Perfect Superstar 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน

ออกจากศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนแล้ว พี่หลีไปส่งลู่เฉินถึงลานจอดรถ

ลู่เฉินบอกว่า “พี่หลี ไม่ต้องส่งแล้วครับ รถของผมจอดอยู่ข้างหน้านี่เอง เอาไว้ค่อยเจอกันหลังปีใหม่นะครับ”

มาที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเพื่อดูการฝึกซ้อมของวงเสียวหู่ถวน เป็นเรื่องสุดท้ายที่เขาทำในปักกิ่ง หลังจากนี้เขากับลู่ซีจะขับรถกลับบ้านที่ปินไห่ เพื่ออยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวในวันตรุษจีนขึ้นปีใหม่

พี่หลียิ้ม “ลำบากนายแล้ว จวิ้นจื้อได้ครูอย่างนาย เป็นโชคดีของเขาจริงๆ!”

เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ลู่เฉิน เจนนิเฟอร์คนนั้นโตมาในต่างประเทศ นิสัยของเธอค่อนข้าง… จะบอกว่ายังไงดี ฉันรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันธรรมดายังพอได้ อย่างอื่น…นายอย่าถือสาที่พี่หลีปากมากเลยนะ”

ลู่เฉินกระอักกระอ่วน “พี่หลี พี่คิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้อำนวยการเหอเลย”

ตอนนี้การงานของเขากำลังรุ่งโรจน์ แม้แต่เวลาจะคบหากับเฉินเฟยเอ๋อร์ยังไม่มีเลย แล้วยังจะมีแก่ใจไปหาเรื่องใส่ตัวอีกหรือ อีกอย่างลู่เฉินไม่ใช่คนหลายใจแบบนั้นสักหน่อย

อยู่ในวงการบันเทิงที่มีสาวสวยเต็มไปหมด รูปลักษณ์ท่าทางที่เย้ายวนมีมากเกินไป ถ้าไม่มีความทรงจำในโลกแห่งความฝันที่นำมาซึ่งประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมมาแรมเดือนแรมปี คนหนุ่มอย่างลู่เฉินอาจจะหลงทางไขว้เขวไปแล้ว

แต่เขาในตอนนี้ สามารถมองความสวยงามของหญิงสาวที่ปรากฏขึ้นรอบกายได้อย่างเฉยเมย ระลึกถึงวัตถุประสงค์เดิมแท้ของตัวเองอยู่เสมอ

เจนนิเฟอร์นั้นแม้เธอจะสวยและร้อนแรง แต่ก็ไม่ใช่แบบที่ลู่เฉินชอบ

พี่หลีตั้งใจเตือนเป็นพิเศษ เพราะเธอกับเฉินเฟยเอ๋อร์สนิทสนมกันเป็นอย่างดี และเธอก็เป็นคนเชิญลู่เฉินมาที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเอง หากลู่เฉินถูกคนอื่นแย่งชิงไป เธอคงหนีความผิดไปไม่พ้น!

ตอนนี้เห็นว่าลู่เฉินไม่หวั่นไหว พี่หลีถึงวางใจลง หัวเราะแล้วบอกว่า “เจนนิเฟอร์เป็นคนดี เพียงแต่เบื้องหลังซับซ้อนไปหน่อย…เอาละ ขอให้นายเดินทางปลอดภัยนะ!”

ลู่เฉินยิ้ม เบื้องหลังของเจนนิเฟอร์จะธรรมดาหรือซับซ้อนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลยสักนิด

ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้กลับมาอีก

หลังจากโบกมือลาพี่หลี ลู่เฉินรีบขับรถไปที่สตูดิโอ

สตูดิโอหยุดงานแล้ว หลี่เฟยอวี่กับเฉินซินเพิ่งเดินทางออกจากเมืองหลวงไปเมื่อวาน

ลู่ซีรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว ยังมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบเล็ก ส่วนใหญ่เป็นของขวัญปีใหม่ที่จะให้แก่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูง ไม่อาจพูดว่ามีค่ามากมาย จุดประสงค์เพียงเพื่ออวยพรและเฉลิมฉลองเทศกาลเท่านั้น

ลู่เฉินพาพี่สาวและกระเป๋าเดินทาง ขับรถสู่ทางหลวงพิเศษเหยียนไห่

ทางหลวงพิเศษเส้นนี้มีความยาวพันกว่ากิโลเมตร สามารถเดินทางจากเมืองหลวงถึงปินไห่ได้โดยตรง ลู่เฉินกับลู่ซีสองคนดั้นด้นเดินทาง ตอนประมาณสามทุ่มกว่าก็กลับมาถึงเมืองปินไห่

กลับถึงบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนจิ่งเซิ่ง

“พี่ชาย!”

ลู่เสวี่ยกำลังดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก พอเห็นพี่สาวกับพี่ชายเปิดประตูเข้ามา เธอดีดตัวจากโซฟาร้องเสียงแหลม “แม่ พี่ชายกับพี่สาวกลับมาแล้ว!”

เพิ่งพูดจบเธอก็กระโดดลงมาจากโซฟา แม้แต่รองเท้าแตะก็ไม่สวม วิ่งพุ่งเข้าไปหาลู่เฉินทันที

เธอกระโจนเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของลู่เฉิน ทำเอาฝ่ายหลังเกือบล้มหงายหลัง

ลู่เฉินกอดน้องสาวไว้แน่น ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้…โตเป็นสาวขนาดนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็ก

แต่ในใจของเขายังคงเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข และความดีใจที่ได้กลับบ้าน

ลู่ซีวางกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ในมือลง ถลึงตาใส่แล้วบ่นว่า “เลยปีใหม่ก็จะอายุสิบแปดแล้ว ยังวู่วามบุ่มบ่ามขนาดนี้ รีบลงมาเร็วๆ เลย เหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้!”

เทียบกับความรักความเอ็นดูของลู่เฉิน ลู่ซีค่อนข้างเข้มงวดกับน้องสาวมากกว่า

ลู่เสวี่ยเบะปาก แต่ก็ลงมาจากตัวของลู่เฉินอย่างเชื่อฟัง แล้วรับถุงกระดาษมาจากมือของเขา

“พี่ชาย ซื้อของขวัญอะไรมาให้หนู”

“พี่ รู้ไหมว่าตอนนี้พี่เป็นคนดังของโรงเรียนหนูไปแล้ว มีหลายคนมาขอลายเซ็นพี่จากหนูด้วย!”

“ฮ่าๆ หนูแค่ขายลายเซ็นก็รวยแล้ว พี่เซ็นให้หนูสักห้าร้อยแผ่นนะ หนูจะเก็บไว้”

“อิๆ มีคนเขียนจดหมายรักฝากหนูมาให้พี่ด้วย เดี๋ยวจะเอามาให้อ่าน”

“แม้แต่เด็กผู้หญิงโรงเรียนอื่นยังเข้ามาหาเลย…”

ลู่เสวี่ยลากตัวลู่เฉินไว้พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด ราวกับระบายคำพูดที่อัดอั้นมานานนับไม่ถ้วน

ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ยังออกอากาศไม่จบ ทำให้ลู่เฉินกลายเป็นคนดังของเมืองปินไห่ไปแล้ว ชื่อเสียงของเขาแตกต่างกับครั้งล่าสุดที่กลับมามาก

ลู่เสวี่ยเองก็กลายเป็นคนที่ถูกจับตามองของโรงเรียน…น้องสาวของลู่เฉินนี่นา!

เธอพูดเหมือนเธอรำคาญใจ แต่ความจริงแล้วได้ใจที่สุด ราวกับเด็กน้อยที่อยากอวดของเล่นชิ้นใหญ่ที่เพิ่งได้มา

ลู่เฉินฟังจนปวดหัวไปหมด โชคดีที่แม่ของเขาเข้ามาช่วยชีวิตไว้ทัน

“ลู่เสวี่ย อย่าไปรบกวนพี่ชายเขา…”

ฟางอวิ๋นเอ่ยด้วยความเป็นห่วง “พวกลูกต้องหิวมากแน่เลย เดี๋ยวแม่ไปทำของว่างมื้อดึกให้ในครัว”

ลู่ซีพูด “แม่ หนูไปช่วยด้วย”

สองแม่ลูกเข้าไปในครัว เสียงพูดคุยดังลอดบานกระจกออกมา

“เมื่อกี้ได้ยินเสียงรถ พวกลูกขับรถกลับมากันเหรอ”

“ใช่ค่ะ”

“ขับรถมันเหนื่อย ไม่ปลอดภัย ครั้งหน้านั่งรถไฟความเร็วสูงนะ ทั้งเร็วทั้งปลอดภัย รู้ไหม”

“เพราะจัดการเวลาที่แน่นอนไม่ได้ เลยจองตั๋วก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ตอนอยากซื้อตั๋วก็ดันหมดแล้ว แถมยังต้องขนของอีก…”

“ข้าวของความจริงไม่ต้องซื้อมาหรอก ที่ปักกิ่งมีของอะไรที่นี่ก็มีเหมือนกัน…”

ลู่เฉินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ซึมซับความสุขสบายที่ลู่เสวี่ยช่วยนวดให้ พลางฟังเสียงพูดคุยที่ดังออกมาจากในห้องครัว ในใจรู้สึกอิ่มเอมสุขสงบ คิดว่าเพื่อช่วงเวลาแบบนี้ต่อให้เขาจะต้องลำบากเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็คุ้มค่า

น่าเสียดายที่ความสุขนี้ถูกลู่เสวี่ยที่พูดไม่หยุดปากทำลายลงในชั่วพริบตา

“พี่ หนูกับเพื่อนดูละครรักนี้ชั่วนิรันดร์ที่พี่กับเฉินเฟยเอ๋อร์เล่น พวกเขาบอกว่าสนุกมากเลย”

“พวกเขาอยากถามว่าตอนจบจะเป็นยังไง โรคของเอินซีรักษาหายไหม พวกเขาได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่า”

“อาจารย์ในโรงเรียนก็ดูนะ อาจารย์จางของหนูยังถามถึงพี่ด้วย!”

“เพื่อนสนิทของหนูถ้ารู้ว่าพี่กลับมา ต้อง…”

“เอาละๆ!”

ลู่เฉินยอมศิโรราบให้เธอให้แล้ว “พี่จะเซ็นชื่อให้เธอ ร้อยแผ่นเลย!”

ลู่เสวี่ยหัวเราะ “ร้อยแผ่นไม่พอ อย่างน้อยต้องสามร้อยแผ่น ใช่แล้วพี่ พี่กับเฉินเฟยเอ๋อร์จริงหรือเปล่า”

ลู่เฉินทำหน้าไม่ถูก “จริงหรือเปล่าอะไร”

ลู่เสวี่ยสงสัย “คบกันจริงหรือเปล่า พวกเพื่อนๆ บอกว่าพวกพี่สองคนเล่นละครจนรักกันจริงๆ!”

ลู่เฉินถอนหายใจ “เด็กคนนี้อย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ไปหน่อยเลย เธออย่าไปเที่ยวพูด พี่เซ็นให้สองร้อยแผ่น”

ลู่เสวี่ยโกรธ “หนูจะสิบแปดแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่างน้อยต้องสามร้อยแผ่น!”

ขณะที่พี่ชายน้องสาวต่อล้อต่อเถียงกัน ทางฟางอวิ๋นกับลู่ซียกอาหารมื้อดึกออกมาจากในห้องครัว

เป็นแค่บะหมี่ไข่มะเขือเทศ ลู่เฉินหิวมากจริงๆ บะหมี่ชามใหญ่เขากินจนหมดเกลี้ยง อร่อยมาก

ของแพงของดีเคยกินมามากมาย แต่รสชาติอาหารในบ้านเป็นรสชาติที่โรงแรมไหนก็ทำออกมาได้ไม่เหมือน

ความสุขของการกลับบ้านในวันปีใหม่ มันช่างดีเหลือเกิน!

……………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 282 ความรู้สึกของการกลับบ้าน

ออกจากศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนแล้ว พี่หลีไปส่งลู่เฉินถึงลานจอดรถ

ลู่เฉินบอกว่า “พี่หลี ไม่ต้องส่งแล้วครับ รถของผมจอดอยู่ข้างหน้านี่เอง เอาไว้ค่อยเจอกันหลังปีใหม่นะครับ”

มาที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเพื่อดูการฝึกซ้อมของวงเสียวหู่ถวน เป็นเรื่องสุดท้ายที่เขาทำในปักกิ่ง หลังจากนี้เขากับลู่ซีจะขับรถกลับบ้านที่ปินไห่ เพื่ออยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวในวันตรุษจีนขึ้นปีใหม่

พี่หลียิ้ม “ลำบากนายแล้ว จวิ้นจื้อได้ครูอย่างนาย เป็นโชคดีของเขาจริงๆ!”

เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ลู่เฉิน เจนนิเฟอร์คนนั้นโตมาในต่างประเทศ นิสัยของเธอค่อนข้าง… จะบอกว่ายังไงดี ฉันรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันธรรมดายังพอได้ อย่างอื่น…นายอย่าถือสาที่พี่หลีปากมากเลยนะ”

ลู่เฉินกระอักกระอ่วน “พี่หลี พี่คิดมากไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้อำนวยการเหอเลย”

ตอนนี้การงานของเขากำลังรุ่งโรจน์ แม้แต่เวลาจะคบหากับเฉินเฟยเอ๋อร์ยังไม่มีเลย แล้วยังจะมีแก่ใจไปหาเรื่องใส่ตัวอีกหรือ อีกอย่างลู่เฉินไม่ใช่คนหลายใจแบบนั้นสักหน่อย

อยู่ในวงการบันเทิงที่มีสาวสวยเต็มไปหมด รูปลักษณ์ท่าทางที่เย้ายวนมีมากเกินไป ถ้าไม่มีความทรงจำในโลกแห่งความฝันที่นำมาซึ่งประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมมาแรมเดือนแรมปี คนหนุ่มอย่างลู่เฉินอาจจะหลงทางไขว้เขวไปแล้ว

แต่เขาในตอนนี้ สามารถมองความสวยงามของหญิงสาวที่ปรากฏขึ้นรอบกายได้อย่างเฉยเมย ระลึกถึงวัตถุประสงค์เดิมแท้ของตัวเองอยู่เสมอ

เจนนิเฟอร์นั้นแม้เธอจะสวยและร้อนแรง แต่ก็ไม่ใช่แบบที่ลู่เฉินชอบ

พี่หลีตั้งใจเตือนเป็นพิเศษ เพราะเธอกับเฉินเฟยเอ๋อร์สนิทสนมกันเป็นอย่างดี และเธอก็เป็นคนเชิญลู่เฉินมาที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเอง หากลู่เฉินถูกคนอื่นแย่งชิงไป เธอคงหนีความผิดไปไม่พ้น!

ตอนนี้เห็นว่าลู่เฉินไม่หวั่นไหว พี่หลีถึงวางใจลง หัวเราะแล้วบอกว่า “เจนนิเฟอร์เป็นคนดี เพียงแต่เบื้องหลังซับซ้อนไปหน่อย…เอาละ ขอให้นายเดินทางปลอดภัยนะ!”

ลู่เฉินยิ้ม เบื้องหลังของเจนนิเฟอร์จะธรรมดาหรือซับซ้อนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลยสักนิด

ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้กลับมาอีก

หลังจากโบกมือลาพี่หลี ลู่เฉินรีบขับรถไปที่สตูดิโอ

สตูดิโอหยุดงานแล้ว หลี่เฟยอวี่กับเฉินซินเพิ่งเดินทางออกจากเมืองหลวงไปเมื่อวาน

ลู่ซีรอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว ยังมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบเล็ก ส่วนใหญ่เป็นของขวัญปีใหม่ที่จะให้แก่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูง ไม่อาจพูดว่ามีค่ามากมาย จุดประสงค์เพียงเพื่ออวยพรและเฉลิมฉลองเทศกาลเท่านั้น

ลู่เฉินพาพี่สาวและกระเป๋าเดินทาง ขับรถสู่ทางหลวงพิเศษเหยียนไห่

ทางหลวงพิเศษเส้นนี้มีความยาวพันกว่ากิโลเมตร สามารถเดินทางจากเมืองหลวงถึงปินไห่ได้โดยตรง ลู่เฉินกับลู่ซีสองคนดั้นด้นเดินทาง ตอนประมาณสามทุ่มกว่าก็กลับมาถึงเมืองปินไห่

กลับถึงบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชนจิ่งเซิ่ง

“พี่ชาย!”

ลู่เสวี่ยกำลังดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก พอเห็นพี่สาวกับพี่ชายเปิดประตูเข้ามา เธอดีดตัวจากโซฟาร้องเสียงแหลม “แม่ พี่ชายกับพี่สาวกลับมาแล้ว!”

เพิ่งพูดจบเธอก็กระโดดลงมาจากโซฟา แม้แต่รองเท้าแตะก็ไม่สวม วิ่งพุ่งเข้าไปหาลู่เฉินทันที

เธอกระโจนเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของลู่เฉิน ทำเอาฝ่ายหลังเกือบล้มหงายหลัง

ลู่เฉินกอดน้องสาวไว้แน่น ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้…โตเป็นสาวขนาดนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็ก

แต่ในใจของเขายังคงเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข และความดีใจที่ได้กลับบ้าน

ลู่ซีวางกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ในมือลง ถลึงตาใส่แล้วบ่นว่า “เลยปีใหม่ก็จะอายุสิบแปดแล้ว ยังวู่วามบุ่มบ่ามขนาดนี้ รีบลงมาเร็วๆ เลย เหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้!”

เทียบกับความรักความเอ็นดูของลู่เฉิน ลู่ซีค่อนข้างเข้มงวดกับน้องสาวมากกว่า

ลู่เสวี่ยเบะปาก แต่ก็ลงมาจากตัวของลู่เฉินอย่างเชื่อฟัง แล้วรับถุงกระดาษมาจากมือของเขา

“พี่ชาย ซื้อของขวัญอะไรมาให้หนู”

“พี่ รู้ไหมว่าตอนนี้พี่เป็นคนดังของโรงเรียนหนูไปแล้ว มีหลายคนมาขอลายเซ็นพี่จากหนูด้วย!”

“ฮ่าๆ หนูแค่ขายลายเซ็นก็รวยแล้ว พี่เซ็นให้หนูสักห้าร้อยแผ่นนะ หนูจะเก็บไว้”

“อิๆ มีคนเขียนจดหมายรักฝากหนูมาให้พี่ด้วย เดี๋ยวจะเอามาให้อ่าน”

“แม้แต่เด็กผู้หญิงโรงเรียนอื่นยังเข้ามาหาเลย…”

ลู่เสวี่ยลากตัวลู่เฉินไว้พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด ราวกับระบายคำพูดที่อัดอั้นมานานนับไม่ถ้วน

ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ยังออกอากาศไม่จบ ทำให้ลู่เฉินกลายเป็นคนดังของเมืองปินไห่ไปแล้ว ชื่อเสียงของเขาแตกต่างกับครั้งล่าสุดที่กลับมามาก

ลู่เสวี่ยเองก็กลายเป็นคนที่ถูกจับตามองของโรงเรียน…น้องสาวของลู่เฉินนี่นา!

เธอพูดเหมือนเธอรำคาญใจ แต่ความจริงแล้วได้ใจที่สุด ราวกับเด็กน้อยที่อยากอวดของเล่นชิ้นใหญ่ที่เพิ่งได้มา

ลู่เฉินฟังจนปวดหัวไปหมด โชคดีที่แม่ของเขาเข้ามาช่วยชีวิตไว้ทัน

“ลู่เสวี่ย อย่าไปรบกวนพี่ชายเขา…”

ฟางอวิ๋นเอ่ยด้วยความเป็นห่วง “พวกลูกต้องหิวมากแน่เลย เดี๋ยวแม่ไปทำของว่างมื้อดึกให้ในครัว”

ลู่ซีพูด “แม่ หนูไปช่วยด้วย”

สองแม่ลูกเข้าไปในครัว เสียงพูดคุยดังลอดบานกระจกออกมา

“เมื่อกี้ได้ยินเสียงรถ พวกลูกขับรถกลับมากันเหรอ”

“ใช่ค่ะ”

“ขับรถมันเหนื่อย ไม่ปลอดภัย ครั้งหน้านั่งรถไฟความเร็วสูงนะ ทั้งเร็วทั้งปลอดภัย รู้ไหม”

“เพราะจัดการเวลาที่แน่นอนไม่ได้ เลยจองตั๋วก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ตอนอยากซื้อตั๋วก็ดันหมดแล้ว แถมยังต้องขนของอีก…”

“ข้าวของความจริงไม่ต้องซื้อมาหรอก ที่ปักกิ่งมีของอะไรที่นี่ก็มีเหมือนกัน…”

ลู่เฉินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ซึมซับความสุขสบายที่ลู่เสวี่ยช่วยนวดให้ พลางฟังเสียงพูดคุยที่ดังออกมาจากในห้องครัว ในใจรู้สึกอิ่มเอมสุขสงบ คิดว่าเพื่อช่วงเวลาแบบนี้ต่อให้เขาจะต้องลำบากเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็คุ้มค่า

น่าเสียดายที่ความสุขนี้ถูกลู่เสวี่ยที่พูดไม่หยุดปากทำลายลงในชั่วพริบตา

“พี่ หนูกับเพื่อนดูละครรักนี้ชั่วนิรันดร์ที่พี่กับเฉินเฟยเอ๋อร์เล่น พวกเขาบอกว่าสนุกมากเลย”

“พวกเขาอยากถามว่าตอนจบจะเป็นยังไง โรคของเอินซีรักษาหายไหม พวกเขาได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่า”

“อาจารย์ในโรงเรียนก็ดูนะ อาจารย์จางของหนูยังถามถึงพี่ด้วย!”

“เพื่อนสนิทของหนูถ้ารู้ว่าพี่กลับมา ต้อง…”

“เอาละๆ!”

ลู่เฉินยอมศิโรราบให้เธอให้แล้ว “พี่จะเซ็นชื่อให้เธอ ร้อยแผ่นเลย!”

ลู่เสวี่ยหัวเราะ “ร้อยแผ่นไม่พอ อย่างน้อยต้องสามร้อยแผ่น ใช่แล้วพี่ พี่กับเฉินเฟยเอ๋อร์จริงหรือเปล่า”

ลู่เฉินทำหน้าไม่ถูก “จริงหรือเปล่าอะไร”

ลู่เสวี่ยสงสัย “คบกันจริงหรือเปล่า พวกเพื่อนๆ บอกว่าพวกพี่สองคนเล่นละครจนรักกันจริงๆ!”

ลู่เฉินถอนหายใจ “เด็กคนนี้อย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ไปหน่อยเลย เธออย่าไปเที่ยวพูด พี่เซ็นให้สองร้อยแผ่น”

ลู่เสวี่ยโกรธ “หนูจะสิบแปดแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่างน้อยต้องสามร้อยแผ่น!”

ขณะที่พี่ชายน้องสาวต่อล้อต่อเถียงกัน ทางฟางอวิ๋นกับลู่ซียกอาหารมื้อดึกออกมาจากในห้องครัว

เป็นแค่บะหมี่ไข่มะเขือเทศ ลู่เฉินหิวมากจริงๆ บะหมี่ชามใหญ่เขากินจนหมดเกลี้ยง อร่อยมาก

ของแพงของดีเคยกินมามากมาย แต่รสชาติอาหารในบ้านเป็นรสชาติที่โรงแรมไหนก็ทำออกมาได้ไม่เหมือน

ความสุขของการกลับบ้านในวันปีใหม่ มันช่างดีเหลือเกิน!

……………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด