ตอนที่ 855 ของขวัญแห่งความรัก

ในวงการนี้ ลู่เฉินจัดคอนเสิร์ตเมื่อไหร่กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาขึ้นมาทันที

ทุกคนรู้ว่าเขาจะต้องจัดคอนเสิร์ตอย่างแน่นอน แต่ทว่าผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ มัวแต่ถ่ายหนังถ่ายละครอย่างเมามัน จนผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาได้ลืมเรื่องที่สำคัญอย่างการเป็นนักร้องไปแล้วใช่ไหม หรือว่าท้ายที่สุดแล้วจะทอดทิ้งบทบาทการเป็นนักร้องแล้วผันตัวไปเอาดีด้านภาพยนต์และโทรทัศน์แทน

หลายๆ คนรู้สึกเสียดายมากด้วยซ้ำ เพราะตลอดหลายปีที่ลู่เฉินเข้าวงการบันเทิงมา เขาได้กลายมาเป็นเสาหลักของวงการเพลงป็อปในประเทศไปแล้ว เขาเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ในวงการเพลงป็อปเลยทีเดียว

ถ้าไม่มีเพลงป็อปของลู่เฉิน มันจะเหงาแค่ไหน!

แต่ความเป็นจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าลู่เฉินไม่ได้ลืม ไม่ได้ลืมว่าเขายังติดค้างคอนเสิร์ตไว้กับแฟนเพลง เขายังคงรักอาชีพนักดนตรีเหมือนเดิม และจะออกอัลบั้มที่สามของตัวเขาเองอีกด้วย

อัลบั้มใหม่ที่แฟนเพลงนับไม่ถ้วนตั้งตารอคอยกันมาอย่างยาวนาน!

อัลบั้มใหม่ ทัวร์คอนเสิร์ตระดับประเทศครั้งแรก หมายความว่าลู่เฉินจะหวนกลับคืนสู่วงการเพลงป็อปอย่างเต็มตัวแล้วใช่ไหม

ผู้คนมากมายทั้งในและนอกวงการนี้ต่างก็อยากรู้คำตอบโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ของลู่ซีหรือผู้ช่วยของลู่เฉินต่างก็ถูกนักข่าวรุมโทรกันเข้ามาไม่ขาดสาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้สัมภาษณ์ลู่เฉินเลย เพราะว่าลู่เฉินเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว

……

ผ่านมาเจ็ดชั่วโมงสิบห้านาที เที่ยวบิน K5789 จากปักกิ่งก็ลงจอดอย่างสวัสดิภาพที่ลู่วิ่งของสนามบินนานาชาติประเทศมัลดีฟส์

มัลดีฟส์หรือชื่อเต็มคือสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ เป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย และยังเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยหมู่เกาะปะการังมากที่สุดในโลก ประกอบด้วยเกาะปะการังขนาดเล็กกว่า 1,200 เกาะ โดยในนั้นมี 202 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ หากมองจากข้างบนลงมาจะดูเหมือนสร้อยไข่มุกที่กระจายไปทั่วมหาสมุทรอินเดีย

มีเนื้อที่ทั้งหมดรวม 300 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในทวีปเอเชีย

มัลดีฟส์ยังถือเป็นดินแดนสวรรค์สำหรับการท่องเที่ยวอีกด้วย

ในวันรุ่งขึ้นหลังจากวงเสียวหู่ถวนจัดคอนเสิร์ตที่ปักกิ่งเสร็จ ลู่เฉินก็พาเฉินเฟยเอ๋อร์บินจากปักกิ่งไปมัลดีฟส์ เพื่อใช้วันหยุดเจ็ดวันที่หวานชื่นไปกับประเทศหมู่เกาะแห่งนี้

การเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ถูกจัดเตรียมไว้ตั้งนานแล้ว เพราะตั้งแต่เดือนหน้า พวกเขาทั้งสองคนก็จะต้องกลับเข้าสู่ช่วงที่งานยุ่งอีกครั้ง ยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้าพวกเขาจะไม่มีเวลาว่างอีกเลย

นอกจาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อีกสองภาคที่ต้องถ่ายให้เสร็จ เฉินเฟยเอ๋อร์ยังต้องจัดคอนเสิร์ตอีกด้วย ยังไม่รวมถึงคอนเสิร์ตและอัลบั้มที่กำลังจะออกใหม่ของลู่เฉิน ไหนจะการเป็นพรีเซ็นเตอร์และแขกรับเชิญรายการต่างๆ อีก ต่อให้เป็นช่วงปีใหม่ก็คงจะไม่มีวันหยุดอีกแล้ว

ดังนั้นต้องฉวยโอกาสก่อนที่งานจะรัดตัว ออกไปเที่ยวให้สนุกสักครั้ง!

มาเล่ เป็นเมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์ มีเนื้อที่เพียง 1.5 ตารางกิโลเมตร เทียบไม่ได้กับมหาวิทยาลัยในประเทศบางที่ด้วยซ้ำ ที่นี่มีประชากร 150,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของประชากรทั้งประเทศ

เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างเล็ก สนามบินนานาชาติมาเล่จึงไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะ แต่ตั้งอยู่บนเกาะฮูลฮูเลที่ห่างไปไม่ไกล

หลังลงจากเครื่องบิน ทางนี้ก็ได้จัดเตรียมพนักงานมารับที่สนามบิน จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็นั่งเครื่องบินสีขาวลำงามบินไปยังจุดหมายที่แท้จริง

บินมาได้ไม่นาน เกาะที่มีลักษณะโดดเด่นก็ปรากฏสู่สายตา

ลู่เฉินพูดกับเฉินเฟยเอ๋อร์ว่า “นี่คือเกาะพาราไดซ์ อีกสองวันพวกเราค่อยกลับมาเที่ยวที่เกาะนี้”

การมองไข่มุกเม็ดนี้ในมหาสมุทรอินเดียจากท้องฟ้า ให้ความรู้สึกต่างจากที่เห็นในภาพยนต์หรือในนิตยสารอย่างสิ้นเชิง ความงดความและความวิจิตรของธรรมชาตินั้น ทำให้คนเราตะลึงได้จริงๆ

เกาะพาราไดซ์เป็นเกาะท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของมัลดีฟส์ บนเกาะมีบ้านพักตากอากาศมากมาย รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงและความสนุกสนานก็ครบครัน ทำให้ในแต่ละปีดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก

เฉินเฟยเอ๋อร์ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเกาะพาราไดซ์ไปสองสามรูป

มาเที่ยวมัลดีฟส์ครั้งนี้ เธอตั้งใจซื้อกล้องเอสแอลอาร์รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อเตรียมเอามาเก็บภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งหมดของเกาะนี้

เช่นเดียวกับลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อก็เพิ่งจะเคยมาที่มัลดีฟส์เป็นครั้งแรก

แต่วันนี้จุดหมายของทั้งสองคนนั้นไม่ใช่เกาะพาราไดซ์ เครื่องบินได้บินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ครู่หนึ่ง ผ่านภูเขาอีกลูกที่ปกคลุมไปด้วยต้นมะพร้าว เกาะเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยหาดทรายสีขาวก็ปรากฏขึ้น

เครื่องบินทะเลไม่ได้ลงจอดในทันที แต่กลับบินรอบเกาะเล็กๆ นั้นสองรอบ

“เอ๊ะ?”

เฉินเฟยเออร์พบสิ่งที่ทำให้แปลกใจ “เกาะเล็กๆ นี่เหมือนกับรูปหัวใจเลย วิเศษมาก! ”

ลู่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ชอบหรือเปล่า”

“ชอบสิ! ”

เฉินเฟยเอ๋อร์กดชัตเตอร์ถ่ายรูปไปแล้วหลายสิบรูป เธอพยักหน้าถี่ๆ ก่อนจะตอบอย่างอิ่มอกอกใจว่า “สวยมาก! ”

เครื่องบินค่อยๆ ร่อนลงจอดที่ท่าเรือของเกาะ

หลังลงจากเครื่องบินทะเล เบื้องหน้าก็คือหาดทรายที่กว้างใหญ่ ทรายเนื้อละเอียดสีขาวสะอาด ต้นมะพร้าวมากมาย ประกอบกับน้ำทะเลสีฟ้าครามรวมกันสามารถใช้เป็นภาพพื้นหลังของหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เลย

ทั้งสองฝั่งของท่าเรือมีเรือสำราญลำเล็กๆ ลำหนึ่งจอดอยู่ ระยะทางจากสนามบินมาเล่ไปเกาะพาราไดซ์นั้นเพียงแค่ 10 กิโลเมตร และเกาะเล็กๆ นี้ก็อยู่ห่างจากเกาะพาราไดซ์เพียงไม่กี่กิโลเมตร ระยะห่างทางทะเลของทั้งสองใกล้กันมาก

ทางเดินเส้นหนึ่งทอดยาวจากท่าเรือมาจนถึงบ้านพักตากอากาศที่ตั้งตระหง่านอยู่ในดงต้นมะพร้าว นอกจากพนักงานที่มาต้อนรับด้านหน้าแล้ว ก็ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เลย

เฉินเฟยเออร์ถามอย่างสงสัยว่า “นายเช่าเกาะนี้มาหรือเปล่า ชื่อเกาะว่าอะไรเหรอ”

ลู่เฉินโอบเอาตัวเธอมาแนบอกอย่างเบาๆ และพูดว่า “ผมซื้อมันมาแล้ว ชื่อของมันคือเกาะนางฟ้า”

เฉินเฟยเอ๋อร์ตาค้างไปแล้ว

การเดินทางมามัลดีฟส์ครั้งนี้ถูกจัดการโดยลู่เฉิน เธอรู้เพียงว่าจะมาเที่ยวที่นี่ แต่เธอไม่คาดคิดว่าลู่เฉินจะซื้อเกาะจริงๆ!

“นาย ไม่ใช่ว่านายกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ”

ลู่เฉินจูบใบหน้าของเธอ พร้อมกับยิ้มตอบว่า “แน่นอนว่าไม่ได้ล้อเล่น ผมตั้งใจซื้อให้คุณ เป็นของขวัญวันครบรอบสามปีนะ!”

ดวงตาของเฉินเฟยเอ๋อร์เอ่อแดงขึ้นมาทันที ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถปฏิเสธของขวัญแห่งความรักแบบนี้ได้หรอก แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และเธอก็ที่ไม่ได้สนใจว่ารอบข้างจะมีคนอื่นอยู่หรือไม่ เธอกอดตอบและจูบลู่เฉินอย่างดูดดื่ม

เดิมทีคิดว่าเป็นแค่ทริปมาเที่ยวผ่อนคลาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่!

ลมทะเลพัดผ่าน ทั้งสองคนจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่นาน ก่อนจะผละออกจากกันด้วยความอาลัยอาวรณ์

ใบหน้าของเฉินเฟยเอ๋อร์นั้นแดงก่ำ ดวงตาทั้งสองที่กะพริบอย่างรวดเร็วมีหยดน้ำตาไหลออกมา

ลู่เฉินจูงมือของเธอ เดินไปยังด้านในของบ้านพักตากอากาศ ในขณะเดียวกันก็เล่าประวัติที่มาของเกาะเล็กๆ แห่งนี้ไปด้วย

เกาะนางฟ้าแห่งนี้ไม่ได้ก่อตัวขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก่อนมันเป็นแค่แนวปะการังเล็กๆ ต่อมาได้ถูกต่อเติมและขยายจนเกิดเป็นขนาดและรูปแบบอย่างในตอนนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 12 เอเคอร์ มีหาดทรายยาวหลายร้อยเมตรรอบเกาะ มีบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่ มีท่าเรือสำราญและอื่นๆ อีก ทั้งยังมีเครื่องปั่นไฟและระบบกรองน้ำทะเลเป็นน้ำจืด

เจ้าของเก่าเป็นนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส แต่เขาต้องการเงินทุนเพื่อไปทำธุรกิจทำให้ต้องขายแบบโละราคา แต่ลู่เฉินเพิ่งจะรู้ว่ามีเกาะแบบนี้ขายก็ตอนที่คุยกับหลี่มู่ไป๋ คนหลังได้เดินทางไปเที่ยวทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้เดินทางมายังมัลดีฟส์มากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว

ลู่เฉินได้รับทราบผ่านเขา และจ่ายเงินไปกว่า 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อเกาะนี้

ราคาไม่ได้ถูกเลย และค่าบำรุงรักษาในอนาคตก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน แต่สำหรับลู่เฉินมันไม่ถือเป็นเรื่องลำบาก เพราะเงินที่หามาอย่างยากลำบากไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอามาใช้แน่นอน

ขอแค่คนที่รักชอบก็พอแล้ว!

…………………………………………………………………………