จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 393 หมู่บ้านประหลาด

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 393 หมู่บ้านประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 393 หมู่บ้าน​ประหลาด​

ภูเขา​หลง​ฉี ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​รุด​มาที่นี่​ด้วย​ความเร็ว​ปาน​สายฟ้า​ฟาด​

เมื่อ​เข้าสู่​ที่พำนัก​ของ​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​แล้ว​ ชายหนุ่ม​ก็​พบ​ตา​เฒ่าอ๋า​ว​ที่​กำลัง​นั่ง​ตกปลา​อย่าง​สบายอารมณ์​ ฉู่ชวิ๋น​เดิน​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ตรง​เข้า​ไปหา​

“อย่า​ทำ​หน้า​แบบ​นั้น​สิ ข้า​ไม่มีของ​วิเศษ​ให้​เจ้าแล้ว​นะ​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​หันหน้า​มาชำเลือง​มอง​ ครั้งสุดท้าย​ที่​ฉู่ชวิ๋น​ทำ​หน้า​แบบนี้​ ชาย​ชรา​ต้อง​มอบ​ดาบ​เกล็ด​ทองคำ​ให้​เป็น​ของขวัญ​ปลอบใจ​

“คราวนี้​ผม​โกรธ​จริง ๆ​ แล้ว​นะ​” ฉู่ชวิ๋น​หยิบ​ก้อนหิน​ขึ้น​มาโยน​ลง​ไป​ใน​น้ำ​ ปลา​ที่​กำลังจะ​เข้ามา​กิน​เบ็ด​ว่าย​หนี​ไป​ แถมยัง​สะบัด​น้ำ​กระจาย​ขึ้น​มาเปียก​ตัว​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​เล็กน้อย​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​จ้องมอง​ชายหนุ่ม​ พูด​เสียง​เบา​ “บอก​มา โกรธ​เรื่อง​อะไร​?”

ฉู่ชวิ๋น​เห็น​ชาย​ชรา​ตอบรับ​แบบนี้​ ก็​รู้สึก​โล่งอก​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ “ตา​เฒ่าอ๋า​ว​ ผม​หายตัว​ไป​ 3 ปี​ ไม่คิด​เป็นห่วง​กัน​บ้าง​เลย​หรือไง​?”

“ข้า​ตรวจดู​ดวงชะตา​ของ​เจ้าแล้ว​ เจ้าไม่ใช่คน​อายุสั้น​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​กล่าว​หน้าตาเฉย​ ไม่รอ​ให้​ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​รับคำ​ใด​ ก็​พูด​ต่อ​ทันที​ว่า​ “ไปเที่ยว​ดินแดน​ของ​พวก​ปีศาจ​ทมิฬ​สนุก​ไหม​ล่ะ​?”

“คุณ​รู้​ด้วย​เหรอ​?” ฉู่ชวิ๋น​ประหลาดใจ​ไม่ใช่น้อย​

“เดา​เอา​น่ะ​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ตอบ​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ และ​หัน​สมาธิกลับ​ไป​จดจ่อ​ที่​การตกปลา​อีกครั้ง​ในขณะที่​กล่าว​อย่าง​เชื่องช้า​ว่า​ “เจ้าหาย​ไป​ใน​ดินแดน​พายัพ​ถึง 3 ปี​ ก็​คง​ต้อง​ไป​ติด​อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​พวก​ปีศาจ​ทมิฬ​อย่าง​เดียว​เท่า​นั้นแหละ​”

ฉู่ชวิ๋น​เตะ​ก้อนหิน​ลง​น้ำ​ไป​ด้วย​ความเคียดแค้น​อีกครั้ง​ น้ำ​สาด​กระจาย​ ผิวน้ำ​ไหว​กระเพื่อม​เป็น​ระลอกคลื่น​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​โยน​เบ็ด​ตกปลา​ทิ้ง​ไป​ สะบัด​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​ โต๊ะ​ม้าหิน​ชุด​หนึ่ง​ก็​มาปรากฏ​ขึ้น​ข้าง​กาย​พร้อมด้วย​ชุด​น้ำชา​พร้อม​ดื่ม​ ชาย​ชรา​บอก​ให้​ฉู่ชวิ๋น​นั่งลง​และ​กล่าวว่า​

“บอก​มาหน่อย​ซิ ดินแดน​ปีศาจ​ทมิฬ​เป็น​ยังไง​บ้าง​ ทำไม​เจ้าถึงไป​ติด​อยู่​ใน​นั้น​นาน​นัก​?” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ไต่ถาม​

ฉู่ชวิ๋น​นั่งลง​และ​เล่า​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ดินแดน​ปีศาจ​ทมิฬ​อีกครั้ง​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ “ที่​ที่​กาลเวลา​มีน้ำหนัก​ ยังมี​อยู่​อีก​หรือ​นี่​?”

ฉู่ชวิ๋น​มอง​ตาแข็ง​ พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​ว่า​ “อุตส่าห์​เล่า​มาตั้ง​นาน​ สนใจ​แต่​เรื่อง​เวลา​เนี่ย​นะ​”

“แล้​วจะ​ให้​สนใจ​อะไร​ล่ะ​?” ชาย​ชรา​ถามกลับมา​ทันที​

“ก็​เรื่อง​ที่​ผม​เกือบตาย​ไง” ฉู่ชวิ๋น​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​ความ​ฉุน​โกรธ​

“แล้ว​เจ้าตาย​หรือเปล่า​ละ​?”

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ทำให้​ฉู่ชวิ๋น​เกือบจะ​ต้อง​ทุบ​โต๊ะ​ พูด​ด้วย​ความ​ฉุนเฉียว​ “ผม​เป็น​แมว​เก้า​ชีวิต​ เข้าใจ​ไหม​?”

ชาย​ชรา​มองหน้า​ผู้​ที่นั่ง​อยู่​ฝั่งตรงข้าม​พร้อมกับ​ยิ้ม​กว้าง​ แต่​ฉู่ชวิ๋น​ยังคง​มีสีหน้าบูดบึ้ง​อยู่​เช่น​เดิม​

“บอก​มา เจ้าโกรธ​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่​?” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ถามด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​เย้ยหยัน​ “จักรพรรดิ​เซียน​ฉู่ชวิ๋น​ จักรพรรดิ​ผู้​บ้าเลือด​ อะไร​อีก​นะ​ฉายา​ขี้​โม้ ๆ ของ​เจ้า พวก​วายร้าย​ที่​เจ้าปลิดชีวิต​เป็น​ของปลอม​ทั้งหมด​หรือไง​? ความกล้าหาญ​ใน​การ​เป็น​จักรพรรดิ​ของ​เจ้าหาย​ไป​ไหน​หมด​แล้ว​?”

ฉู่ชวิ๋น​หน้า​แดงก่ำ​ แอบ​คิดในใจ​ว่า​ตา​เฒ่าคน​นี้​ชักจะ​พูด​แรง​มากขึ้น​ทุกที​ต่อให้​สนิทสนม​กัน​สัก​แค่​ไหน​ แต่​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ก็​ยัง​พูดจา​เหน็บแนม​เขา​ได้​เสมอ​

“ผม​อยากได้​หน่วย​รบ​มังกร​ทองคำ​กับ​หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​มาใช้งาน​หน่อย​” ฉู่ชวิ๋น​ไม่ยอม​เสียเวลา​อีกแล้ว​ รีบ​ตรง​เข้า​ประเด็น​ทันที​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​มองหน้า​เขา​อยู่​อึด​ใจใหญ่​ สุดท้าย​ก็​พูด​ “เจ้าหนู​หัวหน้า​หมายเลข​ 1 มัน​บอก​เจ้า?”

ฉู่ชวิ๋น​ส่ายหน้า​ ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​ห้วน​สั้น​ว่า​ “คิด​ว่า​ตัวเอง​เดา​เก่ง​คนเดียว​หรือไง​? ผม​ก็​เดา​เก่ง​เหมือนกัน​”

“ตามสบาย​ ถ้าอยากได้​ก็​เอา​ไป​สิ” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​

หา​?

ฉู่ชวิ๋น​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ เรื่อง​นี้​ง่ายดาย​มากเกินไป​ ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ขึ้น​มาชอบกล​ จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ไม่ใช่คน​ว่าง่าย​มาแต่ไหนแต่ไร​ ระหว่างทาง​มาที่นี่​ ฉู่ชวิ๋น​ต้อง​เตรียมตัว​เอาไว้​หลายอย่าง​ ด้วย​รู้สึก​ว่า​จะต้อง​มีการ​โต้แย้ง​อย่าง​หนักหน่วง​เกิดขึ้น​แน่นอน​

“ยอม​ยก​ให้​แบบนี้​ง่าย ๆ​ เลย​เหรอ​?” ฉู่ชวิ๋น​ไม่อยาก​เชื่อ​ รู้สึก​ว่า​ต้อง​มีอะไร​แอบแฝง​อยู่​แน่นอน​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​จ้องมอง​ตอบ​กลับมา​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ “ฉัน​กลัว​แก​จะเป็นบ้า​ขึ้น​มาน่ะ​สิ ขี้เกียจ​ปลอบ​เด็ก​งอแง​”

ฉู่ชวิ๋น​นิ่ง​คิด​อยู่​ครึ่ง​ค่อน​วันก่อน​จะเข้าใจ​สิ่งที่​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พูด​ ตาแก่​คน​นี้​กำลัง​กวนประสาท​เขา​อยู่​รึ​ไงนะ​?

“กลัว​ผม​เนี่ย​นะ​?” ฉู่ชวิ๋น​โพล่ง​ด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​ “คุณ​เป็น​พญา​มังกร​นะ​ ยัง​ต้อง​กลัว​อะไร​อีก​?”

ดวงตา​ของ​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​เป็นประกาย​ดุร้าย​ สอง​มือ​กำ​เป็น​หมัด​แน่น​

ฉู่ชวิ๋น​ตื่นตัว​ขึ้น​ทันที​ รีบ​พูด​ “ผม​จะบอก​ให้​ คนจริง​เขา​ไม่รังแก​คน​ที่​อ่อนแอ​กว่า​หรอก​นะ​”

“อ่อนหัด​!” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​เย้ยหยัน​

ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​เบื่อหน่าย​เหลือเกิน​ รอ​ให้​เขา​เลื่อน​ระดับ​พลัง​ได้​สูงมากกว่า​นี้​ก่อน​เถอะ​ สิ่งแรก​ที่​เขา​จะทำ​คือ​กลับมา​ตื้บ​ตาแก่​คน​นี้​ให้​น่วม​ไป​เลย​

“หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​กับ​มังกร​ทองคำ​อยู่​ที่ไหน​?” ฉู่ชวิ๋น​ถาม

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ตอบ​ว่า​ “หน่วย​รบ​มังกร​ทองคำ​ตอนนี้​ยัง​จำศีล​อยู่​ พวก​สัตว์ประหลาด​ยัง​ออกมา​ไม่เยอะ​มาก​เท่าที่ควร​ ตอนนี้​เจ้าเอา​หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​ไป​ก่อน​ก็แล้วกัน​”

“แล้ว​ตอนนี้​พวกเขา​อยู่​ที่ไหน​?” นี่​คือ​สิ่งที่​ฉู่ชวิ๋น​อยาก​จะรู้มาก​ที่สุด​

“ไม่รู้​เหมือนกัน​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบง่าย​ “วัน ๆ​ หนึ่ง​ข้า​ต้อง​ทำ​อะไร​ตั้ง​เยอะแยะ​ จะเอา​เวลา​ที่ไหน​มาสนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ข้า​ไม่มีเวลาว่าง​เหมือน​เจ้าหรอก​นะ​”

ฉู่ชวิ๋น​เหยียด​ยิ้ม​ “คุณ​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​กิน​ ดื่ม​ แล้วก็​ตกปลา​ล่ะ​สิ”

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ พูดว่า​ “ฉัน​เกิด​มาเพื่อ​ใช้ชีวิต​ให้​มีความสุข​ ใน​เมื่อ​เจ้าเข้าใจ​ดีแล้ว​ แล้​วจะ​มาโกรธ​ข้า​ได้​ยังไง​?”

ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​โกรธแค้น​ ตา​เฒ่าคน​นี้​ไร้ยางอาย​เกินไป​แล้ว​

“โดยที่​ไม่สนใจ​ใช่ไหม​ว่า​ผม​จะเป็น​หรือ​ตาย​ งั้น​เหรอ​?” ฉู่ชวิ๋น​ว่า​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พยักหน้า​อย่าง​แข็งขัน​

“ผม​ไม่อยาก​ทำหน้าที่​นี้​อีกต่อไป​แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​มาตั้ง​นาน​แล้ว​ว่า​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​เอาแต่​กิน​ ดื่ม​ แล้ว​นั่ง​ตกปลา​ ไม่ได้​ทำหน้าที่​ปกป้อง​โลก​มนุษย์​อย่าง​ที่​ควร​ทำ​เลย​

“แล้ว​แก​จะไม่ทำได้​หรือไง​” ชาย​ชรา​ตอบ​กลับมา​อย่าง​ไม่สนใจ​แม้แต่น้อย​ “ที่​แก​ขึ้นไป​พูด​บน​เวที​มอบ​เหรียญรางวัล​ มัน​สุดยอด​มาก​เลย​นะ​ ขนาด​ฉัน​ไม่ใช่พวก​มนุษย์​กลายพันธุ์​พวก​นั้น​ ยัง​อด​รู้สึก​หมั่นไส้​แก​ไม่ได้​เลย​”

ฉู่ชวิ๋น​จ้องมอง​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ด้วย​แววตา​เศร้าซึม​ “ไม่เอา​แล้ว​ ผม​ไม่อยาก​รับหน้าที่​นี้​อีกแล้ว​ ผม​จะกลับ​ไป​รวบรวม​กำลังคน​ของ​วัง​มังกร​เพลิง​กับ​ภูเขา​เฉียน​หลง​เข้าด้วยกัน​ แล้ว​ผม​จะขอ​ใช้ชีวิต​อย่าง​มีความสุข​บ้าง​ล่ะ​”

“งั้น​ข้า​จะบอก​วิธี​สลาย​ค่าย​กล​ภูเขา​เฉียน​หลง​ให้​พวก​มนุษย์​กลายพันธุ์​รู้​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พูด​ขึ้น​มาดื้อ​ ๆ

ฉู่ชวิ๋น​เบิก​ตาโต​ “นี่​คุณ​กำลัง​ขู่​ผม​?”

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​มองหน้า​นิ่ง​ ก่อน​ผงกศีรษะ​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​

ฉู่ชวิ๋น​โกรธ​จน​ไม่รู้​จะโกรธ​ยังไง​อีกแล้ว​ “พวก​มัน​กล้า​มาไหม​ล่ะ​? คิด​ว่า​ผม​กลัว​พวก​มัน​หรือไง​?”

“ข้า​จะเปิด​ค่าย​กล​ภูเขา​เฉียน​หลง​ให้​ด้วย​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ว่า​

ฉู่ชวิ๋น​เชิดหน้า​ขึ้น​ ทำไม​ตาแก่​คน​นี้​ถึงได้​ไร้ยางอาย​ขนาด​นี้​นะ​?

“งั้น​ผม​จะบอก​คน​ทั้งโลก​ว่า​คุณ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ภูเขา​หลง​ฉี” ฉู่ชวิ๋น​ไม่ยอมแพ้​ง่าย ๆ​

“ก็​เอา​สิ!” ชาย​ชรา​ยก​น้ำชา​ขึ้น​จิบ​ พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “พวก​มัน​ไม่กล้า​มาทำ​อะไร​ข้า​หรอก​ ดีดนิ้ว​ทีเดียว​ก็​ตาย​หมด​แล้ว​”

“ตา​เฒ่าร้อยเล่ห์​ แบบนี้​มัน​มากเกินไป​แล้ว​นะ​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​อย่าง​เดือด​จัด​

“แล้ว​จะทำไม​ แค่​หายใจ​ทีเดียว​ ข้า​ก็​ส่งแก​กลับ​ไป​อยู่​ใน​ท้อง​แม่ได้​แล้ว​”

“ผม…”​ ฉู่ชวิ๋น​โกรธ​จน​พูด​อะไร​ไม่ออก​อีกแล้ว​

“ถ้าเจ้าไม่อยาก​โดน​แบบ​นั้น​ ก็​จงทำ​ตามที่​ข้า​สั่งและ​ต้อง​เคารพ​ผู้สูงอายุ​ให้​มัน​มากกว่า​นี้​หน่อย​ ไม่งั้น​อีกหน่อย​เจ้าได้​เดือดร้อน​แน่​ ๆ” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พูด​อย่าง​วางอำนาจ​

ฉู่ชวิ๋น​ได้​แต่​ต้อง​กล้ำกลืน​ฝืนทน​ข่ม​ความ​เจ็บแค้น​เอาไว้​อย่าง​ไม่มีทางเลือก​ “ฝาก​เอาไว้​ก่อน​เถอะ​”

“ด้วยความยินดี​” ชาย​ชรา​ตอบ​กลับมา​อย่าง​ไม่แยแส​

“เลิก​พูดจา​ไร้สาระ​ได้​แล้ว​ บอก​ผม​มาว่า​หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​อยู่​ที่ไหน​?” ฉู่ชวิ๋น​ไม่อยาก​พูดคุย​กับ​ชาย​ชรา​อีกแล้ว​ ยิ่ง​พูด​ก็​ยิ่ง​เจ็บใจ​

จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ลุกขึ้น​ยืน​ โบกสะบัด​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​ พายุ​ลม​หมุน​ก็​ห่อหุ้ม​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​หาย​ลับ​ไป​จาก​ริมน้ำ​

ไม่นาน​หลังจากนั้น​ สอง​บุรุษ​ต่างวัย​ก็​มาปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​หุบเขา​ที่​มีหมอก​หนา​แห่ง​หนึ่ง​

“ที่นี่​มัน​ที่ไหน​กัน​?” ฉู่ชวิ๋น​กวาดสายตา​มอง​รอบตัว​ พบ​เจอ​แต่​ผืนป่า​และ​ภูเขา​เขียว​ครึ้ม​

“ปักกิ่ง​”

ฉู่ชวิ๋น​ไม่อยาก​เชื่อ​ “ปักกิ่ง​มีที่​แบบนี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​?”

“ยัง​ไม่รู้ตัว​อีก​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​มองหน้า​ชายหนุ่ม​ด้วย​ความ​เหนื่อยใจ​ ก่อน​จะโยน​เศษก้อนหิน​มาให้​หนึ่ง​ชิ้น​ “ข้า​มาส่งเจ้าแค่​นี้แหละ​ ต่อจากนี้​ช่วยเหลือ​ตัวเอง​ก็แล้วกัน​”

“คุณ​จะไม่เข้าไป​กับ​ผม​จริง​สิ?” ฉู่ชวิ๋น​ถาม

“ต้อง​รอ​ให้​ข้า​เอา​อาหาร​มาป้อน​ใส่ปาก​ให้​ด้วย​ไหม​ ทำ​อะไร​เอง​บ้าง​?” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​มอง​ค้อน​

“งั้น​หา​ไกด์​นำทาง​ให้​ผม​สัก​คน​ได้​ไหม​ ขืน​ผม​เดิน​ดุ่ม ๆ​ เข้าไป​แบบนี้​ มีหวัง​ได้​โดน​เจ้าถิ่น​รุม​กระทืบ​ตาย​กัน​พอดี​”

“ฝีมือ​อย่าง​เจ้ายัง​จะกลัว​อะไร​อีก​” จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​พูด​จบ​ ร่าง​ก็​หายวับ​ไป​กลางอากาศ​

ฉู่ชวิ๋น​ได้​แต่​รำพึง​อะไร​บางอย่าง​ออกมา​อีก​สอง​สามคำ​ หลังจากนั้น​ก็​เดินลง​ไป​ตาม​เนินเขา​ มุ่งหน้า​เข้าไป​สู่ช่องแคบ​ที่​แยก​เทือกเขา​ออก​เป็น​สอง​ฝั่ง

ที่​ปาก​ทางเข้า​ช่องแคบ​ มีค่าย​กล​ที่​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​กั้น​เอาไว้​ หลังจากที่​ฉู่ชวิ๋นยก​เศษก้อนหิน​ขึ้น​หมุน​กลางอากาศ​ เขา​ก็​สามารถ​เดิน​ทะลุ​เข้าไป​ด้านใน​ค่าย​กล​ได้​อย่าง​ไม่มีปัญหา​

เศษก้อนหิน​ใน​มือ​เป็น​เหมือน​กุญแจ​เปิด​ประตู​มิติ​ที่​สำคัญ​มาก​ ถ้าเขา​ไม่มีมัน​อยู่​ติดตัว​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​คงจะ​ต้อง​โดน​ค่าย​กล​สังหาร​เสียชีวิต​ไป​แล้ว​ เนื่องจาก​ไม่เคย​มีใคร​รอดชีวิต​จาก​ค่าย​กล​ของ​จักรพรรดิ​อ๋า​วฮวง​ได้มา​ก่อน​

เมื่อ​เดิน​เข้าไป​ด้านใน​ค่าย​กล​แล้ว​ บรรยากาศ​รอบข้าง​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที​ ท้องฟ้า​เป็น​สีฟ้าสดใส​ ภูเขา​เขียวขจี​ มีแม่น้ำ​ชุ่มฉ่ำ ดอกไม้​บานสะพรั่ง​อยู่​ทุกหนทุกแห่ง​ พูด​ง่าย ๆ​ ที่นี่​ราวกับ​เป็น​สรวงสวรรค์​

ฉู่ชวิ๋น​เงยหน้า​มอง​ไป​บน​ยอดเขา​ อด​รู้สึก​หวาดระแวง​ขึ้น​มาไม่ได้​

ไม่ไกล​ออก​ไป​นัก​ มีหมู่​บ้านเล็ก​ ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​ความเงียบสงบ​สุข​ มีควัน​จาก​กองไฟ​ลอย​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ มีกลุ่ม​เด็ก​กำลัง​วิ่งเล่น​ไล่​จับ​กัน​อยู่​บริเวณ​หน้า​ทางเข้า​หมู่บ้าน​

นี่​มัน​…ฉู่ชวิ๋น​ไม่เข้าใจ​เลย​จริง ๆ​ สถานที่​แห่ง​นี้​มัน​ช่างห่างไกล​จาก​สิ่งที่​เขา​เคย​จินตนาการ​เอาไว้​มากมาย​หลายเท่า​

หน่วย​รบ​มังกร​เงิน​ตามที่​ชายหนุ่ม​คิด​เอาไว้​ น่าจะเป็น​กลุ่มคน​ที่​มีอายุ​หลาย​ร้อย​ปี​ เข้ามา​หลบ​ซ่อนตัว​ใน​ป่า​ลึก​เพื่อ​ฝึก​วิชา​อย่าง​มุ่งมั่น​

แต่​หมู่บ้าน​ที่​เงียบสงบ​แห่ง​นี้​มัน​คือ​อะไร​กัน​?

หรือว่า​ตาแก่​อ๋า​วฮวง​จะเล่นตลก​กับ​เขา​อีกแล้ว​?

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ตรง​ไป​ยัง​หมู่บ้าน​ประหลาด​แห่ง​นั้น​

หมู่บ้าน​อยู่​ไม่ไกล​ก็​จริง​ แต่​ใน​ความรู้สึก​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ มัน​เหมือนกับ​ห่างไกล​หลาย​ร้อย​กิโลเมตร​

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ไป​ได้​สักพัก​ ทันใดนั้น​เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​การต่อสู้​ดัง​ขึ้น​ เสียง​นั้น​ดัง​อยู่​ไม่ไกล​สัก​เท่าไหร่​ ฉู่ชวิ๋น​จึงเดิน​ลัด​เข้าไป​ใน​ภูเขา​ และ​พบ​แหล่งที่มา​ของ​เสียง​การต่อสู้​นั้น​แล้ว​

ชายหนุ่ม​อด​ประหลาดใจ​อีกครั้ง​ไม่ได้​

เด็กชาย​สามคน​ที่​มีอายุ​ไม่เกิน​ 12 ขวบ​ สวมใส่​ผ้า​เนื้อ​หยาบ​ กำลัง​ต่อสู้​กับ​วัว​กระทิง​ตัว​หนึ่ง​ด้วย​มือเปล่า​

วัว​กระทิง​ตัว​นี้​มีความ​ยาว​ของ​ลำตัว​ราว​สี่เมตร​ มีความสูง​ประมาณ​หก​เมตร​ ขา​แต่ละ​ข้าง​เหมือนกับ​เสาหิน​ขนาดใหญ่​ เขา​ทั้งสอง​ข้าง​ยาว​ข้าง​ละ​สอง​เมตร​ มีความ​แหลมคม​เหมือน​ใบ​ดาบ​ ส่องแสง​เป็นประกาย​สีขาว​แวววาว​

วัว​กระทิง​ตัว​นี้​มีพลัง​ระดับ​จักรพรรดิ​ขั้น​ที่​ 3

เด็กชาย​คน​ที่อยู่​ด้านหน้า​สุด​หมุนตัว​ตีลังกา​กลางอากาศ​สูงขึ้นไป​ประมาณ​ 10 เมตร​ ก่อนที่จะ​กระโดด​ขึ้น​ขี่​บน​หลัง​วัว​กระทิง​ได้​อย่าง​พอดิบพอดี​ แล้ว​กำปั้น​ของ​เด็กชาย​ก็​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​เมื่อ​เขา​กระแทก​หมัด​ใส่แผ่น​หลัง​ของ​วัว​กระทิง​สุด​แรง​

ฉู่ชวิ๋น​มองดู​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ที่แท้​เด็กชาย​คน​นี้​ก็​ฝึก​วิทยา​ยุทธ์​เช่นกัน​ และ​น่าจะ​มีพลัง​ไม่ต่ำกว่า​ระดับ​จักรพรรดิ​อย่าง​แน่นอน​

ความจริง​แล้ว​ หมัด​ของ​เด็กชาย​ไม่สามารถ​ทำอันตราย​วัว​กระทิง​ได้​เลย​ มีแต่​จะทำให้​มัน​บ้าคลั่ง​มากขึ้น​เท่านั้น​ มัน​ตะกุย​ขา​ทั้ง​สี่ข้าง​วิ่ง​เข้าหา​กลุ่ม​เด็กชาย​ที่​เหลืออยู่​พร้อมด้วย​แรง​ชน​นับ​หมื่น​ปอนด์​

“เร็ว​เข้า​ รีบ​โยน​บ่วง​ไป​เร็ว​” เด็กชาย​คน​หนึ่ง​ร้อง​ตะโกน​พร้อมกับ​โยน​บ่วง​เถาวัลย์​คล้อง​ไป​ที่​เขา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​วัว​กระทิง​

เด็กชาย​ผู้​เป็นเพื่อน​อีก​คน​ก็​โยน​บ่วง​เถาวัลย์​คล้อง​เขา​อีก​ข้าง​ของ​วัว​กระทิง​เช่นกัน​

เด็กชาย​ทั้งสอง​คน​นี้​โคจร​พลัง​ลมปราณ​ พยายาม​ฉุด​รั้ง​ไม่ให้​วัว​กระทิง​วิ่งหนี​ไป​ แต่​ผล​ที่​ได้​ก็​คือ​พวกเขา​กลับ​ถูก​มัน​ลากถูลู่ถูกัง​ไป​ตาม​พื้นดิน​

ฉู่ชวิ๋น​รับ​ชมเหตุการณ์​แล้วก็​เกือบจะ​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​กลั้น​ไม่อยู่​ เด็กชาย​ทั้ง​สามคน​นี้​กำลัง​ทำ​สิ่งที่​เย้ย​ชะตา​ฟ้าดิน​ พวกเขา​ไม่มีทาง​เอาชนะ​วัว​กระทิง​ตัว​นี้​ได้​เลย​

วัว​กระทิง​ขึ้น​ชื่อเรื่อง​พละกำลัง​มหาศาล​มาแต่ไหนแต่ไร​ การต่อสู้​กับ​มัน​ เรียก​ได้​ว่า​เป็นการ​รนหาที่​ตาย​

“เสี่ยว​ฉี กระโดด​หนี​มาเร็ว​ กระทิง​ตัว​นี้​แข็งแกร่ง​เกินไป​ เรา​เอา​มัน​ไม่อยู่​แน่​” เด็กชาย​ทั้งสอง​คน​ร้อง​ประสานเสียง​ในขณะที่​ถูกลาก​ไป​ตาม​พื้นดิน​

เด็กชาย​คน​ที่​ขี่​บน​หลัง​วัว​กระทิง​ใช้มือ​กำ​เส้น​ขน​บน​ตัว​ของ​มัน​แน่น​ ดวงตา​ของ​เขา​เป็นประกาย​แวววาว​ ก่อนที่​วัว​กระทิง​ตัว​นั้น​จะวิ่ง​ชน​ก้อนหิน​ใหญ่​ เขา​ก็​กระโดด​หนี​ออกมา​ได้​อย่าง​ทันท่วงที​

โครม​!

แรง​กระแทก​นับ​หมื่น​ปอนด์​ทำให้​ก้อนหิน​ใหญ่​ก้อน​นั้น​แตก​กระจาย​ไม่เหลือ​ชิ้น​ดี​

วัว​กระทิง​ยืน​งงอยู่กับที่​ ร่างกาย​ใหญ่​ยักษ์​ของ​มัน​โอนเอน​ไปมา​เหมือน​คน​ที่​ร่ำสุรา​มากเกินไป​

มอ​ออ​!

มัน​คำราม​เสียงดัง​เหมือน​ฟ้าผ่า​

เจ้าวัว​กระทิง​ยักษ์​หันหน้า​มา ดวงตา​สีแดงก่ำ​ของ​มัน​จ้องมอง​เขม็ง​มาที่​กลุ่ม​เด็กชาย​ พลัน​ สี่เท้า​ของ​มัน​ตะกุย​พื้นดิน​ซึ่งสั่นสะเทือน​ทันที​ เขา​แหลม​ของ​มัน​เป็นประกาย​ส่อง​แสงสว่าง​ในขณะที่​พุ่งตรง​เข้า​ไปหา​เด็กชาย​คน​หนึ่ง​

“เสี่ยว​ฉี ช่วย​ฉัน​ด้วย​” เด็กชาย​ผู้​เป็น​เป้าหมาย​เห็น​ดังนั้น​ก็​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความ​ตื่นกลัว​ มือ​โยน​บ่วง​เถาวัลย์​ออก​ไป​ เด็กชาย​ที่​กระโดด​ลง​มาจาก​หลัง​วัว​กระทิง​ลุกขึ้น​รับ​บ่วง​เถาวัลย์​เอาไว้​ แล้ว​ออกแรง​กระชาก​ตัว​เพื่อน​สุดแรงเกิด​

ครืน​!

พื้นดิน​สั่นสะเทือน​ ต้นไม้​สี่ถึงห้า​ต้น​ถูก​วัว​กระทิง​ชน​ล้มระเนระนาด​ เวลา​ต้นไม้​เหล่านั้น​ล้ม​ลง​กระแทก​พื้น​จะส่งเสียงดัง​สนั่นหวั่นไหว​

“พวกเรา​รีบ​หนี​ กระทิง​ตัว​นี้​แข็งแกร่ง​มากเกินไป​ พวกเรา​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​มัน​” เด็กชาย​อีก​คน​หนึ่ง​พูด​

“ไม่ได้​ ฉัน​สัญญากับ​เธอ​เอาไว้​แล้ว​ว่า​วันเกิด​ปี​นี้​ ฉัน​จะมอบ​รองเท้าหนัง​วัว​ให้​เป็น​ของขวัญ​” เด็กชาย​ที่​ชื่อ​เสี่ยว​ฉีปฏิเสธ​การ​ถอนกำลัง​

ครืน​!

วัว​กระทิง​ไล่กวด​เข้ามา​ด้วย​ขา​ทั้ง​สี่ข้าง​ พื้นดิน​สะเทือน​เหมือน​เกิดเหตุ​แผ่นดินไหว​ มัน​พุ่งตรง​เข้า​ไปหา​เด็กชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ เสียงดัง​น่ากลัว​เป็น​อย่างยิ่ง​

“เสี่ยว​ผี​ รีบ​หนี​ไป​” เสี่ยว​ฉีร้อง​ตะโกน​

เด็กชาย​ผู้​มีนาม​ว่า​เสี่ยว​ผี​รีบ​กระโดด​ไป​ข้างทาง​ สามารถ​หลีกเลี่ยง​การปะทะ​จาก​วัว​กระทิง​ยักษ์​ได้​อย่าง​หวุดหวิด​ แต่​ในขณะที่​เจ้าวัว​กระทิง​พุ่ง​เฉียด​ร่าง​ของ​เขา​ไป​นั้น​เอง​ สิ่งที่​ไม่น่าเชื่อ​ก็​เกิดขึ้น​

หาง​วัว​กระทิง​ตวัด​วาบ​เหมือน​แส้สายฟ้า​ฟาด​เข้าใส่​ร่าง​ของ​เด็กชาย​ผู้เคราะห์ร้าย​คน​นั้น​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด