สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 730 ความจริงคืออะไร

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 730 ความจริงคืออะไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 730 ความจริงคืออะไร

บทที่ 730 ความจริงคืออะไร

“ข้าไม่ได้ทำ” แน่นอนว่าอิงหรูเฉินย่อมไม่ยอมรับ

ลู่ฉาวอวี่นึกไว้แล้วว่านางจะต้องปากแข็ง จึงเฉไฉไปเอ่ยถึงเรื่องอื่น

“ฮูหยินผู้เฒ่าสิง คงมีบางเรื่องที่ท่านไม่ได้บอกฮูหยินอิงกระมัง”

“เรื่องอะไร?” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงไม่เข้าใจ

“สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ลูกชายท่านไม่ได้แต่งกับนางอย่างไรเล่า” ลู่ฉาวอวี่เอ่ยอย่างสงบ “ตอนนั้นสิงไท่ฟู่และฮูหยินอิงเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน สิงไท่ฟู่เป็นคนยึดมั่นในคุณธรรม กล่าวกันตามหลักแล้ว เขาย่อมไม่อาจละทิ้งคนที่ตนพึงใจได้ เหตุผลที่เขาแต่งงานกับผู้อื่นเป็นเพราะบิดาของฮูหยินอิงกล่าวอย่างชัดเจนว่าไม่อาจยกฮูหยินอิงให้แต่งงานกับสิงไท่ฟู่ได้ มิหนำซ้ำยังกล่าวว่าฮูหยินมีคู่แต่งงานที่ดีกว่า ไม่อาจให้สิงไท่ฟู่ถ่วงอนาคตนาง”

“เป็นไปไม่ได้!” อิงหรูเฉินเอ่ย “นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”

“แน่นอนว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำนี้ย่อมไม่อาจทำให้สิงไท่ฟู่ตัดใจต่อคนรักได้ เขาจึงต้องไปหาฮูหยินอิงอย่างแน่นอน”

“ไม่ เขาไม่ได้มาหาข้า เรื่องที่ท่านเอ่ยเหล่านี้ล้วนไม่มีอยู่จริง!”

“เขาไม่เคยไปหาฮูหยินอิงจริงหรือ? ไม่เช่นนั้น ให้บ่าวรับใช้ของท่านในตอนนั้นเล่าความจริงให้ฟังเป็นอย่างไร”

ทหารนำสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งเข้ามา

“หลิงจวี๋”

“คุณหนู” สตรีวัยกลางคนผู้นั้นร้องไห้ออกมา “คุณหนู ตอนนั้นนายน้อยญาติผู้พี่มาหาท่าน แต่ท่านกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนกับคุณชายเฉียน คุณชายเฉียนลูบไล้ใบหน้าของท่าน นายน้อยญาติผู้พี่ถึงได้จากไปด้วยความโกรธ”

อิงหรูเฉินถูกความจริงตีแสกหน้าอย่างจัง นางถึงกับผงะถอยหลังล้มลง

บ่าวรับใช้ข้างกายนางพยุงนางเอาไว้

“วันนั้น ท่านพ่อข้าบอกว่าคุณชายเฉียนเป็นสหายกับพี่ชายข้า พี่ชายข้าไม่อยู่จึงขอให้ข้าพาคุณชายเฉียนไปเดินเล่นในสวน เขาบอกว่าใบหน้าข้าเปื้อนฝุ่นจึงเช็ดให้ เหตุใดญาติผู้พี่ถึงได้จากไปเล่า? เหตุใดเขาไม่ถามข้า?”

“เฮ้อ!” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงถอนหายใจเบา ๆ “ตามหลักแล้วเรื่องเก่า ๆ เหล่านี้ข้าไม่ควรเอ่ยถึง แต่ตอนนั้นสกุลสิงของพวกเราเป็นเพียงครอบครัวธรรมดา ๆ ไม่ได้มีตำแหน่งขุนนางอะไร อีกทั้งยังไม่ได้มีเงิน ทว่าสกุลเฉียนนั้นไม่เหมือนกัน สกุลเฉียนเป็นสกุลคหบดีท้องถิ่น บิดามารดาเจ้าดูแคลนครอบครัวข้า รังเกียจลูกชายผู้นั้นของข้า งานแต่งครั้งนี้ไม่ใช่งานแต่งที่ดีจริง ๆ ข้าจึงไม่ได้ฝืนดันทุรัง หรูเฉิน พ่อแม่ของเจ้ากล่าวว่าญาติผู้พี่ของเจ้าไม่มีดีอะไรสักอย่างต่อหน้าคนมากมายเพียงใดเจ้ารู้หรือไม่?”

“ท่านแม่ เช่นนั้นท่านยังใจกว้างเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะยินดีรับนางเข้ามา” ฮูหยินรองพึมพำ “หากเป็นข้านะ ในเมื่อก่อนหน้านี้ดูถูกดูแคลนครอบครัวเรา เช่นนั้นก็อย่าได้เข้าประตูบ้านพวกเราเลย!”

“ไม่จริง นี่ไม่ใช่ความจริง!” อิงหรูเฉินเอ่ย “เช่นนั้นเหตุใดญาติผู้พี่ไม่บอกข้า? ข้าต่อว่าเขามาหลายปีเพียงนี้ แต่เขากลับไม่เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ”

“นั่นเป็นเพราะพี่ใหญ่ปล่อยวางเรื่องในตอนนั้นไปแล้วน่ะสิ” นายท่านรองเอ่ย “เขาและพี่สะใภ้เป็นสามีภรรยาที่รักใคร่ลึกซึ้ง แน่นอนว่าย่อมไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องไม่ดีในอดีตเหล่านั้น”

“หากสามีภรรยารักใคร่ลึกซึ้งกัน เช่นนั้นเหตุใดเขายังเก็บของที่ข้าให้ไว้เล่า? อีกทั้งวันแรกที่ข้าเพิ่งมาถึงจวนสิง พวกก็ทะเลาะกัน เห็นได้ชัดว่าในใจญาติผู้พี่ ข้ายังสำคัญเป็นอย่างยิ่ง!”

“เหตุผลที่เขายังเก็บของเหล่านั้นเอาไว้ เพราะเขาโยนพวกมันทั้งหมดไว้ในห้องเก็บของ เขาไม่ได้ถามถึงมันมานานหลายปี ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่ในห้องเก็บของบ้าง หากไม่ใช่เพราะเจ้าเข้าไปหาแล้วรื้อของพวกนั้นออกมา พี่ใหญ่ข้าคงจำไม่ได้แล้ว ส่วนที่พี่ใหญ่ทะเลาะกับพี่สะใภ้ ก็ไม่ใช่เพราะเจ้าไปนำของเหล่านั้นออกมาจนพี่สะใภ้ข้าหึงหวงหรือ? พี่ใหญ่ข้าง้อนางอยู่นานสองนาน นางถึงได้ยอมให้อภัยเขา เจ้าคิดว่าเขายังมีความรู้สึกต่อเจ้าอย่างนั้นรึ? เช่นนั้น ระยะนี้เขาเคยไปหาเจ้าตามลำพังหรือไม่? ตอนที่เจ้าไปหาเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมพบเจ้า และไล่ให้เจ้าไปหาท่านแม่แทนหรือ?”

“เป็นไปไม่ได้! ญาติผู้พี่ไม่มีทางลืมข้า อนุหลายคนของเขา เห็นได้ชัดว่ามีเงาเหมือนข้า อีกทั้งยังล้วนหน้าตาเหมือนข้า!” อิงหรูเฉินทรุดลง

“อนุเหล่านั้นเป็นข้าที่มอบให้เขา” ฮูหยินผู้เฒ่าสิงเอ่ย “ตอนนั้นลูกชายกับลูกสะใภ้แต่งงานกันมาหลายปี กลับไม่มีทั้งบุตรชายบุตรสาว ข้าจึงได้มอบอนุเหล่านั้นให้ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของเขาแม้แต่น้อย”

คนสกุลสิงฉีกกระชากการหลอกตัวเองและผู้อื่นของอิงหรูเฉินอย่างไม่ปรานี

อารมณ์ของอิงหรูเฉินเกินกว่าที่จะควบคุมได้แล้ว

“อันที่จริงท่านคงรู้ว่าสิงไท่ฟู่ไม่ได้มีความรู้สึกต่อท่านมานานแล้ว เพียงแต่ไม่อาจยอมรับจึงร่วมมือกับเจิ้งซู่ ชู้รักของท่าน ฆ่าสิงไท่ฟู่และฮูหยินของเขา ถูกหรือไม่?”

“ข้าไม่ได้ฆ่าญาติผู้พี่! ข้าไม่ได้ฆ่าญาติผู้พี่!”

“เจิ้งซู่เป็นชู้รักของท่าน เขาอิจฉาที่ท่านยังรักสิงไท่ฟู่ ดังนั้นหลังจากฆ่าเป้าหมายแล้ว เขาก็ยังไม่พอใจจึงแทงร่างของสิงไท่ฟู่ซ้ำ ถูกหรือไม่?”

“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ให้เขาทำเช่นนั้น!” อิงหรูเฉินร้องโวยวาย

“อ้อ ท่านยอมรับว่าเจิ้งซู่คือชู้รัก และท่านก็รู้ว่าเขาต้องการฆ่าสิงไท่ฟู่และภรรยากระมัง?” ลู่ฉาวอวี่เอ่ยด้วยความสุขุม

อิงหรูเฉินเอามือค้ำตู้ที่อยู่ข้าง ๆ นางไว้ ก่อนจะหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าสิงซึ่งอยู่ไม่ไกล “ท่านป้า…”

ฮูหยินผู้เฒ่าสิงตาแดงก่ำ นางมองอิงหรูเฉินด้วยความโกรธแค้น

“ฮูหยินตั้งครรภ์ได้กี่เดือนแล้วหรือ?” ลู่ฉาวอวี่โยนหมัดฮุกเข้าไปอีกหนึ่งดอก

คนทั้งสกุลสิงหันไปมองนาง สายตาแต่ละคู่ตกลงบนท้องของอิงหรูเฉินอย่างพร้อมเพรียงกัน

“นางท้องหรือ?!”

“สามีมากตัณหาผู้นั้นของนางตายไปได้ครึ่งปีแล้ว อีกทั้งนางยังแต่งงานมาหลายปีโดยไม่มีลูก เห็นได้ชัดว่าเพราะเขาไปหมกอยู่ในหอบุปผามากเกินไปจึงไม่อาจให้กำเนิดลูกได้ เช่นนั้น ลูกของนางเป็นของผู้ใดเล่า?”

“เจ้าฆ่าพี่ใหญ่จริง ๆ หรือ?!”

“ฆาตกรผู้นั้นเป็นชู้รักของเจ้าหรือ?!”

สิงเจียซือลุกขึ้นเดินไปหาอิงหรูเฉิน “ท่านอาหญิง ท่านฆ่าพ่อแม่ข้าจริง ๆ หรือ? หากไม่ใช่เพราะน้องชายข้าลงจากรถม้าและข้าไม่ได้ตามเขาไป เช่นนั้น แม้กระทั่งข้าก็คงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่รู้ว่าเขาจะทำเช่นนี้” อิงหรูเฉินหลับตาลง “กว่าข้าจะรู้ก็สายเกินไปแล้ว พวกเขาตายไปแล้ว!”

“ท่านยอมรับแล้วหรือว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย

“เดิมทีเจิ้งซู่เป็นผู้คุ้มกันสกุลเรา หลังจากสามีข้าตาย สกุลสามีของข้าก็ไม่ยอมให้ข้าอยู่ด้วย อีกทั้งสกุลเดิมของข้าก็ไม่ให้ข้ากลับไป ข้าจึงคิดจะมาพึ่งพิงท่านป้า เจิ้งซู่เป็นห่วงความปลอดภัยของข้าจึงคุ้มกันข้ามายังเมืองหลวงด้วยความเต็มใจ ระหว่างทางข้าดื่มมากเกินไปจึง… ข้าโกรธมาก คิดจะผลักไสไล่ส่งเขา เขาเอาแต่กล่าวว่าสำนึกแล้ว บอกว่าทันทีที่ส่งข้าถึงเมืองหลวง เขาจะจากไปอย่างไม่อิดออด เจิ้งซู่รู้ว่าข้าชอบญาติผู้พี่ คิดจะอยู่ด้วยกันกับญาติผู้พี่”

“ญาติผู้พี่แต่งภรรยามานานแล้ว ข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะหย่าภรรยามาแต่งกับข้า ข้าจึงอยากให้เขารับข้าเป็นอนุ ญาติผู้พี่รู้สิ่งที่ข้าคิดจึงกล่าวสั่งสอน และไม่เคยมาพบข้าตามลำพังอีก พี่สะใภ้ก็ได้ยินบทสนทนาของเราเช่นกันจึงโกรธญาติผู้พี่ ข้าเสียใจมาก เจิ้งซู่ลอบเข้ามาหาข้าพอดี ข้าจึงพูดกับเขาสองสามคำ อีกทั้งยังบอกเรื่องที่ข้าท้อง…”

“เขาจึงทำเรื่องเหล่านี้ เมื่อข้ารู้ข้าก็กังวลใจมาก แต่เรื่องนี้ข้าไม่ได้บงการเขาจริง ๆ!”

“ถึงแม้ท่านจะไม่ได้บอกเขาอย่างโจ่งแจ้ง แต่ท่านคงบอกใบ้เขากระมัง? ท่านบอกใบ้ว่าต้องการให้เด็กในท้องของท่านมีชาติสกุลที่ดี ไม่อยากให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมเช่นตน เจิ้งซู่ล้วนฟังคำท่าน เมื่อได้ยินว่าฮูหยินสิงจะพาลูกชายลูกสาวไปวัดจึงเตรียมการเรื่องนี้ขึ้น แต่อย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงว่าสิงไท่ฟู่จะตามไปด้วยจึงทำได้เพียงจัดการทุกคนไปพร้อมกัน เดิมทีพวกท่านไม่ได้ต้องการฆ่าสิงไท่ฟู่ตั้งแต่แรก”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด