อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 520 ซึมซับกับผีน่ะสิ

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 520 ซึมซับกับผีน่ะสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 520 ซึมซับกับผีน่ะสิ

ตอนที่ 520 ซึมซับกับผีน่ะสิ

ผู้เฒ่าลู่กระแอมไอเสียงเบาก่อนระบายลมหายใจยาว เมื่อรู้สึกสบายใจมากขึ้นแล้วจึงเผชิญหน้ากับสตรีที่อยู่ด้านหน้า เอ่ยวาจาทุ้มต่ำชัดเจนทีละคำ “เหมิงลู่”

วันนี้เขาประมาทเกินไป จึงทำให้เกิดเรื่องบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เมื่อดูจากท่าทางของนางแล้วก็รู้สึกว่าวันนี้นางคงไม่ยอมถอยง่าย ๆ

เหมิงลู่? เหมิง…ลู่?

อวี้ชิงลั่วอึ้งงันไป จากนั้นย่นคิ้วเล็กน้อย นางเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนสักแห่ง และมันก็ฟังคุ้นเคยมาก ๆ

“อ๊า ที่แท้ท่านปู่ลู่ก็มีชื่อว่าเหมิงลู่นี่เอง เป็นชื่อที่แปลกจริงๆ” หนานหนานหูผึ่งพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ก่อนอุทานด้วยน้ำเสียงใคร่รู้

อวี้ชิงลั่วพลันหน้าตึง หันศีรษะจ้องมองเด็กน้อยด้วยสายตามืดมน “เจ้ากำลังหมายความว่าเจ้าทำเรื่องไร้สาระกับเขามาตั้งนานโดยที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขาเลยนี่นะ?”

“…” หนานหนานรีบก้มศีรษะลง นอนนิ่งบนตัวเสือดำโดยไม่ขยับ

“…” เหมิงลู่ถึงกับปากกระตุก นี่เรียกว่าทำเรื่องไร้สาระอย่างไรกัน? เขาออกจะดูสุภาพอ่อนโยน หน้าตาก็ออกจะใจดี เหตุใดนางถึงเอ่ยวาจาราวกับไม่เข้าใจเสียอย่างนั้น? พวกเขากำลังทำเรื่องจริงจังกันอยู่ เพียงแต่อธิบายไม่ได้ก็เท่านั้น

อวี้ชิงลั่วถลึงตามองหนานหนานอย่างดุร้าย แค่นเสียงเย็นชา และหันหน้าหนีช้าๆ

แต่ในขณะที่หันหน้าไปได้ครึ่งทาง ม่านตาก็หดเกร็ง หยุดชะงักมองที่เหมิงลู่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

เหมิง เผ่าเหมิง เหมิงลู่…

“ท่านเป็นปรมาจารย์เผ่าเหมิงใช่หรือไม่?” อวี้ชิงลั่วอุทานลั่น

ไม่แปลกเลยที่นางจะรู้สึกคุ้นหู ครั้งล่าสุดที่เย่ซิวตู๋อธิบายเรื่องเผ่าเหมิงให้นางฟัง เขาก็เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาด้วย

ชนเผ่าเหมิงมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และยังลึกลับซับซ้อนไม่เป็นที่รู้จัก คนในเผ่าเหมิงมีกฎและความเชื่อของตัวเอง และไม่ถูกควบคุมโดยสี่อาณาจักร แต่ขณะเดียวกันก็แต่งงานกับคนในสี่อาณาจักรได้เช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น หลังจากสตรีเผ่าเหมิงแต่งงานออกไปแล้ว นางก็ไม่อาจกลับสู่ถิ่นเดิมได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย คนในเผ่าที่เหลือก็ไม่สนใจ

สตรีเผ่าเหมิงล้วนงามสง่าระดับงามล่มเมืองกันทุกคน หลังแต่งงานเข้าไปแล้วก็เป็นที่รักใคร่ ซึ่งเห็นตัวอย่างได้ชัดจากเหมิงกุ้ยเฟย

เย่ซิวตู๋บอกว่าปรมาจารย์เผ่าเหมิงปัจจุบันคือเหมิงลู่ เขามีวรยุทธ์แข็งแกร่งและสถานะสูงส่ง ตอนที่อายุเพียงสิบห้าปีก็ได้รับการสนับสนุนจากทุกคนให้มาดำรงตำแหน่งสูงของเผ่าแล้ว

แต่บุรุษผู้นี้ ตอนนี้…กลับอยู่ในอาณาจักรเฟิงชางกับหนานหนาน และยังเป็นผู้สอนวรยุทธ์ให้หนานหนานด้วย

คิ้วของอวี้ชิงลั่วกระตุกรุนแรง พร้อมกับลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างผุดขึ้นในใจอย่างแรงกล้า

แม้จะรู้ถึงสถานะของเหมิงลู่ แต่ในใจกลับนึกระแวงเขาหนักข้อขึ้น

“ปรมาจารย์เผ่าเหมิงอย่างท่านเหตุใดจึงอยู่ที่นี่? เหตุใดท่านต้องมาเกี่ยวพันกับหนานหนาน?”

เหมิงลู่เลิกคิ้วแล้วนั่งบนก้อนหินตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ต่อให้เขาจะถูกพิษ แต่ถ้าเขาถูกยั่วยุให้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกมาก็ไม่อาจประมาทในฝีมือของเขาได้

อวี้ชิงลั่วก้าวถอยอย่างเชื่องช้า บุรุษผู้นี้ดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าฮ่องเต้ของอาณาจักรเฟิงชางเสียอีก

“ดูเหมือนเย่ซิวตู๋คงจะบอกท่านในเรื่องเกี่ยวกับชนเผ่าเหมิงแล้ว” เหมิงลู่หรี่ตามองหนานหนานที่กำลังคุยกับเสือดำอย่างมีความสุข ก่อนเอ่ยพลางกลั้วหัวเราะ “เขาพูดอะไรบ้างเล่าตอนที่อยู่กับท่าน? ท่านรู้เรื่องราวกิจการภายในเผ่าเหมิงมากขนาดไหน?”

“ข้าไม่สนใจเรื่องราวภายในเผ่าเหมิง และข้าก็ไม่ได้อยากรู้ด้วย เพียงอยากรู้จุดประสงค์ที่ท่านเข้าหาหนานหนานเท่านั้น”

เหมิงลู่ประหลาดใจเล็กน้อย มีคนบนโลกนี้ตั้งเท่าใดที่กระหายใคร่รู้ในเรื่องลับภายในเผ่าเหมิง กระทั่งฮ่องเต้ของสี่อาณาจักรยังต้องการถามไถ่เรื่องราวภายในเผ่าเหมิงจากนางสนมของตน น่าเสียดายที่เหล่าสตรีเผ่าเหมิงให้สัตย์ดื่มยาพิษตั้งแต่วันที่แต่งงานออกจากเผ่า ทำให้พวกนางไม่อาจเปิดเผยความลับภายในเผ่าได้

เขาลอบถอนหายใจ ดูเหมือนแผนการที่วางไว้ในใจจะเผชิญกับปัญหาเสียแล้ว

“หนานหนานมีพรสวรรค์มากล้นและเฉลียวฉลาดยิ่ง”

อวี้ชิงลั่วหรี่ตา “แล้วอย่างไร?”

“ในเผ่าเหมิง…นานมาแล้วที่มีบุรุษผู้มีปานกำเนิดลายดอกไม้ นอกจากหนานหนานแล้วก็มีชายหนุ่มอายุยี่สิบปีที่นับว่าอายุน้อยที่สุด แต่ชายผู้นั้นมีคุณสมบัติปานกลางทั้งยังพิการ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เผ่าเหมิงจึงต้องการคนที่มีคุณสมบัติและสติปัญญาถึงพร้อมมาเป็นทายาท”

อวี้ชิงลั่วสูดหายใจลึกขณะจ้องมองเหมิงลู่ “มีเหตุผิดพลาดหรือไม่ ฮ่องเต้ทรงต้องการตัวหนานหนานอยู่แล้ว ท่านเองก็ต้องการเขาด้วยหรือ?” พวกเขาไม่แม้แต่จะถามแม่อย่างนางเลยหรือ? การตัดสินใจแบบคิดเองเออเองนี่มันคืออะไร?

พวกเขาคิดว่าตนเองเป็นพระเจ้า จะเลือกใครก็ตามมาเป็นทายาทได้อย่างนั้นหรือ?

เหมิงลู่เม้มปาก หากเป็นเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็กำลังหยั่งเชิงเด็กน้อยนี่อยู่เช่นกัน จริงด้วย เมื่อดูจากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหนานหนานในช่วงนี้แล้ว เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ตัดเรื่องที่ขี้เกียจสันหลังยาว กินจุ และหลงตัวเองเล็กน้อยไปแล้ว เขาก็เป็นอัจฉริยะที่ร้อยปีถึงจะมีสักหน

คนแบบนี้ ทำให้เหล่าคนชั้นสูงต่างคิดที่จะทำลายพวกเขา…หรือไม่ก็อยากรับพวกเขามาเป็นคนของตน

และเขากับฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเฟิงชางก็เลือกอย่างหลังกันทั้งคู่

“ท่านแม่ ท่านแม่” หนานหนานได้ยินอวี้ชิงลั่วขึ้นเสียงสูงฉับพลันก็รีบส่งเสียงอุทาน “ท่านแม่ อย่าตื่นเต้นไปเลย ท่านไม่ต้องกังวล หนานหนานจะไม่ไปไหน หนานหนานจะอยู่เป็นเสื้อนวมตัวน้อยให้ท่านแม่”

“….” อวี้ชิงลั่วหันหน้ามาหา “เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว

“อ้อ” หนานหนานรู้สึกเศร้าใจจนทรุดนั่งลงไปอีกครั้ง

อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปมองสีหน้าของเหมิงลู่ที่แสดงออกขณะมองหนานหนานแล้วก็แค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่สนใจว่าท่านจะเป็นใคร หนานหนานจะไม่ไปกับท่าน ท่านสร้างทายาทขึ้นมาและฝึกฝนเขาเองเถิด ข้าคิดว่าปรมาจารย์เผ่าเหมิงฉลาดมีไหวพริบ พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ก็สูงส่ง เด็กที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากท่านจะยอดเยี่ยมไร้เทียมทานอยู่แล้ว ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวลว่าเด็กคนนั้นจะมีคุณสมบัติถึงพร้อมแล้วหรือไม่เลย”

มุมปากของเหมิงลู่กระตุกอีกครั้ง เขาอายุขนาดนี้แล้ว จะให้กำเนิดเด็กคนไหนได้อีก?

สิ่งสำคัญที่สุดคือแม้แต่บรรดาบุตรของเขาเองก็ยังไม่มีปานกำเนิดลายดอกไม้ ซึ่งปรมาจารย์เผ่าเหมิงจะถ่ายทอดวิชาให้เฉพาะผู้ที่มีปานกำเนิดลายดอกไม้เท่านั้น และนี่ก็คือกฎ

“อีกอย่าง ต่อไปในภายหน้าปรมาจารย์เหมิงอย่าได้เจอกับหนานหนานอีกเลย พลังยุทธ์ของท่านเหมาะสำหรับฝึกคนที่โตแล้ว และหนานหนานเองก็ยังเด็กอยู่”

“ถึงหนานหนานจะยังเด็ก แต่เขาก็ซึมซับได้”

เส้นเลือดบนหน้าผากของอวี้ชิงลั่วปูดโปนขึ้นมาทีละเส้น แววตายิ่งทวีความเย็นชาน่ากลัวมากขึ้น นางย่างสามขุมไปหาเหมิงลู่ทีละก้าวพร้อมกับเข็มเงินในมือ

“ซึมซับอย่างกับผีน่ะสิ” อวี้ชิงลั่วพลันตวาด

หนานหนานที่กำลังเอนกายพิงเจ้าเสือดำถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อมองไปก็เห็นชัดถึงเข็มเงินในมือของอวี้ชิงลั่ว ซึ่งแน่นอนว่ามีพิษ

หนานหนานอึ้งไปชั่วขณะ รีบปีนลงจากหลังเสือดำและวิ่งไปหาอวี้ชิงลั่วพลางกอดขานางเอาไว้ “ท่านแม่ ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งดุด่าเลย ท่านเป็นสตรีนะ อย่าลดตัวมาอยู่ในระดับสามัญชนเลย”

จบเห่แล้ว มารดาของเขาโมโหแล้ว ครั้งที่เขาเห็นว่านางเป็นแบบนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาที่เขาสลบไปหลังจากถูกขังไว้ในบ้านแล้วอดอาหารอยู่สองวัน

ในตอนนั้นท่านแม่ของเขาได้ลงมือสังหารคนและกลืนผู้กระทำผิดทั้งเป็น ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

แย่งตัวหนานหนานกันแล้ว แผนการที่แท้จริงของปรมาจารย์เหมิงคืออะไรกันนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *