LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 16.1

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 16.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

.

เช้าวันจันทร์

ยูมะยังคงมารับยุยหน้าบ้านตามปกติ ทว่าวันนี้เขารู้สึกขามันหนักชอบกล

(ต่อจากนี้เป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ)

คำๆนี้ยังคงก้องในหัวยูมะสลัดไม่หาย

(ปากบอกยุยไปแล้วว่า อืม ก็ต้องทำให้ได้ตามปากว่าสิวะ จะคิดกับเธอในทางน้องสาว หรือเพื่อนคนสำคัญ มันต้องกล่อมตัวเองให้เชื่อสักทีสิ)

ยูมะพยายามคิดอย่างนี้ในหัว แต่หัวใจมันไม่ยอมรับคำสั่ง  ไอ้การโดนบอกปัดทั้งที่ยังไม่ทันสารภาพรักเต็มตัวด้วยซ้ำดูจะสร้างบอบช้ำทางใจให้ยูมะไม่น้อย แต่มันก็ต้องหาทางคบแบบเพื่อนให้ได้เแหละ

ในทีสุดยูมะก็ลากร่างกายที่ล้ามาถึงหน้าบ้านยุย กดกริ่งเรียก 

ปกติเมื่อได้ยินเสียงกริ่ง เธอจะเปิดประตูบ้านมาหาเขา แต่ครั้งนี้พฤติกรรมเธอเปลี่ยนไป

“หือ?”

ยุยโผล่หน้าหลังประตูมาให้เห็นแค่ครึ่งเดียว ท่าทางเหมือนกำลังสังเกตยูมะ

“อรุณสวัสดิ์….”

“อรุณสวัสดิ์ครับ เป็นอะไรไปเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

เธอกล่าวจบ เดินเตาะแตะๆเข้ามาคล้องแขนเหมือนเดิม  แต่ไม่รู้ทำไม ยูมะรู้สึกว่า เหมือนเธออยากจะอ้อนเขามากกว่าปกติ  จมูกสูดได้กลิ่นหอมของดอกไม้

“….ฉีดน้ำหอมด้วยเหรอ”

“อืม ลองยืมเฮอเมสของแม่มาลองใช้ดู…คิดยังไงบ้างเหรอ”

ยุยกล่าวจบ เอามือสางผมตัวเอง เขยิบเข้ามาใกล้ยูมะมากกว่าเก่า

ปกติตัวยุยก็มีกลิ่นหอมน้ำนมอ่อนๆอยู่แล้ว พอเจอกลิ่นหอมจากดอกไม้ของน้ำหอมผสมเข้าไปด้วย จึงเกิดกลิ่นที่หอมหวานไม่เหมือนใคร

“ก..กลิ่นเป็นไงบ้าง? ชั้นชอบกลิ่นนี้เลยลองฉีดดู..”

“เอ่อ..อืม..ก็หอมดีนะครับ”

“แหะแหะ ขอบคุณนะ”

ยุยเผยท่าทีขวยเขิน

“ไปโรงเรียนเลยมั้ย”

“อืม”

ทั้งคุ่เดินไปโรงเรียนตามปกติ แต่ครั้งนี้ยูมะรู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นหนักกว่าเก่า

เอาจริงๆตัวยูมะไม่ได้ชอบกลิ่นน้ำหอม  เขาแปลกใจมานานว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องฉีดของพรรค์นี้ด้วย

แต่ว่า..พอเป็นตอนนี้ที่เดินเคียงข้างกัน ยูมะกระจ่างแจ้งแล้วว่า หากเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกับกลิ่นตัวคนที่เราชอบ มันมีเสน่บางอย่างจนไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่ชอบมัน และยูมะรู้สึกว่า กลิ่นน้ำหอมช่วยขับเสน่ยุยมากกว่าปกติ

“…นี่..ยูมะ”

ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ ยุยส่งเสียงเรียกเขา

“หือ? มีอะไรเหรอ?”

“..อยาก..จับมือเธอ”

ยิ่งฟัง ยูมะยิ่งใจเต้นหนักกว่าเก่า

ปกติไอ้การเดินจับมือก็ทำมาหลายต่อหลายครั้ง  แต่ทุกครั้ง คนที่ชวนหรือเป็นฝ่ายเริ่มก่อนคือยูมะ พอยุยเป็นฝ่ายชวนก่อน ยูมะถึงขั้นชะงักกึกพูดอะไรไม่ออก

“…ไม่ได้เหรอ?”

“เปล่า จับได้สิ เอ้อ…มีเรื่องอะไรรึเปล่า  ไม่สิ คือเรื่องเธอฉีดน้ำหอมหรือเป็นฝ่ายขอจับมือก่อน มันแปลกดี”

“..ความลับค่ะ”

“ความลับซะงั้น”

ยิ่งฟังคำพูดยุย ยูมะยิ่งมั่นใจว่ามีเบื้องหลังแน่

ปกติทุกครั้งที่ยุยอ้อนยูมะ แม้จะเต็มไปด้วยความหวาน แต่ลึกๆยูมะรู้ว่ายุยแฝงความรู้สึกกังวลเล็กๆข้างใจ

แต่ครั้งนี้มันผิดกับครั้งที่ผ่านๆมา 

พอยื่นมือหายุยปุ๊บ ยุยเป็นฝ่ายลงมือเกี่ยวนิ้วยูมะจับมือเขาในท่าคู่รักทันที 

โอ้ย อะไรเนี่ย กุใจเต้นรัวแล้ว ทั้งหวานทั้งสงสัยนี่แหละ

ยุยจับมืออยู่ชิดเขามากกว่าที่แล้วมา 

เมื่อก่อนตอนเขาไปค้างบ้านยุย ก็ได้นอนเตียงเดียวกัน กอดเธอปลอบบนเตียง แต่ครั้งนั้นต้องยอรับว่าเขาก็อดทนอดกลั้นความ18+ไม่ใช่น้อย

 แต่ครั้งนี้มันแปลกตรงที่แค่จับมือ ดูความตื่นเต้นกับความหวานจะห่างไกลจากบนเตียงด้วยกัน แต่ความฟุ้งซ่านดันเริ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าตอนอยู่บนเตียงซะอีก

ทางด้านยุย ตอนนี้เห็นชัดเจนว่าเขินหนักมาก หน้าแดงไปถึงใบหู แต่ว่าก็ไม่ยอมปล่อยมือยูมะ

(จะบอกว่าเธอตกหลุมรักเรารึเปล่านะ)  

ดูจากสถานการณ์มันก็ชวนจิ้นได้แหละ แต่ไอ้ที่จิ้นไม่ออกเพราะเธอเพิ่งบอกเขาว่าให้เป็นเพื่อนกันตลอดไป สรุปยังไงกันแน่วะ

ยิ่งตอนนี้ เอาตรงๆ หัวไม่แล่นแล้วโว้ย เดินจับมือครั้งนี้มันเขินจัดจนเรียงลำดับความคิดไม่ถูก แต่ที่รู้แน่ๆ ไอ้การเดินกุมมือนุ่มๆของยุยเดินไปเรียนด้วยกันมันช่างสุขเหลือเกิน

ทั้งคู่เดินจูงมือไปด้วยกันจนถึงสถานีรถไฟ

***

พอถึงรถไฟ พวกเขาก็ปล่อยมือเดินข้างกันเฉยๆ เพราะอายสายตาคนรอบข้าง แถมเธอก็เขินจัดจนไม่พูดอะไรกับยูมะสักคำ

จะว่าไปยูมะก็แปลกใจนิดๆว่า ตลอดช่วงพักระหว่างคาบเรียนแ ยุยแชทคุยกัยอาสึกะตลอด

ปกติเวลาหมดคาบเรียน ยุยจะเป็นคนรอคุยกับยูมะ คุยเรื่องเกม อนิเม  ทว่าวันนี้ยุยแชทคุยกับอาสึกะล้วนๆ

และที่แน่ๆ ยูมะมั่นใจว่า อาสึกะต้องรู้ความนัยบางอย่าง เพราะเธอส่งสายตาล้อเลียนเขา แต่ไม่พูดอะไรสักคำ

ไอ้การที่ยุยมีเพื่่อนเพิ่มขึ้นมา ใจหนึ่งก็รู้สึกดี แต่ตอนนี้ดันเกิดรู้สึกเหงาขึ้นมาซะงั้น

***

และแล้วก็ถึงเวลาพักกลางวัน

ปกติจะตั้งโต๊ะรวมกันสี่คนคุยและกินข้าวด้วยกัน แต่วันนี้อาสึกะเสนอว่า

“นี่ๆ วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวที่ดาดฟ้ามั้ย”

ปกติโรงเรียนอื่นมักจะปิดดาดฟ้า แต่โรงเรียนนี้พิเศษกว่าคือเปิดให้นักเรียนขึ้นไปได้ แถมมีตู้ขายน้ำกับจัดพื้นที่ให้นักเรียนไปนั่งได้ด้วย

“อืม วันนี้อากาศอุ่นดีด้วย คิดว่าไงล่ะ”

“ชั้นไม่มีปัญหาหรอก ต้องถามนาโกะกับยุยแล้ว”

“ผมไม่มีปัญหาครับ”

“ชั้นก็เหมือนกัน”

“ถ้างั้นชั้นล่วงหน้าไปก่อนละกัน ว่าจะไปซื้อขนมปังทานกลางวันนี่แหละ”

ยูมะพุดจบเตรียมลุกออกไปซื้อขนปัง ทว่าโดนยุยดึงเสื้อเขาไว้ไม่ให้ไป

“หือ? มีอะไรรึเปล่า”

“เอ่อ…คือว่า…”

ยุยปากพะงึมพะงำ สายตาหันซ้ายขวา

“ยุย?”

“เอ่อ..เอ่อ… คือว่า..กินนี่สิ”

ยุยเปิดกระเป๋าตัวเอง หยิบกล่องข้าวส่งให้ยูมะ

“อันนี้ของยูมะน่ะ”

“หา?”

“ยูมะปกติทานแต่ขนมปัง ชั้นเลยทำข้าวกล่องมาให้ ถ้าไม่รังเกียจ เชิญทานได้นะ…”

ยูมะยังงงๆอยู่ แต่ก็รับข้าวกล่องยุยแต่โดยดี

“คือว่า..ข้าวกล่องนี้แทนคำขอบคุณที่คอยช่วยเหลือชั้นมาตลอด หากเธอทานหมด ชั้นจะดีใจมากๆเลย”

“เอ่อ..ขอบคุณมาก งั้นขอทานนะครับ”

โว้วววว ฟีลลิ่งสาวคนรักทำข้าวกล่องมาให้ทาน มันเป็นแบบนี้นี่เอง มีความอายและความดีใจพร้อมความสุขปะปนอยู่ข้างใน  ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นเล่นเอายูมะตัวแข็งทื่อเลย

 

***

จบ CH16-1

ทีเดียวปิดจ๊อบ ไม่เน้นดราม่านาน หลังจากนี้ก็หวานปนฮาแบบอิ่มๆยาวๆจนจบครับ 

ตอนหน้าต้าวยุยของเราจะเริ่มรุกแบบเต็มสูบยิ่งกว่านี้ อ่านแล้วจั๊กจี้หัวใจแน่นอน

 

ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 16.1

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 16.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

.

เช้าวันจันทร์

ยูมะยังคงมารับยุยหน้าบ้านตามปกติ ทว่าวันนี้เขารู้สึกขามันหนักชอบกล

(ต่อจากนี้เป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ)

คำๆนี้ยังคงก้องในหัวยูมะสลัดไม่หาย

(ปากบอกยุยไปแล้วว่า อืม ก็ต้องทำให้ได้ตามปากว่าสิวะ จะคิดกับเธอในทางน้องสาว หรือเพื่อนคนสำคัญ มันต้องกล่อมตัวเองให้เชื่อสักทีสิ)

ยูมะพยายามคิดอย่างนี้ในหัว แต่หัวใจมันไม่ยอมรับคำสั่ง  ไอ้การโดนบอกปัดทั้งที่ยังไม่ทันสารภาพรักเต็มตัวด้วยซ้ำดูจะสร้างบอบช้ำทางใจให้ยูมะไม่น้อย แต่มันก็ต้องหาทางคบแบบเพื่อนให้ได้เแหละ

ในทีสุดยูมะก็ลากร่างกายที่ล้ามาถึงหน้าบ้านยุย กดกริ่งเรียก 

ปกติเมื่อได้ยินเสียงกริ่ง เธอจะเปิดประตูบ้านมาหาเขา แต่ครั้งนี้พฤติกรรมเธอเปลี่ยนไป

“หือ?”

ยุยโผล่หน้าหลังประตูมาให้เห็นแค่ครึ่งเดียว ท่าทางเหมือนกำลังสังเกตยูมะ

“อรุณสวัสดิ์….”

“อรุณสวัสดิ์ครับ เป็นอะไรไปเหรอ”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

เธอกล่าวจบ เดินเตาะแตะๆเข้ามาคล้องแขนเหมือนเดิม  แต่ไม่รู้ทำไม ยูมะรู้สึกว่า เหมือนเธออยากจะอ้อนเขามากกว่าปกติ  จมูกสูดได้กลิ่นหอมของดอกไม้

“….ฉีดน้ำหอมด้วยเหรอ”

“อืม ลองยืมเฮอเมสของแม่มาลองใช้ดู…คิดยังไงบ้างเหรอ”

ยุยกล่าวจบ เอามือสางผมตัวเอง เขยิบเข้ามาใกล้ยูมะมากกว่าเก่า

ปกติตัวยุยก็มีกลิ่นหอมน้ำนมอ่อนๆอยู่แล้ว พอเจอกลิ่นหอมจากดอกไม้ของน้ำหอมผสมเข้าไปด้วย จึงเกิดกลิ่นที่หอมหวานไม่เหมือนใคร

“ก..กลิ่นเป็นไงบ้าง? ชั้นชอบกลิ่นนี้เลยลองฉีดดู..”

“เอ่อ..อืม..ก็หอมดีนะครับ”

“แหะแหะ ขอบคุณนะ”

ยุยเผยท่าทีขวยเขิน

“ไปโรงเรียนเลยมั้ย”

“อืม”

ทั้งคุ่เดินไปโรงเรียนตามปกติ แต่ครั้งนี้ยูมะรู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นหนักกว่าเก่า

เอาจริงๆตัวยูมะไม่ได้ชอบกลิ่นน้ำหอม  เขาแปลกใจมานานว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องฉีดของพรรค์นี้ด้วย

แต่ว่า..พอเป็นตอนนี้ที่เดินเคียงข้างกัน ยูมะกระจ่างแจ้งแล้วว่า หากเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกับกลิ่นตัวคนที่เราชอบ มันมีเสน่บางอย่างจนไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่ชอบมัน และยูมะรู้สึกว่า กลิ่นน้ำหอมช่วยขับเสน่ยุยมากกว่าปกติ

“…นี่..ยูมะ”

ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ ยุยส่งเสียงเรียกเขา

“หือ? มีอะไรเหรอ?”

“..อยาก..จับมือเธอ”

ยิ่งฟัง ยูมะยิ่งใจเต้นหนักกว่าเก่า

ปกติไอ้การเดินจับมือก็ทำมาหลายต่อหลายครั้ง  แต่ทุกครั้ง คนที่ชวนหรือเป็นฝ่ายเริ่มก่อนคือยูมะ พอยุยเป็นฝ่ายชวนก่อน ยูมะถึงขั้นชะงักกึกพูดอะไรไม่ออก

“…ไม่ได้เหรอ?”

“เปล่า จับได้สิ เอ้อ…มีเรื่องอะไรรึเปล่า  ไม่สิ คือเรื่องเธอฉีดน้ำหอมหรือเป็นฝ่ายขอจับมือก่อน มันแปลกดี”

“..ความลับค่ะ”

“ความลับซะงั้น”

ยิ่งฟังคำพูดยุย ยูมะยิ่งมั่นใจว่ามีเบื้องหลังแน่

ปกติทุกครั้งที่ยุยอ้อนยูมะ แม้จะเต็มไปด้วยความหวาน แต่ลึกๆยูมะรู้ว่ายุยแฝงความรู้สึกกังวลเล็กๆข้างใจ

แต่ครั้งนี้มันผิดกับครั้งที่ผ่านๆมา 

พอยื่นมือหายุยปุ๊บ ยุยเป็นฝ่ายลงมือเกี่ยวนิ้วยูมะจับมือเขาในท่าคู่รักทันที 

โอ้ย อะไรเนี่ย กุใจเต้นรัวแล้ว ทั้งหวานทั้งสงสัยนี่แหละ

ยุยจับมืออยู่ชิดเขามากกว่าที่แล้วมา 

เมื่อก่อนตอนเขาไปค้างบ้านยุย ก็ได้นอนเตียงเดียวกัน กอดเธอปลอบบนเตียง แต่ครั้งนั้นต้องยอรับว่าเขาก็อดทนอดกลั้นความ18+ไม่ใช่น้อย

 แต่ครั้งนี้มันแปลกตรงที่แค่จับมือ ดูความตื่นเต้นกับความหวานจะห่างไกลจากบนเตียงด้วยกัน แต่ความฟุ้งซ่านดันเริ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าตอนอยู่บนเตียงซะอีก

ทางด้านยุย ตอนนี้เห็นชัดเจนว่าเขินหนักมาก หน้าแดงไปถึงใบหู แต่ว่าก็ไม่ยอมปล่อยมือยูมะ

(จะบอกว่าเธอตกหลุมรักเรารึเปล่านะ)  

ดูจากสถานการณ์มันก็ชวนจิ้นได้แหละ แต่ไอ้ที่จิ้นไม่ออกเพราะเธอเพิ่งบอกเขาว่าให้เป็นเพื่อนกันตลอดไป สรุปยังไงกันแน่วะ

ยิ่งตอนนี้ เอาตรงๆ หัวไม่แล่นแล้วโว้ย เดินจับมือครั้งนี้มันเขินจัดจนเรียงลำดับความคิดไม่ถูก แต่ที่รู้แน่ๆ ไอ้การเดินกุมมือนุ่มๆของยุยเดินไปเรียนด้วยกันมันช่างสุขเหลือเกิน

ทั้งคู่เดินจูงมือไปด้วยกันจนถึงสถานีรถไฟ

***

พอถึงรถไฟ พวกเขาก็ปล่อยมือเดินข้างกันเฉยๆ เพราะอายสายตาคนรอบข้าง แถมเธอก็เขินจัดจนไม่พูดอะไรกับยูมะสักคำ

จะว่าไปยูมะก็แปลกใจนิดๆว่า ตลอดช่วงพักระหว่างคาบเรียนแ ยุยแชทคุยกัยอาสึกะตลอด

ปกติเวลาหมดคาบเรียน ยุยจะเป็นคนรอคุยกับยูมะ คุยเรื่องเกม อนิเม  ทว่าวันนี้ยุยแชทคุยกับอาสึกะล้วนๆ

และที่แน่ๆ ยูมะมั่นใจว่า อาสึกะต้องรู้ความนัยบางอย่าง เพราะเธอส่งสายตาล้อเลียนเขา แต่ไม่พูดอะไรสักคำ

ไอ้การที่ยุยมีเพื่่อนเพิ่มขึ้นมา ใจหนึ่งก็รู้สึกดี แต่ตอนนี้ดันเกิดรู้สึกเหงาขึ้นมาซะงั้น

***

และแล้วก็ถึงเวลาพักกลางวัน

ปกติจะตั้งโต๊ะรวมกันสี่คนคุยและกินข้าวด้วยกัน แต่วันนี้อาสึกะเสนอว่า

“นี่ๆ วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวที่ดาดฟ้ามั้ย”

ปกติโรงเรียนอื่นมักจะปิดดาดฟ้า แต่โรงเรียนนี้พิเศษกว่าคือเปิดให้นักเรียนขึ้นไปได้ แถมมีตู้ขายน้ำกับจัดพื้นที่ให้นักเรียนไปนั่งได้ด้วย

“อืม วันนี้อากาศอุ่นดีด้วย คิดว่าไงล่ะ”

“ชั้นไม่มีปัญหาหรอก ต้องถามนาโกะกับยุยแล้ว”

“ผมไม่มีปัญหาครับ”

“ชั้นก็เหมือนกัน”

“ถ้างั้นชั้นล่วงหน้าไปก่อนละกัน ว่าจะไปซื้อขนมปังทานกลางวันนี่แหละ”

ยูมะพุดจบเตรียมลุกออกไปซื้อขนปัง ทว่าโดนยุยดึงเสื้อเขาไว้ไม่ให้ไป

“หือ? มีอะไรรึเปล่า”

“เอ่อ…คือว่า…”

ยุยปากพะงึมพะงำ สายตาหันซ้ายขวา

“ยุย?”

“เอ่อ..เอ่อ… คือว่า..กินนี่สิ”

ยุยเปิดกระเป๋าตัวเอง หยิบกล่องข้าวส่งให้ยูมะ

“อันนี้ของยูมะน่ะ”

“หา?”

“ยูมะปกติทานแต่ขนมปัง ชั้นเลยทำข้าวกล่องมาให้ ถ้าไม่รังเกียจ เชิญทานได้นะ…”

ยูมะยังงงๆอยู่ แต่ก็รับข้าวกล่องยุยแต่โดยดี

“คือว่า..ข้าวกล่องนี้แทนคำขอบคุณที่คอยช่วยเหลือชั้นมาตลอด หากเธอทานหมด ชั้นจะดีใจมากๆเลย”

“เอ่อ..ขอบคุณมาก งั้นขอทานนะครับ”

โว้วววว ฟีลลิ่งสาวคนรักทำข้าวกล่องมาให้ทาน มันเป็นแบบนี้นี่เอง มีความอายและความดีใจพร้อมความสุขปะปนอยู่ข้างใน  ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นเล่นเอายูมะตัวแข็งทื่อเลย

 

***

จบ CH16-1

ทีเดียวปิดจ๊อบ ไม่เน้นดราม่านาน หลังจากนี้ก็หวานปนฮาแบบอิ่มๆยาวๆจนจบครับ 

ตอนหน้าต้าวยุยของเราจะเริ่มรุกแบบเต็มสูบยิ่งกว่านี้ อ่านแล้วจั๊กจี้หัวใจแน่นอน

 

ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+