Perfect Superstar 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน

เช้าตรู่

นาฬิกาชีวิตอันแน่นอนปลุกลู่เฉินให้ตื่นจากความฝันตรงเวลา

เขาฝันดีทั้งคืน

ตอนตื่นนอนรู้สึกแตกต่างจากปกติมาก กลิ่นหอมกรุ่นโชยมาจากร่างของผู้หญิงที่นอนสงบนิ่งอยู่ในอ้อมอกของเขา ภายใต้ผ้าห่มที่อบอุ่นเนื้อแนบชิดสนิทกัน

สัมผัสทางกายที่ดื่มด่ำลึกล้ำทำให้แรงปรารถนาของลู่เฉินลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

หญิงสาวในอ้อมกอดรู้สึกถึงแรงกดของเขา จึงร้องครางแล้วค่อยๆ ลืมตาหันหน้ามาทักทาย

“อรุณสวัสดิ์…”

ลู่เฉินยิ้มทักทายแฟนสาว

ใบหน้าของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่แดงระเรื่อและท่าทางเกียจคร้านที่ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลนั้นทำให้คนแทบคลั่ง

ไม่เหมือนกับดาราสาวคนอื่นที่ต้องแต่งหน้าอย่างประณีตก่อนถึงจะออกไปเจอผู้คนได้ ราชินีแห่งวงการเพลงที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของลู่เฉินคนนี้งดงามมาแต่กำเนิดอย่างแท้จริง ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางใดก็ยังสวยงามบาดใจ

การควบคุมตัวเองของลู่เฉินลดน้อยลงเรื่อยๆ อาศัยที่เธอยังไม่ตื่นเต็มตา กดเธอไว้ด้านล่างและรุกล้ำเธออีกครั้ง

เฉินเฟยเอ๋อร์ครางด้วยอารมณ์รุ่มร้อน ทำให้บรรยากาศในห้องนอนคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง

แต่เมื่อถึงห้วงเวลาสำคัญ ลู่เฉินกลับหยุดลงเสียดื้อๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ ปลอบใจเขาด้วยการจูบบนใบหน้า “ต่อไป…ยังมีโอกาสอีก”

เมื่อคืนตอนที่เธอเห็นบทกลอน ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’ ในบล็อกของลู่เฉิน ก็รู้สึกประทับใจมาก จนกดข่มความรักที่พวยพุ่งขึ้นมาจากอกเอาไว้ไม่ไหวต้องวิ่งมาหาลู่เฉินถึงคอนโดที่เขาเช่าอยู่

เดิมทีคิดว่าทั้งหมดจะราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่จนใจที่เฉินเฟยเอ๋อร์กลับมีประจำเดือน สุดท้ายลู่เฉินทำต่อไม่ได้ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น ตอนหลังเฉินเฟยเอ๋อร์ต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยให้เขาคลี่คลาย

ลู่เฉินจูบเธออย่างดุดันไปสองครั้ง แล้วใช้ความพยามยามอย่างยิ่งยวดลุกขึ้นมานั่ง “จะให้ผมไปส่งพี่ไหม”

เมื่อคืนอาเสวียนเป็นคนพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาส่ง เมื่อส่งถึงจุดหมายแล้วเฉินเฟยเอ๋อร์ให้บอดี้การ์ดส่วนตัวกลับไปก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอค้างคืนที่คอนโดของลู่เฉิน

เฉินเฟยเอ๋อร์ส่ายหัว “ฉันบอกอาเสวียนไว้แล้ว เธอจะมารับฉันหลังเที่ยง”

ถ้าอย่างนั้นก็ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งวัน ลู่เฉินดีใจมาก “ผมจะไปซื้ออาหารเช้ามาให้”

ดาราใหญ่แบบเฉินเฟยเอ๋อร์ มีเวลาว่างสักครึ่งวันมาอยู่เป็นเพื่อนเขาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะตอนนี้ที่เป็นเดือนแรกของปีตามปฏิทินจันทรคติ ทุกทีควรจะเป็นช่วงเวลาที่งานยุ่งมากที่สุด มีงานพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ไหลสะพัดเข้ามามากมาย

เฉินเฟยเอ๋อร์กอดเขาพลางถามว่า “ที่นี่นายมีวัตถุดิบทำอาหารไหม เอาแค่พอใช้ทำอาหารเช้าก็พอ”

ลู่เฉินพยักหน้า “มีอยู่ในห้องครัวกับตู้เย็น”

คอนโดที่เขาเช่าเป็นคอนโดแบบห้องเดี่ยว ลู่ซีพี่สาวของเขามาช่วยเก็บกวาดห้องให้เป็นระยะ พร้อมกับนำอาหารสดมาใส่ติดตู้เย็นไว้ให้ด้วย เพื่อให้เขาทำอาหารกินเองแก้หิวได้

“ถ้าอย่างนั้นก็พอแล้ว อาหารเช้าเดี๋ยวฉันทำเอง…”

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้ม “นายไปออกกำลังกายเถอะ ไม่ต้องเสียเวลาเพราะฉัน กลับมาจะได้กินอาหารเช้าพอดี”

เธอรู้ว่าลู่เฉินต้องออกกำลังกายและฝึกการต่อสู้ทุกวัน รูปร่างและฝีมือถึงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้

กิจวัตรที่ดีต้องรักษาเอาไว้!

ลู่เฉินยังจะพูดอะไรได้อีก ความอ่อนหวานท่วมท้นไปทั้งใจ จูบลาเฉินเฟยเอ๋อร์แล้วไปวิ่งออกกำลังกาย

รอจนเขาวิ่งเสร็จกลับมา เฉินเฟยเอ๋อร์ก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

โจ๊กขาวหอมๆ ทั้งหม้อ กับเกี๊ยวทอดสีเหลืองทองลูกอวบๆ มีเครื่องเคียงเป็นผักกาดดองอันสดชื่นกับเต้าหู้หมาล่า วางอยู่บนโต๊ะทำให้ลู่เฉินเจริญอาหารเป็นอย่างดี

“ผมกลับมาแล้ว!”

เขาตะโกนบอก แล้วหยิบเกี๊ยวขึ้นมาด้วยมือเปล่าอย่างอดไม่ได้ ยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ

คิดไม่ถึงว่าเกี๊ยวแช่แข็งจะนำมาทำให้อร่อยได้ขนาดนี้!

ยิ่งคิดไม่ถึงว่า เฉินเฟยเอ๋อร์จะทำกับข้าวเป็น แล้วยังทำได้อร่อยมากด้วย

ทั้งเก่งและดีพร้อมจริงๆ!

ลู่เฉินกินอย่างมีความสุข

เฉินเฟยเอ๋อร์เยี่ยมหน้าออกมาจากห้องครัว เห็นลู่เฉินกำลังแอบขโมยกินเกี๊ยว ก็เอ็ดเข้าให้ “ทำไมใช้มือหยิบเล่า ไม่สะอาดเลย รีบไปล้างมือก่อน ล้างเสร็จแล้วถึงกินได้”

“เอ่อ…”

ลู่เฉินกลืนเกี๊ยวลงคอ แล้วพุ่งเข้าไปในห้องครัว โอบเอวบางของเฉินเฟยเอ๋อร์ไว้

ราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้ไม่รู้ไปหาผ้ากันเปื้อนจากไหนมาสวมไว้รอบเอว มัดผมรวบขึ้นถือทัพพีอยู่ในมือ ดูท่าทางเหมือนภรรยาในบ้านของเขา ทำให้ลู่เฉินยิ่งอบอุ่นหัวใจ

นี่สิถึงจะเป็นการใช้ชีวิตที่แท้จริง เขาก้มหัววางคางลงบนไหล่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ สูดกลิ่นหอมที่โชยมาจากร่างของเธอ ในใจสุขสงบ อยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้ตลอดไป

น่าเสียดายที่เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ให้ความร่วมมือ ใช้ส้นเท้าเหยียบเท้าเขาแล้วเริ่มบ่น “อย่ากวนสิ ไข่ทอดเกือบจะไหม้แล้ว!”

ลู่เฉินหัวเราะอิๆ ปล่อยคนรักอย่างเสียดาย แล้วไปล้างมือในอ่างล้างจาน

รอจนเขากลับมานั่งที่โต๊ะ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ยกไข่ดาวออกมาเสิร์ฟ

อาหารเช้ามื้อนี้ เขากินอย่างมีความสุขเกินบรรยาย

แต่เฉินเฟยเอ๋อร์มีความคิดเห็น “ห้องนี้เล็กเกินไป ห้องครัวแทบจะกลับตัวไม่ได้ นายเปลี่ยนห้องให้ใหญ่กว่านี้เถอะ ซื้อห้องชุดสักห้องในปักกิ่ง

ลู่เฉินหัวเราะ “คุณมีที่ไหนดีๆ แนะนำไหม”

ตอนนี้คอนโดที่เขาเช่า มีห้องครัวและห้องน้ำพร้อมสรรพแต่พื้นที่ออกจะแออัดไปมาก ข้อดีคืออยู่ใกล้กับสตูดิโอของเขา ค่อนข้างสะดวกเวลาไปทำงาน

แต่ตอนนี้ลู่เฉินไม่เหมือนเมื่อก่อน เขามีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ค่อยเหมาะสม

แม้แต่ลู่ซีเองก็ยังเคยเตือนเขาเรื่องนี้

ดังนั้นถึงเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่พูด เรื่องซื้อบ้านลู่เฉินก็ได้วางแผนไว้แต่แรกแล้ว

ถ้าเป็นครึ่งปีก่อน ลู่เฉินที่ทำงานอยู่ในบาร์เดย์ลิลลี่ยังไม่กล้าคิดฝันถึงเรื่องนี้ บ้านในเมืองหลวงหลายปีนี้ราคาพุ่งสูงอย่างโหดร้าย ขนาดนอกเขตวงแหวนรอบที่ห้ายังตารางเมตรละสองสามหมื่นหยวน บ้านที่อยู่ในชุมชนระดับไฮเอนด์ย่านใจกลางเมืองอย่างน้อยต้องหลายแสน ไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจะสู้ไหว

แม้แต่ตอนนี้ ถ้าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่โด่งดัง อาศัยแค่งานลิขสิทธิ์ชิ้นนี้ยังพอหาเงินได้มากอยู่ แต่ลู่เฉินที่เพิ่งใช้หนี้ของครอบครัวและไถ่ถอนบ้านออกมาได้ไม่นาน ยังคงเอาเงินออกมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงไม่ไหวอยู่ดี…มันแพงเกินไป!

แน่นอนว่าเขาอยากจะซื้อบ้านดีๆ

“ถามฉันถูกแล้ว!”

เฉินเฟยเอ๋อร์เชิดคางขึ้นอย่างได้ใจ “ฉันมีห้องชุดอยู่ในจื่อเฉิงย่วน พื้นที่สามร้อยตารางเมตร มีห้าห้องนอน สองห้องรับแขก และสามห้องน้ำ ตกแต่งอย่างดี ฉันจะขายให้นายถูกๆ”

“จื่อเฉิงย่วน?”

ลู่เฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “ห้องของคุณเหรอ อยู่ตรงไหน”

จื่อเฉิงย่วนเป็นชุมชนระดับไฮเอนด์ ตั้งอยู่ในเขตวงแหวนรอบที่สามใกล้กับแนววงแหวนรอบที่สอง เปิดขายในปี 2007 ส่งมอบห้องในปี 2009 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสูงแห่งนี้คือวั่นหลงแคปปิตอลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

เฉินเฟยเอ๋อร์จองห้องชุดไว้ในปี 2007 เป็นห้องชุดสองชั้นที่มีรูปแบบดีมาก ตั้งอยู่ที่ชั้นสิบเจ็ดถึงสิบแปด แต่หลังจากซื้อแล้วไม่ได้ไปอยู่ และไม่ได้ให้ใครเช่า เก็บไว้เพื่อเก็งกำไรเท่านั้น

ปีนั้นหลังจากหลุดพ้นจากบริษัทเอเจนซี่และก่อตั้งสตูดิโอของตัวเองแล้ว เงินส่วนใหญ่ที่หาได้ล้วนนำไปลงทุนซื้อคอนโดและร้านค้า ห้องชุดในจื่อเฉิงย่วนห้องนี้เป็นหนึ่งในทรัพย์สินของเธอ

ในวงการบันเทิง นิสัยชอบซื้ออสังหาริมทรัพย์ของเฉินเฟยเอ๋อร์นั้นเป็นที่เลื่องลือ กระทั่งมีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาเสนอขายบ้านในโครงการของพวกเขาให้แก่เธอ หวังจะอาศัยชื่อเสียงของเธอมาเพิ่มยอดขาย

วิธีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียวแบบนี้ ทำให้เธอมีทรัพย์สินมากขึ้นเป็นทวีคูณภายในไม่กี่ปี เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีนีตัวจริง!

“เมื่อปี 07 ฉันซื้อห้องชุดห้องนี้และตกแต่งหมดเงินไปแค่หกล้าน…”

เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้ขายได้อย่างน้อยสามสิบล้าน!”

ลู่เฉินมีเพียงคำว่า ‘ยอม’ คำเดียว “คุณเก่งมาก แต่ผมซื้อไม่ไหวหรอก!”

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “ซื้อไม่ไหวก็ติดไว้ก่อน เอาเป็นว่านายอยากซื้อบ้าน ขายถูกๆ ให้คนอื่นสู้ขายให้นายไม่ดีกว่าเหรอ อนุญาตให้ค่อยๆ ใช้คืน ต้องมีสักวันที่คืนจนครบนั่นแหละ”

ลู่เฉินยิ้ม “แล้วอนุญาตให้เอาตัวเข้าแลกไหม”

“อนุญาต!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่กลัวเขาหยอกล้อ จึงตกลงปลงใจทันที “เขียนสัญญาขายตัวก่อน ต่อไปนายต้องทำงานให้ฉันคนเดียว มีให้กินให้อยู่ แล้วจะให้เงินนายไว้กินขนมอีกวันละร้อยเป็นไง”

ลู่เฉินถอนใจ “เงื่อนไขไม่เลว คิดแล้วก็น่าสนใจ แต่เงินร้อยหยวนไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ”

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนจะกลอกตาใส่เขาอย่างยั่วยวน

ทั้งสองคนสวีทหวานแหวว รับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างชื่นมื่น จนเก้าโมงกว่าแล้ว

ลู่เฉินโทรศัพท์หาพี่สาว แล้วปิดโทรศัพท์ไม่สนใจกิจการและการงานอะไรทั้งนั้น เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันหาได้ยากอยู่ด้วยกันในคอนโด นั่งเล่นอิงแอบกันบนโซฟาพร่ำพลอดคำหวานใส่กันไม่รู้จบ

จนตอนเที่ยง ลู่เฉินเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเข้าสู่เว็บไซต์ทางการของนิวฮอไรซอน

เมื่อคืนละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เสนอเป็นตอนจบทางสถานีโทรทัศน์ไห่จิน เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์อยากดูว่าเรตติ้งเป็นยังไง

การจัดอันดับเรตติ้งจะอัปเดตในหน้าแรกของเว็บไซต์นิวฮอไรซอนตอนเที่ยงตรง

‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ 3.04%!

ทะลุ 3% แล้ว!

แม้จะคาดเดาไว้ก่อนแล้ว และในใจก็มีความคาดหวัง แต่เมื่อเรตติ้งของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนจบออกมานั้น ทั้งสองคนรู้สึกดีใจที่สุด

ถ้าจำไม่ผิด หลายปีมานี้เรตติ้งของละครภายในประเทศไม่เคยมีเรื่องไหนเกิน 3% ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้ง

การลงทุนขนาดเล็กและขนาดกลางบวกทีมนักแสดงหน้าใหม่รวมกับบริษัทผลิตละครระดับสองระดับสามและธีมละครที่ไม่ใช่กระแสหลัก…

แต่เรตติ้งสูงยิ่งกว่าระดับปรากฏการณ์!

ถ้านี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ ยังจะมีอย่างอื่นอีกหรือ

เฉินเฟยเอ๋อร์จูบที่ใบหน้าของลู่เฉินทีหนึ่ง “ดีจังเลย!”

เรตติ้งที่ได้รับไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเกียรติยศและชื่อเสียง ยิ่งบ่งบอกถึงรายได้อันมหาศาล

สตูดิโอลู่เฉิน สตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์ และบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สทำสัญญาเดิมพันกับสถานีโทรทัศน์ไห่จิน หากเรตติ้งเฉลี่ยของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศสูงกว่า 0.25% ทุกๆ 0.10% ที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มราคาให้ตอนละหนึ่งแสน!

ตอนนี้เรตติ้งเฉลี่ยของทั้งยี่สิบตอนเกิน 2% อย่างไม่มีปัญหา สถานีโทรทัศน์ไห่จินต้องจ่ายเพิ่มให้อีกสามสี่สิบล้าน!

เมื่อมีผลงานนี้เป็นพื้นฐาน ละครเรื่องต่อไปของลู่เฉินจะได้รับเงินเพิ่มหลายเท่าก็ทำได้โดยง่าย คนที่อยากร่วมหุ้นด้วยมีมากมายนับไม่ถ้วน

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างดีใจ “รีบไปดูในบล็อกเร็ว”

ลู่เฉินทำตาม ลงทะเบียนเข้าบล็อกล่างฉาว แล้วก็เห็นว่าสถานีโทรทัศน์ไห่จินได้ประกาศแสดงความยินดีกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่จบลงอย่างบริบูรณ์และได้รับเรตติ้งในตอนจบสูงเกิน 3% ทั้งยังติดแท็กตัวเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วย!

