LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 21.3

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 21.3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยูมะทานข้าวรึยัง หาอะไรรองท้องสักหน่อยดีกว่านะ เดี๋ยวชั้นทำข้าวต้มให้เอามั้ย?”

 

หลังจากยูมะเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อย ยูมะได้ยินคำถามยุยตามนั้น

 

ตอนแรกเขาตั้งใจจะปฏิเสธ แต่ว่าพอดูสีหน้าของยุย ภาษากายเขียนชัดเจนว่า “ช่วยพึ่งพาชั้นให้มากกว่านี้นะ”

 

ยูมะจึงเปลี่ยนเป็นอ้อนเสียงหวานแทน

“งั้นรบกวนด้วยนะ เครื่องครัวใช้เองได้เลยตามสะดวกนะ”

 

“อืม รับทราบ”

 

ยุยกล่าวจบเดินออกจากห้อง  ยูมะได้ยินเสียงกุกกักจากในครัว ดูเหมือนว่ายุยจะเริ่มลงมือทำอาหารแล้ว

 

ระหว่างที่ได้ยินเสียง ยุมะเอนตัวลงนอน สายตาเหม่อมองเพดาน

 

ถ้าได้ไปช่วยเธอทำก็คงสนุกดีไม่น้อย แต่ว่าการรอเธอทำกับข้าวมาให้มันก็ไม่เลวนะ

 

ยุย เด็กผู้หญิงที่ผมชอบ กำลังทำกับข้าวให้ผม เพียงแค่คิดเท่านีั้ หัวใจยูมะก็รู้สึกคันยุบยิบแล้ว

 

“…จะว่าไป ยุยคงตั้งใจทำข้าวกล่องให้เราอยู่แล้วอะนะ”

 

ถึงตอนแรกเจ้าตัวจะบอกว่า “ส่วนของตัวเองชั้นทำเองมาตลอดอยู่แล้ว ถึงทำเพิ่มเป็นสองคนก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง”

 

แต่เท่าที่ดู อาหารที่ผมได้รับประทาน ดูจะมีการปรุงเป็นพิเศษมากกว่าของตัวเธอเอง คือรู้สึกได้ว่าเธอตั้งใจทำมาเพื่อผมแน่ๆไม่ใช่ทำเพิ่มของตัวเองล้วนๆ  พอเธอเห็นผมทานข้าวแล้วอุทานว่าอร่อยจัง เธอก็จะยิ้มด้วยคึวามดีใจ

 

วันคืนแบบนี้ถ้าเป็นไปได้ตลอดกาลก็คงจะดีนะ มันจะเป็นยังไงบ้างน้า

 

ยุยเตรียมข้าวเช้าให้ผม เราสองคนทานข้าวเช้าด้วยกัน  ตัวผมที่กำลังไปทำงาน มียุยกล่าวว่า “ไปดีมาดีนะ” มองส่งผมจนลับตา

 

(เชี่ย กุหลอนไปไกลละ)

 

สงสัยจินตนานการได้ขนาดนี้เพราะไข้ขึ้นแหงๆ

 

หลังจากคิดจบ ยุยเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมชามข้าว

 

“ยูมะ ขอโทษที่ทำให้รอนะ”

 

“อืม ขอบคุณนะ ..หือ นี่มัน? ทำไมสีมันขาวจัง”

“อ้อ ชั้นใส่นมวัวในตู้เย็นลงไป มันคือเมนูข้าวต้มนมสด ปกติเวลาที่ชั้นไม่สบาย แม่ชั้นจะทำเมนูนี้ให้ทานค่ะ”

 

ยุยกล่าวพลางคลุกข้าวต้มให้ทั่วถึง ใช้ช้อนตักขึ้นมา เป่าปากฟู่ๆ ก่อนที่จะ

“นี่ค่ะ อ้ามมมมม”

 

“…..”

 

พอเจอคำว่าอ้ามเข้าไป พฤติกรรมยูมะกับยุยไหลลื่นเป็นธรรมชาติอ้าปากรับข้าวต้มที่ี่ยุยป้อนให้โดยไม่ได้กล่าวขัดคอ

 

เวลาผ่านไปพักนึง เหมือนยุยเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป คราวนี้เธอเริ่มมือไม้สั่นละ

 

“เอ้่อ คือว่า ..ชั้น..ปกติตอนร่างกายอ่อนแอ ก็ต้องมีคนป้อนให้ ชั้นเลยทำไปเองตามปกติ…เพราะงั้น..คำต่อไปเชิญค่ะ”

 

(ป้อนต่อจริงดิ..)

 

ถึงยูมะจะคิดแบบนั้น แต่ก้ไม่ได้ปฏิเสธการป้อนข้าวยุยแต่อย่างใด

 

ยุยตักข้าวอีกคำป้อนให้ยูมะ

 

“รสชาติเป็นไงบ้าง”

 

“..อร่อยสุดๆเลย”

 

“ฮะฮะ ดีจังเลย”

 

ยูมะยิ้มดีใจกับคำพูดของยูมะ

 

คราวนี้ก็เริ่มป้อนรัวๆละ ทุกครั้งที่ทานข้าวที่ยุยป้อน ร่างกายยูมะรู้สึกมีพลัง ร่างกายฟื้นฟูขึ้นมา

 

“ฮืมฮืมฮืม”

 

“..มีอะไรรึเปล่านิ”

 

“คือว่า ยูมะน่ารักจังเลย”

 

“เอ่อ ผู้ชายโดนผุ้หญิงชมว่าน่ารักมันก็ทะแม่งๆนะ”

 

“ฮะฮะ ขอโทษนะ คิดว่าอนาคตถ้าชั้นมีลูก ความรู้สึกมันจะเป็นแบบนี้นี่เอง”

 

“ม่า ดูแล้วเธอคงเป็นคุณแม่ขี้เห่อลูกมากๆด้วย”

 

“อืม ชั้นเองก็คิดแบบนั้น  แหะแหะแหะ ถ้าลูกหน้าเหมือนยูมะก็ดีสิ”

 

หลังจากยุยกล่าวจบพักนึง เหมือนเธอเพิ่งรู้ตัวว่าพูดจาน่าอายออกไป หน้าเธอแดงแป๊ด รีบกล่าว “ม..ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ”

 

“คำพูดที่ชั้นบอกตะกี้มัน…มัน…มันคือ…เอ่อ….”

 

“ผ..ผมเข้าใจ..ผมเข้าใจครับ”

 

“…..”

 

“…..”

 

หลังจากนี้ ทั้งคู่เงียบกริ้บ ต่างฝ่ายต่างหน้าแดงก่ำขณะที่กินข้าวต้ม

 

หลังจากกินเสร็จ ผมบอกว่าเดี๋่ยวจะนอนแล้ว ยุยเก็บถ้วยเดินออกจากห้องไป

 

….ไอ้คำพูดที่ยุยบอกตะกี้เรื่องลูก ถึงปากผมจะบอกเข้าใจ แต่จริงๆแล้วไม่เข้าใจหรอก มันหมายความในทางที่ดีใช่มั้ยนะ

 

หัวใจยูมะเต้นระรัว บางที อย่าบอกนะว่า…

 

โอ้ยยย คิดมากกว่านี้ไม่ไหวละครับ คิดเองเขินเอง ไม่ฝืนคิดต่อละ  ยูมะตัดสินใจหลับดีกว่า

 

……

 

“…..ยูมะหลับแล้วเหรอ”

 

หลังจากนั้นไม่นาน ยุยกลับมาที่ห้อง พูดเสียงเบา

 

เธอไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากยูมะ มีเพียงเสียงลมหายเข้าใจออกเป็นจังหวะ

 

“…..”

 

ยุยโน้มหน้าตัวเองเข้าไปใกล้หน้ายูมะ สังเกตหน้าเขาตอนกำลังหลับ มองมุมไหน ใบหน้าเขาก็น่ารักไปหมดเลย

 

แล้วตะกี้..คำพูดของเขา ชั้นยังคิดถึงมันอยู่

 

(ดูแล้วเธอคงเป็นคุณแม่ขี้เห่อลูกมากๆด้วย) พอเจอคำพูดนี้เข้าไป ชั้นเลยนึกถึงลูกชั้นเองที่หน้าตาน่ารักที่มีส่วนผสมเค้าหน้ายูมะซะงั้น

 

(ชั้นเองก็อาการหนักซะแล้วสิ)

 

ยังไม่ได้คบหาเป็นแฟนแท้ๆแต่ดันคิดไปไกลซะขนาดนี้

 

“….”

 

ยุยมองซ้ายขวาสำรวจห้องยูมะ

 

ทีนี่คือห้องยูมะ ห้องของเด็กผู้ชายที่ชั้นชอบ

 

ครั้งก่อนที่มา ห้องนี้ถูกเก็บกวาดทำความสะอาดอย่างดี แต่วันนี้เป็นการมาเยี่ยมกระทันหัน สภาพห้องเลยออกจะรกนิดหน่อย ทั้งเสื้อที่กองกับพื้นและการ์ตูนวางระเกะระกะ ให้ความรู้สึกว่านี่คือการใช้ชีวิตของยูมะมันเป็นแบบนี้

 

พอคิดแล้วเล่นเอาตื่นเต้นขึ้นมา เธอรู้สึกเหมือนได้รุกล้ำเข้าในพื้นที่ส่วนตัวของเขาของจริง

 

แถมตอนนี้สภาพยูมะอ่อนแอกว่าเดิม ทำให้เขาพึ่งพาชั้นมากกว่าปกติ

 

การที่คิดแบบนี้กับคนป่วยมันไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าหัวใจเธอตุ้มต่อม

 

(หน้าตาเขาตอนหลับน่ารักจัง)

 

ปกติเธอรู้สึกว่ายูมะเป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้ทั้งที่ทั้งคู่อายุ 15 เท่ากัน

 

การได้เห็นสีหน้าตอนหลับ และได้ดูแลเขาแบบนี้มันให้ความรุ้สึกเหมือนชั้นเป็นมารดาเลย

 

ยุยวางมือบนหัวยูมะก่อนจะลูบอย่างอ่อนโยนเพื่อไม่ให้เขาตื่น ปกติมีแต่ยูมะเป็นคนลูบหัวเธอ แต่พอครั้งนี้เธอได้ลูบหัวเขาบ้าง มันรู้สึกมีความสุขมากๆ

 

ตอนนี้เธอนึกย้อนไปถึงสมัยเด็กตอนเธอป่วยแล้วแม่คอยดูแล

แล้วมาตอนนี้เป็นเธอบ้างที่เป็นฝ่ายดูแลผู้ชายที่เธอชอบ  ไม่นึกฝันเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นจริง

 

พูดถึงตอนเฝ้าไข้คนป่วยแล้ว…

 

ตอนเด็กๆ เวลาที่ชั้นป่วย คุณแม่จะจุ๊บแก้มและกล่าวอวยพร ขอให้หายป่วยไวๆนะ

 

..พอคิดแล้วหัวใจมันเต้นตึกตัก เพราะว่าตัวเองกำลังคิดจะทำเรื่องสุดยอดอย่างนั้นบ้าง

 

เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ยูมะมากกว่าเก่า

 

“ยูมะ ยังหลับอยู่..สินะ”

 

ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ

 

ยุยดูยูมะที่ยังคงหายใจเข้าออกเป้นจังหวะ ความรู้สึกรักใคร่ จู่ๆเริ่มก่อตัวขึ้นจนใจเต้นรัว ในหัวบอกว่าชั้นควรจะหยุดการกระทำที่ชั้นจะทำต่อจากนี้ แต่ว่าร่างกายกลับไม่อยากจะปฏิบัติตามเพราะความรักมันเอ่อล้นไปตามร่างกาย

 

“ข..ขอให้หายป่วยไวๆนะ..ใช่ นี่ก็แค่อวยพรเขาเท่านั้นเอง”

ยุยกล่าวแก้ตัวในใจ หลับตา ก่อนจะจุ๊บแก้มยูมะ

 

 

โอ้ยย ไม่ไหว ถึงขีดจำกัดแล้ว ยุยหน้าแดงเข้มแป๊ด รีบเผ่นแน่บออกจากห้องไป

 

ทางด้านยูมะ ความจริงแล้วเขาแกล้งหลับตามาตลอด พอมั่นใจว่ายุยออกจากห้องไปแล้ว  เขาพลิกตัวเองเอาหน้าซุกหมอนข้าง ดิ้นตัวซ้ายขวาไปมาด้วยความเขิน

 

จบ ch 21-3

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 21.3

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 21.3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยูมะทานข้าวรึยัง หาอะไรรองท้องสักหน่อยดีกว่านะ เดี๋ยวชั้นทำข้าวต้มให้เอามั้ย?”

 

หลังจากยูมะเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อย ยูมะได้ยินคำถามยุยตามนั้น

 

ตอนแรกเขาตั้งใจจะปฏิเสธ แต่ว่าพอดูสีหน้าของยุย ภาษากายเขียนชัดเจนว่า “ช่วยพึ่งพาชั้นให้มากกว่านี้นะ”

 

ยูมะจึงเปลี่ยนเป็นอ้อนเสียงหวานแทน

“งั้นรบกวนด้วยนะ เครื่องครัวใช้เองได้เลยตามสะดวกนะ”

 

“อืม รับทราบ”

 

ยุยกล่าวจบเดินออกจากห้อง  ยูมะได้ยินเสียงกุกกักจากในครัว ดูเหมือนว่ายุยจะเริ่มลงมือทำอาหารแล้ว

 

ระหว่างที่ได้ยินเสียง ยุมะเอนตัวลงนอน สายตาเหม่อมองเพดาน

 

ถ้าได้ไปช่วยเธอทำก็คงสนุกดีไม่น้อย แต่ว่าการรอเธอทำกับข้าวมาให้มันก็ไม่เลวนะ

 

ยุย เด็กผู้หญิงที่ผมชอบ กำลังทำกับข้าวให้ผม เพียงแค่คิดเท่านีั้ หัวใจยูมะก็รู้สึกคันยุบยิบแล้ว

 

“…จะว่าไป ยุยคงตั้งใจทำข้าวกล่องให้เราอยู่แล้วอะนะ”

 

ถึงตอนแรกเจ้าตัวจะบอกว่า “ส่วนของตัวเองชั้นทำเองมาตลอดอยู่แล้ว ถึงทำเพิ่มเป็นสองคนก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง”

 

แต่เท่าที่ดู อาหารที่ผมได้รับประทาน ดูจะมีการปรุงเป็นพิเศษมากกว่าของตัวเธอเอง คือรู้สึกได้ว่าเธอตั้งใจทำมาเพื่อผมแน่ๆไม่ใช่ทำเพิ่มของตัวเองล้วนๆ  พอเธอเห็นผมทานข้าวแล้วอุทานว่าอร่อยจัง เธอก็จะยิ้มด้วยคึวามดีใจ

 

วันคืนแบบนี้ถ้าเป็นไปได้ตลอดกาลก็คงจะดีนะ มันจะเป็นยังไงบ้างน้า

 

ยุยเตรียมข้าวเช้าให้ผม เราสองคนทานข้าวเช้าด้วยกัน  ตัวผมที่กำลังไปทำงาน มียุยกล่าวว่า “ไปดีมาดีนะ” มองส่งผมจนลับตา

 

(เชี่ย กุหลอนไปไกลละ)

 

สงสัยจินตนานการได้ขนาดนี้เพราะไข้ขึ้นแหงๆ

 

หลังจากคิดจบ ยุยเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมชามข้าว

 

“ยูมะ ขอโทษที่ทำให้รอนะ”

 

“อืม ขอบคุณนะ ..หือ นี่มัน? ทำไมสีมันขาวจัง”

“อ้อ ชั้นใส่นมวัวในตู้เย็นลงไป มันคือเมนูข้าวต้มนมสด ปกติเวลาที่ชั้นไม่สบาย แม่ชั้นจะทำเมนูนี้ให้ทานค่ะ”

 

ยุยกล่าวพลางคลุกข้าวต้มให้ทั่วถึง ใช้ช้อนตักขึ้นมา เป่าปากฟู่ๆ ก่อนที่จะ

“นี่ค่ะ อ้ามมมมม”

 

“…..”

 

พอเจอคำว่าอ้ามเข้าไป พฤติกรรมยูมะกับยุยไหลลื่นเป็นธรรมชาติอ้าปากรับข้าวต้มที่ี่ยุยป้อนให้โดยไม่ได้กล่าวขัดคอ

 

เวลาผ่านไปพักนึง เหมือนยุยเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป คราวนี้เธอเริ่มมือไม้สั่นละ

 

“เอ้่อ คือว่า ..ชั้น..ปกติตอนร่างกายอ่อนแอ ก็ต้องมีคนป้อนให้ ชั้นเลยทำไปเองตามปกติ…เพราะงั้น..คำต่อไปเชิญค่ะ”

 

(ป้อนต่อจริงดิ..)

 

ถึงยูมะจะคิดแบบนั้น แต่ก้ไม่ได้ปฏิเสธการป้อนข้าวยุยแต่อย่างใด

 

ยุยตักข้าวอีกคำป้อนให้ยูมะ

 

“รสชาติเป็นไงบ้าง”

 

“..อร่อยสุดๆเลย”

 

“ฮะฮะ ดีจังเลย”

 

ยูมะยิ้มดีใจกับคำพูดของยูมะ

 

คราวนี้ก็เริ่มป้อนรัวๆละ ทุกครั้งที่ทานข้าวที่ยุยป้อน ร่างกายยูมะรู้สึกมีพลัง ร่างกายฟื้นฟูขึ้นมา

 

“ฮืมฮืมฮืม”

 

“..มีอะไรรึเปล่านิ”

 

“คือว่า ยูมะน่ารักจังเลย”

 

“เอ่อ ผู้ชายโดนผุ้หญิงชมว่าน่ารักมันก็ทะแม่งๆนะ”

 

“ฮะฮะ ขอโทษนะ คิดว่าอนาคตถ้าชั้นมีลูก ความรู้สึกมันจะเป็นแบบนี้นี่เอง”

 

“ม่า ดูแล้วเธอคงเป็นคุณแม่ขี้เห่อลูกมากๆด้วย”

 

“อืม ชั้นเองก็คิดแบบนั้น  แหะแหะแหะ ถ้าลูกหน้าเหมือนยูมะก็ดีสิ”

 

หลังจากยุยกล่าวจบพักนึง เหมือนเธอเพิ่งรู้ตัวว่าพูดจาน่าอายออกไป หน้าเธอแดงแป๊ด รีบกล่าว “ม..ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ”

 

“คำพูดที่ชั้นบอกตะกี้มัน…มัน…มันคือ…เอ่อ….”

 

“ผ..ผมเข้าใจ..ผมเข้าใจครับ”

 

“…..”

 

“…..”

 

หลังจากนี้ ทั้งคู่เงียบกริ้บ ต่างฝ่ายต่างหน้าแดงก่ำขณะที่กินข้าวต้ม

 

หลังจากกินเสร็จ ผมบอกว่าเดี๋่ยวจะนอนแล้ว ยุยเก็บถ้วยเดินออกจากห้องไป

 

….ไอ้คำพูดที่ยุยบอกตะกี้เรื่องลูก ถึงปากผมจะบอกเข้าใจ แต่จริงๆแล้วไม่เข้าใจหรอก มันหมายความในทางที่ดีใช่มั้ยนะ

 

หัวใจยูมะเต้นระรัว บางที อย่าบอกนะว่า…

 

โอ้ยยย คิดมากกว่านี้ไม่ไหวละครับ คิดเองเขินเอง ไม่ฝืนคิดต่อละ  ยูมะตัดสินใจหลับดีกว่า

 

……

 

“…..ยูมะหลับแล้วเหรอ”

 

หลังจากนั้นไม่นาน ยุยกลับมาที่ห้อง พูดเสียงเบา

 

เธอไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากยูมะ มีเพียงเสียงลมหายเข้าใจออกเป็นจังหวะ

 

“…..”

 

ยุยโน้มหน้าตัวเองเข้าไปใกล้หน้ายูมะ สังเกตหน้าเขาตอนกำลังหลับ มองมุมไหน ใบหน้าเขาก็น่ารักไปหมดเลย

 

แล้วตะกี้..คำพูดของเขา ชั้นยังคิดถึงมันอยู่

 

(ดูแล้วเธอคงเป็นคุณแม่ขี้เห่อลูกมากๆด้วย) พอเจอคำพูดนี้เข้าไป ชั้นเลยนึกถึงลูกชั้นเองที่หน้าตาน่ารักที่มีส่วนผสมเค้าหน้ายูมะซะงั้น

 

(ชั้นเองก็อาการหนักซะแล้วสิ)

 

ยังไม่ได้คบหาเป็นแฟนแท้ๆแต่ดันคิดไปไกลซะขนาดนี้

 

“….”

 

ยุยมองซ้ายขวาสำรวจห้องยูมะ

 

ทีนี่คือห้องยูมะ ห้องของเด็กผู้ชายที่ชั้นชอบ

 

ครั้งก่อนที่มา ห้องนี้ถูกเก็บกวาดทำความสะอาดอย่างดี แต่วันนี้เป็นการมาเยี่ยมกระทันหัน สภาพห้องเลยออกจะรกนิดหน่อย ทั้งเสื้อที่กองกับพื้นและการ์ตูนวางระเกะระกะ ให้ความรู้สึกว่านี่คือการใช้ชีวิตของยูมะมันเป็นแบบนี้

 

พอคิดแล้วเล่นเอาตื่นเต้นขึ้นมา เธอรู้สึกเหมือนได้รุกล้ำเข้าในพื้นที่ส่วนตัวของเขาของจริง

 

แถมตอนนี้สภาพยูมะอ่อนแอกว่าเดิม ทำให้เขาพึ่งพาชั้นมากกว่าปกติ

 

การที่คิดแบบนี้กับคนป่วยมันไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าหัวใจเธอตุ้มต่อม

 

(หน้าตาเขาตอนหลับน่ารักจัง)

 

ปกติเธอรู้สึกว่ายูมะเป็นพี่ชายที่พึ่งพาได้ทั้งที่ทั้งคู่อายุ 15 เท่ากัน

 

การได้เห็นสีหน้าตอนหลับ และได้ดูแลเขาแบบนี้มันให้ความรุ้สึกเหมือนชั้นเป็นมารดาเลย

 

ยุยวางมือบนหัวยูมะก่อนจะลูบอย่างอ่อนโยนเพื่อไม่ให้เขาตื่น ปกติมีแต่ยูมะเป็นคนลูบหัวเธอ แต่พอครั้งนี้เธอได้ลูบหัวเขาบ้าง มันรู้สึกมีความสุขมากๆ

 

ตอนนี้เธอนึกย้อนไปถึงสมัยเด็กตอนเธอป่วยแล้วแม่คอยดูแล

แล้วมาตอนนี้เป็นเธอบ้างที่เป็นฝ่ายดูแลผู้ชายที่เธอชอบ  ไม่นึกฝันเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นจริง

 

พูดถึงตอนเฝ้าไข้คนป่วยแล้ว…

 

ตอนเด็กๆ เวลาที่ชั้นป่วย คุณแม่จะจุ๊บแก้มและกล่าวอวยพร ขอให้หายป่วยไวๆนะ

 

..พอคิดแล้วหัวใจมันเต้นตึกตัก เพราะว่าตัวเองกำลังคิดจะทำเรื่องสุดยอดอย่างนั้นบ้าง

 

เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ยูมะมากกว่าเก่า

 

“ยูมะ ยังหลับอยู่..สินะ”

 

ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ

 

ยุยดูยูมะที่ยังคงหายใจเข้าออกเป้นจังหวะ ความรู้สึกรักใคร่ จู่ๆเริ่มก่อตัวขึ้นจนใจเต้นรัว ในหัวบอกว่าชั้นควรจะหยุดการกระทำที่ชั้นจะทำต่อจากนี้ แต่ว่าร่างกายกลับไม่อยากจะปฏิบัติตามเพราะความรักมันเอ่อล้นไปตามร่างกาย

 

“ข..ขอให้หายป่วยไวๆนะ..ใช่ นี่ก็แค่อวยพรเขาเท่านั้นเอง”

ยุยกล่าวแก้ตัวในใจ หลับตา ก่อนจะจุ๊บแก้มยูมะ

 

 

โอ้ยย ไม่ไหว ถึงขีดจำกัดแล้ว ยุยหน้าแดงเข้มแป๊ด รีบเผ่นแน่บออกจากห้องไป

 

ทางด้านยูมะ ความจริงแล้วเขาแกล้งหลับตามาตลอด พอมั่นใจว่ายุยออกจากห้องไปแล้ว  เขาพลิกตัวเองเอาหน้าซุกหมอนข้าง ดิ้นตัวซ้ายขวาไปมาด้วยความเขิน

 

จบ ch 21-3

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+