สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 522 เขาทำได้อย่างไร?

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 522 เขาทำได้อย่างไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 522 เขาทำได้อย่างไร?

บทที่ 522 เขาทำได้อย่างไร?

สองชั่วยามต่อมา ในที่สุดทุกคนก็มาถึงเรือนพักร้อนสกุลลู่บริเวณชานเมือง

เมื่อเอ่ยถึงเรือนพักร้อนที่มีน้ำพุร้อน แม้ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้ ทว่าสำหรับสกุลที่มั่งคั่งมีอำนาจ การมีไว้ครอบครองก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากฮูหยินสองสามท่านที่อยู่ที่นี่ ผู้อื่นล้วนเคยพบเห็นและมีประสบการณ์แช่น้ำพุร้อนมาแล้วทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงเรือนพักร้อนแห่งนี้ต่างก็ต้องตกละลึง

เหมยแดงบานสะพรั่งทั่วทั้งภูเขา ท่ามกลางหิมะขาว สีสันสดใสเช่นนี้กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก

เมื่อมองดูเรือนพักร้อนตรงหน้า เหล่าฮูหยินก็พบว่านี่มิใช่อย่างที่เคยคาดไว้แม้แต่น้อย เรือนพักร้อนนอกเมืองเช่นนี้ ปกติก็ไม่ค่อยได้มานัก หนึ่งปีมาเพียงหนึ่งครั้งก็ไม่เลวแล้ว ผู้ใดจะยินดีใช้จ่ายเงินไปกับมันเล่า?

ทว่าเรือนพักร้อนแห่งนี้กลับมีถึงห้าทางเข้าออก อีกทั้งยังมีกำแพงแข็งแรงสูงตระหง่าน ต้นเหมยแดงโผล่พ้นขอบกำแพง เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวายิ่งนัก

“เรือนพักร้อนหลังนี้ช่างใหญ่โตเสียจริง” ฮูหยินถานเอ่ย “พวกท่านมาที่นี่บ่อยหรือไม่?”

มู่ซืออวี่กดความประหลาดใจลงไป กล่าวตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “กล่าวอย่างไม่ปิดบัง ข้าเพิ่งซื้อเรือนพักร้อนไม่นานนัก มีเพียงเวลามาดูแลมันเล็กน้อย ได้อยู่ที่นี่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น”

“เพิ่งซื้อหรือ?” ฮูหยินถานเอ่ย “เช่นนั้น ถือว่าพวกเราได้ประโยชน์จากมันเสียแล้ว”

สตรีทั้งหลายล้วนนำบ่าวรับใช้ของพวกนางมาด้วย หลังลงจากรถม้า รถม้าจึงขับไปที่คอกม้า

มู่ซืออวี่เตรียมห้องหับให้ฮูหยินแต่ละคน ส่วนบรรดาลูก ๆ ที่เหล่าฮูหยินพามาด้วย หากพวกเขาไม่อยากแยกจากมารดาก็สามารถอยู่ห้องเล็กที่อยู่ติดกันได้ หากต้องการอาศัยอยู่เพียงลำพังก็สามารถทำได้เช่นกัน

ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนถึงห้าบ่อ สี่บ่อเป็นบ่อขนาดเล็ก มีเพียงหนึ่งบ่อที่เป็นบ่อใหญ่

บ่อน้ำพุใหญ่พอจะรับรองคนได้กว่าสิบคน

มู่ซืออวี่เตรียมการไว้ตั้งแต่ห้าวันก่อนแล้ว ไม่ว่าต้องการจะกิน ดื่ม หรือเล่น ล้วนมีครบครันทุกสิ่ง

“จื่อซู จื่อเยวี่ยน นี่เกิดอะไรขึ้น?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม “เหตุใดจึงมีเหมยแดงมากมายเพียงนี้?”

“ฮูหยินไม่รู้หรือเจ้าคะ?” จื่อซูเอ่ย “ก่อนที่ฮูหยินจะกลับมา พ่อบ้านได้รับจดหมายจากนายท่าน เขาอยากให้เรือนพักร้อนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นเหมย จะดีที่สุดหากเป็นเหมยที่บานแล้ว ต้นเหมยที่บานในตอนนี้หาง่าย เพียงแค่ย้ายต้นเหมยมาจากที่อื่นก็ได้แล้ว พ่อบ้านจึงจัดเตรียมคนมากมายมาดำเนินการเรื่องนี้ บ่าวยังมาเฝ้าดูอยู่ที่นี่เลยเจ้าค่ะ!”

“เหมยแดงบนภูเขาถูกย้ายมาหมดเลยหรือ?” มู่ซืออวี่ยังคงไม่อยากจะเชื่อ

“ครั้งก่อนตอนที่ฮูหยินมาที่นี่ พบเห็นต้นเหมยหรือไม่เจ้าคะ? มิเห็นใช่หรือไม่? น่าทึ่งใช่ไหมเจ้าคะ ทั้งหมดเป็นเพราะคำสั่งของนายท่าน มิเช่นนั้น ดอกเหมยย่อมไม่อาจโผล่ออกมากลางอากาศ” จื่อซูกล่าว

มู่ซืออวี่ยืนอยู่ในสวน มองต้นเหมยแดงบนภูเขาเหล่านั้น ในอกของนางรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา

“ฮูหยิน…” บ่าวที่โยกย้ายมาจากจวนลู่ชั่วคราวเดินเข้ามาเอ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฮูหยินหรงกล่าวว่าเตียงแข็งเกินไป ห้องเย็นเกินไป ผ้าห่มให้ความรู้สึกไม่สบาย…”

“ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อนเถอะ” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้าจะไปหานาง!”

ฮูหยินหรงนั่งอยู่บนโต๊ะกำลังจิบชา

สาวใช้ข้าง ๆ นางกำลังเก็บสัมภาระของผู้เป็นนาย

ในเมื่อมาแช่น้ำพุร้อน ย่อมไม่อาจกลับไปทันทีได้ ดังนั้นจึงเพียงเก็บสัมภาระเตรียมการเผื่อไว้สำหรับวันฝนตกเท่านั้น

อันที่จริง มู่ซืออวี่ย่อมเตรียมการรับรองทุกคนเป็นอย่างดี หากพวกเขาปรับตัวให้คุ้นชินกับการอยู่ที่นี่แล้ว จะอยู่หลาย ๆ วันก็ย่อมได้ อย่างไรเสีย ในฤดูหนาวก็ไม่มีอันใดให้ทำมากมาย

ทว่าฮูหยินหรงผู้นี้ช่างขยันทำให้คนหมดสนุกจริง ๆ

ทันทีที่มู่ซืออวี่ผ่านเข้าประตูไป รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนหน้านาง “ฮูหยินหรง ไม่รู้ว่าท่านคุ้นเคยกับการอยู่ที่นี่หรือยัง?”

ฮูหยินหรงไม่พูดไม่จา ทว่าสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ นางกลับเปิดปาก

“ในเมื่อฮูหยินลู่เอ่ยถาม เช่นนั้นบ่าวจะเอ่ยตามความเป็นจริง ฮูหยินของพวกข้าบอบบาง อาหารการกินที่อยู่อาศัยของนางมักจะต้องดีที่สุดเสมอ ทว่าเรือนพักร้อนของท่านกลับไม่มีอันใดเลย ดูเตียงนี้สิ แข็งเกินไป ฮูหยินของพวกข้าต้องนอนไม่หลับเป็นแน่ ผ้าห่มนี่ก็ด้วย เหตุใดถึงมีเนื้อหยาบเพียงนี้? ผิวของฮูหยินพวกข้าบอบบาง จะใช้ผ้าห่มเช่นนี้ได้อย่างไร? แล้วยังมี…”

บ่าวรับใช้ยังเอ่ยติอีกหลายสิบอย่างโดยไม่รู้จบ นับตั้งแต่เตียง ผ้าห่ม ไปจนถึงถ้วยชาที่ใช้ บอกว่าถ้วยชานั้นไม่สวยงาม อีกทั้งชาก็ยังไม่ดีพอ

มู่ซืออวี่ปล่อยให้สาวใช้พูดไปโดยไม่แม้แต่จะเปลี่ยนสีหน้า

“พูดจบแล้วหรือยัง?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม

สาวใช้เหลือบมองฮูหยินหรงด้วยท่าทีระมัดระวัง

ฮูหยินหรงไม่เผยท่าทีของนางออกมา

สาวใช้ผู้นั้นจึงกล่าวต่อ “ตอนนี้มีทั้งหมดเท่านี้! ทว่าแม้จะมีเพียงเรื่องเหล่านี้ ฮูหยินพวกข้าก็ไม่ชินกับการอาศัยอยู่ที่นี่”

“พอจะเข้าใจแล้ว วางใจเถิด ข้าจะตระเตรียมให้ดี” มู่ซืออวี่กล่าว

สาวใช้ผู้นั้นลอบปรายตามองมู่ซืออวี่ ดวงตาของนางเผยแววดูถูกออกมาแวบหนึ่ง

ได้ยินว่าฮูหยินลู่ผู้นี้เป็นหญิงบ้านนอก ขี้ขลาดราวกับหนู นางไม่กล้าหือแม้แต่กับคนที่สร้างความยุ่งยากให้

หลังออกมาจากห้องที่ฮูหยินหรงอยู่แล้ว จื่อเยวี่ยนจึงเอ่ยถามเบา ๆ “ฮูหยิน จะเปลี่ยนให้นางจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

“เปลี่ยนสิ เหตุใดจะไม่เปลี่ยนเล่า?” มู่ซืออวี่กะพริบตา “พวกเราเป็นเจ้าบ้าน แน่นอนว่าต้องจัดเตรียมทุกอย่างตามความประสงค์ของแขกคนสำคัญ”

อีกห้องหนึ่ง บ่าวรับใช้เล่าสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อครู่นี้ให้ฮูหยินถานที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าฟัง

ฮูหยินถานเปลี่ยนรองเท้า ถอดเครื่องประดับบนศีรษะออก จากนั้นก็สวมใส่เครื่องประดับน้ำหนักเบาแทน

“เจ้าคิดว่าห้องนี้เป็นอย่างไร?”

“พอใช้ได้เจ้าค่ะ” มามาเอ่ย “ถึงแม้จะมิได้หรูหราฟู่ฟ่า ทว่าค่อนข้างอยู่สบายทีเดียว”

“เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่าห้องนี้อุ่นมาก?” ฮูหยินถานเอ่ย “ข้าได้ยินคนเล่าลือว่าฮูหยินลู่ผู้นี้มีฝีมือ ทั้งยังทำของอำนวยความสะดวกให้คนมากมาย เมื่อก่อนข้าเพียงแต่ได้ยินคนกล่าว ยังไม่เคยเห็นด้วยตาตนเอง วันนี้ได้เห็นห้องนี้แล้ว ท้ายที่สุด ข้าจึงเข้าใจว่าเหตุใดนายท่านของเราจึงให้ความสำคัญกับสามีภรรยาคู่นี้นัก”

“ความหมายของฮูหยินคือ…”

“ฮู่เป่ยเดิมทีเป็นเพียงดินแดนแห้งแล้ง ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ความรุ่งเรืองมั่งคั่งที่มีกลับเป็นรองเพียงเมืองหลวง ว่ากันว่าผู้ทำการค้ามากมายจากดินแดนตะวันตกล้วนต้องเดินทางไปยังเมืองฮู่เป่ยสักครั้งแม้หนทางยาวไกล มิเช่นนั้นพวกเขาคงมาเยือนราชอาณาจักรอันใหญ่โตของเราอย่างสูญเปล่า” ฮูหยินถานเอ่ย “ประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ ฮูหยินลู่และใต้เท้าลู่ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา เจ้าคิดว่าสตรีเช่นนั้นจะถูกสตรีเรือนหลังผู้หนึ่งสร้างปัญหาให้ได้หรือ? รอดูเถอะ บางทีอาจมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น”

มู่ซืออวี่ส่งจดหมายให้เด็กรับใช้คนหนึ่ง

“มอบให้ใต้เท้า” มู่ซืออวี่เอ่ย “อย่าได้ล่าช้าระหว่างทาง”

หลังจากเด็กรับใช้ออกไปแล้ว ร่างหนึ่งพลันเดินออกมาจากเสาด้านหลัง

คนผู้นั้นกลับไปที่ห้องของฮูหยินหรง แล้วเอ่ยกระซิบ ‘ฮูหยินลู่ส่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งไปยังเมืองหลวง’

“หากนางว่านอนสอนง่าย ข้าจะปล่อยนางไป ไม่เสียเวลาโต้เถียงกับหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง” ฮูหยินหรงพิจารณาเล็บอันประณีตงดงามของนาง สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ฮูหยินที่มาในวันนี้มีทั้งหมดแปดคน นอกจากฮูหยินหรงผู้ที่จัดการได้ยากผู้นั้นแล้ว ฮูหยินคนอื่น ๆ ยังพอไว้หน้านางบ้าง แม้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางจะค่อนข้างผิวเผินก็ตาม

“ปกติน้องหญิงเล่นอะไรหรือ?” หนุ่มน้อยคนหนึ่งเอ่ยถามลู่จื่ออวิ๋น

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของหนุ่มน้อยคนนั้นแล้ว อายุคงราว ๆ สิบสองสิบสามปี อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลู่จื่ออวิ๋น

นั่นคือบุตรชายของฮูหยินถาน ‘โม่ชิงเหยียน’

“ข้าเพียงแค่ทำงานเย็บปักถักร้อย” ลู่จื่ออวิ๋นตอบ “แม้ข้าจะรู้หนังสือเหมือนท่านพ่อกับพี่ชายข้า แต่ก็เพียงรู้ไว้เท่านั้น ไม่ได้อยากเป็นจอหงวนหญิงอันใด”

โม่ชิงเหยียนยิ้มออกมา ใบหน้าประณีตหล่อเหลาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“ได้ งั้นข้าจะไม่เอ่ยเรื่องตำรา ไม่เอ่ยถึงเรื่องหรูหราเหล่านั้น แล้ว… น้องหญิงรู้วิธีจับนกหรือไม่?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด