เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 418 ฮัดชิ้ว / 419 เขาทำตัวเกินไปจริงๆ

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 418 ฮัดชิ้ว / 419 เขาทำตัวเกินไปจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 418 ฮัดชิ้ว / ตอนที่ 419 เขาทำตัวเกินไปจริงๆ

ตอนที่ 418 ฮัดชิ้ว

ได้ยินเช่นนั้น เฟิงอู๋โยวก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที

นางไม่คิดว่า เวลาที่จวินมั่วหรันใจดำขึ้นมาจะร้ายยิ่งกว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อเป็นเท่าตัว

หากปล่อยให้หยุนเฟยไป๋รู้ว่าตอนนี้จวินฝูทำตัวสำส่อนแบบนี้ นางคงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่นอน

ขณะที่เฟิงอู๋โยวกำลังใจเสียอยู่นั้น จวินมั่วหรันก็คว้านางเข้าไปกอดในอ้อมแขนและพูดขึ้นด้วยเสียงยั่วยวนทรงเสน่ห์ “เจ้าตัวน้อย ไฉนคืนนี้ถึงหอมขนาดนี้”

“ข้าแช่ตัวในอ่างลอยกลีบบุหงาตั้งครึ่งชั่วยาม จะไม่หอมได้เยี่ยงไร”

มุมปากของจวินมั่วหรันกระดกขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ข้าไม่ชอบกลิ่นหอมจากบุหงา ชอบแค่กลิ่นหอมจากเรือนร่างของเจ้า”

เขาสูดดูดกลิ่นหอมหวานของนางเข้าลึกๆ แต่กลับได้แต่กลิ่นบุหงาแสบจมูกจนจามออกมา

เฟิงอู๋โยวรู้สึกถึงลมจากการจามใกล้เข้ามา จึงผินหน้าหนีและเตรียมจะผลักออก คิดไม่ถึงจะถูกน้ำลายกระเด็นใส่เต็มหน้า

จวินมั่วหรันหูแดงเรื่อ ยกมือขึ้นและรีบเช็ดหน้าเฟิงอู๋โยวอย่างเบามือ

เฟิงอู๋โยวกะพริบตาปริบ เมื่อตั้งสติกลับมาได้ก็เงยหน้าหัวเราะ

“ฮ่าๆๆ คางคกพ่นน้ำ[1] ทั่วใต้หล้าหาดูยากยิ่งหนัก!”

“หุบปาก”

จวินมั่วหรันเขินอย่างเห็นได้ชัด

ภายในใจเกิดหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อคิดว่าภาพลักษณ์เหมือนดั่งเทพเซียนของเขาที่อยู่ในใจของนาง ได้ถูกทำลาย ก็โมโหจนอยากจะตบบ้องหูตัวเอง

เฟิงอู๋โยวไม่อยากยั่วโมโหเขามากกว่าเดิม จึงรีบก้มหน้าหลบตา ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น พยายามกลั้นหัวเราะอย่างยากเย็น

หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาก็ทำผิดพลาดเป็นเหมือนกัน นางก็ควรจับตามองเขาและทำความเข้าใจเขามากกว่านี้!

จวินมั่วหรันเห็นท่าทางเช่นนี้ของเฟิงอู๋โยวก็ลากนางเข้าห้องข้างๆ “ขืนหัวเราะอีก ระวังข้าจะจัดการเจ้าเสียตอนนี้!”

แน่นอน เฟิงอู๋โยวไม่กลัวการข่มขู่ของเขา ในทางตรงกันข้าม กลับเป็นฝ่ายยื่นแขนทั้งสองข้างออกมาคล้องคอเขา “อย่าเกรงใจ เข้ามาเลย!”

“…”

เดิมทีจวินมั่วหรันคิดจะอดทนต่ออีกสักวัน แต่เฟิงอู๋โยวในคืนนี้มีเรือนร่างที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ ทำเอาเขาไร้แรงต่อต้าน

ยิ่งนางเข้าใกล้ เขาก็ยิ่งตกหลุมพราง

ตอนนี้หยุนเฟยไป๋บุกเข้าเรือนมั่วหรันอย่างเร่งรีบ

เขาถีบประตูห้องนอนของจวินมั่วหรันออก เห็นจวินฝูยังคงนอนตะแคงอยู่บนเตียง ดวงตาทั้งสองข้างลุ่มหลง จับชุดวิวาห์ของจวินมั่วหรันอย่างมัวเมาพลางพูดขึ้นเสียงเล็กเสียงน้อย “ท่านพี่ ฝูเอ๋อร์ชอบท่านพี่มาก! ขอร้องท่านพี่ ให้โอกาสฝูเอ๋อร์สักครั้ง ฝูเอ๋อร์จะปรนนิบัติท่านพี่ให้สบายตัว”

“จวินฝู เจ้าทำอะไรอยู่?!”

หยุนเฟยไป๋หน้าเขียว ไฟโทสะปะทุขึ้นท่ามกลางดวงตาสีม่วงเข้ม

หากครรภ์ของจวินฝูไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ เขาคงจะจับนางสับให้เละเป็นหมื่นๆ ชิ้นอย่างไร้ความปราณี

เมื่อเห็นคนบุกเข้ามา จวินฝูก็ฝันสลายจนโกรธจัด

ทว่าหลังจากนางเห็นว่าผู้ที่มาเป็นหยุนเฟยไป๋ ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ตกใจจนกระโดดหลบเข้ามุม “องค์รัชทายาท ไฉนถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

“นางอัปยศ เจ้าสมควรตาย!”

หยุนเฟยไป๋พุ่งตรงไปด้านหน้าเตียง มือข้างหนึ่งยื่นออกมาไปบีบคอเรียวๆ ของจวินฝู ส่วนอีกข้างก็ตบใบหน้าสวยๆ ของนางอย่างแรง

“องค์รัชทายาท ได้โปรดฟังฝูเอ๋อร์ก่อน! ฝูเอ๋อร์เป็นโรคเดินละเมอตั้งแต่เด็ก มักจะละเมอทำเรื่องเหลวไหลอยู่บ่อย เมื่อครู่ฝูเอ๋อร์คิดว่าห้องนอนของท่านพี่เป็นของท่าน จึงเป็นเหตุให้ไม่สำรวมเช่นนี้”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือ ทำตัวเป็นดอกซิ่งนอกกำแพง แต่กลับหาข้ออ้างสร้างเรื่องโกหกแบบนี้!”

ไฟโทสะลุกโหมขึ้นในใจของหยุนเฟยไป๋ จากนั้นก็ตบหน้าจวินฝูอีกหลายครั้ง

ได้ยินเช่นนั้น เฟิงอู๋โยวก็อยากจะออกจากห้องข้างๆ ไปดูเหตุการณ์ แต่กลับถูกจวินมั่วหรันดึงกลับมา

มือเขาเพิ่งจะสัมผัสโดนร่างกายนางก็รู้สึกร้อนผ่าวผิดปกติ

“ชุดชั้นในของเจ้าไปไหน”

“มาที่นี่อย่างค่อนข้างรีบ เลยลืมใส่”

จวินมั่วหรันคว้านางเข้ามากอด ยิ่งรู้สึกรักใคร่อย่างไม่อยากปล่อยมือ “เป็นการลืมที่ดี”

ตอนที่ 419 เขาทำตัวเกินไปจริงๆ

เฟิงอู๋โยวบ่นพึมพำอย่างไม่เปิดเผย “อิจฉาเจ้าจริงๆ ที่ทำอะไรได้ตามใจอยาก ไม่เหมือนข้าที่ไม่รู้ว่าควรสัมผัสตรงไหนของเจ้า ข้ารู้สึกเสียเปรียบ”

สีหน้าของจวินมั่วหรันฉายแววสบายใจ มุมปากกระดกขึ้นเล็กน้อยเป็นมุมโค้งกระชากวิญญาณ “ทั้งตัวข้าเป็นของเจ้า เจ้าจะทำอะไรก็ได้”

“จริงหรือ”

“อืม”

มุมปากของจวินมั่วหรันอมยิ้มชวนหลงใหล ดวงตาสีดำประกายทองลุ่มลึกลงเรื่อยๆ

ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว เฟิงอู๋โยวที่ดูเหมือนใจกล้า แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น

ที่ผ่านมา นอกจากนางจะเอาแต่ลูบกล้ามหน้าท้องเขาแล้วก็ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย

ตรงส่วนอื่นๆ นางกลับหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

ความเขินอายที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเป็นสิ่งที่ทำใหเขาหวั่นไหวมากที่สุด

เป็นไปอย่างที่คิด!

ต่อให้เปิดโอกาสให้นางเป็นฝ่ายเริ่มก่อน นางก็แค่ลูบไล้หน้าท้องของเขาเบาๆ

“หากข้ามีกล้ามหน้าท้องอย่างเจ้า จะต้องทำให้เหล่าสตรีลุ่มหลงได้มากมายเป็นแน่!”

เฟิงอู๋โยวอุทานขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉา

“ไฉนไม่ลองเลื่อนมือลงต่ำอีกหน่อย”

เฟิงอู๋โยวส่ายหัวปฏิเสธ “หาใช่ของหายาก! ข้าก็มี”

“เจ้าแน่ใจ?”

“แค่กๆ… ข้าหมายความว่า ข้าไม่จำเป็นต้องดึงดันอยากได้สิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ผักผลไม้ก็มีของทดแทนได้เช่นกัน อย่างเช่น…”

ยิ่งฟัง จวินมั่วหรันก็ยิ่งรู้สึกว่าโกหก ครั้นแล้วจึงเป็นฝ่ายลงมือเอง

“ข้าขอทดสอบกับมือตัวเองเลยแล้วกัน”

ใบหน้าของจวินมั่วหรันผุดรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา น้ำเสียงสอดแทรกความอบอุ่น จนทำให้นางหน้าแดงเรื่อขึ้นมา

ชั่วพริบตาต่อมา ใบหน้าของจวินมั่วหรันก็สงบนิ่งลง

เขาต้อนเฟิงอู๋โยวไปที่มุมกำแพงและพูดอย่างเน้นคำ “ชุดชั้นในล่ะ”

“เอ๊ะ ข้าไม่ได้ใส่มาหรอกหรือ! สงสัยรีบออกจากเรือนเกินไป”

“เจ้าไม่รู้หรือว่าเดินส่ายไปส่ายมาในเมืองด้วยสภาพแบบนี้มันอันตรายแค่ไหน”

“ตอนนี้รู้แล้ว”

เฟิงอู๋โยวมองจวินมั่วหรันที่อยู่ใกล้เพียงแค่คืบพลางบ่นเสียงดัง “ข้าแค่สะเพร่าจนลืมใส่ก็เท่านั้น เจ้าเข้มงวดเกินไปแล้ว!”

“ข้าแค่ไม่อยากให้ใครเห็นเรือนร่างอันสวยงามของเจ้า”

จวินมั่วหรันหุบยิ้ม เขาคิดในใจว่าตัวเองเข้มงวดกับนางเกินไปจริงๆ

นางอยากทำอะไรก็ปล่อยให้นางทำไป

ส่วนเรื่องความปลอดภัยของนาง ก็ให้เขาเป็นฝ่ายปกป้องดูแลเอง

ขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังกะหนุงกะหนิง ห้องข้างๆ ก็กลายเป็นนรกบนดินของจวินฝูไปแล้ว

ตอนนี้ หยุนเฟยไป๋เหวี่งจวินฝูลงบนพื้น ซัดหมัดรัวเข้าไปที่ใบหน้านางดั่งกระสอบทราย “ข้าเกลียดพวกทรยศมากที่สุด”

“ฮือๆๆ ท่านองค์รัชทายาท ฝูเอ๋อร์มีแค่ท่านเพียงคนเดียวจริงๆ”

จวินฝูถูกต่อยจนจมูกช้ำหน้าบวม ทำได้เพียงร้องขอความเมตตา

“หุบปาก! เจ้าทำตัวแบบนี้มันชวนให้น่าขยะแขยงจริงๆ!”

“ฮือๆๆ”

จวินฝูยิ่งน้อยใจขึ้นเรื่อยๆ นางในตอนนี้เริ่มนึกเสียใจภายหลัง

หากรู้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ว่าหยุนเฟยไป๋โหดร้ายรุนแรงเช่นนี้ นางคงไม่ตอบตกลงอภิเษกสมรสกับเขา

ตอนนี้กลับไม่เพียงทำลายชื่อเสียง มิหนำซ้ำครึ่งชีวิตที่เหลือกลับไร้ความหวังแม้แต่น้อย

เฟิงอู๋โยวได้ยินเสียงสะอื้นขอร้องอันน่าสงสารของจวินฝูก็รู้สึกใจหาย

นางคิดในใจว่าหยุนเฟยไป๋เป็นพวกความรู้สึกตายด้าน

หากเป็นผู้ชายปกติทั่วไป เมื่อเห็นใบหน้าดอกสาลี่ต้องหยาดฝนของสาวงามแห่งแคว้น จะต้องคว้าเข้ามากอดในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอมและปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน

เมื่อคิดเช่นนี้ ในใจของนางก็นึกสนุกขึ้นมา โดยเลียนแบบเสียงของจวินฝู “ฮือๆ เจ้าอย่าบุ่มบ่าม ข้ากลัว”

จวินมั่วหรันเหงื่อตก เขามองใบหน้าเล็กๆ แดงเรื่อของนางอยู่นาน เห็นแค่ความตื่นเต้นของนาง แต่ไม่พบแววกวาดกลัวแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นว่าจวินมั่วหรันไม่สนใจ เฟิงอู๋โยวก็ยิ่งทำเสียงกระเส่า “อ๊าย… ข้ากลัวเหลือเกิน! เจ้าไม่ปลอบข้าหน่อยหรือ”

“อ๊าย…”

“อ๊าย…”

“อ๊าย…”

“หุบปาก” จวินมั่วหรันยื่น มือออกไปข้างหนึ่งเพื่อปิดปากนาง

“จวินมั่วหรัน ไฉนเจ้าถึงอารมณ์ด้านชาเช่นนี้ ข้าบอกว่าข้ากลัว เจ้าปลอบข้าสักนิดไม่ได้หรือ”

“รับปากข้ามาก่อน ห้ามร้องเสียงเป็ดอีก”

เฟิงอู๋โยวได้ยินเช่นนั้นและไม่สบอารมณ์ “ข้ากำลังร้องเสียงหวานสร้างบรรยากาศ! เสียงเป็ดอะไรของเจ้า จวินมั่วหรัน เจ้าไม่ชอบข้าใช่หรือไม่”

“เจ้าตัวน้อย! เจ้ายังกล้าสงสัยความรู้สึกของข้าอีกหรือ”

แขนยาวๆ ของจวินมั่วหรันคว้าไปโอบเอวเล็กบางของเฟิงอู๋โยวแน่น กอดนางและพาเดินไปที่เตียงนอน “หากเจ็บก็ทนหน่อย”

เขาเคยได้ยินจุยเฟิงบอกมาว่า สำหรับสตรีแล้ว นอกจากครั้งแรกที่จะรู้สึกไม่สบายตัวแล้ว หลังจากนั้นจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอีก ครั้นแล้วจึงปล่อยไปตามอารมณ์

หารู้หรือไม่ว่าการที่เขาปล่อยไม่ตามอารมณ์แบบนี้ ทำให้เฟิงอู๋โยวที่เดิมทีอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน หงอยลงจนถึงขีดสุด

“จวินมั่วหรัน ขืนเจ้ารังแกกันอยู่แบบนี้ ข้าจะล้มเลิกพิธีอภิเษกสมรส”

“ข้ารังแกเจ้าตอนไหน”

จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองนางอย่างจริงจัง

คิดไปคิดมาก็คิดไม่ออกว่าทำไมเฟิงอู๋โยวถึงโกรธ

ตอนนี้เขาอยากให้จุยเฟิงปรากฏตัวมาเพื่อชี้นำเขา

“เจ้าทำเกินไป ไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าเจ็บ เจ้าลองทนด้วยตัวเองดูสิ”

“ข้าไม่ได้หมายความแบบนี้ ข้ารู้สึกว่าเข้าคงไม่เจ็บ…”

“ไม่ฟัง ไม่ฟัง คนเลวสวดมนต์!”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่าตัวเองเอาแต่ใจ ทั้งที่รู้ว่าจวินมั่วหรันไม่มีเจตนาร้าย เขาแค่รุนแรงป่าเถื่อนจนเป็นนิสัย ไม่รู้จักการแสดงออกอย่างเหมาะสม

แต่ในใจของนางก็ยังคงรู้สึกลำบากใจ รู้สึกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจในตัวเองขนาดนั้น

เพราะเฟิงอู๋โยวใส่ใจกับเขามาก ดังนั้นจึงถูกคำพูดไม่กี่คำของเขาทำร้าย

[1]คางคกพ่นน้ำ คือสัญลักษณ์อันเป็นสิริมงคลในวัฒนธรรมจีน ถูกมองว่าเป็นเครื่องหมายของทรัพย์สินเงินทอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด