จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋น จอมมารฉู่ชวิ๋น!

ไม่ใช่แค่บรรดาจอมยุทธ์ในเมืองเซี่ยเฉิงเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้แต่เซี่ยไป่หยานกับเซี่ยเมี้ยวหยู่สองพ่อลูกเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

ฉู่ชวิ๋นมาที่เมืองเซี่ยเฉิง เนื่องจากมีคนกำลังไล่ล่าน้องสาวของเขา

ถ้าเป็นคนอื่นพูดคำเหล่านี้ออกมาก็คงไม่มีใครให้ความสำคัญสักเท่าไหร่

แต่นี่คนพูดคือฉู่ชวิ๋น มันไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ฉู่ชวิ๋นย่อมมีความน่ากลัวเสมอ

บรรดาจอมยุทธ์ที่อยู่ในเมืองรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว พวกเขาต่างก็ออกไปสืบสวนเรื่องราวของน้องสาวฉู่ชวิ๋นด้วยความสนใจ

ตอนนี้ผู้อาวุโสหลายคนจากสำนักเจ็ดดาราได้รับคำสั่งให้มาสังหารทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงมีหญิงสาวหลายสิบคนเสียชีวิตไปแล้ว

แต่ก็ยังมีหญิงสาวอีกจำนวนไม่น้อยที่หนีรอดมาได้จากการช่วยเหลือของจิ่วโยวตอนตอนที่ทำลายคฤหาสน์ พวกเธอแยกย้ายกันหลบหนีอยู่ทั่วเมืองเซี่ยเฉิง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราจะตามฆ่าได้หมดในระยะเวลาอันสั้น

“จอมมารฉู่ชวิ๋น” เซี่ยเมี้ยวหยู่มีสีหน้าสนใจใคร่รู้

เซี่ยไป่หยานไม่ได้รู้สึกดีใจเท่าไหร่เลย น้องสาวของฉู่ชวิ๋นได้รับอันตรายและหายตัวไปในเมืองเซี่ยเฉิง นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

“มานี่ซิ” เซี่ยไป่หยานเรียกลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามาและออกคำสั่งให้ไปสืบสวนเรื่องราวน้องสาวของฉู่ชวิ๋นเดี๋ยวนี้

“น้องฉู่ ผมส่งคนออกไปตามหาแล้ว คุณช่วยมารอฟังข่าวที่บ้านตระกูลเซี่ยได้ไหม?” เซี่ยไป่หยานตะโกนออกไป

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวออกจากชั้นดาดฟ้าและกำหนดทิศทางไปตามเสียงของเซี่ยไป่หยาน

เซี่ยไป่หยานพูดยังไม่ทันจบ ฉู่ชวิ๋นก็มาปรากฏตัวในสนามหญ้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยซะแล้ว

“ขอบคุณมากครับ คุณเซี่ย” ฉู่ชวิ๋นประสานมือทำความเคารพ

“น้องฉู่ไม่ต้องเกรงใจ ผมได้ยินเรื่องราวของคุณมามากมาย วันนี้ก็ได้เจอน้องฉู่ตัวจริง ไม่นึกเลยว่าจะยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้” เซี่ยไป่หยานพูดตามความรู้สึกจริง ๆ เขาคิดว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยเกินไปด้วยซ้ำ

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ” ฉู่ชวิ๋นตัดบทอย่างรวบรัด แต่ยังคงมีมารยาท

เซี่ยเมี้ยวหยู่มองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความสงสัย ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ ชื่อเสียงเลวร้ายมาก แต่ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่งจริง ๆ

เซี่ยเมี้ยวหยู่ภูมิใจในตนเองมาตลอด ยิ่งภูมิใจในความเป็นจอมยุทธ์หญิงอายุน้อยของตนเอง เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยกว่า เธอจึงเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจ

เพราะว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยเกินไปจริง ๆ

“น้องฉู่ เชิญนั่งก่อน” เซี่ยไป่หยานพูด

ฉู่ชวิ๋นเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินตัวหนึ่ง

“น้องฉู่ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยได้ไหม?” เซี่ยไป่หยานถาม เนื่องจากเขาอยากรู้ว่าน้องสาวของฉู่ชวิ๋นมาที่เมืองเซี่ยเฉิงได้ยังไง

ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางเลือก นอกจากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง

“เจ้าเด็กแสบสองคนนี้รนหาที่จริง ๆ” เซี่ยเมี้ยวหยู่พลันโพล่งขึ้นมา

เซี่ยไป่หยานรับหันไปดุบุตรสาวผ่านทางสายตา ฉู่ชวิ๋นไม่ใช่คนธรรมดา เวลาพูดจาอะไรต้องระวังปากคำเอาไว้

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัวและยิ้มด้วยความขมขื่น “ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

เซี่ยเมี้ยวหยู่ยิ่งสนใจในตัวของฉู่ชวิ๋นมากกว่าเดิม

“น้องฉู่ ไม่ทราบว่าพอจะช่วยแนะนำฉันสักสองสามกระบวนท่าได้ไหม?” เซี่ยเมี้ยวหยู่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ฉู่ชวิ๋นทำหน้าประหลาดใจ เซี่ยไป่หยานเรียกเขาว่าน้องฉู่ เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็เลยถือวิสาสะเรียกเขาแบบเดียวกันงั้นเหรอ ถือว่าผิดมารยาทเป็นอย่างยิ่ง

เซี่ยไป่หยานทราบดีว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ สีหน้าของเขาเต็มไปความอับอาย ก่อนที่จะพูดพร้อมกับยิ้มฝืด ๆ ว่า “อย่าสนใจเด็กไม่มีมารยาทอย่างลูกสาวผมเลยนะ”

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองบุตรสาวของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความสนใจ เขาเป็นคนใจกว้าง ไม่ถือสาหาความเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว

แต่ฉู่ชวิ๋นไม่ปฏิเสธการประลองฝีมือ ตระกูลเซี่ยอุตส่าห์ส่งคนออกไปช่วยตามหาถางโร้วกับจิ่วโยว ในเมื่อเซี่ยเมี้ยวหยู่อยากจะทดสอบฝีมือกับเขา

ฉู่ชวิ๋นก็ไม่อยากขัดใจ

ตอนแรก เซี่ยไป่หยานเข้าใจว่าฉู่ชวิ๋นคงไม่ยอมประลองฝีมือกับลูกสาวของเขาแน่นอน

แต่เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นตอบตกลง เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาอย่างชัดเจน

ว่ากันว่าเซี่ยเมี้ยวหยู่เป็นอัจฉริยะที่น่าจับตามอง การประลองฝีมือครั้งนี้ ย่อมมีความน่าสนใจไม่น้อย

เซี่ยเมี้ยวหยู่เป็นฝ่ายโจมตี ส่วนฉู่ชวิ๋นเป็นฝ่ายตั้งรับ

แต่โชคร้ายที่ระดับฝีมือของทั้งสองคนแตกต่างกันมากเกินไป ฉู่ชวิ๋นไม่ต้องใช้ลมปราณด้วยซ้ำ เขาสามารถจัดการเซี่ยเมี้ยวหยู่ได้ด้วยการใช้พละกำลังธรรมดาๆ

ทั้งสองคนต่อสู้กันอยู่หลายสิบกระบวนท่า เซี่ยเมี้ยวหยู่ไม่อาจสัมผัสโดนแม้แต่เสื้อผ้าของฉู่ชวิ๋น หญิงสาวรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง นับว่าฉายาจอมมารฉู่ชวิ๋นไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยจริง ๆ

เซี่ยไป่หยานถึงกับตกตะลึง ดูเหมือนฉู่ชวิ๋นจะมีฝีมือเหนือกว่าตัวเขามาก ลองสังเกตจากการต่อสู้ของเซี่ยเมี้ยวหยู่แล้ว ลูกสาวของเขาพยายามเต็มที่ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ฉู่ชวิ๋นไม่ได้เลย แม้ฉู่ชวิ๋นจะไม่ใช้ลมปราณ

“ฝีมือของคุณน่าเลื่อมใสจริงๆ” เซี่ยเมี้ยวหยู่ไม่ได้มีเจตนายกยอปอปั้น แต่เธอพูดด้วยความเคารพจากใจจริง

ฉู่ชวิ๋นได้แต่พยักหน้าและหัวเราะในลำคอ ก่อนจะชี้แนะว่าเซี่ยเมี้ยวหยู่ยังมีจุดบกพร่องอะไรบ้างทั้งด้านลมปราณและเรื่องร่างกายรวมถึงรากฐานที่ไม่มั่นคงเนื่องจากทะลวงระดับพลังเร็วเกินไป

แม้แต่เซี่ยไป่หยานก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ถึงจะเป็นแค่คำแนะนำสั้น ๆ แต่ก็ทำให้สองพ่อลูกรู้สึกเหมือนกับได้เรียนรู้อะไรมากมาย

กาลเวลาไหลผ่านไป จากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง

แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวถางโร้วและจิ่วโยว ฉู่ชวิ๋นเริ่มรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น

ในตรอกแคบอันห่างไกลไร้ผู้คนของเมืองเซี่ยเฉิง หญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นกลัว

“หนีไม่รอดหรอก ยังไงวันนี้เธอก็ต้องตาย!” ผู้อาวุโสของสำนักเจ็ดดาราคนหนึ่งหัวเราะเยาะ เหมือนแมวเล่นกับหนู ทำให้หญิงสาวผู้หลบหนีรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ ในจังหวะที่เธอกำลังจะถูกฆ่านั้นเอง จอมยุทธ์อีกหลายคนที่ออกมาตระเวนหาข้อมูลก็ปรากฏตัวขึ้น

“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!” หญิงสาวคนนั้นตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

จอมยุทธ์กลุ่มนี้ออกมาตระเวนหาข้อมูลของถางโร้วกับจิ่วโยว เมื่อพบเจอเข้ากับผู้หญิงคนนี้ ทุกคนต่างก็เข้าใจว่าเธอเป็นน้องสาวของจอมมารฉู่ชวิ๋น จึงรีบเข้าไปคุ้มครองเธออย่างไม่รอช้า

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราเห็นดังนั้น ก็ซัดพลังลมปราณใส่หญิงสาวผู้นี้ทันที

“แกอยากตายนักใช่ไหม!” เสียงคำรามดังออกมาจากปากจอมยุทธ์หนุ่มผู้หนึ่ง ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็ซัดพลังลมปราณออกมาสกัดพลังของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดารา

แม้ว่าจอมยุทธหนุ่มผู้นั้นจะถูกพลังของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดารากระแทกจนเซถอยหลังไป แต่อย่างน้อยเขาก็ปกป้องชีวิตของหญิงสาวคนนี้ได้สำเร็จ และเปิดโอกาสให้จอมยุทธ์คนอื่นๆ ก้าวออกมาช่วยเหลือทัน

“ไม่ต้องห่วงนะครับ นายหญิง พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว ไอ้แก่นี่ทำอะไรนายหญิงไม่ได้อีกแล้ว เดี๋ยวผมจะพานายหญิงกลับไปหานายท่านฉู่ชวิ๋นนะครับ” จอมยุทธ์คนหนึ่งพูด

หญิงสาวผู้นั้นไม่เข้าใจ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร จอมยุทธ์หนุ่มกลุ่มนั้นก็มายืนห้อมล้อมเธอเอาไว้

“ไอ้แก่ แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาตามล่าหมายเอาชีวิตน้องสาวของนายท่านฉู่ชวิ๋น จงเตรียมตัวตายซะเถอะ!”

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราสีหน้าแปรเปลี่ยน แน่นอนว่าเขาไม่กล้าบอกว่าตนเองเป็นคนจากสำนักไหน จึงทําได้เพียงคำรามในลำคอตอบกลับไปว่า “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใช้ของฉัน ไม่ใช่น้องสาวของจอมมารฉู่ชวิ๋นสักหน่อย”

กลุ่มจอมยุทธ์จึงถามหญิงสาวผู้นั้นว่าเธอรู้จักฉู่ชวิ๋นหรือไม่

ปรากฏว่าหญิงสาวส่ายศีรษะ บอกว่าเธอไม่รู้จักฉู่ชวิ๋น

กลุ่มจอมยุทธ์ถึงกับผิดหวังไป ปรากฏว่าพวกเขาเข้าใจผิดกันไปเองจริง ๆ ด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของหญิงสาวคนนี้อีก

แต่หญิงสาวคนนี้มีความเฉลียวฉลาดยิ่ง เธอได้ยินคำเตือนของจอมมารฉู่ชวิ๋นที่ดังกังวานไปทั่วเมืองเซี่ยเฉิง ดังนั้น ถึงหญิงสาวจะยังไม่แน่ใจว่านี่คือเรื่องราวใดกันแน่ แต่มันก็คงสำคัญมากพอที่จะปกป้องชีวิตของเธอได้ หญิงสาวรีบพูดออกมาทันทีว่า “พวกคุณกำลังตามหาเด็กผู้หญิงหน้าตาดีสองคนใช่ไหมคะ คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็ก ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ”

กลุ่มจอมยุทธ์ที่กำลังจะเดินกลับไปชะงักฝีเท้าทันที พวกเขาไม่ปล่อยให้โอกาสได้ช่วยเหลือจอมมารฉู่ชวิ๋นหลุดมือไปแน่นอน

“คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็ก นายท่านฉู่ชวิ๋นได้บอกหรือเปล่าว่าน้องสาวของท่านโตแล้วหรือยัง?” ใครบางคนพึมพำออกมา

คนที่เหลือได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” มีคนนึงตอบออกมา

พวกเขาไม่มีเบอร์ติดต่อของฉู่ชวิ๋น จึงได้แต่สื่อสารกันผ่านการตะโกนในอากาศ

จอมยุทธ์ผู้หนึ่งมีพลังขั้นจักรพรรดินามว่าหยุนกง ตะโกนออกไปว่า “นายท่านฉู่ชวิ๋น น้องสาวของคุณ คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็กใช่ไหมครับ?”

ตอนที่ฉู่ชวิ๋นได้ยินประโยคนี้ เขาก็ลุกพรวดขึ้นยืนและตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว พวกคุณได้ข่าวของพวกเธอแล้วเหรอ?”

จอมยุทธ์หนุ่มกลุ่มนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก หยุนกงตะโกนว่า “ใช่แล้วครับ นายท่านฉู่ชวิ๋นได้โปรดมาที่นี่ด่วนเลย พวกเรากำลังอยู่ที่ตรอกฮวาตง”

เซี่ยเมี้ยวหยู่อาสาว่า “เดี๋ยวฉันนำทางให้เอง”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าภายใต้การนำทางของเซี่ยเมี้ยวหยู่ ฉู่ชวิ๋นก็มาถึงตรอกฮวาตงอย่างรวดเร็ว

“เมื่อสักครู่นี้ใครเป็นคนบอกว่ามีข้อมูลเรื่องน้องสาวผม?” ฉู่ชวิ๋นถามทันทีโดยไม่เสียเวลา

หยุนกงกล่าวตอบออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ผมเองครับ นายท่านฉู่ชวิ๋น”

“พวกเธออยู่ที่ไหน?” น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยความร้อนใจ ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบหญ้าจิตวิญญาณกำมือหนึ่งออกมาโยนให้อีกฝ่าย

หยุนกงถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น หญ้าจิตวิญญาณถือว่าเป็นของหายากแถมมีตั้งหลายตน ตอนนี้เขาดีใจจนแทบจะคุมสติไม่อยู่แล้ว

“นายท่านครับ ผู้หญิงคนนั้นเธอบอกว่ารู้ข้อมูล”

เมื่อเห็นว่าหลายคนให้ความเคารพต่อฉู่ชวิ๋น หญิงสาวคนนั้นจึงพูดออกมา “ผู้น้อยรู้ข้อมูล แต่นายท่านช่วยคุ้มครองผู้น้อยหน่อยได้ไหมเจ้าคะ?”

“พูดมาเลย ฉันเป็นคนดูแลเมืองนี้ ฉันสามารถคุ้มครองเธอได้” เซี่ยเมี้ยวหยู่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ตระกูลเซี่ยเป็นผู้คุมกฎประจำเมืองเซี่ยเฉิงถือเป็นผู้มีอิทธิพลในเมือง เมื่อได้ยินคำรับรองจากเซี่ยเมี้ยวหยู่ หญิงสาวผู้นี้จึงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง

เธอบอกเล่าทุกอย่างที่รู้ออกมาจนหมด

ก่อนที่ฉู่ชวิ๋นจะมาถึงที่นี่ ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราก็ได้หลบหนีไปแล้ว เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับจอมมารฉู่ เพียงแค่ได้ยินเสียงของฉู่ชวิ๋น ชายชราก็รู้สึกแข้งขาอ่อนเปลี้ยแล้ว

“แล้วคนที่ตามล่าเธอหายไปไหนแล้ว!” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างร้อนใจ

“เขาหลบหนีไปทางนั้นครับนายท่าน” กลุ่มจอมยุทธ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ยกมือบอกทิศทาง

ลมปราณแผ่ออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น ชายหนุ่มกระโดดไปยืนบนหลังคาตึก ก่อนจะโดดอีกครั้งสูงประมาณ 10 เมตร หลังจากนั้นจึงพบเห็นเงาร่างของชายคนหนึ่งกำลังหลบหนีด้วยความเร็วสูง สายตาของฉู่ชวิ๋นไม่ต่างจากสายตาของนกเหยี่ยวที่กำลังจะล่าเหยื่อจากบนท้องฟ้า

แทบจะในวินาทีต่อมา ฉู่ชวิ๋นก็กลับมายืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับโยนร่างของชายชราลงไปบนพื้น ก่อนที่จะหันมาถามหญิงสาวว่า “ใช่คนนี้หรือเปล่าที่ตามล่าเธอ?”

หญิงสาวพยักหน้า

“แกเป็นใครมาจากไหน?” ฉู่ชวิ๋นตะโกนถามอย่างร้อนใจ

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราตัวสั่นงันงก เขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 แต่กลับไม่อาจขัดขืนอีกฝ่ายได้เลย จอมมารฉู่น่ากลัวเกินไปแล้ว

“เป็นคนจากสำนักเจ็ดดาราขอรับ…” ชายชราเริ่มต้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ

“สำนักเจ็ดดารา กล้าดียังไงมาสร้างเรื่องในเมืองเซี่ยเฉิง พวกแกใช่ไหมที่พยายามตามล่าน้องสาวของนายท่านฉู่ชวิ๋น?” เซี่ยเมี้ยวหยู่ถาม

“เปล่านะครับ ท่านหญิงพวกเราแค่ทำตามคำสั่งของท่านเจ้าสำนัก…” ชายชราตอบด้วยความหวาดกลัวฉู่ชวิ๋นจนถึงกับอาเจียนออกมาแล้ว

วูบ!

จิตสังหารกระจายออกมาห้อมล้อมร่างกายของฉู่ชวิ๋น จนทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่โดยรอบตัวสั่นเทา ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกมาข้างหน้าและกำมือเป็นหมัดก่อนชกออกไปอย่างโหดเหี้ยม

โผละ!

ร่างของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราแหลกสลายกลายเป็นเพียงกองเลือดกองหนึ่ง

นี่มันหมายความว่ายังไง? ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์ที่ยืนอยู่รอบตัว แม้แต่เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็ขนลุกเกรียวด้วยความหวาดกลัว คนที่ตายคือจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 เลยนะ แต่ต้องมาตายในกระบวนท่าเดียว!

“ทุกคน ตอนนี้ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณแล้ว ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยเหลือสามารถติดต่อผมมาได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องอยากรบกวนอีกอย่างหนึ่งคือ ใครก็ได้ช่วยนำทางผมหน่อยได้ไหม?” ฉู่ชวิ๋นไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในเมืองเซี่ยเฉิง เขาจำเป็นต้องมีไกด์นำทาง

“กระผมยินดีรับใช้นายท่านฉู่ชวิ๋นครับ” จอมยุทธ์หนุ่มผู้หนึ่งรีบตอบออกมาด้วยความรวดเร็ว

“ขอบคุณครับ งั้นขอตัวก่อนนะทุกคน”

ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้น โยนหญ้าจิตวิญญาณไปให้กลุ่มจอมยุทธ์ที่ช่วยเหลือ หลังจากนั้นร่างของเขาก็หายวับไปพร้อมกับจอมยุทธ์หนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง

กลุ่มจอมยุทธ์ที่เหลืออยู่ดีใจจนแทบเสียสติ จอมมารฉู่ชวิ๋นพูดว่าเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาและพวกเขาสามารถไปขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังได้หญ้าจิตวิญญาณเป็นของตอบแทนจำนวนมากอีกด้วย

“พาเธอไปส่งบ้านอย่างปลอดภัยด้วยล่ะ” เซี่ยเมี้ยวหยู่ออกคำสั่ง

กลุ่มจอมยุทธ์รีบทำตามคำสั่งทันที พวกเขาทราบดีว่าที่พวกตนเองได้โอกาสอันดีเช่นนี้ก็เป็นเพราะข้อมูลจากหญิงสาวคนนี้ทั้งสิ้น

เซี่ยเมี้ยวหยู่เดินทางกลับไปที่บ้านตระกูลเซี่ยและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เซี่ยไป่หยานผู้เป็นพ่อ

“สำนักเจ็ดดารา พวกมันกำแหงเกินไปแล้ว“ หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เซี่ยไป่หยานพูดทันที “ลูกบอกว่าคนของสำนักเจ็ดดาราตามไล่ล่าพวกผู้หญิงใช่ไหม? ลูกรีบพาคนของเราไปช่วยเหลือพวกเธอเร็วเข้า ต้องสั่งสอนให้สำนักเจ็ดดารารู้สักหน่อยว่าที่นี่ใครใหญ่”

แต่ละคำที่เซี่ยไป่หยานพูดออกมาอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม

เซี่ยเมี้ยวหยู่รับคำสั่งและรีบออกไปทันที

อีกด้านหนึ่ง ฉู่ชวิ๋นกับไกด์นำทางเดินทางด้วยความรวดเร็ว

“นายท่านฉู่ชวิ๋นครับ ที่นี่แหละครับ” จอมยุทธ์หนุ่มพูด

ฉู่ชวิ๋นหยุดลงก่อนจะควักหญ้าจิตวิญญาณกำมือใหญ่ออกมามอบเป็นของตอบแทน “ขอบใจมากนะ”

จอมยุทธ์หนุ่มมีความสุขมาก ถึงแม้ใจจริงแล้วเขาอยากจะอยู่กับฉู่ชวิ๋นต่ออีกสักหน่อย แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงรีบขอบคุณแล้วดีดตัวจากมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 327 ช่วยค้นหาให้ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋น จอมมารฉู่ชวิ๋น!

ไม่ใช่แค่บรรดาจอมยุทธ์ในเมืองเซี่ยเฉิงเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้แต่เซี่ยไป่หยานกับเซี่ยเมี้ยวหยู่สองพ่อลูกเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

ฉู่ชวิ๋นมาที่เมืองเซี่ยเฉิง เนื่องจากมีคนกำลังไล่ล่าน้องสาวของเขา

ถ้าเป็นคนอื่นพูดคำเหล่านี้ออกมาก็คงไม่มีใครให้ความสำคัญสักเท่าไหร่

แต่นี่คนพูดคือฉู่ชวิ๋น มันไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ฉู่ชวิ๋นย่อมมีความน่ากลัวเสมอ

บรรดาจอมยุทธ์ที่อยู่ในเมืองรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว พวกเขาต่างก็ออกไปสืบสวนเรื่องราวของน้องสาวฉู่ชวิ๋นด้วยความสนใจ

ตอนนี้ผู้อาวุโสหลายคนจากสำนักเจ็ดดาราได้รับคำสั่งให้มาสังหารทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงมีหญิงสาวหลายสิบคนเสียชีวิตไปแล้ว

แต่ก็ยังมีหญิงสาวอีกจำนวนไม่น้อยที่หนีรอดมาได้จากการช่วยเหลือของจิ่วโยวตอนตอนที่ทำลายคฤหาสน์ พวกเธอแยกย้ายกันหลบหนีอยู่ทั่วเมืองเซี่ยเฉิง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราจะตามฆ่าได้หมดในระยะเวลาอันสั้น

“จอมมารฉู่ชวิ๋น” เซี่ยเมี้ยวหยู่มีสีหน้าสนใจใคร่รู้

เซี่ยไป่หยานไม่ได้รู้สึกดีใจเท่าไหร่เลย น้องสาวของฉู่ชวิ๋นได้รับอันตรายและหายตัวไปในเมืองเซี่ยเฉิง นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

“มานี่ซิ” เซี่ยไป่หยานเรียกลูกศิษย์คนหนึ่งเข้ามาและออกคำสั่งให้ไปสืบสวนเรื่องราวน้องสาวของฉู่ชวิ๋นเดี๋ยวนี้

“น้องฉู่ ผมส่งคนออกไปตามหาแล้ว คุณช่วยมารอฟังข่าวที่บ้านตระกูลเซี่ยได้ไหม?” เซี่ยไป่หยานตะโกนออกไป

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวออกจากชั้นดาดฟ้าและกำหนดทิศทางไปตามเสียงของเซี่ยไป่หยาน

เซี่ยไป่หยานพูดยังไม่ทันจบ ฉู่ชวิ๋นก็มาปรากฏตัวในสนามหญ้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยซะแล้ว

“ขอบคุณมากครับ คุณเซี่ย” ฉู่ชวิ๋นประสานมือทำความเคารพ

“น้องฉู่ไม่ต้องเกรงใจ ผมได้ยินเรื่องราวของคุณมามากมาย วันนี้ก็ได้เจอน้องฉู่ตัวจริง ไม่นึกเลยว่าจะยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้” เซี่ยไป่หยานพูดตามความรู้สึกจริง ๆ เขาคิดว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยเกินไปด้วยซ้ำ

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ” ฉู่ชวิ๋นตัดบทอย่างรวบรัด แต่ยังคงมีมารยาท

เซี่ยเมี้ยวหยู่มองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความสงสัย ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพ ชื่อเสียงเลวร้ายมาก แต่ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่งจริง ๆ

เซี่ยเมี้ยวหยู่ภูมิใจในตนเองมาตลอด ยิ่งภูมิใจในความเป็นจอมยุทธ์หญิงอายุน้อยของตนเอง เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยกว่า เธอจึงเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจ

เพราะว่าฉู่ชวิ๋นมีอายุน้อยเกินไปจริง ๆ

“น้องฉู่ เชิญนั่งก่อน” เซี่ยไป่หยานพูด

ฉู่ชวิ๋นเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินตัวหนึ่ง

“น้องฉู่ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยได้ไหม?” เซี่ยไป่หยานถาม เนื่องจากเขาอยากรู้ว่าน้องสาวของฉู่ชวิ๋นมาที่เมืองเซี่ยเฉิงได้ยังไง

ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางเลือก นอกจากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง

“เจ้าเด็กแสบสองคนนี้รนหาที่จริง ๆ” เซี่ยเมี้ยวหยู่พลันโพล่งขึ้นมา

เซี่ยไป่หยานรับหันไปดุบุตรสาวผ่านทางสายตา ฉู่ชวิ๋นไม่ใช่คนธรรมดา เวลาพูดจาอะไรต้องระวังปากคำเอาไว้

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัวและยิ้มด้วยความขมขื่น “ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”

เซี่ยเมี้ยวหยู่ยิ่งสนใจในตัวของฉู่ชวิ๋นมากกว่าเดิม

“น้องฉู่ ไม่ทราบว่าพอจะช่วยแนะนำฉันสักสองสามกระบวนท่าได้ไหม?” เซี่ยเมี้ยวหยู่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ฉู่ชวิ๋นทำหน้าประหลาดใจ เซี่ยไป่หยานเรียกเขาว่าน้องฉู่ เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็เลยถือวิสาสะเรียกเขาแบบเดียวกันงั้นเหรอ ถือว่าผิดมารยาทเป็นอย่างยิ่ง

เซี่ยไป่หยานทราบดีว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ สีหน้าของเขาเต็มไปความอับอาย ก่อนที่จะพูดพร้อมกับยิ้มฝืด ๆ ว่า “อย่าสนใจเด็กไม่มีมารยาทอย่างลูกสาวผมเลยนะ”

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองบุตรสาวของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความสนใจ เขาเป็นคนใจกว้าง ไม่ถือสาหาความเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว

แต่ฉู่ชวิ๋นไม่ปฏิเสธการประลองฝีมือ ตระกูลเซี่ยอุตส่าห์ส่งคนออกไปช่วยตามหาถางโร้วกับจิ่วโยว ในเมื่อเซี่ยเมี้ยวหยู่อยากจะทดสอบฝีมือกับเขา

ฉู่ชวิ๋นก็ไม่อยากขัดใจ

ตอนแรก เซี่ยไป่หยานเข้าใจว่าฉู่ชวิ๋นคงไม่ยอมประลองฝีมือกับลูกสาวของเขาแน่นอน

แต่เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นตอบตกลง เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาอย่างชัดเจน

ว่ากันว่าเซี่ยเมี้ยวหยู่เป็นอัจฉริยะที่น่าจับตามอง การประลองฝีมือครั้งนี้ ย่อมมีความน่าสนใจไม่น้อย

เซี่ยเมี้ยวหยู่เป็นฝ่ายโจมตี ส่วนฉู่ชวิ๋นเป็นฝ่ายตั้งรับ

แต่โชคร้ายที่ระดับฝีมือของทั้งสองคนแตกต่างกันมากเกินไป ฉู่ชวิ๋นไม่ต้องใช้ลมปราณด้วยซ้ำ เขาสามารถจัดการเซี่ยเมี้ยวหยู่ได้ด้วยการใช้พละกำลังธรรมดาๆ

ทั้งสองคนต่อสู้กันอยู่หลายสิบกระบวนท่า เซี่ยเมี้ยวหยู่ไม่อาจสัมผัสโดนแม้แต่เสื้อผ้าของฉู่ชวิ๋น หญิงสาวรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง นับว่าฉายาจอมมารฉู่ชวิ๋นไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยจริง ๆ

เซี่ยไป่หยานถึงกับตกตะลึง ดูเหมือนฉู่ชวิ๋นจะมีฝีมือเหนือกว่าตัวเขามาก ลองสังเกตจากการต่อสู้ของเซี่ยเมี้ยวหยู่แล้ว ลูกสาวของเขาพยายามเต็มที่ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ฉู่ชวิ๋นไม่ได้เลย แม้ฉู่ชวิ๋นจะไม่ใช้ลมปราณ

“ฝีมือของคุณน่าเลื่อมใสจริงๆ” เซี่ยเมี้ยวหยู่ไม่ได้มีเจตนายกยอปอปั้น แต่เธอพูดด้วยความเคารพจากใจจริง

ฉู่ชวิ๋นได้แต่พยักหน้าและหัวเราะในลำคอ ก่อนจะชี้แนะว่าเซี่ยเมี้ยวหยู่ยังมีจุดบกพร่องอะไรบ้างทั้งด้านลมปราณและเรื่องร่างกายรวมถึงรากฐานที่ไม่มั่นคงเนื่องจากทะลวงระดับพลังเร็วเกินไป

แม้แต่เซี่ยไป่หยานก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ถึงจะเป็นแค่คำแนะนำสั้น ๆ แต่ก็ทำให้สองพ่อลูกรู้สึกเหมือนกับได้เรียนรู้อะไรมากมาย

กาลเวลาไหลผ่านไป จากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง

แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวถางโร้วและจิ่วโยว ฉู่ชวิ๋นเริ่มรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น

ในตรอกแคบอันห่างไกลไร้ผู้คนของเมืองเซี่ยเฉิง หญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นกลัว

“หนีไม่รอดหรอก ยังไงวันนี้เธอก็ต้องตาย!” ผู้อาวุโสของสำนักเจ็ดดาราคนหนึ่งหัวเราะเยาะ เหมือนแมวเล่นกับหนู ทำให้หญิงสาวผู้หลบหนีรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ ในจังหวะที่เธอกำลังจะถูกฆ่านั้นเอง จอมยุทธ์อีกหลายคนที่ออกมาตระเวนหาข้อมูลก็ปรากฏตัวขึ้น

“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!” หญิงสาวคนนั้นตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

จอมยุทธ์กลุ่มนี้ออกมาตระเวนหาข้อมูลของถางโร้วกับจิ่วโยว เมื่อพบเจอเข้ากับผู้หญิงคนนี้ ทุกคนต่างก็เข้าใจว่าเธอเป็นน้องสาวของจอมมารฉู่ชวิ๋น จึงรีบเข้าไปคุ้มครองเธออย่างไม่รอช้า

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราเห็นดังนั้น ก็ซัดพลังลมปราณใส่หญิงสาวผู้นี้ทันที

“แกอยากตายนักใช่ไหม!” เสียงคำรามดังออกมาจากปากจอมยุทธ์หนุ่มผู้หนึ่ง ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็ซัดพลังลมปราณออกมาสกัดพลังของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดารา

แม้ว่าจอมยุทธหนุ่มผู้นั้นจะถูกพลังของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดารากระแทกจนเซถอยหลังไป แต่อย่างน้อยเขาก็ปกป้องชีวิตของหญิงสาวคนนี้ได้สำเร็จ และเปิดโอกาสให้จอมยุทธ์คนอื่นๆ ก้าวออกมาช่วยเหลือทัน

“ไม่ต้องห่วงนะครับ นายหญิง พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว ไอ้แก่นี่ทำอะไรนายหญิงไม่ได้อีกแล้ว เดี๋ยวผมจะพานายหญิงกลับไปหานายท่านฉู่ชวิ๋นนะครับ” จอมยุทธ์คนหนึ่งพูด

หญิงสาวผู้นั้นไม่เข้าใจ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร จอมยุทธ์หนุ่มกลุ่มนั้นก็มายืนห้อมล้อมเธอเอาไว้

“ไอ้แก่ แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาตามล่าหมายเอาชีวิตน้องสาวของนายท่านฉู่ชวิ๋น จงเตรียมตัวตายซะเถอะ!”

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราสีหน้าแปรเปลี่ยน แน่นอนว่าเขาไม่กล้าบอกว่าตนเองเป็นคนจากสำนักไหน จึงทําได้เพียงคำรามในลำคอตอบกลับไปว่า “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใช้ของฉัน ไม่ใช่น้องสาวของจอมมารฉู่ชวิ๋นสักหน่อย”

กลุ่มจอมยุทธ์จึงถามหญิงสาวผู้นั้นว่าเธอรู้จักฉู่ชวิ๋นหรือไม่

ปรากฏว่าหญิงสาวส่ายศีรษะ บอกว่าเธอไม่รู้จักฉู่ชวิ๋น

กลุ่มจอมยุทธ์ถึงกับผิดหวังไป ปรากฏว่าพวกเขาเข้าใจผิดกันไปเองจริง ๆ ด้วย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของหญิงสาวคนนี้อีก

แต่หญิงสาวคนนี้มีความเฉลียวฉลาดยิ่ง เธอได้ยินคำเตือนของจอมมารฉู่ชวิ๋นที่ดังกังวานไปทั่วเมืองเซี่ยเฉิง ดังนั้น ถึงหญิงสาวจะยังไม่แน่ใจว่านี่คือเรื่องราวใดกันแน่ แต่มันก็คงสำคัญมากพอที่จะปกป้องชีวิตของเธอได้ หญิงสาวรีบพูดออกมาทันทีว่า “พวกคุณกำลังตามหาเด็กผู้หญิงหน้าตาดีสองคนใช่ไหมคะ คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็ก ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ”

กลุ่มจอมยุทธ์ที่กำลังจะเดินกลับไปชะงักฝีเท้าทันที พวกเขาไม่ปล่อยให้โอกาสได้ช่วยเหลือจอมมารฉู่ชวิ๋นหลุดมือไปแน่นอน

“คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็ก นายท่านฉู่ชวิ๋นได้บอกหรือเปล่าว่าน้องสาวของท่านโตแล้วหรือยัง?” ใครบางคนพึมพำออกมา

คนที่เหลือได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” มีคนนึงตอบออกมา

พวกเขาไม่มีเบอร์ติดต่อของฉู่ชวิ๋น จึงได้แต่สื่อสารกันผ่านการตะโกนในอากาศ

จอมยุทธ์ผู้หนึ่งมีพลังขั้นจักรพรรดินามว่าหยุนกง ตะโกนออกไปว่า “นายท่านฉู่ชวิ๋น น้องสาวของคุณ คนหนึ่งตัวโต อีกคนหนึ่งตัวเล็กใช่ไหมครับ?”

ตอนที่ฉู่ชวิ๋นได้ยินประโยคนี้ เขาก็ลุกพรวดขึ้นยืนและตอบกลับไปว่า

“ใช่แล้ว พวกคุณได้ข่าวของพวกเธอแล้วเหรอ?”

จอมยุทธ์หนุ่มกลุ่มนี้รู้สึกตื่นเต้นมาก หยุนกงตะโกนว่า “ใช่แล้วครับ นายท่านฉู่ชวิ๋นได้โปรดมาที่นี่ด่วนเลย พวกเรากำลังอยู่ที่ตรอกฮวาตง”

เซี่ยเมี้ยวหยู่อาสาว่า “เดี๋ยวฉันนำทางให้เอง”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าภายใต้การนำทางของเซี่ยเมี้ยวหยู่ ฉู่ชวิ๋นก็มาถึงตรอกฮวาตงอย่างรวดเร็ว

“เมื่อสักครู่นี้ใครเป็นคนบอกว่ามีข้อมูลเรื่องน้องสาวผม?” ฉู่ชวิ๋นถามทันทีโดยไม่เสียเวลา

หยุนกงกล่าวตอบออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ผมเองครับ นายท่านฉู่ชวิ๋น”

“พวกเธออยู่ที่ไหน?” น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยความร้อนใจ ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบหญ้าจิตวิญญาณกำมือหนึ่งออกมาโยนให้อีกฝ่าย

หยุนกงถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น หญ้าจิตวิญญาณถือว่าเป็นของหายากแถมมีตั้งหลายตน ตอนนี้เขาดีใจจนแทบจะคุมสติไม่อยู่แล้ว

“นายท่านครับ ผู้หญิงคนนั้นเธอบอกว่ารู้ข้อมูล”

เมื่อเห็นว่าหลายคนให้ความเคารพต่อฉู่ชวิ๋น หญิงสาวคนนั้นจึงพูดออกมา “ผู้น้อยรู้ข้อมูล แต่นายท่านช่วยคุ้มครองผู้น้อยหน่อยได้ไหมเจ้าคะ?”

“พูดมาเลย ฉันเป็นคนดูแลเมืองนี้ ฉันสามารถคุ้มครองเธอได้” เซี่ยเมี้ยวหยู่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ตระกูลเซี่ยเป็นผู้คุมกฎประจำเมืองเซี่ยเฉิงถือเป็นผู้มีอิทธิพลในเมือง เมื่อได้ยินคำรับรองจากเซี่ยเมี้ยวหยู่ หญิงสาวผู้นี้จึงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง

เธอบอกเล่าทุกอย่างที่รู้ออกมาจนหมด

ก่อนที่ฉู่ชวิ๋นจะมาถึงที่นี่ ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราก็ได้หลบหนีไปแล้ว เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับจอมมารฉู่ เพียงแค่ได้ยินเสียงของฉู่ชวิ๋น ชายชราก็รู้สึกแข้งขาอ่อนเปลี้ยแล้ว

“แล้วคนที่ตามล่าเธอหายไปไหนแล้ว!” ฉู่ชวิ๋นถามอย่างร้อนใจ

“เขาหลบหนีไปทางนั้นครับนายท่าน” กลุ่มจอมยุทธ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ยกมือบอกทิศทาง

ลมปราณแผ่ออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น ชายหนุ่มกระโดดไปยืนบนหลังคาตึก ก่อนจะโดดอีกครั้งสูงประมาณ 10 เมตร หลังจากนั้นจึงพบเห็นเงาร่างของชายคนหนึ่งกำลังหลบหนีด้วยความเร็วสูง สายตาของฉู่ชวิ๋นไม่ต่างจากสายตาของนกเหยี่ยวที่กำลังจะล่าเหยื่อจากบนท้องฟ้า

แทบจะในวินาทีต่อมา ฉู่ชวิ๋นก็กลับมายืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับโยนร่างของชายชราลงไปบนพื้น ก่อนที่จะหันมาถามหญิงสาวว่า “ใช่คนนี้หรือเปล่าที่ตามล่าเธอ?”

หญิงสาวพยักหน้า

“แกเป็นใครมาจากไหน?” ฉู่ชวิ๋นตะโกนถามอย่างร้อนใจ

ผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราตัวสั่นงันงก เขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 แต่กลับไม่อาจขัดขืนอีกฝ่ายได้เลย จอมมารฉู่น่ากลัวเกินไปแล้ว

“เป็นคนจากสำนักเจ็ดดาราขอรับ…” ชายชราเริ่มต้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ

“สำนักเจ็ดดารา กล้าดียังไงมาสร้างเรื่องในเมืองเซี่ยเฉิง พวกแกใช่ไหมที่พยายามตามล่าน้องสาวของนายท่านฉู่ชวิ๋น?” เซี่ยเมี้ยวหยู่ถาม

“เปล่านะครับ ท่านหญิงพวกเราแค่ทำตามคำสั่งของท่านเจ้าสำนัก…” ชายชราตอบด้วยความหวาดกลัวฉู่ชวิ๋นจนถึงกับอาเจียนออกมาแล้ว

วูบ!

จิตสังหารกระจายออกมาห้อมล้อมร่างกายของฉู่ชวิ๋น จนทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่โดยรอบตัวสั่นเทา ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกมาข้างหน้าและกำมือเป็นหมัดก่อนชกออกไปอย่างโหดเหี้ยม

โผละ!

ร่างของผู้อาวุโสจากสำนักเจ็ดดาราแหลกสลายกลายเป็นเพียงกองเลือดกองหนึ่ง

นี่มันหมายความว่ายังไง? ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์ที่ยืนอยู่รอบตัว แม้แต่เซี่ยเมี้ยวหยู่ก็ขนลุกเกรียวด้วยความหวาดกลัว คนที่ตายคือจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 เลยนะ แต่ต้องมาตายในกระบวนท่าเดียว!

“ทุกคน ตอนนี้ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณแล้ว ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยเหลือสามารถติดต่อผมมาได้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องอยากรบกวนอีกอย่างหนึ่งคือ ใครก็ได้ช่วยนำทางผมหน่อยได้ไหม?” ฉู่ชวิ๋นไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในเมืองเซี่ยเฉิง เขาจำเป็นต้องมีไกด์นำทาง

“กระผมยินดีรับใช้นายท่านฉู่ชวิ๋นครับ” จอมยุทธ์หนุ่มผู้หนึ่งรีบตอบออกมาด้วยความรวดเร็ว

“ขอบคุณครับ งั้นขอตัวก่อนนะทุกคน”

ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้น โยนหญ้าจิตวิญญาณไปให้กลุ่มจอมยุทธ์ที่ช่วยเหลือ หลังจากนั้นร่างของเขาก็หายวับไปพร้อมกับจอมยุทธ์หนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง

กลุ่มจอมยุทธ์ที่เหลืออยู่ดีใจจนแทบเสียสติ จอมมารฉู่ชวิ๋นพูดว่าเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาและพวกเขาสามารถไปขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังได้หญ้าจิตวิญญาณเป็นของตอบแทนจำนวนมากอีกด้วย

“พาเธอไปส่งบ้านอย่างปลอดภัยด้วยล่ะ” เซี่ยเมี้ยวหยู่ออกคำสั่ง

กลุ่มจอมยุทธ์รีบทำตามคำสั่งทันที พวกเขาทราบดีว่าที่พวกตนเองได้โอกาสอันดีเช่นนี้ก็เป็นเพราะข้อมูลจากหญิงสาวคนนี้ทั้งสิ้น

เซี่ยเมี้ยวหยู่เดินทางกลับไปที่บ้านตระกูลเซี่ยและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เซี่ยไป่หยานผู้เป็นพ่อ

“สำนักเจ็ดดารา พวกมันกำแหงเกินไปแล้ว“ หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เซี่ยไป่หยานพูดทันที “ลูกบอกว่าคนของสำนักเจ็ดดาราตามไล่ล่าพวกผู้หญิงใช่ไหม? ลูกรีบพาคนของเราไปช่วยเหลือพวกเธอเร็วเข้า ต้องสั่งสอนให้สำนักเจ็ดดารารู้สักหน่อยว่าที่นี่ใครใหญ่”

แต่ละคำที่เซี่ยไป่หยานพูดออกมาอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม

เซี่ยเมี้ยวหยู่รับคำสั่งและรีบออกไปทันที

อีกด้านหนึ่ง ฉู่ชวิ๋นกับไกด์นำทางเดินทางด้วยความรวดเร็ว

“นายท่านฉู่ชวิ๋นครับ ที่นี่แหละครับ” จอมยุทธ์หนุ่มพูด

ฉู่ชวิ๋นหยุดลงก่อนจะควักหญ้าจิตวิญญาณกำมือใหญ่ออกมามอบเป็นของตอบแทน “ขอบใจมากนะ”

จอมยุทธ์หนุ่มมีความสุขมาก ถึงแม้ใจจริงแล้วเขาอยากจะอยู่กับฉู่ชวิ๋นต่ออีกสักหน่อย แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงรีบขอบคุณแล้วดีดตัวจากมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+