อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 978 องค์ชายสี่ทรยศ

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 978 องค์ชายสี่ทรยศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 978 องค์ชายสี่ทรยศ

ตอนที่ 978 องค์ชายสี่ทรยศ

ไม่ต้องไปแล้วหรือ?

หนานหนานอึ้งงัน ถามเขาอย่างสงสัย “ทำไมหรือขอรับ?”

องค์ชายสามจับมือของพระชายา ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือด เมื่อเขามองก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ละสายตาจับจ้องไปยังหนานหนาน ใบหน้าฉายแววเย็นชา สีหน้าเยาะเย้ย “ตอนนี้องค์ชายสี่พึ่งพาองค์ชายเจ็ดแล้ว พวกเขาสองคนร่วมมือกันไปแล้ว เกรงว่าหากพวกเจ้าไป เขาจะหาว่าพวกเจ้ายุ่งเรื่องชาวบ้านเสียมากกว่า”

“เขาเป็นพวกเดียวกับองค์ชายเจ็ดแล้วหรือขอรับ?” หนานหนานเบิกตากว้าง พลางคิดถึงท่าทางอ่อนแอขี้ขลาดของเย่หลานหลี่ คิดถึงองค์ชายสี่ที่ขาดความมั่นใจแม้จะเผชิญหน้ากับตน คนเช่นนี้กลับไปพึ่งพาองค์ชายเจ็ดอย่างนั้นหรือ?

องค์ชายสามค่อยๆ หลับตาลง แค่นหัวเราะออกมา “ไม่เพียงแค่นั้น การลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อ เดิมทีก็เป็นความคิดของเขา เฮ้อ ข้าเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะเป็นคนเหี้ยมโหดตัวจริง”

องค์ชายสามนึกถึงองค์ชายสี่ที่มักจะตามหลังเขาต้อยๆ เสมอ สีหน้าก็ดุดันขึ้นมาอย่างมาก

เขาไม่รู้เลยว่าที่แท้คนที่อยู่ข้างกายของตนมาโดยตลอด จะเป็นหมาป่าที่ดุร้าย

ตระกูลบรรพบุรุษขององค์ชายสี่ไม่ได้แข็งแกร่ง เขารู้ว่าตนไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความสามารถจะไปสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งนั้น ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงตัวติดกับองค์ชายสาม พึ่งพาบารมีของเขา

แต่ตอนนี้เขารู้ว่าองค์ชายสามไม่มีประโยชน์แล้ว ตอนนี้ระหว่างเหล่าองค์ชายได้แบ่งกันเป็นสองฝ่าย เขาและเย่ซิวตู๋มีความขัดแย้งกันเพราะเรื่องของเย่หลานเฉิง ดังนั้นจึงไปพึ่งพาองค์ชายเจ็ด

เรื่องการลอบสังหารเสด็จพ่อก็เป็นเขาที่เอ่ยออกมาก่อน ถึงแม้ว่าองค์ชายเจ็ดอาจจะวางแผนเช่นนั้นเอาไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อองค์ชายสามได้รู้ว่าองค์ชายสี่ที่ขี้ขลาดอ่อนแอมาโดยตลอดเป็นผู้เอ่ยเรื่องนี้ออกมาก่อน ก็ยังคงรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่

เฮ้อ เขาถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอด คิดว่าองค์ชายสี่ยังคงเป็นคนที่ต้องการให้เขาคุ้มครอง จนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผย เขาจึงได้เข้าใจขึ้นมา

นั่นสินะ ถึงแม้เขาจะเป็นคนหุนหันพลันแล่นและบ้าอำนาจอยู่บ้าง แต่จะเป็นคนที่ปล่อยให้องค์ชายเจ็ดควบคุมง่ายๆ ได้อย่างไร แม้แต่ชีวิตของภรรยาและลูกก็ยังอยู่ในกำมือขององค์ชายเจ็ด ทั่วทั้งตำหนักนี้ ผู้พิทักษ์ทมิฬทั้งหมด ผู้อารักขาทั้งหมด หรือแม้แต่เหล่าคนรับใช้ที่ยอมพลีชีพให้ที่ครอบครัวบรรพบุรุษส่งมาให้เขา ทั้งหมดก็ล้วนถูกคนขององค์ชายเจ็ดฆ่าตาย

ตั้งแต่ต้นเขาคิดว่าเพราะอำนาจขององค์ชายเจ็ดนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ยิ่งใหญ่เสียจนส่งคนแทรกซึมเข้ามาในตำหนักของเขาได้ตั้งนานแล้ว หลังจากนั้นจึงได้รู้ ว่าแท้จริงแล้วล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกขององค์ชายสี่

หากบอกว่าใครที่เข้าใจเขา เข้าใจตำหนักของเขาได้ดีที่สุด ก็คงต้องเป็นองค์ชายสี่

องค์ชายสี่ที่คอยเกาะติดผู้อื่นเพื่อเอาตัวรอด คนที่อ่อนแอขี้ขลาดคอยหลบอยู่ข้างหลังผู้อื่น อาจจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดตัวจริงก็เป็นได้

เย่หลานเวยเองก็ดึงแขนเสื้อของหนานหนาน กล่าวเบาๆ “ท่านอาสี่ชั่วร้ายมาก เมื่อวานเย่หลานหลี่ยังมาหาข้า… แล้วด่าข้าด้วย”

เย่หลานเวยเองก็ประหลาดใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งเย่หลานหลี่จะมาชี้หน้าด่าเขา

หนานหนานเงยหน้าขึ้น สบตากับฟ่านผิงอวิ๋น

อีกฝ่ายเริ่มครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งก็หันหน้ากล่าวกับฟ่านฉี่อวิ๋น “เจ้าพาครอบครัวองค์ชายสามไปที่ปลอดภัยเสียก่อน ระวังด้วย”

จากนั้นก็ย่อตัวลง ลูบศีรษะของหนานหนาน สายตามองไปยังเย่หลานเวยที่ยังคงจับแขนเสื้อของหนานหนานอยู่อย่างดื้อดึง ก็เม้มปากแล้วเอ่ย “เจ้ากลับตำหนักไปเสีย สำหรับเวยซื่อจื่อนั้น ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย การให้เวยซื่อจื่อกลับไปกับเจ้าจึงไม่เหมาะสมอย่างมาก…”

มือเล็กๆ ของเย่หลานเวยที่จับมือหนานหนานนั้นกระชับแน่นขึ้น “ข้า ข้าจะตามติดหนานหนาน หนานหนานไปไหน ข้าก็จะไปด้วย”

ฟ่านผิงอวิ๋นสับสนมาก ตอนนี้ตำหนักท่านอ๋องซิวแข็งแกร่ง ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยเท่าที่นั่นแล้ว

แต่ด้วยเหตุนี้ การให้คนนอกเข้าไปในตำหนักอ๋องซิวอีกคนหนึ่ง ก็จะมีอันตรายเพิ่มขึ้นอีก

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจเย่หลานเวย แต่การเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งก็อาจจะถูกคนหลอกใช้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในตำหนักอ๋องซิวนั้นก็ยังมีหนอนบ่อนไส้ที่ตอนนี้ยังหาตัวไม่ได้

หนานหนานฉลาด ส่วนเย่หลานเฉิงรู้จักอดทน ไม่เหมือนกับเย่หลานเวยที่เพิ่งมีประสบการณ์ที่แปรปรวนมากมายเช่นนี้ เด็กคนนี้จะถูกหลอกใช้ได้ง่ายเกินไป

หนานหนานครุ่นคิดแล้วก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เขาหมุนตัว ดึงเย่หลานเวยไปที่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ เกลี้ยกล่อมเขาอย่างอดทน “เย่หลานเวย ข้าเป็นคนมีความสามารถมาก เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่?”

“ข้ารู้ ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิชาต่อสู้สูงส่ง ดังนั้นเจ้าอย่าทิ้งข้าไว้คนเดียวนะ” เย่หลานเวยแสดงท่าทางอย่างร้อนรน ขณะกล่าวก็เหมือนว่าจะมีคำเยินยอแฝงอยู่ในนั้นด้วย

หนานหนานรับไม่ได้กับสีหน้าและน้ำเสียงที่กลัวจะถูกทิ้งเช่นนี้มากที่สุด นิสัยก่อนหน้านี้ของเย่หลานเวยนั้นน่ารักกว่าตอนนี้มาก

ช่างน่ารำคาญจริง หนานหนานเกาศีรษะตนเอง

“ดังนั้น ข้ามีความสามารถมากเพียงนั้น ข้าจึงมีเรื่องมากมายต้องทำ ข้าจะยุ่งมาก เช่นนั้นข้าจะไม่สามารถดูแลเจ้าได้ เจ้าเองก็ไม่มีวิชาต่อสู้ ข้าไปที่ไหนแล้วต้องพาเจ้าไปด้วยก็จะไม่สะดวกน่ะสิ”

“เช่น เช่น… เช่นนั้นข้าอยู่ที่ตำหนักท่านอ๋องซิวก็ใช้ได้แล้ว”

“ที่ตำหนักอ๋องซิวก็เป็นไปได้ว่าจะมีคนชั่วอยู่ หากมีคนชั่วมาลักพาตัวเจ้าไปเล่า? ดังนั้นเจ้าอยู่กับบิดามารดาที่เจ้าคุ้นเคยเถิด เช่นนั้นจึงจะปลอดภัย”

เย่หลานเวยกัดริมฝีปากล่างอย่างแรง ก้มหน้าลงแล้วไม่กล่าวอันใด

“เย่หลานเวย หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้อีก ข้าจะไม่สนใจเจ้าอีกแล้ว”

เย่หลานเวยน้ำตาไหลออกมาทันที ปล่อยมือที่จับเสื้อผ้าของหนานหนาน เบ้ปาก สะอื้นเบาๆ “เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องสนใจข้าแล้ว ข้าจะอยู่ที่นี่ ข้าเกิดเองก็ต้องตายเอง”

หนานหนานอยากจะบ้า เหตุใดคนผู้นี้จึงเปลี่ยนอารมณ์ไปเช่นนี้ ช่างยากจะรับมือยิ่งนัก

เขาอยากจะเอาไม้แทงหัวเขาแรงๆ เสียจริง แทงหัวให้ทะลุเป็นการดีที่สุด

เขากัดฟันแน่น หมุนตัวเดินจากไป

แต่เดินไปได้เพียงสองก้าว จู่ๆ เสียงร้องทางด้านหลังก็ดังขึ้นมา กระตุ้นให้ร่างกายของหนานหนานสั่นเทาในทันใด

เขากำหมัดแน่น หลับตาปี๋ ไม่มีทางอื่นนอกจากกลับไป “เย่หลานเวย เจ้านี่ช่าง เจ้านี่ช่าง… เจ้ายังเทียบน้องอวี้ของข้าไม่ได้เลย น้องอวี้ของข้าไม่มีทางร้องไห้แบบเจ้าแน่”

“น้องอวี้คือใครกัน? ท่านแม่ของเจ้าคลอดน้องสาวให้เจ้าหรือ?” เย่หลานเวยอึ้งงันไป กะพริบตาสองครั้ง แววตางุนงง เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย

“…”

นี่มันใช่ประเด็นหรือ?

“เย่หลานเวย เจ้าลองคิดให้ดีๆ ท่านพ่อของเจ้าต้องการฆ่าเจ้าจริงๆ หรือ? ถ้าหากเขาต้องการฆ่าเจ้าจริงๆ ตอนนี้เจ้าจะยังยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างปลอดภัยหรือ? เขาเพียงแค่แสร้งบ้าก็เท่านั้น คนที่ต้องการฆ่าจริงๆ นั้นคือคนร้ายที่ควบคุมพวกเจ้าเหล่านั้น เจ้าลองคิดอย่างละเอียดเสียว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่?”

เย่หลานเวยเม้มปาก มององค์ชายสามที่อยู่ไม่ไกลแวบหนึ่ง กล่าวเบาๆ “แต่ว่า ตอนที่เขายกกระบี่ขึ้นมาจะแทงข้า…มันน่ากลัวเกินไปแล้ว”

ถึงแม้ดูแล้วองค์ชายสามนั้นทำเพื่อปกป้องพวกเขา แต่เขาก็ยังทิ้งภาพจำที่ดำมืดเอาไว้ในใจของเย่หลานเวยอย่างลึกซึ้ง

หนานหนานรู้ดีว่าชั่วขณะนั้นช่างไม่มีทางเกลี้ยกล่อมเขาได้เลย

เขากุมศีรษะตนเองอย่างแรง ผ่านไปครู่หนึ่งก็แววตาเป็นประกาย ราวกับว่าคิดอะไรออก รีบกล่าวออกมา “เช่นนั้น เจ้าก็ไม่ต้องตามข้า และไม่ต้องตามพ่อแม่เจ้าไป ข้าจะส่งเจ้าไปที่อื่น ว่าอย่างไร?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ดูท่าองค์ชายสี่นี่ก็น่ากลัวไม่เบา ทำเป็นอ่อนแอแต่ที่จริงส่งคนแทรกซึมไปหมดทุกตำหนักแล้วงี้

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด