เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 227 โกหกด้วยเจตนาดี / 228 ข้อห้าม

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 227 โกหกด้วยเจตนาดี / 228 ข้อห้าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 227 โกหกด้วยเจตนาดี / ตอนที่ 228 ข้อห้าม

ตอนที่ 227 โกหกด้วยเจตนาดี

“ไม่ ไม่ได้!”

เฟิงอู๋โยวตื่นตระหนก มือไม้รีบยกขึ้นปิดบังส่วนสำคัญบนร่างกายนางอย่างลนลาน

รูม่านตาของจวินมั่วหรันหดตัวฉับพลัน

“ท่านใต้เท้า อย่าเข้าใจผิด กระหม่อมแค่กินเยอะเกินไปก็เท่านั้น”

เฟิงอู๋โยวอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมา รู้แบบนี้นางไม่ควรพูดเรื่องอาการปวดท้องขึ้นมาแน่นอน

จวินมั่วหรันมองที่นางอย่างนิ่งงัน ความรู้สึกมากมายผุดขึ้นในใจของเขาชั่วขณะหนึ่ง

เขาสังเกตเห็นแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเฟิงอู๋โยว แต่เป็นเพราะตัวเขาเคยทำไม่ดีกับนางมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้เขาไม่กล้าคิดเรื่องอย่างว่าหรือลวนลามนางอีก ต่อให้คิด แต่ก็ไม่กล้าลงมือทำอย่างจริงจัง

ตอนนี้ สิ่งที่เขาเห็นทั้งหมดมันแจ่มชัดแล้ว มันทำให้เขาไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป

เฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิงจริงๆ ผู้หญิงที่มีผิวพรรณบอบบางและนุ่มนวล ผิวสะอาดเรียบเนียนและมีรูปร่างหน้าตาสะสวย

จวินมั่วหรันตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก มีเพียงความคิดเดียวในใจคือเฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิง นางเป็นผู้หญิงจริงๆ!

ต้องปฏิบัติต่อนางอย่างดีที่สุดและทำให้นางมีความสุขที่สุดในชีวิต

เลี้ยงดูนางอย่างทะนุถนอมไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ในเวลาเดียวกัน เฟิงอู๋โยวกระวนกระวายเกือบอกจะแตกตายเพราะจวินมั่วหรันเอาแต่นิ่งเงียบ นางมองจวินมั่วหรันด้วยความลำบากใจพร้อมกับพึมพำเสียงต่ำ “ท่านใต้เท้า หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกท่าน ถ้าท่านโกรธ ท่านจะทุบตีด่าทอหม่อมฉันก็ได้ แต่อย่าฆ่าหม่อมฉันเลย ยังมีของอร่อยๆ ที่หม่อมฉันอยากกินอีกมากและหม่อมฉันยังไม่ได้หลับนอนกับผู้ชายรูปงามคนใดอย่างจริงจังเลย”

จวินมั่วหรันอยากจะตบตัวเองสักสองที เขาเจ็บกับตัวเองยิ่งนัก

เพราะเขาทำให้หญิงสาวหวาดกลัวจนตัวสั่นไปหมดเช่นนี้

“สุ่ยเอ๋อร์ ไม่ต้องกลัว ข้าคือหรันหลานเอง”

จวินมั่วหรันจงใจโกหกขึ้น เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับนางอย่างไร อดีตเขาได้แต่กลั่นแกล้งทรมานนาง บัดนี้ทำเอาเขารู้สึกผิดขึ้นมาเป็นยิ่งนัก

หากเป็นผู้หญิงอ่อนแอทั่วไปถูกเขากลั่นแกล้งทรมานแบบเฟิงอู๋โยว ป่านนี้คงตายไปนานแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ในใจของนางกลับรู้สึกผิดหวังขึ้นมาแปลกๆ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางเฝ้ารอปฏิกิริยาของจวินมั่วหรันเมื่อรู้ว่าตัวนางเป็นผู้หญิง

แต่ถ้าจวินมั่วหรันรู้ว่านางเป็นหญิงสาวหัวขโมยที่ขืนใจเขาคนนั้นขึ้นมา เขาจะไม่ฉีกนางเป็นชิ้นๆ หรอกหรือ

ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน

“จวินหรันหลาน เจ้าเห็นมามากพอแล้วหรือยัง ไม่กลัวเป็นตากุ้งยิงหรอกหรือ” เฟิงอู๋โยวพูดอย่างขุ่นเคือง

จวินมั่วหรันมองไปทางอื่นทันที และรีบยื่นผ้าห่มให้นาง “สุ่ยเอ๋อร์ อย่าเข้าใจฉันผิด ข้าแค่สงสัย”

“เจ้าเคยสำรวจร่างกายของข้าไปอย่างละเอียดแล้วไม่ใช่หรือ ไฉนยังสงสัยอยู่อีก”

เฟิงอู๋โยวมองเขาอย่างแปลกๆ หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บสาหัส นางคงไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองนอนแผ่เป็นปลาเค็มตากแห้งอยู่แบบนี้หรอก

จวินมั่วหรันขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดว่าจวินหรันหลานจะทำเรื่องหน้าไม่อายแบบนี้กับเฟิงอู๋โยวทำให้สีหน้าของเขามืดมนลงทันที

“ซืด…”

อาการปวดเกร็งที่ท้องเกิดขึ้นอีกครั้งจนเฟิงอู๋โยวแทบหายใจไม่ออก เหงื่อเย็นเริ่มผุดออกมาตามหน้าผาก

“มีอะไรผิดปกติ?”

จวินมั่วหรันรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา ก่อนรีบกอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขาโดยมีผ้านวมพันรอบตัวนาง

อาการบาดเจ็บที่หลังของนางเห็นไม่ใช่ปัญหาแล้ว

แต่เมื่อสีหน้าของนางแล้ว มันช่างดูเจ็บปวดมากจริงๆ

ในตอนแรก เฟิงอู๋โยวคิดว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตายในไม่ช้า

จนกระทั่งเห็นเลือดไหลทะลักออกมาจากร่างของนาง นางจึงรู้ว่าอาการแบบนี้ของนางมาจากอาการประจำเดือน

เป็นประจำเดือนของรอบเดือนใหม่

การรับรู้กลิ่นของจวินมั่วหรันไวมาก ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินกลิ่นเลือดจางๆ โชยไปทั่ว เขากระวนกระวายคลายถอดผ้านวมออก แล้วมองดูหน้าอกที่มีเหงื่อซึมออกมา

เพียงมองแวบเดียว ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของจวินมั่วหรันก็ร้อนฉ่าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำในบัดดล

ตอนที่ 228 ข้อห้าม

นางดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร…

เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้วิธีจัดการกับอาการปวดประจำเดือนของนาง

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์และถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เจ้าต้องทายาห้ามเลือดหรือไม่”

“…”

เฟิงอู๋โยวมองเขานิ่งงัน นางไม่จะพูดอย่างไร จะบอกว่าเขาซื่อบื้อก็ไม่ได้ เพราะเขาคือผู้ชายที่ไม่มีอาการแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง

จวินมั่วหรันรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่เหมาะสมออกไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเงียบ และปล่อยให้เฟิงอู๋โยวเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา

ขนตายาวของนางสั่นกระเพื่อมเล็กน้อย เนื่องจากความเจ็บปวดอันรุนแรงที่สะท้านไปทั่วร่าง นางขมวดคิ้วและกำสาบคอเสื้อด้านหน้าของจวินมั่วหรันเพื่อข่มกลั้นความเจ็บปวด

“ทำไมมันเจ็บจัง”

แม้ว่าจวินมั่วหรันจะไม่รู้จักเรื่องประจำเดือนมากนัก แต่ดูเหมือนว่าสาวใช้ในตำหนักจะไม่มีใครมีอาการเหมือนเฟิงอู๋โยวเลยสักคน

“ไฉนถึงดูเจ็บปวดขนาดนี้”

จวินมั่วหรันเขย่าเฟิงอู๋โยวที่หลับตาแน่นอยู่ในอ้อมแขน และแล้วก็พบว่านางหมดสติไปแล้ว ทันใดนั้น จวินมั่วหรันจึงรีบตะโกนเรียกกู่หนานเฟิงอย่างร้อนรนใจ “กู่หนานเฟิง!”

หลังจากนั้นไม่นานกู่หนานเฟิงก็เดินหาวออกมาจากประตูห้องด้านในอย่างไม่เร่งรีบ

เขาสูดจมูกเล็กน้อย จากนั้นยกมือขึ้นโบกเบาๆ ที่ปลายจมูกสองครั้ง “ทำไมมีกลิ่นเลือด”

จวินมั่วหรันไม่อยากให้กู่หนานเฟิงรู้ความลับเรื่องนี้ของเฟิงอู๋โยว แต่เขากังวลเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับเฟิงอู๋โยวครั้นแล้วจึงต้องสั่งให้เขาออกมาตรวจจับชีพจรของนาง “กู่หนานเฟิงเรื่องนี้แพร่งพรายแก่คนอื่นเด็ดขาด”

หลังจากกู่หนานเฟิงวางมือบนข้อมือของนางก็ความผิดปกติของร่างกายเฟิงอู๋โยวทันที

ดวงตาของเขาเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ก่อนพูดด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นพิเศษ “เป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการสะสมมาเป็นระยะนาน ยากที่จะรักษา”

“หมายความว่าอย่างไร”

“เพื่อคงสภาพลักษณะความเป็นผู้ชาย เช่น ลูกกระเดือก ดูเหมือนว่านางจะกินยาที่มีพิษร้ายแรงติดต่อกันเป็นเวลานาน”

“ต้องรักษาอย่างไร”

“ไม่มีทางรักษา”

ใบหน้าของกู่หนานเฟิงตึงเครียดเป็นยิ่งนัก “สาเหตุที่อู๋โยวเจ็บปวดอย่างรุนแรงเช่นนี้ล้วนเกี่ยวเนื่องกับพิษในร่างกายของนาง พิษนั้นอยู่ในร่างกายของนางเป็นเวลาห้าหกปี หากร้ายแรงหน่อย ดีไม่ดีอาจส่งผลให้นางไม่สามารถตั้งครรภ์มีบุตรได้”

“ไม่มีทางรักษาแล้วจริงๆ หรือ” จวินมั่วหรันกระวนกระวายจนแทบบ้า ถ้านางต้องเจ็บปวดราวกับตายทั้งเป็นแบบนี้ทุกเดือน แล้วเขาควรทำอย่างไรดี

“ท่านสามารถบรรเทาความเจ็บปวดในช่องท้องของนางได้ด้วยการโคจรกำลังภายใน อย่างไรก็ตามท่านให้นางพยายามให้กำเนิดทายาทแก่ตระกูลจวินก่อนที่นางจะถึงอันเป็นไปก่อนวัยอันควรดีกว่า แต่ถ้านางเลือกที่จะไม่ตั้งครรภ์ นางก็ยังสามารถมีชีวิตที่สงบสุขต่อไปได้อยู่ แต่ถ้าโชคไม่ดีตั้งครรภ์เข้า หลังจากนั้นมีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้นที่ต้องเผชิญ”

“อะไร”

จวินมั่วหรันขมวดคิ้ว เขาไม่เคยคิดถึงปัญหาในระยะยาวเช่นนี้มาก่อน

เขาไม่ต้องการให้ร่างกายของเฟิงอู๋โยวมีความปิดปกติเกิดขึ้นแม้แต่น้อย

“เด็กรอด แม่ตาย กับเด็กตาย แม่รอด”

กู่หนานเฟิงถอนหายใจ ในใจรู้สึกสงสารเฟิงอู๋โยวอย่างสุดขั้วหัวใจ “เด็กสาวคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายมาหลายปีโดยไม่ถูกตรวจพบ สันนิษฐานว่าญาติสนิทต้องมีส่วนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้แน่นอน”

ตามข้อมูลที่ซือมิ่งรวบรวม มารดาผู้ให้กำเนิดของเฟิงอู๋โยวนามว่าชิวหรูสุ่ย เดิมเป็นเพียงสาวใช้ล้างเท้า จากนั้นก็คิดใช้กลอุบายจับเฟิงจือหลินและแต่งงานกันในที่สุด

จนกระทั่งเฟิงอู๋โยวถูกส่งไปยังค่ายทหาร และได้แสดงความสามารถจนเป็นที่ประจักษ์ เป็นเหตุให้สถานะของชิวหรูสุ่ยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

จากมุมมองนี้ มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าพิษในร่างกายของเฟิงอู๋โยวน่าจะมาจากของแม่ผู้ให้กำเนิด

ยิ่งเขาเข้าใกล้ความจริงมากเท่าไร จวินมั่วหรันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจต่อเฟิงอู๋โยวมากขึ้นเท่านั้น

หลายปีมานี้ นางต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากมากแค่ไหน

นางอายุไล่เลี่ยกับจวินฝูและเป่ยถางหลีอิน แต่กลับโชคดีไม่เท่าพวกเขา

“กู่หนานเฟิงไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร หรือต้องเสียอะไรไปบ้าง เจ้าต้องรักษานางให้ได้”

อยู่ๆ จวินมั่วหรันก็เกิดกลัวว่าเฟิงอู๋โยวจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก เขากลัวว่าจะไม่มีเวลาดูแลนางอย่างดีที่สุด และกลัวว่าจะไม่มีโอกาสสัญญาต่อหน้านางว่าจะดูแลนางไปตลอดชีวิต

กู่หนานเฟิงส่ายหัว “กระหม่อมจะทำให้ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พิษในร่างกายของนางจะถูกล้างออกไป ทางที่ดีท่านไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กับนาง หากเกิดท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ นางจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากที่กระหม่อมกล่าวไปข้างต้น”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *