จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 270 สมบัติสวรรค์

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 270 สมบัติสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 270 สมบัติสวรรค์

สายลมพัดแรง ก้อนเมฆเคลื่อนตัว

กระดิ่งทองคำเปล่งประกายภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด ม่านพลังลมปราณสีทองคำสว่างไสว เสียงท่องบทสวดมนต์ของนักบวชดังกึกก้อง

ไม่ว่าฟ้าจะผ่าลงมาที่ตัวกระดิ่งทองคำแรงสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ได้เลย

“ฉู่ชวิ๋น นี่คือสมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า แกไม่มีทางทำลายม่านพลังนี้ได้ วันนี้ปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของแก” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ

บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ก็ยิ้มออกมาพร้อม ๆ กัน

เปรี้ยง!

ฟ้าผ่าครั้งสุดท้ายฟาดประกายลงไปที่กระดิ่งทองคำ

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปร่งประกาย เขาโบกมือหนึ่งครั้ง ฟ้าร้องฟ้าผ่าก็หยุดลง พร้อมกับที่กลุ่มเมฆดำก็จางหายไป

ความเงียบทำให้เสียงของกระดิ่งทองคำดังกังวาลมากกว่าเดิม

มันคือสมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเกลียดชังมันตั้งแต่แรกเห็น เหตุผลก็คือ ก่อนหน้านี้เขาไม่ชอบพวกเทพเจ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เวลาที่เกิดปัญหา บรรดาเทพเจ้าจะหลบหน้าหลบตาและปล่อยให้กลุ่มนักพรตลงจากภูเขาไปช่วยเหลือมนุษย์แต่ในยามที่รุ่งเรือง กลุ่มนักพรตจะกลับขึ้นเขาไปจำศีลขณะที่บรรดาเทพเจ้าจะลงจากฟ้ามากอบโกยชื่อเสียงเงินทอง

3,000 ปีก่อน ฉู่ชวิ๋นต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเทพเจ้าเหล่านี้ แต่ในใจเขาหาได้มีความเคารพไม่ สำหรับมุมมองของฉู่ชวิ๋น สิ่งที่สำคัญที่สุดของเทพเจ้าเหล่านั้น ก็คือการหาชื่อเสียง เงินทองนั่นเอง

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ถ้าหากเขาได้กลับไปที่โลกนั้นอีกครั้ง รับรองว่าเทพเจ้าเหล่านี้ได้เจอหายนะแน่

ครั้งก่อน ฉู่ชวิ๋นเห็นมากับตาของตนเองว่ากลุ่มสาวกของเทพเจ้าเป็นพวกปากว่าตาขยิบตัวจริง นักบวชเหล่านั้นปากก็ท่องบ่นคำสอน แต่ในมือก็ใช้กระบองรังแกผู้อื่น

แล้ววันนี้ก็อย่างที่เห็น สมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า กำลังคุ้มครองวายร้ายเหล่านี้อยู่

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกโกรธแค้นสุดหัวใจ

“ไม่ต้องมาแอบอ้างว่ามันเป็นสมบัติสวรรค์ มันก็แค่อาวุธชนิดหนึ่ง วันนี้ฉันจะเอาเลือดของพวกแกมาล้างภูเขาลูกนี้”

ฟรึบ!

ร่างกายของฉู่ชวิ๋นเปล่งแสงสว่างไสวแสงสว่างจ้าพุ่งออกมาจากทุกรูขุมขนที่อยู่บนร่างกาย พลังลมปราณไหลเวียนไปตามแขนและขา ในขณะที่หัวใจเต้นรัวเหมือนตีกลอง

“ตายซะเถอะ”

ฉู่ชวิ๋นรวบรวมพลังลมปราณมาที่มือของตนเอง สองกำปั้นของเขาเปร่งประกายเรืองรอง ยามที่ต่อยหมัดออกไปมาในอากาศ มวลพลังก็พวยพุ่งตรงเข้าไปหากระดิ่งทองคำลูกนั้น

เคล้ง!

เกิดเสียงสะท้อนดังกังวาลพร้อมกับซากโบราณสถานที่แสงสว่างเจิดจ้าและแล้วม่านพลังของกระดิ่งทองคำก็เกิดรอยปริแตกออกมา

ฉู่ชวิ๋นดวงตาเป็นประกายเย็นชา เขาหมุนตัวหนึ่งรอบ ก่อนที่จะต่อยหมัดปล่อยพลังออกไปอีกครั้ง

ม่านพลังของกระดิ่งทองคำสั่นไหว แรงกระแทกจากพลังลมปราณของ

ฉู่ชวิ๋นรุนแรงไม่ใช่น้อย ถึงมันจะยังคงส่องแสงสว่างแต่ตัวกระดิ่งทองคำก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว

วี้ด!

คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าพลันแผ่กระจายในอากาศ ก่อนที่แสงสีแดงจะสว่างวาบ

ทุกคนที่ถูกคลื่นเสียงเล่นงานจะรู้สึกเวียนศีรษะ ดวงตาพร่ามัว และมีใบหน้าหมองคล้ำ

ฉู่ชวิ๋นปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง เกิดเสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าคำราม พลังลมปราณจากกำปั้นของเขาพุ่งไปกระแทกกับตัวกระดิ่งทองคำอีกคำรบ

วี้ด!

เกิดเป็นพลังคลื่นเสียงสะท้อนกลับมาอีก ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นแหลกสลายภายในพริบตา

ผัวะ!

ฉู่ชวิ๋นรัวกำปั้นใส่อากาศ ก่อเกิดเป็นคลื่นเสียงแผ่กระจายและระเบิดออก

“รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ จอมมารฉู่” ในเวลาเดียวกันนี้ ลั่วเฟ่ยก็ยกมือขึ้นมาและปล่อยพลังลมปราณพุ่งตรงเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น

พลังลมปราณจากกำปั้นของฉู่ชวิ๋นที่ควรจะพุ่งเข้ามากระแทกกระดิ่งทองคำ ถูกพลังลมปราณของลั่วเฟ่ยปะทะเข้าโดยตรง จึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นพยายามจะซัดพลังใส่กระดิ่งทองคำอีกครั้ง สีหน้าของลั่วเฟ่ยก็เต็มไปด้วยความขบขันและดูถูก “เอาเลย ถ้ามีแรงอยู่ก็ซัดมาเลย”

สีหน้าของฉู่ชวิ๋นก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เขาพลิกฝ่ามือและเรียกกระบองหางมังกรออกมาใช้งาน แสงสีทองสว่างไสวออกจากตัวกระบอง และรวมตัวกันเป็นคลื่นลมปราณพุ่งเข้าใส่กระดิ่งทองคำของฝ่ายตรงข้าม

ย๊าก!

ฉู่ชวิ๋นสะบัดกระบองทองคำ หรือก็คือกระดูกส่วนหางของบรรพบุรุษมังกรทองคำ ใส่กระดิ่งทองคำอย่างแรง

เปรี้ยง!

กระดิ่งทองคำถึงกับสั่นสะเทือนอย่างหนักหน่วง ม่านพลังสีทองที่คอยป้องกันพวกของลั่วเฟ่ยสั่นไหวอย่างน่ากลัว รัศมีที่เป็นประกายจากตัวกระดิ่งทองคำก็หม่นหมองลงไปภายในพริบตา

ลั่วเฟ่ยแววตาเปลี่ยนไป พลังลมปราณที่ถ่ายเทเข้าไปสู่ตัวกระดิ่งทองคำแตกกระจาย ตัวกระดิ่งทองคำก็เริ่มเสื่อมอานุภาพลงเรื่อย ๆ

ย๊าก!

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวเข้าไปใช้กระบองทองคำฟาดลงไปบนกระดิ่งทองคำสุดแรงเกิด

เคล้ง!

แสงสว่างจากตัวกระดิ่งทองคำดับวูบลง ม่านพลังสีทองที่คอยคุ้มครองลั่วเฟ่ยก็กำลังเลือนลางลงเรื่อย ๆ

บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 กลับมามีสีหน้าตื่นกลัวอีกครั้ง กระดิ่งทองคำไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อีกแล้ว

“พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ” ลั่วเฟ่ยคำรามและพยายามถ่ายเทพลังลมปราณขึ้นไปที่กระดิ่งทองคำ

เหล่าบริวารที่ยังรอดชีวิตอยู่ไม่มีใครกล้าเชื่องช้า ต่างรีบถ่ายเทพลังลมปราณเข้าสู่กระดิ่งทองคำทันที

เสียงกระดิ่งดังกังวาลในอากาศ พร้อมกับเสียงท่องบทสวดมนต์ของบรรดาเทพเจ้า ม่านพลังสีทองคำกลับมากล้าแข็งอีกครั้ง ดูมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง กระบองทองคำในมือฟาดเข้าใส่ม่านพลังอย่างแรง

เปรี้ยง!

ประกายไฟสีทองสาดกระจาย ก่อเกิดเป็นมวลพลังงานสีแดงไหลเข้ามาห่อหุ้มกระบองทองคำ

ฉู่ชวิ๋นรีบกระชากมวลพลังงานสีแดงนั้นออกมาทันที

เปรี้ยง!

กระดิ่งทองคำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง พร้อมกับที่ม่านพลังซึ่งห่อหุ้มพวกของลั่วเฟ่ยอยู่ได้เปิดออกแล้ว

เปรี๊ยะ!

ชำรุดเสียหาย ตัวกระดิ่งทองคำเกิดรอยแตกร้าว ไม่สามารถรองรับพลังลมปราณได้อีก

“กระดิ่งทองคำจะระเบิดแล้ว” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ร้องอุทานออกมา

ลั่วเฟ่ยมีแววตาเศร้าหมองเล็กน้อย เขานำกระดิ่งทองคำนี้ออกมาจากกองสมบัติสวรรค์ กว่าจะครอบครองมาได้ก็เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งหลายรอบ แต่ขณะนี้กระดิ่งทองคำกลับถูกฉู่ชวิ๋นทำลายไปต่อหน้าต่อตา เรื่องนี้ทำให้เขาทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง

กระบองทองคำในมือของฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งทรงพลังมากเกินไป

เปรี้ยง!

กระบองทองคำถูกฟาดเข้ามาอีกครั้ง พลังลมปราณจากตัวกระบองกระแทกเข้าใส่กระดิ่งทองคำอย่างแรง

เปรี๊ยะ!

กระดิ่งทองคำแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันถูกฉู่ชวิ๋นทำลายอย่างสมบูรณ์

เฮือก!

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 กระอักเลือดออกมาตามๆ กัน ใบหน้าของพวกเขาซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง

“ตายซะเถอะ!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามเสียงดังพร้อมกับฟาดกระบองทองคำลงไปที่ร่างของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 คนหนึ่ง

ผัวะ!

ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน จอมยุทธ์คนนั้นถูกกระบองฟาดเข้าไปจนร่างกายขาดครึ่งท่อน

“ฉู่ชวิ๋น แกอย่าอยู่อีกต่อไปเลย”

ลั่วเฟ่ยตะโกนเสียงดังกึกก้อง พร้อมกับโคจรพลังลมปราณน่าหวาดกลัว

ในเวลาเดียวกันนี้ บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 อีกหลายคนก็ถูกฉู่ชวิ๋นซัดพลังลมปราณเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง

ฉู่ชวิ๋นเหวี่ยงกระบองทองคำเป็นแนวขวาง กลายเป็นแสงสีทองพุ่งวาบออกไป

เปรี้ยง!

หลังจากนั้น เสียงระเบิดก็ดังไม่หยุด พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว เศษฝุ่นเศษหินดินทรายปลิวว่อนในอากาศ

ครืน!

พลัน ภูเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือน แผ่นดินยุบตัว ก้อนหินถล่ม ภูเขาที่ตั้งอยู่ข้างเคียงก็ตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกัน

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจ ตวัดกระบองในมือออกไปอีกครั้ง

ผัวะ!

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ยังไม่ทันจะได้ต่อสู้ ศีรษะก็ถูกกระบองฟาดจนแตกกระจายไปกับตา

แต่ขณะนั้นเอง ร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็กำลังสั่นสะเทือนตามพื้นดินที่สั่นไหว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพลังลมปราณของเขาแต่อย่างใด

ครืน!

ภูเขาทั้งลูกส่งเสียงแปลกประหลาด ผิวดินเกิดรอยแตกร้าวและเกิดเป็นลำแสงสว่างพุ่งออกมา ยิ่งเวลาผ่านไปแต่ละวินาที แสงสว่างก็ยิ่งแผดจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ

ฟรึบ!

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเรื่องการฆ่าพวกของลั่วเฟ่ยอีกแล้ว เขาหันหลังกลับและใช้วิชาตัวเบากระโดดมายืนอยู่บริเวณตีนเขาภายในพริบตา

ภูเขาลูกนี้มีบางอย่างผิดปกติ ฉู่ชวิ๋นรู้สึกได้ถึงอันตราย

พวกของลั่วเฟ่ยก็รู้สึกเช่นกันว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พวกเขาตัดสินใจมาตั้งหลักที่ตีนเขาเช่นกัน

ครืน!

ภูเขาทั้งลูกสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ราวกับสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ยักษ์กำลังตื่นขึ้นมาจากการจำศีลและเหมือนมันกำลังบิดขี้เกียจ

พื้นดินเกิดรอยแยกมากขึ้นและมากขึ้น แสงสีทองพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินสว่างไสว ในขณะที่ก้อนหินถล่มลงมาจากภูเขาและพื้นดินก็ทรุดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง

“ซากโบราณสถานเก่าแก่กำลังจะออกมาแล้ว” บรรดาจอมยุทธ์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่อุทานออกมาอย่างมีความสุข

“ซากโบราณสถานเก่าแก่ปรากฏตัวแล้ว นี่คือความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของจริง”

“ทุกคนรีบเข้าไปดูเร็ว ใครไปถึงเป็นคนแรกจะได้เป็นเจ้าของมัน”

กลุ่มจอมยุทธ์รีบวิ่งขึ้นเขาไปด้วยความตื่นเต้น

“ทุกคนกลับมาก่อน ภูเขาลูกนี้มันผิดปกติ” ฉู่ชวิ๋นตะโกนเตือนเสียงดังเหมือนเสียงฟ้าผ่า

แต่ถึงอย่างนั้น คำเตือนของฉู่ชวิ๋นก็ไม่อาจหักห้ามบรรดาจอมยุทธ์ที่กำลังตื่นเต้นได้ ทุกคนวิ่งขึ้นภูเขาไป ไม่รับฟังอะไรอีกแล้ว

หารู้ไม่ว่าบรรดาจอมยุทธ์ที่วิ่งขึ้นไปบนภูเขา ก็เป็นเสมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ภูเขาทั้งลูกส่องแสงสว่างจ้า กลุ่มจอมยุทธ์ไม่รู้ว่าควรจะวิ่งไปทางไหนดี

แล้วในทันใดนั้นเอง ภูเขาทั้งลูกก็ระเบิด !! แสงสีทองสาดกระจายปกคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตรไม่ว่าจะเป็นก้อนหินต้นไม้หรือผืนดินที่อยู่ในภูเขาลูกนี้ ต่างก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น

ทุกอย่างที่ถูกแสงสีทองส่องกระทบจะสูญสลายไปทันทีไม่มีทางขัดขืนได้เลย

“อ๊าก…”

เสียงร้องโหยหวนดังมาตามสายลม บรรดาจอมยุทธ์ที่วิ่งขึ้นไปบนภูเขานอนดิ้นทุรนทุรายจากฤทธิ์ของแสงสีทอง เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

แสงสีทองแผ่รัศมีเป็นวงกว้างครอบคลุมภูเขาอีกหลายลูก ก่อให้เกิดเหตุการณ์ก้อนหินถล่มแผ่นดินยุบตัวเสียงดังสนั่น

ส่วนกลุ่มจอมยุทธ์ที่ไม่ได้วิ่งขึ้นเขาไปก็ถึงกับตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ทุกคนได้แต่ล่าถอยพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก

“ฉู่ชวิ๋น แกจะยืนเฉยๆ อยู่ทำไม ไม่ไปช่วยคนหรือไง พ่อพระเอก?” ลั่วเฟ่ยที่ยืนอยู่ห่างไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรตะโกนใส่ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นรีบเข้าไปช่วยคนแล้วจริงๆ ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่บริเวณตีนเขา สร้างม่านพลังป้องกันจอมยุทธ์หลายร้อยคนที่กำลังวิ่งหลบหนีออกไปจากภูเขาไม่ให้ได้รับอันตราย

“อ่้าวๆ พ่อคนดี ฉู่ชวิ๋น ถ้าแกคิดว่าสามารถช่วยทุกคนได้ก็ลองดู” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ จับตัวจอมยุทธ์คนหนึ่งที่วิ่งผ่านหน้า โยนกลับไปทางภูเขาที่วิ่งหนีออกมา

ฉู่ชวิ๋นกระโดดมาทันที คว้าจับขาของจอมยุทธ์คนนั้นไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างจะลอยไปกระแทกกับตัวภูเขาอย่าหวุดหวิด

โชคดีที่ลำแสงสีทองจากตัวภูเขาพุ่งไปอีกทางหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคนคนนี้ก็คงไม่รอดชีวิตแล้ว

“ฉู่ชวิ๋น รับมือ !” เพียงพริบตาเดียว ลั่วเฟ่ยก็จับตัวจอมยุทธ์อีกหลายคน โยนกลับเข้าไปทางภูเขาอีกครั้ง

ครึ่งหนึ่งของภูเขาครอบคลุมไปด้วยลำแสงสีทอง กลุ่มจอมยุทธ์ที่ถูกโยนกลับเข้าไปส่งเสียงร้องด้วยความตื่นกลัว ถ้าร่างกายของพวกเขากระทบถูกแสงสีทองพวกนั้นเมื่อไหร่ อย่าหวังเลยว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้

ฉู่ชวิ๋นกระโดดไป ๆ มา ๆ อีกหลายครั้ง ทุกครั้งเขาสามารถช่วยชีวิตบรรดาจอมยุทธ์ที่ถูกโยนกลับเข้าไปได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด

“พวกเราร่วมมือกัน” ลั่วเฟ่ยออกคำสั่ง

ยังมีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 รอดชีวิตมาได้อีกหลายคน ทุกคนต่างก็พร้อมใจกันโคจรพลังลมปราณ ซัดบรรดาจอมยุทธ์ที่กำลังวิ่งหนี ให้ลอยกลับไปทางภูเขามรณะอีกครั้ง

พรึบ!

แน่นอนว่าฉู่ชวิ๋นกระโดดลอยตัวในอากาศไม่มีหยุด คว้าจับเอว แขน ขาและส่วนอื่นๆ ของจอมยุทธ์เท่าที่จะจับได้ เพื่อลากพวกเขากลับมาจากประตูนรกอย่างใจหายใจคว่ำ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉู่ชวิ๋น แกต้องรีบลงมือให้เร็วกว่านี้นะ ไม่งั้นเจ้าพวกนี้ได้ตายหมดแน่” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะอย่างป่าเถื่อน

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ที่เหลืออยู่ร่วมมือกับลั่วเฟ่ยซึ่งเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 4 ลงมือโจมตีพร้อมกัน จอมยุทธ์ทั่วไปไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้เลย ร่างของพวกเขาถูกโยนเข้าไปที่ภูเขาเหมือนกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง

วายร้ายกลุ่มนี้จับคนโยนกลับไปอย่างต่อเนื่อง จอมยุทธ์ผู้บริสุทธิ์จำนวนหลายร้อยคนกำลังจะกระแทกกับตัวภูเขาแล้ว

ฉู่ชวิ๋นหมุนมือเป็นวงกลมในอากาศ ปรากฏเส้นไหมสีขาวถักทอเป็นตาข่ายยักษ์ขึงอยู่ตรงกลางทาง ร่างของจอมยุทธ์ผู้บริสุทธิ์จึงลอยไปไม่ถึงตัวภูเขา เพราะติดอยู่ที่ตาข่ายไหมขาวเสียก่อน

ลั่วเฟ่ยกัดฟันกรอดด้วยความไม่ชอบใจ ไม่ว่าพวกเขาโยนจอมยุทธ์กลับไปเท่าไหร่ ทุกคนก็ไปติดอยู่ที่ตาข่ายทั้งหมด ไม่มีใครได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย

ฉู่ชวิ๋นเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้วก็พลันดีดตัวขึ้นกลางอากาศ และปล่อยหมัดออกมารัวๆ เพื่อโจมตีกลุ่มลั่วเฟ่ย

นินจาญี่ปุ่นคนหนึ่งชักดาบออกมา พร้อมกับพุ่งเข้ามาหมายจะเล่นงานเขา

ฉู่ชวิ๋นใช้กำปั้นของตัวเองต่อยดาบเข้าไปตรงๆ ทำให้ดาบเล่มนั้นแตกหัก

หลังจากนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ซัดกำปั้นอัดเข้าไปที่หน้าอกของนินจาญี่ปุ่น พร้อมกับโคจรพลังลมปราณจำแลงเต็มสูบ นินจาญี่ปุ่นคนนั้นลอยคว้างไปพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน ที่หน้าอกปรากฏเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากรูโหว่ขนาดเท่ากำปั้น ซึ่งทะลวงกระดูกทะลุไปจนถึงแผ่นหลังเลยทีเดียว

ผลั่ก!

พลังหมัดลมปราณจำแลงต่อยร่างของนินจาญี่ปุ่นจนระเบิดตัวแตกกระจายกลางอากาศ

ฉู่ชวิ๋นหันกลับมาและโจมตีเข้าใส่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 อีกคนหนึ่ง

ผลั่ก!

ชายคนนั้นกระอักเลือดในขณะที่ร่างลอยกระเด็นออกไป แขนหักงอผิดรูปร่าง

ลั่วเฟ่ยเคลื่อนไหวแล้ว โคจรพลังลมปราณเต็มอัตรา ก่อนที่จะประกบมือเข้าด้วยกัน แล้วคลื่นพลังก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา

ฉู่ชวิ๋นรัวสองกำปั้นตอบโต้กลับไปทันที

ตู้ม!

พลังลมปราณแผ่กระจายเป็นวงกว้าง บรรดาจอมยุทธ์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต่างก็โดนลูกหลงจนกระอักเลือดออกมาแล้ว

ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ที่เดิม สองเท้าของเขาหยัดยืนอย่างมั่นคง

ลั่วเฟ่ยถอยหลังไปไกล เท้าจมอยู่กับพื้นลากเป็นทางยาว แขนของเขาสั่นระริกในขณะที่เงยหน้ามองฉู่ชวิ๋นด้วยความหวาดกลัว

ฉู่ชวิ๋นกระโดดเข้ามา พร้อมกับเงื้อกำปั้นขึ้นสูงเตรียมจะต่อยเขา

ผลั่ก ผลั่ก!

มันเกิดกว่าคำว่าดุเดือด มันเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรง พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าพวกเขาแตกแยกออกจากกันราวกับภูเขาถล่ม

เฮือก!

ลั่วเฟ่ยกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ในขณะที่ร่างลอยกระเด็นไปไกล หลังจากที่ตกลงไปกระแทกพื้นแล้ว พื้นดินบริเวณนั้นแยกออกเป็นวงกว้าง !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 270 สมบัติสวรรค์

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 270 สมบัติสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 270 สมบัติสวรรค์

สายลมพัดแรง ก้อนเมฆเคลื่อนตัว

กระดิ่งทองคำเปล่งประกายภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด ม่านพลังลมปราณสีทองคำสว่างไสว เสียงท่องบทสวดมนต์ของนักบวชดังกึกก้อง

ไม่ว่าฟ้าจะผ่าลงมาที่ตัวกระดิ่งทองคำแรงสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ได้เลย

“ฉู่ชวิ๋น นี่คือสมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า แกไม่มีทางทำลายม่านพลังนี้ได้ วันนี้ปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของแก” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ

บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ก็ยิ้มออกมาพร้อม ๆ กัน

เปรี้ยง!

ฟ้าผ่าครั้งสุดท้ายฟาดประกายลงไปที่กระดิ่งทองคำ

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปร่งประกาย เขาโบกมือหนึ่งครั้ง ฟ้าร้องฟ้าผ่าก็หยุดลง พร้อมกับที่กลุ่มเมฆดำก็จางหายไป

ความเงียบทำให้เสียงของกระดิ่งทองคำดังกังวาลมากกว่าเดิม

มันคือสมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเกลียดชังมันตั้งแต่แรกเห็น เหตุผลก็คือ ก่อนหน้านี้เขาไม่ชอบพวกเทพเจ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เวลาที่เกิดปัญหา บรรดาเทพเจ้าจะหลบหน้าหลบตาและปล่อยให้กลุ่มนักพรตลงจากภูเขาไปช่วยเหลือมนุษย์แต่ในยามที่รุ่งเรือง กลุ่มนักพรตจะกลับขึ้นเขาไปจำศีลขณะที่บรรดาเทพเจ้าจะลงจากฟ้ามากอบโกยชื่อเสียงเงินทอง

3,000 ปีก่อน ฉู่ชวิ๋นต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเทพเจ้าเหล่านี้ แต่ในใจเขาหาได้มีความเคารพไม่ สำหรับมุมมองของฉู่ชวิ๋น สิ่งที่สำคัญที่สุดของเทพเจ้าเหล่านั้น ก็คือการหาชื่อเสียง เงินทองนั่นเอง

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ถ้าหากเขาได้กลับไปที่โลกนั้นอีกครั้ง รับรองว่าเทพเจ้าเหล่านี้ได้เจอหายนะแน่

ครั้งก่อน ฉู่ชวิ๋นเห็นมากับตาของตนเองว่ากลุ่มสาวกของเทพเจ้าเป็นพวกปากว่าตาขยิบตัวจริง นักบวชเหล่านั้นปากก็ท่องบ่นคำสอน แต่ในมือก็ใช้กระบองรังแกผู้อื่น

แล้ววันนี้ก็อย่างที่เห็น สมบัติสวรรค์ของเทพเจ้า กำลังคุ้มครองวายร้ายเหล่านี้อยู่

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกโกรธแค้นสุดหัวใจ

“ไม่ต้องมาแอบอ้างว่ามันเป็นสมบัติสวรรค์ มันก็แค่อาวุธชนิดหนึ่ง วันนี้ฉันจะเอาเลือดของพวกแกมาล้างภูเขาลูกนี้”

ฟรึบ!

ร่างกายของฉู่ชวิ๋นเปล่งแสงสว่างไสวแสงสว่างจ้าพุ่งออกมาจากทุกรูขุมขนที่อยู่บนร่างกาย พลังลมปราณไหลเวียนไปตามแขนและขา ในขณะที่หัวใจเต้นรัวเหมือนตีกลอง

“ตายซะเถอะ”

ฉู่ชวิ๋นรวบรวมพลังลมปราณมาที่มือของตนเอง สองกำปั้นของเขาเปร่งประกายเรืองรอง ยามที่ต่อยหมัดออกไปมาในอากาศ มวลพลังก็พวยพุ่งตรงเข้าไปหากระดิ่งทองคำลูกนั้น

เคล้ง!

เกิดเสียงสะท้อนดังกังวาลพร้อมกับซากโบราณสถานที่แสงสว่างเจิดจ้าและแล้วม่านพลังของกระดิ่งทองคำก็เกิดรอยปริแตกออกมา

ฉู่ชวิ๋นดวงตาเป็นประกายเย็นชา เขาหมุนตัวหนึ่งรอบ ก่อนที่จะต่อยหมัดปล่อยพลังออกไปอีกครั้ง

ม่านพลังของกระดิ่งทองคำสั่นไหว แรงกระแทกจากพลังลมปราณของ

ฉู่ชวิ๋นรุนแรงไม่ใช่น้อย ถึงมันจะยังคงส่องแสงสว่างแต่ตัวกระดิ่งทองคำก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว

วี้ด!

คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าพลันแผ่กระจายในอากาศ ก่อนที่แสงสีแดงจะสว่างวาบ

ทุกคนที่ถูกคลื่นเสียงเล่นงานจะรู้สึกเวียนศีรษะ ดวงตาพร่ามัว และมีใบหน้าหมองคล้ำ

ฉู่ชวิ๋นปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง เกิดเสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าคำราม พลังลมปราณจากกำปั้นของเขาพุ่งไปกระแทกกับตัวกระดิ่งทองคำอีกคำรบ

วี้ด!

เกิดเป็นพลังคลื่นเสียงสะท้อนกลับมาอีก ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นแหลกสลายภายในพริบตา

ผัวะ!

ฉู่ชวิ๋นรัวกำปั้นใส่อากาศ ก่อเกิดเป็นคลื่นเสียงแผ่กระจายและระเบิดออก

“รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ จอมมารฉู่” ในเวลาเดียวกันนี้ ลั่วเฟ่ยก็ยกมือขึ้นมาและปล่อยพลังลมปราณพุ่งตรงเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น

พลังลมปราณจากกำปั้นของฉู่ชวิ๋นที่ควรจะพุ่งเข้ามากระแทกกระดิ่งทองคำ ถูกพลังลมปราณของลั่วเฟ่ยปะทะเข้าโดยตรง จึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นพยายามจะซัดพลังใส่กระดิ่งทองคำอีกครั้ง สีหน้าของลั่วเฟ่ยก็เต็มไปด้วยความขบขันและดูถูก “เอาเลย ถ้ามีแรงอยู่ก็ซัดมาเลย”

สีหน้าของฉู่ชวิ๋นก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เขาพลิกฝ่ามือและเรียกกระบองหางมังกรออกมาใช้งาน แสงสีทองสว่างไสวออกจากตัวกระบอง และรวมตัวกันเป็นคลื่นลมปราณพุ่งเข้าใส่กระดิ่งทองคำของฝ่ายตรงข้าม

ย๊าก!

ฉู่ชวิ๋นสะบัดกระบองทองคำ หรือก็คือกระดูกส่วนหางของบรรพบุรุษมังกรทองคำ ใส่กระดิ่งทองคำอย่างแรง

เปรี้ยง!

กระดิ่งทองคำถึงกับสั่นสะเทือนอย่างหนักหน่วง ม่านพลังสีทองที่คอยป้องกันพวกของลั่วเฟ่ยสั่นไหวอย่างน่ากลัว รัศมีที่เป็นประกายจากตัวกระดิ่งทองคำก็หม่นหมองลงไปภายในพริบตา

ลั่วเฟ่ยแววตาเปลี่ยนไป พลังลมปราณที่ถ่ายเทเข้าไปสู่ตัวกระดิ่งทองคำแตกกระจาย ตัวกระดิ่งทองคำก็เริ่มเสื่อมอานุภาพลงเรื่อย ๆ

ย๊าก!

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวเข้าไปใช้กระบองทองคำฟาดลงไปบนกระดิ่งทองคำสุดแรงเกิด

เคล้ง!

แสงสว่างจากตัวกระดิ่งทองคำดับวูบลง ม่านพลังสีทองที่คอยคุ้มครองลั่วเฟ่ยก็กำลังเลือนลางลงเรื่อย ๆ

บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 กลับมามีสีหน้าตื่นกลัวอีกครั้ง กระดิ่งทองคำไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อีกแล้ว

“พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ” ลั่วเฟ่ยคำรามและพยายามถ่ายเทพลังลมปราณขึ้นไปที่กระดิ่งทองคำ

เหล่าบริวารที่ยังรอดชีวิตอยู่ไม่มีใครกล้าเชื่องช้า ต่างรีบถ่ายเทพลังลมปราณเข้าสู่กระดิ่งทองคำทันที

เสียงกระดิ่งดังกังวาลในอากาศ พร้อมกับเสียงท่องบทสวดมนต์ของบรรดาเทพเจ้า ม่านพลังสีทองคำกลับมากล้าแข็งอีกครั้ง ดูมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง กระบองทองคำในมือฟาดเข้าใส่ม่านพลังอย่างแรง

เปรี้ยง!

ประกายไฟสีทองสาดกระจาย ก่อเกิดเป็นมวลพลังงานสีแดงไหลเข้ามาห่อหุ้มกระบองทองคำ

ฉู่ชวิ๋นรีบกระชากมวลพลังงานสีแดงนั้นออกมาทันที

เปรี้ยง!

กระดิ่งทองคำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง พร้อมกับที่ม่านพลังซึ่งห่อหุ้มพวกของลั่วเฟ่ยอยู่ได้เปิดออกแล้ว

เปรี๊ยะ!

ชำรุดเสียหาย ตัวกระดิ่งทองคำเกิดรอยแตกร้าว ไม่สามารถรองรับพลังลมปราณได้อีก

“กระดิ่งทองคำจะระเบิดแล้ว” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ร้องอุทานออกมา

ลั่วเฟ่ยมีแววตาเศร้าหมองเล็กน้อย เขานำกระดิ่งทองคำนี้ออกมาจากกองสมบัติสวรรค์ กว่าจะครอบครองมาได้ก็เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งหลายรอบ แต่ขณะนี้กระดิ่งทองคำกลับถูกฉู่ชวิ๋นทำลายไปต่อหน้าต่อตา เรื่องนี้ทำให้เขาทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง

กระบองทองคำในมือของฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งทรงพลังมากเกินไป

เปรี้ยง!

กระบองทองคำถูกฟาดเข้ามาอีกครั้ง พลังลมปราณจากตัวกระบองกระแทกเข้าใส่กระดิ่งทองคำอย่างแรง

เปรี๊ยะ!

กระดิ่งทองคำแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันถูกฉู่ชวิ๋นทำลายอย่างสมบูรณ์

เฮือก!

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 กระอักเลือดออกมาตามๆ กัน ใบหน้าของพวกเขาซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง

“ตายซะเถอะ!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามเสียงดังพร้อมกับฟาดกระบองทองคำลงไปที่ร่างของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 คนหนึ่ง

ผัวะ!

ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน จอมยุทธ์คนนั้นถูกกระบองฟาดเข้าไปจนร่างกายขาดครึ่งท่อน

“ฉู่ชวิ๋น แกอย่าอยู่อีกต่อไปเลย”

ลั่วเฟ่ยตะโกนเสียงดังกึกก้อง พร้อมกับโคจรพลังลมปราณน่าหวาดกลัว

ในเวลาเดียวกันนี้ บรรดาจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 อีกหลายคนก็ถูกฉู่ชวิ๋นซัดพลังลมปราณเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง

ฉู่ชวิ๋นเหวี่ยงกระบองทองคำเป็นแนวขวาง กลายเป็นแสงสีทองพุ่งวาบออกไป

เปรี้ยง!

หลังจากนั้น เสียงระเบิดก็ดังไม่หยุด พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว เศษฝุ่นเศษหินดินทรายปลิวว่อนในอากาศ

ครืน!

พลัน ภูเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือน แผ่นดินยุบตัว ก้อนหินถล่ม ภูเขาที่ตั้งอยู่ข้างเคียงก็ตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกัน

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจ ตวัดกระบองในมือออกไปอีกครั้ง

ผัวะ!

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ยังไม่ทันจะได้ต่อสู้ ศีรษะก็ถูกกระบองฟาดจนแตกกระจายไปกับตา

แต่ขณะนั้นเอง ร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็กำลังสั่นสะเทือนตามพื้นดินที่สั่นไหว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพลังลมปราณของเขาแต่อย่างใด

ครืน!

ภูเขาทั้งลูกส่งเสียงแปลกประหลาด ผิวดินเกิดรอยแตกร้าวและเกิดเป็นลำแสงสว่างพุ่งออกมา ยิ่งเวลาผ่านไปแต่ละวินาที แสงสว่างก็ยิ่งแผดจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ

ฟรึบ!

ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเรื่องการฆ่าพวกของลั่วเฟ่ยอีกแล้ว เขาหันหลังกลับและใช้วิชาตัวเบากระโดดมายืนอยู่บริเวณตีนเขาภายในพริบตา

ภูเขาลูกนี้มีบางอย่างผิดปกติ ฉู่ชวิ๋นรู้สึกได้ถึงอันตราย

พวกของลั่วเฟ่ยก็รู้สึกเช่นกันว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พวกเขาตัดสินใจมาตั้งหลักที่ตีนเขาเช่นกัน

ครืน!

ภูเขาทั้งลูกสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง ราวกับสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ยักษ์กำลังตื่นขึ้นมาจากการจำศีลและเหมือนมันกำลังบิดขี้เกียจ

พื้นดินเกิดรอยแยกมากขึ้นและมากขึ้น แสงสีทองพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินสว่างไสว ในขณะที่ก้อนหินถล่มลงมาจากภูเขาและพื้นดินก็ทรุดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง

“ซากโบราณสถานเก่าแก่กำลังจะออกมาแล้ว” บรรดาจอมยุทธ์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่อุทานออกมาอย่างมีความสุข

“ซากโบราณสถานเก่าแก่ปรากฏตัวแล้ว นี่คือความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของจริง”

“ทุกคนรีบเข้าไปดูเร็ว ใครไปถึงเป็นคนแรกจะได้เป็นเจ้าของมัน”

กลุ่มจอมยุทธ์รีบวิ่งขึ้นเขาไปด้วยความตื่นเต้น

“ทุกคนกลับมาก่อน ภูเขาลูกนี้มันผิดปกติ” ฉู่ชวิ๋นตะโกนเตือนเสียงดังเหมือนเสียงฟ้าผ่า

แต่ถึงอย่างนั้น คำเตือนของฉู่ชวิ๋นก็ไม่อาจหักห้ามบรรดาจอมยุทธ์ที่กำลังตื่นเต้นได้ ทุกคนวิ่งขึ้นภูเขาไป ไม่รับฟังอะไรอีกแล้ว

หารู้ไม่ว่าบรรดาจอมยุทธ์ที่วิ่งขึ้นไปบนภูเขา ก็เป็นเสมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ภูเขาทั้งลูกส่องแสงสว่างจ้า กลุ่มจอมยุทธ์ไม่รู้ว่าควรจะวิ่งไปทางไหนดี

แล้วในทันใดนั้นเอง ภูเขาทั้งลูกก็ระเบิด !! แสงสีทองสาดกระจายปกคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตรไม่ว่าจะเป็นก้อนหินต้นไม้หรือผืนดินที่อยู่ในภูเขาลูกนี้ ต่างก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น

ทุกอย่างที่ถูกแสงสีทองส่องกระทบจะสูญสลายไปทันทีไม่มีทางขัดขืนได้เลย

“อ๊าก…”

เสียงร้องโหยหวนดังมาตามสายลม บรรดาจอมยุทธ์ที่วิ่งขึ้นไปบนภูเขานอนดิ้นทุรนทุรายจากฤทธิ์ของแสงสีทอง เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

แสงสีทองแผ่รัศมีเป็นวงกว้างครอบคลุมภูเขาอีกหลายลูก ก่อให้เกิดเหตุการณ์ก้อนหินถล่มแผ่นดินยุบตัวเสียงดังสนั่น

ส่วนกลุ่มจอมยุทธ์ที่ไม่ได้วิ่งขึ้นเขาไปก็ถึงกับตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ทุกคนได้แต่ล่าถอยพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก

“ฉู่ชวิ๋น แกจะยืนเฉยๆ อยู่ทำไม ไม่ไปช่วยคนหรือไง พ่อพระเอก?” ลั่วเฟ่ยที่ยืนอยู่ห่างไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรตะโกนใส่ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นรีบเข้าไปช่วยคนแล้วจริงๆ ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่บริเวณตีนเขา สร้างม่านพลังป้องกันจอมยุทธ์หลายร้อยคนที่กำลังวิ่งหลบหนีออกไปจากภูเขาไม่ให้ได้รับอันตราย

“อ่้าวๆ พ่อคนดี ฉู่ชวิ๋น ถ้าแกคิดว่าสามารถช่วยทุกคนได้ก็ลองดู” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะ จับตัวจอมยุทธ์คนหนึ่งที่วิ่งผ่านหน้า โยนกลับไปทางภูเขาที่วิ่งหนีออกมา

ฉู่ชวิ๋นกระโดดมาทันที คว้าจับขาของจอมยุทธ์คนนั้นไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างจะลอยไปกระแทกกับตัวภูเขาอย่าหวุดหวิด

โชคดีที่ลำแสงสีทองจากตัวภูเขาพุ่งไปอีกทางหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคนคนนี้ก็คงไม่รอดชีวิตแล้ว

“ฉู่ชวิ๋น รับมือ !” เพียงพริบตาเดียว ลั่วเฟ่ยก็จับตัวจอมยุทธ์อีกหลายคน โยนกลับเข้าไปทางภูเขาอีกครั้ง

ครึ่งหนึ่งของภูเขาครอบคลุมไปด้วยลำแสงสีทอง กลุ่มจอมยุทธ์ที่ถูกโยนกลับเข้าไปส่งเสียงร้องด้วยความตื่นกลัว ถ้าร่างกายของพวกเขากระทบถูกแสงสีทองพวกนั้นเมื่อไหร่ อย่าหวังเลยว่าจะรอดชีวิตกลับมาได้

ฉู่ชวิ๋นกระโดดไป ๆ มา ๆ อีกหลายครั้ง ทุกครั้งเขาสามารถช่วยชีวิตบรรดาจอมยุทธ์ที่ถูกโยนกลับเข้าไปได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด

“พวกเราร่วมมือกัน” ลั่วเฟ่ยออกคำสั่ง

ยังมีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 รอดชีวิตมาได้อีกหลายคน ทุกคนต่างก็พร้อมใจกันโคจรพลังลมปราณ ซัดบรรดาจอมยุทธ์ที่กำลังวิ่งหนี ให้ลอยกลับไปทางภูเขามรณะอีกครั้ง

พรึบ!

แน่นอนว่าฉู่ชวิ๋นกระโดดลอยตัวในอากาศไม่มีหยุด คว้าจับเอว แขน ขาและส่วนอื่นๆ ของจอมยุทธ์เท่าที่จะจับได้ เพื่อลากพวกเขากลับมาจากประตูนรกอย่างใจหายใจคว่ำ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉู่ชวิ๋น แกต้องรีบลงมือให้เร็วกว่านี้นะ ไม่งั้นเจ้าพวกนี้ได้ตายหมดแน่” ลั่วเฟ่ยระเบิดเสียงหัวเราะอย่างป่าเถื่อน

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ที่เหลืออยู่ร่วมมือกับลั่วเฟ่ยซึ่งเป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 4 ลงมือโจมตีพร้อมกัน จอมยุทธ์ทั่วไปไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้เลย ร่างของพวกเขาถูกโยนเข้าไปที่ภูเขาเหมือนกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง

วายร้ายกลุ่มนี้จับคนโยนกลับไปอย่างต่อเนื่อง จอมยุทธ์ผู้บริสุทธิ์จำนวนหลายร้อยคนกำลังจะกระแทกกับตัวภูเขาแล้ว

ฉู่ชวิ๋นหมุนมือเป็นวงกลมในอากาศ ปรากฏเส้นไหมสีขาวถักทอเป็นตาข่ายยักษ์ขึงอยู่ตรงกลางทาง ร่างของจอมยุทธ์ผู้บริสุทธิ์จึงลอยไปไม่ถึงตัวภูเขา เพราะติดอยู่ที่ตาข่ายไหมขาวเสียก่อน

ลั่วเฟ่ยกัดฟันกรอดด้วยความไม่ชอบใจ ไม่ว่าพวกเขาโยนจอมยุทธ์กลับไปเท่าไหร่ ทุกคนก็ไปติดอยู่ที่ตาข่ายทั้งหมด ไม่มีใครได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย

ฉู่ชวิ๋นเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้วก็พลันดีดตัวขึ้นกลางอากาศ และปล่อยหมัดออกมารัวๆ เพื่อโจมตีกลุ่มลั่วเฟ่ย

นินจาญี่ปุ่นคนหนึ่งชักดาบออกมา พร้อมกับพุ่งเข้ามาหมายจะเล่นงานเขา

ฉู่ชวิ๋นใช้กำปั้นของตัวเองต่อยดาบเข้าไปตรงๆ ทำให้ดาบเล่มนั้นแตกหัก

หลังจากนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ซัดกำปั้นอัดเข้าไปที่หน้าอกของนินจาญี่ปุ่น พร้อมกับโคจรพลังลมปราณจำแลงเต็มสูบ นินจาญี่ปุ่นคนนั้นลอยคว้างไปพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน ที่หน้าอกปรากฏเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากรูโหว่ขนาดเท่ากำปั้น ซึ่งทะลวงกระดูกทะลุไปจนถึงแผ่นหลังเลยทีเดียว

ผลั่ก!

พลังหมัดลมปราณจำแลงต่อยร่างของนินจาญี่ปุ่นจนระเบิดตัวแตกกระจายกลางอากาศ

ฉู่ชวิ๋นหันกลับมาและโจมตีเข้าใส่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 อีกคนหนึ่ง

ผลั่ก!

ชายคนนั้นกระอักเลือดในขณะที่ร่างลอยกระเด็นออกไป แขนหักงอผิดรูปร่าง

ลั่วเฟ่ยเคลื่อนไหวแล้ว โคจรพลังลมปราณเต็มอัตรา ก่อนที่จะประกบมือเข้าด้วยกัน แล้วคลื่นพลังก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา

ฉู่ชวิ๋นรัวสองกำปั้นตอบโต้กลับไปทันที

ตู้ม!

พลังลมปราณแผ่กระจายเป็นวงกว้าง บรรดาจอมยุทธ์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต่างก็โดนลูกหลงจนกระอักเลือดออกมาแล้ว

ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ที่เดิม สองเท้าของเขาหยัดยืนอย่างมั่นคง

ลั่วเฟ่ยถอยหลังไปไกล เท้าจมอยู่กับพื้นลากเป็นทางยาว แขนของเขาสั่นระริกในขณะที่เงยหน้ามองฉู่ชวิ๋นด้วยความหวาดกลัว

ฉู่ชวิ๋นกระโดดเข้ามา พร้อมกับเงื้อกำปั้นขึ้นสูงเตรียมจะต่อยเขา

ผลั่ก ผลั่ก!

มันเกิดกว่าคำว่าดุเดือด มันเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรง พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าพวกเขาแตกแยกออกจากกันราวกับภูเขาถล่ม

เฮือก!

ลั่วเฟ่ยกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ในขณะที่ร่างลอยกระเด็นไปไกล หลังจากที่ตกลงไปกระแทกพื้นแล้ว พื้นดินบริเวณนั้นแยกออกเป็นวงกว้าง !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+