เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 240 เขียนสำนึกผิด / 241 ผิดที่รูปงามเกินไป

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 240 เขียนสำนึกผิด / 241 ผิดที่รูปงามเกินไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 240 เขียนสำนึกผิด / ตอนที่ 241 ผิดที่รูปงามเกินไป

ตอนที่ 240 เขียนสำนึกผิด

ผู้คนที่เห็นเช่นนั้นต่างตาลุกวาวอย่างตกใจ

หลิงเทียนฉีกระชากแขนเสื้อเฟิงอี้ พลางกระซิบเสียงเล็กเสียงน้อย “นี่ข้าตาฝาดไปกระนั้นหรือ! ไม่นึกว่าเซ่อเจิ้งหวางจะไม่ตอบโต้แบบนี้”

“นี่ไม่ใช่ความฝันใช่หรือไม่”

เฟิงอี้ขยี้ตามองเฟิงอู๋โยวยิงฟันแยกเขี้ยวอย่างไม่เชื่อสายตา จากนั้นก็หันไปดูจวินมั่วหรันที่ปล่อยให้นางอาละวาดอย่างหน้าตาเฉย

“พี่เฟิง ไฉนข้าถึงรู้สึกว่าเซ่อเจิ้งหวางถึงรักใคร่ทะนุถนอมอู๋โยวของพวกเราขนาดนี้”

เฟิงอี้ก็แปลกใจเช่นกัน เขาได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่มีคำตอบ “มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ”

เมื่อจวินมั่วหรันเห็นเฟิงอู๋โยวที่เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ ก็กลัวว่านางจะหักโหมเกินไป จึงพุ่งเข้าไปโอบเอวนางและกระซิบเสียงแผ่ว “เจ้าหนู อย่าได้ใจไปหน่อยเลย! เพลาๆ มือหน่อย เดี๋ยวจะเป็นฝ่ายเจ็บตัวเองนะ”

เปาะ!

เฟิงอู๋โยวอยากจะอัดเขาให้หนำใจอีกสักพัก แต่กลับโชคไม่ดี เพราะอยู่ๆ มะเขือยาวที่ยัดอยู่ในเกงกางเกิดหักขึ้นมากลางคัน

นางกะพริบตาปริบๆ ก่อนใจเย็นลงอย่างฉับพลัน

นางอยากจะถอยกลับ แต่กังวลว่ามะเขือยาวจะร่วงตามขากางเกงลงมา

เวลานี้ เฟิงอู๋โยวตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไปออก นางจึงทำได้แค่วนเวียนอยู่รอบๆ จวินมั่วหรัน โดยไม่กล้าเคลื่อนไหวมากนัก

มุมปากจวินมั่วหรันเกร็งกระตุกขึ้นทันที เขาสังเกตเห็นมะเขือยาวที่เฟิงอู๋โยวซ่อนไว้ใต้กางเกงหักเป็นสองท่อนเช่นกัน

เพื่อปกป้องนาง เขาจึงกอดเอวนางและพากระโดดเข้าไปในห้อง ก่อนวางนางลงบนเตียง แล้วห่มผ้าให้นาง เพื่อหวังให้นางจัดการกับมะเขือยาวที่หักเป็นสองท่อนได้อย่างสะดวก

เมื่อเฟิงอู๋โยวจะตั้งสติกลับมาได้ก็พบว่าใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของจวินมั่วหรันก็ถูกนางอัดจนบวมช้ำเต็มไปหมด

“ไฉนท่านใต้เท้าไม่เอาคืน”

“ข้าใช้วิธีลงโทษเจ้าได้แค่วิธีเดียวเท่านั้น”

เฟิงอู๋โยวที่ได้ยินเช่นนี้ก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือทั้งสองข้างที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มพลันเอามะเขือยาวที่หักเป็นสองท่อนออกมา จากนั้นก็เอาท่อนที่ยาวกว่ายัดใส่เป้าเกงกางอีกครั้ง “ท่านใต้เท้าขอรับ วิธีแบบนี้ ดีไม่ดีอาจถึงตายได้เลยจริงๆ หากท่านยังระบายอารมณ์ไม่หนำใจ ท่านสามารถทุบตีกระหม่อมเพื่อระบายอารมณ์ก็ได้นะขอรับ กระหม่อมทนไหว”

หางตาของจวินมั่วหรันสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของเฟิงอู๋โยว ในใจลึกๆ ของเขารู้ดีว่านางจะไม่สามารถยอมรับในตัวเขาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งตัวเขาก็ไม่มีเจตนาบังคับนางเช่นกัน

หลังจากนิ่งเงียบลงไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอย่างสบายใจ “บอกข้ามาว่าเจ้าคุยเรื่องอะไรกับฟู่เย่เฉิน”

“จำไม่ได้แล้ว”

“ต้องให้ข้าช่วยเจ้ารื้อฟื้นความจำหรือไม่”

ดวงตาของจวินมั่วหรันฉายแววคุกคามขึ้นรำไร น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าดึงดูดพลันแฝงความกดดันขึ้นมา

ยังไม่ทันที่เฟิงอู๋โยวจะตอบกลับ เขาก็อุ้มนางแนวขวางและพากระโดดออกจากหน้าต่างไป แล้วกระโดดขึ้นมาบนหลังคามุมหนึ่ง

“ท่านใต้เท้าคิดจะทำอะไร”

“ตอนที่ฟู่เย่เฉินพูดคุยกับเจ้า เขาได้อุ้มเจ้าแบบนี้หรือไม่”

ใบหน้าของจวินมั่วหรันฉายแววอำมหิตขึ้นรำไร ลึกๆ แล้วเขาเชื่อว่าเฟิงอู๋โยวไม่มีทางทำอะไรกับปั่วเย่เฉินแน่นอน แต่เขาทำใจยอมรับเรื่องที่ผู้หญิงตัวเองถูกชายอื่นอุ้มอยู่ในสภาพเป็นเวลาหลายชั่วยาม

เฟิงอู๋โยวรีบอธิบายขึ้นทันที “เพราะเขาเหาะเร็วมาก กระหม่อมกลัวร่วงลงไปจนเละเป็นเนื้อบด ดังนั้นกระหม่อมต้องจับเข้าไว้แน่นๆ”

“ทั้งที่ออกไปกับคนอื่น แล้วไฉนเจ้าต้องโกหกข้าว่าออกไปเดินเล่นด้วย”

“กระหม่อมกลัวว่าท่านใต้เท้าจะเป็นห่วงกระหม่อมจนเกินเหตุ”

“ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด เจ้ายังลงมือกับข้าได้ลงคอ เจ้าไม่ปวดใจแทนข้าบ้างเลยหรือ”

เฟิงอู๋โยวบ่นพึมพำ “ปวดใจเหลือเกินขอรับ”

จวินมั่วหรันแค่นเสียงในลำคอ “คืนนี้ ถ้าเขียนสำนึกผิดไม่จบหนึ่งหมื่นรอบ เจ้าเตรียมตัวไว้เลยแล้วกัน”

“ท่านใต้เท้า กระหม่อมรู้ตัวแล้วว่ากระหม่อมทำผิด แต่ท่านเองก็เคยทำผิดมาบ้างเหมือนกันไม่ใช่หรือ ดังนั้นกระหม่อมไม่มีทางเขียนสำนึกผิดเป็นหมื่นๆ จบแน่นอน!”

นางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สนใจ

จวินมั่วหรันไม่พูดอะไรมาก เขารีบพานางไปที่ห้องหนังสือทันที จากนั้นลากนางมานั่งหน้าโต๊ะและเตรียมกระดาษกับพู่กันไว้ให้เสียดิบดี

ด้วยความสงสัย เฟิงอู๋โยวได้กวาดสายตามองตัวหนังสือตวัดบนกระดาษข้างหน้า เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าก็ถึงกับตกใจขึ้นมาทันที

นี่เขา…เคยเขียนสำนึกผิดจริงๆ หรือนี่!

ตอนที่ 241 ผิดที่รูปงามเกินไป

หลังจากนั้นไม่นาน จวินมั่วหรันก็ยื่นสมุดสำนึกผิดมาด้านหน้านาง พลางเอ่ยเสียงขรึม “เฟิงอู๋โยว ให้โอกาสข้าคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นหน่อยเป็นเยี่ยงไร”

ตัวหนังสือของเขาเขียนหวัดจนอ่านไม่รู้เรื่อง แต่เปิดมาด้วยตัวอักษรเด่นชัดว่า ‘สมุดสำนึกผิด’ ที่ทำให้เฟิงอู๋โยวลนลานเป็นที่สุด

“ท่านใต้เท้า ให้เวลากระหม่อมหน่อย”

“นานเท่าไหร่”

เฟิงอู๋โยวมองเขา ริมฝีปากสั่นระริกปริเอ่ย “กระ…กระหม่อมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

จวินมั่วหรันไม่พอใจกับคำตอบของนางอย่างเห็นได้ชัด แขนอันกำยำทั้งสองข้างของเขาโอบกอดเอวนางอีกครั้ง “ในใจของเจ้ามีข้าอยู่บ้างหรือไม่”

นางพยักหน้าระรัว “มี”

ใบหน้าของจวินมั่วหรันเผยแววยิ้ม มุมปากรั้งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “แค่มี ก็พอแล้ว”

สิ้นสุดเสียงพูด เขาก็ก้มหน้าประกบจูบลงบนริมฝีปากนางอีกครั้ง

เฟิงอู๋โยวคิดในใจ การกรทำของพวกเขาในตอนนี้ได้บอกความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองอย่างชัดเจนแล้ว

ดังนั้น จูบเล็กๆ น้อยๆ คงไม่มีปัญหาอะไร

ตอนแรกๆ มือของจวินมั่วหรันยังคงอยู่นิ่ง

แต่พอให้ว่านางไม่ขัดขืน มือก็เริ่มปีนป่ายมาที่สาบเสื้อด้านหน้าของนางอย่างอยู่ไม่สุข

เฟิงอู๋โยวรีบผลักออกทันที “จะทำอะไร”

“จับหน่อยไม่ได้หรือ”

จวินมั่วหรันถามเสียงแผ่ว มือทั้งสองข้างพลันเลื่อนมาที่เอวของนางเหมือนเดิม

“ท่านใต้เท้ารู้ว่ากระหม่อมไม่ใช่…”

“เจ้าไม่ใช่อะไร” จวินมั่วหรันไม่อยากเปิดโปงนางแบบนี้ สิ่งที่เขาต้องการคือให้นางเป็นคนบอกความจริงแก่เขาด้วยความเต็มใจ

เฟิงอู๋โยวลุกขึ้นผละตัวออกจากเขา จากนั้นก็ประจันหน้าจ้องมองดวงตาอันลุ่มลึกของเขา “มือไม้ปีนป่ายถึงขนาดนั้นแล้วยังแกล้งโง่อีก”

จวินมั่วหรันเอียงยิ้มมุมปากและเริ่มแต่งเรื่องพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ข้าได้ยินมาว่าขันทีตามวังหลวงมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความไม่สมดุลของหยินและหยาง ข้าจึงสันนิษฐานว่าเจ้าคงมีปัญหาแบบเดียวกัน…ไม่เช่นนั้นเจ้าคงไม่อวบเฉพาะจุดแบบนั้น”

“…”

เฟิงอู๋โยวถึงกับพูดไม่ออก

นางคิดว่าบางทีเขาอาจ ไม่ได้แสร้งทำเป็นโง่ แต่โง่จริงๆ

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกอับอายต่อหน้าข้าคนนี้ก็ได้”

“จวินมั่วหรัน หยุดรังแกข้าด้วยคำพูดได้แล้ว”

“ถ้าไม่ยอม เจ้าสามารถปฏิบัติต่อข้าด้วยวิธีแบบเดียวกันกับข้าก็ได้ ข้าไม่ว่าอะไร” พูดจบ จวินมั่วหรันก็เปิดสาบเสื้อด้านหน้า ดวงตาของเขาพลันเรืองวาวขึ้นมาทันที

“เจ้า…”

“ข้าทำไม…เจ้าต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายต้องไตร่ตรอง ทั้งที่เป็นคนของข้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมให้ข้าแตะต้องตัวเจ้า”

“ข้าเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่”

จวินมั่วหรันนิ่งอึ้ง ทั้งที่นางทำเหมือนจะยอมรับแล้วว่ามีเขาอยู่ในใจ แต่ตอนนี้นางไม่ยอมรับอีกแล้ว!

ที่น่ารำคาญที่สุดคือนางเป็นผู้หญิง ซึ่งเข้าไม่สามารถจ่อดาบที่คอเพื่อบังคับนางได้

จวินมั่วหรันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขาทุบโต๊ะหนังสืออย่างหมดความอดทน ก่อนพูดอย่างเย็นชา “จงเขียนคำสำนึกผิดหมื่นตัว ห้ามตกหล่นแม้แต่ตัวเดียว”

“เขียนก็เขียน!”

เฟิงอู๋โยวรับกองกระดาษที่เอาไว้สำหรับเขียนมาจากจวินมั่วหรันอย่างระมัดระวัง

นางคิดในใจ ถ้าเขากล้าเอาคำสำนึกผิดพวกนี้ไปประจานต่อหน้าสาธารณะ นางก็จะเอาของเขาแขวนไว้ที่ประตูเมืองเช่นกัน

จวินมั่วหรันเห็นนางนั่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยท่าทางสง่างาม เดิมทีคิดว่านางสำนึกผิดแล้ว และคิดว่านางคงจะมองเขาเป็นเหมือนคนในครวบครัวคนหนึ่ง อย่างน้อยอาจทำให้นางรู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้างหากต้องใกล้ชิดกับคนอื่น

แต่ไม่คิดไม่ฝันว่า ผ่านไปครึ่งชั่วยาม นางยังเขียนได้ไม่ถึงครึ่งหน้ากระดาษ

“เฟิงอู๋โยว เจ้ากำลังเขียนอะไรอยู่”

เฟิงอู๋โยวพูดอย่างตรงไปตรงมา “แน่นอนว่าเป็นคำสำนึกผิดของกระหม่อม”

นางกระแอมในลำคอและอ่านออกมาเสียงขรึม “ตบมือครั้งเดียวย่อมไม่ดัง หากข้าทำผิดขึ้นมาจริงๆ มันไม่ใช่ความผิดของข้าคนเดียว หากจะให้โทษอะไรสักอย่าง คงผิดที่ท่านรูปงามเกินไป ลองมองตัวเองสิ ดวงตากลมโตสุกสกาวที่มักจะเปล่งประกายแพรวพราว ลองมองดูตัวเองสิ ร่างกายอันกำยำของท่านแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ซ้ำยังส่งกลิ่นหอมเย้ายวนอยู่เป็นเนือง สรุปก็คือ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านรูปงามเกินไป ข้าคงไม่ลุ่มหลงในตัวท่านจนขาดสติเช่นนี้”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *