เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 94 ท่านใต้เท้า กระหม่อมตั้งท้อง

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 94 ท่านใต้เท้า กระหม่อมตั้งท้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 94 ท่านใต้เท้า กระหม่อมตั้งท้อง

“ท่านใต้เท้าพูดว่าอะไรนะขอรับ”

เฟิงอู๋โยวตัวแข็งทื่อราวกับก้อนหิน สายตาจ้องมองจวินมั่วหรันที่ใบหน้าแดงก่ำ คล้ายอยากจะขำและก็ไม่กล้าขำ

ซือมิ่งทำหน้าตกใจประหนึ่งล่วงรู้ความลับสวรรค์ ก่อนหันไปซุบซิบกับจุยเฟิง “ท่านใต้เท้าอยากคลอดเด็กอวบๆ ให้แม่ทัพเฟิงอย่างนั้นหรือ!”

“ข้าได้ยินแล้ว”

จุยเฟิงเออออพลางกดหน้าต่ำลง

เขานึกขึ้นในใจ การที่จวินมั่วหรันมีความคิดประหลาดอยากคลอดลูกให้ผู้ชายคนอื่นแบบนี้ แสดงว่าจิตใต้สำนึกของเขาคงจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงจริงๆ

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ สมรรถภาพทางเพศของจวินมั่วหรันอาจมีโอกาสถดถอย และอาจส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงในอนาคตก็เป็นได้!

ขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป แล้วจะแต่งงานมีลูกหลานสืบสานตระกูลจวินได้เยี่ยงไร

“คลื่นยักษ์ถล่มวังมังกร เทพเจ้าตัดขาดเชื้อสายตระกูลจวิน ชีวิตช่างเป็นมหรสพอันขมขื่น!” จุยเฟิงถอนหายใจอย่างสลด น้ำตาใสวาวพลันเอ่อคลอดวงตาอันเล็กตี่อีกครั้ง

“ฝนตกหนักขนาดนี้ยังกล้าเงยหน้ามองฟ้าอีก เดี๋ยวลูกนัยน์ตาก็บาดเจ็บหรอก” ซือมิ่งดึงแขนจุยเฟิงด้วยความไม่เข้าใจในห่วงอารมณ์ของเขา

“เจ้าจะไปเข้าใจอะไร เงยหน้ามองฟ้าเพื่อไม่ให้น้ำตาหลั่งริน”

จุยเฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เขาใช้หางตาแอบมองใบหน้าจวินมั่วหรันที่เจือแววเขินอายขึ้นรำไร หัวใจของเขาตอนนี้กำลังหลั่งน้ำตาเป็นสายดุจแม่น้ำ

จวินมั่วหรันถึงกับสมองดับวูบไปชั่วขณะ เขาไม่เข้าใจว่าไฉนตัวเองถึงพูดจาไร้สาระเช่นนี้ออกไป

แต่แม่น้ำย่อมไม่ไหลย้อนกลับ

คำพูดหลุดปากออกไปแล้ว เขาขี้เกียจตามอธิบาย

ในความคิดของเขา การอธิบายเป็นเพียงการกระทำที่ทั้งเสียเวลาและเปล่าประโยชน์ สู้ข่มขู่หรือฆ่าปิดปากไม่ได้ ทั้งรวดเร็วและได้ผลกว่า

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็ยื่นมือออกไปบีบคออันเรียวยาวของเฟิงอู๋โยวพลางพูดขึ้นเย็น “ไหนลองทวนคำพูดของข้าเมื่อครู่ใหม่สิ!”

เฟิงอู๋โยวยิ้มมุมปากกระตุก นางรู้จักนิสัยอันชั่วร้ายของจวินมั่วหรันเป็นอย่างดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นถึงขนาดนั้น

การกระทำของเขาในตอนนี้บีบบังคับให้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องยอมจำนน อารมณ์ทำนองว่า หากเขาผายลมแล้วจับคนๆ นั้นคลุมโปง คนๆ นั้นก็จำใจต้องพูดว่า “หอมจริง”

ฝ่ามือของจวินมั่วหรันค่อยๆ บีบแรงขึ้น น้ำเสียงเยือกเย็นดำดิ่งลงเรื่อยๆ “เฟิงอู๋โยว เจ้าทำเป็นหูทวนลมอย่างนั้นหรือ”

“ท่านใต้เท้าขอรับ ฝนตกหนักแบบนี้ กระหม่อมไม่ได้ยินว่าท่านพูดว่าอะไรขอรับ”

ม่านฝนกระหน่ำคั่นอยู่ระหว่างกลาง เฟิงอู๋โยวแสร้งทำเป็นใบ้ไม่ได้ยินและอาศัยม่านฝนที่ขวางกั้นถ่มน้ำลายฟุ้ดๆ ใส่เขา

“ไม่ได้ยิน?”

ขณะจวินมั่วหรันถามย้อนเฟิงอู๋โยว หางตาก็เหลือบไปมองจุยเฟิงกับซือมิ่งที่ยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝน

พวกเขารับรู้ถึงข้อความจากสายตาที่จวินมั่วหรันต้องการจะสื่อทันที ครั้นแล้วจึงส่ายหัวและพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ขอท่านใต้เท้าโปรดเมตตา! ฝนตกหนัก กระหม่อมได้ยินไม่ชัดรอรับ”

“อืม”

เมื่อจวินมั่วหรันได้ยินเช่นนี้ก็อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง จากนั้นก็เปลี่ยนไปคว้าคอเสื้อด้านหลังของเฟิงอู๋โยว ก่อนกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งทะยานเข้าเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

“ท่านใต้เท้า กระหม่อมกลัวความสูงขอรับ!”

เฟิงอู๋โยวนึกไม่ถึงว่าจวินมั่วหรันจะหิ้วร่างกายแนบเอวด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับกระโดดขึ้นมาสูงขนาดนี้ ทั้งยังพุ่งทวนกระแสสายฝนจนทะลุชั้นเมฆขึ้นมา นางตกใจจนใช้มือทั้งสองข้างกอดไปที่เอวของเขาพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

“เฟิงอู๋โยว เจ้าใช้วิชาตัวเบาไม่ได้อย่างนั้นหรือ”

“ท่านใต้เท้าโปรดระวังหน่อย ถ้าเกิดถูกฟ้าฝ่าขึ้นมา กระหม่อมจะทำเยี่ยงไร!”

“ถ้าเจ้ากลัวนักก็อย่าปล่อยมือออกจากข้า”

เฟิงอู๋โยวสาบแช่งโคตรตระกูลของจวินมั่วหรันจบไปแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับต้องปั้นหน้าเชื่อฟัง “ท่านใต้เท้าโปรดวางใจ กระหม่อมไม่มีทางปล่อยมือออกจากท่านแน่นอน! กระหม่อมขี้ขลาดแต่กำเนิด กลัวความมืด กลัวความสูง กลัวฟ้าผ่า แต่สิ่งที่กระหม่อมกลัวที่สุดก็คือการที่ต้องเสียท่านไป หากไม่มีท่าน ก็คงไม่มีกระหม่อม และกระหม่อมคงกลายเป็นเพียงดอกหญ้าข้างทางที่ไร้ซึ่งแม่พระเหลียวแล”

จวินมั่วหรันจนปัญญากับเจ้าสุนัขปากมากจอมปลิ้นปล้อนตัวนี้เหลือเกิน คำพูดของเขาไม่เข้าหูนางสักคำ

นางเปรียบตัวเองเป็นดอกหญ้าข้างทางไม่เท่าไหร่ แต่กลับกล้าเปรียบเขาเป็น “แม่พระ”!

“เฟิงอู๋โยว จงสำนึกผิดกับข้าเดี๋ยวนี้”

จวินมั่วหรันปั้นหน้าเคร่งขรึม ดวงตาดำสนิทเต็มไปด้วยแววนึกสนุก

นับวันเขาก็ยิ่งชอบเล่นสนุกกับความรู้สึกของเฟิงอู๋โยวขึ้นเรื่อยๆ ชอบเห็นนางแอบเผยโฉมหน้าที่แท้จริงตอนที่กำลังแยกเขี้ยวอยู่ภายในโฉมหน้าเชื่อฟังอันจอมปลอม และชอบความหัวแข็งดื้อรั้นและลูกบ้าของนางที่แสดงออกมาตอนที่ถูกเขาบีบบังคับให้จนมุม

“ท่านใต้เท้าเหาะเร็วเกินไปแล้วขอรับ กระหม่อมรู้สึกเวียนหัว”

เฟิงอู๋โยวหน้าซีดราวกับบังเกิดคลื่นสมุทรคลุ้มคลั่ง ซัดขึ้นในช่องท้อง

“สำนึกผิดมาเสีย”

จวินมั่วหรันเมินเฉยใส่คำพูดของเฟิงอู๋โยว น้ำเสียงเยือกเย็นเจือความเด็ดขาดที่ไม่อาจต่อต้านได้

“อ้วก…”

เฟิงอู๋โยวเวียนหัวหนักกระทั่งทนไม่ไหวและอาเจียนใส่หน้าอกของจวินมั่วหรันทันที

ภายในเสี้ยวพริบตา เสื้อผ้าสีเข้มของจวินมั่วหรันถูกชโลมไปด้วยของเหลวข้นหนืดกลิ่นเหม็นเปรี้ยว

เขามองเฟิงอู๋โยวที่กำลังอาเจียนราดหน้าอกตัวเองอย่างนิ่งอึ้ง ทั่วทั้งร่างพลันซาบซ่านไปด้วยไฟโทสะที่ปะทุขึ้นมาอย่างกะทันหัน

นางช่างกล้าดี เพียงเวลาแค่สองสามวันกลับกล้าอาเจียนรดเสื้อผ้าเขาถึงสองครั้ง!

“ขออภัยขอรับ กระหม่อมทนไม่ไหวจริงๆ”

ใบหน้าซีดเผือดของเฟิงอู๋โยวเงยขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

นางไม่คิดไม่ฝันว่า ตัวเองในฐานะทหารรับจ้างขั้นสูงที่มีประสบการณ์โชกโชนและเผชิญหน้ากับการต่อสู้มานับไม่ถ้วน ต้องมาสยบต่อวิชาตัวเบาของวิชายุทธ์สมัยโบราณเช่นนี้!

ความรู้สึกไร้น้ำหนักในแบบเท้าไม่แตะพื้น ผนวกกับความอันตรายในลักษณะที่แปลกใหม่ บีบบังคับให้นางต้องไขว้คว้าฟางช่วยชีวิตตรงหน้านี้เอาไว้ เป็นเหตุให้นางต้องอาเจียนออกไป

จวินมั่วหรันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือกเพื่อพยายามระงับความคิดที่อยากโยนนางทะลุเมฆลงไป แต่กระนั้นก็ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาและเคาะมะเหงกลงไปที่ศีรษะนางหนึ่งที

“ท่านใต้เท้าได้โปรดอย่าฆ่ากระหม่อมเลยนะขอรับ กระหม่อมกำลังตั้ง…ท้อง…”

เฟิงอู๋โยวคิดว่าจวินมั่วหรันอยากฆ่าปิดปากตัวนาง และก่อนที่จะหมดสติไป นางจึงพยายามเค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายพูดจาเพ้อเจ้ออออกไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *