Perfect Superstar 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

วงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2000

หลังจากผ่านการพัฒนามามากกว่าสิบปี วงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีผลงานอยู่ในวงการตอนนี้มีเกินยี่สิบวง แน่นอนว่าคำนวณจากวงที่มีชื่อเสียงและความสามารถเท่านั้น พวกที่เอาเด็กใหม่สองสามคนมาสร้างวงด้อยคุณภาพไม่อยู่ในส่วนนี้

ถึงแม้การเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศจีนจะพุ่งทะยานเร็วมาก เค้กในตลาดก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ การแข่งขันก็ยิ่งดุเดือดรุนแรง โดยเฉพาะด้านการวางตำแหน่งทางการตลาดที่แข่งขันกันชัดเจนมาก จนกลายเป็นน่านน้ำสีแดงไปนานแล้ว

วงเกิร์ลกรุ๊ปหนึ่งวงมีสมาชิกอย่างน้อยสามถึงห้าคน มากสุดก็สิบกว่าคน สำหรับบริษัทบันเทิงและแผ่นเสียง ถ้าอยากจะดันวงเกิร์ลกรุ๊ปสักวงนั้น ค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรและกำลังสูงเกินกว่าการสนับสนุนนักร้องเดี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย

เฟยสือเรคคอร์ดทุ่มทุนกับวงเอ็มเอสเอ็นเป็นอย่างมาก จุดประสงค์คืออยากกินเค้กก้อนโตในตลาดสักหนึ่งชิ้น

ต่างจากวงเกิร์ลกรุ๊ปอีกมากมาย โดยเฉพาะวงเกิร์ลกรุ๊ปของญี่ปุ่นและเกาหลี ในสายตาของคนในวงการ จังหวะการเปิดตัววงเอ็มเอสเอ็นของเฟยสือเรคคอร์ดไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ไม่มีการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ก็รีบออกทัพแล้วเห็นได้ชัดว่ารีบร้อนที่จะประสบความสำเร็จเกินไป

เหมือนอย่างวงเกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีใต้ สมาชิกส่วนใหญ่จะถูกเลือกออกมาอย่างพิถีพิถันจากเด็กฝึกหัดของบริษัทเอเจนซี่จัดหานักแสดง ความลำบากจากการฝึกหนักหลายปีของพวกเธอ ทำให้ส่วนใหญ่แล้วจะมีทักษะและพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ก็ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับจากตลาด อัตราการคัดออกก็สูงมาก

สมาชิกในวงเอ็มเอสเอ็น ซูเจียเจียถือว่าปกติ เดิมทีเธอเป็นเด็กฝึกหัด ส่วนใหญ่แล้วจึงไม่มีปัญหา

หนิงเถียนจบจากวิทยาลัยดนตรี ดังนั้นสิ่งที่เรียนรู้มาจึงแตกต่างกัน

ส่วนมู่เสี่ยวชูนั้นแตกต่างมากไปอีก เธอเป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกรุงปักกิ่ง จากนั้นก็ผ่านรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ จึงมีชื่อเสียงเล็กน้อย อย่างอื่นแทบไม่มีค่าให้กล่าวถึง

สมาชิกในวงแบบนี้ เดิมทีควรจะมีการฝึกฝนอย่างหนักหนึ่งปีครึ่งเป็นอย่างน้อย ถึงจะมีคุณสมบัติในการปรากฏตัว

แต่เฟยสือเรคคอร์ดกลับฝืนกฎข้อนี้ วงเอ็มเอสเอ็นเพิ่งจะก่อตั้งก็ออกอัลบั้มแรกแล้ว นอกจากนี้ยังเสียเงินจำนวนมหาศาลในการโปรโมตและสร้างบรรจุภัณฑ์ แต่ก็ประสบความสำเร็จสูงมาก

เพราะฉะนั้นคนมากมายในสายอาชีพเดียวกันที่ถูกเชิญมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ จึงชมการแสดงของสาวๆ ทั้งสามคนบนเวที ด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากผ่านกิจกรรมทัวร์โปรโมตตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว สาวๆ ทั้งสามคนได้รับการฝึกหัดไปในตัว การเต้นและการร้องเพลงของพวกเธอไม่สามารถพูดว่าดีสมบูรณ์แบบไม่มีด่างพร้อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้อิ่มหู อิ่มตา อิ่มใจ!

เสียงเชียร์ของบรรดาแฟนคลับที่นั่งอยู่ในห้องจัดเลี้ยงดังกระหึ่มจนแทบจะพลิกเพดานได้

งานเลี้ยงฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ครั้งนี้ บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดใจป้ำเชิญสมาชิกทีมสนับสนุนวงเอ็มเอสเอ็นมาสองร้อยแปดสิบคน คนที่มาร่วมงานคือแฟนคลับตัวยง และสมาชิกที่มาจากต่างถิ่นจำนวนไม่น้อยสามารถเบิกค่าเดินทางกับค่าที่พักได้อีกด้วย

และสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ยังมีโควตาผู้มาร่วมงานอีกเจ็ดสิบคน ซึ่งมอบให้ทีมแฟนคลับของลู่เฉิน…ขุนศึกตระกูลลู่

เหตุผลนั้นง่ายมาก หลังจากลู่เฉินกับวงเอ็มเอสเอ็นร่วมงานกัน ขุนศึกตระกูลลู่กับทีมสนับสนุนวงเอ็มเอสเอ็นก็สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และขุนศึกตระกูลลู่ก็มองมู่เสี่ยวชูเป็นน้องสาวของลู่เฉินมาตั้งแต่แรก แถมยังเรียกเธออย่างสนิทสนมว่าน้องเสี่ยวชู

มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแบบนี้ บวกกับชื่นชอบความเป็นธรรมชาติของพวกเธอ เพราะฉะนั้นตอนที่จำหน่ายอัลบั้มของวงเอ็มเอสเอ็น ความดีความชอบของขุนศึกตระกูลลู่จึงมีอัตราที่สูงมาก

ถ้าหากรางวัล ‘แพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์’ เป็นเหรียญรางวัลที่แวววับชิ้นหนึ่ง เช่นนั้นก็คือความดีความชอบของขุนศึกตระกูลลู่

สำหรับเรื่องนี้ ทางเฟยสือเรคคอร์ดไม่เพียงแต่หวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป กระทั่งผลักดันอย่างเต็มที่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมลี่จิงสามารถรองรับคนได้จำนวนจำกัดละก็ จะต้องเพิ่มโควตาขึ้นมาอีกเยอะแน่นอน

หลังจากร้องเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ เพลงแรกจบแล้ว หนิงเถียนจึงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนค่ะต่อไปทุกคนอยากฟังเพลงอะไรคะ”

ในวงเอ็มเอสเอ็น หนิงเถียนมีอายุมากที่สุด เธออายุยี่สิบปีจบมาจากวิทยาลัยดนตรี ถือว่าจบมาตรงสายงาน

รูปร่างของเธอนั้นดีที่สุดและสวยที่สุด ถูกมองว่าเป็นหัวหน้าวงของวงเอ็มเอสเอ็น พวกแฟนคลับชอบดวงตาของเธอมาก เวลาที่เธอยิ้มเหมือนกับพูดก็ไม่ปาน ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

เพิ่งจะสิ้นเสียงของหนิงเถียน เสียงร้องตะโกนของแฟนคลับก็ดังขึ้นมาทันที “ความรักอยู่ที่ไหน!”

“เขายังคงไม่เข้าใจ!”

นอกจากเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ แล้ว ส่วนใหญ่ก็คือสองเพลงนี้ แทบจะไม่ร้องเรียกเพลงอื่นในอัลบั้มนี้เลย

และนี่ก็เป็นการเตือนเพื่อนๆ ในสายอาชีพเดียวกันที่มาร่วมงานอีกครั้ง…ทั้งสามเพลงนี้ถูกสร้างสรรค์มาจากลู่เฉิน!

มีหลายคนมองไปทางลู่เฉินที่นั่งอยู่หน้าสุด สายตานั้นเต็มไปด้วยความสับสบซับซ้อน

ถึงแม้จะมีบางคนคิดว่าการขายดีของอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ อัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นนั้น มาจากการสร้างกระแสเปลี่ยนแพ็กเกจโปรโมตโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด กระทั่งมีบางคนพูดว่าผลงานการขายเป็นของปลอม สร้างผลงานจอมปลอมแบบนั้น ไม่ช้าหรือเร็วก็จะถูกเปิดเผย

แต่สำหรับคนที่เข้าใจอุตสาหกรรมนี้จริง การพูดแบบองุ่นเปรี้ยวเช่นนี้ไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึง และเงินทุนก้อนโตของเฟยสือเรคคอร์ด ถ้าหากไม่มีเพลงดีทั้งสามเพลงที่ลู่เฉินแต่งให้วงเอ็มเอสเอ็น ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะทำผลงานที่โดดเด่นได้ขนาดนี้

ความสามารถในการสร้างสรรค์ของลู่เฉินนั้นไม่จำเป็นต้องสงสัยเลย!

สิ่งที่ทุกคนสงสัยคือ เส้นทางในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาจะเดินไปได้อีกไกลแค่ไหน ถึงอย่างไรในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงป็อบที่ผ่านมา มีตัวอย่างมากมายที่โด่งดังเพียงข้ามคืนจากนั้นก็เงียบเป็นเป่าสาก

หมดแรงบันดาลใจ พอใจอยู่ ณ จุดนี้ กินบุญเก่าไม่อยากหาความก้าวหน้าต่อ…

มีนักร้องนักแต่งเพลงไม่กี่คนที่สามารถรักษาความคิดสร้างสรรค์ให้สว่างโชติช่วงได้ในระยะยาว นักแต่งเพลงมืออาชีพก็เช่นเดียวกัน

มีนักแต่งเพลงหลายคน หลังจากที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงดีๆ หนึ่งเพลงหรือสองสามเพลงแล้ว พอความสามารถหมดไม่มีใครติดตามส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ ผุดขึ้นมาอีก อาศัยเพียงชื่อเสียงในอดีตและทักษะพื้นฐานในการทำมาหากิน

ลู่เฉินไม่น่าจะเหมือนกับพวกเขา แต่หากนับผลงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาของลู่เฉินแล้ว ทุกคนต่างประหลาดใจที่พบว่า ความมั่งคั่งสมบูรณ์ของแรงบันดาลใจและความเข้มข้นของความปรารถนาในการสร้างผลงานของเขา อยู่ในขั้นที่เกินความคาดหมาย

หรือจะพูดแบบไม่โอเวอร์เลยก็คือ ลู่เฉินเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่โดดเด่นที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมาของวงการเพลงป็อปในประเทศ!

แม้ว่าระยะเวลาที่เขาเข้าวงการมาจะสั้นมาก การสั่งสมประสบการณ์ในวงการยังไม่มากพอ ยังห่างชั้นจากซูเปอร์สตาร์ตัวจริงอีกมาก แต่หากพูดถึงความสามารถของเขาอย่างเดียว มีไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้จริงๆ

เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ อัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ คือธงแต่ละอันที่ลู่เฉินปักอยู่ในวงการเพลงป็อป เสียงลมโบกสะบัดธงไปมา ดึงดูดสายตาของทุกคน!

และตอนนี้เขาก็ยังร่วมจัดทำอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสไตล์ของราชินีคนนี้

ถ้าหากอัลบั้มนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์ประสบความสำเร็จ เช่นนั้นตำแหน่งในวงการของลู่เฉินก็ไม่อาจสั่นคลอนได้อีก

ทุกคนอิจฉาความสามารถของลู่เฉิน อิจฉาที่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ร่วมงานกับเขา เกลียดตัวเองที่ทำไมไม่ลงมือให้เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงได้ทำวงเกิร์ลกรุ๊ปที่คล้ายกับวงเอ็มเอสเอ็นขึ้นมา

ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้มีโปรโมเตอร์จัดงานแสดงด้วย ได้ยินว่าพวกเขาเสนอค่าออกงานให้วงเอ็มเอสเอ็นสูงเกินสามแสนแล้ว!

แต่เฟยสือเรคคอร์ดยังไม่ตกลง คาดว่าคงจะเพิ่มราคาให้สูงขึ้นอีก

ความเปรี้ยวนี้ ทำเอาพวกองุ่นเปรี้ยวรู้สึกเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดจนแทบฟันร่วง

แต่มีบางคนที่มีไหวพริบ อยากหาโอกาสที่เหมาะสมพูดคุยกับลู่เฉิน

ลู่เฉินไม่เซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงใดๆ เขาเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเอง ขอเพียงจ่ายราคาที่มากพอ ถึงแม้จะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเหมือนเฟยสือเรคคอร์ด แต่การซื้อเพลงที่ดีสักเพลงคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก?

จากนั้นชื่อเสียงของลู่เฉินก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

บนเวที หลังจากหนิงเถียนรอให้บรรดาแฟนคลับตะโกนเสร็จแล้วเธอจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อทุกคนต่างก็ชอบเพลง ‘ความรักอยู่ที่ไหน’ กับ ‘เขายังคงไม่เข้าใจ’ งั้นพวกเราจะร้องทั้งสองเพลงเลยดีไหมคะ”

เหล่าแฟนคลับที่อยู่ข้างล่างเวทีพอใจมาก “ดี!”

ความจริงเธอไม่ต้องพูดเลย ถึงอย่างไรก็ต้องร้องสองสามเพลงนี้ แต่หนิงเถียนกลับมีไอเดียอย่างอื่น “ทุกคนรู้ว่าสามเพลงที่พวกคุณชอบมากที่สุด ‘ลู่เฉินต้าต้า’ เป็นคนแต่ง ดังนั้นเพลงต่อไปนี้ ให้พี่เขามาเล่นดนตรีให้พวกเราจะดีกว่า พวกคุณคิดว่าดีไหมคะ”

“ดี!”

พวกแฟนคลับต่างคึกคักฮือฮา พวกเขาตะโกนเรียกชื่อลู่เฉินเสียงดัง “ลู่เฉินต้าต้า!”

‘ต้าต้า’ เป็นภาษาถิ่นในหลายพื้นที่ มีความหมายไม่เหมือนกัน บ้างก็หมายถึง ‘พี่ชาย’ ‘พ่อ’ ‘ลุง’ แต่ ‘ต้าต้า’ ที่ฮิตในอินเทอร์เน็ต หมายถึงมือเก๋า คนเก่ง ผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ ใช้แสดงความรู้สึกเคารพและนับถือใครบางคนเป็นอย่างมาก

หนิงเถียนเรียกลู่เฉินว่า ‘ต้าต้า’ ไม่ได้เรียกว่า ‘อาจารย์’ ด้านหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพและนับถือ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อเพิ่มความสนิทสนมกับบรรดาแฟนคลับ

เหล่าแฟนคลับที่มาร่วมงานฉลองครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีมสนับสนุนของวงเอ็มเอสเอ็นหรือว่าขุนศึกตระกูลลู่ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็เป็นกำลังสำคัญในหมู่ชาวเน็ต เพราะฉะนั้นพอได้ยินการเรียกแบบนี้จึงรู้สึกถึงความสนิทสนมเป็นพิเศษ

ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญ ลู่เฉินจึงได้แต่ลุกขึ้นโบกมือให้ทุกคน

หนิงเถียนเดินสองก้าวไปที่ขอบเวทีด้านหน้า เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์บนใบหน้าเรียวเล็กของเธอ โน้มตัวยื่นมือไปหาลู่เฉิน

นี่คือสัญญาณมือของการเชื้อเชิญ

พวกแฟนคลับทั้งยิ้มและตะโกน ทยอยปรบมือโห่ร้องดีใจ

ลู่เฉินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ จับมือเล็กของหนิงเถียนโดยไม่ปฏิเสธ

เวทีของห้องจัดเลี้ยงไม่สูงมาก ด้วยฝีมือของเขา จึงถูกหญิงสาวคนนี้ ‘ดึง’ ขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

เวลานี้ทีมงานได้ดันเปียโนที่เตรียมไว้ออกมา

เป็นแกรนด์เปียโนสีขาวสวยงามหลังหนึ่ง

ลู่เฉินรับไมค์มา แล้วพูดกับทุกคนว่า “คืนนี้ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ของวงเอ็มเอสเอ็น ได้รู้จักเพื่อนมากมาย อ้อ และอาหารก็อร่อยมากครับ”

ทุกคนต่างหัวเราะ

ลู่เฉินกล่าวต่อ “และสิ่งที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุดก็คือ สิ่งที่วงเอ็มเอสเอ็นได้รับคือความสำเร็จที่พวกเธอสมควรได้เพราะตอนที่ได้ร่วมงานกัน ผมเห็นว่าพวกเธอพยายามและตั้งใจจริงขนาดไหน!”

“ผมเห็นหนิงเถียนซ้อมร้องเพลง ร้องถึงเที่ยงคืนก็ยังไม่พักผ่อน…”

“ผมเห็นมู่เสี่ยวชู น้องเสี่ยวชูซ้อมเต้น ซ้อมจนฝ่าเท้ามีเลือดมีแผลพุพองก็ยังกัดฟันยืนหยัดต่อไป…”

“แล้วก็ซูเจียเจีย…”

ภายในห้องจัดเลี้ยงเงียบขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของเฟยสือเรคคอร์ดหรือเพื่อนในสายอาชีพเดียวกันที่ได้รับเชิญ ไม่ว่าจะเป็นทีมสนับสนุนของวงเอ็มเอสเอ็นหรือทีมแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ ต่างก็ฟังลู่เฉินเล่าเรื่องจริงที่เขารู้อย่างตั้งใจ

เรื่องเล่าที่เป็นเรื่องจริง

เนื่องจากรากฐานไม่มั่นคงพอ ดังนั้นตอนที่ทำอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ สาวๆ ทั้งสามคนจึงทุ่มเทความพยายามเป็นอย่างมาก เสียเหงื่อเสียน้ำตาเป็นเรื่องปกติธรรมดา ได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมก็มีให้เห็นบ่อยเช่นกัน

ไม่ใช่แค่หลินจื้อเจี๋ยเท่านั้น แม้แต่ลู่เฉินเองก็มีความต้องการที่เข้มงวดมากกับพวกเธอ

แต่สาวร่างเล็กบางทั้งสามคนก็ยืนหยัดมาจนได้ ไม่ถ่วงเวลาให้กำหนดการออกจำหน่ายของอัลบั้มนี้ล่าช้าออกไป

คนอื่นที่มองเห็นความสำเร็จของอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ถ้าหากไม่พูดว่าได้รับการผลักดันจากเฟยสือเรคคอร์ด ก็จะพูดว่าเป็นเพราะลู่เฉินเขียนเพลงที่ดีให้พวกเธอ และก็มีบางคนพูดว่าพวกเธอทั้งสาวและสวยจึงดึงดูดแฟนคลับได้ง่ายดาย

มีสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเอ่ยถึงคือความพยายามทุ่มเทของพวกเธอ

ดังนั้นตอนนี้ ลู่เฉินจึงอยากบอกทุกคนว่า ความสำเร็จของพวกเธอไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 243 ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

วงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2000

หลังจากผ่านการพัฒนามามากกว่าสิบปี วงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีผลงานอยู่ในวงการตอนนี้มีเกินยี่สิบวง แน่นอนว่าคำนวณจากวงที่มีชื่อเสียงและความสามารถเท่านั้น พวกที่เอาเด็กใหม่สองสามคนมาสร้างวงด้อยคุณภาพไม่อยู่ในส่วนนี้

ถึงแม้การเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศจีนจะพุ่งทะยานเร็วมาก เค้กในตลาดก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ การแข่งขันก็ยิ่งดุเดือดรุนแรง โดยเฉพาะด้านการวางตำแหน่งทางการตลาดที่แข่งขันกันชัดเจนมาก จนกลายเป็นน่านน้ำสีแดงไปนานแล้ว

วงเกิร์ลกรุ๊ปหนึ่งวงมีสมาชิกอย่างน้อยสามถึงห้าคน มากสุดก็สิบกว่าคน สำหรับบริษัทบันเทิงและแผ่นเสียง ถ้าอยากจะดันวงเกิร์ลกรุ๊ปสักวงนั้น ค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรและกำลังสูงเกินกว่าการสนับสนุนนักร้องเดี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย

เฟยสือเรคคอร์ดทุ่มทุนกับวงเอ็มเอสเอ็นเป็นอย่างมาก จุดประสงค์คืออยากกินเค้กก้อนโตในตลาดสักหนึ่งชิ้น

ต่างจากวงเกิร์ลกรุ๊ปอีกมากมาย โดยเฉพาะวงเกิร์ลกรุ๊ปของญี่ปุ่นและเกาหลี ในสายตาของคนในวงการ จังหวะการเปิดตัววงเอ็มเอสเอ็นของเฟยสือเรคคอร์ดไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก ไม่มีการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ก็รีบออกทัพแล้วเห็นได้ชัดว่ารีบร้อนที่จะประสบความสำเร็จเกินไป

เหมือนอย่างวงเกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีใต้ สมาชิกส่วนใหญ่จะถูกเลือกออกมาอย่างพิถีพิถันจากเด็กฝึกหัดของบริษัทเอเจนซี่จัดหานักแสดง ความลำบากจากการฝึกหนักหลายปีของพวกเธอ ทำให้ส่วนใหญ่แล้วจะมีทักษะและพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ก็ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับจากตลาด อัตราการคัดออกก็สูงมาก

สมาชิกในวงเอ็มเอสเอ็น ซูเจียเจียถือว่าปกติ เดิมทีเธอเป็นเด็กฝึกหัด ส่วนใหญ่แล้วจึงไม่มีปัญหา

หนิงเถียนจบจากวิทยาลัยดนตรี ดังนั้นสิ่งที่เรียนรู้มาจึงแตกต่างกัน

ส่วนมู่เสี่ยวชูนั้นแตกต่างมากไปอีก เธอเป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกรุงปักกิ่ง จากนั้นก็ผ่านรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ จึงมีชื่อเสียงเล็กน้อย อย่างอื่นแทบไม่มีค่าให้กล่าวถึง

สมาชิกในวงแบบนี้ เดิมทีควรจะมีการฝึกฝนอย่างหนักหนึ่งปีครึ่งเป็นอย่างน้อย ถึงจะมีคุณสมบัติในการปรากฏตัว

แต่เฟยสือเรคคอร์ดกลับฝืนกฎข้อนี้ วงเอ็มเอสเอ็นเพิ่งจะก่อตั้งก็ออกอัลบั้มแรกแล้ว นอกจากนี้ยังเสียเงินจำนวนมหาศาลในการโปรโมตและสร้างบรรจุภัณฑ์ แต่ก็ประสบความสำเร็จสูงมาก

เพราะฉะนั้นคนมากมายในสายอาชีพเดียวกันที่ถูกเชิญมาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ จึงชมการแสดงของสาวๆ ทั้งสามคนบนเวที ด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากผ่านกิจกรรมทัวร์โปรโมตตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว สาวๆ ทั้งสามคนได้รับการฝึกหัดไปในตัว การเต้นและการร้องเพลงของพวกเธอไม่สามารถพูดว่าดีสมบูรณ์แบบไม่มีด่างพร้อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้อิ่มหู อิ่มตา อิ่มใจ!

เสียงเชียร์ของบรรดาแฟนคลับที่นั่งอยู่ในห้องจัดเลี้ยงดังกระหึ่มจนแทบจะพลิกเพดานได้

งานเลี้ยงฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ครั้งนี้ บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดใจป้ำเชิญสมาชิกทีมสนับสนุนวงเอ็มเอสเอ็นมาสองร้อยแปดสิบคน คนที่มาร่วมงานคือแฟนคลับตัวยง และสมาชิกที่มาจากต่างถิ่นจำนวนไม่น้อยสามารถเบิกค่าเดินทางกับค่าที่พักได้อีกด้วย

และสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ยังมีโควตาผู้มาร่วมงานอีกเจ็ดสิบคน ซึ่งมอบให้ทีมแฟนคลับของลู่เฉิน…ขุนศึกตระกูลลู่

เหตุผลนั้นง่ายมาก หลังจากลู่เฉินกับวงเอ็มเอสเอ็นร่วมงานกัน ขุนศึกตระกูลลู่กับทีมสนับสนุนวงเอ็มเอสเอ็นก็สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และขุนศึกตระกูลลู่ก็มองมู่เสี่ยวชูเป็นน้องสาวของลู่เฉินมาตั้งแต่แรก แถมยังเรียกเธออย่างสนิทสนมว่าน้องเสี่ยวชู

มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแบบนี้ บวกกับชื่นชอบความเป็นธรรมชาติของพวกเธอ เพราะฉะนั้นตอนที่จำหน่ายอัลบั้มของวงเอ็มเอสเอ็น ความดีความชอบของขุนศึกตระกูลลู่จึงมีอัตราที่สูงมาก

ถ้าหากรางวัล ‘แพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์’ เป็นเหรียญรางวัลที่แวววับชิ้นหนึ่ง เช่นนั้นก็คือความดีความชอบของขุนศึกตระกูลลู่

สำหรับเรื่องนี้ ทางเฟยสือเรคคอร์ดไม่เพียงแต่หวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป กระทั่งผลักดันอย่างเต็มที่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมลี่จิงสามารถรองรับคนได้จำนวนจำกัดละก็ จะต้องเพิ่มโควตาขึ้นมาอีกเยอะแน่นอน

หลังจากร้องเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ เพลงแรกจบแล้ว หนิงเถียนจึงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนค่ะต่อไปทุกคนอยากฟังเพลงอะไรคะ”

ในวงเอ็มเอสเอ็น หนิงเถียนมีอายุมากที่สุด เธออายุยี่สิบปีจบมาจากวิทยาลัยดนตรี ถือว่าจบมาตรงสายงาน

รูปร่างของเธอนั้นดีที่สุดและสวยที่สุด ถูกมองว่าเป็นหัวหน้าวงของวงเอ็มเอสเอ็น พวกแฟนคลับชอบดวงตาของเธอมาก เวลาที่เธอยิ้มเหมือนกับพูดก็ไม่ปาน ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

เพิ่งจะสิ้นเสียงของหนิงเถียน เสียงร้องตะโกนของแฟนคลับก็ดังขึ้นมาทันที “ความรักอยู่ที่ไหน!”

“เขายังคงไม่เข้าใจ!”

นอกจากเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ แล้ว ส่วนใหญ่ก็คือสองเพลงนี้ แทบจะไม่ร้องเรียกเพลงอื่นในอัลบั้มนี้เลย

และนี่ก็เป็นการเตือนเพื่อนๆ ในสายอาชีพเดียวกันที่มาร่วมงานอีกครั้ง…ทั้งสามเพลงนี้ถูกสร้างสรรค์มาจากลู่เฉิน!

มีหลายคนมองไปทางลู่เฉินที่นั่งอยู่หน้าสุด สายตานั้นเต็มไปด้วยความสับสบซับซ้อน

ถึงแม้จะมีบางคนคิดว่าการขายดีของอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ อัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นนั้น มาจากการสร้างกระแสเปลี่ยนแพ็กเกจโปรโมตโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด กระทั่งมีบางคนพูดว่าผลงานการขายเป็นของปลอม สร้างผลงานจอมปลอมแบบนั้น ไม่ช้าหรือเร็วก็จะถูกเปิดเผย

แต่สำหรับคนที่เข้าใจอุตสาหกรรมนี้จริง การพูดแบบองุ่นเปรี้ยวเช่นนี้ไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึง และเงินทุนก้อนโตของเฟยสือเรคคอร์ด ถ้าหากไม่มีเพลงดีทั้งสามเพลงที่ลู่เฉินแต่งให้วงเอ็มเอสเอ็น ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะทำผลงานที่โดดเด่นได้ขนาดนี้

ความสามารถในการสร้างสรรค์ของลู่เฉินนั้นไม่จำเป็นต้องสงสัยเลย!

สิ่งที่ทุกคนสงสัยคือ เส้นทางในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาจะเดินไปได้อีกไกลแค่ไหน ถึงอย่างไรในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงป็อบที่ผ่านมา มีตัวอย่างมากมายที่โด่งดังเพียงข้ามคืนจากนั้นก็เงียบเป็นเป่าสาก

หมดแรงบันดาลใจ พอใจอยู่ ณ จุดนี้ กินบุญเก่าไม่อยากหาความก้าวหน้าต่อ…

มีนักร้องนักแต่งเพลงไม่กี่คนที่สามารถรักษาความคิดสร้างสรรค์ให้สว่างโชติช่วงได้ในระยะยาว นักแต่งเพลงมืออาชีพก็เช่นเดียวกัน

มีนักแต่งเพลงหลายคน หลังจากที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงดีๆ หนึ่งเพลงหรือสองสามเพลงแล้ว พอความสามารถหมดไม่มีใครติดตามส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ต่างจากคนธรรมดา ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ ผุดขึ้นมาอีก อาศัยเพียงชื่อเสียงในอดีตและทักษะพื้นฐานในการทำมาหากิน

ลู่เฉินไม่น่าจะเหมือนกับพวกเขา แต่หากนับผลงานในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาของลู่เฉินแล้ว ทุกคนต่างประหลาดใจที่พบว่า ความมั่งคั่งสมบูรณ์ของแรงบันดาลใจและความเข้มข้นของความปรารถนาในการสร้างผลงานของเขา อยู่ในขั้นที่เกินความคาดหมาย

หรือจะพูดแบบไม่โอเวอร์เลยก็คือ ลู่เฉินเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่โดดเด่นที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมาของวงการเพลงป็อปในประเทศ!

แม้ว่าระยะเวลาที่เขาเข้าวงการมาจะสั้นมาก การสั่งสมประสบการณ์ในวงการยังไม่มากพอ ยังห่างชั้นจากซูเปอร์สตาร์ตัวจริงอีกมาก แต่หากพูดถึงความสามารถของเขาอย่างเดียว มีไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้จริงๆ

เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ อัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ คือธงแต่ละอันที่ลู่เฉินปักอยู่ในวงการเพลงป็อป เสียงลมโบกสะบัดธงไปมา ดึงดูดสายตาของทุกคน!

และตอนนี้เขาก็ยังร่วมจัดทำอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสไตล์ของราชินีคนนี้

ถ้าหากอัลบั้มนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์ประสบความสำเร็จ เช่นนั้นตำแหน่งในวงการของลู่เฉินก็ไม่อาจสั่นคลอนได้อีก

ทุกคนอิจฉาความสามารถของลู่เฉิน อิจฉาที่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ร่วมงานกับเขา เกลียดตัวเองที่ทำไมไม่ลงมือให้เร็วกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงได้ทำวงเกิร์ลกรุ๊ปที่คล้ายกับวงเอ็มเอสเอ็นขึ้นมา

ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองครั้งนี้มีโปรโมเตอร์จัดงานแสดงด้วย ได้ยินว่าพวกเขาเสนอค่าออกงานให้วงเอ็มเอสเอ็นสูงเกินสามแสนแล้ว!

แต่เฟยสือเรคคอร์ดยังไม่ตกลง คาดว่าคงจะเพิ่มราคาให้สูงขึ้นอีก

ความเปรี้ยวนี้ ทำเอาพวกองุ่นเปรี้ยวรู้สึกเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดจนแทบฟันร่วง

แต่มีบางคนที่มีไหวพริบ อยากหาโอกาสที่เหมาะสมพูดคุยกับลู่เฉิน

ลู่เฉินไม่เซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงใดๆ เขาเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเอง ขอเพียงจ่ายราคาที่มากพอ ถึงแม้จะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเหมือนเฟยสือเรคคอร์ด แต่การซื้อเพลงที่ดีสักเพลงคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก?

จากนั้นชื่อเสียงของลู่เฉินก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

บนเวที หลังจากหนิงเถียนรอให้บรรดาแฟนคลับตะโกนเสร็จแล้วเธอจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อทุกคนต่างก็ชอบเพลง ‘ความรักอยู่ที่ไหน’ กับ ‘เขายังคงไม่เข้าใจ’ งั้นพวกเราจะร้องทั้งสองเพลงเลยดีไหมคะ”

เหล่าแฟนคลับที่อยู่ข้างล่างเวทีพอใจมาก “ดี!”

ความจริงเธอไม่ต้องพูดเลย ถึงอย่างไรก็ต้องร้องสองสามเพลงนี้ แต่หนิงเถียนกลับมีไอเดียอย่างอื่น “ทุกคนรู้ว่าสามเพลงที่พวกคุณชอบมากที่สุด ‘ลู่เฉินต้าต้า’ เป็นคนแต่ง ดังนั้นเพลงต่อไปนี้ ให้พี่เขามาเล่นดนตรีให้พวกเราจะดีกว่า พวกคุณคิดว่าดีไหมคะ”

“ดี!”

พวกแฟนคลับต่างคึกคักฮือฮา พวกเขาตะโกนเรียกชื่อลู่เฉินเสียงดัง “ลู่เฉินต้าต้า!”

‘ต้าต้า’ เป็นภาษาถิ่นในหลายพื้นที่ มีความหมายไม่เหมือนกัน บ้างก็หมายถึง ‘พี่ชาย’ ‘พ่อ’ ‘ลุง’ แต่ ‘ต้าต้า’ ที่ฮิตในอินเทอร์เน็ต หมายถึงมือเก๋า คนเก่ง ผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้นๆ ใช้แสดงความรู้สึกเคารพและนับถือใครบางคนเป็นอย่างมาก

หนิงเถียนเรียกลู่เฉินว่า ‘ต้าต้า’ ไม่ได้เรียกว่า ‘อาจารย์’ ด้านหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพและนับถือ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อเพิ่มความสนิทสนมกับบรรดาแฟนคลับ

เหล่าแฟนคลับที่มาร่วมงานฉลองครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีมสนับสนุนของวงเอ็มเอสเอ็นหรือว่าขุนศึกตระกูลลู่ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนหนุ่มสาว และพวกเขาก็เป็นกำลังสำคัญในหมู่ชาวเน็ต เพราะฉะนั้นพอได้ยินการเรียกแบบนี้จึงรู้สึกถึงความสนิทสนมเป็นพิเศษ

ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญ ลู่เฉินจึงได้แต่ลุกขึ้นโบกมือให้ทุกคน

หนิงเถียนเดินสองก้าวไปที่ขอบเวทีด้านหน้า เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์บนใบหน้าเรียวเล็กของเธอ โน้มตัวยื่นมือไปหาลู่เฉิน

นี่คือสัญญาณมือของการเชื้อเชิญ

พวกแฟนคลับทั้งยิ้มและตะโกน ทยอยปรบมือโห่ร้องดีใจ

ลู่เฉินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ จับมือเล็กของหนิงเถียนโดยไม่ปฏิเสธ

เวทีของห้องจัดเลี้ยงไม่สูงมาก ด้วยฝีมือของเขา จึงถูกหญิงสาวคนนี้ ‘ดึง’ ขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

เวลานี้ทีมงานได้ดันเปียโนที่เตรียมไว้ออกมา

เป็นแกรนด์เปียโนสีขาวสวยงามหลังหนึ่ง

ลู่เฉินรับไมค์มา แล้วพูดกับทุกคนว่า “คืนนี้ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ของวงเอ็มเอสเอ็น ได้รู้จักเพื่อนมากมาย อ้อ และอาหารก็อร่อยมากครับ”

ทุกคนต่างหัวเราะ

ลู่เฉินกล่าวต่อ “และสิ่งที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุดก็คือ สิ่งที่วงเอ็มเอสเอ็นได้รับคือความสำเร็จที่พวกเธอสมควรได้เพราะตอนที่ได้ร่วมงานกัน ผมเห็นว่าพวกเธอพยายามและตั้งใจจริงขนาดไหน!”

“ผมเห็นหนิงเถียนซ้อมร้องเพลง ร้องถึงเที่ยงคืนก็ยังไม่พักผ่อน…”

“ผมเห็นมู่เสี่ยวชู น้องเสี่ยวชูซ้อมเต้น ซ้อมจนฝ่าเท้ามีเลือดมีแผลพุพองก็ยังกัดฟันยืนหยัดต่อไป…”

“แล้วก็ซูเจียเจีย…”

ภายในห้องจัดเลี้ยงเงียบขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของเฟยสือเรคคอร์ดหรือเพื่อนในสายอาชีพเดียวกันที่ได้รับเชิญ ไม่ว่าจะเป็นทีมสนับสนุนของวงเอ็มเอสเอ็นหรือทีมแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ ต่างก็ฟังลู่เฉินเล่าเรื่องจริงที่เขารู้อย่างตั้งใจ

เรื่องเล่าที่เป็นเรื่องจริง

เนื่องจากรากฐานไม่มั่นคงพอ ดังนั้นตอนที่ทำอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ สาวๆ ทั้งสามคนจึงทุ่มเทความพยายามเป็นอย่างมาก เสียเหงื่อเสียน้ำตาเป็นเรื่องปกติธรรมดา ได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อมก็มีให้เห็นบ่อยเช่นกัน

ไม่ใช่แค่หลินจื้อเจี๋ยเท่านั้น แม้แต่ลู่เฉินเองก็มีความต้องการที่เข้มงวดมากกับพวกเธอ

แต่สาวร่างเล็กบางทั้งสามคนก็ยืนหยัดมาจนได้ ไม่ถ่วงเวลาให้กำหนดการออกจำหน่ายของอัลบั้มนี้ล่าช้าออกไป

คนอื่นที่มองเห็นความสำเร็จของอัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ถ้าหากไม่พูดว่าได้รับการผลักดันจากเฟยสือเรคคอร์ด ก็จะพูดว่าเป็นเพราะลู่เฉินเขียนเพลงที่ดีให้พวกเธอ และก็มีบางคนพูดว่าพวกเธอทั้งสาวและสวยจึงดึงดูดแฟนคลับได้ง่ายดาย

มีสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเอ่ยถึงคือความพยายามทุ่มเทของพวกเธอ

ดังนั้นตอนนี้ ลู่เฉินจึงอยากบอกทุกคนว่า ความสำเร็จของพวกเธอไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด