สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

สตรีในหมู่บ้านช่วยเก็บกวาดข้าวของ เมื่อมีหลายคนช่วยกันเช่นนี้ การทำความสะอาดจึงไม่ยากนัก ไม่นานก็เก็บเสร็จอย่างรวดเร็ว

“สะใภ้อี้ โต๊ะที่เจ้าใช้วันนี้ช่างกลมดีจริง ทั้งยังหมุนได้อีกด้วย ใช้สะดวกจริง ๆ อยากกินอะไรก็หมุนมาได้ อาหารอยู่ตรงไหนล้วนกินได้หมด”

“ใช่แล้ว ท่านอยากซื้อหรือไม่? ถ้าท่านเอาไม้มาเอง ข้าคิดแค่ค่าฝีมือ โต๊ะหนึ่งตัว 100 อีแปะ” มู่ซืออวี่เอ่ยยิ้ม ๆ

“ฮ่า ๆ ข้าแค่พูดเรื่อยเปื่อยไปน่ะ” หญิงนางนั้นหน้าเจื่อนทันที

มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ ไม่เปิดโปงเรื่องที่อีกฝ่ายคิดจะเอาเปรียบ

หญิงออกเรือนคนอื่น ๆ ล้วนเข้าใจความหมายของมู่ซืออวี่ ดูเหมือนหากคิดจะฉวยประโยชน์จากนางคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คิดอยากได้ของจากบ้านนางก็ย่อมได้ แต่เจ้าจะได้ในสิ่งที่เจ้าจ่าย ไม่เช่นนั้นผู้ใดก็อย่าได้แม้แต่จะคิด

“พี่สะใภ้อี้” จางโม่หลานเดินเช็ดไม้เช็ดมือออกมา “ข้างในเรียบร้อยแล้ว”

“ขอบคุณเจ้ามากนะ โม่หลาน” มู่ซืออวี่กล่าว “รอข้าสักประเดี๋ยว…”

ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่ซืออวี่ก็ออกมาจากข้างในพร้อมผ้าในมือ “นี่เหลือจากที่ทำเสื้อผ้าของเด็ก ๆ ในครอบครัวเรา เอาไปทำเสื้อผ้าชั้นในให้เด็กได้พอดี เจ้าดูว่าใช้ได้หรือไม่”

“ใช้ได้ เหมาะกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” เหยาซื่อเดินเข้ามาหยิบไปจากมือของมู่ซืออวี่ “เจ้านี่คิดรอบคอบจริงเชียว”

“ป้าเหยา สะใภ้บ้านพวกท่านมีลูกแล้วหรือ?” หญิงออกเรือนที่อยู่ข้าง ๆ ประหลาดใจ

เหยาซื่อพยักหน้าด้วยความภูมิใจ “ใช่แล้ว สามเดือนแล้ว”

“โอ้ ยินดีด้วย ๆ”

“ความสัมพันธ์ของพวกท่านสองครอบครัวคงดีมาก พวกเรายังไม่รู้ ภรรยาลู่อี้กลับรู้ก่อนแล้ว”

“ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกนาง แต่นางเอาใจใส่น่ะ ก็เลยสังเกตเห็นด้วยตนเอง” เหยาซื่อหันมาเอ่ยถาม “ใช่หรือไม่ล่ะ?”

“ใช่แล้ว” มู่ซืออวี่ยิ้ม “ครั้งก่อนข้าเห็นโม่หลานอาเจียน ตอนแรกก็แค่สงสัย แต่เมื่อครู่ข้าเห็นนางระมัดระวังตรงท้องเป็นพิเศษ มักจะวางมือไว้บนท้องบ่อย ๆ นี่ย่อมเป็นสัญชาตญาณต้องการปกป้อง ข้าเลยเดาว่าโม่หลานอาจจะท้อง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าผ้าที่บ้านข้า นางอาจจะใช้ได้ ป้าเหยาชอบก็ดีแล้ว แต่ถ้าไม่ชอบก็ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าก็ไม่ให้แล้ว”

“ผู้ใดไม่ชอบ? ผู้ใดจะไม่ชอบกัน? เสื้อบนตัวของเด็กบ้านเจ้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะซื้อได้ มีของถูกไม่รีบคว้าไว้ก็เป็นไข่ตะพาบ*[1] สิ!” เหยาซื่อกล่าวเกินจริง

คนอื่น ๆ หัวเราะครื้นเครงไปตาม ๆ กัน

ถึงแม้จะเป็นถ้อยคำหยาบคาย แต่บางครั้งหากเอ่ยออกมาก็อาจทำให้ผู้คนผ่อนคลายมีความสุข

“พี่สะใภ้อี้ สามีของท่านดื่มมากไป ข้าเอาเขาไปหย่อนไว้ข้างในนะ!” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้ามา

“จะเอาเข้าไปข้างในทำไม? เอาไปโยนไว้ในบ้านเสี่ยวเฮยนู่น” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยความโมโห

“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นท่านมาทำเองเถิด ข้าไม่กล้า เดี๋ยวพี่อี้จะตีข้าเอา” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้าไปในห้อง

คนอื่นค่อย ๆ ทยอยกลับไปแล้ว ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือนั้นใช้เวลาไม่นานก็เก็บจนเสร็จเรียบร้อย

“ท่านแม่ ท่านนั่งลงสักหน่อย” มู่ซืออวี่พยุงถงซื่อ

“มีอะไรหรือ?” ถงซื่องุนงง

“ท่านปวดหลังใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นมา “เมื่อครู่นี้ข้าเห็นท่านชะงักไปครู่หนึ่ง”

“ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ก็ตามประสาคนแก่น่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” ถงซื่ออยากจะลุกขึ้น ทว่าทันใดนั้นก็ต้องส่งเสียงสูดปากออกมา ตามมาด้วยความเจ็บปวดบนใบหน้า

“หานเอ๋อร์!” มู่ซืออวี่ร้องเรียกมู่เจิ้งหาน

มู่เจิ้งหานออกมาจากห้องของฉาวอวี่ “ท่านพี่ ข้าอยู่นี่”

“เจ้าไปเชิญท่านหมอจูมาดูอาการท่านแม่ให้ที”

“ท่านแม่เป็นอะไรหรือ?”

“ปวดหลังน่ะ”

“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

ถงซื่อพยายามเกลี้ยกล่อมว่าตนไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายก็ทนการรบเร้าของลูกชายและลูกสาวไม่ได้ ทำได้เพียงยอมรับแต่โดยดี

“วันนี้ทุกคนยุ่งอยู่กับการรับรองแขก ไม่ได้ดูแลเด็ก ๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาได้กินอะไรหรือยัง” ถงซื่อกล่าว

“เด็ก ๆ โตขนาดนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงพวกเขา”

มู่ซืออวี่ก็ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ขอของกินไปทำอะไร เพียงแต่ไม่อยากบอกถงซื่อ เดี๋ยวมารดาจะเสียดายเนื้อและเครื่องปรุงเสียเปล่า

“ท่านแม่ ห้องข้าง ๆ สองห้องเป็นห้องของท่านกับหานเอ๋อร์ พวกท่านจะมาตอนไหนก็ได้” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าจะพาท่านเข้าไปนอนสักพัก จะได้สบายขึ้นสักหน่อย”

“อย่าเลย ข้าเลอะไปทั้งตัว อย่าทำให้ห้องดี ๆ ต้องสกปรก” ถงซื่อยับยั้งชั่งใจ

“ข้าบอกแล้วว่านี่เป็นห้องที่เตรียมไว้ให้ท่าน ห้องข้าง ๆ ก็เป็นห้องหานเอ๋อร์” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “หานเอ๋อร์อยู่ที่นี่เขียนอะไรก็สะดวก ไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่เขยได้”

ครั้นถงซื่อนอนลงบนเตียงก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผ้าห่มผืนใหม่ นางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย

วันเช่นนี้ช่างดีจริง ๆ

ชีวิตนี้ของนางคุ้มแล้ว

มู่ซืออวี่เข้ามาในห้องครัว นางใช้ของที่เตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำน้ำแกงสร่างเมา

นางเข้ามาในห้องของตนพร้อมกับน้ำแกงสร่างเมา แล้วจึงวางถ้วยแกงไว้บนตู้ข้าง ๆ จากนั้นก็แตะ ๆ คนที่นอนอยู่ตรงนั้น

“ลู่อี้ ซดน้ำแกงสร่างเมาเสียหน่อย”

“อืม…”

ลู่อี้พลิกตัวกลับมา

มู่ซืออวี่นั่งอยู่ข้างเตียง เขย่าร่างเขาแรงกว่าเดิม “ลู่อี้ ลุกขึ้นมาดื่มน้ำแกงสักหน่อย ฟังข้าสิ”

ลู่อี้ลุกขึ้นนั่งอย่างปุบปับ ดวงตาคู่สวยจ้องมองนางอย่างเงียบ ๆ

มู่ซืออวี่ “…”

ถึงตอนนี้ นางสัมผัสได้ถึงอันตรายขึ้นมา

“นั่น….”

ก่อนที่นางจะพูดจบ ลู่อี้ก็เข้ามากอด ทั้งยังกระซิบแผ่วเบาข้างหู “อย่าเสียงดัง ข้าปวดหัว…”

ลมอุ่น ๆ ที่พัดผ่านใบหูทั้งชวนให้จั๊กจี้และร้อนผ่าว ทำให้นางอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว

นางนั่งแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ลมหายใจพลันถี่กระชั้น หัวใจเต้นระรัว

ลู่อี้ปล่อยนางแล้วนอนลงไปอีกครั้ง

มู่ซืออวี่ “…”

ช่างเถอะ! คุยกับคนเมาอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง หากไม่ดื่มน้ำแกงก็ช่างปะไร

เมื่อท่านหมอจูมาถึง เขาได้ตรวจดูอาการถงซื่อ จากนั้นจึงสั่งยากอเอี๊ยะ*[2] ให้

“กอเอี๊ยะใช้ทาภายนอก ใช้หนึ่งแผ่นต่อวัน ให้ใช้ขณะนอนหลับ” หลังจากท่านหมอจูกล่าวจบก็มองมู่ซืออวี่อย่างคับข้องใจ “พวกเจ้าขึ้นบ้านใหม่ เหตุใดไม่เชิญข้า?”

“เข้าใจผิดแล้ว ท่านหมอจู พวกเราไปหาท่านแล้ว แต่ท่านไม่อยู่บ้าน” มู่เจิ้งหานที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “เมื่อวานไปหาหนึ่งครั้ง วันนี้ก็ไปหาอีกหนึ่งครั้ง”

“ข้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร เพิ่งกลับมาวันนี้ตอนบ่าย ๆ เอง” ท่านหมอจูเกาหัวแกรก ๆ “ไม่สนล่ะ ข้าไม่ได้กิน พวกเจ้าต้องชดใช้ให้ข้า”

“ได้เลย พ่อของเด็ก ๆ ยังมีวันหยุดเหลืออีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ขอเชิญท่านหมอจูมาทานอาหารง่าย ๆ สักมื้อนะ” มู่ซืออวี่หัวเราะ

“เช่นนี้ย่อมได้ พรุ่งนี้ข้าจะต้องมาแน่นอน เจ้าเตรียมให้พร้อมล่ะ!” ท่านหมอจูกล่าวจบแล้วก็กลับไป

“หานเอ๋อร์” มู่ซืออวี่เรียกมู่เจิ้งหานเอาไว้ “น้องสามีข้าดูเหมือนจะดื่มสุราไปหนึ่งจอก ข้าไม่สะดวกเข้าห้องไปดูเขา เจ้าเข้าไปดูหน่อยว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง หากตื่นแล้วก็ให้เขาดื่มน้ำแกงสร่างเมา”

มู่เจิ้งหานรับคำแล้วเข้าไปดูลู่เซวียน

มู่ซืออวี่แปะแผ่นกอเอี๊ยะให้ถงซื่อ จากนั้นก็นวดไหล่และคอให้อีกครั้ง

“เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไม่ต้องสนใจข้าแล้ว”

“ท่านเป็นแม่ของข้า หากข้าไม่สนใจท่านแล้วใครจะสนใจท่าน? ดูสิ ท่านยังไม่ถึงสี่สิบ ร่างกายกลับมีอาการของคนแก่แทบทุกอย่างเสียแล้ว ข้าเห็นแล้วปวดใจจริงเชียว” มู่ซืออวี่กล่าว “อย่าขยับ ข้าจะนวดให้ท่านดี ๆ”

ดวงตาของถงซื่อแดงก่ำ “แม่มีความสุขมาก มีลูก ๆ ที่ดีเช่นนี้ ความทุกข์ยากที่ได้รับแต่ก่อนก็ไม่นับเป็นอันใดแล้ว”

“ท่านกับหานเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านแล้ว เพราะหานเอ๋อร์จะไม่ถูกกักขังอยู่ที่เล็ก ๆ แห่งนี้ สักวันเขาจะพาท่านไปมีชีวิตที่ดี ๆ ท่านต้องรักษาร่างกายตัวเองให้ดี ภายหน้ายังต้องช่วยเขาเลี้ยงลูกอีก”

“ได้ ๆ” ถงซื่อลูบหลังมือบุตรสาวเบา ๆ “แม่ก็อยากดูแลลูกให้เจ้าเช่นกัน เจ้ากับลูกเขยยอดเยี่ยมเช่นนี้ คลอดออกมาอีกสักสองสามคนก็ได้ แม่ยังไม่ชรา จะช่วยพวกเจ้าดูแลเอง”

มู่ซืออวี่ “…”

นางลืมไปเสียสนิท

ต่อจากนี้นางกับลู่อี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้!

[1] มีของถูกไม่รีบคว้าไว้ก็เป็นไข่ตะพาบ หมายถึง หากได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องเสียแม้แต่สตางค์แดงเดียว หากไม่รับไว้ก็นับว่าโง่แล้ว

[2] กอเอี๊ยะ คือยาจีนแผนโบราณชนิดหนึ่ง ใช้ทาภายนอก ในสมัยโบราณจะต้มน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์จนได้เป็นของเหลวคล้ายวุ้น จากนั้นทาลงบนผ้า กระดาษ หรือหนัง แปะบริเวณที่มีอาการ ใช้รักษาฝี ช่วยลดอาการปวดบวม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

บทที่ 169 สามีเจ้าเมาหนักแล้ว

สตรีในหมู่บ้านช่วยเก็บกวาดข้าวของ เมื่อมีหลายคนช่วยกันเช่นนี้ การทำความสะอาดจึงไม่ยากนัก ไม่นานก็เก็บเสร็จอย่างรวดเร็ว

“สะใภ้อี้ โต๊ะที่เจ้าใช้วันนี้ช่างกลมดีจริง ทั้งยังหมุนได้อีกด้วย ใช้สะดวกจริง ๆ อยากกินอะไรก็หมุนมาได้ อาหารอยู่ตรงไหนล้วนกินได้หมด”

“ใช่แล้ว ท่านอยากซื้อหรือไม่? ถ้าท่านเอาไม้มาเอง ข้าคิดแค่ค่าฝีมือ โต๊ะหนึ่งตัว 100 อีแปะ” มู่ซืออวี่เอ่ยยิ้ม ๆ

“ฮ่า ๆ ข้าแค่พูดเรื่อยเปื่อยไปน่ะ” หญิงนางนั้นหน้าเจื่อนทันที

มู่ซืออวี่ยิ้มบาง ๆ ไม่เปิดโปงเรื่องที่อีกฝ่ายคิดจะเอาเปรียบ

หญิงออกเรือนคนอื่น ๆ ล้วนเข้าใจความหมายของมู่ซืออวี่ ดูเหมือนหากคิดจะฉวยประโยชน์จากนางคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คิดอยากได้ของจากบ้านนางก็ย่อมได้ แต่เจ้าจะได้ในสิ่งที่เจ้าจ่าย ไม่เช่นนั้นผู้ใดก็อย่าได้แม้แต่จะคิด

“พี่สะใภ้อี้” จางโม่หลานเดินเช็ดไม้เช็ดมือออกมา “ข้างในเรียบร้อยแล้ว”

“ขอบคุณเจ้ามากนะ โม่หลาน” มู่ซืออวี่กล่าว “รอข้าสักประเดี๋ยว…”

ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่ซืออวี่ก็ออกมาจากข้างในพร้อมผ้าในมือ “นี่เหลือจากที่ทำเสื้อผ้าของเด็ก ๆ ในครอบครัวเรา เอาไปทำเสื้อผ้าชั้นในให้เด็กได้พอดี เจ้าดูว่าใช้ได้หรือไม่”

“ใช้ได้ เหมาะกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” เหยาซื่อเดินเข้ามาหยิบไปจากมือของมู่ซืออวี่ “เจ้านี่คิดรอบคอบจริงเชียว”

“ป้าเหยา สะใภ้บ้านพวกท่านมีลูกแล้วหรือ?” หญิงออกเรือนที่อยู่ข้าง ๆ ประหลาดใจ

เหยาซื่อพยักหน้าด้วยความภูมิใจ “ใช่แล้ว สามเดือนแล้ว”

“โอ้ ยินดีด้วย ๆ”

“ความสัมพันธ์ของพวกท่านสองครอบครัวคงดีมาก พวกเรายังไม่รู้ ภรรยาลู่อี้กลับรู้ก่อนแล้ว”

“ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกนาง แต่นางเอาใจใส่น่ะ ก็เลยสังเกตเห็นด้วยตนเอง” เหยาซื่อหันมาเอ่ยถาม “ใช่หรือไม่ล่ะ?”

“ใช่แล้ว” มู่ซืออวี่ยิ้ม “ครั้งก่อนข้าเห็นโม่หลานอาเจียน ตอนแรกก็แค่สงสัย แต่เมื่อครู่ข้าเห็นนางระมัดระวังตรงท้องเป็นพิเศษ มักจะวางมือไว้บนท้องบ่อย ๆ นี่ย่อมเป็นสัญชาตญาณต้องการปกป้อง ข้าเลยเดาว่าโม่หลานอาจจะท้อง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าผ้าที่บ้านข้า นางอาจจะใช้ได้ ป้าเหยาชอบก็ดีแล้ว แต่ถ้าไม่ชอบก็ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าก็ไม่ให้แล้ว”

“ผู้ใดไม่ชอบ? ผู้ใดจะไม่ชอบกัน? เสื้อบนตัวของเด็กบ้านเจ้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะซื้อได้ มีของถูกไม่รีบคว้าไว้ก็เป็นไข่ตะพาบ*[1] สิ!” เหยาซื่อกล่าวเกินจริง

คนอื่น ๆ หัวเราะครื้นเครงไปตาม ๆ กัน

ถึงแม้จะเป็นถ้อยคำหยาบคาย แต่บางครั้งหากเอ่ยออกมาก็อาจทำให้ผู้คนผ่อนคลายมีความสุข

“พี่สะใภ้อี้ สามีของท่านดื่มมากไป ข้าเอาเขาไปหย่อนไว้ข้างในนะ!” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้ามา

“จะเอาเข้าไปข้างในทำไม? เอาไปโยนไว้ในบ้านเสี่ยวเฮยนู่น” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยความโมโห

“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นท่านมาทำเองเถิด ข้าไม่กล้า เดี๋ยวพี่อี้จะตีข้าเอา” เอ้อร์หนิวประคองลู่อี้เข้าไปในห้อง

คนอื่นค่อย ๆ ทยอยกลับไปแล้ว ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือนั้นใช้เวลาไม่นานก็เก็บจนเสร็จเรียบร้อย

“ท่านแม่ ท่านนั่งลงสักหน่อย” มู่ซืออวี่พยุงถงซื่อ

“มีอะไรหรือ?” ถงซื่องุนงง

“ท่านปวดหลังใช่หรือไม่?” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นมา “เมื่อครู่นี้ข้าเห็นท่านชะงักไปครู่หนึ่ง”

“ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ก็ตามประสาคนแก่น่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” ถงซื่ออยากจะลุกขึ้น ทว่าทันใดนั้นก็ต้องส่งเสียงสูดปากออกมา ตามมาด้วยความเจ็บปวดบนใบหน้า

“หานเอ๋อร์!” มู่ซืออวี่ร้องเรียกมู่เจิ้งหาน

มู่เจิ้งหานออกมาจากห้องของฉาวอวี่ “ท่านพี่ ข้าอยู่นี่”

“เจ้าไปเชิญท่านหมอจูมาดูอาการท่านแม่ให้ที”

“ท่านแม่เป็นอะไรหรือ?”

“ปวดหลังน่ะ”

“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

ถงซื่อพยายามเกลี้ยกล่อมว่าตนไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายก็ทนการรบเร้าของลูกชายและลูกสาวไม่ได้ ทำได้เพียงยอมรับแต่โดยดี

“วันนี้ทุกคนยุ่งอยู่กับการรับรองแขก ไม่ได้ดูแลเด็ก ๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาได้กินอะไรหรือยัง” ถงซื่อกล่าว

“เด็ก ๆ โตขนาดนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงพวกเขา”

มู่ซืออวี่ก็ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ขอของกินไปทำอะไร เพียงแต่ไม่อยากบอกถงซื่อ เดี๋ยวมารดาจะเสียดายเนื้อและเครื่องปรุงเสียเปล่า

“ท่านแม่ ห้องข้าง ๆ สองห้องเป็นห้องของท่านกับหานเอ๋อร์ พวกท่านจะมาตอนไหนก็ได้” มู่ซืออวี่กล่าว “ข้าจะพาท่านเข้าไปนอนสักพัก จะได้สบายขึ้นสักหน่อย”

“อย่าเลย ข้าเลอะไปทั้งตัว อย่าทำให้ห้องดี ๆ ต้องสกปรก” ถงซื่อยับยั้งชั่งใจ

“ข้าบอกแล้วว่านี่เป็นห้องที่เตรียมไว้ให้ท่าน ห้องข้าง ๆ ก็เป็นห้องหานเอ๋อร์” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “หานเอ๋อร์อยู่ที่นี่เขียนอะไรก็สะดวก ไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่เขยได้”

ครั้นถงซื่อนอนลงบนเตียงก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผ้าห่มผืนใหม่ นางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย

วันเช่นนี้ช่างดีจริง ๆ

ชีวิตนี้ของนางคุ้มแล้ว

มู่ซืออวี่เข้ามาในห้องครัว นางใช้ของที่เตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำน้ำแกงสร่างเมา

นางเข้ามาในห้องของตนพร้อมกับน้ำแกงสร่างเมา แล้วจึงวางถ้วยแกงไว้บนตู้ข้าง ๆ จากนั้นก็แตะ ๆ คนที่นอนอยู่ตรงนั้น

“ลู่อี้ ซดน้ำแกงสร่างเมาเสียหน่อย”

“อืม…”

ลู่อี้พลิกตัวกลับมา

มู่ซืออวี่นั่งอยู่ข้างเตียง เขย่าร่างเขาแรงกว่าเดิม “ลู่อี้ ลุกขึ้นมาดื่มน้ำแกงสักหน่อย ฟังข้าสิ”

ลู่อี้ลุกขึ้นนั่งอย่างปุบปับ ดวงตาคู่สวยจ้องมองนางอย่างเงียบ ๆ

มู่ซืออวี่ “…”

ถึงตอนนี้ นางสัมผัสได้ถึงอันตรายขึ้นมา

“นั่น….”

ก่อนที่นางจะพูดจบ ลู่อี้ก็เข้ามากอด ทั้งยังกระซิบแผ่วเบาข้างหู “อย่าเสียงดัง ข้าปวดหัว…”

ลมอุ่น ๆ ที่พัดผ่านใบหูทั้งชวนให้จั๊กจี้และร้อนผ่าว ทำให้นางอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว

นางนั่งแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ลมหายใจพลันถี่กระชั้น หัวใจเต้นระรัว

ลู่อี้ปล่อยนางแล้วนอนลงไปอีกครั้ง

มู่ซืออวี่ “…”

ช่างเถอะ! คุยกับคนเมาอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง หากไม่ดื่มน้ำแกงก็ช่างปะไร

เมื่อท่านหมอจูมาถึง เขาได้ตรวจดูอาการถงซื่อ จากนั้นจึงสั่งยากอเอี๊ยะ*[2] ให้

“กอเอี๊ยะใช้ทาภายนอก ใช้หนึ่งแผ่นต่อวัน ให้ใช้ขณะนอนหลับ” หลังจากท่านหมอจูกล่าวจบก็มองมู่ซืออวี่อย่างคับข้องใจ “พวกเจ้าขึ้นบ้านใหม่ เหตุใดไม่เชิญข้า?”

“เข้าใจผิดแล้ว ท่านหมอจู พวกเราไปหาท่านแล้ว แต่ท่านไม่อยู่บ้าน” มู่เจิ้งหานที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น “เมื่อวานไปหาหนึ่งครั้ง วันนี้ก็ไปหาอีกหนึ่งครั้ง”

“ข้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร เพิ่งกลับมาวันนี้ตอนบ่าย ๆ เอง” ท่านหมอจูเกาหัวแกรก ๆ “ไม่สนล่ะ ข้าไม่ได้กิน พวกเจ้าต้องชดใช้ให้ข้า”

“ได้เลย พ่อของเด็ก ๆ ยังมีวันหยุดเหลืออีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ขอเชิญท่านหมอจูมาทานอาหารง่าย ๆ สักมื้อนะ” มู่ซืออวี่หัวเราะ

“เช่นนี้ย่อมได้ พรุ่งนี้ข้าจะต้องมาแน่นอน เจ้าเตรียมให้พร้อมล่ะ!” ท่านหมอจูกล่าวจบแล้วก็กลับไป

“หานเอ๋อร์” มู่ซืออวี่เรียกมู่เจิ้งหานเอาไว้ “น้องสามีข้าดูเหมือนจะดื่มสุราไปหนึ่งจอก ข้าไม่สะดวกเข้าห้องไปดูเขา เจ้าเข้าไปดูหน่อยว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง หากตื่นแล้วก็ให้เขาดื่มน้ำแกงสร่างเมา”

มู่เจิ้งหานรับคำแล้วเข้าไปดูลู่เซวียน

มู่ซืออวี่แปะแผ่นกอเอี๊ยะให้ถงซื่อ จากนั้นก็นวดไหล่และคอให้อีกครั้ง

“เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไม่ต้องสนใจข้าแล้ว”

“ท่านเป็นแม่ของข้า หากข้าไม่สนใจท่านแล้วใครจะสนใจท่าน? ดูสิ ท่านยังไม่ถึงสี่สิบ ร่างกายกลับมีอาการของคนแก่แทบทุกอย่างเสียแล้ว ข้าเห็นแล้วปวดใจจริงเชียว” มู่ซืออวี่กล่าว “อย่าขยับ ข้าจะนวดให้ท่านดี ๆ”

ดวงตาของถงซื่อแดงก่ำ “แม่มีความสุขมาก มีลูก ๆ ที่ดีเช่นนี้ ความทุกข์ยากที่ได้รับแต่ก่อนก็ไม่นับเป็นอันใดแล้ว”

“ท่านกับหานเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านแล้ว เพราะหานเอ๋อร์จะไม่ถูกกักขังอยู่ที่เล็ก ๆ แห่งนี้ สักวันเขาจะพาท่านไปมีชีวิตที่ดี ๆ ท่านต้องรักษาร่างกายตัวเองให้ดี ภายหน้ายังต้องช่วยเขาเลี้ยงลูกอีก”

“ได้ ๆ” ถงซื่อลูบหลังมือบุตรสาวเบา ๆ “แม่ก็อยากดูแลลูกให้เจ้าเช่นกัน เจ้ากับลูกเขยยอดเยี่ยมเช่นนี้ คลอดออกมาอีกสักสองสามคนก็ได้ แม่ยังไม่ชรา จะช่วยพวกเจ้าดูแลเอง”

มู่ซืออวี่ “…”

นางลืมไปเสียสนิท

ต่อจากนี้นางกับลู่อี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้!

[1] มีของถูกไม่รีบคว้าไว้ก็เป็นไข่ตะพาบ หมายถึง หากได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องเสียแม้แต่สตางค์แดงเดียว หากไม่รับไว้ก็นับว่าโง่แล้ว

[2] กอเอี๊ยะ คือยาจีนแผนโบราณชนิดหนึ่ง ใช้ทาภายนอก ในสมัยโบราณจะต้มน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์จนได้เป็นของเหลวคล้ายวุ้น จากนั้นทาลงบนผ้า กระดาษ หรือหนัง แปะบริเวณที่มีอาการ ใช้รักษาฝี ช่วยลดอาการปวดบวม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด