LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 5.3: นักรบสาว

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 5.3: นักรบสาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สองพี่น้องยืนข้างหลังยุย เริ่มลงมือตัดผม

ยุยที่โดนสวมผ้าคุลมกันผมร่วงเปื้อนเสื้อ ตอนนี้เกร็งจัด นั่งตัวแข็งบนเก้าอี้

“..ถ้าตื่นเต้นขนาดนั้น แชทคุยกัยยูคุงไปด้วยก็ได้นะ ว่าไปยูคุงเองก็เกร็งเหมือนกันนิ แบนี้น่าจะดีกว่านะ”

เนเน่หยิบที่วางโทรศัพท์สำหรับให้ลูกค้าเล่นไลน์หรือแชทได้เลื่อนมาหน้ายุย ยุยหยิบโทรศัพท์มาวาง หันไปดูยูมะ ยูมะพยักหน้าเล็กน้อย หยิบโทรศํพท์ขึ้นมาถือเช่นกัน ทั้งสองคนเริ่มแชทคุย

“ไม่ได้เข้าร้านเสริมสวยนานมากกกตื่นเต้นสุดๆเลย”

หลังส่งข้อความจบ ยุยส่งสติกเกอร์ตัวละครอนิเมะร้องไห้ตบท้าย

“โทษทีนะ ชั้นฝืนนายมากไปรึเปล่า”

“ไม่หรอก ..จะว่าไปทำไมนายถึงพาผมมาที่ร้านเสริมสวยเหรอ”

“เหตุผลมีเยอะอยู่นะ อย่างแรกเลย ชั้นเจ็บใจเรื่องที่ชั้นยังมีพลังช่วยเธอไม่มากพอ”

“พลังไม่มากพอ?เจ็บใจ?”

“นายบอกชั้นว่าคนธรรมดาจะไปเข้าใจความรู้สึกของตัวประหลาดได้ไง จำได้มั้ย”

“ยังเก็บมาใส่ใจอีกเหรอ ตอนนั้นผมหลุดปากเพราะสถานการณ์หลายอย่างกดดัน  ทางผมต่างหากที่เป็นคนผิดชนิดที่ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆด้วย”

“ไม่หรอก ชั้นตีค่าสถานการณ์ด้อยกว่าความเป็นจริงเอง ชั้นไม่รู้ถึงความลำบากของนาย ลากนายให้ออกมาข้างนอก เผชิญกับสายตาคนรอบข้าง  แต่..ตอนนั้นชั้นคิดว่านายควรจะรักตัวเองให้มากกว่านี้เลยเลือกกดดันนายมากไป”

“เข้มงวดกับตัวเองมากไปรึเปล่ายูมะ”

“ไม่หรอก ให้พูดอีกหลายครั้งก็ได้ ที่ชั้นอยากให้นายรักตัวเองเพราะ นายอะโคตรน่ารักเลยรู้ตัวมั้ย”

ยูมะที่ยืนข้างยุย ได้ยินยุยที่นั่งอยู่ส่งเสียงแสดงความดีใจหลังอ่านข้อความยูมะจบ  

ทางยูมะเองก็หน้าแดงที่พิมพ์แบบนั้นลงไป  เขาเริ่มพิมพ์ต่ออีก

“นายเป็นคนที่น่ารักและน่าสนใจ แล้วไปโดนพวกปากหมาที่ไม่รู้ห่าอะไรเลยด่าเนี่ย  ชั้นรู้ว่านายต้องเจ็บใจ เกิดแผลใจกับเรื่องนี้  แต่แน่นอนว่า ต่อให้พูดอีกกี่ครั้งชั้นก็ไม่ยอมรับที่ใครบอกว่าสีผมนายแปลก เพราะนายสวยและน่ารัก ชั้นอยากให้นายยอมรับความจริงเรื่องนี้แหละ”

ยิ่งพิมพ์มากเท่าไร ยูมะยื่งหน้าแดงมากกว่าเดิม

(ไม่ไหวละโว้ย พิมพ์เองเขินเอง แถมพิมพ์ไปยังรู้สึกน้ำเน่า เล่นเอาไม่กล้าอ่านสิ่งที่ยุยจะตอบกลับต่อจากนี้เลย)

ยูมะส่งสติกเกอร์ตัวละครที่ยกสองมือปิดหน้าที่เขินจนแดงแป้ด เพื่อแทนความรู้สึกในใจของเขา 

ทีนี้ยุยดันเงียบ ไม่ตอบอะไรกลับมาเลย ยูมะเลยเหลือบไปมองยุย  สักพักหนึ่ง ยุยส่งสติกเกอร์ตัวละคนยกมือปิดหน้าที่เขินจนแดงแป๊ดตอบกลับหายูมะก่อนพิมพ์แชทต่อ

“ผมน่ะนะ เกลียดตัวเองมากเลย”

ยูมะแอบใจแป้วคิดว่าที่พูดไปไม่เวิร์ก แต่ยุยพิมพ์ต่ออีก

“แต่ว่าตั้งแต่สมัยก่อนยูมะเล่นเกมกับผมด้วยกันทุกวัน ผมเลยเริ่มรู้สึกรักตัวเองขึ้นมาหน่อยนึง บอกได้ว่าผมอยากเจอยูมะในชีวิตจริง อยากเป็นเพื่อนกับยูมะด้วย”

คำพูดที่ยุยแชทมาทำเอาหัวใจยูมะ รู้สึกอบอุ่น เขาเหลือบมองยุยอีกรอบ  ยุยเองก็หน้าแดงแป๊ด แต่เธอก็พยายามพิมพ์แชทหาผมอย่างตั้งใจเต็มที่

“มีเรื่องราวในอดีตหลายอย่างเกิดขึ้นจริง  ผมเคยคิดว่าทำไมถึงต้องเกิดมาเจอเรื่องแบบนี้  แต่ว่าตอนนี้ผมมีความกล้ามากขึ้นเมื่อได้เป็นเพื่อนคนสำคัญกับยูมะ  ตอนนี้ผมรักตัวเองแล้ว และผมก็รักยูมะที่สุดด้วยเช่นกัน”

หลังพิมพ์จบ ยุยส่งสติเกอร์ตัวละครที่พูดว่า “รักเธอที่สุดเลยจ๊ะ”ให้ยูมะตบท้าย

…ยูมะรู้สึกดีใจมากที่ยุยมีความคิดแบบนี้ ตั้งใจจะพิมพ์ตอบกลับว่า (ชั้นเองก็ดีใจมากที่เป็นเพื่อนกับนาย) แต่ว่ายูมะรุ้สึกแปลกๆว่าเนเน่แกไม่ตัดผมยุยเลยนี่หว่า

“…เนเน่?”

“…เขินแทนยูคุงเลย อบอุ่นหัวใจมากกกก”

“ผมไม่ตัดแล้วมาแอบดูแชทที่คนอื่นเขาคุยกันเนี่ยนะ เอ้า เหวออ?

เนเน่คว้ายูมะไปกอดจากด้านหลัง  ด้วยความที่ยูมะโดนกอดโดยไม่ทันตั้งตัวเลยตกใจจนส่งเสียงร้องออกมา

หลังกอดยูมะเสร็จ เนเน่ไปกอดยุยต่อ ด้านยุยที่โดนกอดก็ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก

“เฮ้อออ ไม่ไหว  ไม่นึกว่าชั้นจะอ่อนไหวขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่ายูคุงจากเมื่อก่อน คนที่เป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง  มาตอนนี้จะพัฒนากลายเป็นเด็กผู้ชายที่พาแฟนสาวสุดน่ารักเข้ามาบ้าน และพยายามเพื่อช่วยเธอ”

“.ดดด…เดี๋ยวก่อนเนเน่ ผมกับยุยไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นแฟนซะหน่อย”

“อ๊ะ โทษทีโทษที  ตอนนี้ “ยัง” เป็นแค่เพื่อนเนอะ ดีแล้ว พี่สาวชอบความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กแนวนี้แหละ”

เนเน่ดูจะเข้าโลกส่วนตัวคิดเองเออเองไปซะแล้ว

หลังจากนั้น เนเน่กลับมาตั้งใจตัดผมยุยตามปกติ  ไม่รู้ว่าเพราะทำตัวเหลวไหลตะกี้รึเปล่า สีหน้าเนเน่คราวนี้ดูจริงจังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ขอโทษนะจ๊ะยุยจังที่พี่คิดไปว่าเธอเป็นแฟนเขา”

“เอ…เอ่อ…แต่ว่า”

“แต่ว่า?”

“พี่เข้าใจว่าหนูกับยูมะมีความสัมพันธ์ที่ดีถึงขนาดนั้น..ก็รู้สึกดีใจนิดหน่อยค่ะ”

“..ตายแล้ว นี่ยุยจังมาที่นี่เพื่อเอาน้ำตาลมาฆ่าพี่ใช่มั้ย น่ารักเกินไปแล้ว ใจเย็นก่อนตัวชั้น! ใจเย็นก่อน!”

ถึงแม้น้ำเสียงเนเน่จะดูล้อเล่นแต่มือเธอยังไม่หยุดตัดผมยุย

ถึงจะมีนิสัยที่ดูเพี้ยนไปนิด แต่เรื่องฝีมือเนเน่ก็ต้องยอมรับเจ๋งตามคำคุย 

“อุตส่ามีผมที่สวยขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีของดี ไม่คิดว่ามันน่าเสียดายเหรอ หน้าตาก็ดีเซนส์เรื่องแต่งกายก็ไม่แย่  พี่อาจจะพูดล้ำเส้นนิดนึง แต่ไม่คิดว่าเราเกลียดตัวเองในเรื่องที่ไม่เป็นจริงเหรอ”

“อ๊ะ..เอ่อ…ค่ะ”

“อย่าเกลียดในสิ่งที่ไม่เป็นจริงดีกว่านะ สาวน้อยบริสุทธ์อย่างเราเข้มแข็งมากกว่าที่คิดนะ”

“แต่ว่า..หนูแปลก..จริงๆนะ”

ยุยพูดจบสักพัก เนเน่กอดยุยจากด้านหลัง

หากสัมผัสตอนแรกที่เนเน่กอดเป็นความรู้สึกทะเล้นเอาฮา สัมผัสตอนนี้ของเนเน่เป็นสัมผัสอ้อมกอดที่สื่อถึงความเป็นแม่ที่ปลอบประโลมลูกน้อยอย่างอ่อนโยน

“เน่ ยุยจัง? จากสายตาของยุยจัง เห็นพฤติกรรมพี่ที่ผ่านมา หนูคิดว่าพี่เป็นคนแปลกมั้ย”

“เอ๋..เอ่อ…คือ…”

“ตอบมาตรงๆได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ไม่ว่าจะตอบอะไรพี่ไม่ว่าแน่นอน”

ยุยทำท่าลังเลพักหนึ่ง ก่อนค่อยๆเอ่ยปาก

“คิดว่า…เท่ไปเลย..มากกว่าค่ะ”

“จริงเหรอ”

“ใช่ค่ะ ทั้งความรู้สึกรักตัวเอง แถมเปิดกิจการเป็นของตัวเองด้วย พี่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ”

“ฮะฮะ ยุยไม่รู้อะไรซะแล้ว”

เนเน่กล่าวจบลูบหัวยุยอย่างอ่อนโยน

“ยุยจัง การเปลี่ยนแปลงตัวเองมันต้องผ่านอะไรหลายอย่าง คิดแบบนี้รึเปล่า”

“…”

คำพูดที่เข้มแข็งน้ำเสียงไม่มีความลังเล  ยุยรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงนั้น

 เนเน่นึกถึงอดีตตัวเอง เมื่อก่อนไม่ได้เป็นคนขี้เล่นแบบนี้แต่แรก กลับกัน เธอถูกที่บ้านอบรบมาให้เป็นคนจริงจังกับชีวิต ทว่า เธอชอบคอสเพลย์มาก แต่ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้ใครรู้

โชคร้ายมีวันหนึ่งความลับแดงออกมา พ่อแม่รู้เข้าเลยทะเลาะกันบ้านแตก  สุดท้ายเนเน่เลือกที่จะหนีออกจากบ้าน

เนเน่มีประสบการณ์แย่ๆจากครอบครัวมาแล้ว เธอถึงรู้ว่า เด็กจะพึ่งพาคนที่ไว้ใจได้ รับฟังได้ทุกเรื่อง ยิ่งเป็นคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมากเท่าไร เขายิ่งต้องมีผู้รับฟังที่ไว้ใจได้มากขึ้นเท่านั้น

..หลังจากหนีออกจากบ้านได้สักพักหนึ่ง เธอก็เริ่มทำงาน เปิดร้านเล็กๆด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวคนเดียว ผ่านมาหลายปี เธอถึงเริ่มประสบความสำเร็จ ขยายขนาดร้านและมีสาขาเพิ่ม

“อยากให้ยุยมีความมั่นใจมากขึ้นกว่านี้ มีผมที่สวยจนหลายคนอิจฉาแท้ๆ  อย่าไปคิดว่าเป็นปมด้อยนะ”

“อื..อืม”

“ยิ่งไปกว่านั้น ยุยยังมียูคุงเป็นเพื่อน  ฉะนั้นหนูต้องกล้าอวดตัวเองได้เต็มปากเต็มคำด้วยว่าชั้นเจ๋งจริงถึงมีเขาเป็นเพื่อนนะ”

“อืม..”

ยุยพยักหน้าเล็กน้อย เขินหน้าแดง ก้มหน้าหลบตาไม่ให้ยูมะเห็นสีหน้าเธอตอนนี้

แม้ว่าจะเขิน แต่เธอก็ยังส่งเสียงหัวเราะดีใจเล็กๆ

“โอ้ยยยตายแล้ว หัวเราะได้น่ารักน่าชังมาก  นานๆพี่จะเข้าโหมดจริงจังได้สักที แต่เจอยุยหัวเราะแบบนี่พี่คงสภาพไม่ได้ละ ฮะฮะ ขอบคุณยูคุงมากนะที่พามาให้เห็นของดีแบบนี้”

“ผมก็ต้องขอบคุณเรื่องวันนี้ด้วยครับ อุตส่าเปิดร้านจัดต้อนรับผมซะเล่นใหญ่โตเลย”

 

 

***

 

จบCH5-3

 

พี่สาวที่สวยและเก่งแบบนี้ไม่แปลกใจที่ใครจะชอบนะ 55  

 

ช่วงนี้แปลได้น้อยเพราะต้องไปเรียนงานกูเกิ้ลแอด เลยอัพเนื้อหาได้น้อยลง แต่สัญญาว่าจะอัพเดทให้ทุกวันนะครับผม

 

กลับมาวนช่วงแก้ปัญหาน้องยุยต่อ คราวนี้ผ่านฝีมือคุณพี่บ้าง มาดูกันว่าจะเป็นไงนะครับ

 

 ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 5.3: นักรบสาว

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 5.3: นักรบสาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สองพี่น้องยืนข้างหลังยุย เริ่มลงมือตัดผม

ยุยที่โดนสวมผ้าคุลมกันผมร่วงเปื้อนเสื้อ ตอนนี้เกร็งจัด นั่งตัวแข็งบนเก้าอี้

“..ถ้าตื่นเต้นขนาดนั้น แชทคุยกัยยูคุงไปด้วยก็ได้นะ ว่าไปยูคุงเองก็เกร็งเหมือนกันนิ แบนี้น่าจะดีกว่านะ”

เนเน่หยิบที่วางโทรศัพท์สำหรับให้ลูกค้าเล่นไลน์หรือแชทได้เลื่อนมาหน้ายุย ยุยหยิบโทรศัพท์มาวาง หันไปดูยูมะ ยูมะพยักหน้าเล็กน้อย หยิบโทรศํพท์ขึ้นมาถือเช่นกัน ทั้งสองคนเริ่มแชทคุย

“ไม่ได้เข้าร้านเสริมสวยนานมากกกตื่นเต้นสุดๆเลย”

หลังส่งข้อความจบ ยุยส่งสติกเกอร์ตัวละครอนิเมะร้องไห้ตบท้าย

“โทษทีนะ ชั้นฝืนนายมากไปรึเปล่า”

“ไม่หรอก ..จะว่าไปทำไมนายถึงพาผมมาที่ร้านเสริมสวยเหรอ”

“เหตุผลมีเยอะอยู่นะ อย่างแรกเลย ชั้นเจ็บใจเรื่องที่ชั้นยังมีพลังช่วยเธอไม่มากพอ”

“พลังไม่มากพอ?เจ็บใจ?”

“นายบอกชั้นว่าคนธรรมดาจะไปเข้าใจความรู้สึกของตัวประหลาดได้ไง จำได้มั้ย”

“ยังเก็บมาใส่ใจอีกเหรอ ตอนนั้นผมหลุดปากเพราะสถานการณ์หลายอย่างกดดัน  ทางผมต่างหากที่เป็นคนผิดชนิดที่ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆด้วย”

“ไม่หรอก ชั้นตีค่าสถานการณ์ด้อยกว่าความเป็นจริงเอง ชั้นไม่รู้ถึงความลำบากของนาย ลากนายให้ออกมาข้างนอก เผชิญกับสายตาคนรอบข้าง  แต่..ตอนนั้นชั้นคิดว่านายควรจะรักตัวเองให้มากกว่านี้เลยเลือกกดดันนายมากไป”

“เข้มงวดกับตัวเองมากไปรึเปล่ายูมะ”

“ไม่หรอก ให้พูดอีกหลายครั้งก็ได้ ที่ชั้นอยากให้นายรักตัวเองเพราะ นายอะโคตรน่ารักเลยรู้ตัวมั้ย”

ยูมะที่ยืนข้างยุย ได้ยินยุยที่นั่งอยู่ส่งเสียงแสดงความดีใจหลังอ่านข้อความยูมะจบ  

ทางยูมะเองก็หน้าแดงที่พิมพ์แบบนั้นลงไป  เขาเริ่มพิมพ์ต่ออีก

“นายเป็นคนที่น่ารักและน่าสนใจ แล้วไปโดนพวกปากหมาที่ไม่รู้ห่าอะไรเลยด่าเนี่ย  ชั้นรู้ว่านายต้องเจ็บใจ เกิดแผลใจกับเรื่องนี้  แต่แน่นอนว่า ต่อให้พูดอีกกี่ครั้งชั้นก็ไม่ยอมรับที่ใครบอกว่าสีผมนายแปลก เพราะนายสวยและน่ารัก ชั้นอยากให้นายยอมรับความจริงเรื่องนี้แหละ”

ยิ่งพิมพ์มากเท่าไร ยูมะยื่งหน้าแดงมากกว่าเดิม

(ไม่ไหวละโว้ย พิมพ์เองเขินเอง แถมพิมพ์ไปยังรู้สึกน้ำเน่า เล่นเอาไม่กล้าอ่านสิ่งที่ยุยจะตอบกลับต่อจากนี้เลย)

ยูมะส่งสติกเกอร์ตัวละครที่ยกสองมือปิดหน้าที่เขินจนแดงแป้ด เพื่อแทนความรู้สึกในใจของเขา 

ทีนี้ยุยดันเงียบ ไม่ตอบอะไรกลับมาเลย ยูมะเลยเหลือบไปมองยุย  สักพักหนึ่ง ยุยส่งสติกเกอร์ตัวละคนยกมือปิดหน้าที่เขินจนแดงแป๊ดตอบกลับหายูมะก่อนพิมพ์แชทต่อ

“ผมน่ะนะ เกลียดตัวเองมากเลย”

ยูมะแอบใจแป้วคิดว่าที่พูดไปไม่เวิร์ก แต่ยุยพิมพ์ต่ออีก

“แต่ว่าตั้งแต่สมัยก่อนยูมะเล่นเกมกับผมด้วยกันทุกวัน ผมเลยเริ่มรู้สึกรักตัวเองขึ้นมาหน่อยนึง บอกได้ว่าผมอยากเจอยูมะในชีวิตจริง อยากเป็นเพื่อนกับยูมะด้วย”

คำพูดที่ยุยแชทมาทำเอาหัวใจยูมะ รู้สึกอบอุ่น เขาเหลือบมองยุยอีกรอบ  ยุยเองก็หน้าแดงแป๊ด แต่เธอก็พยายามพิมพ์แชทหาผมอย่างตั้งใจเต็มที่

“มีเรื่องราวในอดีตหลายอย่างเกิดขึ้นจริง  ผมเคยคิดว่าทำไมถึงต้องเกิดมาเจอเรื่องแบบนี้  แต่ว่าตอนนี้ผมมีความกล้ามากขึ้นเมื่อได้เป็นเพื่อนคนสำคัญกับยูมะ  ตอนนี้ผมรักตัวเองแล้ว และผมก็รักยูมะที่สุดด้วยเช่นกัน”

หลังพิมพ์จบ ยุยส่งสติเกอร์ตัวละครที่พูดว่า “รักเธอที่สุดเลยจ๊ะ”ให้ยูมะตบท้าย

…ยูมะรู้สึกดีใจมากที่ยุยมีความคิดแบบนี้ ตั้งใจจะพิมพ์ตอบกลับว่า (ชั้นเองก็ดีใจมากที่เป็นเพื่อนกับนาย) แต่ว่ายูมะรุ้สึกแปลกๆว่าเนเน่แกไม่ตัดผมยุยเลยนี่หว่า

“…เนเน่?”

“…เขินแทนยูคุงเลย อบอุ่นหัวใจมากกกก”

“ผมไม่ตัดแล้วมาแอบดูแชทที่คนอื่นเขาคุยกันเนี่ยนะ เอ้า เหวออ?

เนเน่คว้ายูมะไปกอดจากด้านหลัง  ด้วยความที่ยูมะโดนกอดโดยไม่ทันตั้งตัวเลยตกใจจนส่งเสียงร้องออกมา

หลังกอดยูมะเสร็จ เนเน่ไปกอดยุยต่อ ด้านยุยที่โดนกอดก็ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก

“เฮ้อออ ไม่ไหว  ไม่นึกว่าชั้นจะอ่อนไหวขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่ายูคุงจากเมื่อก่อน คนที่เป็นโรคสื่อสารไม่เก่ง  มาตอนนี้จะพัฒนากลายเป็นเด็กผู้ชายที่พาแฟนสาวสุดน่ารักเข้ามาบ้าน และพยายามเพื่อช่วยเธอ”

“.ดดด…เดี๋ยวก่อนเนเน่ ผมกับยุยไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นแฟนซะหน่อย”

“อ๊ะ โทษทีโทษที  ตอนนี้ “ยัง” เป็นแค่เพื่อนเนอะ ดีแล้ว พี่สาวชอบความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กแนวนี้แหละ”

เนเน่ดูจะเข้าโลกส่วนตัวคิดเองเออเองไปซะแล้ว

หลังจากนั้น เนเน่กลับมาตั้งใจตัดผมยุยตามปกติ  ไม่รู้ว่าเพราะทำตัวเหลวไหลตะกี้รึเปล่า สีหน้าเนเน่คราวนี้ดูจริงจังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ขอโทษนะจ๊ะยุยจังที่พี่คิดไปว่าเธอเป็นแฟนเขา”

“เอ…เอ่อ…แต่ว่า”

“แต่ว่า?”

“พี่เข้าใจว่าหนูกับยูมะมีความสัมพันธ์ที่ดีถึงขนาดนั้น..ก็รู้สึกดีใจนิดหน่อยค่ะ”

“..ตายแล้ว นี่ยุยจังมาที่นี่เพื่อเอาน้ำตาลมาฆ่าพี่ใช่มั้ย น่ารักเกินไปแล้ว ใจเย็นก่อนตัวชั้น! ใจเย็นก่อน!”

ถึงแม้น้ำเสียงเนเน่จะดูล้อเล่นแต่มือเธอยังไม่หยุดตัดผมยุย

ถึงจะมีนิสัยที่ดูเพี้ยนไปนิด แต่เรื่องฝีมือเนเน่ก็ต้องยอมรับเจ๋งตามคำคุย 

“อุตส่ามีผมที่สวยขนาดนี้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองมีของดี ไม่คิดว่ามันน่าเสียดายเหรอ หน้าตาก็ดีเซนส์เรื่องแต่งกายก็ไม่แย่  พี่อาจจะพูดล้ำเส้นนิดนึง แต่ไม่คิดว่าเราเกลียดตัวเองในเรื่องที่ไม่เป็นจริงเหรอ”

“อ๊ะ..เอ่อ…ค่ะ”

“อย่าเกลียดในสิ่งที่ไม่เป็นจริงดีกว่านะ สาวน้อยบริสุทธ์อย่างเราเข้มแข็งมากกว่าที่คิดนะ”

“แต่ว่า..หนูแปลก..จริงๆนะ”

ยุยพูดจบสักพัก เนเน่กอดยุยจากด้านหลัง

หากสัมผัสตอนแรกที่เนเน่กอดเป็นความรู้สึกทะเล้นเอาฮา สัมผัสตอนนี้ของเนเน่เป็นสัมผัสอ้อมกอดที่สื่อถึงความเป็นแม่ที่ปลอบประโลมลูกน้อยอย่างอ่อนโยน

“เน่ ยุยจัง? จากสายตาของยุยจัง เห็นพฤติกรรมพี่ที่ผ่านมา หนูคิดว่าพี่เป็นคนแปลกมั้ย”

“เอ๋..เอ่อ…คือ…”

“ตอบมาตรงๆได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ไม่ว่าจะตอบอะไรพี่ไม่ว่าแน่นอน”

ยุยทำท่าลังเลพักหนึ่ง ก่อนค่อยๆเอ่ยปาก

“คิดว่า…เท่ไปเลย..มากกว่าค่ะ”

“จริงเหรอ”

“ใช่ค่ะ ทั้งความรู้สึกรักตัวเอง แถมเปิดกิจการเป็นของตัวเองด้วย พี่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ”

“ฮะฮะ ยุยไม่รู้อะไรซะแล้ว”

เนเน่กล่าวจบลูบหัวยุยอย่างอ่อนโยน

“ยุยจัง การเปลี่ยนแปลงตัวเองมันต้องผ่านอะไรหลายอย่าง คิดแบบนี้รึเปล่า”

“…”

คำพูดที่เข้มแข็งน้ำเสียงไม่มีความลังเล  ยุยรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงนั้น

 เนเน่นึกถึงอดีตตัวเอง เมื่อก่อนไม่ได้เป็นคนขี้เล่นแบบนี้แต่แรก กลับกัน เธอถูกที่บ้านอบรบมาให้เป็นคนจริงจังกับชีวิต ทว่า เธอชอบคอสเพลย์มาก แต่ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้ใครรู้

โชคร้ายมีวันหนึ่งความลับแดงออกมา พ่อแม่รู้เข้าเลยทะเลาะกันบ้านแตก  สุดท้ายเนเน่เลือกที่จะหนีออกจากบ้าน

เนเน่มีประสบการณ์แย่ๆจากครอบครัวมาแล้ว เธอถึงรู้ว่า เด็กจะพึ่งพาคนที่ไว้ใจได้ รับฟังได้ทุกเรื่อง ยิ่งเป็นคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมากเท่าไร เขายิ่งต้องมีผู้รับฟังที่ไว้ใจได้มากขึ้นเท่านั้น

..หลังจากหนีออกจากบ้านได้สักพักหนึ่ง เธอก็เริ่มทำงาน เปิดร้านเล็กๆด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวคนเดียว ผ่านมาหลายปี เธอถึงเริ่มประสบความสำเร็จ ขยายขนาดร้านและมีสาขาเพิ่ม

“อยากให้ยุยมีความมั่นใจมากขึ้นกว่านี้ มีผมที่สวยจนหลายคนอิจฉาแท้ๆ  อย่าไปคิดว่าเป็นปมด้อยนะ”

“อื..อืม”

“ยิ่งไปกว่านั้น ยุยยังมียูคุงเป็นเพื่อน  ฉะนั้นหนูต้องกล้าอวดตัวเองได้เต็มปากเต็มคำด้วยว่าชั้นเจ๋งจริงถึงมีเขาเป็นเพื่อนนะ”

“อืม..”

ยุยพยักหน้าเล็กน้อย เขินหน้าแดง ก้มหน้าหลบตาไม่ให้ยูมะเห็นสีหน้าเธอตอนนี้

แม้ว่าจะเขิน แต่เธอก็ยังส่งเสียงหัวเราะดีใจเล็กๆ

“โอ้ยยยตายแล้ว หัวเราะได้น่ารักน่าชังมาก  นานๆพี่จะเข้าโหมดจริงจังได้สักที แต่เจอยุยหัวเราะแบบนี่พี่คงสภาพไม่ได้ละ ฮะฮะ ขอบคุณยูคุงมากนะที่พามาให้เห็นของดีแบบนี้”

“ผมก็ต้องขอบคุณเรื่องวันนี้ด้วยครับ อุตส่าเปิดร้านจัดต้อนรับผมซะเล่นใหญ่โตเลย”

 

 

***

 

จบCH5-3

 

พี่สาวที่สวยและเก่งแบบนี้ไม่แปลกใจที่ใครจะชอบนะ 55  

 

ช่วงนี้แปลได้น้อยเพราะต้องไปเรียนงานกูเกิ้ลแอด เลยอัพเนื้อหาได้น้อยลง แต่สัญญาว่าจะอัพเดทให้ทุกวันนะครับผม

 

กลับมาวนช่วงแก้ปัญหาน้องยุยต่อ คราวนี้ผ่านฝีมือคุณพี่บ้าง มาดูกันว่าจะเป็นไงนะครับ

 

 ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+