อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 594 ชีวิตเป็นเดิมพัน

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 594 ชีวิตเป็นเดิมพัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 594 ชีวิตเป็นเดิมพัน

ตอนที่ 594 ชีวิตเป็นเดิมพัน

อวี้ชิงลั่วเพิ่งบอกเย่ซิวตู๋ไปว่า ‘หว่านเฟยรู้ว่านางกำลังมองหาแม่นมเก๋อ’ แต่ไม่ได้บอกว่าแม่นมเก๋ออยู่ในเผ่าเหมิง

หนานหนานเอียงศีรษะคิดเรื่องนี้และคิดว่ามันถูกต้องแล้ว แม้การตามหาแม่นมเก๋อจะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ชีวิตของท่านอาแปดกำลังเป็นเดิมพันสำคัญอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงออกไปไม่ได้

เขาหันไปเก็บของที่รื้อค้นออกมากลับเข้าไปในตู้อีกครั้ง

เมื่อเห็นเขายัดพวกมันกลับเข้าไปอย่างไม่เป็นระเบียบ อวี้ชิงลั่วก็ลูบหน้าผากตนเองเบา ๆ แล้วถอนหายใจ

“เอาเป็นว่าช่วงสองสามวันนี้เจ้าจะทำอะไรก็ทำเถิด แม่แค่มาบอกเจ้าเรื่องนี้แต่เนิ่น ๆ เพื่อให้เจ้าเตรียมใจ” อย่างไรเสีย หากเรื่องของเย่ฮ่าวหรานได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเขาก็ต้องจากไปอยู่ดี

อวี้ชิงลั่วหยุดชั่วคราว ก่อนก้าวเข้าไปพูดกับหนานหนานอย่างเคร่งขรึมว่า “อีกอย่างคืออย่าบอกเรื่องนี้กับใคร รวมถึงพ่อของเจ้าด้วย”

หนานหนานกะพริบตา เขาแค่ต้องการขอเงินท่านพ่อเพื่อซื้อของบางอย่างให้ชาวเหมิง

แต่เมื่อท่านแม่พูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะ… ต้องใช้แต่เงินส่วนตัวของตัวเองเท่านั้นเสียแล้ว

หนานหนานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนพยักหน้าพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”

“ฮ่องเต้จะสอบสวนท่านอาแปดของเจ้าในวันพรุ่งนี้ เรื่องนี้คงจะจบลงอีกไม่นาน หากเจ้ามีของที่จะต้องเก็บ เจ้าก็เก็บเงียบ ๆ แล้วกัน แต่… นำของไปได้ไม่เกินหนึ่งห่อ ได้ยินหรือไม่?”

ยังจะฝันถึงรถม้าส่วนตัวอยู่อีกหรือ? ช่างเหลวไหลนัก ถึงตอนนั้นนางจะโยนทั้งคนทั้งของไปอยู่รวมกัน

หนานหนานตอบรับอย่างไม่เต็มใจ แล้วเดินไปค้นตู้เสื้อผ้าอีกครั้งด้วยความผิดหวัง

อวี้ชิงลั่วตบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ก่อนหันหลังเดินจากไป

วันรุ่งขึ้นเป็นไปดังที่อวี้ชิงลั่วคาดไว้ ในราชสำนักยามเช้า ประเด็นสนทนาที่เข้มข้นที่สุดคือเรื่องหว่านเฟยและองค์ชายแปด

ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกร ขณะทอดพระเนตรไปยังเหล่าเสนาบดีที่กำลังปะทะฝีปากกันอยู่เบื้องล่าง โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เพียงแค่ฟังเงียบๆ

ทว่าทะเลพายุกำลังโหมกระหน่ำอยู่ในใจของเขาแล้ว

ฮ่องเต้คาดไม่ถึงว่าเย่ฮ่าวหรานผู้เป็นองค์ชายที่เกียจคร้าน จะมีผู้สนับสนุนในราชสำนักที่ดี

เสนาบดีในราชสำนักแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย และองค์ชายทุกคนต่างพยายามเอาชนะใจผู้คน แต่ยังมีกลุ่มคนซื่อตรงที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดด้วย ซึ่งในบรรดาคนเหล่านี้ เสนาบดีครึ่งหนึ่งกำลังพูดถึงเรื่องเย่ฮ่าวหราน

ทำให้ได้เรียนรู้จากคนเหล่านี้ว่าเย่ฮ่าวหรานมีชื่อเสียงในทางที่ดีมากเพียงใดในหมู่ชาวเมืองหลวง

เย่ฮ่าวหรานมีนิสัยเรียบง่าย ปกติจะใช้รถม้ารับส่งระหว่างร้านอาหารและโรงน้ำชา และไม่เคยวางมาดแบบองค์ชายผู้เย่อหยิ่ง เมื่อพบคนทุกข์ยากลำบากใจ เขาก็จะช่วยเหลือ ทำให้ผู้คนต่างชื่นชอบเขามาก

แม้เขาจะไม่เคยพยายามเอาชนะใจผู้คน แต่เขาก็ไม่เคยรังแกใคร แม้ครอบครัวของหว่านเฟยจะต้องการแอบอ้างชื่อของเขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เขาก็ได้สอนบทเรียนด้วยการลงโทษ ดังนั้นจึงมีคนชอบเขามากมาย

ฮ่องเต้ตกตะลึง หากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้เป็นเวลานาน ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าหว่านเฟยคอยปฏิบัติการอยู่เบื้องหลัง ด้วยการกระจายสายลับไปตามตำหนักต่าง ๆ เพื่อกำจัดองค์ชายองค์อื่นที่มีความสามารถ มันก็คงไม่ยากเกินไปสำหรับนางที่จะทำให้เย่ฮ่าวหรานขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ได้ในอนาคต

พระหัตถ์ของฮ่องเต้บนโต๊ะกำแน่นขึ้นเล็กน้อย หลี่อวี้สื่อที่อยู่ด้านล่างยังคงพูดไม่หยุด “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าองค์ชายแปดเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายแปดมักจะไม่ทะเยอทะยาน จงรักภักดีและกตัญญูต่อฝ่าบาท และจะไม่มีวันทำ สิ่งที่เป็นกบฏ กระหม่อมรู้สึกว่ายังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจำเป็นต้องสอบสวนอย่างละเอียด…”

คิ้วของเย่ซิวตู๋ขมวดเล็กน้อย เสนาบดีเหล่านี้ต่างก้มหน้าลง จึงมองไม่เห็นสีหน้าของฮ่องเต้ แต่เขาเห็นได้ชัดเจนว่าเสด็จพ่อของเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

แม้ว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะฉลาดและมีเมตตา แต่คำกล่าวของหนานหนานก็ถูกต้อง ท้ายที่สุดแล้วฮ่องเต้ก็คือฮ่องเต้ เขาเป็นคนเจ้าอารมณ์ และคำพูดของเขาก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของผู้อื่นได้

เมื่อเห็นว่าพระหัตถ์ของฮ่องเต้สัมผัสรายงานบนโต๊ะ และดูเหมือนว่ากำลังจะโยนมันไปทางหลี่อวี้สื่อ

นัยน์ตาของเย่ซิวตู๋ก็แข็งทื่อ เขาก้าวไปข้างหน้าทันที “เสด็จพ่อ ลูกมีบางอย่างจะพูดพ่ะย่ะค่ะ”

จู่ ๆ เสียงของหลี่อวี้สื่อก็ถูกขัดจังหวะ เขาขมวดคิ้วแน่น แล้วหันไปมองเย่ซิวตู๋ที่กำลังก้าวออกไปด้วยความไม่พอใจทันที

สีหน้าขององค์ชายสามและคนอื่น ๆ ยิ่งบึ้งตึงมากกว่าเดิม เมื่อสักครู่นี้พวกเขากำลังรอให้ฮ่องเต้ตำหนิใต้เท้าหลี่อยู่ เพราะปกติหลี่อวี้สื่อผู้นี้มักจะกล่าวโทษพวกเขา พวกเขาจึงกำลังรอให้เขาขุดหลุมฝังตัวเอง

คาดไม่ถึงว่าเย่ซิวตู๋จะออกมาขัดจังหวะสิ่งที่พวกเขากำลังรอคอย

ฮ่องเต้สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ คลายพระหัตถ์ออก “ว่ามา”

“ขณะที่หว่านเฟยทำผิดพลาดครั้งใหญ่ องค์ชายแปดก็ถูกคุมขังแล้ว และไม่มีใครสามารถเข้าไปเจอองค์ชายแปดได้ นับประสาอะไรกับการสื่อสารกับหว่านเฟยที่ปองร้ายเสด็จพ่อ ลูกจึงเชื่อว่าองค์ชายแปดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นองค์ชายแปดได้กระทำความผิดร้ายแรง และทำภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงควรถูกลงโทษอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนประหลาดใจ ด้วยต่างรู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างเย่ซิวตู๋และเย่ฮ่าวหราน ในมุมมองของพวกเขา เย่ซิวตู๋ควรพยายามช่วยเย่ฮ่าวหรานอย่างเต็มที่

เหตุใดตอนนี้… จึงขอให้ฮ่องเต้ลงโทษเขาอย่างหนัก?

หลีจื่อฟานเหลือบมองเย่ซิวตู๋แล้วครุ่นคิด แต่เขาพอจะเดาอะไรบางอย่างในใจได้บ้างไม่มากก็น้อย

ฮ่องเต้ระแวงเย่ฮ่าวหรานอยู่แล้วเพราะเรื่องของหว่านเฟย แม้ว่าเขาจะรู้อยู่ในใจว่าเย่ฮ่าวหรานไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำของหว่านเฟย แต่เขาก็กลายเป็นดั่งหนามยอกอกของฮ่องเต้ และจะไม่ไว้ใจเขาเหมือนเคยอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้ยังมีความกังวลอยู่ในใจว่าเย่ฮ่าวหรานจะเก็บงำความขุ่นเคืองใจเอาไว้เพราะการตายของหว่านเฟย และเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของหว่านเฟย ในเมื่อหว่านเฟยเจ้าเล่ห์และมีความทะเยอทะยานเช่นนี้ มันจึงเป็นการยากสำหรับฮ่องเต้ที่จะเชื่อว่าเย่ฮ่าวหรานไม่ได้เป็นเช่นนั้นด้วย

ดังนั้นเย่ฮ่าวหรานจึงไม่มีความผิดถึงตาย ทว่า… ต้องถูกลงโทษ

มีเพียงเย่ซิวตู๋เท่านั้นที่รู้นิสัยของฮ่องเต้ ดังนั้นเขาจะไม่กระตุกหนวดเสืออย่างที่หลี่อวี้สื่อกำลังทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า

ฮ่องเต้ไม่ได้ตรัสคำใดขณะมองเย่ซิวตู๋อย่างมีความหมาย ถ้าซิวเอ๋อร์ชนะใจเขาได้จริง ๆ เหตุใดจึงไม่ต้องการตำแหน่งนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนฉลาดและมีความสามารถ?

เมื่อเห็นสีพระพักตร์ของฮ่องเต้สงบลง องค์รัชทายาทที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกกระวนกระวายทันที ไม่ว่าเย่ซิวตู๋ต้องการจะทำอะไร เขาก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เสด็จพ่อ ลูกไม่คิดเช่นนั้น แม้ว่าน้องแปดจะถูกคุมขังในตอนนั้นจริง แต่ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่านี่ไม่ใช่แผนการหลีกเลี่ยงความผิดของเขา เมื่อแผนการของหว่านเฟยล้มเหลว เขาจึงล้างมลทินของตัวเองได้ น้องห้า เป็นไปได้หรือไม่ว่า เป็นเพราะหว่านเฟยไม่ได้แอบส่งสายลับเข้าไปในตำหนักของเจ้า เจ้าจึงช่วยพูดแทนน้องแปดใช่หรือไม่? หรือว่าเจ้าเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วยจริง ๆ”

สีหน้าของฮ่องเต้โกรธเกรี้ยวไปชั่วขณะ สายตาเย็นชาของเขาจ้องมององค์รัชทายาทเขม็ง

เป็นรัชทายาทที่โง่เขลายิ่งนัก ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ เขายังต้องการจะลากซิวเอ๋อร์ไปสู่ปัญหาอีก หากซิวเอ๋อร์มีส่วนเกี่ยวข้องจริง เรื่องอาฝูจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?

องค์ชายสามก้มหน้าลงลอบยิ้ม รัชทายาทช่างโง่เขลาจริง ๆ เรื่องเช่นนี้ควรขยิบตาให้เสนาบดีคนอื่น ๆ เป็นคนพูด แล้วปล่อยให้พวกเขาพูดถึงเรื่องนี้ การออกตัวเองเช่นนี้คิดหรือว่าจะทำให้ฮ่องเต้พอพระทัย? มันจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่ารัชทายาทโหดร้ายกับพระอนุชาของตนเกินไป

องค์ชายสามถอนหายใจด้วยความเย้ยหยัน ดวงตาของเขาฉายแววเยาะเย้ย ทว่าเมื่อเขากำลังพึงพอใจอยู่นั้น หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครอีกคนกำลังก้าวออกไป

เมื่อเห็นร่างของคนผู้นี้ องค์ชายสามก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อย่ามาชักใบให้เรือเสียได้ไหมรัชทายาท อ๋องซิวกำลังจะช่วยอ๋องแปดอยู่แล้วแท้ๆ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *