Perfect Superstar 457 มาเยี่ยมที่ทุ่งหญ้า (3)

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 457 มาเยี่ยมที่ทุ่งหญ้า (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 457 มาเยี่ยมที่ทุ่งหญ้า (3)

ก้าวขาอันเหนื่อยล้า เฉินเฟยเอ๋อร์เดินออกมาจากกระโจมทองซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำชั่วคราว

สิ่งที่เธออยากทำที่สุดในตอนนี้ ก็คือกลับไปที่กระโจมของตัวเอง ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่ปูด้วยผ้าห่มขนสัตว์ ไม่ต้องคิดอะไร จากนั้นก็นอนหลับยาวจนถึงวันพรุ่งนี้เช้า!

การถ่ายทำนอกสถานที่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเหนื่อยมาก จากเมืองใหญ่ที่หรูหราและสุขสบายต้องวิ่งมาไกลนับพันกิโลเมตรเพื่อมาถ่ายละครที่ทุ่งหญ้ามองโกเลียอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์แล้วเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย

เธอเดบิวต์เป็นนักร้อง เมื่อก่อนเคยรับบทเป็นดารารับเชิญในภาพยนตร์สองสามเรื่อง และ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ คือการรับบทนางเอกเป็นครั้งแรกของเธอ ถือว่าก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์โทรทัศน์อย่างแท้จริง

แต่ไม่ว่าจะเป็น ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ หรือ ‘ฟูลเฮาส์’ ทีมงานกองละครแนวความรักของคนเมืองทั้งสองเรื่องถึงแม้จะทำงานกันอย่างตึงเครียด แต่ทางกองละครก็ดูแลเธออย่างดี บวกกับหลายฉากล้วนถ่ายทำในโรงถ่ายหนังเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นจึงไม่ลำบากมากนัก

‘ลำนำศิวิไลซ์’ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในฐานะละครฟอร์มยักษ์แห่งปีของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ละครโทรทัศน์เรื่องยาวเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตัวละครหลายคน เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ใช่หนึ่งในดาราตัวท็อป ดังนั้นจึงไม่ต้องหวังว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

และจางเค่อผู้กำกับละครเรื่องนี้ก็ขึ้นชื่อในวงการมาตลอดเกี่ยวกับความเข้มงวดต่อนักแสดง เขาเก่งและมีชื่อเสียง แถมยังมีสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ให้พักพิง หากซูเปอร์สตาร์ดังคนไหนทำผิดพลาดเขากล้าที่จะพูดออกมาโดยตรง ถึงขนาดดุด่าเสียงดัง

ถ่ายฉากหนึ่งหากไม่ได้ตามความต้องการของเขา จางเค่อก็จะให้นักแสดงเล่นซ้ำ จนกระทั่งเขาพอใจในที่สุด

ผ่านการฝึกฝนจากละครโทรทัศน์สองเรื่อง ฝีมือการแสดงของเฉินเฟยเอ๋อร์พัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะมาก แต่เห็นได้ชัดว่ายังไม่ถึงมาตรฐานของจางเค่อ ดังนั้นในด้านนี้เธอจึงลำบากไม่น้อย

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ต่อให้ลำบากหรือสบาย เฉินเฟยเอ๋อร์ก็จะกัดฟันยืนหยัดต่อไป ไม่เพียงเพราะละครเรื่องนี้สามารถยกระดับในวงการของเธอให้สูงขึ้นเท่านั้น เธออยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้ทุกคนได้ประจักษ์เช่นกัน

แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอต้องลำบากมากขึ้น

วินาทีนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะคิดถึงลู่เฉินที่อยู่ฮ่องกง เขาคงสบายมาก ไม่แน่ตอนนี้อาจจะกำลังดื่มกาแฟกับสาวสวยคนไหนสักคน…

“ลู่เฉิน!”

ขณะที่เฉินเฟยเอ๋อร์กำลังคิดฟุ้งซ่าน ผู้ช่วยที่ข้างกายเธอพลันร้องขึ้นด้วยความตกใจ

“พี่เฟย ลู่เฉินมาแล้ว!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ตกตะลึง สงสัยว่าตัวเองกำลังหูฝาดหรือเปล่า

ลู่เฉินจะมาได้อย่างไร ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงหรือโรงถ่ายจินหลิง หากแต่เป็นเขตใจกลางของทุ่งหญ้ามองโกเลียอันกว้างใหญ่ ห่างจากเมืองที่ใกล้ที่สุดหลายร้อยกิโลเมตร

จากนั้นวินาทีต่อมา เฉินเฟยเอ๋อร์ก็มองเห็นลู่เฉินที่วิ่งมาหาตัวเอง!

เป็นลู่เฉินจริงๆ ด้วย!

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ความเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ทำให้น้ำตาคลอมองไม่ชัดในทันที ความเหนื่อยล้า ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความเจ็บปวดที่อยู่ในใจมลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความหวานอย่างหาที่เปรียบมิได้

ไม่สนใจสายตาที่จดจ้องของผู้คน เธอก้าวขาพุ่งไปข้างหน้าทันที โผเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของลู่เฉิน

ลู่เฉินโอบกอดเฉินเฟยเอ๋อร์ เมื่อเทียบกันแล้วเขายังมีสติมากกว่า สังเกตเห็นสายตาที่ผิดปกติจากรอบด้าน ดังนั้นเขาจึงอดกลั้นความคิดที่อยู่ในใจ ไม่แสดงท่าทีสนิทสนมมากเกินไปนัก

เขาตบหลังของแฟนสาว พลางเอ่ยพูดเบาๆ ว่า “คุณผอมจัง…”

น้ำตาที่คลอเบ้าพลันไหลลงมา เฉินเฟยเอ๋อร์อยากร้องไห้ดังๆ อยู่ในอ้อมอกของเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ลืมสถานะของตัวเองว่าอยู่ที่ไหน

เธอผละออกจากอ้อมกอดของลู่เฉินเล็กน้อย ยื่นมือเช็ดน้ำตาที่หางตาอย่างเขินอาย แล้วถามว่า “นายมาได้ยังไง”

ลู่เฉินยิ้มพลางเอ่ยว่า “ผมคิดถึงคุณ จึงมาหาครับ”

โอ้~

กลุ่มคนที่มองอยู่รอบๆ แสดงอาการอิจฉา คำพูดนี้ทำให้พวกเขาขนลุกขนพองไปทั้งตัว ขณะเดียวกันก็ทำร้ายจิตใจคนโสดอีกหลายคน ถึงขั้นทนดูต่อไปไม่ไหว

“เฉินเฟยเอ๋อร์ นี่คือแฟนของคุณเหรอ”

คำพูดที่เห็นชอบดีงามมาจากผู้ชายวัยกลางคนตัวผอมและผิวเข้ม เขาอายุประมาณสี่ห้าสิบปี สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเทาเข้ม ผมเผ้ายุ่งเหยิง โหนกแก้มสูง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองคนทั้งสองตาเป็นประกาย

เฉินเฟยเอ๋อร์รีบแนะนำให้ลู่เฉินรู้จัก “คนนี้คือจางเค่อผู้กำกับของพวกเรา”

“สวัสดีครับผู้กำกับจาง!”

ลู่เฉินเดินไปข้างหน้าทันที ยื่นมือทั้งสองข้างไปหาอีกฝ่ายก่อน “ผมชื่อลู่เฉิน ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วครับ!”

จางเค่อเป็นผู้กำกับใหญ่ คาดว่าประชาชนทั่วประเทศน่าจะรู้จัก ลู่เฉินก็เช่นกัน

เขาเป็นผู้กำกับละครโทรทัศน์ที่ทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีโดยตรง เคยกำกับ ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ ‘วีรบุรุษแห่งสุยและถัง’ ‘จักรพรรดิหมิงตี้’ ‘สงครามฝิ่น’ ฯลฯ ซึ่งเป็นละครประวัติศาสตร์ฟอร์มใหญ่ ไม่เพียงมีชื่อเสียงภายในประเทศ ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ของเอเชียก็โด่งดังเป็นที่รู้จักเช่นกัน

เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสในวงการ ลู่เฉินถึงแม้จะถ่ายละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์เยอะกว่านี้ ก็ถือว่าเป็นรุ่นเด็ก

จางเค่อจับมือกับลู่เฉิน ใบหน้าที่เคร่งขรึมปรากฏรอยยิ้ม “ผมรู้จักคุณ จางเหวินเทียนเคยพูดถึงคุณกับผม วั่นเสี่ยวเฉวียนตอนนี้ช่วยงานคุณอยู่ใช่ไหม”

ลู่เฉินตอบอย่างเคารพ “ใช่ครับ ผู้กำกับวั่นตอนนี้อยู่ที่ฮ่องกงกำลังเตรียมงานถ่ายหนังให้ผมครับ”

จางเค่อพยักหน้า “วั่นเสี่ยวเฉวียนก็ไม่ง่ายเหมือนกัน นายก็ดีมาก”

เขามองเฉินเฟยเอ๋อร์ แล้วเอ่ยว่า “ในฐานะที่เป็นแฟนของเฉินเฟยเอ๋อร์ คุณผ่าน”

ทุกคนต่างหัวเราะขึ้นมา

เวลานี้ตอนนี้คนที่เข้ามาห้อมล้อมเยอะมาก ในบรรดาคนเหล่านั้นมีนักแสดงในกองถ่ายอยู่ไม่น้อย พวกเขาล้วนแต่งกายด้วยชุดที่ใช้เข้าฉาก ดาราตัวท็อปก็เข้ามายืนด้วย ส่วนพวกนักแสดงตัวประกอบก็ได้แต่ชี้มือชี้ไม้อยู่ไกลๆ

พวกนักแสดงชายให้ความนับถือและอิจฉาลู่เฉิน พวกนักแสดงหญิงส่วนใหญ่ชื่นชมและอิจฉา

ดาราดังมาเยี่ยมที่กองละครเป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อย แต่วิ่งมาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะทำได้

ลู่เฉินเห็นพวกเขาหัวเราะจึงรู้สึกเขิน

เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากหัวเราะ มุมปากเผยรสชาติของความสุข เธอแนะนำลู่เฉินให้รู้จักกับนักแสดงคนอื่นๆ

“นี่คือสือหล่าง พี่สือ”

“นี่คือเหยียนคัง อาจารย์เหยียน!”

“นี่คือพี่หร่วน…”

เฉินเฟยเอ๋อร์แนะนำนักแสดงนำสองสามคนให้ลู่เฉินรู้จัก ทุกคนล้วนเป็นดาราแถวหน้าในวงการภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ คนที่เป็นเบอร์ใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้นสือหล่างที่รับบทพระเอกอย่างไม่ต้องสงสัย เขากวาดสามรางวัลใหญ่ของวงการภาพยนตร์ในประเทศจนเกลี้ยง เคยแสดงนำในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่องเป็นที่ชื่นชอบของคนดู

สือหล่างรูปร่างสูงใหญ่ลักษณะใบหน้าสง่าผ่าเผย มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคิดบวกจิตใจดี เขาแสดงท่าทีต่อลู่เฉินดีมาก ไม่วางมาดเต๊ะท่าเลยสักนิด

หลังจากแนะนำกันเสร็จแล้ว จางเค่อจึงเอ่ยว่า “พวกเธอไปเถอะ อย่าลืมว่าห้ามทำให้งานถ่ายทำวันพรุ่งนี้ต้องล่าช้า”

คำพูดที่จริงจังกับความหมายที่ลึกซึ้ง

นักแสดงหญิงสองสามคนหัวเราะหึๆ สือหล่างและคนอื่นๆ ต่างหัวเราะอย่างคลุมเครือ

เฉินเฟยเอ๋อร์ถูกหัวเราะจนหน้าแดง เธอรีบจูงมือลู่เฉินวิ่งเข้าไปในกระโจมที่พักของตัวเอง

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด