อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 846 หุบปาก แค่เห็นเจ้าก็โมโหแล้ว

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 846 หุบปาก แค่เห็นเจ้าก็โมโหแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 846 หุบปาก แค่เห็นเจ้าก็โมโหแล้ว

ตอนที่ 846 หุบปาก แค่เห็นเจ้าก็โมโหแล้ว

หงเย่นำตัวไปยืนขวางด้านหน้าอวี้ชิงลั่วไว้โดยไม่แม้แต่จะคิด จ้องมองเหมิงพั่วอย่างระแวดระวัง

อวี้ชิงลั่วเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เหมิงพั่วถูกเย่ซิวตู๋ทำร้ายจนบาดเจ็บแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้

นางหรี่ตา พิจารณาเขาอย่างระมัดระวังครู่หนึ่ง

พบว่าถึงแม้สีหน้าของเขาจะเย็นชาและแววตาเฉียบคม แต่หน้าก็ซีดไปเล็กน้อย ลมหายใจก็ยังไม่มั่นคงนัก

แต่ถึงจะอย่างนั้น การปรากฏตัวของเขาก็ยังเป็นปัญหาใหญ่

อวี้ชิงลั่วมุ่นคิ้วแล้วก้าวถอยหลัง

เหมิงพั่วมาปรากฏตัวที่นี่ได้ เป็นเรื่องที่นางประหลาดใจอย่างมาก นางคิดว่าพวกเขาน่าจะไปสนใจทางด้านเย่ซิวตู๋มากกว่า คอยหาวิธีจัดการเขาในทุกวิถีทางสิจึงจะถูก

ในมือของหงเย่เริ่มชื้นเหงื่อแล้ว เหมิงพั่วคนนี้มีฝีมือเก่งกาจนัก ถึงเขาจะบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ควรประมาท

ยิ่งไปกว่านั้น เพียงมองดูก็รู้ว่ากลุ่มคนด้านหลังเขากว่าสิบคนนั้นเป็นยอดฝีมือ

ด้านหลังยังมีอุปราชที่ถูกคุณหนูเปิดโปงอีกคนหนึ่ง

แม้ว่าอุปราชผู้นี้จะไม่ได้บริสุทธิ์ใจกับคุณหนู แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้เขาคิดอันใดอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะกำลังโกรธเพราะความขายหน้า ไม่ทำสิ่งใดแล้วฆ่าพวกนางโดยตรงเลยก็ได้

ตอนนี้พวกนางกำลังพบศัตรูทั้งสองฝั่ง ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลยจริงๆ

อวี้ชิงลั่วเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เพียงแต่สงบกว่าหงเย่มากนัก มองเหมิงพั่วด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ได้?” ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็ได้ยินซ่างกวนจิ่นกล่าวออกมาก่อน

สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของเหมิงพั่ว สีหน้าไม่เปิดเผยอะไรแม้แต่น้อย ดูไม่ออกว่าคิดอย่างไร

เซวียเฉิงที่อยู่ด้านข้างลอบถอนหายใจ นายท่านแสดงอารมณ์ออกมาต่อหน้าแม่นางอวี้ นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีเลย

เหมิงพั่วหัวเราะเบาๆ แต่กลับตอบไม่ตรงคำถาม “เมื่อครู่ท่านอุปราชก็ได้ยินทั้งหมดแล้ว แผนการของเราถูกหญิงผู้นี้มองออกมาตั้งแต่แรก ตอนนี้เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ดูท่า ความปรารถนาของท่านอุปราชคงจะไม่เป็นจริงแล้วล่ะ”

ต้องการหัวใจของอวี้ชิงลั่ว จะง่ายเพียงนั้นเลยหรือ?

ซ่างกวนจิ่นหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวอันใด

เหมิงพั่วกลับก้าวมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง บาดแผลบนร่างของเขายังไม่หายดี เย่ซิวตู๋ผู้นั้นช่างโหดเหี้ยม ลงมืออย่างไร้ปรานี

หากไม่ใช่ว่าเขาหนีได้ทัน ตอนนี้จะยังยืนพูดอยู่เช่นนี้ได้หรือ?

“ท่านอ๋อง บุรุษควรให้ความสำคัญกับชาติบ้านเมือง เพียงเพราะหญิงคนเดียว ท่านอ๋องถึงกับพยายามอย่างหนักเพื่อนาง ทว่านางกลับไม่เห็นค่า เก็บเอาไว้จะมีประโยชน์อันใด”

ซ่างกวนจิ่นยังคงไม่ได้กล่าวอันใด เพียงแต่มองอวี้ชิงลั่วด้วยแววตาลึกล้ำ

อวี้ชิงลั่วเม้มปาก สายตาล้วนมองไปยังเหมิงพั่ว ในมือมีเข็มเงินอยู่แล้ว พร้อมที่จะทิ่มแทงเขาได้ทุกเมื่อ

เหมิงพั่วเห็นซ่างกวนจิ่นเงียบ รอยยิ้มก็ยิ่งกว้างขึ้น “มีสตรีแบบไหนที่ท่านอ๋องต้องการแล้วไม่ได้บ้างเล่า เหตุใดต้องยึดติดอยู่กับคนคนเดียว อีกอย่างนางเองก็ไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์ตั้งนานแล้ว ท่านอ๋องคิดว่าคุ้มกันจริงหรือ”

ซ่างกวนจิ่นมุ่นคิ้วเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ต้องการฟังความคิดเห็นเช่นนั้น

เหมิงพั่วคุ้นเคยกับการพิจารณาสีหน้าและคำพูด จึงหยุดในทันที

จากนั้นก็กลอกตา เปลี่ยนวิธีพูด “ยิ่งไปกว่านั้น หญิงผู้นี้ยังวางยาท่านอ๋องด้วย”

วางยาหรือ?

ในที่สุดซ่างกวนจิ่นก็มีการตอบสนอง หันหน้าไปมองเหมิงพั่วด้วยความสงสัย

อวี้ชิงลั่วเองก็ขมวดคิ้วแน่น เขารู้ได้อย่างไร

เหมิงพั่วหัวเราะออกมา “ท่านอุปราชคงไม่รู้กระมัง หญิงผู้นี้วางยาในตัวท่านตั้งนานแล้ว ใช้เพื่อควบคุมการกระทำของท่าน ไม่อย่างนั้น นางจะกล้าพาสาวใช้เพียงคนเดียวมาขวางท่านหรือ?”

ซ่างกวนจิ่นเปลี่ยนสีหน้า ทันใดนั้นก็หันมองอวี้ชิงลั่ว

อีกฝ่ายเม้มปาก ไม่ได้กล่าวอันใดทั้งนั้น

นางกล้าหาเรื่องมาขวางซ่างกวนจิ่น ย่อมมีการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเหมิงพั่วจะรู้เรื่องนี้เข้า

ซ่างกวนจิ่นพยายามหายใจ แต่กลับได้ยินเสียง ‘พรูด’ ทันใดนั้นก็มีเลือดออกมาจากปาก

“นายท่าน” พวกเซวียเฉิงสองสามคนนั้นตกใจมาก มองไปยังซ่างกวนจิ่นที่หน้าซีดลงอย่างไม่อยากเชื่อ

ซ่างกวนจิ่นโบกมือ หรี่ตามองอวี้ชิงลั่ว “เป็นฝีมือเจ้าจริงหรือ?”

“ใช่” อวี้ชิงลั่วเองก็ไม่ปฏิเสธ “หากท่านอ๋องไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องของดินแดนเหมิง ข้าก็จะให้ยาแก้พิษกับท่าน”

“เหอะ…” ซ่างกวนจิ่นเช็ดมุมปาก หลังมือของเขาก็เปื้อนเลือดอย่างรวดเร็ว เพียงแต่เลือดนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเข้ม มีกลิ่นคาวเลือดที่ปลายจมูก

เซวียเฉิงมองอย่างตกตะลึง ทันใดนั้นก็ถลึงตามองอวี้ชิงลั่ว สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

เขาชักดาบออกมาเผชิญหน้ากับอวี้ชิงลั่ว กล่าวอย่างเยือกเย็น “เอายาแก้พิษมาเสีย”

“ข้าบอกแล้ว ขอเพียงท่านอ๋องไม่เข้ามายุ่งเรื่องของดินแดนเหมิง ข้าก็จะให้ยาแก้พิษ”

ซ่างกวนจิ่นหัวเราะออกมาอีกครั้ง เพียงแต่แววตานั้นเย็นชาเสียจนน่าตกใจ “หากข้ายังยืนกรานจะเข้าไปยุ่งเล่า?”

“เช่นนั้นท่านอ๋องก็ต้องตายสถานเดียว”

เซวียเฉิงอ้าปากค้าง ดาบคมยาวเลื่อนไปใกล้มากขึ้น

อวี้ชิงลั่วไม่เปลี่ยนสีหน้า หงเย่กลับขวางไว้ด้านหน้านางอย่างระมัดระวัง จ้องมองเซวียเฉิงอย่างระวังตัว

ซ่างกวนจิ่นสูดหายใจลึกๆ แล้วกล่าว “ข้าต้องตายอย่างนั้นหรือ หากข้าตายไป เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีพ้นหรือ”

เหมิงพั่วมองไปทางซ้ายและขวา เห็นพวกเขาทะเลาะกันเองก็มีความสุขมากที่ทำสำเร็จ เพียงแต่รู้สึกว่ายังไม่หนำใจ ใส่ไฟเข้าไปอีก “แม่นางอวี้ เหตุใดต้องคิดจะทำให้พินาศไปด้วยกันด้วยเล่า ท่านอุปราชจริงใจกับเจ้าแท้ๆ ครั้งก่อนเขายังบาดเจ็บสาหัสเพื่อช่วยเจ้า เจ้าอยู่กับเขา ก็ไม่ได้แย่กว่าอยู่กับเย่ซิวตู๋ไม่ใช่หรือ ท่านอุปราชอยู่ที่อาณาจักรจิงเหลย ก็อยู่ภายใต้คนคนเดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่นนะ”

ไม่แน่ว่าต่อไป… อาจจะกลายเป็นฮ่องเต้เสียเองก็ได้ ในสี่อาณาจักรก็ไม่มีใครหาเรื่องเขาได้

อวี้ชิงลั่วมองเขาอย่างเย้ยหยัน “ช่วยข้าจนบาดเจ็บสาหัสหรือ ก็เป็นเพียงละครเท่านั้น ถือว่าช่วยข้าได้หรือ?”

“ต่อให้เป็นเพียงละคร แต่ก็เป็นละครที่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อแม่นางอวี้” เหมิงพั่วตอบอย่างเกียจคร้าน “ท่านอุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลยทำเพื่อแม่นางอวี้จนถึงขั้นนี้ หากเป็นหญิงคนอื่น เกรงว่าคงซาบซึ้งไปตั้งนานแล้ว คงมีเพียงแม่นางอวี้ที่ใจแข็งเป็นหินเช่นนี้ ทั้งยังวางยาพิษท่านอ๋องได้ลงคอ ทำให้ท่านอ๋องต้องทรมานเช่นนี้”

อวี้ชิงลั่วโกรธเสียจนหัวเราะออกมา นี่เป็นคำพูดจากมุมมองแบบไหนกัน?

นางถูกลักพาตัว ถูกวางแผนร้ายใส่ กลับมายังต้องไปขอบคุณคนที่ลักพาตัวนางอีกหรือ ในโลกนี้มีเหตุผลเช่นนี้ด้วยหรือไร

สมองของเหมิงพั่วผู้นี้ถูกลาเตะมาหรือ?

“แม่นางอวี้ จากที่ข้าพูด เจ้าเอายาแก้พิษให้ไปเถิด ไม่อย่างนั้นเจ้าเองก็ไม่ได้ประโยชน์อันใดไม่ใช่หรือ?” เหมิงพั่วเกลี้ยกล่อม ‘อย่างหวังดี’

เดิมทีอวี้ชิงลั่วไม่อยากสนใจเขา “เจ้าหุบปากเสีย แค่ข้าเห็นเจ้าก็โมโหแล้ว”

“…” เหมิงพั่วกัดฟัน คอยดูเถิด เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้สึกดีเอง

เขามองสีหน้าของซ่างกวนจิ่นอีกครั้ง ครั้นเห็นว่าในดวงตาของเขาฉายแววอาฆาตเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ในใจก็แอบหัวเราะ

ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่เซวียเฉิงเองก็หันมามองนายท่านของตนแวบหนึ่ง พิษในร่างของซ่างกวนจิ่นเหมือนจะเริ่มแพร่กระจาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดมนเช่นเดียวกัน

รูม่านตาของเซวียเฉิงหดลง ไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้นแล้ว “แม่นางอวี้ หากยังไม่มอบยาแก้พิษ ข้าคงทำได้เพียงทำร้ายท่านแล้ว”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เอาไงดีนะอุปราช จะออกจากวงเผือกหรือจะตายด้วยพิษก็เลือกเอา

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *