ตอนที่ 585 การมาถึง (1)

“เพื่อนๆ อีกครั้งชั่วโมงฉันจะออกแล้ว…”

ฉีเฮ่ากดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว พูดในกลุ่มเฟยซวิ่นว่า “แล้วเจอกันที่โรงหนังนะ!”

เขาเพิ่งจะส่งข้อความออกไป ในกลุ่มตอบกลับมาไวมาก

“ฉันกำลังไป!”

“ฮ่าๆ ฉันก็อยู่บนแท็กซี่ แต่ถนนไหวหนานรถติดมาก เส้นทางไม่ดีเลย”

“ฮิๆ เย็นนี้ฉันพาแฟนสาวไปดู ‘โปเยโปโลเย’ ด้วย พวกคุณอิจฉาใช่ไหม”

“อิจฉาเหลือเกิน ฉันพาไปสองคน!”

“แม่ง สัตว์ป่าดุร้ายอย่างพวกคุณ ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย พวกคุณก็เดินทางแล้ว”

“ฉันกำลังออกไปเหมือนกัน ในที่สุดก็จะได้เจอพี่เฮ่าจื่อสักที”

“งั้นคุณก็เตรียมตัวอาเจียนได้เลย…”

ถึงแม้ในกลุ่มจะถือโอกาสแซว แต่ฉีเฮ่ากลับไม่โกรธเลยสักนิด หัวเราะฮ่าๆ “ไสหัวไป!”

ฉีเฮ่าเป็นสมาชิกกลุ่มแฟนคลับสนับสนุนลู่เฉินในจินหลิง เนื่องจากชื่อทางออนไลน์ บวกกับความอาวุโสและนิสัยเป็นกันเอง ดังนั้นทุกคนจึงเรียกเขาว่าพี่เฮ่าจื่ออย่างสนิทสนม

ฉีเฮ่านับว่าเป็นหนึ่งในแฟนคลับรุ่นแรกๆ ของลู่เฉิน ตอนแรกลู่เฉินเริ่มถ่ายทอดสดใน ‘ลานแสงดาว’ เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ชม และยังมอบดาวให้ลู่เฉินไม่น้อย

ต่อมาลู่เฉินแตกหักกับ ‘ลานแสงดาว’ ฉีเฮ่าจึงตามมาที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เขาชอบผลงานเพลงของลู่เฉินมาก กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นแฟนเพลงตัวยงของลู่เฉิน

ที่สำคัญที่สุดคือฉีเฮ่าเคยเรียนดนตรีมาก่อน ถือว่าเป็นบุคคลที่เป็นกึ่งมืออาชีพ เขามักจะให้คะแนนเพลงของลู่เฉินในฟอรัม หน้าเว็บ และกลุ่มเฟยซวิ่นอยู่เสมอ วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและไม่ขาดความตลกขบขัน ดังนั้นตัวเขาเองจึงมีแฟนคลับไม่น้อย และมีอิทธิพลในกลุ่มแฟนคลับค่อนข้างสูงมาก

ถึงแม้ฉีเฮ่าจะไม่มีหน้าที่รับผิดชอบใดๆ ในกลุ่มแฟนคลับสนับสนุนลู่เฉินของจินหลิง แต่เขามีพลังดึงดูดใจที่แข็งแกร่งมากในกลุ่มแฟนคลับที่มีจำนวนสมาชิกห้าพันคน กิจกรรมเหมาโรงชมภาพยนตร์ในคืนนี้ก็เกิดขึ้นจากเขา และยังได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนในกลุ่มเป็นจำนวนมาก

สองสามวันก่อน ฉีเฮ่าเสนอไอเดียในกลุ่ม ให้ทุกคนระดมทุนร่วมกัน เหมาโรงหนังใหญ่ที่ฉาย ‘โปเยโปโลเย’ ในวันนั้น เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจลู่เฉิน

ไอเดียที่เขาเสนอนี้ ได้รับการตอบสนองจากเพื่อนๆ ในกลุ่มเป็นอย่างยิ่ง คนที่แสดงตัวอยากจะร่วมงานด้วยมากมายนับไม่ถ้วน

นอกจากนี้ก็ยังระดมเงินสำเร็จภายในเวลาที่สั้นมาก

จากนั้นฉีเฮ่าก็ไปติดต่อโรงภาพยนตร์ใหญ่แห่งหนึ่งในท้องถิ่น ขอเหมาโรงขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุผู้ชมได้เจ็ดร้อยที่นั่ง แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สมาชิกในกลุ่มหลายคนก็ยังมาไม่ทันอยู่ดี หรือคนที่มาทันแต่ชิงโควตาไม่ได้ก็มีมากมาย

สมาชิกกลุ่มหลายคนในตอนนั้นออกเงินสองเท่า เพราะอยากพาแฟนหนุ่มหรือแฟนสาวไปดูด้วยกัน ดังนั้นจึงยึดครองโควตาเอาไว้ ภายใต้สถานการณ์ที่พระเยอะโจ๊กน้อยแย่งกันไม่ทันแบบนี้ ทำให้พวกที่อยากร่วมสนุกด้วยรู้สึกไม่พอใจมาก เอะอะโวยวายขึ้นมาในกลุ่ม

ด้วยความจนใจ ฉีเฮ่าจึงต้องระดมทุนอีกครั้ง และเหมาโรงฉายภาพยนตร์อีกสองโรงในเวลาเดียวกันที่โรงภาพยนตร์แห่งเดียวกัน แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกคนได้เต็มที่

ทว่าก็ไม่มีทางอื่น เพราะการจัดรอบฉาย ‘โปเยโปโลเย’ ของโรงภาพยนตร์แห่งนี้มีแค่นี้เท่านั้น และเพื่อตอบสนองความต้องการในการเหมาโรงภาพยนตร์ ยังได้ปรับเปลี่ยนเวลาให้เป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นโดยทั่วไปแล้วโรงฉายภาพยนตร์ทั้งสามจะไม่ฉายภาพยนตร์ใหม่ที่มีสัดส่วนรอบฉายไม่สูงมากในเวลาเดียวกันแบบนี้

การจัดรอบฉาย ‘โปเยโปโลเย’ ในเครือโรงภาพยนตร์ใหญ่สามแห่งของประเทศจีนถูกประกาศบนบล็อกอย่างเป็นทางการเมื่อสองสามวันก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 15.75% ถือว่าไม่ง่ายเลย

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างประเทศจีนกับฮ่องกงที่ได้รับนโยบายสนับสนุนภาพยนตร์ใหม่ของฮ่องกง ‘โปเยโปโลเย’ สามารถรับประกันรอบฉายภาพยนตร์ในเครือโรงภาพยนตร์ของประเทศจีนโดยมีขั้นต่ำอยู่ที่ 10% ในสัปดาห์แรก แต่ไม่สามารถรับประกันเวลาที่แน่ชัดกับสัดส่วนรอบฉายที่สูงขึ้นได้

ที่เกินมา 5.75% เป็นผลมาจากความพยายามของเฉินเฟยมีเดีย นอกจากการประชาสัมพันธ์ในเครือโรงภาพยนตร์แล้ว การโปรโมตก็มีความดีความชอบเช่นกัน ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ใช้ประโยชน์จากสายสัมพันธ์ของคนวงในอย่างเต็มที่ เรื่องเวลาถือว่าไม่ได้ถูกจัดให้แย่นัก

แต่เนื่องจาก ‘สงครามเทพอัคคี’ ที่กำลังฉายอย่างคึกคักได้แสดงกำลังที่แข็งแกร่ง จึงเบียดพื้นที่ตลาดของ ‘โปเยโปโลเย’ อย่างหนัก ถ้าหาก ‘โปเยโปโลเย’ ทำผลงานออกมาไม่ดี เช่นนั้นสัดส่วนรอบฉายก็จะลดลงได้ตลอดเวลา

เครือโรงภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์นั้นอยู่กับความเป็นจริงมาก ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อการจัดรอบฉายก็คือรายได้ตั๋วหนัง นับตั้งแต่ ‘สงครามเทพอัคคี’ ออกฉายในวันที่ 20 มีนาคม จนถึงตอนนี้ก็เกือบสองสัปดาห์แล้ว รายได้ตั๋วหนังทะลุแปดร้อยล้านไปเรียบร้อย

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สัดส่วนรอบฉายในเครือโรงภาพยนตร์ของภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องนี้เพิ่มสูงขึ้นลูกเดียว ได้ยินว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาได้ขอขยายเวลาต่อกรมวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ เพราะหวังจะเพิ่มรายได้ตั๋วหนังให้สูงขึ้น

แม้ว่าภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของฮอลลีวูดจะได้รับการขยายเวลาน้อยยิ่งกว่าน้อย โอกาสที่จะสำเร็จสมดังหวังของ ‘สงครามเทพอัคคี’ ก็น้อยมาก แต่เพียงพอที่จะเห็นได้ชัดว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องนี้โด่งดังมากในตลาดภาพยนตร์ของประเทศจีนในตอนนี้

‘สงครามเทพอัคคี’ ยิ่งดัง ยิ่งทำให้ ‘โปเยโปโลเย’ ที่จะเข้าโรงวันนี้กดดันมาก!

ฉีเฮ่าที่ติดตามบล็อกมาตลอดก็เข้าใจจุดนี้อย่างชัดเจน

เขายังเคยร่วมทำสงครามน้ำลายกับวังเสี่ยวซวี่ที่เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์เช่นกัน ถึงแม้จะมั่นใจในตัวลู่เฉิน แต่ในใจก็คิดว่าการวิเคราะห์ของวังเสียวซวี่มีเหตุผลมากเหมือนกัน

ทว่านี่ไม่อาจสั่นคลอนการสนับสนุนของฉีเฮ่าที่มีต่อลู่เฉินได้ เขาออกหน้าจัดกิจกรรมเหมาโรงหนังดูภาพยนตร์ในครั้งนี้ คือการสะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างหนึ่ง!

ฉีเฮ่าคนโสดตัวคนเดียว กินข้าวเย็นที่ร้านอาหารเล็กๆ ข้างนอก กินเสร็จเขาก็รีบไปที่โรงภาพยนตร์

โรงภาพยนตร์ที่กลุ่มแฟนคลับเหมาอยู่ในเครือโรงภาพยนตร์กวงอิ่ง ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ใกล้อพาร์ตเมนต์ที่ฉีเฮ่าเช่าอยู่มาก เดินสิบนาทีก็ถึงแล้ว

โรงภาพยนตร์กวงอิ่งแห่งนี้เปิดให้บริการไม่ถึงหนึ่งปี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่เอี่ยม การบริการถือว่าไม่เลว

ตั๋วภาพยนตร์ที่เหมาโรงภาพยนตร์ได้ใช้เฟยซิ่นส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของทุกคนนานแล้ว หลังจากโชว์คิวอาร์โค้ดตั๋วภาพยนตร์ให้เจ้าหน้าที่โรงภาพยนตร์สแกน ฉีเฮ่าก็ถือป็อปคอร์นหนึ่งถังกับโค้กหนึ่งแก้วที่เป็นของตัวเอง เดินก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่หมายเลขหนึ่ง

ภายในห้องโถงใหญ่ที่กว้างขวางแสงไฟสว่างไปทั่ว ที่นั่งเจ็ดร้อยที่นั่งมีคนนั่งเกินครึ่งแล้ว ถึงแม้การจัดเวลาฉายภาพยนตร์จะเร่งรีบมาก ต่อให้เป็นการเหมาโรงฉายภาพยนตร์ก็แทบไม่มีที่ว่างเหลือมากกว่านี้ ทว่าเหตุการณ์เช่นนี้ยังคงทำให้ฉีเฮ่ารู้สึกทึ่งเหมือนกัน

ควรทราบว่าตอนนี้ห่างจากเวลาฉายภาพยนตร์รอบแรกอีกยี่สิบนาทีกว่า!

“เอ๊ะ นั่นพี่เฮ่าจื่อใช่ไหม”

ขณะที่ฉีเฮ่ากำลังชะเง้อมองหาที่นั่งของตัวเอง ผู้ชมแฟนคลับคนหนึ่งที่มาถึงก่อนก็เห็นเขา และจำฉีเฮ่าได้ทันที…ฉีเฮ่าเคยโชว์รูปภาพในกลุ่มเฟยซวิ่นก่อนหน้านี้

ความนิยมของเขาในกลุ่มแฟนคลับค่อนข้างมาก พออีกฝ่ายตะโกนเช่นนี้ เกือบทุกคนต่างหันหน้ามองมาทางนี้

ฉีเฮ่ากลายเป็นจุดสนใจในชั่วพริบตา

คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยเจอฉีเฮ่าตัวจริง ดังนั้นส่วนมากจึงมองด้วยสายตาที่สงสัยใคร่รู้รุนแรง

นี่ทำให้ฉีเฮ่ารู้สึกเคอะเขินมาก เขาจึงได้แต่ยิ้มเก้ๆ กังๆ พลางโบกมือ “ไฮ สวัสดีตอนเย็นทุกคน!”

วินาทีต่อมา ในงานพลันเสียงดังอึกทึกทันที

…………………………………………………………………………