Perfect Superstar 578 ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงP

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 578 ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงP at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 578 ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง

สายตาของลู่เฉิน เป็นสายตาที่วั่นจินผิงเคยเห็นจากนักแสดงอาวุโสโดยแท้จริงคนหนึ่ง

ลึกล้ำราวกับหลุมดำ มองเห็นความเป็นไปของโลกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ต้องมองเห็นสัจธรรมแห่งโลกที่แท้จริงได้ถึงจะมีดวงตาเช่นนี้!

แล้วทำไมมันถึงอยู่บนร่างกายของชายหนุ่มคนหนึ่งได้เล่า

หลังจากจ้องตาอยู่ครู่หนึ่ง วั่นจินผิงรู้สึกว่าการลองเชิง การคาดการณ์ และแผนของเขาทั้งหมดนั้นใช้ไม่ได้จริง พูดออกมามีแต่จะทำให้อับอายขายหน้า

ภายในครู่เดียวนายหน้าแห่งวงการผู้เจ้าเล่ห์แสนกลกลายเป็นพูดไม่ออก!

จู่ๆ ลู่เฉินก็หัวเราะขึ้น แล้วเอ่ยว่า “ขอบคุณที่ประธานวั่นชมผม คุณมีอะไรพูดตามตรงได้เลย”

วั่นจินผิงแอบโล่งใจ ความรู้สึกเหมือนถูกของหนักกดทับพลันหายไป

แต่วินาทีถัดมา ใบหน้าของเขาก็แดงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้…เพราะถูกลู่เฉินควบคุมการสนทนาเอาไว้หมดแล้ว

“อะแฮ่มๆ…”

ดีที่หน้าของวั่นจินผิงนั้นหนาพอตัว เขากระแอมสองทีเพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขิน ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เรื่องเป็นแบบนี้ครับ มีองค์กรที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศและเข้มแข็งมากอยากร่วมงานกับคุณเพื่อถ่ายทำละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เงื่อนไขก็ดีมากเช่นกัน”

ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว?

ลู่เฉินไม่รู้สึกแปลกใจ ช่วงนี้คนที่จับตามองละครเรื่องนี้ของเขาอยู่นั้นมีมากมายนัก สถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่หลายแห่งมีการแก่งแย่งกันอย่างดุเดือด ราคาที่เสนอนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ บริษัทผลิตละครและภาพยนตร์ในประเทศอีกหลายแห่งก็อยากได้ส่วนแบ่งของขนมถ้วยนี้เหมือนกัน

ละครสองเรื่องก่อนของลู่เฉิน ทำให้นักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาได้ ละครของเขาเรียกได้ว่าเป็นเครื่องสร้างดวงดาวเลยก็ว่าได้ ศิลปินที่มีความทะเยอะทะยานมีใครบ้างที่ไม่อยากมีส่วนร่วมด้วย

วั่นจินผิงเป็นนายหน้าในวงการบันเทิง เขาได้รับการไหว้วานให้มาเจรจาทำความร่วมมือกับลู่เฉินก็เป็นเรื่องธรรมดา

ลู่เฉินส่งสัยว่า ‘องค์กร’ ที่เขาพูดถึงเป็นใคร “บอกผมได้ไหมครับว่าองค์กรไหน”

คำว่าองค์กรนี้น่าสนใจ

วั่นจินผิงลังเลเล็กน้อย แล้วเฉลยออกมาว่า “สถานีโทรทัศน์เซียงหนานครับ”

สถานีโทรทัศน์เซียงหนาน!

คำตอบนี้อยู่นอกเหนือการคาดเดาของลู่เฉินและลู่ซี พี่สาวถลึงตาขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่

สถานีโทรทัศน์เซียงหนาน เป็นคู่ปรับเก่าของลู่เฉินนี่นา!

ทั้งสองมีความแค้นต่อกัน ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ลู่เฉินเพิ่งก้าวเข้าสู่วงการใหม่ๆ เขาไปเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงในรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ แล้วถูกคัดออก จึงเปลี่ยนไปแข่งขันรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ จนโด่งดังมีชื่อเสียง ส่วนสถานีโทรทัศน์เซียงหนานกลับถูกคนหัวเราะเยาะว่ามีตาแต่ไร้แวว และมีเบี้องหลังอันดำมืดมากมาย

หลังจากนั้นก็ต่อสู้ปะทะกันมากขึ้น อย่างละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ลู่เฉินถ่ายทำ ก็ทำให้ละครเรตติ้งสูงของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานพ่ายแพ้ย่อยยับ สถานีโทรทัศน์เซียงหนานหาเรื่องสร้างความเดือดร้อนให้ลู่เฉินไม่น้อย

ตั้งแต่ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ออกอากาศ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ปะทะกันอีก สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเอาเปรียบลู่เฉินไม่ได้สักทาง แต่ก็ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์อย่างเปิดเผยได้…หน้าตาของสถานีโทรทัศน์ยังต้องการอยู่ไหม?

ส่วนลู่เฉินยิ่งไม่ไปหาเรื่องฝ่ายตรงข้ามก่อน…กินอิ่มแล้วว่างจนไม่มีอะไรทำหรือยังไง?

แต่เขาคิดไม่ถึงว่า สถานีโทรทัศน์เซียงหนานจะถูกตาต้องใจละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จนส่งวั่นจินผิงมาเจรจาทำความร่วมมือทางอ้อม

ความจริงแล้วถ้าให้กล่าวอย่างเคร่งครัด ลู่เฉินไม่ได้มีความแค้นใหญ่หลวงกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน หลายครั้งที่ปะทะกันหากไม่ใช่ฝีมือคนอื่นทำก็เป็นความบังเอิญ ไม่ถึงขั้นจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้

บนโลกนี้ไม่มีสหายหรือศัตรูที่ถาวร มีเพียงผลประโยชน์ที่ยั่งยืน ถ้าในแง่ของผลประโยชน์ ลู่เฉินเลือกทำความร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนานจะดีกว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตง

เพราะในหมู่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมของจีนแผ่นดินใหญ่ สถานีโทรทัศน์เซียงหนานเป็นเบอร์หนึ่งอย่างแน่นอน อิทธิพลของมันแข็งแกร่งกว่าคู่แข่ง ด้อยกว่าเพียงสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติเท่านั้น

หากร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้จะช่วยผลักดันธุรกิจของลู่เฉิน เช่น การโปรโมตภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ ด้วยการทำโฆษณาของสถานีเซียงหนาน จะต้องได้ผลลัพธ์ที่ดีมากแน่ๆ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตอนนี้สถานีโทรทัศน์เซียงหนานติดต่อลู่เฉินเข้ามาเอง แม้มีผ้าคลุมแก้เขิน แต่ก็หาได้ยาก เพราะด้วยตำแหน่งของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานในวงการ มีศิลปินดาราเพียงไม่กี่คนที่พวกเขายอมก้มหัวให้

ลู่ซีหันมามองลู่เฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม พี่สาวกำลังตกตะลึงและลังเล

วั่นจินผิงรุกเร้าต่อ เขายิ้มกล่าวว่า “ผมบอกเงื่อนไขรวมๆ ให้ฟังก่อนดีไหมครับ”

ในใจเขาคิดว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีอำนาจสูงจริงๆ

ลู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ต่อบทสนทนาของเขา แต่ถามกลับว่า “รางวัลสุวรรณหงส์?”

รอยยิ้มของวั่นจินผิงเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ

เขารู้ คำถามของลู่เฉินที่ถามกลับนั้นคือ สถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีส่วนเกี่ยวข้องกับรางวัลสุวรรณหงส์ใช่ไหม คิดจะนำเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขในความร่วมมือ?

ลู่เฉินคิดว่า ‘ฟูลเฮ้าส์’ ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสุวรรณหงส์ เป็นเพราะสถานีโทรทัศน์เซียงหนานตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เพียงแต่เหลือทางรอดเอาไว้เป็นเงื่อนไข

จู่ๆ วั่นจินผิงก็รู้สึกว่า ลู่เฉินเป็นคนที่หยิ่งทระนงมากคนหนึ่ง เพียงแต่ความทระนงของเขาเก็บซ่อนอยู่ภายในกระดูก ไม่เปิดเผยออกมาง่ายๆ ภายนอกเขาดูเป็นคนโอนอ่อนผ่อนตาม

แต่คนแบบนี้ จะไม่ถูกข่มขู่ได้ง่ายๆ

ไม่ผิด นี่คือการข่มขู่ ลู่เฉินคิดว่าสถานีโทรทัศน์เซียงหนานใช้รางวัลสุวรรณหงส์มาบีบบังคับเขา!

นี่เป็นสิ่งที่ย่ำแย่มาก!

ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าก็คือ หากลู่เฉินมีความคิดเช่นนี้ ยังไม่ถือว่าใส่ความสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมากเกินไป ข่าวคราวที่แพร่อยู่ในอินเทอร์เน็ตมีความเกี่ยวเนื่องกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน หรือพูดให้ถูกก็คือคนบางคนในสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน

แม้แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างวั่นจินผิง ยังต้องสะดุดอีกครั้ง

เพราะเขารู้ดีว่าใช้เล่ห์เหลี่ยมกับลู่เฉินไม่ได้ผล เจ้าหนุ่มคนนี้ฉลาดกว่าคนในวัยเดียวกัน

การโกหกจะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ

พูดความจริง เมื่อก่อนวั่นจินผิงเคยเจรจากับคนเก่งทั้งในและนอกวงการยังไม่เคยเหนื่อยใจเท่านี้มาก่อน

ลู่ซีมองวั่นจินผิงที่กำลังทำท่ากระอักกระอ่วน ด้วยสายตาเย็นชา

ลู่เฉินมีวันนี้ได้ ไม่ได้อาศัยความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนจากคนอื่น เขาพยายามและเป็นความสามารถของตัวเขาเองล้วนๆ

สถานีโทรทัศน์เซียงหนานอยากจะใช้แค่รางวัลสุวรรณหงส์มากดขี่ลู่เฉิน น่าขำสิ้นดี!

นำพาให้เธอมองวั่นจินผิงในแง่ร้ายตามไปด้วย

ผ่านไปครู่หนึ่ง วั่นจินผิงถอนใจ “คุณลู่เฉินครับ คุณอย่าได้เข้าใจผิด ผู้จ้างวานผมเขาอยากจะร่วมงานกับคุณจริงๆ เงื่อนไขก็จะทำให้คุณพอใจ”

เขายังไม่ตายใจ คิดอยากจะกล่อมลู่เฉินเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่อยากยอมแพ้ง่ายเกินไป

ลู่เฉินยกถ้วยชาจรดริมฝีปาก แล้วยิ้มออกมา

“ประธานวั่นครับ พวกเราพูดกันตามตรงโดยไม่ต้องมีลับลมคมใน ผมจะไม่ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ไม่มีความจำเป็น”

“ส่วนรางวัลสุวรรณหงส์…”

ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มเยาะ “เชื่อผมเถอะครับ ไม่ถูกเสนอชื่อผมก็ไม่ขายหน้าหรอก!”

วินาทีนี้ ความมั่นใจในตัวเองอย่างล้นเหลือของลู่เฉินทำให้วั่นจินผิงไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร

ความผิดหวังจากความล้มเหลวอบอวลอยู่รอบตัวนายหน้าผู้โชกโชนคนนี้!

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด