LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 4.3: สายฝน

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 4.3: สายฝน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“งั้นแสดงว่าทุกวันนี้ที่ไปเล่นร้านเนตคาเฟ่นี่คือวัยรุ่นชายหญิงอยู่ด้วยกัน2ต่อ2 …แถมเมื่อกี้ยูคุงก็อุ้มน้องเค้าด้วย สัมผัสแนบเนื้อใกล้ชิดกันอีก … ไม่ผิดแน่ ทั้งสองคนคบกันอยู่สินะ ยูคุงนี่ร้ายจริงๆ”

“ม.ไม่ได้คบกันสักหน่อย  ไม่มีอะไรใกล้เคียงแบบนั้นเลย”

“โกหกตกนรกน้า”

“หยุดล้อเหอะคร้าบบ  รู้อยู่แล้วว่าถ้าบอกไปจะเจอเนเน่ล้อแบบนี้ไงถึงไม่อยากจะเล่า แล้วก็ผมขอตัวไปหาเสื้อให้ยุยเปลี่ยนก่อนนะครับ”

ยูมะพูดจบเบี่ยงประเด็นหนีเนเน่ โกยแน่บกลับห้องตัวเอง

เมื่อกลับถึงห้อง ยูมะหยิบผ้าเช็ดตัวกับหาเสื้อไซส์ที่ตัวเล็กพอจะให้ยุยผลัดเปลี่ยน

 

(มันน่าจะมีเสื้อเราสมัยเด็กหลงเหลือบ้างสิน่า”

โชคดีว่ายูมะเจอเสื้อตกค้างสมัยเรียนประถมเหลืออยู่ จากนั้นพอคิดว่ายุยกำลังจะสวมเสื้อของเขา ไม่รู้ทำไมเด็กหนุ่มรู้สึกหน้าแดงเขินนิดๆ  เขาส่ายศีรษะยิกละความฟุ้งซ่านเดินกลับไปจุดเปลี่ยนเสื้อหน้าห้องน้ำ

ถ้าเป็นมังงะเลิฟคอมทั่วไป จังหวะไปห้องน้ำนี่ต้องเจอยุยเปลื้องผ้าอยู่หน้าห้องน้ำเห็นทุกสัดส่วนให้พวก18+ชื่นชม แต่ความเป็นจริงคือเธออยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ  แต่ไม่รู้ทำไม เขาดันมีความคิดว่าเรื่องในมังงะ ถ้ามันเกิดได้ในชีวิตจริงสักครั้งก็ไม่แย่นะ 

 

เสียงน้ำจากห้องน้ำชัดเจนว่ายุยกำลังอาบน้ำอยู่  ยูมะนำเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวไปวางตรงจุดเปลี่ยนเสื้อ

 

“ยุย เดี๋ยวชั้นให้ยืมเสื้อของชั้นใส่ไปก่อน ส่วนเสื้อเธอ รอตากให้แห้งก่อนค่อยว่าอีกที่นะ”

“อืม…ขอบคุณนะ”

ยุยตอบกลับท่ามกลางเสียงน้ำฝักบัว

 

ห้องน้ำที่แมนชั่นยูมะเป็นกระจก ฉะนั้นถ้ามองผ่านกระจกจะเห็นเงาสัดส่วนของคนที่กำลังอาบน้ำได้ระดับหนึ่ง

 

ยุยกำลังเปลือยเปล่าอยู่หลังประตูบานนี้

เพียงแค่คิดเท่านี้ สีหน้ายูมะร้อนผ่าว รีบส่ายหัวหนักกว่าเดิม  นี่กุเป็นอะไรของกูเนี่ย ตั้งแต่อุ้มยุยแล้วได้สัมผัสก้นนิ่มๆของเธอ อาการฟุ้งซ่านนี่โหมกระหน่ำไม่หยุดเลยเว้ย

ยูมะเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ยุยก็น่ารัก ฉะนั้นมันก็ไม่แปลกที่ยูมะจะเกิดอาการ 18+ งุ่นง่านอยู่ตอนนี้ แต่ระงับความอยากของตัวเองไว้

ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่หันไปมองกระจกอีกแล้ว แต่สัญชาตญาณข้างในก็หัามใจไม่ได้ ไม่นะ ทำไมหัวของชั้น หันไปที่ห้องน้ำ ชั้นจะหันไปอีกทางนะโว้ย แล้วนี่แค่เห็นเงาเธอหลังห้องน้ำ ความฟุ้งซ่านกุนี่ไม่หยุดสักที 

 

“….ยูคุง”

“เหวออออ!”

จู่ๆข้างหลังก็มีคนเรียกชื่อด้วยเสียงสูง เล่นเอาสะดุ้งโหยงสุดตัว พอหันกลับไปดูก็พบเจ้าของเสียงกำลังส่งยิ้มล้อเลียนอยู่

“มายืนจดๆจ้องๆอะไรอยู่ตรงนี้เอ่ย”

“ป..เปล่าสักหน่อย ผมแค่รอส่งเสื้อเฉยๆ”

“อ้อเหรอ งั้นที่พี่คิดว่ายูคุงกำลังจะแอบถ้ำมองคือพี่คิดไปเองสินะ”

ถ…ถูกต้อง คิดไปเองครับ ใครมันจะไปถ้ำมองเล่า”

 

“อย่างนี้นี่เอง ไม่ได้ถ้ำมองแต่ถ้าเขาเสนอตัวให้มองได้ก็จะดูแบบจัดเต็มสินะ”

“โว้วว พูดไปเรื่อย ผมกับยุยไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างนั้นสักหน่อย..”

“อ้อ น้องเขาชื่อยุยนี่เอง ว้าว นี่ถึงขั้นเรียกชื่อจริงน้องเขาซะด้วย แบบนี้จะเรียกว่ามีความสัมพันธ์แบบไหนดีล่ะ”

 

“เนเน่ ผมไหว้ล่ะคร้าบ ให้กราบทีนก็ยอม วันนี้ขอเหอะ เนเน่ช่วยอยู่ในห้องนิ่งๆไม่ต้องล้อผมสักวันหนึ่งได้มั้ยครับ”

“ฮะฮะ สงสัยพี่แกล้งหนักไปสินะ  หึหึ ไม่ต้องห่วงจ้า พี่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอทั้งสองคนหรอก เชิญตามสบายทั้งคู่นะ”

เนเน่กล่าวจบเดินกลับห้อง 

 

ยูมะคิดว่าวันนี้ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ฟะ

 

หลังจากนัั้นสักพัก ยุยออกจากห้องน้ำ

“ขอบคุณที่่ให้อาบน้ำนะ”

ยุยสวมเสื้อของยูมะ ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ยูมะแค่คิดว่า ยุยกำลังสวมเสื้อเขาอยู่ เขาก็รู้สึกใจเต้นตึกตักโดยที่หาเหตุผลไม่ได้

 

ทางด้านยุย สภาพก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ายูมะ ท่าทางเธอกระวนกระวายตื่นเต้นเช่นกัน

 

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ยุยได้เที่ยวบ้านเพื่อนผู้ชาย ด้วยความที่เสื้อยูมะหลวม จึงมีพื้นที่ให้ยุยดึงเสื้อขึ้นมาปิดครึ่งปากครึ่งจมูก

 

ยูมะเห็นความน่ารักของยุย เขาเริ่มเขิน ทางยูมะเองก็เพิ่งจะเคยพาเพื่อนผู้หญิงมาเที่ยวถึงที่แมนชั่นครั้งแรกเช่นกัน

 

“มีโจ๊กสำเร็จรูปอยู่ สนใจกินมั้ยครับ”

“อืม สนใจ”

“ได้ งั้นนั่งรอที่ห้องรับแขกแปบนะ”

ยูมะไปที่ครัว เตรียมโจ๊กไว้สองถ้วย ไว้กินคนละถ้วยกับยุย

 

ยูมะเดินกลับมาพร้อมถ้วยสองใบ ส่งใบหนึ่งให้ยุยที่กำลังนั่งอยู่เก้าอี้รับแขก

“เอ้า ระวังร้อนนะ”

“”อืม ขอบคุณนะ”

ถ้วยโจ๊กส่งควันหอมฉุย ยุยเป่าถ้วยให้หายร้อนสักนิดก่อนจะกิน

“ฮัดชิ่ว”

“ไม่ได้เป็นไข้ใช่มั้ย ถ้าปวดหัวมีอาการตัวร้อนอะไรให้รีบบอกนะ”

“อืม”

ยุยเป่าโจ๊กสักพัก ดื่มไปหนึ่งคำ

“อร่อยจัง”

สภาพยุยตอนนี้ดูจะใจเย็นขึ้นแล้วหากเทียบกับตอนอยู่หน้าแมนชั่น ท่าทางเธอตอนเป่าถ้วยก็น่ารักมากเหลือเกิน  เพียงแค่ดูก็เล่นเอาอยากจะเอ่ยปากชมเชย แต่ว่า…

 

“…..”

“…..”

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าแมนชั่น ทั้งสองคนต่างเอ่ยความในใจตัวเองหมดแล้ว ยูมะเลยมองยุยนิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไรพลางคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาว่าทำอะไรไปบ้าง

 

สรุปว่า เขาทั้งกอดยุย ทั้งอุ้มยุยอย่างแนบแน่น   แถมยังจับก้นนิ่มๆของเธอเต็มมือทั้งคู่ แล้วก็พายุยเข้ามาในบ้านตัวเองอีก   คิดแล้วก็ร้อนใจเหมือนกัน เพราะว่าถึงยังไงยุยเป็นผู้หญิง ถ้าโดนผุ้ชายทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่ ส่วนใหญ่ต้องเกลียดขี้หน้าผุ้ชายคนนั้นแน่ 

 

ด้วยความร้อนใจราวมีชนักติดหลัง ยูมะเลยดื่มโจ้กระบายความเขินโดยไม่เป่า 

“อ้ากก ร้อนนน”

ยูมะหน้าเหยเก เป่าปากฟู่ๆให้โจ้กในปากคลายความร้อนสักนิดนึงก้ยังดี ยุยเห็นสภาพยูมะแล้วหลุดยิ้มออกมา

ทางด้านยุยเองก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แก้มตัวเอง แต่เธอเก๊กนิ่ง ค่อยๆดื่มโจ๊ก ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนส่งข้อความหายูมะ แน่นอนว่ายูมะเห็นยุยส่งข้อความก็หยิบสมาร์ทโฟนตัวเองขึ้นมาพิมพ์แชทตอบด้วย

 

“ยูมะ มีพี่สาวด้วยเหรอ”

“อืม ถึงจะบอกว่าพี่สาว แต่เธอก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แค่อาศัยอยู่ด้วยกันเฉยๆ แล้วอายุพี่เขาก็ไม่ได้มาก เลยรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า 

ส่วนสาเหตุที่เขาเป็นพี่ชั้นเกิดจากครอบครัวของชั้นกับพี่แต่งงานกันอีกรอบหนึ่ง เราเลยเป็นลูกติดของแต่ละฝั่งครับ”

“ง่ายๆคือเป็นพี่สาวบุญธรรมสินะ นี่มันอารมณ์เลิฟคอมสาวแกลชัดๆ”

“ห๊ะ พูดอะไรของนาย เลิฟคอมสาวแกลเนี่ยนะ”

“ก็มัน..อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับพี่สาวบุญธรรมสุดสวย นี่มันซีนปักธงตามมังงะหรือเมะชัดๆ”

“ปักธงบ้าอะไรเล่า”

“”นี่นี่ สารภาพมาตามตรงก็ได้นะว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆเหรอ ผมก็ไม่ได้รังเกียจงานพล็อตสาวแกลหรอกนะ”

“แสสสส เมิงอย่าเอา2dกับ3dมาปนกันในชีวิตจริงสิฟะ  ถึงอยู่ด้วยกันจริงแต่ไอ้เรื่องปักธงห่าเหวอะไรนั่นลืมไปได้เลย”

“เอ๊ะ จะว่าไปตะกี้บอกว่าอยู่ดัวยกันสองคนกับพี่ใช่มั้ย แล้วพ่อแม่ยูมะไปไหนเหรอ”

“อ้อ พ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศ ชั้นเลยอยู่กับพี่แค่สองคนในแมนชั่นนี้”

 

“พล็อตมันชวนคิดแนวเอโระจริงๆนะ”

“เป็นผู้หญิงแท้ๆอย่าใช้คำว่าเอโระได้มั้ยฟะ”

 

พอส่งแชทจบ ทั้งคู่ต่างสบตากัน ก่อนจะค่อยๆหลุดขำออกมา ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกันสมบูรณ์แล้ว

 

***

หลังจากนั้นพักใหญ่ ยูมะพายุยกลับมาส่งที่บ้านด้วยกัน ตอนนี้ยุยกลับมายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ เขารู้สึกโล่งใจมาก 

 

เมื่อส่งยุยเสร็จเรียบร้อย ยูมะกลับมานอนบนเตียงห้องตัวเองพลางคิดถึงเรื่องของยุย

 

เหตุการณ์ในวันนี้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม แต่กระชับในฐานะเพื่อน…ไม่สิเพื่อนสนิทมากกว่า  เป็นความสัมพันธ์เพื่อนสนิทที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ยูมะคิดแบบนี้ รู้สึกดีใจ

(แต่ว่า….ถ้ายังรักษาอาการป่วยของยุยไม่ได้ เหตุการณ์วันนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับเธออีกก็ได้)

ไอ้ที่ยุยมาถึงแมนชั่นผมได้ อย่าไปนับ กว่ายุยจะมาถึงได้ ผมมั่นใจว่าเธอต้องอดทนและใช้ความพยายามอย่างมาก  ฉะนั้น ถ้ายังรักษาโรคไม่ได้เต็มร้อย อย่างน้อยก็ต้องหาวิธีเสริมความมั่นใจให้เธอมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้

 

 

ในตอนนี้ ยูมะมีความรู้สึกหลายอย่างปนอยู่ในใจ  ความสัมพันธ์ของเราจะอยู่ตราบเท่าที่โรคขอยุยยังไม่หาย แต่ถ้ารักษาหายดีแล้ว พวกเราจะเป็นยังไงต่อไป  ถึงแม้ชั้นอยากจะให้โรคยุยหาย แต่ทำไมชั้นถึงติดใจเรื่องความสัมพันธ์ของชั้นกับยุยนะ

 

แต่เรื่องนั้นก็ว่ากันทีหลัง โฟกัสเรื่องยุยก่อน ถ้าเร่งมากไป ชั้นอาจจะทำร้ายจิตใจยุยอีกก็ได้ ซึ่งสภาพยุยตอนนั้น ชั้นไม่อยากเห็นมันอีกเป็นครั้งที่สอง

หลังจากนั่งครุ่นคิดหาวิธีสักพัก ยูมะก็นึกไอเดียออก เขาดีดตัวขึ้นจากเตียง  เดินไปห้องเนเน่ สูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย ตัดสินใจเคาะประตู

“เนเน่ ขอเข้าไปได้มั้ย”

“เชิญจ้า”

เนเน่กำลังนอนอยู่บนเตียง เล่นสมาร์ทโฟนอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของยูมะ เธอรู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ จึงลุกขึ้นนั่ง 

“มีอะไรรึเปล่า ทำหน้าขึงขึงมาเชียว”

“…มีเรื่องจะขอร้องอย่างหนึ่งครับ”

 

ยูมะก้มหัวลงเล็กน้อยหลังกล่าวจบ

*****

จบCH4-3 

 

 

ยังไงก็ยืนยันว่าไม่ทิ้งเรือ่งนี้แน่นอนครับผม จะแปลให้สุดจนจบชัวร์  ขอไม่พูดเยอะ พอดีโดนชวนแดกเหล้า ไว้มีโอกาสจะมาตอบทุกท่านครับ

ตอนหน้ามาลุ้นกันนะครับ ว่ายูมะขอร้องอะไร

 

 ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend 4.3: สายฝน

Now you are reading LN Zuttomo This Is the Memory Until the Girl Who Said “Please Be My Friend Forever,” Is No Longer My Friend Chapter 4.3: สายฝน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“งั้นแสดงว่าทุกวันนี้ที่ไปเล่นร้านเนตคาเฟ่นี่คือวัยรุ่นชายหญิงอยู่ด้วยกัน2ต่อ2 …แถมเมื่อกี้ยูคุงก็อุ้มน้องเค้าด้วย สัมผัสแนบเนื้อใกล้ชิดกันอีก … ไม่ผิดแน่ ทั้งสองคนคบกันอยู่สินะ ยูคุงนี่ร้ายจริงๆ”

“ม.ไม่ได้คบกันสักหน่อย  ไม่มีอะไรใกล้เคียงแบบนั้นเลย”

“โกหกตกนรกน้า”

“หยุดล้อเหอะคร้าบบ  รู้อยู่แล้วว่าถ้าบอกไปจะเจอเนเน่ล้อแบบนี้ไงถึงไม่อยากจะเล่า แล้วก็ผมขอตัวไปหาเสื้อให้ยุยเปลี่ยนก่อนนะครับ”

ยูมะพูดจบเบี่ยงประเด็นหนีเนเน่ โกยแน่บกลับห้องตัวเอง

เมื่อกลับถึงห้อง ยูมะหยิบผ้าเช็ดตัวกับหาเสื้อไซส์ที่ตัวเล็กพอจะให้ยุยผลัดเปลี่ยน

 

(มันน่าจะมีเสื้อเราสมัยเด็กหลงเหลือบ้างสิน่า”

โชคดีว่ายูมะเจอเสื้อตกค้างสมัยเรียนประถมเหลืออยู่ จากนั้นพอคิดว่ายุยกำลังจะสวมเสื้อของเขา ไม่รู้ทำไมเด็กหนุ่มรู้สึกหน้าแดงเขินนิดๆ  เขาส่ายศีรษะยิกละความฟุ้งซ่านเดินกลับไปจุดเปลี่ยนเสื้อหน้าห้องน้ำ

ถ้าเป็นมังงะเลิฟคอมทั่วไป จังหวะไปห้องน้ำนี่ต้องเจอยุยเปลื้องผ้าอยู่หน้าห้องน้ำเห็นทุกสัดส่วนให้พวก18+ชื่นชม แต่ความเป็นจริงคือเธออยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ  แต่ไม่รู้ทำไม เขาดันมีความคิดว่าเรื่องในมังงะ ถ้ามันเกิดได้ในชีวิตจริงสักครั้งก็ไม่แย่นะ 

 

เสียงน้ำจากห้องน้ำชัดเจนว่ายุยกำลังอาบน้ำอยู่  ยูมะนำเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวไปวางตรงจุดเปลี่ยนเสื้อ

 

“ยุย เดี๋ยวชั้นให้ยืมเสื้อของชั้นใส่ไปก่อน ส่วนเสื้อเธอ รอตากให้แห้งก่อนค่อยว่าอีกที่นะ”

“อืม…ขอบคุณนะ”

ยุยตอบกลับท่ามกลางเสียงน้ำฝักบัว

 

ห้องน้ำที่แมนชั่นยูมะเป็นกระจก ฉะนั้นถ้ามองผ่านกระจกจะเห็นเงาสัดส่วนของคนที่กำลังอาบน้ำได้ระดับหนึ่ง

 

ยุยกำลังเปลือยเปล่าอยู่หลังประตูบานนี้

เพียงแค่คิดเท่านี้ สีหน้ายูมะร้อนผ่าว รีบส่ายหัวหนักกว่าเดิม  นี่กุเป็นอะไรของกูเนี่ย ตั้งแต่อุ้มยุยแล้วได้สัมผัสก้นนิ่มๆของเธอ อาการฟุ้งซ่านนี่โหมกระหน่ำไม่หยุดเลยเว้ย

ยูมะเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ยุยก็น่ารัก ฉะนั้นมันก็ไม่แปลกที่ยูมะจะเกิดอาการ 18+ งุ่นง่านอยู่ตอนนี้ แต่ระงับความอยากของตัวเองไว้

ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่หันไปมองกระจกอีกแล้ว แต่สัญชาตญาณข้างในก็หัามใจไม่ได้ ไม่นะ ทำไมหัวของชั้น หันไปที่ห้องน้ำ ชั้นจะหันไปอีกทางนะโว้ย แล้วนี่แค่เห็นเงาเธอหลังห้องน้ำ ความฟุ้งซ่านกุนี่ไม่หยุดสักที 

 

“….ยูคุง”

“เหวออออ!”

จู่ๆข้างหลังก็มีคนเรียกชื่อด้วยเสียงสูง เล่นเอาสะดุ้งโหยงสุดตัว พอหันกลับไปดูก็พบเจ้าของเสียงกำลังส่งยิ้มล้อเลียนอยู่

“มายืนจดๆจ้องๆอะไรอยู่ตรงนี้เอ่ย”

“ป..เปล่าสักหน่อย ผมแค่รอส่งเสื้อเฉยๆ”

“อ้อเหรอ งั้นที่พี่คิดว่ายูคุงกำลังจะแอบถ้ำมองคือพี่คิดไปเองสินะ”

ถ…ถูกต้อง คิดไปเองครับ ใครมันจะไปถ้ำมองเล่า”

 

“อย่างนี้นี่เอง ไม่ได้ถ้ำมองแต่ถ้าเขาเสนอตัวให้มองได้ก็จะดูแบบจัดเต็มสินะ”

“โว้วว พูดไปเรื่อย ผมกับยุยไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างนั้นสักหน่อย..”

“อ้อ น้องเขาชื่อยุยนี่เอง ว้าว นี่ถึงขั้นเรียกชื่อจริงน้องเขาซะด้วย แบบนี้จะเรียกว่ามีความสัมพันธ์แบบไหนดีล่ะ”

 

“เนเน่ ผมไหว้ล่ะคร้าบ ให้กราบทีนก็ยอม วันนี้ขอเหอะ เนเน่ช่วยอยู่ในห้องนิ่งๆไม่ต้องล้อผมสักวันหนึ่งได้มั้ยครับ”

“ฮะฮะ สงสัยพี่แกล้งหนักไปสินะ  หึหึ ไม่ต้องห่วงจ้า พี่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอทั้งสองคนหรอก เชิญตามสบายทั้งคู่นะ”

เนเน่กล่าวจบเดินกลับห้อง 

 

ยูมะคิดว่าวันนี้ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ฟะ

 

หลังจากนัั้นสักพัก ยุยออกจากห้องน้ำ

“ขอบคุณที่่ให้อาบน้ำนะ”

ยุยสวมเสื้อของยูมะ ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ยูมะแค่คิดว่า ยุยกำลังสวมเสื้อเขาอยู่ เขาก็รู้สึกใจเต้นตึกตักโดยที่หาเหตุผลไม่ได้

 

ทางด้านยุย สภาพก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ายูมะ ท่าทางเธอกระวนกระวายตื่นเต้นเช่นกัน

 

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ยุยได้เที่ยวบ้านเพื่อนผู้ชาย ด้วยความที่เสื้อยูมะหลวม จึงมีพื้นที่ให้ยุยดึงเสื้อขึ้นมาปิดครึ่งปากครึ่งจมูก

 

ยูมะเห็นความน่ารักของยุย เขาเริ่มเขิน ทางยูมะเองก็เพิ่งจะเคยพาเพื่อนผู้หญิงมาเที่ยวถึงที่แมนชั่นครั้งแรกเช่นกัน

 

“มีโจ๊กสำเร็จรูปอยู่ สนใจกินมั้ยครับ”

“อืม สนใจ”

“ได้ งั้นนั่งรอที่ห้องรับแขกแปบนะ”

ยูมะไปที่ครัว เตรียมโจ๊กไว้สองถ้วย ไว้กินคนละถ้วยกับยุย

 

ยูมะเดินกลับมาพร้อมถ้วยสองใบ ส่งใบหนึ่งให้ยุยที่กำลังนั่งอยู่เก้าอี้รับแขก

“เอ้า ระวังร้อนนะ”

“”อืม ขอบคุณนะ”

ถ้วยโจ๊กส่งควันหอมฉุย ยุยเป่าถ้วยให้หายร้อนสักนิดก่อนจะกิน

“ฮัดชิ่ว”

“ไม่ได้เป็นไข้ใช่มั้ย ถ้าปวดหัวมีอาการตัวร้อนอะไรให้รีบบอกนะ”

“อืม”

ยุยเป่าโจ๊กสักพัก ดื่มไปหนึ่งคำ

“อร่อยจัง”

สภาพยุยตอนนี้ดูจะใจเย็นขึ้นแล้วหากเทียบกับตอนอยู่หน้าแมนชั่น ท่าทางเธอตอนเป่าถ้วยก็น่ารักมากเหลือเกิน  เพียงแค่ดูก็เล่นเอาอยากจะเอ่ยปากชมเชย แต่ว่า…

 

“…..”

“…..”

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าแมนชั่น ทั้งสองคนต่างเอ่ยความในใจตัวเองหมดแล้ว ยูมะเลยมองยุยนิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไรพลางคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาว่าทำอะไรไปบ้าง

 

สรุปว่า เขาทั้งกอดยุย ทั้งอุ้มยุยอย่างแนบแน่น   แถมยังจับก้นนิ่มๆของเธอเต็มมือทั้งคู่ แล้วก็พายุยเข้ามาในบ้านตัวเองอีก   คิดแล้วก็ร้อนใจเหมือนกัน เพราะว่าถึงยังไงยุยเป็นผู้หญิง ถ้าโดนผุ้ชายทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่ ส่วนใหญ่ต้องเกลียดขี้หน้าผุ้ชายคนนั้นแน่ 

 

ด้วยความร้อนใจราวมีชนักติดหลัง ยูมะเลยดื่มโจ้กระบายความเขินโดยไม่เป่า 

“อ้ากก ร้อนนน”

ยูมะหน้าเหยเก เป่าปากฟู่ๆให้โจ้กในปากคลายความร้อนสักนิดนึงก้ยังดี ยุยเห็นสภาพยูมะแล้วหลุดยิ้มออกมา

ทางด้านยุยเองก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แก้มตัวเอง แต่เธอเก๊กนิ่ง ค่อยๆดื่มโจ๊ก ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนส่งข้อความหายูมะ แน่นอนว่ายูมะเห็นยุยส่งข้อความก็หยิบสมาร์ทโฟนตัวเองขึ้นมาพิมพ์แชทตอบด้วย

 

“ยูมะ มีพี่สาวด้วยเหรอ”

“อืม ถึงจะบอกว่าพี่สาว แต่เธอก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แค่อาศัยอยู่ด้วยกันเฉยๆ แล้วอายุพี่เขาก็ไม่ได้มาก เลยรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า 

ส่วนสาเหตุที่เขาเป็นพี่ชั้นเกิดจากครอบครัวของชั้นกับพี่แต่งงานกันอีกรอบหนึ่ง เราเลยเป็นลูกติดของแต่ละฝั่งครับ”

“ง่ายๆคือเป็นพี่สาวบุญธรรมสินะ นี่มันอารมณ์เลิฟคอมสาวแกลชัดๆ”

“ห๊ะ พูดอะไรของนาย เลิฟคอมสาวแกลเนี่ยนะ”

“ก็มัน..อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับพี่สาวบุญธรรมสุดสวย นี่มันซีนปักธงตามมังงะหรือเมะชัดๆ”

“ปักธงบ้าอะไรเล่า”

“”นี่นี่ สารภาพมาตามตรงก็ได้นะว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆเหรอ ผมก็ไม่ได้รังเกียจงานพล็อตสาวแกลหรอกนะ”

“แสสสส เมิงอย่าเอา2dกับ3dมาปนกันในชีวิตจริงสิฟะ  ถึงอยู่ด้วยกันจริงแต่ไอ้เรื่องปักธงห่าเหวอะไรนั่นลืมไปได้เลย”

“เอ๊ะ จะว่าไปตะกี้บอกว่าอยู่ดัวยกันสองคนกับพี่ใช่มั้ย แล้วพ่อแม่ยูมะไปไหนเหรอ”

“อ้อ พ่อแม่ไปทำงานต่างประเทศ ชั้นเลยอยู่กับพี่แค่สองคนในแมนชั่นนี้”

 

“พล็อตมันชวนคิดแนวเอโระจริงๆนะ”

“เป็นผู้หญิงแท้ๆอย่าใช้คำว่าเอโระได้มั้ยฟะ”

 

พอส่งแชทจบ ทั้งคู่ต่างสบตากัน ก่อนจะค่อยๆหลุดขำออกมา ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกันสมบูรณ์แล้ว

 

***

หลังจากนั้นพักใหญ่ ยูมะพายุยกลับมาส่งที่บ้านด้วยกัน ตอนนี้ยุยกลับมายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ เขารู้สึกโล่งใจมาก 

 

เมื่อส่งยุยเสร็จเรียบร้อย ยูมะกลับมานอนบนเตียงห้องตัวเองพลางคิดถึงเรื่องของยุย

 

เหตุการณ์ในวันนี้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม แต่กระชับในฐานะเพื่อน…ไม่สิเพื่อนสนิทมากกว่า  เป็นความสัมพันธ์เพื่อนสนิทที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ยูมะคิดแบบนี้ รู้สึกดีใจ

(แต่ว่า….ถ้ายังรักษาอาการป่วยของยุยไม่ได้ เหตุการณ์วันนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับเธออีกก็ได้)

ไอ้ที่ยุยมาถึงแมนชั่นผมได้ อย่าไปนับ กว่ายุยจะมาถึงได้ ผมมั่นใจว่าเธอต้องอดทนและใช้ความพยายามอย่างมาก  ฉะนั้น ถ้ายังรักษาโรคไม่ได้เต็มร้อย อย่างน้อยก็ต้องหาวิธีเสริมความมั่นใจให้เธอมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้

 

 

ในตอนนี้ ยูมะมีความรู้สึกหลายอย่างปนอยู่ในใจ  ความสัมพันธ์ของเราจะอยู่ตราบเท่าที่โรคขอยุยยังไม่หาย แต่ถ้ารักษาหายดีแล้ว พวกเราจะเป็นยังไงต่อไป  ถึงแม้ชั้นอยากจะให้โรคยุยหาย แต่ทำไมชั้นถึงติดใจเรื่องความสัมพันธ์ของชั้นกับยุยนะ

 

แต่เรื่องนั้นก็ว่ากันทีหลัง โฟกัสเรื่องยุยก่อน ถ้าเร่งมากไป ชั้นอาจจะทำร้ายจิตใจยุยอีกก็ได้ ซึ่งสภาพยุยตอนนั้น ชั้นไม่อยากเห็นมันอีกเป็นครั้งที่สอง

หลังจากนั่งครุ่นคิดหาวิธีสักพัก ยูมะก็นึกไอเดียออก เขาดีดตัวขึ้นจากเตียง  เดินไปห้องเนเน่ สูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย ตัดสินใจเคาะประตู

“เนเน่ ขอเข้าไปได้มั้ย”

“เชิญจ้า”

เนเน่กำลังนอนอยู่บนเตียง เล่นสมาร์ทโฟนอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของยูมะ เธอรู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ จึงลุกขึ้นนั่ง 

“มีอะไรรึเปล่า ทำหน้าขึงขึงมาเชียว”

“…มีเรื่องจะขอร้องอย่างหนึ่งครับ”

 

ยูมะก้มหัวลงเล็กน้อยหลังกล่าวจบ

*****

จบCH4-3 

 

 

ยังไงก็ยืนยันว่าไม่ทิ้งเรือ่งนี้แน่นอนครับผม จะแปลให้สุดจนจบชัวร์  ขอไม่พูดเยอะ พอดีโดนชวนแดกเหล้า ไว้มีโอกาสจะมาตอบทุกท่านครับ

ตอนหน้ามาลุ้นกันนะครับ ว่ายูมะขอร้องอะไร

 

 ถ้ารอได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+