อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]ตอนพิเศษ 91 ตอบแทนบุญคุณหรือ?

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter ตอนพิเศษ 91 ตอบแทนบุญคุณหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 91 ตอบแทนบุญคุณหรือ?

ตอนพิเศษ 91 ตอบแทนบุญคุณหรือ?

“ตอนนี้หลานสุ่ยชิงเปลี่ยนไปอยู่เรือนอื่นแล้ว และมีสาวใช้เพิ่มขึ้นอีกสองสามคน สาวใช้คนหนึ่งบังเอิญไปเห็นชายคนหนึ่ง เข้าออกจากห้องของหลานสุ่ยชิงช่วงกลางดึก…”

หลานสุ่ยหยวนพูดพร้อมส่ายหน้าด้วยความอับอาย “สาวใช้รู้สึกกลัว เพราะตอนนี้ หลานสุ่ยชิงหมั้นหมายกับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวแล้ว ถ้านางมีความสัมพันธ์กับชายอื่นจริง จะไม่เป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ? สาวใช้คนนั้นจึงมาบอกเราเจ้าค่ะ”

เสิ่นเหวินเสียนรู้สึกประหลาดใจ หลานสุ่ยชิงช่างกล้าหาญจริง ๆ

“ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกเจ้าค่ะ แต่ต่อมาสาวใช้คนนั้นพบไข่มุกชั้นดีที่ใสเป็นเงาอยู่ใต้หมอนของหลานสุ่ยชิง ด้วยสภาพความเป็นอยู่แบบเดิมในจวนหลานของหลานสุ่ยชิง นางไม่มีวันมีสิ่งนั้นมาก่อนแน่นอน แต่เราไม่แน่ใจว่าชายคนนั้นเป็นคนให้นางจริงหรือไม่ หากเรื่องนี้เป็นเท็จ มันจะไม่ทำลายชื่อเสียงของนางหรือเจ้าคะ?”

“ด้วยเหตุนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน จู่ ๆ สาวใช้คนนั้นก็มาบอกเราว่า หลานสุ่ยชิงเย็บเสื้อคลุมให้ชายคนนั้น และนางยังได้ยินบทสนทนาระหว่างหลานสุ่ยชิงกับชายคนนั้นด้วย มันช่าง… ไม่น่าฟังเลยเจ้าค่ะ”

เสิ่นเหวินเสียนเห็นนางพูดขยักขย่อนเช่นนั้นก็ยิ่งกระหายใคร่รู้ และใจร้อนเล็กน้อย นางพูดเสียงเข้มว่า “พูดอะไรกัน? อย่ามัวลังเลได้หรือไม่?”

“พวกเขา พวกเขาบอกว่าหลานสุ่ยชิงกับหนานซื่อจื่อหมั้นกันแล้ว และมีคนจากตำหนักอ๋องซิวเฝ้าดูอยู่นอกจวนหลาน ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะแอบพบกันในจวนหลาน พูดง่าย ๆ ก็คือให้ถือโอกาสไปร่วมงานเลี้ยงวันนี้ เพราะมีคนมากหน้าหลายตาปะปนกัน แล้วค่อยแอบไปนัดเจอกัน เพื่อคุยเรื่องส่วนตัว และปลอบประโลมความโศกเศร้าเพราะความรัก ดูเหมือนว่าจะใช้โอกาสนี้คุยเรื่อง… พากันหนี”

“พากันหนีหรือ?” เสิ่นเหวินเสียนเผลอพูดเสียงดัง หลานสุ่ยหยวนรีบปิดปากของนาง

โชคดีที่ตอนที่พวกนางคุยกันเมื่อครู่นี้ พวกนางได้เดินออกมาเงียบ ๆ แล้ว จึงไม่มีใครอยู่รอบ ๆ และไม่มีหญิงคนอื่นได้ยิน

เสิ่นเหวินเสียนพยายามตั้งสติ แต่ก็ยังตกใจ “หลานสุ่ยชิงบ้าไปแล้วหรือ?”

การหลบหนีนั้นมีโทษร้ายแรงเพียงใด? ตอนนี้นางหมั้นกับซื่อจื่อองค์โตของตำหนักอ๋องซิวแล้ว

“โอ้ พวกเราก็คิดว่านางบ้าเหมือนกันเจ้าค่ะ วันนี้เราจึงต้องใส่ใจพฤติกรรมของนางเป็นพิเศษ เกรงว่านางจะทำอะไรโง่เขลาเจ้าค่ะ”

เปลือกตาของเสิ่นเหวินเสียนกระตุก นางหรี่ตาลงและถามขึ้นทันใด “พวกเจ้าเพิ่งบอกว่าชายคนนั้นจะมาที่นี่ เพื่อพบกับหลานสุ่ยชิงวันนี้หรือ?”

“เจ้าค่ะ”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นใคร? หน้าตาเป็นอย่างไร?” นางมีความสุขที่จะได้จับการคบชู้สู่ชายเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเป็นการคบชู้สู่ชายของหลานสุ่ยชิงที่ถูกส่งมาถึงประตูบ้านของนาง

หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนย่อมไม่เคยเห็นคนผู้นั้นมาก่อน แต่หลังจากฟังคำอธิบายของอินทรีหิมะ พวกนางก็สามารถระบุตัวตนได้อย่างสองอย่าง

“สูงประมาณนี้เจ้าค่ะ” หลานสุ่ยหยวนยกมือขึ้นประกอบ แล้วเล่าลักษณะที่อินทรีหิมะอธิบายแบบคำต่อคำ

ยิ่งเสิ่นเหวินเสียนฟังมากเท่าไร ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นเท่านั้น ฟังอย่างไรนางก็รู้สึกว่าชายผู้นี้เป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลา มีรูปร่างหน้าตาชั้นเลิศ ระดับหาได้ยากในโลกหล้า

“พวกเจ้าแน่ใจหรือ? เขาหน้าตาเช่นนั้นจริงหรือ?” อาจจะเป็นการใส่สีตีไข่หรือเปล่า?

“แน่ใจเจ้าค่ะ ว่ากันว่าชายผู้นี้หน้าตาดีมากจริง ๆ ข้าเดาว่าหลานสุ่ยชิงคงชอบเขาที่เปลือกนอก” แม้ว่าพวกนางจะไม่ค่อยเชื่อเมื่อได้ยินคำอธิบายของอินทรีหิมะ

แต่อินทรีหิมะเล่าว่าชายคนนั้นหล่อเหลาจริง ๆ จนแม้แต่เขาก็ยังต้องละอายใจ ชายที่สามารถทำให้ชายด้วยกันยอมรับว่าหล่อเหลาได้นั้น ก็น่าจะค่อนข้าง… ดูดี

หลานสุ่ยชิงก็โชคดีนัก ไม่รู้ว่านางไปคบกับชายคนนี้ได้อย่างไร พวกนางรู้สึกอิจฉามาก

“พี่เสิ่น หากวันนี้เราจับตามองหลานสุ่ยชิง เราก็จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายคนนั้นเจ้าค่ะ”

เสิ่นเหวินเสียนพยักหน้า ตอนนี้นางก็อยากรู้เกี่ยวกับชายคนนั้นมากเช่นกัน

ถ้าหลานสุ่ยชิงกล้าแอบไปเจอกับชายคนนั้นในตำหนักองค์ชายสามจริง ๆ นางจะต้องทำให้นางตายอย่างทรมานแน่นอน

พูดจบแล้ว เสิ่นเหวินเสียนก็หันไปมองหลานสุ่ยชิงที่นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่ง

หลานสุ่ยชิงค่อนข้างพอใจกับการอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว แม้ว่านางจะเลือกมุมนั่งคนเดียว ก็ยังมีคนที่เห็นนางเข้ามาทักทายเสมอ

ในฐานะว่าที่ฮูหยินแห่งตำหนักอ๋องซิว หญิงเหล่านี้ย่อมปรารถนาเข้าหาคนจากตำหนักท่านอ๋องซิวมานาน จึงให้ความสนใจนางเป็นธรรมดา

นางนั่งอยู่ที่นั่นไม่เกินหนึ่งในสี่ชั่วยาม ก็มีหญิงสาวสองสามคนเดินเข้ามาหานาง

หลานสุ่ยชิงจิบชาเงียบ ๆ ขณะพวกนางมายืนอยู่ตรงหน้านาง แล้วเอียงคอมองนาง

“เจ้าเป็นคุณหนูสามของครอบครัวของรองเจ้ากรมหลานหรือ?”

“ดูแล้วค่อนข้างงดงามมากทีเดียว”

“พวกเรามาเป็นเพื่อนกันเถิด”

ดูเหมือนจะเป็นการแสดงไมตรี หลานสุ่ยชิงวางถ้วยชาลง ก่อนยกยิ้มและพยักหน้าให้พวกนาง “พวกเจ้าคือ…”

“พ่อของข้าเป็นเจ้ากรมครัวเรือน เรียกข้าว่าซูเหยาก็ได้” หญิงสาวที่เดินนำหน้าพูดด้วยรอยยิ้ม อวดลักยิ้มคู่สวยน่ามองยิ่งนัก

“ข้าเหลียงอวี่จือ พ่อของข้าเหลียงอวี้สื่อ”

“หยางซาน” คนสุดท้ายพูดอย่างเรียบง่าย

แต่หลานสุ่ยชิงรู้จักชื่อนี้ พ่อของนางเป็นขุนพล ได้ยินว่าเขามีอารมณ์ร้ายและมักจะทะเลาะกับคนอื่นเสมอ แต่ท่านอ๋องซิวให้ความสำคัญกับเขามาก

หลังจากแนะนำตัวแล้ว ทั้งสามก็นั่งลงข้างหลานสุ่ยชิง

ซูเหยาดูร่าเริงมาก ทันทีที่นั่งลง นางก็เริ่มถามคำถาม “สุ่ยชิง ข้าได้ยินมาว่าตอนที่เจ้าเกิด ซิวหวางเฟยเป็นคนทำคลอดเจ้าหรือ?”

หลานสุ่ยชิงบุ้ยปาก แล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว”

“น่าทึ่งมาก ซิวหวางเฟยเป็นหมอปีศาจ ข้าได้ยินมาว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซิวหวางเฟยให้กำเนิดลูกถึงสามคน โดยทำคลอดให้ตัวเอง ไม่แปลกใจเลยที่ซิวหวางเฟยจะโปรดปรานเจ้ามาก เจ้าโชคดียิ่งนัก”

“อืม หวางเฟยเป็นผู้มีพระคุณของข้า”

“เช่นนั้นเจ้าก็แต่งงานเข้าตำหนักอ๋องซิว เพื่อตอบแทนบุญคุณงั้นหรือ?” เหลียงอวี่จือถามต่อ อาจเป็นเพราะพ่อของนางเป็นทหาร นางจึงติดการพูดแบบตรงไปตรงมา ถามตรงมาก ไม่มีไหวพริบเลยแม้แต่น้อย

คนที่เข้าใจก็จะว่าไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้าย แต่คนที่ไม่เข้าใจก็อาจคิดว่านางเกลียดอีกฝ่ายมาก

หลานสุ่ยชิงไม่รู้จักนางมาก่อน ย่อมไม่รู้นิสัยใจคอของนาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่านางมีเจตนาร้าย นางจึงแค่หัวเราะ “การแต่งงานเป็นคำสั่งของพ่อแม่ คำพูดของแม่สื่อเสมอ ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องตอบแทนบุญคุณหรือไม่ตอบแทนบุญคุณหรอก”

เหลียงอวี่จือเม้มปาก และไม่พูดอะไรต่อ

ซูเหยาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สุ่ยชิงยอดเยี่ยมมาก ขอบอกเลยนะ ข้าจะบอกให้ว่าอวี่จือมักจะอารมณ์เสียตอนพูดคุย ข้าไม่เคยเห็นใครที่สามารถทำให้นางหุบปากอย่างเชื่อฟังได้ ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว ต่อไปเจ้าต้องช่วยสอนข้าแล้ว นางจะได้เลิกโกรธข้าตลอดเสียที”

เหลียงอวี่จือพ่นลมหายใจเบา ๆ “เจ้าเคยไม่ทำให้ข้าโกรธด้วยหรือ? คนใจร้าย”

ซูเหยาทำหน้ามุ่ย แล้วหันไปถามหลานสุ่ยชิง “แล้วเจ้าได้พบกับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวแล้วหรือยัง? ข้าเคยเจอท่านอ๋องซิวกับซิวหวางเฟย พวกเขาทั้งสองมีรูปงาม มีความสามารถและโดดเด่นยิ่งนัก ลูกชายของพวกเขาก็ต้องหล่อเหลาด้วยใช่หรือไม่?”

หลานสุ่ยชิงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นางควรตอบเรื่องนี้อย่างไรดี?

ขณะที่นางกำลังลำบากใจอยู่นั้น เสียงพูดคุยจอแจก็ดังมาแต่ไกล

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู่แปล

คิดว่าตัวเองมีพันธมิตรอยู่ฝ่ายเดียวเหรอไงยัยคุณหนูรองคุณหนูสาม คนอื่นก็มีได้เหมือนกันนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด