อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 720 ข้าจะถลกหนังมัน

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 720 ข้าจะถลกหนังมัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 720 ข้าจะถลกหนังมัน

ตอนที่ 720 ข้าจะถลกหนังมัน

ผู้อาวุโสสกุลหมิงหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่ารีบร้อนมา ด้านหลังเขายังมีโม่เสียนมาด้วย ดูท่าแล้วผู้อาวุโสสกุลหมิงจะไปโรงเตี๊ยมที่เขาอาศัยมา เมื่อรู้ว่าตนไม่อยู่จึงมาที่นี่

เย่ซิวตู๋ตกตะลึง ขมวดคิ้วแล้วถาม “หมายความว่าอย่างไรขอรับ?”

อวี้ชิงลั่วได้ยินดังนั้นก็เดินออกมาจากด้านใน เห็นผู้อาวุโสสกุลหมิงเหงื่อท่วมจึงหวังดีรินน้ำให้เขาหนึ่งถ้วย

“เมื่อวานหนานหนานไปพักที่จวนข้าไม่ใช่หรือ? ข้าอยากให้เขาพักกับข้า แต่หนานหนานอยากอยู่ที่เรือนคนเดียว ข้าเองก็ตามใจเขา ได้ยินคนรับใช้ของเขาบอกว่าเขาเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่เช้าวันนี้สาวใช้รออยู่ข้างนอกนานมาก ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใดๆ จากข้างใน เมื่อเข้าไปดูก็พบว่าเตียงเย็นเฉียบ ในห้องไม่มีคนอยู่เลย มีเพียงหน้าต่างที่เปิดอยู่เท่านั้น”

ผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่สนใจดื่มน้ำ เมื่อคิดว่าหนานหนานมาพักที่จวนตนครั้งแรกแล้วหายตัวไปอย่างลึกลับ ก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำอย่างไร? ต่อให้ไม่เกิดอะไรขึ้น ต่อไปซิวเอ๋อร์จะต้องไม่ยอมให้เขาติดต่อกับหนานหนานเท่าใดนักเป็นแน่

เมื่อวานตนไม่น่าฟังคำเขาเลย หากยืนกรานที่จะพักกับเขา มีตนอยู่ หนานหนานจะต้องไม่หายตัวไปเป็นแน่

“ข้าให้คนในจวนตามหาแล้ว ตามหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็ยังหาไม่เจอแม้แต่เงา ทางด้านคนเฝ้าประตูก็บอกว่าไม่เห็นหนานหนานออกจากจวน เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”

ว่ากันตามเหตุผลแล้ว จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงมีการคุ้มกันแน่นหนา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีโจรเข้ามาลักพาตัวหนานหนานไป

แต่ก็เพราะการคุ้มกันแน่นหนานี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่หนานหนานจะออกไปโดยไม่มีใครรู้

ผู้อาวุโสสกุลหมิงแทบจะผมร่วงหมดศีรษะ เขาคงไม่เคยคิดว่าการจัดการเวรยามลาดตระเวนของผู้อารักขาล้วนมีเหมิงจื้อเฉิงเป็นคนจัดการ ดังนั้นจึงรู้ว่าจุดไหนที่มีการคุ้มกันน้อยที่สุด ช่วงเวลาไหนที่พอดีกับการผลัดเวร หนานหนานเองก็ออกจากจวนตามเขาไป แน่นอนว่าจะต้องไม่มีผู้อารักขาเห็นได้

สีหน้าของเย่ซิวตู๋เคร่งเครียดขึ้นมา ผู้อาวุโสสกุลหมิงเห็นแล้วพลันละอาย เอานิ้วแตะจมูก จากนั้นก็ไม่สนใจสีหน้าของเขา รีบกล่าว “ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาหาว่าใครต้องรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือต้องรีบตามหาตัวเด็ก หนานหนานไม่คุ้นชินกับสถานที่ในดินแดนเหมิง ช่วงนี้ก็มีคนเข้าเมืองมาจำนวนมาก จะให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ได้นะ”

หมอเฒ่าฉยงซานที่ฟังอยู่ด้านข้างครู่ใหญ่พอจะเข้าใจแล้ว ทันใดนั้นก็พ่นลมใส่เคราแล้วจ้องเขม็ง “เหตุใดจึงไม่ใช่เวลาหาคนรับผิดชอบเล่า? นี่เป็นความผิดของเจ้าล้วนๆ เจ้าจะให้หนานหนานไปพักที่จวนเจ้าทำไมกัน? จวนเจ้ามีแต่ความมืดมน พลังความโกรธเกรี้ยว มีแต่ของไม่ดี เจ้ายังให้เด็กอยู่ที่จวนเจ้าอีกหรือ?”

ผู้อาวุโสสกุลหมิงหันหน้ามาอย่างโมโห “ฮั่วเหล่า เจ้าหุบปากไปเลย เหลนของข้า เหตุใดจะมาอยู่จวนข้าไม่ได้ คนนอกอย่างเจ้ามาพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”

อวี้ชิงลั่วมุมปากกระตุก รินน้ำสองแก้วอยู่ที่โต๊ะ ถือข้างละแก้วแล้วส่งให้คนทั้งสอง ยิ้มแย้มพลางกล่าว “ทั้งสองท่านดื่มน้ำเสียก่อนเถิด”

สองคนนี้เหมือนลิ้นกับฟันเสียจริง เจอกันครั้งไหนก็ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย ทำตัวเป็นเด็กยิ่งกว่าหนานหนานเสียอีก

ผู้อาวุโสสกุลหมิงและหมอเฒ่าฉยงซานอึ้งไปพร้อมกัน หันหน้ามามองนางแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองสายตาเย็นชาของเย่ซิวตู๋ ทันใดนั้นก็กระอักกระอ่วน ยื่นมือรับถ้วยชาแล้วไม่กล่าวอะไรอีก

เย่ซิวตู๋เห็นว่าห้องเงียบไปไม่น้อย จึงให้ทั้งสองคนนั่งลง ถามผู้อาวุโสสกุลหมิง “ท่านอาจารย์ ท่านบอกว่าคนรับใช้ที่รับใช้หนานหนานคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกใช่หรือไม่ ไม่ได้จากไป หรือหมดสติไปเลยใช่ไหมขอรับ”

ผู้อาวุโสสกุลหมิงส่ายหน้า “ไม่เลย สาวใช้คนนั้นอยู่ที่นั่นทั้งคืน ไม่ได้หลับสนิทด้วย”

อวี้ชิงลั่วสบตากับเย่ซิวตู๋ ลอบถอนหายใจ “เช่นนั้นแล้ว หนานหนานน่าจะแอบออกมาเองเจ้าค่ะ”

นางหยุดไป จู่ๆ ก็เหมือนกับว่าคิดอะไรออก ผลักหมอเฒ่าฉยงซานตรงหน้าออกไปแล้วเดินออกจากห้อง

สองสามคนที่เหลืออยู่ในห้องมองหน้ากัน มองเย่ซิวตู๋อย่างไม่เข้าใจ

เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว เดินตามออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ที่แท้อวี้ชิงลั่วก็มาตรวจสอบที่ห้องข้างๆ

ตอนแรกที่ทั้งสองคนเข้ามาตรวจสอบนั้นเป็นตอนกลางดึก ถึงแม้จะมีแสงเทียนแต่ก็ไม่ได้ชัดเจนนัก

ตอนนี้ข้างนอกแดดแรง แสงสว่างมาก อวี้ชิงลั่วไปดูตรงขอบหน้าต่างและพบว่าใต้รอยเท้าใหญ่ที่เห็นเมื่อตอนกลางคืนนั้น มีรอยเท้าเล็กๆ จางๆ อยู่

อวี้ชิงลั่วตบหน้าผากในทันใด “เมื่อคืนหนานหนานกลับมา”

“หา?” ผู้อาวุโสสกุลหมิงตกตะลึง หนานหนานกลับมาโรงเตี๊ยมหรือ ทำไมกัน หรือว่าอยู่ที่จวนแล้วไม่ชินกันนะ

เย่ซิวตู๋หรี่ตา คิดถึงคนชุดดำสองสามคนเมื่อคืน แววตาเคร่งเครียด “เช่นนั้นแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับไปมือเปล่า เพียงแต่จับไปผิดคน จับตัวหนานหนานไป”

อวี้ชิงลั่วพยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง พวกเขาทำผิดพลาดไปจริงๆ คิดแล้วคิดอีกก็คือหนานหนานนอนที่จวนผู้อาวุโสสกุลหมิงได้ครู่เดียว แล้วจู่ๆ ก็กลับมา

เขากลับมาที่โรงเตี๊ยมทำไมกัน? กลับมาก็ไม่ได้ไปดูที่ห้องของนางเลย ไอ้เจ้าเด็กนี่…

ผู้อาวุโสสกุลหมิงตัวแข็งทื่อไป ได้ยินเย่ซิวตู๋กล่าวเช่นนั้น คนทั้งคนก็ตกใจ จับคอเสื้อของเขาแล้วถามอย่างร้อนใจ “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ จับผิดตัวอะไรกัน หนานหนานถูกจับตัวไปหรือ ถูกใครจับตัวไป?”

หน้าผากของเย่ซิวตู๋กระตุก ค่อยๆ แกะนิ้วเขาออกทีละนิ้ว ยืนห่างเขาไปสองก้าว

ผู้อาวุโสสกุลหมิงเห็นเขาไม่ร้อนใจเลยสักนิดก็ยิ่งหงุดหงิด “เจ้าพูดมาสิ ใครมันไม่มีตาถึงเพียงนั้น เจ้าบอกข้ามา ข้าจะไปถลกหนังมันเดี๋ยวนี้ล่ะ”

กล้ามายุ่งกับเหลนของเขาหรือ? ไม่อยากอยู่แล้วสินะ ทั่วทั้งดินแดนเหมิงนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังต้องยอมเขาเลย

เย่ซิวตู๋เพิกเฉยกับความโมโหของเขา เพียงแต่หันไปหาอวี้ชิงลั่ว กล่าวเสียงต่ำ “ยืนยันให้แน่ใจก่อนเถิดว่าหนานหนานปลอดภัยหรือไม่”

“อืม” อวี้ชิงลั่วนั่งยองๆ หยิบขวดกระเบื้องเคลือบออกมาจากตัว แล้วปล่อยเสี่ยวไป๋เหอออกมา

เสี่ยวไป๋เหอส่ายหาง คลานออกไปจากสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว

ผู้อาวุโสสกุลหมิง หมอเฒ่าฉยงซาน รวมไปถึงว่านเผิงหลงต่างก็จ้องมองแมงป่องตัวน้อยด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจ

อวี้ชิงลั่วมองเย่ซิวตู๋ไม่คิดจะเอ่ยปาก จึงพยายามอธิบาย “แมงป่องตัวนี้ติดตามที่อยู่ของหนานหนานได้ เรารอข่าวอยู่ที่นี่ก่อนเถิดเจ้าค่ะ ถ้าหากเขาปลอดภัยก็ไม่ต้องเป็นกังวล หากแมงป่องนำข่าวร้ายกลับมา เราค่อยมาคิดว่าจะช่วยเด็กมาได้อย่างไรก็พอ”

เรื่องความปลอดภัยของหนานหนาน อวี้ชิงลั่วไม่ได้กังวลมากนัก เด็กคนนั้นเก่งกว่านางเสียอีก ทั้งยังฉลาดมาก เว้นแต่ว่าจะเจออันตรายหนักมากจริงๆ หรือไม่ก็ยังไม่อยากกลับมา

และเป็นไปตามที่อวี้ชิงลั่วคาดเดา หนานหนานในตอนนี้ถูกยัดใส่กระสอบ มุ่งตรงไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตชานเมือง

เมื่อวางกระสอบลง เขาก็ตื่นพอดี

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เดาว่าน่าจะเป็นนังเหมิงเคอนี่แหละที่สั่งให้ลักพาตัวเหมิงหลัวอวี้ แต่จับผิดคน

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *