เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 393 ติดปีกก็หนีไม่รอด / 394 ชุดวิวาห์

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 393 ติดปีกก็หนีไม่รอด / 394 ชุดวิวาห์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 393 ติดปีกก็หนีไม่รอด / ตอนที่ 394 ชุดวิวาห์

ตอนที่ 393 ติดปีกก็หนีไม่รอด

“เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอก”

เป่ยถางหลีอินอยากทำลายพรหมจรรย์ของเฟิงอู๋โยวมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสลงมือกับนางสักที

คำพูดของชิวหรูสุ่ยพวกนี้พูดโดนใจนางยิ่งนัก

ตอนนี้ อยู่ๆ ก็มีดังสนั่นดังมาจากด้านนอกห้อง

ทันทีที่ชิวหรูสุ่ยได้ยินเสียงของเป่ยถางหลงถิง สีหน้าของเปลี่ยนไปฉับพลัน “ไม่ดีแล้ว! ฮ่องเต้แคว้นเป่ยหลีจะต้องมาระบายอารมณ์แทนเฟิงอู๋โยวแน่นอน”

เปยถางหลีอินได้ยินเช่นนั้นก็รีบหยิบอ่างล้างหน้าบนชั้นวางและเทราดใส่ศีรษะตัวเองทันที

ชั่วขณะนั้น นางขว้างอ่างหน้าล้างไปด้านข้าง คุกเข่าลงพื้น ทำเสแสร้งสองมือกอดเข่า แลดูน่าสงสารไร้ความช่วยเหลือ

ชิวหรูสุ่นลนลานจนพล่านไปทั่ว นางรู้ดีว่าเป่ยถางหลงถิงเป็นพวกช่วยเหลือคนรักคนสนิทใกล้ตัวอย่างไม่ลืมหูลืมตา

หากปล่อยให้เป่ยถางหลงถิงจับได้ในสถานการณ์แบบนี้ เกรงว่าโชคร้ายของนางจะมากกว่าโชคดี

ภายใต้สถานการณ์คับขัน สายตาของชิวหรูสุ่นเคลื่อนไปที่หน้าต่างขนาดเท่าครึ่งตัวคน

ห้องพักของนางอยู่บนชั้นสามของโรงเตี๊ยมหลิงเฟิง หากกระโดดลงไปจากชั้นนี้ น่าจะมีทางรอดอยู่

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ชิวหรูสุ่นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก ขณะที่เป่ยถางหลงถิงกำลังจะบุกเข้ามาในห้องพัก นางก็กระโดด ‘ผลุบ’ ออกไปทางหน้าต่าง

“โอ้ย…”

ชิวหรูสุ่ยร่วงกระแทกลงบนพื้น ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด

ผู้คนรอบข้างเห็นเช่นนั้นก็ทยอยแหวกตัวออกและมองชิวหรูสุ่ยที่นั่งแน่นิ่งไม่ลุกขึ้นด้วยสายตาแปลกประหลาด

ชิวหรูสุ่ยรับรู้ได้ว่าขาซ้ายของตัวเองหัก ใบหน้าที่บำรุงมาอย่างดีบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดอันรุนแรง

นางยังไม่ทันได้ปรับลมหายใจ ม่านตานางพลันสะท้อนภาพรองเท้าปักดิ้นทองลายมังกรคู่หนึ่งหยุดอยู่ด้านหน้า

“ใคร”

นางขมวดคิ้วแน่น เหลือกตาขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เอ่ยถามคนที่เข้ามาขว้างทางด้วยเสียงเย็น

มองแวบเดียว ชิวหรูสุ่ยก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

นางไม่คิดไม่ฝันว่า ทั้งที่เพิ่งหนีรอดมาจากเป่ยถางหลงถิงได้ กลับต้องมาเจอจวินมั่วหรันที่นำกำลังคนเฝ้าระวังอยู่รอบๆ โรงเตี๊ยมหลิงเฟิง

จวินมั่วหรันมองเหยียดนางจากที่สูง ริมฝีปากเรียวบางปริเอ่ย “คิดจะหนี?”

“คำพูดเช่นนี้ของเซ่อเจิ้งหวางหมายความว่าเยี่ยงไรเจ้าคะ”

มือทั้งสองข้างของชิวหรูสุ่ยจับขาที่บาดเจ็บแน่น เหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก ตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด

“เอาตัวไป”

จวินมั่วหรันขี้เกียจพูดกับนางให้มากความ เขาออกคำสั่ง จากนั้นชิวหรูสุ่ยก็ถูกเถี่ยโส่วกับซือมิ่งหามแขนทั้งสองข้างลากกลับตำหนักเซ่อเจิ้งหวาง

ในเวลาเดียวกัน เป่ยถางหลิงถิงก็นำทหารองครักษ์คนสนิทบุกเข้ามาให้ห้องพักของชิวหรูสุ่นอย่างเอิกเกริก

เขากวาดมองรอบๆ เมื่อไม่พบร่องรอยของชิวหรูสุ่ยก็หงุดหงิดขึ้นทันที

เขาเหลือบเห็นเป่ยถางหลีอินที่นั่งขดตัวกอดเข่าตัวเองอยู่ที่มุมห้อง จึงเอ่ยถามเสียงเย็น “นางคนแซ่ชิวอยู่ไหน”

เดิมที เป่ยถางหลีอินต้องการใช้กลยุทธ์ทุกข์กายเรียกร้องความสงสารจากเป่ยถางหลงถิง คิดไม่ถึงว่าหลังจากเอาน้ำเย็นราดหัว บริเวณหน้าท้องของนางกลับรู้สึกปวดแปลบๆ

ใบหน้าของนางขาวซีด น้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนแมลงวัน “เสด็จพ่อ ช่วยอินเอ๋อร์ด้วย! อินเอ๋อร์ปวดท้องมอง”

“พูดมา! นางคนแซ่ชิวอยู่ไหน”

เป่ยถางหลงถิงถามเป่ยถางหลีอินอย่างหงุดหงิด เขามองข้ามคำร้องขอความช่วยเหลือของนางอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้อ๋าวเช่อได้นำทหารองครักษ์คนสนิททั้งหลายค้นทั่วห้องพักเสร็จแล้ว

เป็นเวลาประมาณหนึ่งเค่อ อ๋าวเช่อก็ถอดใจและเลิกค้นหาร่องรอยของชิวหรูสุ่ย

เขาพูดขึ้นเสียงขรึม “ฝ่าบาท ภายในห้องนี้ไม่มีห้องลับและซอกลับใดๆ จึงไม่มีทางซ่อนคนเอาไว้ได้ ดูจากสภาพการณ์ตอนนี้ คนแซ่ชิวน่าจะหนีไปเพราะเกรงกลัวความผิด”

“แจ้งไปยังกรมขุนนาง จงออกตามหาแม่นางแซ่ชิวให้ทั่วเมือง!”

“ขอรับ”

อ๋าวเช่อขานรับด้วยความเคารพ จากนั้นก็พาเหล่าทหารองครักษ์คนสนิทจากไป

ตอนนี้ สายตาของเป่ยถางหลงถิงจึงเหลือบไปมองเป่ยถางหลีอิที่นั่งขดตัวอยู่อีกครั้ง “อินเอ๋อร์ ตั้งแต่เมื่อใดที่เจ้าเปลี่ยนไปเป็นคนโหดร้ายน่ากลัวถึงขนาดนี้”

ตอนที่ 394 ชุดวิวาห์

“เสด็จพ่อ อินเอ๋อร์รู้สึกผิดไปแล้ว ขอเสด็จพ่อโปรดยกโทษให้อินเอ๋อร์ด้วยเจ้าค่ะ”

เฟ่ยถางหลีอินพยายามข่มกลั้นความเจ็บปวดและรีบก้มศีรษะโขกพื้นต่อหน้าเป่ยถางหลงถิง

“ความผิดก็คือความผิด หากข้ายกโทษให้เจ้าแล้วข้าจะสู้หน้าเฟิงอู๋โยวได้เยี่ยงไร นางไม่เคยทำอะไรให้เจ้า ไฉนเจ้าถึงจิตใจเหี้ยมโหดขนาดนี้ เล่นงานนางมาแล้วกี่รอบ”

“อินเอ๋อร์กระทำผิดต่อน้องอู๋โยวไปแล้ว อินเอ๋อร์สาบาน หลังจากนี้เป็นต้นไปจะมองนางเป็นน้องสาวร่วมสายเลือด เป็นห่วงนาง ดูแลนาง ชดเชยต่อความผิดที่อินเอ๋อร์กระทำกับนางไปตลอดชีวิต”

เป่ยถางหลงถิงแค่นเสียงเย็นเอ่ย “ไม่จำเป็น อู๋โยวไม่ต้องการพี่สาวที่มีจิตใจดั่งอสรพิษ”

เป่ยถางหลีอินเข้าใจความนัยที่เป่ยถางหลงถิงต้องการจะสื่อ แต่ยังคงไม่เดือดดาลและยังคงหน้าด้านอ้อนวอนขอร้องเป่ยถางหลงถิงที่จิตห่างเหินจากนางไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว “เสด็จพ่อพูดถูก อินเอ๋อร์ไม่คู่ควรที่จะเป็นบุตรีของท่านจริงๆ ขอบพระคุณสำหรับความรักใครเอ็นดูที่ผ่านมาเป็นอย่างสูง อินเอ๋อร์จะจดจำบุญคุณที่เสด็จพ่อเลี้ยงดูไปตลอดกาล”

“…”

เป่ยถางหลงถิงมองมองใบหน้าเศร้าสร้อยของเป่ยถางหลีอินด้วยสายตาหลากอารมณ์

ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังจากที่เขารับรู้ว่าเป่ยถางหลีอินทำผิดมาหลายเรื่อง ก็รู้สึกว่านางกำลังเล่นละครตบตาอยู่ตลอดเวลา

เขาในตอนนี้ ไม่เชื่อในน้ำตาของนางอีกต่อไป

เป่ยถางหลีอินเห็นเป่ยถางหลงถิงจ้องมองอย่างไม่ละสายตาก็เข้าใจผิดคิดว่าคำพูดของตัวเองสร้างความประทับใจให้เขา ภายในใจจึงรู้สึกดีใจขึ้นมา

นางขยับเข้าไปข้างๆ เท้าของเป่ยถางหลงถิง พูดขึ้นเสียงสะอื้น “เสด็จพ่อ อินเอ๋อร์เจ็บมาก! เหมือนร่างกายของอินเอ๋อร์กำลังถูกสัตว์เดรัจฉานกัดกระชากก็ไม่ปาน เจ็บปวดเหลือเกิน…”

“เจ็บมาก?”

เป่ยถางหลงถิงขมวดคิ้วแน่น ถามเป่ยถางหลีอินเสียงขรึม

แม้สีหน้าของเขาจะฉายแววปวดใจ แต่ก็ไม่ใช่เพราะปวดใจแทนเป่ยถางหลีอิน

เขาแค่นึกถึงเรื่องที่เฟิงอู๋โยวถูกชิวหรูสุ่ยทรมานด้วยพิษที่ไร้ทางแก้พิษมานานหลายปี ภายในใจจึงเจ็บปวดเป็นที่สุด

ขอบตาของเป่ยถางหลงถิงแดงเรื่อ หลังจากตัวเองรับรู้ความจริง เขาก็เอาแค่จมอยู่ในภวังค์ของการโทษตัวเองและรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา

“เสด็จพ่อ ช่วยอินเอ๋อร์ด้วย”

“เวรกรรมคืนสนอง”

เป่ยถางหลงถิงสะบัดมือของเป่ยถางหลีอินออกอย่างไร้เยื่อใย และหันหลังจากไปอย่างไม่หันกลับมามอง

เขาเพิ่งจะก้าวเท้า ไป๋หลี่เหอเจ๋อที่สุ่มอยู่ในมุมมืดก็ปรากฏตัวขึ้นมา

เดิมที ไป๋หลี่เหอเจ๋อต้องการตามหาชิวหรูสุ่ยเพื่อซักไซ้เอาความและระบายอารมณ์แทนเฟิงอู๋โยว

แต่ว่าเขามาช้าไปหนึ่งก้าว ทำให้ไม่พบร่องรอยของชอิวหรูสุ่ย

เขากวาดมองเป่ยถางหลีอินที่กุมท้ออย่างทรมานอยู่บนพื้นด้วยสายตาเรียบเฉย ภายในใจพลันรู้สึกรังเกียจ

เป่ยถางหลีอินสังเกตุว่ามีคนโผล่ขึ้นมาในห้องพักอีกหนึ่งคน จึงหดตัวห่อไหล่และมองไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างหวาดระแวง “ท่านราชครู?”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ถกแขนเสื้อขึ้นและยื่นผ้าเช็ดหน้าสะอาดใส่มือเป่ยถางหลีอิน “หากไม่มีที่ไป เจ้าสามารถไปพักพิงที่เรือนจื่หยางของข้าได้”

“ขอบพระคุณท่านราชครูเป็นอย่างสูง”

เป่ยถางหลีอินรับผ้าเช็ดหน้ามาจากมือของไป๋หลี่เหอเจ๋อ จมูกพลันแสบรื้นขึ้นมา น้ำตาร่วงรินขึ้นอีกรอบ

ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ชอบสตรีที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นที่สุด หากไม่ใช่เพราะเป่ยถางหลีอินยังมีค่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ เขาก็อยากจะบีบคอนางให้ตายไปทันที

เงียบขรึมลงไปสักพัก ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็เอ่ยขึ้นเสียงหน่าย “ยามจื่อคืนนี้ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ศาลาตี๋ซิงที่เรือนจื่อหยาง”

“อืม”

เป่ยถางหลีอินพยักหน้าอย่างหนักแน่น ใบหน้าฉายแววดีใจ

จริงๆ ด้วย! สวรรค์ย่อมมีทางออกให้เสมอ!

ขณะที่นางกำลังเครียดกับอนาคตของตัวเองอยู่ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเหนือความคาดหมาย

เป่ยถางหลีอินคิดในใจ หากทุกอย่างเป็นไปดั่งใจหมาย หากสามารถอภิเษกสมรสกับไป๋หลี่เหอเจ๋อที่ดำรงตำแหน่งสูงส่งในแคว้นตงหลินได้ นางก็ยังพอมีโอกาสยืนได้อย่างมั่นคงในแคว้นตงหลิน

ถึงตอนนั้นนางก็จะมีโอกาสกำจัดเฟิงอู๋โยว

วันนี้เกิดเรื่องมากมาย นางจะต้องตามตอบแทนบุญคุณของเขาในสักวัน!

ณ เรือนแพทย์พยากรณ์

เฟิงอู๋โยวนั่งไขว่ห้างอาบแดดอยู่กลางเรือนอย่างเกียจคร้าน

ชิงหลวนที่นั่งอยู่ข้างๆ ร้องสะอื้น ไม่หยุด

เฟิงอู๋โยวหาวหนึ่งครั้งก่อนปลอมนางเสียงแผ่ว “เด็กขี้แย ไฉนเจ้าจึงเหมือนกับตาเฒ่าเป่ยถางไม่ผิด มีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดแบบนี้ พิษในร่างกายของข้าสลายไปแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ท่านหญิงห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาดเลยนะเจ้าคะ! หากท่านเป็นอะไรขึ้นมา ชิงหลวนก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่เช่นกัน”

“ว่ากันว่า คนโชคร้ายมักอายุยืนเป็นพันปี ข้าโชคร้ายขนาดนี้ คงอายุยืนเป็นร้อยเป็นพันปีอย่างไม่มีปัญหา”

“อืม”

ชิงหลวนพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าเพิ่งมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาไม่ทันไร หลังจากเหลือบเห็นจุยเฟิงยืนยิ้มเจื่อนๆ อยู่ที่หน้าประตู สีหน้าของนางก็อึมคึมลงฉับพลัน

จุยเฟิงไม่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของชิงหลวน จึงก้าวเท้ามาด้านหน้าเฟิงอู๋โยว จากนั้นก็ยื่นเครื่องหัวเครื่องยศสตรีและชุดวิวาห์ที่อยู่บนถาดส่งมาด้านหน้าเฟิงอู๋โยว

“แม่ทัพเฟิงลองใส่ดูก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่”

“จวินมั่วหรันดำเนินการรวดเร็วจริงๆ !”

เฟิงอู๋โยวผุดยิ้มบางๆ ก่อนยื่นมือออกไปคว้าชุดวิวาห์บนถาดและนำทาบวัดลงบนตัว

“สวยอยู่ แต่คอเสื้อลึกเกินไป”

เฟิงอู๋โยวพึมพำ ก่อนถามจุยเฟิงอย่างสงสัย “จวินมั่วหรันจะให้ข้าสวมชุดนี้กระนั้นหรือ พวกเจ้าคิดว่าบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ใส่ชุดวิวาห์เผยแผ่นอกแบบนี้ ไม่แปลกประหลาดเกินไปหรอกหรือ”

“ไม่แปลกขอรับ แม่ทัพเฟิงมีรูปโฉมไร้ผู้ใดเทียบได้ ชุดวิวาห์ชุดนี้จะเสริมรูปร่างอ่อนช้อยและสง่างามของท่านออกมาได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบ” จุยเฟิงตอบกลับ

“จริงหรือ พวกเจ้าไม่รู้สึกว่าหน้าอกของบุรุษมีก้อนเนื้อนูนขึ้นมาสองก้อนเป็นเรื่องที่ผิดแปลกกระนั้นหรือ”

“ท่านหญิงไม่ใช่บุรุษ! การที่สตรีมีหน้าอกถึงจะดูดี ไฉนต้องเก็บซ่อน” ชิงหลวนพูดขึ้น

จุยเฟิงพูดเสริม “แม่หญิงชิงหลวนพูดถูกต้องที่สุดขอรับ”

เฟิงอู๋โยวคุ้นชินกับการแต่งตัวเป็นบุรุษ ไม่ว่าชิงหลวนกับจุยเฟิงจะเกลี้ยกล่อมเยี่ยงไรก็ไม่ยอมสวมชุดวิวาห์

แต่ว่า ในเมื่อชุดวิวาห์ชุดนี้เป็นชุดที่จวินมั่วหรันพิถีพิถันเตรียมมา ต่อให้นางจะรู้สึกไม่ชินเพียงใดก็ต้องลองใส่สักครั้งอยู่ดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด