LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 9.3: ค้างคืนและฟ้าผ่า

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 9.3: ค้างคืนและฟ้าผ่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนช่วยกันเก็บกวาดล้างจาน

ปกติการทำงานบ้าน ถ้าว่าตามตรง มันคือสิ่งที่น่าเบื่อมาก

แต่ว่าพอทำด้วยกันกับยุย ยูมะรู้สึกสนุกมาก สัมผัสได้ถึงความสุขเมื่อได้ทำด้วยกัน

“โธ่ บอกหลายรอบแล้วว่าวันนี้ยูมะเป็นแขก ให้นั่งเฉยๆทำตัวตามสบายได้แท้ๆ”

“ทางนี้ก็ให้พูดอีกหลายรอบก็ไม่เบื่อเช่นกันว่า ชั้นช่วยเพราะอยากทำ  ช่วยกันทำงานมันสนุกมาก ยุยไม่รู้สึกสนุกเหรอ”

“…สนุกก็จริง แต่แบบนี้มันก็เหมือนไม่ได้ทดแทนบุญคุณน่ะสิ”

“นายนี่หัวดื้อกว่าที่คิดนะ  ก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องใส่ใจขนาดนั้น”

ถึงแม้จะพูดไป ยุยก็ยังคงมีท่าทีไม่ยอมรับในสิ่งที่ยูมะบอกอยู่ดี

“ยูมะ..คือว่าชั้นน่ะ..ชั้นซาบซึ้งการกระทำของยูมะนะ ซาบซึ้งมากๆด้วย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนลองขยายความได้มั้ยไ

“…ยูมะยังจำตอนที่พวกเราพบกันครั้งแรกได้มั้ย”

“จำได้สิ”

ใครจะไปลืมได้ลง มีเรื่องอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นวันนั้นมากมายนี่นา

“ตอนนั้นชั้นยังคงเป็นคนที่เป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง พูดคุยกับคนนอกไม่ได้ เป็นกังวลกับเสียงและสายตาคนรอบข้าง  แต่ว่า…แต่ว่านะ…ตอนนี้ขอแค่ชั้นอยู่ด้วยกันกับยูมะสองคน ชั้นรู้สึกว่าการคุยกันผ่านปากตัวเองมันสนุกเหลือเกิน แม้จะออกไปข้างนอกก็ไม่รู้สึกกลัวแล้ว…”

“ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามของตัวยุยเองต่างหากครับ”

“ไม่หรอก ชั้นพยายามก็จริง แต่เครดิตต้องยกให้ยูมะต่างหาก ชั้นน่ะ พูดตามตรงว่าไม่อยากไปเรียนม.ปลายเลยนะ”

“งั้นเหรอ”

“อืม ชั้นเป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง แถมไม่มีเพื่อนด้วย ถึงไปเรียน ก็คิดว่าชีวิตตอนนั้นมันต้องน่าเบื่อมาก ถ้างั้นสู้ไม่ไปเรียนเลยคงจะดีกว่า แต่ว่า พอคิดว่ายูมะอยู่ด้วยกัน ชั้นเริ่มตั้งตารอเปิดเทอมแล้ว”

ระหว่างที่ยุยพูดจบ จานชามก็ล้างเสร็จพอดี เธอล้างมือก่อนหันมากล่าวต่อ

“ตอนนี้ชั้นรู้สึกมีความสุขมากในทุกๆวันที่ผ่านมา วันนี้ก็สนุกด้วยจนทำให้คิดว่าพรุ่งนี้ก็ต้องสนุกไม่แพ้กัน แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่ชั้นรู้สึกกลัว แต่ชั้นก็ยังคิดในแง่ดีได้ว่ามันอาจจะสนุกก็ได้  ความสุขทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพราะยูมะ…เพราะฉะนั้นชั้นถึงอยากตอบแทนให้ได้ หากทำไมได้ มันเหมือนมีอะไรติดค้างในใจชั้นเอง”

“ครับครับ พูดซะขนาดนี้ผมยอมแล้ว แต่ก็นะ เรื่องอยากตอบแทน ค่อยๆคิดค่อยๆทำก็ได้ …แล้วก็..ต่อจากนี้..อยู่ด้วยกันตลอดไปเนอะ”

“..เอ๊ะ?..อืม…อยู่ด้วยกันตลอดไปเนอะ แฮะแฮะ♥”

ยุยยิ้มด้วยความดีใจ

ยูมะเห็นความน่ารักของเธอตอนนี้ ยื่นมือไปลูบหัวโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ชะงักมือกลางคันทัน จะลูบหัวเธอตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่ดีเหรอ ยูมะไม่กล้าตอบกับตัวเอง

แต่ว่าพอดูจากสีหน้ากับท่าทียุย ดูเหมือนว่าเธอตั้งตารอรับการลูบหัวจากยูมะแล้ว เธอค้อมหัวลงรอ ในระหว่างนั้นก็ส่งสายตาถามประมาณว่า “ไม่ลูบหัวชั้นเหรอ?”

ดูเธอตอนนี้แล้วให้ความรู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นลูกแมวขี้อ้อนไม่มีผิด  เห็นสภาพนี้ ยูมะเลยลูบหัวเธอ  ปฏิกริยาตอบสนองของเธอ ชัดเจนชัดว่าพึงพอใจมาก ภาษากายบอกเลยว่าอยากให้ลูบต่อเรื่อยๆ

(….เห็นความน่ารักของเธอขนาดนี้แล้วใครจะหยุดลูบหัวง่ายๆล่ะครับ)

ยูมะคิดพลางขณะลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน

***

หลังจากเก็บกวาดจาน และเล่นด้วยกัน เวลาก็ผ่านไปนานพอสมควร ระหว่างนั้นยุยก็ไปอาบน้ำเรียบร้อย นั่งอยู่บนเตียงในห้อง ส่วนยูมะถือไดร์เป่าผม กำลังเป่าผมให้เธอ

ทางด้านยูมะก็เป่าผมให้ยุยด้วยความตื่นเต้น เพราะเห็นยุยในชุดนอน แถมได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆจากร่างกายเธอ ส่วนยุยมีสีหน้าแฮปปี้ที่ถูกยูมะเป่าผให้

“ไม่ร้อนเกินไปใช่มั้ย”

“อืม สบายมาก ขอบคุณนะยูมะ”

“ผมยาวขนาดนี้เวลาเป่าผมให้แห้งคนเดียวคงลำบากน่าดู  ฉะนั้นไม่ต้องใส่ใจครับ ชั้นเต็มใจช่วย”

“แฮะแฮะ ถ้ามีคนเป่าผมให้อย่างนี้ทุกวันก็ดีสินะ”

คำพูดยุยทำเอายูมะใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว

(ท่องไว้โว้ย ยุยไม่ได้มีเจตนาแบบเดียวกับที่เราคิด)

ยุยที่ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าคนข้างหลังปั่นป่วนเพราะคำพูดไร้เดียงสาของเธอ ตอนนี้เธอหลับตานิ่งทำตัวตามสบาย

….ดูจากสภาพแล้ว ยุยคงคิดว่าเราเป็นพี่ชายที่พึ่งพาและไว้ใจได้สุดๆซะมากกว่า

ไอ้ที่เชื่อใจเราขนาดนี้มันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ส่วนลึกก็รู้สึกน่าหงุดหงิด อยากให้เธอมองเราเป็นผู้ชายที่เป็นแฟนได้บ้างจัง

ในที่สุด ยูมะเป่าผมยุยจนเสร็จเรียบร้อย ยุยยิ้มอย่างมีความสุข

“นี่ก็เริ่มดึกแล้ว นอนเลยมั้ยครับ”

“อืม..นี่ ยูมะ”

“ถึงจะชวน แต่เรื่องนอนเตียงเดียวกัน อันนี้ขอปฏิเสธสุดพลังเลยนะครับ”

“เอ๋”

ยูมะกล่าวติดตลก แต่ก็จริงจังในคำพูด เขาหัวเราะหื่นๆ

“นาย…ไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเองบ้างรึไง”

“อันตรายกับตัวเอง?”

“เช่นว่าโดนชั้นทำมิดีมิร้ายไง”

(ยูมะไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วนี่นา)

ยุยไม่ได้ตอบแต่สีหน้ากับแววตาเธอบอกชัดเจนเลย

เฮ้อ เอาเหอะ ยังไงเราก็ไม่ทำจริงๆอยู่ดีนั่นแหละ ไอ้เรื่องทำให้ยุยร้องไห้เสียใจ ยูมะไม่คิดจะทำอยู่แล้ว  และถ้าเกิดทำขึ้นมาจริง เขานี่แหละจะเสียใจกับการกระทำนั้นจนฆ่าตัวตายแน่

แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้เรื่องนอนบนเตียงเดียวกัน  มันก็อีกเรื่องหนึ่ง 

“ขอย้ำอีกครั้งนะ ยังไงชั้นก็ไม่นอนเตียงเดียวกับเธอแน่ๆ “

“บู่—-“

ยุยทำหน้างอน แต่ดูแล้วเธอพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ยูมะนอนเตียงเดียวกันให้ได้ เลยเสนอไอเดียพร้อมลงมือหยิบตุ๊กตาหมีที่อยู่ข้างๆ

“นอนเตียงเดียวกันนี่แหละ แต่ห้ามข้ามเส้นตุ๊กตาหมีที่วางตามนี้ ถ้าข้ามมาชั้นจะโกรธ แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันนะ”

“ห๊ะ”

สรุปยุยเอาตุ๊กตาหมีหลายตัวมาวางคั่นตรงกลางเตียงแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน

(เล่นง่ายๆใช้ตุ๊กตาหมีเป็นเส้นแบ่งเขตเลยรึ แต่เออ ช่างแม่งละ นอนก็นอนวะ )

 สุดท้ายยูมะก็ทนลูกตื๊อไม่ไหว ยอมนอนเตียงเดียวกันกับยุย โดยมีตุ๊กตาหมีคั่นกลาง

ระหว่างที่นอน ยูมะสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายหวานๆของยุย รู้สึกใจเต้นตึกตัก  แต่ก็นะ วันนี้ผ่านอะไรหลายๆอย่างมาก รู้สึกเหนื่อยใช่เล่น ก็คิดว่าไม่นานคงหลับไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแหละ

“เน่ ยูมะ”

แม้ว่าจะนอนด้วยกัน เสียงของยุยก็ไม่มีอาการสั่นไหว คือชัดเจนมากว่า นอนกับยูมะนี่เธอไว้ใจมาก ไม่ต่างอะไรกับนอนคนเดียว

“วันนี้ยูมะสนุกมั้ย”

“อืม สนุกสิ”

ยูมะตอบทันทีไม่ลังเล

ถึงยุยจะไร้การป้องกัน ไม่ระแวงยูมะเลยสักนิดก็เหอะ จุดนี้มันก็แอบคันหัวใจยิบๆ แต่ว่าความจริงคือไอ้ที่เธอไม่ระแวงแปลว่าเธอรักเรามาก แถมกิจกรรมต่างๆที่ผ่านวันนี้ก็สนุกด้วย ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ยูมะสัมผัสได้ถึงรสชาติของความสุข

“…เออ.. ยุย”

“หือ มีอะไรเหรอ”

“ชั้นชอบเธอนะ”

“แฮะแฮะ ชั้นก็เหมือนกัน”

ยุยส่งยิ้มอย่างดีใจให้ยูมะ

(ก็กะแล้วอะนะว่าเธอต้องตอบสนองแบบนี้ ไอ้ที่แอบหวังให้เธอใจเต้นเพราะคำพูดเราสื่อถึงความรักชายหญิงนี่แห้วทุกดอก)

กระนั้น ยูมะก็ยังคงยืดมือไปลูบหัวยุย  เธอปล่อยให้ลูบหัวด้วยความยินดี

เอาเหอะ ความสัมพันธ์ที่เป็นตอนนี้ก็ไม่แย่วะ

หลังจากลูบไปได้สักพัก ยุยค่อยๆหลับตาพริ้ม ลมหายใจเริ่มเป็นจังหวะใกล้หลับแล้ว 

ทางด้านยูมะเองตาสว่าง ไม่ได้ง่วงมากเท่ายุย จึงหยิบมือถือมากดเล่นเอาให้ใกล้หลับจริงๆค่อยนอน  ยูมะหันหลังให้ยุย เปิดมือถือเพื่อไม่ให้แสงจากมือถือส่องตายุย อ่านหนังสือที่ซื้อดองไว้ในแอปมือถือ

หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมง  ยูมะอ่านนิยายจบ นิยายที่อ่านเป็นเลิฟคอม พระเอกพยายามจะสื่อความรู้สึกให้นางเอก แต่นางเอกไม่เข้าใจสิ่งที่พระเอกอยากบอกซะงั้น

(อ่านแล้วอินเว้ย ไอ้การที่นางเอกไม่รู้ความรู้สึกของพระเอกที่พยายามสื่อมันโคตร so sad กุเข้าใจความรู้สึกพระเอกเลยตอนนี้เลย)

ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ยูมะได้ยินจากหลังคา

“…ฝนตกสินะ”

เสียงน้ำฝนจากค่อยๆหยดแหมะๆ กลายเป็นเสียงซู่ ดูท่าจะตกหนักมาก หลังจากนั้นสักพัก ฟ้าแลบดังครืน จนห้องสว่างแว่บหนึ่ง หลังจากนั้นสามวินาทีได้ยินเสียงฟ้าผ่าแหวกอากาศ จนกระจกสั่น แล้วผ่านไปอีกสองวินาที ฟ้าก็แล่บอีก

เย้ดเข้ ฝนฟ้าอากาศวันนี้น่ากลัวชิปเป๋ง เมิงผ่าดังขนาดนี้นึกว่าผ่าลงใกล้ๆแถวบ้านยุยเลย

หลังจากนั้น ยูมะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมากอดหลังเขา

“ยุย? ธ..เธอ… อย่าข้ามเส้นตุ๊กตาหมีสิ…หือ…ยุย”

ยุยเข้ามากอดซุกหลังยูมะ เนื้อตัวสั่นเทา

“ยุย”

ยูมะพลิกตัว ดูยุยให้ชัดๆ แม้จะมองผ่านความืดแต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าเธอตัวสั่น พยายามซูก ทำตัวเองให้เล็กที่สุด

หลังจากนั้น ฟ้าผ่าดังลั่นอีกครั้ง

“กรี๊ดดดด”

ยุยตะโกนลั่น

“…เธอกลัว..ฟ้าผ่าเหรอ”

ยุยพยักหน้า ดูจากอาการนี่น่าจะกลัวจริง ไม่ได้เสแสร้ง

ยูมะเห็นสภาพยุยในตอนนี้ จึงดึงตัวเธอเข้ามากอดแนบอก

“อ๊ะ..”

“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัวนะครับ มันก็แค่ฟ้าผ่าที่ไกลจากเรามากๆ เนอะ”

“…อืม”

เอาจริงๆก่อนจะคว้ายุยมากอด เขาก็หัวใจเต้นรัวเหมือนกัน แต่ดูสภาพยุย ยูมะเชื่อว่าตัวเองคิดถูก  ไอ้การที่เห็นยุยเนื้อตัวสั่นเทาหวาดกลัวขนาดนี้ สัญชาตญาณมันบอกผมเองว่าควรจะทำแบบนี้แหละ ร่างกายเลยขยับไปเองตามธรรมชาติ

ทางยุยเองที่ถูกยูมะกอด เธอก็กอดเขาแน่นกว่าเดิม เนื้อตัวเธอนุ่มนิ่มมาก แต่กระนั้นอาการสั่นเทาของเธอก็ไม่ทำให้ยูมะคิดเรื่องหื่น มีแต่ความเป็นห่วงเธอ

 

*****

 

จบCH9-3

 

สรุปว่าบอลแพ้ยับซะ3-1เลย จุดโทษก็ไม่เข้าแถมเจอซาก้ายิงอีก สร่างเลยจ้า เลยแปลแล้วเอามาลงนะครับผม

 

ช่วงนี้นุ้่มนิ่มหวานละมุนมาก ผมว่าหลายคนน่าจะตกหลุมรักตัวละครยุยกับยูมะทั้งคุ้นะครับผม

 

อีกสองวันก็จบแล้วนะครับ คงต้องตั้งโหวตในเพจก่อนว่าอยากแปลเรื่องอะไรดี จะหาเรื่องใหม่หรือแปลเรื่องนี้ต่อ ถ้าสนใจก็อีกสักพักไปลองโหวจได้นะครับ

 

ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 9.3: ค้างคืนและฟ้าผ่า

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 9.3: ค้างคืนและฟ้าผ่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนช่วยกันเก็บกวาดล้างจาน

ปกติการทำงานบ้าน ถ้าว่าตามตรง มันคือสิ่งที่น่าเบื่อมาก

แต่ว่าพอทำด้วยกันกับยุย ยูมะรู้สึกสนุกมาก สัมผัสได้ถึงความสุขเมื่อได้ทำด้วยกัน

“โธ่ บอกหลายรอบแล้วว่าวันนี้ยูมะเป็นแขก ให้นั่งเฉยๆทำตัวตามสบายได้แท้ๆ”

“ทางนี้ก็ให้พูดอีกหลายรอบก็ไม่เบื่อเช่นกันว่า ชั้นช่วยเพราะอยากทำ  ช่วยกันทำงานมันสนุกมาก ยุยไม่รู้สึกสนุกเหรอ”

“…สนุกก็จริง แต่แบบนี้มันก็เหมือนไม่ได้ทดแทนบุญคุณน่ะสิ”

“นายนี่หัวดื้อกว่าที่คิดนะ  ก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องใส่ใจขนาดนั้น”

ถึงแม้จะพูดไป ยุยก็ยังคงมีท่าทีไม่ยอมรับในสิ่งที่ยูมะบอกอยู่ดี

“ยูมะ..คือว่าชั้นน่ะ..ชั้นซาบซึ้งการกระทำของยูมะนะ ซาบซึ้งมากๆด้วย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนลองขยายความได้มั้ยไ

“…ยูมะยังจำตอนที่พวกเราพบกันครั้งแรกได้มั้ย”

“จำได้สิ”

ใครจะไปลืมได้ลง มีเรื่องอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นวันนั้นมากมายนี่นา

“ตอนนั้นชั้นยังคงเป็นคนที่เป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง พูดคุยกับคนนอกไม่ได้ เป็นกังวลกับเสียงและสายตาคนรอบข้าง  แต่ว่า…แต่ว่านะ…ตอนนี้ขอแค่ชั้นอยู่ด้วยกันกับยูมะสองคน ชั้นรู้สึกว่าการคุยกันผ่านปากตัวเองมันสนุกเหลือเกิน แม้จะออกไปข้างนอกก็ไม่รู้สึกกลัวแล้ว…”

“ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามของตัวยุยเองต่างหากครับ”

“ไม่หรอก ชั้นพยายามก็จริง แต่เครดิตต้องยกให้ยูมะต่างหาก ชั้นน่ะ พูดตามตรงว่าไม่อยากไปเรียนม.ปลายเลยนะ”

“งั้นเหรอ”

“อืม ชั้นเป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง แถมไม่มีเพื่อนด้วย ถึงไปเรียน ก็คิดว่าชีวิตตอนนั้นมันต้องน่าเบื่อมาก ถ้างั้นสู้ไม่ไปเรียนเลยคงจะดีกว่า แต่ว่า พอคิดว่ายูมะอยู่ด้วยกัน ชั้นเริ่มตั้งตารอเปิดเทอมแล้ว”

ระหว่างที่ยุยพูดจบ จานชามก็ล้างเสร็จพอดี เธอล้างมือก่อนหันมากล่าวต่อ

“ตอนนี้ชั้นรู้สึกมีความสุขมากในทุกๆวันที่ผ่านมา วันนี้ก็สนุกด้วยจนทำให้คิดว่าพรุ่งนี้ก็ต้องสนุกไม่แพ้กัน แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่ชั้นรู้สึกกลัว แต่ชั้นก็ยังคิดในแง่ดีได้ว่ามันอาจจะสนุกก็ได้  ความสุขทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพราะยูมะ…เพราะฉะนั้นชั้นถึงอยากตอบแทนให้ได้ หากทำไมได้ มันเหมือนมีอะไรติดค้างในใจชั้นเอง”

“ครับครับ พูดซะขนาดนี้ผมยอมแล้ว แต่ก็นะ เรื่องอยากตอบแทน ค่อยๆคิดค่อยๆทำก็ได้ …แล้วก็..ต่อจากนี้..อยู่ด้วยกันตลอดไปเนอะ”

“..เอ๊ะ?..อืม…อยู่ด้วยกันตลอดไปเนอะ แฮะแฮะ♥”

ยุยยิ้มด้วยความดีใจ

ยูมะเห็นความน่ารักของเธอตอนนี้ ยื่นมือไปลูบหัวโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ชะงักมือกลางคันทัน จะลูบหัวเธอตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่ดีเหรอ ยูมะไม่กล้าตอบกับตัวเอง

แต่ว่าพอดูจากสีหน้ากับท่าทียุย ดูเหมือนว่าเธอตั้งตารอรับการลูบหัวจากยูมะแล้ว เธอค้อมหัวลงรอ ในระหว่างนั้นก็ส่งสายตาถามประมาณว่า “ไม่ลูบหัวชั้นเหรอ?”

ดูเธอตอนนี้แล้วให้ความรู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นลูกแมวขี้อ้อนไม่มีผิด  เห็นสภาพนี้ ยูมะเลยลูบหัวเธอ  ปฏิกริยาตอบสนองของเธอ ชัดเจนชัดว่าพึงพอใจมาก ภาษากายบอกเลยว่าอยากให้ลูบต่อเรื่อยๆ

(….เห็นความน่ารักของเธอขนาดนี้แล้วใครจะหยุดลูบหัวง่ายๆล่ะครับ)

ยูมะคิดพลางขณะลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน

***

หลังจากเก็บกวาดจาน และเล่นด้วยกัน เวลาก็ผ่านไปนานพอสมควร ระหว่างนั้นยุยก็ไปอาบน้ำเรียบร้อย นั่งอยู่บนเตียงในห้อง ส่วนยูมะถือไดร์เป่าผม กำลังเป่าผมให้เธอ

ทางด้านยูมะก็เป่าผมให้ยุยด้วยความตื่นเต้น เพราะเห็นยุยในชุดนอน แถมได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆจากร่างกายเธอ ส่วนยุยมีสีหน้าแฮปปี้ที่ถูกยูมะเป่าผให้

“ไม่ร้อนเกินไปใช่มั้ย”

“อืม สบายมาก ขอบคุณนะยูมะ”

“ผมยาวขนาดนี้เวลาเป่าผมให้แห้งคนเดียวคงลำบากน่าดู  ฉะนั้นไม่ต้องใส่ใจครับ ชั้นเต็มใจช่วย”

“แฮะแฮะ ถ้ามีคนเป่าผมให้อย่างนี้ทุกวันก็ดีสินะ”

คำพูดยุยทำเอายูมะใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกแล้ว

(ท่องไว้โว้ย ยุยไม่ได้มีเจตนาแบบเดียวกับที่เราคิด)

ยุยที่ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าคนข้างหลังปั่นป่วนเพราะคำพูดไร้เดียงสาของเธอ ตอนนี้เธอหลับตานิ่งทำตัวตามสบาย

….ดูจากสภาพแล้ว ยุยคงคิดว่าเราเป็นพี่ชายที่พึ่งพาและไว้ใจได้สุดๆซะมากกว่า

ไอ้ที่เชื่อใจเราขนาดนี้มันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ส่วนลึกก็รู้สึกน่าหงุดหงิด อยากให้เธอมองเราเป็นผู้ชายที่เป็นแฟนได้บ้างจัง

ในที่สุด ยูมะเป่าผมยุยจนเสร็จเรียบร้อย ยุยยิ้มอย่างมีความสุข

“นี่ก็เริ่มดึกแล้ว นอนเลยมั้ยครับ”

“อืม..นี่ ยูมะ”

“ถึงจะชวน แต่เรื่องนอนเตียงเดียวกัน อันนี้ขอปฏิเสธสุดพลังเลยนะครับ”

“เอ๋”

ยูมะกล่าวติดตลก แต่ก็จริงจังในคำพูด เขาหัวเราะหื่นๆ

“นาย…ไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเองบ้างรึไง”

“อันตรายกับตัวเอง?”

“เช่นว่าโดนชั้นทำมิดีมิร้ายไง”

(ยูมะไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วนี่นา)

ยุยไม่ได้ตอบแต่สีหน้ากับแววตาเธอบอกชัดเจนเลย

เฮ้อ เอาเหอะ ยังไงเราก็ไม่ทำจริงๆอยู่ดีนั่นแหละ ไอ้เรื่องทำให้ยุยร้องไห้เสียใจ ยูมะไม่คิดจะทำอยู่แล้ว  และถ้าเกิดทำขึ้นมาจริง เขานี่แหละจะเสียใจกับการกระทำนั้นจนฆ่าตัวตายแน่

แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้เรื่องนอนบนเตียงเดียวกัน  มันก็อีกเรื่องหนึ่ง 

“ขอย้ำอีกครั้งนะ ยังไงชั้นก็ไม่นอนเตียงเดียวกับเธอแน่ๆ “

“บู่—-“

ยุยทำหน้างอน แต่ดูแล้วเธอพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ยูมะนอนเตียงเดียวกันให้ได้ เลยเสนอไอเดียพร้อมลงมือหยิบตุ๊กตาหมีที่อยู่ข้างๆ

“นอนเตียงเดียวกันนี่แหละ แต่ห้ามข้ามเส้นตุ๊กตาหมีที่วางตามนี้ ถ้าข้ามมาชั้นจะโกรธ แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันนะ”

“ห๊ะ”

สรุปยุยเอาตุ๊กตาหมีหลายตัวมาวางคั่นตรงกลางเตียงแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน

(เล่นง่ายๆใช้ตุ๊กตาหมีเป็นเส้นแบ่งเขตเลยรึ แต่เออ ช่างแม่งละ นอนก็นอนวะ )

 สุดท้ายยูมะก็ทนลูกตื๊อไม่ไหว ยอมนอนเตียงเดียวกันกับยุย โดยมีตุ๊กตาหมีคั่นกลาง

ระหว่างที่นอน ยูมะสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายหวานๆของยุย รู้สึกใจเต้นตึกตัก  แต่ก็นะ วันนี้ผ่านอะไรหลายๆอย่างมาก รู้สึกเหนื่อยใช่เล่น ก็คิดว่าไม่นานคงหลับไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแหละ

“เน่ ยูมะ”

แม้ว่าจะนอนด้วยกัน เสียงของยุยก็ไม่มีอาการสั่นไหว คือชัดเจนมากว่า นอนกับยูมะนี่เธอไว้ใจมาก ไม่ต่างอะไรกับนอนคนเดียว

“วันนี้ยูมะสนุกมั้ย”

“อืม สนุกสิ”

ยูมะตอบทันทีไม่ลังเล

ถึงยุยจะไร้การป้องกัน ไม่ระแวงยูมะเลยสักนิดก็เหอะ จุดนี้มันก็แอบคันหัวใจยิบๆ แต่ว่าความจริงคือไอ้ที่เธอไม่ระแวงแปลว่าเธอรักเรามาก แถมกิจกรรมต่างๆที่ผ่านวันนี้ก็สนุกด้วย ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ยูมะสัมผัสได้ถึงรสชาติของความสุข

“…เออ.. ยุย”

“หือ มีอะไรเหรอ”

“ชั้นชอบเธอนะ”

“แฮะแฮะ ชั้นก็เหมือนกัน”

ยุยส่งยิ้มอย่างดีใจให้ยูมะ

(ก็กะแล้วอะนะว่าเธอต้องตอบสนองแบบนี้ ไอ้ที่แอบหวังให้เธอใจเต้นเพราะคำพูดเราสื่อถึงความรักชายหญิงนี่แห้วทุกดอก)

กระนั้น ยูมะก็ยังคงยืดมือไปลูบหัวยุย  เธอปล่อยให้ลูบหัวด้วยความยินดี

เอาเหอะ ความสัมพันธ์ที่เป็นตอนนี้ก็ไม่แย่วะ

หลังจากลูบไปได้สักพัก ยุยค่อยๆหลับตาพริ้ม ลมหายใจเริ่มเป็นจังหวะใกล้หลับแล้ว 

ทางด้านยูมะเองตาสว่าง ไม่ได้ง่วงมากเท่ายุย จึงหยิบมือถือมากดเล่นเอาให้ใกล้หลับจริงๆค่อยนอน  ยูมะหันหลังให้ยุย เปิดมือถือเพื่อไม่ให้แสงจากมือถือส่องตายุย อ่านหนังสือที่ซื้อดองไว้ในแอปมือถือ

หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมง  ยูมะอ่านนิยายจบ นิยายที่อ่านเป็นเลิฟคอม พระเอกพยายามจะสื่อความรู้สึกให้นางเอก แต่นางเอกไม่เข้าใจสิ่งที่พระเอกอยากบอกซะงั้น

(อ่านแล้วอินเว้ย ไอ้การที่นางเอกไม่รู้ความรู้สึกของพระเอกที่พยายามสื่อมันโคตร so sad กุเข้าใจความรู้สึกพระเอกเลยตอนนี้เลย)

ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ยูมะได้ยินจากหลังคา

“…ฝนตกสินะ”

เสียงน้ำฝนจากค่อยๆหยดแหมะๆ กลายเป็นเสียงซู่ ดูท่าจะตกหนักมาก หลังจากนั้นสักพัก ฟ้าแลบดังครืน จนห้องสว่างแว่บหนึ่ง หลังจากนั้นสามวินาทีได้ยินเสียงฟ้าผ่าแหวกอากาศ จนกระจกสั่น แล้วผ่านไปอีกสองวินาที ฟ้าก็แล่บอีก

เย้ดเข้ ฝนฟ้าอากาศวันนี้น่ากลัวชิปเป๋ง เมิงผ่าดังขนาดนี้นึกว่าผ่าลงใกล้ๆแถวบ้านยุยเลย

หลังจากนั้น ยูมะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมากอดหลังเขา

“ยุย? ธ..เธอ… อย่าข้ามเส้นตุ๊กตาหมีสิ…หือ…ยุย”

ยุยเข้ามากอดซุกหลังยูมะ เนื้อตัวสั่นเทา

“ยุย”

ยูมะพลิกตัว ดูยุยให้ชัดๆ แม้จะมองผ่านความืดแต่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าเธอตัวสั่น พยายามซูก ทำตัวเองให้เล็กที่สุด

หลังจากนั้น ฟ้าผ่าดังลั่นอีกครั้ง

“กรี๊ดดดด”

ยุยตะโกนลั่น

“…เธอกลัว..ฟ้าผ่าเหรอ”

ยุยพยักหน้า ดูจากอาการนี่น่าจะกลัวจริง ไม่ได้เสแสร้ง

ยูมะเห็นสภาพยุยในตอนนี้ จึงดึงตัวเธอเข้ามากอดแนบอก

“อ๊ะ..”

“ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัวนะครับ มันก็แค่ฟ้าผ่าที่ไกลจากเรามากๆ เนอะ”

“…อืม”

เอาจริงๆก่อนจะคว้ายุยมากอด เขาก็หัวใจเต้นรัวเหมือนกัน แต่ดูสภาพยุย ยูมะเชื่อว่าตัวเองคิดถูก  ไอ้การที่เห็นยุยเนื้อตัวสั่นเทาหวาดกลัวขนาดนี้ สัญชาตญาณมันบอกผมเองว่าควรจะทำแบบนี้แหละ ร่างกายเลยขยับไปเองตามธรรมชาติ

ทางยุยเองที่ถูกยูมะกอด เธอก็กอดเขาแน่นกว่าเดิม เนื้อตัวเธอนุ่มนิ่มมาก แต่กระนั้นอาการสั่นเทาของเธอก็ไม่ทำให้ยูมะคิดเรื่องหื่น มีแต่ความเป็นห่วงเธอ

 

*****

 

จบCH9-3

 

สรุปว่าบอลแพ้ยับซะ3-1เลย จุดโทษก็ไม่เข้าแถมเจอซาก้ายิงอีก สร่างเลยจ้า เลยแปลแล้วเอามาลงนะครับผม

 

ช่วงนี้นุ้่มนิ่มหวานละมุนมาก ผมว่าหลายคนน่าจะตกหลุมรักตัวละครยุยกับยูมะทั้งคุ้นะครับผม

 

อีกสองวันก็จบแล้วนะครับ คงต้องตั้งโหวตในเพจก่อนว่าอยากแปลเรื่องอะไรดี จะหาเรื่องใหม่หรือแปลเรื่องนี้ต่อ ถ้าสนใจก็อีกสักพักไปลองโหวจได้นะครับ

 

ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+