อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 305 หุบปากของเจ้าซะ

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 305 หุบปากของเจ้าซะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 305 หุบปากของเจ้าซะ
ตอนที่ 305 หุบปากของเจ้าซะ

“มีเด็กถูกจับตัวเข้าไปอีกแล้วรึ?” หนานหนานส่ายหน้าไปมาด้วยความละเหี่ยใจ ก่อนจะขยับตัวไปด้านข้าง ใช้โอกาสตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันได้สังเกต ยื่นมือไปหยิบขนมหนึ่งชิ้นยัดใส่ปากตัวเอง

ระหว่างที่ยัดใส่ปากก็พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “อาณาจักรหลิวอวิ๋นนั่นแปลกพิกลจริง ๆ ทำไมถึงชอบจับตัวเด็กเข้าไป? หรือว่าถ้าข้าอยากเข้าไป ก็ต้องถูกจับตัวเข้าไปถึงจะเข้าไปได้?”

เด็กชายผู้นั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองหนานหนานและหลุบตาลงมองของที่อยู่ในมือตนเองพร้อมกับคิดว่ามันอร่อยมากจริง ๆ

เขาพยายามอดกลั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเด็กอายุห้าขวบคนหนึ่ง จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย และรีบยัดขนมสองชิ้นเข้าปาก วินาทีนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าอาหารอันโอชะบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรเทียบสิ่งนี้ได้เลย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม

ระหว่างที่กินก็พูดด้วยความคลุมเครือว่า “พี่ชายคนนั้นดูเป็นคนดีมากเลยนะ ตอนที่เขาวิ่งผ่านพวกข้าไปแล้วทำให้ฝุ่นตลบ เขายังหันกลับมามาขอโทษด้วย หลังจากนั้นก็เดินไปเดินมาอยู่ด้านหน้า เดิมทีก็ยังดี ๆ อยู่เลย แต่พอองค์ชายสิบสามคนนั้นออกมา จู่ ๆ เขาก็เข้าไปบีบคอองค์ชายสิบสาม ราวกับเป็นคนบ้าเลย”

หนานหนานลูบท้องป่อง ๆ ของตัวเอง เมื่อครู่ตอนที่เขามาก็กินไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้จึงแน่นท้องมากขึ้น จะนั่งก็ไม่สบายตัว

“ไปบีบคอองค์ชายเหรอ?” ว้าว ใครกันที่มีความกล้าขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะรนหาที่ตายโดยไม่คิดชีวิตขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะเคยบีบคอคนอื่น แต่ก็ต้องมีคนสนับสนุนอยู่ข้างหลังถึงจะทำได้

“เจ้าได้ยินเขาพูดอะไรหรือไม่?”

เด็กผู้ชายกินไปพลางส่ายหน้าไปพลาง “ดูเหมือนว่าจะพูดถึงหนานหนานอะไรนี่แหละ ข้าได้ยินมาแค่นี้”

มือเล็ก ๆ ของหนานหนานถึงกับชะงักงันทันที และจู่ ๆ เขาก็ชะโงกหน้าเข้าไปตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ? เจ้าบอกว่าพี่ชายคนนั้นพูดว่าหนานหนานสองคำนี้ด้วยรึ?”

ไม่มีทาง หรือว่าจะเป็นคนที่มาตามหาเขา?

เด็กชายตกใจกับท่าทางของหนานหนานจนขนมแทบจะติดอยู่กลางลำคอ จะกลืนก็ไม่ได้ จะคายก็ไม่ออก ใบหน้ากลายเป็นสีแดงแล้ว

เขารีบออกแรงทุบเข้าที่หน้าอกตัวเองสองครั้ง จึงโชคดีกลืนขนมที่ติดอยู่กลางอกลงท้องไปได้ เขาก็ได้เงยหน้าถามด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมรึ? ดูเหมือนว่าจะได้ยินคำว่าหนานหนานสองคำนี้แหละ มีปัญหาตรงไหนรึ?”

“ก็ต้องมีปัญหาอยู่แล้ว ข้าเอง ข้านี่แหละชื่อหนานหนาน”

เด็กชายถลึงตาโตด้วยความตกตะลึง มองหนานหนานที่ยืนอยู่ตรงหน้าชะงักไปจนพูดไม่ออก

จริงสิ หมอที่เดินจากไปคนนั้นเคยบอกว่า เด็กที่ชื่ออวี้ฉิงหนานสั่งให้มารักษาให้เขา ดังนั้น หนานหนานที่พี่ชายคนนั้นตะโกน แท้จริงแล้วก็คือเขางั้นเหรอ?

“นี่…นี่อาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะ?”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของหนานหนานกลายเป็นก้อนกลม ๆ แล้ว ใจของเขาเต้นแรงดังตึกตัก รีบหันมาถามอีกฝ่ายว่า “พี่ชายตัวน้อยคนนั้นใส่เสื้อคลุมสีน้ำเงิน สูงประมาณนี้ ค่อนข้างผอม แล้วก็ใส่รองเท้าสีดำใช่หรือไม่?”

เด็กผู้ชายชะงัก ก่อนจะพยักหน้าตอบ “ใช่ ใช่แล้ว”

“โถ่เอ๊ย ท่านน้าเป่าเอ๋อร์จริง ๆ ด้วย เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ เขาบอกว่าจะกลับไปรอข้าที่โรงเตี๊ยมมิใช่รึ? ทำอย่างไรดี ๆ? ตอนนี้จะทำอย่างไร? ท่านน้าเป่าเอ๋อร์ถูกจับตัวเข้าไปแล้ว จะเกิดเรื่องอะไรหรือไม่?”

หนานหนานกระทืบเท้าเล็ก ๆ เดินหมุนเป็นวงกลม รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง

หากเขาถูกจับตัวไปยังพอจะคิดหาวิธีช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะเขามีฝีมือดีจะตาย แต่อวี้เป่าเอ๋อร์มีทักษะวรยุทธ์แค่งู ๆ ปลา ๆ คนตัวใหญ่กว่าเขานิดหน่อยก็สามารถล้มเขาได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เรือนรับรองแห่งนั้นก็ถูกเฝ้าไว้อย่างแน่นหนา แม้แต่เขาก็ยังเข้าไปมิได้เลย แล้วใครจะช่วยเขาได้ตอนนี้…

หนานหนานเริ่มทึ้งเส้นผมด้วยความร้อนใจ และใช้สายตาจ้องมองประตูใหญ่ของเรือนรับรองแห่งนั้นด้วยความหงุดหงิดสุดขีด

เขาควรทำอย่างไรดี? บุกเข้าไปเลย? หรือว่ากลับไปหาท่านพ่อกับท่านแม่? ไม่ได้ ๆ จะกลับไปหาท่านแม่ไม่ได้ ที่นี่อยู่ห่างจากโรงเตี๊ยมค่อนข้างไกล เสียเวลาเดินทางไปกลับมากขนาดนั้น ชีวิตของท่านน้าเป่าเอ๋อร์อาจไม่เหลือแล้ว คิดหาวิธีให้ตนเองเข้าไปช่วยให้ได้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า

“เอ่อ หนาน…หนานหนาน บางทีอาจไม่ใช่ท่านน้าเป่าเอ๋อร์คนนั้นของเจ้าก็ได้นะ? บางทีอาจเป็นแค่คนที่สวมใส่เสื้อเหมือนกันโดยบังเอิญก็ได้ มิเช่นนั้น เจ้าลองไปถามคนหาบเร่ทางฝั่งนั้นดูสิ ข้าเห็นคนหาบเร่คนนั้นดูเหมือนเขาจะเคยคุยกับพี่ชายคนนั้นเลยนะ น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

หนานหนานถึงกับตกตะลึง กระโดดดีดตัวขึ้นทันใด ถูกต้อง ไปถามรายละเอียดให้ชัดเจนน่าจะดีกว่า

“เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าจะไปถามดู” หนานหนานกล่าวจบก็รีบวิ่งไปหาพ่อค้าหาบเร่ทางฝั่งนั้นอย่างรวดเร็ว

พ่อค้าหาบเร่คนนั้นกำลังรู้สึกเสียดายที่อวี้เป่าเอ๋อร์ถูกจับตัวเข้าไป ร่างเล็ก ๆ เตี้ย ๆ ร่างหนึ่งก็พุ่งกระโจนเข้ามาตรงหน้าเขาโดยไม่คาดคิด เขาถึงกับตกตะลึงถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว เอ่ยถาม “เจ้า…เจ้าทำอะไร?”

วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดด้านนอกเรือนรับรองแห่งนี้ถึงได้มีเด็กเยอะแยะขนาดนั้น?

หนานหนานจับเสื้อของเขาพร้อมกับเขย่าด้วยความกังวลพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงรีบร้อนว่า “เมื่อครู่มีพี่ชายอายุสิบกว่าขวบถูกจับตัวเข้าไปด้านในเรือนรับรองใช่หรือไม่?”

“เอ่อ…ใช่…ใช่แล้ว…ทำไมรึ?”

“ท่านบอกข้าหน่อย รูปร่างหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร เหตุใดถึงถูกจับตัวเขาไป เขาได้พูดอะไรไว้หรือไม่?”

พ่อค้าหาบเร่คนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าหนานหนานดูกังวลใจจริง ๆ จนทำให้ผิวพรรณดูอมชมพูละเอียดดั่งหยกสลักดูน่ารักน่าเอ็นดู ก็อดไม่ได้ที่จะเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังหนึ่งรอบ

“เด็กคนนั้นก็แปลกนะ ตอนแรกเดินไปเดินมาอยู่ด้านนอกเรือนรับรองแห่งนี้ ไม่รู้ว่ากำลังหาอะไร ตอนหลังองค์ชายสิบสามออกมา พอเห็นท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็เลยบอกว่าเด็กคนนั้นมีเจตนาไม่ดี ข้าเห็นเด็กคนนั้นเดินมาด้านหน้าแผงลอยของข้า เลยโน้มน้าวเขาให้รีบไปจากที่นี่ ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็มีเด็กอายุห้าขวบถูกตีจนอยู่ในสภาพน่าเวทนา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่เขาได้ยินแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมไป ยังพุ่งตัวเข้าไปบีบคอองค์ชายคนนั้นด้วย เจ้าคิดดู เจ้าคิดดูสิ แบบนี้ไม่เท่ากับรนหาที่ตายรึ? ข้าจะบอกอะไรให้นะ คนคนนี้เนี่ย…”

หลังจากนั้นพ่อค้าหาบเร่ก็ยังคงพูดฉอด ๆ ไม่หยุด ทว่าหนานหนานกลับไม่มีกะจิตกะใจจะฟังแล้ว

ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว คนคนนี้คือท่านน้าเป่าเอ๋อร์ของเขาแน่นอน

อวี้เป่าเอ๋อร์ต้องคิดว่าเด็กที่ถูกตีปางตายคนนั้นคือเขา จึงคิดอยากจับตัวองค์ชายสิบสามเป็นตัวประกันเพื่อช่วยเขา

หนานหนานมีสีหน้าเหยเกถึงขีดสุด ภายในใจแอบรู้สึกผิดเล็ก ๆ เขาจ้องเขม็งไปยังประตูใหญ่ของเรือนรับรองแห่งนั้นพร้อมกับสมองเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว

ก่อนอื่น เขาต้องคิดหาวิธีเข้าไปด้านในให้ได้ แต่บุกเข้าไปแบบนี้ไม่ได้แน่นอน บางทียังไม่ทันได้เจอเป่าเอ๋อร์ เขาอาจถูกสับจนกลายเป็นเนื้อสับเสียก่อน

เอ่อ…

จริงสิ อวี้เป่าเอ๋อร์อยู่ในมือขององค์ชายสิบสาม หากเขาก่นด่าองค์ชายสิบสามต่อหน้าทุกคน คนพวกนี้ก็คงจับเขาไปอยู่ต่อหน้าองค์ชายสิบสามสินะ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปรวมตัวกับเป่าเอ๋อร์ให้ได้เสียก่อน

หนานหนานครุ่นคิดแล้วพยักหน้าแรงๆ

จากนั้นจึงสาวเท้าสั้น ๆ ไปด้านหน้าประตูเรือนรับรองแห่งนั้น แล้วตะโกนขึ้นว่า “องค์ชายสิบสามคือ…”

“อวี้ฉิงหนาน หุบปากของเจ้าซะ”

เสียงของหนานหนานยังไม่ทันสิ้นสุด จู่ ๆ ด้านหน้าก็มีเสียงตะโกนเบา ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้น

……………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เจ้าหนานหนานจะไปช่วยท่านน้ายังไงดี

คนมาใหม่เป็นใครกันนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *