จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 300 สำรวจซากโบราณสถาน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 300 สำรวจซากโบราณสถาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 300 สำรวจซากโบราณสถาน

อากาศเปลี่ยนไปในยามค่ำคืน ท้องฟ้าโล่งโปร่งถูกบดบังด้วยเมฆดำ ดูกดดันและอึมครึม

ฉู่ชวิ๋นมองออกไปนอกหน้าต่าง หยานหวูซวงพูดถูกจริงๆ ท้องฟ้าแปรเปลี่ยน อากาศของเมืองหยานเซวี่ยนี่ปรวนแปรจริง ๆ เมื่อกี้ยังอากาศดีอยู่เลย

ราตรีมาเยือน แสงไฟก็ถูกเปิดขึ้น

ฉู่ชวิ๋นเคาะประตูห้องของผู้หญิงผมม่วง

“พวกเราต้องไปตระกูลหยานแล้ว”

ทั้งสองออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปตระกูลหยาน รอบตัวคนทั้งคู่มีม่านพลังบาง ๆ ปรากฏ ทำให้หิมะไม่สามารถโดนตัวได้

ทั้งสองฝ่ายรวมตัวกัน ฝ่ายหยานหวูซวงมีทั้งหมด 5 คน นอกจากเขายังมียอดฝีมืออีก 4 คน ล้วนเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 และเข้าใกล้ระดับ 7 เต็มทีแล้ว

รวมกับฉู่ชวิ๋นและผู้หญิงผมม่วงเป็น 7 คน

ทั้งหมดแยกกลุ่มนั่งรถ 3 คันมุ่งหน้าไปเทือกเขาคุนหลุน

….

….

จังเฟิงหลิงเปลือยกายท่อนบน บาดแผลด้านหลังที่หยานหวูซวงฟันสมานแล้ว แต่รัศมีกระบี่รุกรานเข้ามาในร่าง ไม่อาจขจัดออกไปในเวลาสั้น ๆ ได้

“ตามต่อ” พูดจบเขาก็เก็บมือถือและตกสู่ห้วงความคิด

เขาส่งคนคอยจับตาดูตระกูลหยานไว้ เมื่อกี้เขาได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า

หยานหวูซวงและไอ้หนุ่มไร้ชื่อรวมทีม 7 คนนั่งรถออกจากเมืองหยานเซวี่ย แต่ทำไมผู้หญิงผมม่วงถึงอยู่กับพวกเขาได้ จังเฟิงหลิงคิดยังไงก็คิดไม่ออก

หรือว่าเดิมทีพวกเขาเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว? ดอกบัวจิตวิญญาณของตระกูลหยานไม่ได้หาย ทั้งหมดนี่เป็นกลลวงของพวกเขา

ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ

นัยต์ตาจังเฟิงหลิงส่องประกายอันน่าขนลุกพลางพึมพำ “หยานหวูซวง ถ้าเป็นกลลวงของแกจริง ๆ เราคงต้องคิดบัญชีกันหน่อยแล้ว แกคิดว่าฉันจังเฟิงหลิงจะยอมโดนเอาเปรียบง่าย ๆ งั้นเหรอ”

เขาคิดบางอย่างก่อนจะโทรศัพท์และใส่เสื้อผ้าออกจากโรงแรมไป

ขณะเดียวกันอิทธิพลอื่น ๆ ในเมืองหยานเซวี่ยก็ได้รับข่าวว่าหยานหวูซวงออกจากเมืองหยานเซวี่ย

ข้างนอกลมพัดกระหน่ำ หิมะตกหนัก เดินทางซะไกลในเวลานี้แถมยังมีเจ้าหนุ่มร่างกายไร้เทียมทานตามไปด้วย เรื่องนี้น่าคิด

….

“มีคนตามมาข้างหลัง” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยปาก

หยานหวูซวง ฉู่ชวิ๋น และผู้หญิงผมม่วงนั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน

“เมืองหยานเซวี่ยอยู่ใกล้เทือกเขาคุนหลุนที่สุด ข่าวของซากโบราณสถานแพร่สะพัดออกไปแล้ว อิทธิพลจากสารทิศรอจังหวะอยู่ ไม่รู้ว่ามีสายตากี่คู่กำลังเพ่งเล็งมาที่พวกเราตระกูลหยานอยู่” หยานหวูซวงกล่าวเรียบ ๆ เขารู้ตัวเรื่องรถที่สะกดรอยตามมาข้างหลังตั้งแต่แรกแล้ว

แกร่ก

ประตูรถเปิดออก ลมหนาวพัดเอาหิมะเข้ามาในรถ รู้สึกตัวอีกทีฉู่ชวิ๋นก็หายไปแล้ว

มองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นฉู่ชวิ๋นหอบเอาหิมะทั่วท้องนภาปาใส่รถข้างหลังราวกับมังกรดุร้าย

ตู้ม

ฉู่ชวิ๋นโจมตีเข้าที่รถยนต์ที่ตามมาอย่างโหดเหี้ยม หน้ารถของรถ SUV คันนั้นยุบจนจนเสียหลักกลิ้งออกไป

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในรถที่ตัวเองโดดออกมา

“พี่หลิวร่างกายไร้เทียมทานจริง ๆ” หยานหวูซวงพูดจากใจจริง กายเนื้อนี้แข็งแกร่งจนยากจะหาใครเปรียบจริง ๆ

“นี่น่ะธรรมดาๆ ต่อให้เป็นรถไฟฉันก็ซัดจนหลุดออกจากรางได้” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

หยานหวูซวงชะงักนิดหน่อยก่อนจะยิ้มตอบ เขาเชื่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

การเดินทางชั่วโมงกว่าไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ในที่สุดรถก็จอดอยู่ที่ตีนเทือกเขาคุนหลุน

ยืนมองจากด้านล่างก็ยังรู้สึกถึงความองอาจของเขาคุนหลุนอันศักดิ์สิทธิ์

หยานหวูซวงเคยมาที่นี่จึงเรียกได้ว่าคุ้นเคยทางเป็นอย่างดี ทั้งหมดเดินตามทางเล็ก ๆ ไป

ซากโบราณสถานอยู่ในหุบเขาระหว่างภูเขาสองลูก

หุบเขานี้กว้างใหญ่ไพศาล ที่พื้นมีหินประหลาดผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เสาหินยื่นออกมาจากผา ต้นชันเทียนโบราณโล้นไปทั้งต้น ดูแล้วเปล่าเปลี่ยวและเหงาหงอย

“ทุกคนระวังตัวด้วย” หยานหวูซวงเตือน ที่นี่ให้ความรู้สึกไม่สบายใจ

ทั้งหมดเดินเข้าในหุบเขา

“ผลไม้ทองคำ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งที่หยานหวูซวงพามาพูดขึ้นอย่างตกใจ

คนอื่นหันไปมองก็ได้เห็นด้านหลังของหินประหลาดก้อนหนึ่งมีต้นไม้ที่กำลังเปล่งประกายสีเงิน บนต้นเปล่งประกายระยิบระยับ พร้อมผลไม้สีทองเจิดจรัส

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งอดไม่ไหว พุ่งตัวเข้าใส่ต้นแปะก๊วย

ราคาของผลไม้ทองคำสูงกว่าสมุนไพรจิตวิญญาณและยาอมฤตมาก การทานผลไม้ทองคำเพียง 1 ลูกอาจบรรลุไปอีกขั้นได้เลย

ฉู่ชวิ๋นหวั่นไหวอยากเข้าไปแย่งมา แต่ก็โดนผู้หญิงผมม่วงดึงไว้เธอส่ายหัว

ให้กับฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นสงสัย แต่ใจก็เลือกเชื่อผู้หญิงผมม่วงคนนี้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นว่องไวมาก กระโจนเพียงไม่กี่ครั้งก็พุ่งถึงตัวต้นไม้แล้ว

พรึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นไหวทั้ง ๆ ที่ไม่มีลม คลื่นแสงสีเงินกระจายออก ผลสีทองลูกหนึ่งร่วงลงมาใส่หัวของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้น

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นดีใจมากจึงยื่นมือไปรับ แต่ทันทีที่ปลายเล็บสัมผัสโดนผลสีทอง ผลสีทองก็ระเบิด “ตู้ม!!”

“อ๊ากก…!” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิร้องโหยหวน กระเด็นออกมาพร้อมกับนิ้วมือข้างขวาขาดหายไปทั้งหมด เลือดสาดกระจายจนเผยให้เห็นกระดูก

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างด้วยความตะลึง นี่เขาเพิ่งเห็นอะไรไป? ต้นไม้สามารถโจมตีคนได้ด้วยงั้นเหรอ แถมยังร้ายกาจมาก

ฟึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นสะเทือนอย่างแรง ผลสีทองหลายลูกพุ่งใส่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่กระเด็นออกไปคนนั้น

หยานหวูซวงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาฟาดฟันกระบี่ออกมา รัศมีกระบี่อันแข็งกร้าวโดนผลสีทองเข้าอย่างจัง จนพวกมันระเบิดกลางอากาศ

เขากระโจนตัวไปลากจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นกลับมา

คนอื่น ๆ รีบช่วยรักษาคน ๆ นี้พร้อมทั้งพันแผลให้

“เป็นยังไงบ้าง?” หยานหวูซวงถ่ายทอดพลังภายในให้พลางถามอาการ อีกฝ่าย

“นายน้อย ผมไม่เป็นไร” ใบหน้าเขาเศร้าสร้อย มือขวาเขาถือว่าจบสิ้นแล้ว แม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิตแต่ก็ทำให้ฝึกยุทธ์ได้ลำบากไปตลอดชีวิต

ผลสีทองลูกเดียวทำให้จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 บาดเจ็บได้ เห็นได้ชัดเลยว่าอานุภาพมันมากมายขนาดไหน

ฟ้าดินเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่ต้นไม้ยังโจมตีผู้คนได้

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ เขาเคยเห็นต้นไม้วิเศษต่าง ๆ จากทวีปเซียนมาเหมือนกัน ที่นั้นก็มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ พวกมันมีญาณพิเศษรับรู้ได้ถึงอันตราย แต่ต้นแปะก๊วยนี้มันเก่งกว่านั้นมาก แม้แต่เขาก็ยังตกตะลึง

เขามองผู้หญิงผมม่วงด้วยความประหลาดใจ เมื่อกี้เธอไม่ให้เขาเข้าไปใกล้ต้นแปะก๊วย ท่าทางเธอรู้ออกแต่แรกแล้วว่าต้นไม้นี้มีอะไรแปลก ๆ

“เธอรู้แต่แรกแล้วเหรอว่าต้นนี้แปลก ๆ” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตถาม ผู้หญิงผมม่วงเป็นผู้ฝึกเซียนเหมือนกันย่อมรู้วิชาส่งเสียงผ่านกระแสจิต

และในสมองก็มีเสียงตอบรับมาจริง ๆ ด้วยคำพูดแสนง่าย “ใช่”

“แล้วทำไมไม่เตือนเขาละ”

“ก็แค่พวกซื่อบื้อ ไม่มีค่าอะไร” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

ฉู่ชวิ๋นโมโหนิดๆ แต่ไม่นานก็เข้าใจว่าทำไม

ถ้าผู้หญิงผมม่วงบอกว่าต้นไม้นี้แปลก ๆ เกรงว่าคนพวกนี้นอกจากจะไม่ซาบซึ้งไม่ขอบคุณแล้ว ยังจะสงสัยด้วยว่าผู้หญิงผมม่วงคิดเป็นอื่น เรียกได้ว่าได้ไม่คุ้มเสียจริง ๆ

“เธอรู้ได้ยังไงว่าต้นไม้นี่แปลก ๆ”

“เพราะฉันอาศัยอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน” ผู้หญิงผมม่วงบอก

ฉู่ชวิ๋นแทบจะกัดโดนลิ้นตัวเอง วุ่นวายมาตั้งนานที่แท้เธอนี่แหละคนท้องถิ่น

“งั้นเธอก็ต้องรู้เรื่องซากโบราณสถานดีสิ”

“ไม่รู้ตอนที่ซากโบราณสถานปรากฏฉันก็ไม่ได้อยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนแล้ว”

ฉู่ชวิ๋นไม่เชื่อเท่าไหร่ “ต้นไม้นี้เป็นมายังไง”

“ต้นวิเศษเลียนแบบ เป็นต้นแปะก๊วยแค่เปลือกนอก แท้จริงแล้วเป็น

ต้นปฐพีโลหิต เกิดขึ้นกลางหินผา เจริญเติบโตด้วยการดูดเลือดบริสุทธิ์ของเหล่าจอมยุทธ์”

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกว่าชีวิตหลายพันปีของเขาที่ต่างโลกช่างเสียเปล่า หลังจากที่โลกแปรเปลี่ยนเขามันก็กลายเป็นแค่คนไม่รู้ประสีประสา ความรู้โลกเซียนก็ใช่ไม่ได้ มาตอนนี้ความรู้ของโลกนี้ก็ใช่ไม่ได้อีก

“เป็นแค่ต้นไม้ริอาจทำร้ายคนเลยเหรอ” หยานหวูซวงพูดด้วยความโมโห ถือกระบี่เตรียมฟัน

“น้องหยาน ปล่อยมันไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยปากห้าม

หยานหวูซวงชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมองเขา

“น้องหยาน มีเจ้าที่เฝ้าประตูเอาไว้ก็ดีไม่ใช่เหรอ” ฉู่ชวิ๋นยิ้มอย่างชั่วร้าย

หยานหวูซวงพอได้ยินก็เข้าใจทันทีเขายอมรับข้อเสนอของฉู่ชวิ๋น ต้นไม้นี่ทำร้ายพวกเขาได้ก็ย่อมทำร้ายคนอื่นได้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นอาการดีขึ้นมาก แต่มือขวาพิการ พลังยุทธ์จึงลดต่ำลงมาก

ทั้งหมดมุ่งหน้าไปในหุบเขาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน กลุ่มอิทธิพลอื่นในเมืองหยานเซวี่ยก็ไหวตัวทัน มุ่งหน้ามาทางเทือกเขาคุนหลุน

โฮก!

เสียงคำรามอันน่ากลัวดังก้องไปทั่วหุบเขา

ตู้ม!

หินประหลาดสูงหลายเมตรก้อนหนึ่งระเบิดจนแหลกด้วยแรงกรงเล็บของวานรยักษ์ตัวหนึ่ง

นี่คือวานรหิมะ ไหล่กว้างเท่าภูผk ปากกว้างฟันคม ดวงตาแดงก่ำ ขนบนตัวคมราวกับเข็มขนาดใหญ่ ส่องประกายสีขาวน่ากลัว

มันคำรามใส่พวกฉู่ชวิ๋น แขน 2 ข้างทุบหน้าอกราวกับหน้ากลอง น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก

“จักรพรรดิอสูร”

หยานหวูซวงมีสีหน้าคร่ำเครียด ครั้งก่อน ๆ ที่เขามาซากโบราณสถานยังไม่มีพวกต้นไม้วิเศษกับสัตว์ร้ายพวกนี่เลย

แถมจักรพรรดิอสูรตัวนี้ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายได้ลางๆ

จักรพรรดิอสูรแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ต่อให้เป็นแค่จักรพรรดิอสูรระดับ 6 ก็สามารถสู้กับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ได้

“นายมาช่วยฉันฆ่ามัน” เสียงของผู้หญิงผมม่วงดังสะท้อนอยู่ในหัวฉู่ชวิ๋น

“ทำไมละ”

“ฆ่ามันก่อนแล้วฉันจะบอก”

“เธอเห็นฉันเป็นแรงงานหรือไง”

“ใช่ จะทำไม่ทำ”

ฉู่ชวิ๋นโกรธจนจมูกแทบเบี้ยว ก่อนพุ่งเข้าไปชกวานรยักษ์ทันที เป็นการระบายอารมณ์

“พี่หลิว ฉันช่วยเอง” หยานหวูซวงบอก

“ไม่ต้องหรอก” ฉู่ชวิ๋นพุ่งไปถึงตรงที่ห่างจากวานรหิมะ 10 กว่าเมตร พร้อมกับกวักนิ้วอย่างท้าทาย

วานรหิมะเป็นจักรพรรดิอสูร เบิกปัญญาเทพเป็นที่เรียบร้อย ย่อมเข้าใจความหมายของฉู่ชวิ๋น มันบันดาลโทสะ ยกแขนทุบหน้าอกก่อนจะทุบลงไปที่พื้นอย่างแรง

ตู้ม

พื้นดินถูกทุบจนเกิดรอยแยก

วานรหิมะเงยหน้าคำราม กำปั้นเท่าภูเขาเล็ก ๆ พุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นราวกับภูเขาพุ่งเข้ามาชน

กระดูกในร่างฉู่ชวิ๋นพร้อมตั้งรับ อวัยวะภายในของฉู่ชวิ๋นกู่ร้อง ลมปราณจำแลงโคจรอยู่ตามกระดูก เขาพุ่งเข้าไปราวกับกระทิงคลั่ง

ร่างเล็ก ๆ ของเขายังใหญ่สู้นิ้วของวานรหิมะไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ชกกับกรงเล็บของมันทั้งอย่างนั้น

ตู้ม!

คลื่นพลังอันน่ากลัวถาโถมออกมา

ตึงๆ

วานรยักษ์โดนชนจนถอยหลังไป ทุกก้าวย่างพื้นดินสะเทือน

หยานหวูซวงและพวกจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตาค้างด้วยความอึ้ง นี่ยังนับเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ฉู่ชวิ๋นโดนแรงกระแทกจนร่างฝังอยู่ในดินครึ่งร่าง เขากระโจนออกมา พื้นระเบิดออกเป็นหลุมใหญ่

เขาทั้งวิ่งทั้งกระโดด ก่อนจะยันตัวกับหินประหลาดก้อนหนึ่งและกระโจนตัวขึ้นไปบนฟ้า กำหมัดพุ่งไปชกใส่หัวของวานรหิมะ

วานรหิมะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว กรงเล็บมหึมาฟาดไปที่ฉู่ชวิ๋นหวังจะจู่โจมให้เขาร่วงลงมา

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเย็นๆ พุ่งใส่ฝ่ามือวานรหิมะทันทีจนถูกวานรหิมะจับตัวได้

บนใบหน้าเกรี้ยวกราดของวานรหิมะมีความลำพองใจราวกับมนุษย์ปรากฏ มันบีบฉู่ชวิ๋นที่อยู่ในมืออย่างแรง

“พี่หลิว” หยานหวูซวงตกใจมาก ฉู่ชวิ๋นตัวเล็กเกินไปเมื่อเจอเข้ากับวานรหิมะ ก็ตกอยู่ในกำมือของวานรยักษ์ราวกับยุงที่อยู่ในกำมือคน คงโดนบีบเละจนไส้ทะลักออกมาแล้ว

หยานหวูซวงชักกระบี่เตรียมเข้าช่วย

“น้องหยาน ฉันไม่เป็นไร” เสียงของฉู่ชวิ๋นดังออกมา

ความลำพองใจปรากฏบนใบหน้าของวานรหิมะยังไม่ถึง 3 วิ จู่ ๆ มันก็ร้องโหยหวน หลังมือของมันมีหลุมเลือดระเบิดออก ฉู่ชวิ๋นพุ่งออกจากรูนั้นด้วยเสื้อผ้าที่เปรอะเลือด

ฉู่ชวิ๋นทำให้ฝ่ามือของวานรหิมะทะลุออกมา

หยานหวูซวงอ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออก เขาตาค้างด้วยความตกตะลึง

คนอื่น ๆ พึมพำในใจ….พระเจ้าช่วย เขามันไม่ใช่คนแล้ว!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 300 สำรวจซากโบราณสถาน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 300 สำรวจซากโบราณสถาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 300 สำรวจซากโบราณสถาน

อากาศเปลี่ยนไปในยามค่ำคืน ท้องฟ้าโล่งโปร่งถูกบดบังด้วยเมฆดำ ดูกดดันและอึมครึม

ฉู่ชวิ๋นมองออกไปนอกหน้าต่าง หยานหวูซวงพูดถูกจริงๆ ท้องฟ้าแปรเปลี่ยน อากาศของเมืองหยานเซวี่ยนี่ปรวนแปรจริง ๆ เมื่อกี้ยังอากาศดีอยู่เลย

ราตรีมาเยือน แสงไฟก็ถูกเปิดขึ้น

ฉู่ชวิ๋นเคาะประตูห้องของผู้หญิงผมม่วง

“พวกเราต้องไปตระกูลหยานแล้ว”

ทั้งสองออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปตระกูลหยาน รอบตัวคนทั้งคู่มีม่านพลังบาง ๆ ปรากฏ ทำให้หิมะไม่สามารถโดนตัวได้

ทั้งสองฝ่ายรวมตัวกัน ฝ่ายหยานหวูซวงมีทั้งหมด 5 คน นอกจากเขายังมียอดฝีมืออีก 4 คน ล้วนเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 และเข้าใกล้ระดับ 7 เต็มทีแล้ว

รวมกับฉู่ชวิ๋นและผู้หญิงผมม่วงเป็น 7 คน

ทั้งหมดแยกกลุ่มนั่งรถ 3 คันมุ่งหน้าไปเทือกเขาคุนหลุน

….

….

จังเฟิงหลิงเปลือยกายท่อนบน บาดแผลด้านหลังที่หยานหวูซวงฟันสมานแล้ว แต่รัศมีกระบี่รุกรานเข้ามาในร่าง ไม่อาจขจัดออกไปในเวลาสั้น ๆ ได้

“ตามต่อ” พูดจบเขาก็เก็บมือถือและตกสู่ห้วงความคิด

เขาส่งคนคอยจับตาดูตระกูลหยานไว้ เมื่อกี้เขาได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า

หยานหวูซวงและไอ้หนุ่มไร้ชื่อรวมทีม 7 คนนั่งรถออกจากเมืองหยานเซวี่ย แต่ทำไมผู้หญิงผมม่วงถึงอยู่กับพวกเขาได้ จังเฟิงหลิงคิดยังไงก็คิดไม่ออก

หรือว่าเดิมทีพวกเขาเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว? ดอกบัวจิตวิญญาณของตระกูลหยานไม่ได้หาย ทั้งหมดนี่เป็นกลลวงของพวกเขา

ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ

นัยต์ตาจังเฟิงหลิงส่องประกายอันน่าขนลุกพลางพึมพำ “หยานหวูซวง ถ้าเป็นกลลวงของแกจริง ๆ เราคงต้องคิดบัญชีกันหน่อยแล้ว แกคิดว่าฉันจังเฟิงหลิงจะยอมโดนเอาเปรียบง่าย ๆ งั้นเหรอ”

เขาคิดบางอย่างก่อนจะโทรศัพท์และใส่เสื้อผ้าออกจากโรงแรมไป

ขณะเดียวกันอิทธิพลอื่น ๆ ในเมืองหยานเซวี่ยก็ได้รับข่าวว่าหยานหวูซวงออกจากเมืองหยานเซวี่ย

ข้างนอกลมพัดกระหน่ำ หิมะตกหนัก เดินทางซะไกลในเวลานี้แถมยังมีเจ้าหนุ่มร่างกายไร้เทียมทานตามไปด้วย เรื่องนี้น่าคิด

….

“มีคนตามมาข้างหลัง” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยปาก

หยานหวูซวง ฉู่ชวิ๋น และผู้หญิงผมม่วงนั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน

“เมืองหยานเซวี่ยอยู่ใกล้เทือกเขาคุนหลุนที่สุด ข่าวของซากโบราณสถานแพร่สะพัดออกไปแล้ว อิทธิพลจากสารทิศรอจังหวะอยู่ ไม่รู้ว่ามีสายตากี่คู่กำลังเพ่งเล็งมาที่พวกเราตระกูลหยานอยู่” หยานหวูซวงกล่าวเรียบ ๆ เขารู้ตัวเรื่องรถที่สะกดรอยตามมาข้างหลังตั้งแต่แรกแล้ว

แกร่ก

ประตูรถเปิดออก ลมหนาวพัดเอาหิมะเข้ามาในรถ รู้สึกตัวอีกทีฉู่ชวิ๋นก็หายไปแล้ว

มองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นฉู่ชวิ๋นหอบเอาหิมะทั่วท้องนภาปาใส่รถข้างหลังราวกับมังกรดุร้าย

ตู้ม

ฉู่ชวิ๋นโจมตีเข้าที่รถยนต์ที่ตามมาอย่างโหดเหี้ยม หน้ารถของรถ SUV คันนั้นยุบจนจนเสียหลักกลิ้งออกไป

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในรถที่ตัวเองโดดออกมา

“พี่หลิวร่างกายไร้เทียมทานจริง ๆ” หยานหวูซวงพูดจากใจจริง กายเนื้อนี้แข็งแกร่งจนยากจะหาใครเปรียบจริง ๆ

“นี่น่ะธรรมดาๆ ต่อให้เป็นรถไฟฉันก็ซัดจนหลุดออกจากรางได้” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

หยานหวูซวงชะงักนิดหน่อยก่อนจะยิ้มตอบ เขาเชื่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

การเดินทางชั่วโมงกว่าไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ในที่สุดรถก็จอดอยู่ที่ตีนเทือกเขาคุนหลุน

ยืนมองจากด้านล่างก็ยังรู้สึกถึงความองอาจของเขาคุนหลุนอันศักดิ์สิทธิ์

หยานหวูซวงเคยมาที่นี่จึงเรียกได้ว่าคุ้นเคยทางเป็นอย่างดี ทั้งหมดเดินตามทางเล็ก ๆ ไป

ซากโบราณสถานอยู่ในหุบเขาระหว่างภูเขาสองลูก

หุบเขานี้กว้างใหญ่ไพศาล ที่พื้นมีหินประหลาดผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เสาหินยื่นออกมาจากผา ต้นชันเทียนโบราณโล้นไปทั้งต้น ดูแล้วเปล่าเปลี่ยวและเหงาหงอย

“ทุกคนระวังตัวด้วย” หยานหวูซวงเตือน ที่นี่ให้ความรู้สึกไม่สบายใจ

ทั้งหมดเดินเข้าในหุบเขา

“ผลไม้ทองคำ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งที่หยานหวูซวงพามาพูดขึ้นอย่างตกใจ

คนอื่นหันไปมองก็ได้เห็นด้านหลังของหินประหลาดก้อนหนึ่งมีต้นไม้ที่กำลังเปล่งประกายสีเงิน บนต้นเปล่งประกายระยิบระยับ พร้อมผลไม้สีทองเจิดจรัส

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งอดไม่ไหว พุ่งตัวเข้าใส่ต้นแปะก๊วย

ราคาของผลไม้ทองคำสูงกว่าสมุนไพรจิตวิญญาณและยาอมฤตมาก การทานผลไม้ทองคำเพียง 1 ลูกอาจบรรลุไปอีกขั้นได้เลย

ฉู่ชวิ๋นหวั่นไหวอยากเข้าไปแย่งมา แต่ก็โดนผู้หญิงผมม่วงดึงไว้เธอส่ายหัว

ให้กับฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นสงสัย แต่ใจก็เลือกเชื่อผู้หญิงผมม่วงคนนี้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นว่องไวมาก กระโจนเพียงไม่กี่ครั้งก็พุ่งถึงตัวต้นไม้แล้ว

พรึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นไหวทั้ง ๆ ที่ไม่มีลม คลื่นแสงสีเงินกระจายออก ผลสีทองลูกหนึ่งร่วงลงมาใส่หัวของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้น

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นดีใจมากจึงยื่นมือไปรับ แต่ทันทีที่ปลายเล็บสัมผัสโดนผลสีทอง ผลสีทองก็ระเบิด “ตู้ม!!”

“อ๊ากก…!” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิร้องโหยหวน กระเด็นออกมาพร้อมกับนิ้วมือข้างขวาขาดหายไปทั้งหมด เลือดสาดกระจายจนเผยให้เห็นกระดูก

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างด้วยความตะลึง นี่เขาเพิ่งเห็นอะไรไป? ต้นไม้สามารถโจมตีคนได้ด้วยงั้นเหรอ แถมยังร้ายกาจมาก

ฟึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นสะเทือนอย่างแรง ผลสีทองหลายลูกพุ่งใส่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่กระเด็นออกไปคนนั้น

หยานหวูซวงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาฟาดฟันกระบี่ออกมา รัศมีกระบี่อันแข็งกร้าวโดนผลสีทองเข้าอย่างจัง จนพวกมันระเบิดกลางอากาศ

เขากระโจนตัวไปลากจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นกลับมา

คนอื่น ๆ รีบช่วยรักษาคน ๆ นี้พร้อมทั้งพันแผลให้

“เป็นยังไงบ้าง?” หยานหวูซวงถ่ายทอดพลังภายในให้พลางถามอาการ อีกฝ่าย

“นายน้อย ผมไม่เป็นไร” ใบหน้าเขาเศร้าสร้อย มือขวาเขาถือว่าจบสิ้นแล้ว แม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิตแต่ก็ทำให้ฝึกยุทธ์ได้ลำบากไปตลอดชีวิต

ผลสีทองลูกเดียวทำให้จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 บาดเจ็บได้ เห็นได้ชัดเลยว่าอานุภาพมันมากมายขนาดไหน

ฟ้าดินเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่ต้นไม้ยังโจมตีผู้คนได้

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ เขาเคยเห็นต้นไม้วิเศษต่าง ๆ จากทวีปเซียนมาเหมือนกัน ที่นั้นก็มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ พวกมันมีญาณพิเศษรับรู้ได้ถึงอันตราย แต่ต้นแปะก๊วยนี้มันเก่งกว่านั้นมาก แม้แต่เขาก็ยังตกตะลึง

เขามองผู้หญิงผมม่วงด้วยความประหลาดใจ เมื่อกี้เธอไม่ให้เขาเข้าไปใกล้ต้นแปะก๊วย ท่าทางเธอรู้ออกแต่แรกแล้วว่าต้นไม้นี้มีอะไรแปลก ๆ

“เธอรู้แต่แรกแล้วเหรอว่าต้นนี้แปลก ๆ” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตถาม ผู้หญิงผมม่วงเป็นผู้ฝึกเซียนเหมือนกันย่อมรู้วิชาส่งเสียงผ่านกระแสจิต

และในสมองก็มีเสียงตอบรับมาจริง ๆ ด้วยคำพูดแสนง่าย “ใช่”

“แล้วทำไมไม่เตือนเขาละ”

“ก็แค่พวกซื่อบื้อ ไม่มีค่าอะไร” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

ฉู่ชวิ๋นโมโหนิดๆ แต่ไม่นานก็เข้าใจว่าทำไม

ถ้าผู้หญิงผมม่วงบอกว่าต้นไม้นี้แปลก ๆ เกรงว่าคนพวกนี้นอกจากจะไม่ซาบซึ้งไม่ขอบคุณแล้ว ยังจะสงสัยด้วยว่าผู้หญิงผมม่วงคิดเป็นอื่น เรียกได้ว่าได้ไม่คุ้มเสียจริง ๆ

“เธอรู้ได้ยังไงว่าต้นไม้นี่แปลก ๆ”

“เพราะฉันอาศัยอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน” ผู้หญิงผมม่วงบอก

ฉู่ชวิ๋นแทบจะกัดโดนลิ้นตัวเอง วุ่นวายมาตั้งนานที่แท้เธอนี่แหละคนท้องถิ่น

“งั้นเธอก็ต้องรู้เรื่องซากโบราณสถานดีสิ”

“ไม่รู้ตอนที่ซากโบราณสถานปรากฏฉันก็ไม่ได้อยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนแล้ว”

ฉู่ชวิ๋นไม่เชื่อเท่าไหร่ “ต้นไม้นี้เป็นมายังไง”

“ต้นวิเศษเลียนแบบ เป็นต้นแปะก๊วยแค่เปลือกนอก แท้จริงแล้วเป็น

ต้นปฐพีโลหิต เกิดขึ้นกลางหินผา เจริญเติบโตด้วยการดูดเลือดบริสุทธิ์ของเหล่าจอมยุทธ์”

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกว่าชีวิตหลายพันปีของเขาที่ต่างโลกช่างเสียเปล่า หลังจากที่โลกแปรเปลี่ยนเขามันก็กลายเป็นแค่คนไม่รู้ประสีประสา ความรู้โลกเซียนก็ใช่ไม่ได้ มาตอนนี้ความรู้ของโลกนี้ก็ใช่ไม่ได้อีก

“เป็นแค่ต้นไม้ริอาจทำร้ายคนเลยเหรอ” หยานหวูซวงพูดด้วยความโมโห ถือกระบี่เตรียมฟัน

“น้องหยาน ปล่อยมันไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยปากห้าม

หยานหวูซวงชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมองเขา

“น้องหยาน มีเจ้าที่เฝ้าประตูเอาไว้ก็ดีไม่ใช่เหรอ” ฉู่ชวิ๋นยิ้มอย่างชั่วร้าย

หยานหวูซวงพอได้ยินก็เข้าใจทันทีเขายอมรับข้อเสนอของฉู่ชวิ๋น ต้นไม้นี่ทำร้ายพวกเขาได้ก็ย่อมทำร้ายคนอื่นได้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นอาการดีขึ้นมาก แต่มือขวาพิการ พลังยุทธ์จึงลดต่ำลงมาก

ทั้งหมดมุ่งหน้าไปในหุบเขาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน กลุ่มอิทธิพลอื่นในเมืองหยานเซวี่ยก็ไหวตัวทัน มุ่งหน้ามาทางเทือกเขาคุนหลุน

โฮก!

เสียงคำรามอันน่ากลัวดังก้องไปทั่วหุบเขา

ตู้ม!

หินประหลาดสูงหลายเมตรก้อนหนึ่งระเบิดจนแหลกด้วยแรงกรงเล็บของวานรยักษ์ตัวหนึ่ง

นี่คือวานรหิมะ ไหล่กว้างเท่าภูผk ปากกว้างฟันคม ดวงตาแดงก่ำ ขนบนตัวคมราวกับเข็มขนาดใหญ่ ส่องประกายสีขาวน่ากลัว

มันคำรามใส่พวกฉู่ชวิ๋น แขน 2 ข้างทุบหน้าอกราวกับหน้ากลอง น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก

“จักรพรรดิอสูร”

หยานหวูซวงมีสีหน้าคร่ำเครียด ครั้งก่อน ๆ ที่เขามาซากโบราณสถานยังไม่มีพวกต้นไม้วิเศษกับสัตว์ร้ายพวกนี่เลย

แถมจักรพรรดิอสูรตัวนี้ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายได้ลางๆ

จักรพรรดิอสูรแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ต่อให้เป็นแค่จักรพรรดิอสูรระดับ 6 ก็สามารถสู้กับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ได้

“นายมาช่วยฉันฆ่ามัน” เสียงของผู้หญิงผมม่วงดังสะท้อนอยู่ในหัวฉู่ชวิ๋น

“ทำไมละ”

“ฆ่ามันก่อนแล้วฉันจะบอก”

“เธอเห็นฉันเป็นแรงงานหรือไง”

“ใช่ จะทำไม่ทำ”

ฉู่ชวิ๋นโกรธจนจมูกแทบเบี้ยว ก่อนพุ่งเข้าไปชกวานรยักษ์ทันที เป็นการระบายอารมณ์

“พี่หลิว ฉันช่วยเอง” หยานหวูซวงบอก

“ไม่ต้องหรอก” ฉู่ชวิ๋นพุ่งไปถึงตรงที่ห่างจากวานรหิมะ 10 กว่าเมตร พร้อมกับกวักนิ้วอย่างท้าทาย

วานรหิมะเป็นจักรพรรดิอสูร เบิกปัญญาเทพเป็นที่เรียบร้อย ย่อมเข้าใจความหมายของฉู่ชวิ๋น มันบันดาลโทสะ ยกแขนทุบหน้าอกก่อนจะทุบลงไปที่พื้นอย่างแรง

ตู้ม

พื้นดินถูกทุบจนเกิดรอยแยก

วานรหิมะเงยหน้าคำราม กำปั้นเท่าภูเขาเล็ก ๆ พุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นราวกับภูเขาพุ่งเข้ามาชน

กระดูกในร่างฉู่ชวิ๋นพร้อมตั้งรับ อวัยวะภายในของฉู่ชวิ๋นกู่ร้อง ลมปราณจำแลงโคจรอยู่ตามกระดูก เขาพุ่งเข้าไปราวกับกระทิงคลั่ง

ร่างเล็ก ๆ ของเขายังใหญ่สู้นิ้วของวานรหิมะไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ชกกับกรงเล็บของมันทั้งอย่างนั้น

ตู้ม!

คลื่นพลังอันน่ากลัวถาโถมออกมา

ตึงๆ

วานรยักษ์โดนชนจนถอยหลังไป ทุกก้าวย่างพื้นดินสะเทือน

หยานหวูซวงและพวกจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตาค้างด้วยความอึ้ง นี่ยังนับเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ฉู่ชวิ๋นโดนแรงกระแทกจนร่างฝังอยู่ในดินครึ่งร่าง เขากระโจนออกมา พื้นระเบิดออกเป็นหลุมใหญ่

เขาทั้งวิ่งทั้งกระโดด ก่อนจะยันตัวกับหินประหลาดก้อนหนึ่งและกระโจนตัวขึ้นไปบนฟ้า กำหมัดพุ่งไปชกใส่หัวของวานรหิมะ

วานรหิมะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว กรงเล็บมหึมาฟาดไปที่ฉู่ชวิ๋นหวังจะจู่โจมให้เขาร่วงลงมา

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเย็นๆ พุ่งใส่ฝ่ามือวานรหิมะทันทีจนถูกวานรหิมะจับตัวได้

บนใบหน้าเกรี้ยวกราดของวานรหิมะมีความลำพองใจราวกับมนุษย์ปรากฏ มันบีบฉู่ชวิ๋นที่อยู่ในมืออย่างแรง

“พี่หลิว” หยานหวูซวงตกใจมาก ฉู่ชวิ๋นตัวเล็กเกินไปเมื่อเจอเข้ากับวานรหิมะ ก็ตกอยู่ในกำมือของวานรยักษ์ราวกับยุงที่อยู่ในกำมือคน คงโดนบีบเละจนไส้ทะลักออกมาแล้ว

หยานหวูซวงชักกระบี่เตรียมเข้าช่วย

“น้องหยาน ฉันไม่เป็นไร” เสียงของฉู่ชวิ๋นดังออกมา

ความลำพองใจปรากฏบนใบหน้าของวานรหิมะยังไม่ถึง 3 วิ จู่ ๆ มันก็ร้องโหยหวน หลังมือของมันมีหลุมเลือดระเบิดออก ฉู่ชวิ๋นพุ่งออกจากรูนั้นด้วยเสื้อผ้าที่เปรอะเลือด

ฉู่ชวิ๋นทำให้ฝ่ามือของวานรหิมะทะลุออกมา

หยานหวูซวงอ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออก เขาตาค้างด้วยความตกตะลึง

คนอื่น ๆ พึมพำในใจ….พระเจ้าช่วย เขามันไม่ใช่คนแล้ว!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 300 สำรวจซากโบราณสถาน

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 300 สำรวจซากโบราณสถาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 300 สำรวจซากโบราณสถาน

อากาศเปลี่ยนไปในยามค่ำคืน ท้องฟ้าโล่งโปร่งถูกบดบังด้วยเมฆดำ ดูกดดันและอึมครึม

ฉู่ชวิ๋นมองออกไปนอกหน้าต่าง หยานหวูซวงพูดถูกจริงๆ ท้องฟ้าแปรเปลี่ยน อากาศของเมืองหยานเซวี่ยนี่ปรวนแปรจริง ๆ เมื่อกี้ยังอากาศดีอยู่เลย

ราตรีมาเยือน แสงไฟก็ถูกเปิดขึ้น

ฉู่ชวิ๋นเคาะประตูห้องของผู้หญิงผมม่วง

“พวกเราต้องไปตระกูลหยานแล้ว”

ทั้งสองออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปตระกูลหยาน รอบตัวคนทั้งคู่มีม่านพลังบาง ๆ ปรากฏ ทำให้หิมะไม่สามารถโดนตัวได้

ทั้งสองฝ่ายรวมตัวกัน ฝ่ายหยานหวูซวงมีทั้งหมด 5 คน นอกจากเขายังมียอดฝีมืออีก 4 คน ล้วนเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 และเข้าใกล้ระดับ 7 เต็มทีแล้ว

รวมกับฉู่ชวิ๋นและผู้หญิงผมม่วงเป็น 7 คน

ทั้งหมดแยกกลุ่มนั่งรถ 3 คันมุ่งหน้าไปเทือกเขาคุนหลุน

….

….

จังเฟิงหลิงเปลือยกายท่อนบน บาดแผลด้านหลังที่หยานหวูซวงฟันสมานแล้ว แต่รัศมีกระบี่รุกรานเข้ามาในร่าง ไม่อาจขจัดออกไปในเวลาสั้น ๆ ได้

“ตามต่อ” พูดจบเขาก็เก็บมือถือและตกสู่ห้วงความคิด

เขาส่งคนคอยจับตาดูตระกูลหยานไว้ เมื่อกี้เขาได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า

หยานหวูซวงและไอ้หนุ่มไร้ชื่อรวมทีม 7 คนนั่งรถออกจากเมืองหยานเซวี่ย แต่ทำไมผู้หญิงผมม่วงถึงอยู่กับพวกเขาได้ จังเฟิงหลิงคิดยังไงก็คิดไม่ออก

หรือว่าเดิมทีพวกเขาเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว? ดอกบัวจิตวิญญาณของตระกูลหยานไม่ได้หาย ทั้งหมดนี่เป็นกลลวงของพวกเขา

ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ล่ะ

นัยต์ตาจังเฟิงหลิงส่องประกายอันน่าขนลุกพลางพึมพำ “หยานหวูซวง ถ้าเป็นกลลวงของแกจริง ๆ เราคงต้องคิดบัญชีกันหน่อยแล้ว แกคิดว่าฉันจังเฟิงหลิงจะยอมโดนเอาเปรียบง่าย ๆ งั้นเหรอ”

เขาคิดบางอย่างก่อนจะโทรศัพท์และใส่เสื้อผ้าออกจากโรงแรมไป

ขณะเดียวกันอิทธิพลอื่น ๆ ในเมืองหยานเซวี่ยก็ได้รับข่าวว่าหยานหวูซวงออกจากเมืองหยานเซวี่ย

ข้างนอกลมพัดกระหน่ำ หิมะตกหนัก เดินทางซะไกลในเวลานี้แถมยังมีเจ้าหนุ่มร่างกายไร้เทียมทานตามไปด้วย เรื่องนี้น่าคิด

….

“มีคนตามมาข้างหลัง” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยปาก

หยานหวูซวง ฉู่ชวิ๋น และผู้หญิงผมม่วงนั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน

“เมืองหยานเซวี่ยอยู่ใกล้เทือกเขาคุนหลุนที่สุด ข่าวของซากโบราณสถานแพร่สะพัดออกไปแล้ว อิทธิพลจากสารทิศรอจังหวะอยู่ ไม่รู้ว่ามีสายตากี่คู่กำลังเพ่งเล็งมาที่พวกเราตระกูลหยานอยู่” หยานหวูซวงกล่าวเรียบ ๆ เขารู้ตัวเรื่องรถที่สะกดรอยตามมาข้างหลังตั้งแต่แรกแล้ว

แกร่ก

ประตูรถเปิดออก ลมหนาวพัดเอาหิมะเข้ามาในรถ รู้สึกตัวอีกทีฉู่ชวิ๋นก็หายไปแล้ว

มองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นฉู่ชวิ๋นหอบเอาหิมะทั่วท้องนภาปาใส่รถข้างหลังราวกับมังกรดุร้าย

ตู้ม

ฉู่ชวิ๋นโจมตีเข้าที่รถยนต์ที่ตามมาอย่างโหดเหี้ยม หน้ารถของรถ SUV คันนั้นยุบจนจนเสียหลักกลิ้งออกไป

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในรถที่ตัวเองโดดออกมา

“พี่หลิวร่างกายไร้เทียมทานจริง ๆ” หยานหวูซวงพูดจากใจจริง กายเนื้อนี้แข็งแกร่งจนยากจะหาใครเปรียบจริง ๆ

“นี่น่ะธรรมดาๆ ต่อให้เป็นรถไฟฉันก็ซัดจนหลุดออกจากรางได้” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

หยานหวูซวงชะงักนิดหน่อยก่อนจะยิ้มตอบ เขาเชื่อคำพูดของฉู่ชวิ๋น

การเดินทางชั่วโมงกว่าไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ในที่สุดรถก็จอดอยู่ที่ตีนเทือกเขาคุนหลุน

ยืนมองจากด้านล่างก็ยังรู้สึกถึงความองอาจของเขาคุนหลุนอันศักดิ์สิทธิ์

หยานหวูซวงเคยมาที่นี่จึงเรียกได้ว่าคุ้นเคยทางเป็นอย่างดี ทั้งหมดเดินตามทางเล็ก ๆ ไป

ซากโบราณสถานอยู่ในหุบเขาระหว่างภูเขาสองลูก

หุบเขานี้กว้างใหญ่ไพศาล ที่พื้นมีหินประหลาดผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เสาหินยื่นออกมาจากผา ต้นชันเทียนโบราณโล้นไปทั้งต้น ดูแล้วเปล่าเปลี่ยวและเหงาหงอย

“ทุกคนระวังตัวด้วย” หยานหวูซวงเตือน ที่นี่ให้ความรู้สึกไม่สบายใจ

ทั้งหมดเดินเข้าในหุบเขา

“ผลไม้ทองคำ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งที่หยานหวูซวงพามาพูดขึ้นอย่างตกใจ

คนอื่นหันไปมองก็ได้เห็นด้านหลังของหินประหลาดก้อนหนึ่งมีต้นไม้ที่กำลังเปล่งประกายสีเงิน บนต้นเปล่งประกายระยิบระยับ พร้อมผลไม้สีทองเจิดจรัส

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 คนหนึ่งอดไม่ไหว พุ่งตัวเข้าใส่ต้นแปะก๊วย

ราคาของผลไม้ทองคำสูงกว่าสมุนไพรจิตวิญญาณและยาอมฤตมาก การทานผลไม้ทองคำเพียง 1 ลูกอาจบรรลุไปอีกขั้นได้เลย

ฉู่ชวิ๋นหวั่นไหวอยากเข้าไปแย่งมา แต่ก็โดนผู้หญิงผมม่วงดึงไว้เธอส่ายหัว

ให้กับฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นสงสัย แต่ใจก็เลือกเชื่อผู้หญิงผมม่วงคนนี้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นว่องไวมาก กระโจนเพียงไม่กี่ครั้งก็พุ่งถึงตัวต้นไม้แล้ว

พรึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นไหวทั้ง ๆ ที่ไม่มีลม คลื่นแสงสีเงินกระจายออก ผลสีทองลูกหนึ่งร่วงลงมาใส่หัวของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้น

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นดีใจมากจึงยื่นมือไปรับ แต่ทันทีที่ปลายเล็บสัมผัสโดนผลสีทอง ผลสีทองก็ระเบิด “ตู้ม!!”

“อ๊ากก…!” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิร้องโหยหวน กระเด็นออกมาพร้อมกับนิ้วมือข้างขวาขาดหายไปทั้งหมด เลือดสาดกระจายจนเผยให้เห็นกระดูก

ฉู่ชวิ๋นอ้าปากค้างด้วยความตะลึง นี่เขาเพิ่งเห็นอะไรไป? ต้นไม้สามารถโจมตีคนได้ด้วยงั้นเหรอ แถมยังร้ายกาจมาก

ฟึ่บ

ต้นแปะก๊วยสั่นสะเทือนอย่างแรง ผลสีทองหลายลูกพุ่งใส่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่กระเด็นออกไปคนนั้น

หยานหวูซวงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาฟาดฟันกระบี่ออกมา รัศมีกระบี่อันแข็งกร้าวโดนผลสีทองเข้าอย่างจัง จนพวกมันระเบิดกลางอากาศ

เขากระโจนตัวไปลากจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นกลับมา

คนอื่น ๆ รีบช่วยรักษาคน ๆ นี้พร้อมทั้งพันแผลให้

“เป็นยังไงบ้าง?” หยานหวูซวงถ่ายทอดพลังภายในให้พลางถามอาการ อีกฝ่าย

“นายน้อย ผมไม่เป็นไร” ใบหน้าเขาเศร้าสร้อย มือขวาเขาถือว่าจบสิ้นแล้ว แม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิตแต่ก็ทำให้ฝึกยุทธ์ได้ลำบากไปตลอดชีวิต

ผลสีทองลูกเดียวทำให้จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 บาดเจ็บได้ เห็นได้ชัดเลยว่าอานุภาพมันมากมายขนาดไหน

ฟ้าดินเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่ต้นไม้ยังโจมตีผู้คนได้

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกแปลก ๆ อยู่ในใจ เขาเคยเห็นต้นไม้วิเศษต่าง ๆ จากทวีปเซียนมาเหมือนกัน ที่นั้นก็มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ พวกมันมีญาณพิเศษรับรู้ได้ถึงอันตราย แต่ต้นแปะก๊วยนี้มันเก่งกว่านั้นมาก แม้แต่เขาก็ยังตกตะลึง

เขามองผู้หญิงผมม่วงด้วยความประหลาดใจ เมื่อกี้เธอไม่ให้เขาเข้าไปใกล้ต้นแปะก๊วย ท่าทางเธอรู้ออกแต่แรกแล้วว่าต้นไม้นี้มีอะไรแปลก ๆ

“เธอรู้แต่แรกแล้วเหรอว่าต้นนี้แปลก ๆ” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตถาม ผู้หญิงผมม่วงเป็นผู้ฝึกเซียนเหมือนกันย่อมรู้วิชาส่งเสียงผ่านกระแสจิต

และในสมองก็มีเสียงตอบรับมาจริง ๆ ด้วยคำพูดแสนง่าย “ใช่”

“แล้วทำไมไม่เตือนเขาละ”

“ก็แค่พวกซื่อบื้อ ไม่มีค่าอะไร” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ย

ฉู่ชวิ๋นโมโหนิดๆ แต่ไม่นานก็เข้าใจว่าทำไม

ถ้าผู้หญิงผมม่วงบอกว่าต้นไม้นี้แปลก ๆ เกรงว่าคนพวกนี้นอกจากจะไม่ซาบซึ้งไม่ขอบคุณแล้ว ยังจะสงสัยด้วยว่าผู้หญิงผมม่วงคิดเป็นอื่น เรียกได้ว่าได้ไม่คุ้มเสียจริง ๆ

“เธอรู้ได้ยังไงว่าต้นไม้นี่แปลก ๆ”

“เพราะฉันอาศัยอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน” ผู้หญิงผมม่วงบอก

ฉู่ชวิ๋นแทบจะกัดโดนลิ้นตัวเอง วุ่นวายมาตั้งนานที่แท้เธอนี่แหละคนท้องถิ่น

“งั้นเธอก็ต้องรู้เรื่องซากโบราณสถานดีสิ”

“ไม่รู้ตอนที่ซากโบราณสถานปรากฏฉันก็ไม่ได้อยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนแล้ว”

ฉู่ชวิ๋นไม่เชื่อเท่าไหร่ “ต้นไม้นี้เป็นมายังไง”

“ต้นวิเศษเลียนแบบ เป็นต้นแปะก๊วยแค่เปลือกนอก แท้จริงแล้วเป็น

ต้นปฐพีโลหิต เกิดขึ้นกลางหินผา เจริญเติบโตด้วยการดูดเลือดบริสุทธิ์ของเหล่าจอมยุทธ์”

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกว่าชีวิตหลายพันปีของเขาที่ต่างโลกช่างเสียเปล่า หลังจากที่โลกแปรเปลี่ยนเขามันก็กลายเป็นแค่คนไม่รู้ประสีประสา ความรู้โลกเซียนก็ใช่ไม่ได้ มาตอนนี้ความรู้ของโลกนี้ก็ใช่ไม่ได้อีก

“เป็นแค่ต้นไม้ริอาจทำร้ายคนเลยเหรอ” หยานหวูซวงพูดด้วยความโมโห ถือกระบี่เตรียมฟัน

“น้องหยาน ปล่อยมันไป” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยปากห้าม

หยานหวูซวงชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมองเขา

“น้องหยาน มีเจ้าที่เฝ้าประตูเอาไว้ก็ดีไม่ใช่เหรอ” ฉู่ชวิ๋นยิ้มอย่างชั่วร้าย

หยานหวูซวงพอได้ยินก็เข้าใจทันทีเขายอมรับข้อเสนอของฉู่ชวิ๋น ต้นไม้นี่ทำร้ายพวกเขาได้ก็ย่อมทำร้ายคนอื่นได้

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนั้นอาการดีขึ้นมาก แต่มือขวาพิการ พลังยุทธ์จึงลดต่ำลงมาก

ทั้งหมดมุ่งหน้าไปในหุบเขาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน กลุ่มอิทธิพลอื่นในเมืองหยานเซวี่ยก็ไหวตัวทัน มุ่งหน้ามาทางเทือกเขาคุนหลุน

โฮก!

เสียงคำรามอันน่ากลัวดังก้องไปทั่วหุบเขา

ตู้ม!

หินประหลาดสูงหลายเมตรก้อนหนึ่งระเบิดจนแหลกด้วยแรงกรงเล็บของวานรยักษ์ตัวหนึ่ง

นี่คือวานรหิมะ ไหล่กว้างเท่าภูผk ปากกว้างฟันคม ดวงตาแดงก่ำ ขนบนตัวคมราวกับเข็มขนาดใหญ่ ส่องประกายสีขาวน่ากลัว

มันคำรามใส่พวกฉู่ชวิ๋น แขน 2 ข้างทุบหน้าอกราวกับหน้ากลอง น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก

“จักรพรรดิอสูร”

หยานหวูซวงมีสีหน้าคร่ำเครียด ครั้งก่อน ๆ ที่เขามาซากโบราณสถานยังไม่มีพวกต้นไม้วิเศษกับสัตว์ร้ายพวกนี่เลย

แถมจักรพรรดิอสูรตัวนี้ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายได้ลางๆ

จักรพรรดิอสูรแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ต่อให้เป็นแค่จักรพรรดิอสูรระดับ 6 ก็สามารถสู้กับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ได้

“นายมาช่วยฉันฆ่ามัน” เสียงของผู้หญิงผมม่วงดังสะท้อนอยู่ในหัวฉู่ชวิ๋น

“ทำไมละ”

“ฆ่ามันก่อนแล้วฉันจะบอก”

“เธอเห็นฉันเป็นแรงงานหรือไง”

“ใช่ จะทำไม่ทำ”

ฉู่ชวิ๋นโกรธจนจมูกแทบเบี้ยว ก่อนพุ่งเข้าไปชกวานรยักษ์ทันที เป็นการระบายอารมณ์

“พี่หลิว ฉันช่วยเอง” หยานหวูซวงบอก

“ไม่ต้องหรอก” ฉู่ชวิ๋นพุ่งไปถึงตรงที่ห่างจากวานรหิมะ 10 กว่าเมตร พร้อมกับกวักนิ้วอย่างท้าทาย

วานรหิมะเป็นจักรพรรดิอสูร เบิกปัญญาเทพเป็นที่เรียบร้อย ย่อมเข้าใจความหมายของฉู่ชวิ๋น มันบันดาลโทสะ ยกแขนทุบหน้าอกก่อนจะทุบลงไปที่พื้นอย่างแรง

ตู้ม

พื้นดินถูกทุบจนเกิดรอยแยก

วานรหิมะเงยหน้าคำราม กำปั้นเท่าภูเขาเล็ก ๆ พุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นราวกับภูเขาพุ่งเข้ามาชน

กระดูกในร่างฉู่ชวิ๋นพร้อมตั้งรับ อวัยวะภายในของฉู่ชวิ๋นกู่ร้อง ลมปราณจำแลงโคจรอยู่ตามกระดูก เขาพุ่งเข้าไปราวกับกระทิงคลั่ง

ร่างเล็ก ๆ ของเขายังใหญ่สู้นิ้วของวานรหิมะไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ชกกับกรงเล็บของมันทั้งอย่างนั้น

ตู้ม!

คลื่นพลังอันน่ากลัวถาโถมออกมา

ตึงๆ

วานรยักษ์โดนชนจนถอยหลังไป ทุกก้าวย่างพื้นดินสะเทือน

หยานหวูซวงและพวกจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตาค้างด้วยความอึ้ง นี่ยังนับเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ฉู่ชวิ๋นโดนแรงกระแทกจนร่างฝังอยู่ในดินครึ่งร่าง เขากระโจนออกมา พื้นระเบิดออกเป็นหลุมใหญ่

เขาทั้งวิ่งทั้งกระโดด ก่อนจะยันตัวกับหินประหลาดก้อนหนึ่งและกระโจนตัวขึ้นไปบนฟ้า กำหมัดพุ่งไปชกใส่หัวของวานรหิมะ

วานรหิมะคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว กรงเล็บมหึมาฟาดไปที่ฉู่ชวิ๋นหวังจะจู่โจมให้เขาร่วงลงมา

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเย็นๆ พุ่งใส่ฝ่ามือวานรหิมะทันทีจนถูกวานรหิมะจับตัวได้

บนใบหน้าเกรี้ยวกราดของวานรหิมะมีความลำพองใจราวกับมนุษย์ปรากฏ มันบีบฉู่ชวิ๋นที่อยู่ในมืออย่างแรง

“พี่หลิว” หยานหวูซวงตกใจมาก ฉู่ชวิ๋นตัวเล็กเกินไปเมื่อเจอเข้ากับวานรหิมะ ก็ตกอยู่ในกำมือของวานรยักษ์ราวกับยุงที่อยู่ในกำมือคน คงโดนบีบเละจนไส้ทะลักออกมาแล้ว

หยานหวูซวงชักกระบี่เตรียมเข้าช่วย

“น้องหยาน ฉันไม่เป็นไร” เสียงของฉู่ชวิ๋นดังออกมา

ความลำพองใจปรากฏบนใบหน้าของวานรหิมะยังไม่ถึง 3 วิ จู่ ๆ มันก็ร้องโหยหวน หลังมือของมันมีหลุมเลือดระเบิดออก ฉู่ชวิ๋นพุ่งออกจากรูนั้นด้วยเสื้อผ้าที่เปรอะเลือด

ฉู่ชวิ๋นทำให้ฝ่ามือของวานรหิมะทะลุออกมา

หยานหวูซวงอ้าปากแต่พูดอะไรไม่ออก เขาตาค้างด้วยความตกตะลึง

คนอื่น ๆ พึมพำในใจ….พระเจ้าช่วย เขามันไม่ใช่คนแล้ว!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+