LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 16.2

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 16.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่าน Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend  『ずっと友達でいてね』と言っていた女友達が友達じゃなくなるまで  CH16-2  ข้าวกล่องกับความมุ่งมั่น

 

ตอนนี้ทั้งยุยและยูมะล้วนหน้าแดงทั้งคู่  อาสึกะที่สังเกตอยู่ด้านข้าง ลอบยิ้มกล่าว

“อ๊ะ พอดึนึกขึ้นได้ว่าชั้นกับนาโกะคุงมีธุระพอดี  พวกเธอล่วงหน้าไปดาดฟ้าก่อนเลยละกันนะ”

“หือ? อาสึกะ ผมไม่ได้มีธุระอะไร…”

“บอกว่ามีก็มีน่า เอ้า สุงิซากคุงกับยุยจังรีบล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ อ้อถ้าเจอที่นั่งก็นั่งไปก่อนเลยไม่ต้องรอจองที่ก็ได้นะ”

“อ..อืม”

อาสึกะดันหลังยูมะเป็นเชิงให้พวกนั้นรีบไปได้แล้ว

และแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นมาบนดาดฟ้า

“เอ่อ ขอบคุณกล่องข้าวนะ”

“อ..อืม”

 

 

“……”

“……”

ตั้งแต่ทั้งสองคนเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าแทบไม่ได้คุยอะไรเลย เพราะความเขินจัด

ยูมะเปิดประตูดาดฟ้า  รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นสดชื่น  วันนี้อากาศดีแสงแดงไม่แรงจัดเหมาะแก่การกินข้าวมาก

ด้วยความที่ยูมะเพิ่งเคยขึ้นมาครั้งแรกเลยมองไปรอบๆเพื่อสังเกต พบว่า มีนักเรียนบางคนอยู่ด้วย  บางคนก้รวมเป็นกลุ่มให้ความรู้สึกเหมือนมาปิคนิคกัน

แต่จะว่าไป…

(….บนดาดฟ้านี้มีคู่รักเยอะเหมือนกันนี่หว่า จะบอกว่าที่นี่เป็นจุดเดทสำหรับนักเรียนก็ว่าได้)

พอยูมะคิดจบก็เกิดอาการเขิน

(จะว่าไป คนภายนอกมองพวกเราเป็นคู่รักเหมือนคู่อื่นรึเปล่านะ)

ยูมะเหลือบตาไปมองยุย คิดว่าเธอเองก็คิดแบบเดียวกับเขา เธอหน้าแดง และก้มหน้ามองพื้นคาดว่าคงอายเพราะความเขิน

“เอ่อ…ยุย”

“หือ..มีอะไรเหรอ”

“เดี๋ยวชั้นเดินไปซื้อน้ำผลไม้กระป๋องให้นะ”

“อืม ฝากด้วยนะ”

ยุยนั่งรอที่ม้านั่งตัวหนึ่ง ส่วนยูมะเป็นคนเดินไปซื้อน้ำผลไม้ก่อนจะกลับมายังม้านั่ง

“…ดูท่าว่าพวกนาโกะคงยังไม่มา เราทานกันก่อนเลยดีมั้ย”

“อืม”

ยูมะหยิบกล่องข้าวยุย เปิดมาดู กับข้าวในกล่องคือ แฮมเบิร์กเมนูเดียวกับที่เคยกินตอนไปค้างบ้านยุย

“ครั้งก่อนตอนยูมะค้างที่่บ้าน เธอบอกว่าเมนูนี้อร่อยเลยทำมาให้ทานน่ะ”

“ง..งั้นเหรอ งั้นก็ขอทานเลยนะครับ”

ยูมะเอาส้อมตัดเนื้อ จิ้มเข้าปาก

เนื่องจากว่าอาหารไม่ได้กินทันทีหลังปรุงเสร็จใหม่ๆ เมื่อตัดจึงไม่มีน้ำจิ้มเนื้อทะลักออกมา ทว่ารสชาติอาหารก็ยังดี แถมดูเหมือนว่ายุยจะเปลี่ยนสูตรการปรุง เพราะครั้งนี้สัมผัสได้ถึงความอร่อยรสซอสมากกว่าเก่า 

“ป..เป็นไงบ้าง”

“อร่อยมากครับ นี่พูดใจจริงนะไม่ได้ยอ”

“จริงเหรอ ดีใจจัง”

ยุยดีใจมากจริง จนเป่าปากออกมาด้วยความโล่งใจ  สักพักเธอเริ่มทานกล่องข้าวเธอเอง

“…เอ่อ ยูมะ คือว่า…ถ้ายูมะไม่รังเกียจ ตั้งแต่วันนี้ขอให้ชั้นเป็นคนทำข้าวกล่องให้เธอทานทุกวันได้มั้ย”

“เอ๋? เอ่อ เธอไม่ลำบากแย่เหรอ ในจะค่าวัตถุดิบกับค่าเสียเวลาทำเพิ่มอีกกล่องน่ะ”

“ไม่ลำบากหรอก  ทำอาหารมันก็แค่เพิ่มมาอีกชุดเดียวเอง สบายมาก ส่วนเรื่องค่าอาหารก็ไม่ต้องกังวลเพราะพ่อกับแม่เป็นคนพูดออกมาเองว่า (ตามสบายเลย)  เพราะฉะนั้น ถ้าชั้นทำกับข้าวให้ทุกวัน มันก็เหมือนชั้นได้ทดแทนบญคุณด้วย หากเธอยอมรับข้อเสนอนี้ชั้นจะดีใจมากๆเลย”

ก็สมเป็นยุยจริงๆ ยังคิดเรื่องทดแทนบุญคุณถึงตอนนี้เลย

ถามว่ามีคนทำข้าวกล่องมาให้มันชอบมั้ย ตอบตรงๆเลยว่าชอบและขอบคุณงามๆ แถมคนทำยังเป็นยุย ที่บอกจากปากเองตะกี้ว่าถ้ารับข้อเสนอเธอจะดีใจมาก ฉะนัั้นก็ไม่มีเหตุผลข้อไหนที่ต้องปฏิเสธเรื่องนี้

“..เข้าใจแล้วครับ งั้นต่อจากนี้ขอความกรุณาด้วยนะครับ”

“พ…พูดจริงนะ? แหะแหะแหะ ขอบคุณนะ♥”

“เรื่องทำอาหารให้เพื่อตอบแทนบุญคุณ อันนี้ชั้นไม่ติดขัดอะไร แต่อย่างน้อยเรื่องค่าอาหารวัตถุดิบ ขอให้ชั้นช่วยเธอออกละกัน เพราะปกติก็ได้ค่าขนมจากเนเน่อยู่แล้ว”

ยูมะพูดจบ หยิบเงินยื่นให้ยุย

“จริงๆไม่ต้องให้ก็ได้ แล้วก็เงินที่ให้มามันเยอะกว่าค่าวัตถุดิบอีกนะ”

“ส่วนเกินถือว่าแทนความรู้สึกซึ้งใจของชั้นละกัน “

ยุยมองเงินในมือที่ยูมะมอบให้ ก่อนจะเงยหน้าสบตายูมะ

“…ถ้าอย่างนั้น..เอาเงินส่วนนี้ ….เป็นเงินออมเฉพาะของพวกเราสองคนมั้ย”

“หือ?”

“พ่อกับแม่ชั้นบอกแล้วว่าไม่ต้องออกก็ได้ ชั้นเลยคิดว่าค่าส่วนเกินตรงนี้เอาเป็นเงินออมไว้เวลาเราไปทำกิจกรรมร่วมกันน่าจะดีกว่าน่ะ”

“ม่า ถ้าเธอพูดถึงขนาดนั้นชั้นก็ไม่มีอะไรจะแย้ง  แต่จะว่าไปกิจกรรมร่วมนี่ จะไปเที่ยวเน็ตคาเฟ่อีกเหรอ”

“อืม…เน็ตคาเฟา่มันก็ดี แต่ถ้ายูมะมีที่ๆชอบและอยากพาชั้นไป ชั้นก็ยินดี เพราะถ้าไปด้วยกันกับยูมะยังไงก็ต้องสนุกแน่นอน”

“เข้าใจแล้ว”

“…อืม….”

“…อืม..”

ทั้งคู่กลับมาเงียบอีกพักหนึ่ง ยุยก้มหน้านิ่งซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเอง

“…เป็นอะไรเหรอ”

“…คือว่า”

ยุยอ้าปากพะงาบๆพักหนึ่ง ก่อนจะฮึด เงยหน้ามองยูมะ รวบรวมความกล้าพูดออกมา 

“ชั้นตั้งตารอจะได้ไปเดทกับยูมะนะ”

ทันทีที่พูดออกมาจบ ยุยรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นรัวแทบกระดอนออกปาก ดูเหมือนว่าความเขินจะพุ่งถึงขึดสุด เธอเลยใช้วิธีเบนสายตาไปมองกล่องข้าว  กินข้าวที่เหลือต่อ

ยูมะเองก็ทานข้าวต่อ แต่ภายในใจยังคิดถึงเรื่องยุยเต็มหัว

ตะกี้จะบอกว่า ยุยชวนเราออกเดท ใช่มั้ยฟะ

แล้วที่ดูท่าทางเธอตะกี้ ก็ไม่ใช่คำพูดและท่าทางชวนเดทเพราะอยากตอบแทนบุญคุณหรือฝืนใจพูดซะด้วย

ยูมะพยายามจะคิดไปในทางที่ดี แต่พอนึกขึ้นได้ว่า เธอเป็นคนบอกเองว่าให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไป  มันก็หน้าแห้ง สงสัยกุคงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแล้ว

“เอ่อ… ยูมะ … เธอจ้องชั้นตอนทานข้าวตลอด มันเขินน่ะ”

เอ้า สรุปว่ากินข้าวคำเดียว ที่เหลือดันมัวแต่เหม่อจ้องยุยเพราะคิดถึงเรื่องเธอเต็มหัว  ยูมะรีบเบนสายตาหนี

“เอ่อ..คือว่า..ชั้นเพิ่งเห็นว่าน้ำผลไม้ที่เธอดื่ม ชั้นยังไม่เคยทานมาก่อน เลยสงสัยว่ารสชาติมันเป็นไงบ้าง”

“ถ้างั้น..ถ้างั้น…”

ยุยมีท่าทางลังเล ก่อนจะตัดสินใจยื่นหลอดที่คาอยู่ที่น้ำกระป๋อง มือหนึ่งจับหลอด ยื่นไปแถวปากยูมะ 

“ลองดื่มสักนิดมั้ย”

“…….เอ๋”

ยูมะตัวแข็งทื่อกับข้อเสนอที่ไม่คาดฝัน

“เอ่อ…คือ..ดื่มได้จริงเหรอ ไม่รังเกียจจริงนะ”

“ชั้นไม่รังเกียจอยู่แล้ว…หรือ..ยูมะ…รังเกียจเหรอ”ฃ

“ชั้นก็ไม่รังเกียจหรอก..”

ม่า เอาเหอะ เพื่อนสนิทกันดูดน้ำหลอดเดียวกันมีให้เห็นบ่อยไป

ยุยเขยิบตัวเข้ามาใกล้ยูมะเพื่อจะได้ป้อนถนัด  

แล้วตะกี้เธอก็บอกอยู่ว่าไม่รังเกียจด้วย 

มันจะรออะไรล่ะ ดูดสิโว้ย………

อ้ากกกก ใจมันอยากแต่ตูไม่กล้าโว้ย 

ดูหน้ายุยตอนนี้แล้วกุเครียดเลย หน้าแดงแป้ดเต็มสูบ ดุยังไงก็เขินสุดๆเลยนี่หว่า ไม่ว่าอะไรจริงเหรอฟะ

กระนั้น ยุยยังคงยื่นหลอดมาแถวปากยูมะด้วยมือสั่นเทา เม้มปากแน่น

“……อืม วันนี้ไม่ดีกว่าครับ พอดีว่าชั้นเจ็บคอน่ะเลยกินไม่ได้”

“ง..งั้นเหรอ”

ยุยแสดงท่าทีเสียดาย ก่อนจะเขยิบกลับไปนั่งที่เดิม

ถามว่ายูมะเสียดายมั้ย เสียดายมาก แต่ว่าท่าทางของยุยมันแปลกทั้งวัน จนกว่าจะคลายข้อสงสัย เขาขอเลือกเพลย์เซฟไม่เสี่ยงดีกว่า

อย่างน้อย สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ ยุย ความใกล้ชิด  วันนี้ยุยเป็นฝ่ายเข้าหาเขามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

แต่ว่ายุยมีจุดประสงค์อะไร เขาไม่รู้ แต่ที่แน่ๆฟีลลิ่งที่เธอบอกว่า จากนี้ให้เป็นเพื่อนกันตลอดไป ถ้าเอาแค่วันนี้ล้วนๆ ยูมะค่อนข้างมั่นใจว่า วันนี้เธอไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาเพราะอยากเป็นแค่เพื่อนแน่

เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับยุยมันมีความสุข แม้จะทุกข์บ้างในบางครั้ง แต่ก็ยังมีความสุขมากกว่า อยากโอบกอดเธอ อยากให้เธอเป็นคนรักของเรา ความรู้สึกนี้มันเอ่อล้นเรื่อยๆ

“…เอ่อ ยุย”

“หือ?”

“หรือว่าตอนนี้ จริงๆแล้วเธอเริ่มคิดกับชั้นในฐานะ……”

ยูมะตัดสินใจจะถามความรู้สึกของยุยอีกรอบ ทว่า

ตึงตึ๊ง

โทรศํพท์ของยุยกับยูมะส่งเสียงดังพร้อมกัน

เอ้า อะไรมาขัดจังหวะวะ แต่ดันมาพร้อมกับโทรศัพท์ยุยซะด้วย ยูมะคิดว่าบรรยากาศไม่ดีพอละ เลยหยิบโทรศัพท์มาดุว่าเกิดอะไรขึ้น

โทรศัพท์หน้าจอแจ้งเตือนว่า เกมแกรนด์เกท ประกาศอัพเดทใหญ่ล่าสุด 

***สรุปรวดรัดละกันนะครับ จากผู้แปล

แน่นอนว่า ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคอเกม พอเจอข่าวอัพเดท เลยลืมเรื่องที่เกิดขึ้น หันมาคุยข้อมูลเกมแทนอย่างออกรส เช่นปรับสมดุลตัวละคร สกิล ใหม่ สิ่งแวดล้อม 

“ที่เหลือก็พวกแก้บั้กเนอะ”

“ไม่แน่ใจ ขอเลื่อนดุให้จบก่อนละกัน อ๊ะ….”

ยุยที่กำลังเลื่อนหน้าจอดูข้อมูลอย่างเพลิดเพลิน จู่ๆก็ชะงักกึกตัวแข็งทื่อ

ยูมะเห็นสภาพยุยเลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น ลองเลื่อนหน้าจอดูข้อมุลต่อบ้าง แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าเพราะอะไร

หน้าจอมือถือโชว์ข้อความว่า

เกมส์เพิ่มระบบใหม่เข้ามา ระบบแต่งงาน

ระบบนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกันเอง  หากใครชอบ อยากมีความสัมพันธ์กับใครมากเป็นพิเศษ สามารถยื่นคำขอแต่งงานกับเพลยเยอร์อีกฝั่งได้ โดยคนที่แต่งงานกัน จะพักอยู่ที่เดียวกัน แชร์หีบสมบัติ ไอเท็ม และเงินที่มี  นอกจากนี้ ทั้งคู่สามารถคลอดลูก  และพาลูกที่เป็นNPC พาไปผจญภัยด้วยกันในเกม

….เอาจริงๆระบบเกมนี้ก็เคยเห็นในเกมออนไลน์อื่น ก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่ว่า

(แต่งงานกับยุย….)

ถึงระบบในเกมจะบอกชัดว่า แต่งงานกันมันมีข้อดีมาก ถ้าสมมติเป็นเพื่อนทั่วไปคงไม่คิดมาก บอก เรามาแต่งงานกันเถอะ  แค่นี้ก็จบละ

แต่อันนี้มันไม่ใช่อะ นี่มันยุย  จะพูดขอแต่งงานตอนนี้ มันจะดูขอไปทีรึเปล่าวะ

เอาไงดีวะทีนี้…..

 

***

จบ CH16.2

ตอนหน้าต้าวยุยของเราจะรุกหนักกว่านี้อีก บอกเลยว่าใครชอบนางเอกโหมดปลดล็อคต้องอ่านครับ รุกหนักจนเนเน่กุมขมับ ต้องออกมาตรการเฉพาะให้ยูมะเลย  มาตรการมันคืออะไร มารอลุ้นตอนหน้านะครับ

 

ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 16.2

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 16.2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อ่าน Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend  『ずっと友達でいてね』と言っていた女友達が友達じゃなくなるまで  CH16-2  ข้าวกล่องกับความมุ่งมั่น

 

ตอนนี้ทั้งยุยและยูมะล้วนหน้าแดงทั้งคู่  อาสึกะที่สังเกตอยู่ด้านข้าง ลอบยิ้มกล่าว

“อ๊ะ พอดึนึกขึ้นได้ว่าชั้นกับนาโกะคุงมีธุระพอดี  พวกเธอล่วงหน้าไปดาดฟ้าก่อนเลยละกันนะ”

“หือ? อาสึกะ ผมไม่ได้มีธุระอะไร…”

“บอกว่ามีก็มีน่า เอ้า สุงิซากคุงกับยุยจังรีบล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ อ้อถ้าเจอที่นั่งก็นั่งไปก่อนเลยไม่ต้องรอจองที่ก็ได้นะ”

“อ..อืม”

อาสึกะดันหลังยูมะเป็นเชิงให้พวกนั้นรีบไปได้แล้ว

และแล้วทั้งคู่ก็ขึ้นมาบนดาดฟ้า

“เอ่อ ขอบคุณกล่องข้าวนะ”

“อ..อืม”

 

 

“……”

“……”

ตั้งแต่ทั้งสองคนเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าแทบไม่ได้คุยอะไรเลย เพราะความเขินจัด

ยูมะเปิดประตูดาดฟ้า  รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นสดชื่น  วันนี้อากาศดีแสงแดงไม่แรงจัดเหมาะแก่การกินข้าวมาก

ด้วยความที่ยูมะเพิ่งเคยขึ้นมาครั้งแรกเลยมองไปรอบๆเพื่อสังเกต พบว่า มีนักเรียนบางคนอยู่ด้วย  บางคนก้รวมเป็นกลุ่มให้ความรู้สึกเหมือนมาปิคนิคกัน

แต่จะว่าไป…

(….บนดาดฟ้านี้มีคู่รักเยอะเหมือนกันนี่หว่า จะบอกว่าที่นี่เป็นจุดเดทสำหรับนักเรียนก็ว่าได้)

พอยูมะคิดจบก็เกิดอาการเขิน

(จะว่าไป คนภายนอกมองพวกเราเป็นคู่รักเหมือนคู่อื่นรึเปล่านะ)

ยูมะเหลือบตาไปมองยุย คิดว่าเธอเองก็คิดแบบเดียวกับเขา เธอหน้าแดง และก้มหน้ามองพื้นคาดว่าคงอายเพราะความเขิน

“เอ่อ…ยุย”

“หือ..มีอะไรเหรอ”

“เดี๋ยวชั้นเดินไปซื้อน้ำผลไม้กระป๋องให้นะ”

“อืม ฝากด้วยนะ”

ยุยนั่งรอที่ม้านั่งตัวหนึ่ง ส่วนยูมะเป็นคนเดินไปซื้อน้ำผลไม้ก่อนจะกลับมายังม้านั่ง

“…ดูท่าว่าพวกนาโกะคงยังไม่มา เราทานกันก่อนเลยดีมั้ย”

“อืม”

ยูมะหยิบกล่องข้าวยุย เปิดมาดู กับข้าวในกล่องคือ แฮมเบิร์กเมนูเดียวกับที่เคยกินตอนไปค้างบ้านยุย

“ครั้งก่อนตอนยูมะค้างที่่บ้าน เธอบอกว่าเมนูนี้อร่อยเลยทำมาให้ทานน่ะ”

“ง..งั้นเหรอ งั้นก็ขอทานเลยนะครับ”

ยูมะเอาส้อมตัดเนื้อ จิ้มเข้าปาก

เนื่องจากว่าอาหารไม่ได้กินทันทีหลังปรุงเสร็จใหม่ๆ เมื่อตัดจึงไม่มีน้ำจิ้มเนื้อทะลักออกมา ทว่ารสชาติอาหารก็ยังดี แถมดูเหมือนว่ายุยจะเปลี่ยนสูตรการปรุง เพราะครั้งนี้สัมผัสได้ถึงความอร่อยรสซอสมากกว่าเก่า 

“ป..เป็นไงบ้าง”

“อร่อยมากครับ นี่พูดใจจริงนะไม่ได้ยอ”

“จริงเหรอ ดีใจจัง”

ยุยดีใจมากจริง จนเป่าปากออกมาด้วยความโล่งใจ  สักพักเธอเริ่มทานกล่องข้าวเธอเอง

“…เอ่อ ยูมะ คือว่า…ถ้ายูมะไม่รังเกียจ ตั้งแต่วันนี้ขอให้ชั้นเป็นคนทำข้าวกล่องให้เธอทานทุกวันได้มั้ย”

“เอ๋? เอ่อ เธอไม่ลำบากแย่เหรอ ในจะค่าวัตถุดิบกับค่าเสียเวลาทำเพิ่มอีกกล่องน่ะ”

“ไม่ลำบากหรอก  ทำอาหารมันก็แค่เพิ่มมาอีกชุดเดียวเอง สบายมาก ส่วนเรื่องค่าอาหารก็ไม่ต้องกังวลเพราะพ่อกับแม่เป็นคนพูดออกมาเองว่า (ตามสบายเลย)  เพราะฉะนั้น ถ้าชั้นทำกับข้าวให้ทุกวัน มันก็เหมือนชั้นได้ทดแทนบญคุณด้วย หากเธอยอมรับข้อเสนอนี้ชั้นจะดีใจมากๆเลย”

ก็สมเป็นยุยจริงๆ ยังคิดเรื่องทดแทนบุญคุณถึงตอนนี้เลย

ถามว่ามีคนทำข้าวกล่องมาให้มันชอบมั้ย ตอบตรงๆเลยว่าชอบและขอบคุณงามๆ แถมคนทำยังเป็นยุย ที่บอกจากปากเองตะกี้ว่าถ้ารับข้อเสนอเธอจะดีใจมาก ฉะนัั้นก็ไม่มีเหตุผลข้อไหนที่ต้องปฏิเสธเรื่องนี้

“..เข้าใจแล้วครับ งั้นต่อจากนี้ขอความกรุณาด้วยนะครับ”

“พ…พูดจริงนะ? แหะแหะแหะ ขอบคุณนะ♥”

“เรื่องทำอาหารให้เพื่อตอบแทนบุญคุณ อันนี้ชั้นไม่ติดขัดอะไร แต่อย่างน้อยเรื่องค่าอาหารวัตถุดิบ ขอให้ชั้นช่วยเธอออกละกัน เพราะปกติก็ได้ค่าขนมจากเนเน่อยู่แล้ว”

ยูมะพูดจบ หยิบเงินยื่นให้ยุย

“จริงๆไม่ต้องให้ก็ได้ แล้วก็เงินที่ให้มามันเยอะกว่าค่าวัตถุดิบอีกนะ”

“ส่วนเกินถือว่าแทนความรู้สึกซึ้งใจของชั้นละกัน “

ยุยมองเงินในมือที่ยูมะมอบให้ ก่อนจะเงยหน้าสบตายูมะ

“…ถ้าอย่างนั้น..เอาเงินส่วนนี้ ….เป็นเงินออมเฉพาะของพวกเราสองคนมั้ย”

“หือ?”

“พ่อกับแม่ชั้นบอกแล้วว่าไม่ต้องออกก็ได้ ชั้นเลยคิดว่าค่าส่วนเกินตรงนี้เอาเป็นเงินออมไว้เวลาเราไปทำกิจกรรมร่วมกันน่าจะดีกว่าน่ะ”

“ม่า ถ้าเธอพูดถึงขนาดนั้นชั้นก็ไม่มีอะไรจะแย้ง  แต่จะว่าไปกิจกรรมร่วมนี่ จะไปเที่ยวเน็ตคาเฟ่อีกเหรอ”

“อืม…เน็ตคาเฟา่มันก็ดี แต่ถ้ายูมะมีที่ๆชอบและอยากพาชั้นไป ชั้นก็ยินดี เพราะถ้าไปด้วยกันกับยูมะยังไงก็ต้องสนุกแน่นอน”

“เข้าใจแล้ว”

“…อืม….”

“…อืม..”

ทั้งคู่กลับมาเงียบอีกพักหนึ่ง ยุยก้มหน้านิ่งซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเอง

“…เป็นอะไรเหรอ”

“…คือว่า”

ยุยอ้าปากพะงาบๆพักหนึ่ง ก่อนจะฮึด เงยหน้ามองยูมะ รวบรวมความกล้าพูดออกมา 

“ชั้นตั้งตารอจะได้ไปเดทกับยูมะนะ”

ทันทีที่พูดออกมาจบ ยุยรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นรัวแทบกระดอนออกปาก ดูเหมือนว่าความเขินจะพุ่งถึงขึดสุด เธอเลยใช้วิธีเบนสายตาไปมองกล่องข้าว  กินข้าวที่เหลือต่อ

ยูมะเองก็ทานข้าวต่อ แต่ภายในใจยังคิดถึงเรื่องยุยเต็มหัว

ตะกี้จะบอกว่า ยุยชวนเราออกเดท ใช่มั้ยฟะ

แล้วที่ดูท่าทางเธอตะกี้ ก็ไม่ใช่คำพูดและท่าทางชวนเดทเพราะอยากตอบแทนบุญคุณหรือฝืนใจพูดซะด้วย

ยูมะพยายามจะคิดไปในทางที่ดี แต่พอนึกขึ้นได้ว่า เธอเป็นคนบอกเองว่าให้เราเป็นเพื่อนกันตลอดไป  มันก็หน้าแห้ง สงสัยกุคงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแล้ว

“เอ่อ… ยูมะ … เธอจ้องชั้นตอนทานข้าวตลอด มันเขินน่ะ”

เอ้า สรุปว่ากินข้าวคำเดียว ที่เหลือดันมัวแต่เหม่อจ้องยุยเพราะคิดถึงเรื่องเธอเต็มหัว  ยูมะรีบเบนสายตาหนี

“เอ่อ..คือว่า..ชั้นเพิ่งเห็นว่าน้ำผลไม้ที่เธอดื่ม ชั้นยังไม่เคยทานมาก่อน เลยสงสัยว่ารสชาติมันเป็นไงบ้าง”

“ถ้างั้น..ถ้างั้น…”

ยุยมีท่าทางลังเล ก่อนจะตัดสินใจยื่นหลอดที่คาอยู่ที่น้ำกระป๋อง มือหนึ่งจับหลอด ยื่นไปแถวปากยูมะ 

“ลองดื่มสักนิดมั้ย”

“…….เอ๋”

ยูมะตัวแข็งทื่อกับข้อเสนอที่ไม่คาดฝัน

“เอ่อ…คือ..ดื่มได้จริงเหรอ ไม่รังเกียจจริงนะ”

“ชั้นไม่รังเกียจอยู่แล้ว…หรือ..ยูมะ…รังเกียจเหรอ”ฃ

“ชั้นก็ไม่รังเกียจหรอก..”

ม่า เอาเหอะ เพื่อนสนิทกันดูดน้ำหลอดเดียวกันมีให้เห็นบ่อยไป

ยุยเขยิบตัวเข้ามาใกล้ยูมะเพื่อจะได้ป้อนถนัด  

แล้วตะกี้เธอก็บอกอยู่ว่าไม่รังเกียจด้วย 

มันจะรออะไรล่ะ ดูดสิโว้ย………

อ้ากกกก ใจมันอยากแต่ตูไม่กล้าโว้ย 

ดูหน้ายุยตอนนี้แล้วกุเครียดเลย หน้าแดงแป้ดเต็มสูบ ดุยังไงก็เขินสุดๆเลยนี่หว่า ไม่ว่าอะไรจริงเหรอฟะ

กระนั้น ยุยยังคงยื่นหลอดมาแถวปากยูมะด้วยมือสั่นเทา เม้มปากแน่น

“……อืม วันนี้ไม่ดีกว่าครับ พอดีว่าชั้นเจ็บคอน่ะเลยกินไม่ได้”

“ง..งั้นเหรอ”

ยุยแสดงท่าทีเสียดาย ก่อนจะเขยิบกลับไปนั่งที่เดิม

ถามว่ายูมะเสียดายมั้ย เสียดายมาก แต่ว่าท่าทางของยุยมันแปลกทั้งวัน จนกว่าจะคลายข้อสงสัย เขาขอเลือกเพลย์เซฟไม่เสี่ยงดีกว่า

อย่างน้อย สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ ยุย ความใกล้ชิด  วันนี้ยุยเป็นฝ่ายเข้าหาเขามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

แต่ว่ายุยมีจุดประสงค์อะไร เขาไม่รู้ แต่ที่แน่ๆฟีลลิ่งที่เธอบอกว่า จากนี้ให้เป็นเพื่อนกันตลอดไป ถ้าเอาแค่วันนี้ล้วนๆ ยูมะค่อนข้างมั่นใจว่า วันนี้เธอไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาเพราะอยากเป็นแค่เพื่อนแน่

เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับยุยมันมีความสุข แม้จะทุกข์บ้างในบางครั้ง แต่ก็ยังมีความสุขมากกว่า อยากโอบกอดเธอ อยากให้เธอเป็นคนรักของเรา ความรู้สึกนี้มันเอ่อล้นเรื่อยๆ

“…เอ่อ ยุย”

“หือ?”

“หรือว่าตอนนี้ จริงๆแล้วเธอเริ่มคิดกับชั้นในฐานะ……”

ยูมะตัดสินใจจะถามความรู้สึกของยุยอีกรอบ ทว่า

ตึงตึ๊ง

โทรศํพท์ของยุยกับยูมะส่งเสียงดังพร้อมกัน

เอ้า อะไรมาขัดจังหวะวะ แต่ดันมาพร้อมกับโทรศัพท์ยุยซะด้วย ยูมะคิดว่าบรรยากาศไม่ดีพอละ เลยหยิบโทรศัพท์มาดุว่าเกิดอะไรขึ้น

โทรศัพท์หน้าจอแจ้งเตือนว่า เกมแกรนด์เกท ประกาศอัพเดทใหญ่ล่าสุด 

***สรุปรวดรัดละกันนะครับ จากผู้แปล

แน่นอนว่า ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคอเกม พอเจอข่าวอัพเดท เลยลืมเรื่องที่เกิดขึ้น หันมาคุยข้อมูลเกมแทนอย่างออกรส เช่นปรับสมดุลตัวละคร สกิล ใหม่ สิ่งแวดล้อม 

“ที่เหลือก็พวกแก้บั้กเนอะ”

“ไม่แน่ใจ ขอเลื่อนดุให้จบก่อนละกัน อ๊ะ….”

ยุยที่กำลังเลื่อนหน้าจอดูข้อมูลอย่างเพลิดเพลิน จู่ๆก็ชะงักกึกตัวแข็งทื่อ

ยูมะเห็นสภาพยุยเลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น ลองเลื่อนหน้าจอดูข้อมุลต่อบ้าง แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าเพราะอะไร

หน้าจอมือถือโชว์ข้อความว่า

เกมส์เพิ่มระบบใหม่เข้ามา ระบบแต่งงาน

ระบบนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกันเอง  หากใครชอบ อยากมีความสัมพันธ์กับใครมากเป็นพิเศษ สามารถยื่นคำขอแต่งงานกับเพลยเยอร์อีกฝั่งได้ โดยคนที่แต่งงานกัน จะพักอยู่ที่เดียวกัน แชร์หีบสมบัติ ไอเท็ม และเงินที่มี  นอกจากนี้ ทั้งคู่สามารถคลอดลูก  และพาลูกที่เป็นNPC พาไปผจญภัยด้วยกันในเกม

….เอาจริงๆระบบเกมนี้ก็เคยเห็นในเกมออนไลน์อื่น ก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่ว่า

(แต่งงานกับยุย….)

ถึงระบบในเกมจะบอกชัดว่า แต่งงานกันมันมีข้อดีมาก ถ้าสมมติเป็นเพื่อนทั่วไปคงไม่คิดมาก บอก เรามาแต่งงานกันเถอะ  แค่นี้ก็จบละ

แต่อันนี้มันไม่ใช่อะ นี่มันยุย  จะพูดขอแต่งงานตอนนี้ มันจะดูขอไปทีรึเปล่าวะ

เอาไงดีวะทีนี้…..

 

***

จบ CH16.2

ตอนหน้าต้าวยุยของเราจะรุกหนักกว่านี้อีก บอกเลยว่าใครชอบนางเอกโหมดปลดล็อคต้องอ่านครับ รุกหนักจนเนเน่กุมขมับ ต้องออกมาตรการเฉพาะให้ยูมะเลย  มาตรการมันคืออะไร มารอลุ้นตอนหน้านะครับ

 

ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+