เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 256 ปานดำ / 257 แต่งงานสานสัมพันธ์สองแคว้น

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 256 ปานดำ / 257 แต่งงานสานสัมพันธ์สองแคว้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 256 ปานดำ / ตอนที่ 257 แต่งงานสานสัมพันธ์สองแคว้น

ตอนที่ 256 ปานดำ

เมื่อหยุนเฟยไป๋ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นมาเป็นฟืนเป็นไป

ใบหน้าหงุดหงิดของเขาเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดเพราะความโกรธ ดวงตาสีม่วงเข้มคล้ายมีไฟโทสะปะทุขึ้น มุมขมับมีเส้นเลือดปูดโปน สภาพโดยรวมของเขาตอนนี้เหมือนราชสีห์ที่ถูกยั่วยุและพร้อมจะสติแตกทุกเมื่อ

เขาใช้สายตาที่ราวกับจ้องมองคนตายมองจวินฝูที่ตกอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่ได้สติ “แม่หญิงจวินฝู แม้ข้าวจะสามารถทานมั่วซั่วได้ แต่คำพูดจะพูดพล่อยๆ ไม่ได้ ทั้งที่ในยามปกติเจ้าเองก็อยู่ในตำหนักเดียวกับเซ่อเจิ้งหวาง ไฉนถึงได้โยนความผิดให้ข้าเยี่ยงนี้ หากไม่มีหลักฐาน แม่หญิงกับเซ่อเจิ้งหวางควรกลับตำหนักเพื่อเตรียมตัวกลับมาแสดงความสำนึกผิดกับข้า”

เฟิงอู๋โยวหันกลับมาถามจวินฝูเสียงต่ำ “ท่านหญิงเจ้าคะ ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าพ่อของเด็กในท้องคือรัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน”

จวินฝูพยักหน้าก่อนพูดอย่างมั่นใจ “ข้ามั่นใจ”

“โกหกทั้งเพ! นางผู้หญิงอย่างแกอย่ามาพูดจาหลักลอยเช่นนี้!”

หยุนเฟยไป๋ลุกขึ้นพรวด ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าสายตาผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาพุ่งเขาไปบีบคอจวินฝูให้ตายคามือไปตั้งนานแล้ว!

เมื่อเฟิงอู๋โยวเห็นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง

นางเหลือบไปมองจวินมั่วหรันที่ยังคงนั่งนิ่ง ก่อนขยับปากถามเขา “ถ้ายังเป็นห่วงชื่อเสียงของจวินฝูอยู่ ข้าจะหยุดถามทันที”

มุมปากของจวินมั่วหรันรั้งขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบกลับ “ทำต่อไป”

เมื่อได้รับการอนุญาตจากจวินมั่วหรัน เฟิงอู๋โยวจึงถามจวินฝูต่อ “ท่านหญิงพอจะอธิบายให้ฟังได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน”

จวินฝูที่ตกอยู่ในสภาพเหงื่อตก กระชับผ้าคลุมไหล่ที่หรงชุ่ยเอาเข้ามาคลุมให้ก่อนเริ่มเล่าออกมา “ก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าถูกท่านพี่ตำหนิอย่างหนัก ข้าจึงออกมาจากตำหนักเพราะอารมณ์เสียและน้อยใจท่านพี่ แต่บังเอิญเดินไปชนกับรัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน เมื่อเขารู้สถานะที่แท้จริงของข้าก็พาข้ากลับที่พำนักอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงและขืนใจข้า”

“เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

ดวงตาของเฟิงอู๋โยวสั่นไหว ก่อนหน้านี้นางคิดว่าจวินฝูสมยอมมอบร่างกายให้หยุนเฟยไป๋เพียงเพราะประโยชน์เบื้องหน้าเท่านั้น

แต่นึกไม่ถึงว่าหยุนเฟยไป๋จะไร้ความปราณีได้ถึงขนาดนี้ ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะข่มขืนน้องสาวของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินในรั้วบ้านแบบนี้

เนื่องจากฤทธิ์ของยากำหนัด ทำให้ใบหน้าซีดขาวของจวินฝูก่อนหน้านี้แดงก่ำเพราะเลือดสูบฉีดเกินอัตราจนเป็นเหตุให้ตอนนี้เริ่มมีเลือดออกจากจมูกและช่องหู

ดวงตาของนางหลุดการควบคุม มีเพียงริมฝีปากสีแดงที่ขยับ “ไม่เพียงเท่านี้ หยุนเฟยไป๋รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินยังมีรสนิยมที่แปลกประหลาด โหดร้ายรุนแรง กระทำกับข้าราวกับไม่ใช่มนุษย์ เพียงแค่หนึ่งชั่วยาม ข้าถูกทรมานจนไม่เหลือชิ้นดี แม่นมหวางเชิญแพทย์หลายคนมารักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ ให้ข้า หลังจากพักฟื้นหลายวัน ร่างกายของข้าก็เริ่มดีขึ้น”

เมื่อน้ำเสียงของจวินฝูสิ้นสุดลง บรรยากาศก็จมดิ่งลงสู่ความเงียบสงบทันที

ผู้คนในบริเวณนั้นต่างไม่คิดไม่ฝันว่าจวินฝูจะอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับหยุนเฟยไป๋ออกมาอย่างละเอียดขนาดนี้

คนที่ทนฟังไม่ได้ก็ได้แต่ยกชายเสื้อขึ้นมาบังใบหน้าอย่างเขินอาย แค่ได้ยินคำอธิบายของจวินฝูก็ทำเอาใบหน้าแดงยันหูแล้ว

ไม่พอ จวินฝูพูดเสริมขึ้นอีก “จริงด้วย หากทุกคนไม่เชื่อก็สอบตรวจสอบได้ เพราะบริเวณก้นของรัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินมีปานดำขนาดเท่านิ้วหัวแม่มืออยู่อย่างชัดเจนมาก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีเสียงขำหลุดดังขึ้นมาจากด้านล่างเวทีทันที

เฟิงอู๋โยวเลิกคิ้วหันไปถามหยุนเฟยไป๋ที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าอย่างยั่วยุ “หากฝ่าบาทมีประสงค์ยืนยันความบริสุทธิ์ใจก็ควรจะปลดเสื้อผ้าเพื่อให้ทุกคนได้เห็นกับตาไม่ดีกว่าหรือ”

“บังอาจ!”

หยุนเฟยไป๋ถลึงตาใส่เฟิงอู๋โยวพร้อมกับลั่นวาจาขึ้นในใจ หากมีโอกาส เขาจะต้องจับผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้ามาถลกทั้งเป็นให้ได้!

คิ้วทรงกระบี่ของจวินมั่วหรันขมวดแน่ ผู้หญิงของเขาจะถูกคนอื่นตวาดใส่ง่ายๆ แบบนี้ได้เยี่ยงไร

เขาชายตามองหยุนเฟยไป๋อย่างเยียดหยาม ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม “รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน ในเมื่อย้ำยีน้องสาวของข้าถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าต้องรับผิดรับ”

หยุนเฟยไป๋เถียงกลับทันที “เจ้ามีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าข้าแตะต้องนางผู้หญิงโสโครกพรรค์นั้น”

ตอนที่ 257 แต่งงานสานสัมพันธ์สองแคว้น

“จุยเฟิง นำหลักฐานเข้ามา”

ริมฝีปากเรียวบางของจวินมั่วหรันปริเอ่ย สีหน้าท่าทางของเขายังคงนิ่งสงบ

จุยเฟิงที่ได้ยินคำสั่งเช่นนั้นก็รีบพาตัวเด็กรับใช้ที่คอยทำความสะอาดที่พำนักของหยุนเฟยไป๋เข้ามาทันที

ในมือของเด็กรับใช้ถือผ้าปูเตียงที่พับอย่างเรียบร้อยแต่ยังคงเห็นรอบยับยู่ยี่อยู่

เขาก้มหน้าเอ่ยด้วยความเคารพ “ขอรายงานท่านใต้เท้าขอรับ ผ้าปูเตียงที่อยู่ในมือข้าน้อยผู้นี้เป็นผืนที่ข้าน้อยได้เปลี่ยนมาจากที่พำนักของรัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินในคืนวันนั้นขอรับ”

ในเวลาเดียวกัน เถี่ยโส่วก็จูงสุนัขนักล่าเข้ามาตัวหนึ่งเดินขึ้นไปบนเวที จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างเคร่งขรึม “ท่านใต้เท้าขอรับ นี่เป็นสุนัขนักล่าที่ถูกฝึกทักษะการดมกลิ่นมา เป็นสุนัขที่ทางศาลว่าการใช้ในการสืบหาตัวคนร้ายในคดีต่างๆ”

“จงพิสูจน์”

ทันทีที่จวินมั่วหรันลั่นคำสั่งออกไป เถี่ยโส่วก็จูงสุนัขเข้าไปดมกลิ่นผ้าปูที่นอนที่อยู่ในมือเด็กรับใช้ทันที

เพียงพริบตา สุนัขได้แยกแยะกลิ่นมนุษย์ที่ยังคงติดอยู่กับผ้าปูที่นอนได้ในบัดดล มันวิ่งเข้าไปเห่าใส่หยุนเฟยไป๋ไม่หยุด สลับกับวิ่งกลับมาเห่าใส่จวินฝู

ครั้นความจริงปรากฏ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำอันโหดร้ายทารุณและลามกจกเปรตของหยุนเฟยไป๋ก็ดังขึ้นระงม

“นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่ารัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินจะเป็นเดรัจฉานในคราบมนุษย์แบบนี้ หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ น่าขยะแขยงที่สุด!”

“นี่รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินกำลังเหยียดหยามแคว้นตงหลินของพวกเราอยู่กระนั้นหรือ”

“ตาข่ายสวรรค์ ห่างแต่ไม่รั่ว[1]! โชคดีที่สวรรค์มีตาและทวงคืนความบริสุทธิ์ในเซ่อเจิ้งหวางทันที!”

เมื่อหลักฐานมัดตัวขนาดนี้ อีกทั้งหยุนเฟยไป๋ก็รู้ดีว่าตัวเองอยู่ในแคว้นตงหลิน ต่อให้เขาจะหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอ้างแค่ไหนก็ไม่มีใครเชื่อเขาอยู่ดี

ในเมื่อทุกคำพูดตอนนี้ล้วนไร้ผล เขาจึงทำได้แต่เปลี่ยนท่าทีและพยายามกู้สีหน้าของตัวเองกลับมาเท่าที่ตัวเองพอจะทำได้

หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด เขาก็เริ่มพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าไม่เคยข่มขืนแม่หญิงจวินฝูตามที่นางกล่าวอ้าง ความจริงก็คือข้ากับจวินฝูต่างฝ่ายต่างมีความสุขร่วมกัน แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นถึงขั้นนี้แล้ว แม่หญิงจวินฝูตั้งครรภ์ เช่นนั้นวันหลังข้าจะกลับมาขอนางแต่งงาน”

“รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินจงจำเอาไว้ น้องสาวของข้าไม่มีวันเป็นเพียงนางบำเรอ”

มุมปากจวินมั่วหรันผุดแววยิ้มรำไร ดวงตาเฉียบคมไร้ความรู้สึกของเขามองใบหน้าอมเขียวอมแดงเพราะความโกรธของหยุนเฟยไป๋ น้ำเสียงของเขาเจือความหน่ายอารมณ์ ทว่าในคำพูดกลับแฝงไปด้วยแววน่าเกรงขามชนิดที่ไม่อาจมีใครขัดขืนได้

“แน่นอน!”

หยุนเฟยไป๋กัดฟันตอบรับ

จี้มั่วจื่อเฉินโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าครั้งนี้จวินมั่วหรันชะตาขาดแน่ๆ

แต่นึกไม่ถึงว่าฝ่ายที่เสียเปรียบกลับเป็นหยุนเฟยไป๋

ครั้นสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงมาได้ จี้มั่วจื่อเฉินก็กระโดดขึ้นไปบนเวที จากนั้นก็คว้าฆ้องที่มือของเฟิงอู๋โยวมาตีดังกังวานและทำตัวเป็นพิธีกรขึ้นมา “เรื่องที่เกิดขึ้นคงทำให้เหล่าสตรีมากความสามารถตื่นตระหนกน่าดู ดังนั้นข้าขอเป็นตัวแทนกล่าวขอโทษ ตอนนี้รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินยอมรับแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านหญิงจวินฝูเกิดจากความรู้สึกที่จริงใจ เช่นนั้นขอให้ทุกคนจงหยุดวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา และอวยพรให้พวกเขาทั้งสองมีความสุขในการแต่งงานสายสัมพันธ์สองแคว้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถัดจากนี้ต่อไป ขอให้เหล่าสาวงามทั้งหลายกลับเข้าไปด้านหลังเวที สงบจิตสงบใจเพื่อเตรียมตัวแสดงความสามารถต่อเถิด”

“ช้าก่อน! แต่ฤทธิ์ยากำหนัดที่ท่านหญิงจวินฝูโดนเข้าไปยังไม่ได้ถูกถอนไม่ใช่หรือ”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อในชุดคลุมยาวสีพื้น โดยชั้นนอกมีผ้าคลุมบางๆ ห่มทับอีกทีปรากฏตัวขึ้น

ดวงตาเยือกเย็นของเฟิงอู๋โยวจ้องเขม็งไปยังไป๋หลี่เหอเจ๋อ

เป่ยถางหลีอินเพียงเห็นไป๋หลี่เหอเจ๋อในมาดนิ่งสุขุมลุ่มลึกแวบแรกก็ถึงกับใจเต้นระรัวขึ้นมาทันที

นางยกมือขึ้นมากุมหัวใจที่สั่นระรัวของตัวเอง ตอนนี้นางกำลังจมลงสู่ภวังค์ความงดงามของไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างยากจะถอดถอน

จี้มั่วจื่อเฉินตระหนักได้ถึงแผนการปั่นประสาทของไป๋หลี่เหอเจ๋อได้ในทันที ครั้นจึงเอ่ยปากขึ้นอย่างไม่เป็นมิตร “เหตุใดท่านราชครูไป๋หลี่ไม่อยู่รักษาตัวให้หายดีก่อน ไฉนถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

[1]ตาข่ายสวรรค์ ห่างแต่ไม่รั่ว หมายถึงสวรรค์มีความยุติธรรม ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *