เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ 259 ให้ความร่วมมือ

Now you are reading เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ Chapter 259 ให้ความร่วมมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 259 ให้ความร่วมมือ

เป่ยถางหลีอินหน้าถอดสี

ความเครียดและตื่นกลัวพลันจู่จับขึ้นในหัว ทำเอาขาทั้งสองขาอ่อนระทวย ร่างกายของนางอ่อนแรงซวนเซคล้ายจะร่วงลงกองบนพื้น

ต่อมา เป่ยถางหลีอินก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นเสียงขรึม “เฟิงอู๋โยว เจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่ เป็นถึงแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นเป่ยหลี แต่กลับปลอมตัวเป็นชายมาหลายปี! หรือว่าเจ้าไม่กลัวเสด็จพ่อทราบเรื่องนี้จนโกรธฆ่าล้างบางเจ้าทั้งตระกูล”

เฟิงอู๋โยวแสยะยิ้ม ก่อนค่อยๆ พูดขึ้นอย่างไม่กลัว “จงดื่มชาแต่โดยดี แล้วเรื่องระหว่างพวกเราครั้งนี้ถือว่าหายกัน”

เป่ยถางหลีอินขมวดคิ้วแน่นพลางถามเสียงขรึม “เจ้าคิดว่าจะหายกันจริงๆ หรือ”

ดวงตาเฉี่ยวคมของเฟิงอู๋โยวจ้องมองเป่ยถางหลีอิน “บางที สิ่งที่เจ้าพยายามทุ่มเทปกป้องและรักษามันมาตลอดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการก็เป็นได้”

อันที่จริง เฟิงอู๋โยวไม่สนใจสถานะที่แท้จริงของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

เพราะนางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมอีกต่อไป ดังนั้นพ่อของนางจะเป็นใครล้วนไม่สำคัญทั้งสิ้น

อีกอย่าง คนหัวอ่อนของเป่ยถางหลงถิงเคยทำร้ายนางมาก่อน ถ้าจวินมั่วหรันไม่เข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลา นางคงตายคามือเป่ยถางหลงถิงไปตั้งนานแล้ว

พ่อเส็งเคร็งพรรค์ ใครจะอยากมี

ให้ตายเป่ยถางหลีอินก็นึกไม่ออกว่าไฉนเฟิงอู๋โยวถึงยอมสละตำแหน่งองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหลีไปอย่างง่ายดายเช่นนี้

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เป่ยถางหลีอินก็ปริปากถามหยั่งเชิง “ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้เยี่ยงไร”

“เป่ยถางหลีอิน เจ้าคิดว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้จริงๆ กระนั้นหรือ เจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าใช้วิชาสะกดจิตกับจวินฝูจนคลายความจริงที่ไม่ควรพูดออกมาอย่างควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ขืนเจ้ายังดันทุรังมีปัญหากับข้าต่อไปแบบนี้ จะให้ ข้าสะกดจิตเจ้าต่อหน้าเป่ยถางหลงถิงก็ย่อมได้”

เมื่อพูดถึงเป่ยถางหลงถิง เป่ยถางหลีอินก็ถึงกับลนลานจนเกือบอาการไม่อยู่

นางกลัวว่าหากเป่ยถางหลงถิงรู้ความจริงเข้า นางจะถูกปลดออกจากตำแหน่งองค์หญิงและยึดทุกอย่างของนางไปจนหมด ทั้งสถานะ ตำแหน่ง อำนาจ หรือแม้แต่…สิทธิ์ในการเลือกคู่ครอง

“ข้าจะดื่ม!”

แม้เป่ยถางหลีอินรู้ดีว่าในถ้วยชานั้นมียาปลุกกำหนัดอยู่ แม้รู้ดีว่าเฟิงอู๋โยวอาจไม่ยอมปล่อยนางไปง่ายๆ เช่นนี้ แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว มีแต่ต้องจำใจทำตามเท่านั้น

เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้ม “เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ยังจะลีลาอยู่อีก”

เป่ยถางหลีอินน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างสุดจะทน “เฟิงอู๋โยว ข้ายอมทำตามเงื่อนไขของเจ้าแล้ว รบกวนเจ้ารักษาคำพูดด้วย ห้ามเปิดเผย สถานะตัวเองต่อหน้าเสด็จพ่อเด็ดขาด”

“ย่อมเป็นไปตามนั้น” เฟิงอู๋โยวรับปาก นางไม่คิดอยากจะสานสัมพันธ์กับพ่อที่แท้จริงแต่อย่างใดและไม่รู้สึกว่าตำแหน่งองค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหลีน่าเย้ายวนใจ

“ขอให้เจ้าจงจำสัญญาในวันนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ” เป่ยถางหลีอินพูดเตือนเฟิงอู๋โยวอย่างไม่ค่อยวางใจเท่าไร

เฟิงอู๋โยวขี้เกียจจะพูดกับนางต่อและควักจี้หยกสำหรับสะกดจิตออกมาทันที

ตอนนี้ นางไม่มีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเป่ยถางหลงถิง

อีกอย่าง นางเพิ่งจะได้รับตำแหน่งแม้ทัพผู้บัญชาการสูงสุดในแคว้นตงหลินมาหยกๆ หากทุกคนที่นี่รู้ว่านางเป็นสตรีขึ้นมา เกรงว่าคงทำให้บ้านเมืองแตกตื่นได้ไม่น้อย

แคว้นตงหลินไม่เหมือนกับแคว้นซีเยว่ จากประวัติศาสตร์ทางการทางเมืองที่ผ่านมาไม่เคยมีสตรีได้ขึ้นเป็นแม่ทัพมาก่อนและนางก็ไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้จวินมั่วหรันไปมากกว่านี้

คิดๆ ดูแล้ว เฟิงอู๋โยวคิดว่าจะประคองสถานการณ์ให้เป็นไปเช่นนี้สักระยะน่าจะดีที่สุด

ครั้นไป๋หลี่เหอเจ๋อเห็นเฟิงอู๋โยวทำท่าจะสะกดจิตเป่ยถางหลีอิน ก็รีบควักขลุ่ยหยกโปรยบุหงาออกมาและเป่าบรรเลงเรียกสติเป่ยถางหลีอินในบัดดล

“ชอบการแสดง ชอบมีบทบาทแบบนี้ ไฉนเจ้าไม่ไปเป็นนายบำเรอที่หอนางโลม”

เฟิงอู๋โยวหันขวับกลับมามองค้อนใส่ไป๋หลี่เหอเจ๋อ นางอยากจะจับเขาฉีกกระชากให้ละเอียดเป็นชิ้นๆ ให้สิ้นซาก

เมื่อเห็นนางทำท่าทีขึงขังใส่ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที

ไม่ว่าจะญาติดีด้วยหรือไม่ ขอเพียงเฟิงอู๋โยวหันมาจนใจเขาสักเล็กน้อย ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ยินดีน้อมรับไว้หมด

ครั้นเป่ยถางหลีอินตระหนักได้ว่าตัวเองเกือบถูกเฟิงอู๋โยวสะกดจิตใส่ก็รีบยกมือขึ้นมากุมหน้าอกอย่างหวั่นใจ แม้จะไม่พอใจแค่ไหนกไม่อาจพูดได้

ครั้งนี้นางต้องหลีกเลี่ยงการสะกดจิตของเฟิงอู๋โยวให้ได้ ครั้นแล้วจึงรีบหลับตาลง และไม่ลืมตาขึ้นอีก

เฟิงอู๋โยวเห็นเป่ยถางหลีอินหลับตาปี๋ ขาสองข้างงสั่นผับ ก็น้อมตัวไปข้างหน้า ในหัวพลันคิดว่าอยากใช้นิ้วง้างเปลือกตาของนางให้เปิดออก

แต่ภายใต้สายตาของผู้คนที่จ้องมองมา นางไม่สามารถทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ได้

หลังจากนิ่งเงียบลงไปพักหนึ่ง นางจึงหันกลับไปจ้องไป๋หลี่เหอเจ๋ออีกครั้ง “กำลังจะหาเรื่องข้า?”

“ใช่”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบกลับไปตรงๆ

“รอดูเถอะ!”

เฟิงอู๋โยวกัดฟันกรอด จากนั้นก็อาศัยจังหวะที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ทันตั้งตัวแกว่งจี้หยกสะกดจิตเขาอย่างง่ายดาย

ตอนนี้ ไป๋หลี่เหอเจ๋อประหนึ่งเหมือนรูปปั้นหินแกะสลักก็ไม่ปาน เขายืนแข็งทื่ออยู่ด้านหน้านางโดยไม่พูดอะไรขึ้นสักคำ ดวงตาของเขาดูล่องลอยและว่างเปล่า

เมื่อเห็นเช่นนั้น เฟิงอู๋โยวจึงไอกระแอมขึ้นมา ก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ และถามขึ้นเสียงดังฟังชัด “ท่านราชครูไป๋หลี่ ไม่ทราบว่าท่านมีส่วนรู้เห็นเรื่องที่องค์หญิงหลีอินวางยาท่านหญิงจวินฝูหรือไม่”

“รู้ เรื่องนี้เป็นฝีมือของข้าเอง เป็นข้าเองที่ส่งกระดาษข้อความให้องค์หญิงเป่ยถางหลีอิน เพื่อหวังให้นางทำตามที่ข้าบอก โดยการสับเปลี่ยนถ้วยชาที่มียาปลุกกำหนัดผสมอยู่ให้ท่านหญิงจวินฝู”

เมื่อไป๋หลี่เหอเจ๋อพูดเช่นนี้ออกไปก็บังเกิดเสียงฮือฮาแตกตื่นขึ้นด้านล่างเวทีทันที

เฟิงอู๋โยวเค้นถามต่ออย่างอยากรู้อยากเห็น “เหตุใดจึงทำเช่นนี้”

ไป๋หลี่เหอเจ๋อนิ่งเงียบลงไปพักหนึ่งจากนั้นก็มองมายังเฟิงอู๋โยว “ทั้งหมดก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือยอมรับหรือไม่ แต่ข้าอยากได้เจ้าเป็นสตรีของข้า ไม่ว่าใครก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนความรู้สึกนี้ของข้าได้ทั้งนั้น”

สิ่งที่เฟิงอู๋โยวไม่อยากได้ยินมากที่สุดตอนนี้คือ นางกลัวว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อจะหยิบยกเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูดอีกครั้ง ทันใดนั้น แววเย็นก็ฉายวาบขึ้นมาในดวงตาของนางทันที เป็นไปได้ นางอยากจะฆ่าไป๋หลี่เหอเจ๋อให้ตายๆ ไปให้รู้แล้วรู้รอด

แม้ตอนนี้นางจะใส่ผ้าคลุมหน้าอยู่ ทำให้ผู้คนไม่รู้ว่านางคือใครก็ตาม

แต่คำพูดของไป๋หลี่เหอเจ๋อพวกนี้ก็ยังคงทำให้นางรู้สึกอึดอัดอยู่ดี

เมื่อเห็นเช่นนั้น จวินมั่วหรันก็ลุกขึ้นพรวดและก้าวขึ้นไปบนเวที ก่อนคว้าเอวเฟิงอู๋โยวเข้ามากอด “ยืนมาตั้งนาน คงเมื่อยน่าดูสินะ”

เฟิงอู๋โยวพยักหน้าเอ่ยเสียงแผ่ว “ไป๋หลี่เหอเจ๋อเป็นพวกโรคจิตจริงๆ”

“อย่าเก็บคำพูดของพวกโรคจิตมาใส่ใจ”

จวินมั่วหรันแอบถอนหายใจหลังจากเห็นเฟิงอู๋โยวดูหดหู่ใจ

เขาไม่รู้ว่านางจะสามารถก้ามข้ามออกมาจากปมเรื่องไป๋หลี่เหอเจ๋อ

เขาแค่อยากจะบอกนางว่าเขาไม่สนใจในเรือนร่างที่ ‘ไม่สมบูรณ์แบบ’ ของนางแม้แต่น้อย เขาแค่รู้สึกปวดร้าวหัวใจทุกครั้งที่เห็นนางทนทรมานกับปมเรื่องนี้และรู้สึกผิดกับตัวเองที่ปกป้องนางไม่ดีพอ

ความขมขื่นเอ่อล้นขึ้นมาในใจของไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่หยุด

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าการที่ตัวเองสารภาพความผิดของตัวเองต่อหน้าทุกคนแบบนี้จะนำมาซึ่งโอกาสครั้งใหม่ที่เฟิงอู๋โยวมอบให้

แต่น่าเสียดายที่เฟิงอู๋โยวกลับมองเขาเหมือนหนอนสกปรกที่แทบไม่อยากชายตามองแม้แต่น้อย

อันที่จริง ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ได้ถูกเฟิงอู๋โยวสะกดจิตแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นเพราะเขาต้องการให้ความร่วมมือกับเฟิงอู๋โยวแต่โดยดี

และเขาก็ให้ความร่วมมือกับนางทำนองนี้มาตลอด ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้ ตอนนี้หรือหลังจากนี้ เขายินดีที่จะให้ความร่วมมือกับนางเท่าที่จะทำได้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *