อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 770 ถูกสังหาร

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 770 ถูกสังหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 770 ถูกสังหาร

ตอนที่ 770 ถูกสังหาร

ลูกสุนัขป่าตัวนั้นอยู่ใกล้หนานหนานมากจนอวี้ชิงลั่วเม้มปาก อดไม่ได้ที่จะถาม “หนานหนาน เจ้ากับหมาป่าตัวนี้ดูเหมือนจะมีชะตาต่อกันมากนะ”

“แน่นอนขอรับ น่ารักเหมือนกันนี่ขอรับ ไว้หลางหลางโตขึ้นก็จะตัวใหญ่แข็งแรง พอข้าโตไปก็จะเป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นพวกเราจึงมีชะตาต้องกันขอรับ” หนานหนานมีความสามารถในการทำความเข้าใจสูง เขาคิดว่านี่เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดแล้ว

อวี้ชิงลั่วคุ้นเคยกับความไร้ยางอายของเขาแล้ว

“หนานหนาน เจ้าเปลี่ยนชื่อให้มันได้ไหม” นางฟังแล้วรู้สึก… ไม่สบอารมณ์จริงๆ

หนานหนานกะพริบตา เงยหน้าขึ้นแล้วตั้งใจครุ่นคิดครู่หนึ่ง “จริงๆ แล้วตอนแรกข้าคิดว่าใช้ชื่อฉยงป้าก็ไม่เลวเลย แต่หากท่านแม่รู้สึกว่ามันไม่ดี เช่นนั้นข้าก็จะเปลี่ยนเชื่อ ข้าขอคิดก่อน…”

แววตาของเขากวาดมองในรถม้า มองสิ่งของที่อยู่ข้างใน พึมพำกับตนเอง “ชื่อเปาฟูไหมขอรับ สุ่ยหู เกาเตี่ยนไหม”

อวี้ชิงลั่วสีหน้าเคร่งเครียด มีคนตั้งชื่อด้วยวิธีนี้ด้วยหรือ

หนานหนานมองไปรอบๆ ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งไหนเป็นชื่อที่ถูกใจเขาได้เลย จากนั้นจึงเลื่อนสายตาไปด้านนอกรถม้า

ทันใดนั้นแววตาของเขาก็เป็นประกาย จากนั้นก็ปรบมือทันที “มีแล้ว ข้าอยากให้เจ้าหมาป่าน้อยได้กินเนื้อไวๆ เพราะหลังจากดื่มนมแพะและนมวัวแล้วจะหิวเร็วมาก ข้าเองก็เป็นเช่นนั้น ดังนั้นเรียกมันว่าโร่วโร่วดีกว่า”

“คิกๆๆๆ” อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปากและยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ นางมองสุนัขป่าตัวน้อยที่นอนอยู่ในกรงไม่เคลื่อนไหวใดๆ กล่าวอย่างหมดคำจะพูด “เจ้าพอใจก็ดีแล้ว”

นางไม่คาดหวังให้เขาคิดชื่อที่ลึกซึ้งกว่านี้อีกแล้ว

หนานหนานเห็นว่าท่านแม่ไม่คัดค้าน ก็เอนตัวลงบนขอบกรงทันที ยิ้มแล้วพูดกับลูกสุนัขป่าที่อยู่ในกรง “ต่อไปนี้เจ้าชื่อโร่วโร่วแล้วนะ เป็นอย่างไร ชอบไหม ข้าว่าไม่เลวเลยล่ะ”

ลูกสุนัขป่ากระดิกหาง อ้าปาก จากนั้นก็ส่งเสียงต่ำราวกับกำลังตอบรับหนานหนาน

อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว เจ้าลูกสุนัขป่าตัวนี้ปกติจะเย็นชาและหยิ่งยโส ไม่แม้แต่จะมองใครๆ แต่มันก็ยังเป็นมิตรกับหนานหนาน ช่างน่าแปลกยิ่งนัก

รถม้ามาถึงจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่อย่างรวดเร็ว คนรับใช้ด้านนอกก้าวมาหาอย่างมีความสุข ยิ้มแย้มต้อนรับ

อวี้ชิงลั่วคิดว่าวันนี้แปลกๆ รอยยิ้มของคนรับใช้เหล่านี้ดูประจบประแจงเกินไป มันผิดปกติเล็กน้อย

หนานหนานไม่ได้คิดอะไร เขามุ่งความสนใจไปที่ลูกสุนัขป่าเท่านั้น กอดกรงแล้วพูดคุยกับโร่วโร่วที่อยู่ด้านใน

อวี้ชิงลั่วเดินไปสักพัก ไม่ช้าก็พบว่าบางอย่างผิดปกติ นางมองไปยังคนรับใช้ที่เดินนำอยู่ด้านหน้าอย่างไม่แน่ใจ ยิ้มบางแล้วกล่าว “วันนี้ดูเหมือนในจวนจะดูเงียบเหงาไปหน่อยนะ”

คนรับใช้ผู้นั้นผงะไป จากนั้นก็ใบหน้าเปื้อนยิ้มอีกครั้ง “ใช่ขอรับ หลายคนถูกท่านผู้อาวุโสไล่ออกจากจวนไปแล้ว คนเหล่านั้นก็สมควรแล้ว กล้ารังแกคุณหนู ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อีกทั้งวิธีที่ใช้ก็สุดจะทน กล้าทำกับเด็กวัยห้าขวบอย่างรุนแรงเพียงนั้น ข้าคิดว่าตีให้ตายก็ไม่ถือว่าเกินไป”

อวี้ชิงลั่วเข้าใจในทันที ดูท่าผู้อาวุโสสกุลเยว่จะเป็นห่วงเหมิงหลัวอวี้ที่ถูกกระทำเป็นอย่างมากจริงๆ ในเวลาเพียงคืนเดียวก็กำจัดข้ารับใช้เหล่านั้นอย่างเฉียบขาดเสียแล้ว

ไล่ออกไปเสียก็ดี จะได้รับบทเรียนกันเสียบ้าง

ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้หัวหน้าคนรับใช้ให้ความเคารพนางมาก คงจะรู้เรื่องราวของนางและเหมิงหลัวอวี้แล้ว รู้ว่าในตอนนี้ไม่ควรทำให้นางไม่พอใจเป็นดีที่สุด

คนรับใช้นำหน้าไประยะหนึ่ง เมื่อไปถึงประตูที่สอง พ่อบ้านของจวนก็เดินมารับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พานางไปยังด้านในด้วยตนเอง

เดินไปอีกครู่หนึ่ง สองสามคนก็หยุดฝีเท้า พ่อบ้านชี้ไปยังตำแหน่งทางด้านซ้าย ถามความเห็นของอวี้ชิงลั่วด้วยรอยยิ้ม

“แม่นางถัง ทางด้านนี้คือที่พักใหม่ของคุณหนูเล็ก ทางด้านนั้นคือเย่เซ่อ ท่านจะไปพบคุณหนูเล็ก หรือไปดูอาการนายน้อยก่อนขอรับ”

“ไปหาเสี่ยวอวี้ก่อนเกิด” อวี้ชิงลั่วประเมินที่พักของเหมิงหลัวอวี้ ที่นี่แตกต่างจากเรือนเล็กๆ ที่มุมจวนก่อนหน้านี้ ดูจากรูปแบบและพื้นที่แล้ว ก็รู้ได้ว่าตอนนี้เหมิงหลัวอวี้ได้รับการปฏิบัติอย่างที่ไม่เคยเป็นแล้ว

อีกทั้งเรือนนี้ยังอยู่ข้างๆ เย่เซ่อ ไปพบเหมิงหรงก็สะดวกอย่างยิ่ง

เรือนนี้ถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบและตกแต่งอย่างดี ผู้อาวุโสสกุลเยว่คงจะทุ่มเทแรงใจไปมากทีเดียว

อวี้ชิงลั่วพาหนานหนานเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว จากนั้นก็หยุดกะทันหันที่ประตูเรือน “จริงสิ ผู้อาวุโสสกุลเยว่เล่า”

“ท่านผู้อาวุโสมีธุระพอดีขอรับ ก่อนจากไปท่านได้สั่งไว้ หากแม่นางถังมาแล้วก็ให้มาได้เลย หากมีคำสั่งอันใดก็ต้องทำตามขอรับ” พ่อบ้านตอบด้วยรอยยิ้ม “จริงสิ ผู้อาวุโสยังสอบถามกับคุณหนูเล็กมาแล้ว รู้ว่าคุณชายเล็กชอบกินของว่าง ได้สั่งคนรับใช้ให้เตรียมไว้เป็นพิเศษ แม่นางถังและคุณชายเล็กเชิญเข้าไปดื่มชาเสียหน่อย เดี๋ยวคนรับใช้จะนำของว่างไปให้ขอรับ”

เพียงหนานหนานได้ยินว่ามีของกิน แววตาก็เป็นประกายทันที รีบพยักหน้ากล่าว “ได้ๆๆ พวกเราจะเข้าไปเดี๋ยวนี้”

อวี้ชิงลั่วลอบดึงเขาไว้ ใช้สายตาบ่งบอกเขาว่าให้เก็บอาการหน่อย

หนานหนานเบ้ปากอย่างไม่พอใจนัก พ่อบ้านเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ

จริงๆ แล้วเมื่อเช้านี้คุณหนูเล็กยังพูดคุยกับนายน้อย ตอนนั้นเขาก็ยืนรออยู่ด้านข้าง ได้ยินเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับบุตรชายของแม่นางถังมาไม่น้อย ตอนนั้นก็รู้สึกว่าน่ารักดี ตอนนี้ได้มาเห็นของจริงแล้ว ก็พบว่าน่าสนใจทีเดียว

อายุน้อยเพียงนี้ยังพาลูกสุนัขป่ามาด้วย ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังใช้นิ้วแหย่มันสองครั้ง หมาป่าตัวนั้นเองก็เป็นมิตรกับเขามาก ทั้งยังดูเหมือนเป็นเด็กที่ถูกตามใจอีกด้วย

แม่นางถังผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นบุตรชายของนางก็ไม่ใช่ธรรมดาเช่นกัน

โชคดีที่คุณหนูเล็กได้พบกับพวกเขาแม่ลูก ไม่อย่างนั้นตอนนี้เกรงว่าคงได้เจอเรื่องที่เกินจะคาดเดาไปแล้ว

พ่อบ้านลอบถอนหายใจสองครั้ง ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะคิดบางอย่างออก จากนั้นกล่าวเสียงเบาอีกครั้ง “จริงสิ ท่านผู้อาวุโสมีเรื่องหนึ่งฝากให้ข้าน้อยแจ้งแม่นางถังขอรับ”

“มีเรื่องอันใดหรือ?”

พ่อบ้านมองไปรอบๆ จากนั้นก็จงใจลดเสียงลงแล้วกล่าว “คนครอบครัวเถี่ยทั้งสามคน…ถูกพบเป็นศพที่บ้านเมื่อคืนขอรับ ตายเพราะถูกพิษ หลังจากการชันสูตรแล้ว พวกเขาถูกสังหารเช้าเมื่อวานขอรับ”

อวี้ชิงลั่วตะลึงไป พ่อ แม่ และพี่ชายของเถี่ยชิวเอ๋อร์…

ใช่แล้ว จริงๆ นางก็รู้มาตั้งแต่แรกว่าเหมิงเคอไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป พวกเขาทั้งสามคนช่วยคนร้าย ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเกิดเรื่อง

เพียงแต่ว่า ตอนนี้เถี่ยชิวเอ๋อร์ยังหมดสติอยู่ หากนางรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะมีการตอบสนองเช่นไร

เพียงคิดถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่มีความอดทนเพียงนั้น อวี้ชิงลั่วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

พ่อบ้านไม่ได้กล่าวอันใดเพิ่มเติม หันหลังบอกลาแล้วจากไป

อวี้ชิงลั่วปรับสีหน้าของตน จากนั้นก็พาหนานหนานเข้าไปในเรือน

ด้านนอกเรือนมีแม่บ้านแก่ๆ คอยเฝ้าอยู่ตรงประตู เมื่อรู้สถานะของนางก็ไม่ได้ขัดขวาง ปล่อยเข้าไปข้างใน

เมื่อเข้ามายังประตูด้านในก็มีสาวใช้เดินเข้ามา ต้องการจะรายงาน อวี้ชิงลั่วโบกมือ “ข้าเข้าไปเองได้”

สาวใช้คนนั้นพยักหน้า ยอมถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง

หนานหนานกอดกรงอย่างมีความสุข เดินนำอวี้ชิงลั่วเข้าไปข้างใน

แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู จู่ๆ ก็หยุดฝีเท้าอีกครั้งแล้วขมวดคิ้ว มองภาพในห้องนั้น

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สมควรแล้ว ละโมบจนช่วยเหลือคนชั่วก็ต้องแลกกับชีวิตของตัวเองนั่นแหละ

น้องอวี้มาอยู่บ้านแล้วจะเป็นยังไงนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *