เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 291 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 291 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 291 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

ก๊อกๆๆ

“ท่านชาย ท่านหญิงจวินฝูแวะมาหาเจ้าค่ะ” ด้านนอกประตู ชิงหลวนกดเสียงต่ำเรียก

เมื่อครู่นี้ นางเห็นจวินมั่วหรันโกรธกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องนอนของเฟิงอู๋โยวไป แค่นี้ก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน

ในเวลานี้ ชิงหลวนไม่กล้ารบกวน เฟิงอู๋โยว และยังกังวลว่าจวินมั่วหรันนอกใจเปลี่ยนไปรักคนอื่น ความตกใจและหวาดกลัวปะปนกัน น้ำตาพลันเอ่อล้นและร้องไห้ออกมา

เฟิงอู๋โยวพูดเสียงเฉื่อย “ไม่พบ”

นางไม่รู้สึกเป็นมิตรกับจวินฝูแม้แต่น้อย ถ้าไม่เห็นแต่หน้าตาของจวินมั่วหรัน นางไม่มีทางปล่อยจวินฝูไปง่ายๆ แน่นอน

“เฟิงอู๋โยว อย่าคิดว่าได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแม่ทัพทหารม้าแล้วจะเมินเฉยต่อท่านหญิงอย่างข้าได้”

จวินฝูผลักชิงหลวนที่เฝ้าประตูออกไป เปิดประตูเข้ามาและชี้ปลายจมูกของเฟิงอู๋โยวพร้อมกล่าวโทษยกใหญ่ “เจ้าเป็นบุรุษ เรื่องดีๆ มีไม่ทำ แต่กลับมายั่วยวนท่านพี่”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า หากไม่ยั่วยวนเขาแล้วจะให้ยั่วยวนเจ้าหรือ” เฟิงอู๋โยวอารมณ์เสียเอามาก ทำให้ยิ่งขี้เกียจยุ่งเรื่องของจวินฝู

“เฟิงอู๋โยว หากเจ้าชอบท่านพี่จริงๆ ก็อย่าข่มเหงเขาได้หรือไม่ ตระกูลจวินมีบุตรชายผู้สืบทายาทเพียงคนเดียว ทุกคนคาดหวังให้ท่านพี่แตกกิ่งผลิใบ[1] หากเขาอภิเษกกับไก่ตัวผู้ที่วางไข่ไม่ได้เยี่ยงเจ้า ตระกูลจวินคงสิ้นทายาทสืบสกุลเสียกระมัง ความอกตัญญูมีอยู่สามประการ แต่ที่เป็นที่สุดของความอกตัญญูก็คือการไร้ทายาทสืบสกุล เจ้าทนเห็นตระกูลจวินไร้ทายาทจุดธูปต่อ[2] เหตุเป็นเพราะเจ้าเพียงคนเดียวได้กระนั้นหรือ”

“ใครสอนเจ้าพูดคำพวกนี้” เฟิงอู๋โยวจ้องมองจวินฝู นางคิดในใจ ด้วยมันสมองของจวินฝูไม่มีทางพูดพวกนี้ออกมาได้แน่นอน

จวินฝูละสายตาออกอย่างละอายใจ ครั้นจึงตอบกลับไปอย่างกำกวม “คนที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมเห็นชัดว่าเจ้ากับท่านพี่ไม่มีทางลงเอยได้ได้แน่นอน”

“เช่นนั้นข้าจะขอเตือนเจ้าเอาไว้หนึ่งคำ หวนกลับคือฝากฝั่ง[3] ชาตินี้ เจ้ากับเซ่อเจิ้งหวางก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เจ้าจงเป็นพระชายาเอกขององค์รัชทายาทแคว้นหยุนฉินแต่โดยดีเสียเถิด หากหยุนเฟยไป๋รู้ว่าเจ้าหลงรักพี่ชายของตัวเอง เจ้าคิดว่าเขาจะตัดขาเจ้าทิ้งหรือไม่”

“เจ้า! เรื่องของข้า ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาชี้นิ้ววาดเท้า[4]

“เป่าถ่า เหอเยา ส่งแขก!”

เดิมที เฟิงอู๋โยวอยากจับนางโยนออกไปนอกประตู แต่พอนึกได้ว่านางตั้งครรภ์อยู่ จึงทำได้แค่ไล่ออกไปอย่างอ่อนโยน

ประตูเพิ่งปิดลง เฟิงอู๋โยวก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน นางพิงบานประตูอย่างอ่อนแรง สีหน้าเหม่อลอย

มีประโยคหนึ่งที่จวินฝูพูดถูก ตระกูลจวินมีบุตรชายผู้สืบทายาทเพียงคนเดียว ทุกคนคาดหวังให้จวินมั่วหรันจุดธูปต่อและแตกกิ่งผลิใบ

แต่ตัวนางกลับถูกวางยาพิษมาหลายปี โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้มีไม่มาก

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อไหร่ที่ตั้งครรภ์ขึ้นมา พิษที่ยังคงเหลืออยู่ในร่างกายจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงตอนนั้นขึ้นมา ไม่เพียงแต่จะรักษาชีวิตลูกไว้ไม่รอด อีกทั้งยังมีโอกาสสูงที่ตัวเองจะไม่รอดด้วย

หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด ฟน.ก็อยากจะตัดความสัมพันธ์กับเขา

นางรู้ดีว่าเขารออย่างทุกข์ทรมานมาโดยตลอด นางไม่อยากทำให้เขารู้สึกแย่ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมต่อเขาจริงๆ

จวินมั่วหรันโกรธกระฟัดกระเฟียดจากมา แต่เขารับปากแล้วว่าจะอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนนาง

เขากังวลว่าหากตัวเองไม่อยู่ข้างๆ นางจะไม่ยอมทานข้าว

สุดท้าย เขาก็ต้องย้อนกลับไปอย่างจำใจ

ขณะยืนอยู่นอกห้องนอนของเฟิงอู๋โยว อยู่ๆ จวินมั่วหรันก็นึกถึงการทะเลาะกันครั้งล่าสุดของพวกเขา

เขายังจำท่าทางบูดบึ้งของเฟิงอู๋โยวได้ หัวใจของเขาก็พลันปวดตุบๆ ขึ้นมา

นางยังเด็ก ดังนั้นเขาควรยอมๆ นางไป

อาจเป็นเพราะเขายังทำตัวไม่ดีพอ นางจึงไม่อยากยอมรับเขา

“เฟิงอู๋โยว เจ้าอยากพูดคุยกับข้าดีๆ ไม่ใช่หรือ”

“อืม”

เฟิงอู๋โยวคาดไม่ถึงว่าจวินมั่วหรันจะกลับมาอีกครั้ง แต่กระนั้นนางก็ยังเปิดประตูอย่างใจเย็น

ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน ทำเอาพูดไม่ออกชั่วขณะ

สุดท้าย จวินมั่วหรันก็พูดทำลายความเงียบขึ้นก่อน “ให้ข้าเข้าไปพูดคุยอย่างละเอียดในเรือนได้หรือไม่”

“จวินมั่วหรัน หรือว่าพวกเรา…ควรเลิกคบกัน”

“ไฉนต้องเลิกคบกัน”

“ความหมายเดียวกันกับเลิกราหย่าร้าง แต่พวกเราไม่มีพันธะเรื่องอภิเษก ดังนั้นจึงเป็นได้แค่เลิกคบกัน”

ตอนที่เฟิงอู๋โยวพูด น้ำเสียงก็สั่นเคลือ

มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่าอาลัยอาวรณ์เขามากแค่ไหน

ชาติภพที่แล้ว ทุกคนล้วนมองนางเป็นเหมือนที่พึ่งพิง

ชาติภพนี้ เขากลับกลายเป็นที่พึ่งพิงของนาง มอบความปลอดภัยให้นางอย่างไร้ขีดจำกัด

เป็นเพราะเขาดีขึ้นเรื่อยๆ เฟิงอู๋โยวจึงยิ่งไม่อยากเหนี่ยวรั้งเขา

“เพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เจ้าถึงกับตัดขาดกับข้าเลยกระนั้นหรือ แบบนี้มีประโยชน์ต่อเจ้าตรงไหน หากเจ้าต้องการเงิน ข้าผู้นี้ก็มอบให้เจ้าได้ ขอแค่เจ้าเอ่ยปาก ข้าผู้นี้พร้อมจะทำทุกอย่างให้สมปรารถนาของเจ้า เจ้าไม่พอใจเรื่องอะไรกันแน่” ดวงตาของจวินมั่วหรัน นิ่งขรึมลงเล็กน้อย นอกเหนือจากความตกใจ ก็ยังมีความเศร้าเจืออยู่ค่อนข้างมาก

“ตั้งแต่อยู่กับเจ้ามา ข้าไม่เคยคิดว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากเจ้า ทั้งหมดเป็นเพราะความชื่นชอบเท่านั้น”

เดิมทีเฟิงอู๋โยวไม่อยากจะอธิบาย แต่เมื่อได้ยินจวินมั่วหรันบอกว่าจะให้เงิน นางก็ยังรู้สึกช้ำใจขึ้นมา

บางทีในสายตาของเขา นางก็คงเป็นแค่สตรีหน้าเงิน

“เซ่อเจิ้งหวาง เป็นข้าที่หวังมากไปเอง ได้โปรดกลับไปเถิด” ทันทีที่เฟิงอู๋โยวพูดจบ ก็ปิดประตูลงอีกครั้ง

“ได้”

จวินมั่วหรันไม่เคยรู้สึกว่าเฟิงอู๋โยวหวังจากเขามากไป เขาแค่ไม่รู้วิธีจัดการความสัมพันธ์ก็เท่านั้น

เขาคิดไม่ออกว่าไฉนเฟิงอู๋โยวถึงพูดออกมาพล่อยๆ และพูดคำว่า ‘เลิกคบ’ ออกมาง่ายๆ เช่นนี้

กู่หนานเฟิงที่พิงเสาระเบียงอยู่ เห็นจวินมั่วหรันถูกไล่ออกมาอีกครั้งก็หัวเราะจนแทบขาดใจ “ดูสภาพของเจ้าสิ ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นพวกกลัวเมียแน่นอน”

จวินมั่วหรันรู้สึกหดหู่ใจ เขายืนอยู่ที่ประตูเป็นเวลานาน เพียงหวังว่าเฟิงอู๋โยวจะเปลี่ยนใจและพูดจารั้งให้เขาอยู่ต่อ

[1]แตกกิ่งผลิใบ หมายถึงมีทายาทสืบสกุล คล้ายกับสำนวนไทยมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง

[2]จุดธูปต่อ หมายถึงการสืบทอดสายเลือดต่อไป ตามคติความเชื่อดั่งเดิมของคนจีนเชื่อว่าการมีลูกชายคือหนทางเดียวที่สืบสกุลเอาไว้ได้ หากมีลูกสาว เมื่อแต่งงานไปแล้วก็เหมือนตายจากพ่อแม่ไป เพราะเป็นคนของบ้านอื่น ลูกชายเท่านั้นที่จะเป็นลูกของพ่อแม่ไปตลอดชีวิต ผนวกกับความเชื่อหลังความตายของคนจีน ทำให้ลูกหลานมีหน้าที่ไหว้พ่อแม่และบรรพชนผู้ล่วงลับ หากไม่มีลูกชายก็ไม่มีคนจุดธูปไหว้หลังความตาย ไม่มีคนไหว้หลังความตายก็ไม่มีควันธูป ดังนั้นคำว่า ‘ธูป’ หรือ ‘ควันธูป’ มักใช้เปรียบเปรยถึงการมีทายาทสืบสกุล เพื่อที่จะได้จุดธูปไหว้บรรพชนตัวเองนั้นเอง

[3]หวนกลับคือฝากฝั่ง มาจากพุทธสุภาษิตจีนที่ว่า ทะเลทุกข์ไร้ขอบ หวนหลับคือฝากฝั่ง หมายถึงการกลับตัวกลับใจย่อมเจอหนทางรอด

[4]ชี้นิ้ววาดเท้า หมายถึงการติเตียน วิจารณ์หรือออกคำสั่งตามอำเภอใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด