อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 1036 เขาไม่มีใครอยู่ในมือแต่แรก

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 1036 เขาไม่มีใครอยู่ในมือแต่แรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1036 เขาไม่มีใครอยู่ในมือแต่แรก

ตอนที่ 1036 เขาไม่มีใครอยู่ในมือแต่แรก

สวีโหรวเองก็เห็นแล้ว เห็นร่างเล็กอ่อนแอนั้นกำลังโงนเงน ในใจก็เจ็บปวดเสียจนแทบเป็นลม

“เฉิงเอ๋อร์…”

มือเล็กของเย่หลานเฉิงกำแน่น เบ้าตาทั้งร้อนและชื้น

ต่อให้ตลอดมานั้นอดีตองค์รัชทายาทจะแทบไม่ใส่ใจเขาเลย ต่อให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเขาในสายตา แต่เขาก็ยังเป็นบุตรชายของเขา

เขากลับพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้

ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวยืนอยู่ข้างกายเขา ได้ยินคำพูดของอดีตองค์รัชทายาทก็โกรธเสียจนคอแดง ไม่สนใจแม้แต่ความเจ็บปวดที่ขาของตน เดินไปข้างกายของเย่ซิวตู๋แล้วก่นด่าอดีตองค์รัชทายาท “เจ้ามันช่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดี มีบุตรชายที่เชื่อฟัง รู้ความ ทั้งยังฉลาดเฉลียวเพียงนี้ มีพระชายาที่ฉลาดมีความสามารถทั้งยังหวังดีต่อเจ้า เจ้าควรจะกราบไหว้บูชาเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าในใจเจ้ากลับบิดเบี้ยวและวิปริตเช่นนี้ เจ้าต่างหากที่เป็นคนชั้นต่ำ ไอ้คนชั้นต่ำเกินทน ต่ำเสียยิ่งกว่าต่ำ”

อดีตองค์รัชทายาทเดิมทีถูกชายชุดดำกดเอาไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้ เขาคิดว่าตนเองเป็นองค์ชายที่สูงส่ง ไม่คิดว่าตอนนี้แม้แต่ดรุณีตัวเล็กๆ ก็สามารถก่นด่าเขาได้ตามใจ

ทันใดนั้น ความเกลียดชังที่มีต่อเย่ซิวตู๋ก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น

“เย่ซิวตู๋ ดูแลหมาข้างกายเจ้าให้ดีเถิด ข้าเป็นองค์ชาย เป็นองค์รัชทายาท นางอยากจะด่าก็ด่าได้หรือ?”

“เจ้ายังเป็นองค์รัชทายาทอยู่อีกหรือ?” เย่ซิวตู๋เชิดหน้าดูถูก หันหน้าไปส่งสายตาให้ฟ่านผิงอวิ๋น

ฟ่านผิงอวิ๋นพยักหน้า กำลังจะพาเย่หลานเฉิงออกไป คิดไม่ถึงว่าเย่หลานเฉิงจะเช็ดหน้า ส่ายหัว ไม่คิดจะเดินจากไป ทว่าดวงตาที่มองอดีตองค์รัชทายาทกลับดูเย็นชา เป็นความเย็นชาที่แม้แต่เย่ซิวตู๋ก็ยังไม่เคยเห็น

ส่วนอดีตองค์รัชทายาททางด้านนั้นได้ยินคำพูดของเย่ซิวตู๋ ก็ราวกลับถูกกรีดแทงหัวใจ โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันใด “ข้าไม่ใช่องค์รัชทายาท ที่ข้าไม่ใช่องค์รัชทายาทมันเพราะฝีมือใครเล่า? หากไม่ใช่เพราะเสด็จพ่อรักใคร่ในตัวเจ้า หากไม่ใช่เพราะเสด็จพ่อมีใจอยากจะดันเจ้าขึ้นตำแหน่ง ตำแหน่งองค์รัชทายาทของข้าก็คงยังอยู่อย่างมั่นคง ใครก็แย่งไปไม่ได้”

เย่ซิวตู๋ได้ยินเช่นนั้นก็อยากจะหัวเราะ ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่เหมิงกุ้ยเฟยที่ถูกฟ่านซิวอวิ๋นจับเอาไว้ก็ยังมีสีหน้าเยาะเย้ยดูถูกเหยียดหยาม

“เจ้าคิดว่าตำแหน่งองค์รัชทายาทของเจ้ามั่นคงหรือ? เช่นนั้นข้าจะบอกให้ ที่เจ้านั่งอยู่อย่างมั่นคงได้ตั้งหลายปีนั้น ก็คือหลายปีที่เจ้ากระทำการตามที่ไท่จื่อเฟยบอกด้วยการไม่ทำตัวโดดเด่น เจ้าคิดว่าเป็นความดีความชอบของใครเล่า เจ้าคิดว่าหากไม่มีไท่จื่อเฟย เจ้าจะยังสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นไปได้นานเพียงใด? องค์ชายเจ็ดก็ดี องค์ชายสี่ก็ดี ต่อให้เป็นองค์ชายสามและองค์ชายใหญ่ ใครก็ล้วนดึงเจ้าลงมาได้ทั้งนั้น เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครกัน? ต่อให้ไม่มีข้า เจ้าก็ยังจะพาตนเองไปตายอยู่ดี”

เป็นครั้งแรกที่เย่ซิวตู๋ได้เห็นอดีตองค์รัชทายาทหยิ่งยโสเพียงนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าในโลกนี้ยังคงมีคนที่ไม่รู้จักประมาณตนเช่นนี้อยู่อีก

“เจ้าหุบปาก หุบปากเสีย หลายปีที่ข้าอยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาทได้อย่างมั่นคง ก็เพราะหลายปีนั้นไม่มีเจ้าอยู่ เสด็จพ่อจึงพุ่งความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวข้า นี่เป็นความผิดของเจ้า ความผิดของเจ้า เหตุใดเจ้าต้องกลับมาด้วย? เจ้าไม่ควรกลับมาเลย เจ้าควรจะตายอยู่ข้างนอกนั่น ไม่ควรกลับมาอีกตลอดไป เช่นนั้นข้าก็จะได้ครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้อย่างมั่นคง ใครเองก็แย่งไปไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงเกลียดเจ้า ข้าอยากจะฆ่าเจ้านัก ล้วนเป็นเพราะเจ้ามีตัวตนอยู่ ข้าจึงต้องตกต่ำถึงขั้นนี้”

“…” ไม่เพียงแต่เย่ซิวตู๋ที่พูดไม่ออก แม้แต่ชายชุดดำที่คอยดูเขาเองก็มีสีหน้าพูดไม่ออกเช่นกัน

ไม่แปลกเลยที่องค์ชายเจ็ด องค์ชายสี่ แม้แต่องค์ชายสาม องค์ชายหกและคนอื่นๆ ล้วนแทบไม่เคยมองอดีตองค์รัชทายาทในสายตา คนเช่นนี้ ใครจะอยากเสียแรงไปยุ่งกับเขากัน?

หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นโอรสคนแรกของพระมเหสีองค์แรก หากไม่ใช่เพราะมีไทเฮาโปรดปราน หากไม่ใช่เพราะเขามีหมู่เฟยที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย มีไท่จื่อเฟยที่ฉลาดและจิตใจดี มีบุตรชายที่ฉลาดเฉลียว เขาก็คงถูกคนฆ่าตายไปนานแล้ว

น่าเสียดาย คนเหล่านี้ที่ช่วยเขาจริงๆ เขากลับไม่เห็นในสายตาเลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังผลักความผิดทั้งหมดไปให้พวกเขาอีกด้วย และยกความดีความชอบทั้งหมดให้ตัวเอง

คนประเภทนี้ล้วนตรรกะผิดเพี้ยนไปหมด

“ใต้เท้าเหมิง เจ้ารับปากข้าไว้แล้ว ขอแค่ข้าให้ความร่วมมือ เจ้าจะช่วยข้าฆ่าเย่ซิวตู๋ ตอนนี้เจ้าฆ่าเขาเสีย ฆ่าเขาเสีย” อดีตองค์รัชทายาทหันหน้าไปกล่าวกับเหมิงซินเสียงดัง “เจ้ารีบช่วยข้าฆ่าเขาสิ”

เหมิงซินก้มหน้า ทันใดนั้นก็หัวเราะให้เขา แย้มยิ้มเบ่งบานราวดอกไม้ งดงามอย่างยิ่ง “เจ้าคิดว่าตนยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่จริงๆ สามารถออกคำสั่งกับข้าได้ตามใจหรือ?”

เขากล่าวจบก็เตะอดีตองค์รัชทายาทครั้งหนึ่ง ทำให้เขาหมดสติไป

เหมิงซินชักขากลับมา ขมวดคิ้ว สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ไร้ประโยชน์เสียจริง แค่นี้ก็หมดสติแล้วหรือ?”

เขาส่งสายตาให้ชายชุดดำด้านข้าง คนผู้นั้นจับสวีโหรวที่อยู่ที่พื้นขึ้นมาทันที ยกมีดสั้นขึ้นมาจ่อลำคอนาง

จากนั้นเหมิงซินก็หันหน้ามองไปทางเย่ซิวตู๋ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้น่าจะได้เวลาพูดคุยธุระของเราแล้วกระมัง?”

“เจ้าปล่อยทุกคนไป ข้าก็จะส่งคนที่เจ้าต้องการคืนไปให้ เจ้ายังจะพูดถึงธุระอันใดอีก?” เย่ซิวตู๋มองเหมิงกุ้ยเฟยแวบหนึ่ง

เหมิงซินหัวเราะ “ให้ข้าปล่อยทุกคนหรือ? อ๋องซิวช่างล้อเล่นได้เก่งจริงๆ ในมือเจ้ามีเบี้ยเพียงอันเดียว ในมือข้ากลับมี… อ้อ ขอข้านับก่อนนะ พระชายาในองค์ชายรอง องค์ชายสาม พระชายาสาม แล้วก็ยังมี… บุตรชายของเจ้า หากปล่อยคนตั้งมากมายไปเช่นนี้ ข้าก็เสียเปรียบน่ะสิ”

สวีโหรวขมวดคิ้ว องค์ชายสามและพระชายาสามไม่ได้ถูกจับเสียหน่อย เหมิงซินโกหกเย่ซิวตู๋ อีกอย่าง หนานหนานเองก็ไม่ได้ถูกควบคุม เด็กคนนั้นน่าจะเสแสร้งเท่านั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าเย่ซิวตู๋รู้หรือไม่

นางอยากจะเอ่ยเตือนในทันใด แต่ทันทีที่อ้าปาก ก็ถูกคนเอาผ้ายัดไว้เสียก่อน

นางอยากจะสลัดมันออก แต่ที่ลำคอก็มีมีดจ่อ มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการ นางสลัดไม่หลุด ทำได้เพียงขมวดคิ้ว ส่งสายตาให้เย่ซิวตู๋ คาดหวังว่าเขาจะดูออกบ้าง

เย่ซิวตู๋มองนางแวบหนึ่งทันที หรี่ตาเล็กน้อย เพียงแต่ละสายตาไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ไปจับจ้องที่เหมิงซินแล้วถาม “เช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด?”

“แน่นอนว่าให้เอาหนึ่งคนมาแลกกับหนึ่งคน ดูสิว่าท่านอ๋องซิวจะเลือกใคร ลูกของเจ้า หรือว่าพระชายาในองค์ชายรอง หรือจะเป็นสามีภรรยาองค์ชายสาม เจ้าเลือกมาหนึ่งคน ข้าก็จะเอาคนผู้นั้นมาแลกกับเหมิงกุ้ยเฟย ส่วนคนอื่นๆ นั้น ก็ย่อมมีประโยชน์อื่นอีก”

เย่ซิวตู๋แค่นหัวเราะ “เช่นนั้นแล้ว แสดงว่าคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้วสินะ”

“อ๋องซิวไม่อยากคุยกันดีๆ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีวิธี จะเปลี่ยนวิธีก็ได้ หากอ๋องซิวไม่เห็นด้วยกับแผนการที่ข้าเพิ่งกล่าว เช่นนั้นข้าก็จะฆ่าพระชายาในองค์ชายรองเสีย และหากอ๋องซิวยังคงไม่เห็นด้วย เช่นนั้นข้าก็จะฆ่าพระชายาในองค์ชายสาม ถ้ายังไม่เห็นด้วยอีก… ข้าจะดูว่าอ๋องซิวจะทนมองข้าฆ่าอีกกี่คนถึงจะยอมประนีประนอม”

“อย่าไปฟังเขาพูดไร้สาระ ในมือเขาไม่มีใครอยู่ทั้งนั้น” ไกลออกไป มีเสียงหนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นมา

เย่ซิวตู๋ดวงตาเป็นประกาย หันหน้าไปในทันที ก็เห็นอวี้ชิงลั่วค่อยๆ เดินมาทางด้านนี้

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จะช่วยอดีตไท่จื่อเฟยได้ไหมนะ อีกฝ่ายก็เหลี่ยมจัดไม่เบา ท่านอ๋องซิวอย่าหลงกลนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด