ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) 65

Now you are reading ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) Chapter 65 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หาเรื่องขายหน้า

 

แฮกแมปเหรอ

คำกล่าวหาของจางเฉิงห่าวนี้ทำให้เหออวี้ไร้คำบรรยายจริง ๆ เขาหันหน้าไปมองเกาเกอ เห็นเธอมองดูจางเฉิงห่าวอย่างเหยียดหยามแล้วว่า “เกมแพ้คนไม่แพ้หรือไง”

“เธอว่าไงนะ” จางเฉิงห่าวยังโกรธแค้น แต่ว่าแม้แต่เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ด้านข้างของเขาต่างก็ก้มหน้าก้มตากันไปหมดแล้วตอนนี้ ดูเหมือนว่าอยากจะหาหลุมมุดลงไป เห็นจางเฉิงห่าวยังไม่ยอมปล่อยวางสู่ไคหวยที่อยู่ติดกับเขาก็ดึงเสื้อเขามา พอจางเฉิงห่าวเดินไปหาแล้วก็กระซิบขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “นั่นเกาเกอนะ!”

“แล้วไง ฉันกลัวเขาหรือไง” จางเฉิงห่าวยังคงหน้าบูดบึ้ง หันไปกราดมองเกาเกออย่างท้าทาย

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” สู่ไคหวยอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา จางเฉิงห่าวตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสูญเสียเหตุผลไปหมดสิ้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่สู่ไคหวยก็ทำได้เพียงแสดงการยอมรับเกาเกอต่อหน้าผู้คน “อย่างเกาเกอให้ไปโกงเกมเนี่ย นายคิดว่าเป็นไปได้เหรอ”

“ใครจะรู้ล่ะ” จางฉฺงห่าวยังคงปากแข็ง แต่เห็นได้ชัดว่าเสียงที่กล่าวออกมาไม่ได้ดังแบบเดิมอีกแล้ว สุดท้ายก็ชี้นิ้วไปที่เหออวี้อีกครั้งหาความชอบธรรมกลับมา “อย่าว่าแต่ฉันกำลังพูดถึงเขา”

“ผมมีอะไรน่าสงสัยเหรอครับ” เหออวี้พูดไม่ออก เขาไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตัวเองทำอะไรที่ทำให้คนรู้สึกสงสัย ขนาดที่สงสัยว่าเขาแฮกแมปเลยเนี่ยนะ

“ยิงมาได้แม่นขนาดนั้น แม้แต่ที่ฉันอยู่ในพุ่มก็รู้ ไม่ได้เปิดแฮกแล้วจะเป็นอะไร” จางเฉิงห่าวว่าอย่างเชื่อมั่นในเหตุผลของตัวเองเต็มที่

“การไปล้อมคิลคนที่จะไปที่ป้อมจากพุ่มนั่นไม่ใช่เรื่องที่ปกติมากหรอกเหรอครับ” เหออวี้พูด

จางเฉิงห่าวพูดไม่ออกทันที แต่ว่าก็รีบกล่าวอีกครั้งว่า “พุ่มให้ซ่อนโจมตีมีตั้งมากมาย ไม่เห็นว่านายจะยิงไปที่อื่นแต่แค่ยิงตรงที่มีเพื่อนร่วมทีมนายผ่านมาเนี่ยนะ”

พอคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาก็ทำให้เหออวี้ทำสีหน้าแปลกประหลาด เพื่อนร่วมทีมทั้งสี่คนของจางเฉิงห่าวต่างก็มีสีหน้าว่าทนฟังไม่ได้เหมือนกัน ที่ปิดหน้าก็ปิดหน้า ที่ก้มหน้าก็ก้มหน้า สู่ไคหวยที่อยู่ข้างเขาก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง แต่ว่าหลังจากลังเลแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ดึงจางเฉิงห่าวมาแล้วเลือกที่จะเอาไปปิดหน้าแทน

เห็นจางเฉิงห่าวเหมือนว่าจะคิดไม่ได้จริง ๆ เหออวี้ก็ได้แต่อธิบายให้เขาฟัง “ก็เพราะว่ามีเพื่อนร่วมทีมเดินผ่านผมก็เลยต้องร่วมมือกับเขา…”

“ขอบใจนะ!” จ้าวจิ้นหรานหันไปกล่าวกับเหออวี้ด้วยรอยยิ้ม เนื่องจากการสนับสนุนครั้งนี้ทำให้เขามีความรู้สึกที่ดีต่อ platinum ตัวเล็ก ๆ คนนี้ขึ้นอย่างมากมาย

“สมควรอยู่แล้วครับ” เหออวี้ก็รีบตอบกลับถ้อยคำเป็นมิตรของเพื่อนร่วมทีม

ตอนนี้จางเฉิงห่าวก็สติกลับคืนร่างแล้ว เมื้อกี้ตัวเองเพิ่งพูดงี่เง่าอะไรไปเนี่ย อะไรคือทำไมไม่ไปยิงที่อื่นแต่มายิงแค่ตรงที่มีเพื่อนร่วมทีม…นี่มันไม่ใช่เรื่องปัญญาอ่อนหรอกหรือ

เขาก้มศีรษะลงต่ำเล็กน้อย ผลก็คือกวาดตามองโทรศัพท์มือถือแค่ครั้งเดียวก็โกรธขึ้นมาอีกแล้ว “นายยังดันป้อมอยู่อีกเหรอ??”

เหออวี้รีบวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วมองไปทางซ้ายทางขวาอย่างกลัว ๆ “ตอนนี้เล่นไม่ได้เหรอครับ”

ไม่ใช่ว่าพอจางเฉิงห่าวออกมาตั้งคำถามแล้วเกมก็จะถูกกรรมการบังคับหยุดไปได้ ดังนั้นเหออวี้จึงทางหนึ่งก็พูดกับอีกฝ่าย อีกทางหนึ่งก็ยังเล่นเกมต่อ เดินนำครีปไปดันป้อมสองของเลนกลางแตกจนไปถึงป้อมใน ขั้นต่อไปก็คือก็ตีฐานให้แตกเป็นอันจบเกมแล้ว

“ถามกรรมการสิ” เกาเกอตีบอลกลับไปหากรรมการ

กรรมการตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือก เขาหันไปมองพวกนักกีฬาหวงเฉากล่าวว่า “งั้นเอาเป็นแบบนี้เถอะนะ” ในฐานะสมาชิกชมรม The Kings ด้านอารมณ์ความรู้สึกแล้วเขาเข้าข้างหวงเฉา แต่ว่าคำกล่าวหาสมองเสื่อมของจางเฉิงห่าวก็ทำให้คนไม่อาจยอมรับได้จริง ๆ ที่เขาพูดออกมานี่ก็ถือได้ว่าหาทางลงให้หวงเฉาพอดูแล้ว

อีกสี่คนที่เหลือต่างก็ไม่ส่งเสียง แต่ว่าจางเฉิงห่าวกลับกระโดดขึ้นมาร้องตะโกนอีกครั้งว่า “อะไรคือเอาแบบนี้หะ ไอ้หมอนี่เอาเวลานอกมารีบดันฐานพวกเราจนจะแตกอยู่แล้วนะ!”

“หยุดเกมเพียงแค่พูดกันปากเปล่าคนก็ต้องหยุดเล่น ไม่ได้เป็นเหมือนกับการแข่งขันอาชีพที่ระบบจะหยุดเกมให้ชั่วคราวเหรอครับ” ทางด้านนี้เหออวี้ก็กระซิบถามเพื่อนร่วมทีมเสียงเบา ๆ

“แน่นอนว่าไม่ ก็ต้องให้ระบบหยุดเกมเหมือนกัน” เสียงที่เกาเกอตอบกลับเขามาค่อนข้างดัง

กรรมการได้ยินแล้วก็รู้ว่านี่เป็นการพูดให้เขาฟัง ในใจก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดไป ไม่มีวิธีการควบคุมสถานการณ์ที่ดี ทำอะไรไม่ถูก มองไปทางจางเฉิงห่าวอย่างอารมณ์เสียขั้นสุดว่า “เอางี้ ตอนนี้ฉันจะหยุดเกมก่อน เดี๋ยวไปหาประธานให้เขามาตัดสินแล้วกัน!”

พูดแล้วก็ไม่ดูว่าจางเฉิงห่าวจะมีปฏิกิริยาอย่างไรแล้วกดหยุดเกม จากนั้นก็เดินออกไปโทรศัพท์ทางด้านข้าง

ใบหน้าของจางเฉิงห่าวขุ่นมัวและไม่มั่นใจ เปิดปากอย่างจะพูดอะไรสักอย่าง ผลก็คือกรรมการหันหลังให้และไม่เหลือบมองเขาเลยสักนิดเดียว หลังจากขยับปากไปมาแล้วสุดท้ายก็นั่งไม่ลง พอหันไปมองทางซ้ายทางขวาก็พบว่าเพื่อนร่วมทีมอีกสี่คนพากันหลบตาเป็นบ้าเป็นหลัง

“ประธานกำลังจะมาแล้ว” หลังจากกรรมการโทรศัพท์เสร็จก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า พอประกาศผลลัพธ์แล้วก็ไปยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าเย็นชา ท่าทางบอกว่าจะไม่พูดกับใครทั้งนั้น

ด้านหวงเฉาจางเฉิงห่าวนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเบลอ ๆ อีกสี่คนที่เหลือได้แต่มองตากันไปมา ใจทราบดีว่าการแข่งขันวันนี้เรียกได้ว่าหาเรื่องขายหน้า คนก็แพ้เกมก็แพ้ ตอนนี้รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่ได้ขัดขวางจางเฉิงห่าวเอาไว้สุดกำลัง แต่ว่ากันตามตรงแล้วพวกเขาก็ไม่คาดเหมือนกันว่าจางเฉิงห่าวจะสติแตกถึงขั้นสมองเสื่อมแบบนี้ กรรมการเองก็เป็นสมาชิกของชมรม เรื่องอารมณ์เข้าข้างพวกเขาก็ได้เห็นเหมือนกัน ถ้าจะจบการแข่งขันลงทันทีโดยไม่ต้องชี้ถูกชี้ผิดสำหรับพวกเขาแล้วก็จะทำให้หลีกเลี่ยงเรื่องขายหน้าไปได้มาก แต่เจ้าจางเฉิงห่าวบ้านั้นกลับสมองเสื่อมครั้งแล้วครั้งเล่า ดึงดันเอาเรื่องจนถึงขั้นเสียผู้เสียคน ตอนนี้ยังมีหนทางแก้ไขสถานการณ์ได้ไหมนะ ในขณะที่ทั้งสี่คนต่างยังครุ่นคิดอยู่ประธานของชมรม The Kings ซูเก๋อก็ได้ผ่านเข้ามาในคลองสายตาของพวกเขาแล้ว มาถึงได้รวดเร็วเหนือความคาดหมายจริง ๆ

“ประธานมาเร็วจัง” หลังจากกรรรมการเห็นแล้วก็เข้าไปทักอย่างประหลาดใจ

“เรื่องเป็นมายังไง” ซูเก๋อรีบเดินเข้ามาถามตรง ๆ

กรรมการพูดอธิบายโน่นนี่นั่น เขาที่เดิมที่เข้าข้างหวงเฉาพอเจอความสมองเสื่อมของจางเฉิงห่าวกวนเข้ามาก ๆ ก็เลยไม่ไว้หน้าพวกหวงเฉาอีก ซูเก๋อทางหนึ่งฟังทางหนึ่งก็มองหน้าผู้เล่นทั้งสองฝ่าย จางเฉิงห่าวมีสีหน้าเซื่องซึมเหมือนเดิม อีกสี่คนต่างก็อิหลักอิเหลื่อ ฝ่ายของคลื่น7 เกาเกอนั่งกอดอกยู่ตรงนั่นมองดูคู่ต่อสู้โดยไม่เหลือบแลไปทางอื่น ไม่สนใจการมาถึงของซูเก๋อ แต่เหออวี้กับโจวม่อต่างก็จ้องมองดูเขา ดูเหมือนจะคาดหวังให้ผลลัพธ์รีบ ๆ ออกมาสักที อีกสองคนซูเก๋อไม่รู้จัก ถ้าเป็นตามปกติของคลื่น7 แล้วก็คงเป็นตัวสำรองที่ดึงออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้อีกแล้ว ทั้งสองคนคนหนึ่งดูสีหน้าท่าทีตื่นเต้นมาก นั่นก็คือจ้าวจิ้นหรานที่เล่นได้อย่างเหนือฟอร์มปกติ ส่วนอีกคนมีท่าทางไม่ใส่ใจ ดูเหมือนว่าจะหงุดหงิดกับการหยุดชะงักตอนนี้

หลังจากซูเก๋อฟังคำอธิบายจากกรรมการแล้วก็มองดูสถานการณ์ในปัจจุบันอีกครั้งแล้วสุดท้ายก็หันไปมองพวกหวงเฉาว่า “พวกนายว่าควรจะทำยังไง”

สี่คนหันไปมองจางเฉิงห่าวพร้อมกัน ผลปรากฏว่าเจ้านี่ตอนนี้ซึมกะทือ หลังจากถูกซูเก๋อถามแล้วก็พึมพำงึมงำอยู่ครึ่งค่อนวันไม่ยอมพูดอะไรที่ฟังรู้เรื่อง

“งั้นก็ตัดสินให้พวกเขาแพ้ไปแล้วกัน” ซูเก๋อก็สรุปให้อย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมา

จางเฉิงห่าวเหมือนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากะทันหัน อยู่ดี ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมา พวกหวงเฉาทั้งสี่คนก็เรียนรู้จากกระสบการณ์ในอดีต คราวนี้ไม่กล้าปล่อยปละละเลยอีก ต่างพากันดึง ๆ ดัน ๆ ห้อมล้อมจางเฉิงห่าวจนมิด

กรรมการไหนเลยจะยังสนอกสนใจอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาอีก พอได้ยินคำสั่งของซูเก๋อแล้วก็จบเกมนี้ทันที ประกาศว่าคลื่น7 ชนะ

“นี่จบแล้วเหรอ” จ้าวจิ้นหรานยังคงต้องการจะทำการสังหารหมู่ต่อไปอีก เขาแสดงออกถึงถึงความขุ่นเคืองในคำตัดสินครั้งนี้มาก

ส่วนจางเฉิงห่าวตอนนี้ก็สติหลุดลอยไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ดูเหมือนกับไก่ชนที่สู้แพ้ตัวหนึ่ง เหมือนคนที่จมน้ำตาย

“ทั้งสองฝ่ายที่เกมจบแล้วก็ขอเชิญออกไปจากสนามด้วยครับ” กรรมการประกาศขึ้นมา

พวกคลื่น7 ทั้งห้าคนลุกขึ้น ไม่ได้ไปกล่าวขอบคุณตามมารยาทอะไรกับพวกหวงเฉาก็เดินออกจากจากสนามแข่งขัน ที่เหนือคาดคือซูเก๋อที่หลังจากตัดสินผลการแข่งขันด้านนี้แล้วก็จากไปทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ

พวกคลื่น7 ทั้งห้าที่จบการแข่งขันแล้วมองตามเงาหลังเขาไป เขาเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็เข้าไปในสนามแข่งอีกแห่งหนึ่ง แต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้มาจัดการอะไรแต่ตรงดิ่งไปยังตำแหน่งที่ว่างอยู่ของผู้แข่งขันด้านหนึ่ง และทั้งสองด้านของตำแหน่งนั้นก็มีอีกสี่คนที่กำลังคร่ำเคร่งกับการเล่นเกมอยู่

“นี่มัน…” โจวม่อมองอึ้ง ๆ เหออวี้กับเกาเกอที่เดินตามมาหันไปมองหน้ากัน ทั้งสามคนรีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ อย่างรู้ใจกัน ได้ยินซูเก๋อถามเพื่อนร่วมทีมของเขาว่า “เป็นไง”

“นายมาช้าอีกหน่อยก็จะพลาดการเล่นขั้นสุดยอดของฉันแล้ว” เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ด้านข้างของเขากล่าว เหออวี้จำได้ราง ๆ ว่าเป็นหนึ่งในสี่คนที่ฟอร์มทีมร่วมกันกับเขาวันนั้น เพียงแต่จำไม่ได้ว่าเป็นไอดีไหน

มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขา ห้าคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของ Suger ตอนนี้สีหน้าทั้งจนใจทั้งสิ้นหวัง ไม่รอให้พวกเหออวี้เข้าไปใกล้ทั้งห้าคนก็พากันดึงหูฟังออกมาและลุกขึ้นยืนแล้ว

เห็นได้ชัดว่าการแข่งขันจบลงแล้ว ซูเก๋อที่กลับมานั่งที่ก้นยังไม่ทันร้อนก็ต้องลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันตรงกลางสนามแข่งขัน

“โทษทีนะ เมื่อกี้มีเรื่องต้องรีบไป” ซูเก๋อพูดกับทั้งห้าคน

“นั่นถือว่าได้ประโยชน์แล้ว มีอะไรให้ขอโทษกันล่ะ…” กัปตันของทางนี้จนใจสุด ๆ

“โชคร้ายจริง ๆ รอบแรกก็มาเจอพวกนาย” มีสมาชิกบ่นออกมา

ซูเก๋อยิ้ม ๆ ไม่พูดมากความ สายตาของเขาหันไปมองพวกคลื่น7 ที่กำลังเดินผ่านสนามแข่งแวบหนึ่งแล้วพยักหน้าให้พวกเขา

……………………………………………………………….

 

บอสใหญ่ อยู่คนละสาย คงได้เจอรอบชิงแน่ ๆ อะนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด