้มาคอยรับใช้หรอกนะ”

หยานหวูซวงพูดออกมาอย่างโกรธแค้น “หอคอยอาภรณ์ม่วง พูดอะไรเกรงใจกันหน่อย ฉันและพี่หลิวเป็นเพื่อนกัน”

“ฮ่า ๆ … เพื่อนเหรอ สหายผู้นั้นเข้าไปชิงสมบัติตัวอาบเลือด พี่หยานกลับนั่งรอส่วนแบ่งเฉย ๆ อยู่ตรงนี้ ช่างเป็นเพื่อนที่ดีซะจริง ๆ” จังเฟิงหลิงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงจิกกัด

หยานหวูซวงโมโหสุดขีด “จังเฟิงหลิง แกอย่ามายุแยงตะแคงรั่ว ความสัมพันธ์ของฉันและพี่หลิวไม่ใช่อะไรที่แกจะมาทำให้แตกหักได้ในคำ 2 คำหรอกนะ”

“งั้นเหรอ ๆ” จังเฟิงหลิงหัวเราะเบา ๆ สายตาหันไปที่ผู้หญิงผมม่วงอย่างเร่าร้อนพลางพูดขึ้นมา “แม่นาง คน ๆ นี้เป็นพวกคิดคด ชอบโกหกพกลมเธออยู่กับเขาต้องโดนหลอกใช้แน่ ๆ มาอยู่กับฉันดีกว่า หากเจอโอกาสวาสนะ ฉันรับรองว่ามีส่วนแบ่งให้กับแม่นางแน่นอน”

“หุบปาก” ผู้หญิงผมม่วงกล่าวอย่างเย็นชา

จังเฟิงหลิงชะงักไป เขากำลังจะเอ่ยต่อแต่หยานหวูซวงแทรกขึ้นมาซะก่อน

“จังเฟิงหลิง สงสัยกระบี่ของฉันจะทำให้สมองของแกเสียไปด้วยสินะ ถึงได้คิดพูดคำพูดโง่ ๆ แบบนี้ออกมาได้ แม่นางคนนี้เป็นศิษย์น้องของพี่หลิว แกอย่าฝันซะให้ยากเลย”

“ศิษย์น้อง?” จังเฟิงหลิงไม่อยากจะเชื่อ

พันเฉิงเฟิงได้ยินแบบนี้นัยน์ตาก็เป็นประกายบางอย่าง เขาเดินเข้าไปใกล้ๆจังเฟิงหลิงและกระซิบ “คุณชายจัง ฉันมีแผนแล้ว”

“แผนอะไร พี่พัน” จังเฟิงหลิงถาม

“นายกับฉันไม่อาจเข้าใกล้ภูเขาสมบัตินี้ได้ มีแค่ไอหนุ่มไร้นามนั่นที่ทำได้ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นศิษย์น้องของเขา หากโดนพวกเราจับตัวเธอเอาไว้ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่ทำงานให้เรา” พันเฉิงเฟิงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+