………………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 296 ว่างพักผ่อนครึ่งวัน

เช้าตรู่

นาฬิกาชีวิตอันแน่นอนปลุกลู่เฉินให้ตื่นจากความฝันตรงเวลา

เขาฝันดีทั้งคืน

ตอนตื่นนอนรู้สึกแตกต่างจากปกติมาก กลิ่นหอมกรุ่นโชยมาจากร่างของผู้หญิงที่นอนสงบนิ่งอยู่ในอ้อมอกของเขา ภายใต้ผ้าห่มที่อบอุ่นเนื้อแนบชิดสนิทกัน

สัมผัสทางกายที่ดื่มด่ำลึกล้ำทำให้แรงปรารถนาของลู่เฉินลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

หญิงสาวในอ้อมกอดรู้สึกถึงแรงกดของเขา จึงร้องครางแล้วค่อยๆ ลืมตาหันหน้ามาทักทาย

“อรุณสวัสดิ์…”

ลู่เฉินยิ้มทักทายแฟนสาว

ใบหน้าของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่แดงระเรื่อและท่าทางเกียจคร้านที่ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลนั้นทำให้คนแทบคลั่ง

ไม่เหมือนกับดาราสาวคนอื่นที่ต้องแต่งหน้าอย่างประณีตก่อนถึงจะออกไปเจอผู้คนได้ ราชินีแห่งวงการเพลงที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของลู่เฉินคนนี้งดงามมาแต่กำเนิดอย่างแท้จริง ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางใดก็ยังสวยงามบาดใจ

การควบคุมตัวเองของลู่เฉินลดน้อยลงเรื่อยๆ อาศัยที่เธอยังไม่ตื่นเต็มตา กดเธอไว้ด้านล่างและรุกล้ำเธออีกครั้ง

เฉินเฟยเอ๋อร์ครางด้วยอารมณ์รุ่มร้อน ทำให้บรรยากาศในห้องนอนคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง

แต่เมื่อถึงห้วงเวลาสำคัญ ลู่เฉินกลับหยุดลงเสียดื้อๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ ปลอบใจเขาด้วยการจูบบนใบหน้า “ต่อไป…ยังมีโอกาสอีก”

เมื่อคืนตอนที่เธอเห็นบทกลอน ‘ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก’ ในบล็อกของลู่เฉิน ก็รู้สึกประทับใจมาก จนกดข่มความรักที่พวยพุ่งขึ้นมาจากอกเอาไว้ไม่ไหวต้องวิ่งมาหาลู่เฉินถึงคอนโดที่เขาเช่าอยู่

เดิมทีคิดว่าทั้งหมดจะราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่จนใจที่เฉินเฟยเอ๋อร์กลับมีประจำเดือน สุดท้ายลู่เฉินทำต่อไม่ได้ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น ตอนหลังเฉินเฟยเอ๋อร์ต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยให้เขาคลี่คลาย

ลู่เฉินจูบเธออย่างดุดันไปสองครั้ง แล้วใช้ความพยามยามอย่างยิ่งยวดลุกขึ้นมานั่ง “จะให้ผมไปส่งพี่ไหม”

เมื่อคืนอาเสวียนเป็นคนพาเฉินเฟยเอ๋อร์มาส่ง เมื่อส่งถึงจุดหมายแล้วเฉินเฟยเอ๋อร์ให้บอดี้การ์ดส่วนตัวกลับไปก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอค้างคืนที่คอนโดของลู่เฉิน

เฉินเฟยเอ๋อร์ส่ายหัว “ฉันบอกอาเสวียนไว้แล้ว เธอจะมารับฉันหลังเที่ยง”

ถ้าอย่างนั้นก็ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งวัน ลู่เฉินดีใจมาก “ผมจะไปซื้ออาหารเช้ามาให้”

ดาราใหญ่แบบเฉินเฟยเอ๋อร์ มีเวลาว่างสักครึ่งวันมาอยู่เป็นเพื่อนเขาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะตอนนี้ที่เป็นเดือนแรกของปีตามปฏิทินจันทรคติ ทุกทีควรจะเป็นช่วงเวลาที่งานยุ่งมากที่สุด มีงานพรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ไหลสะพัดเข้ามามากมาย

เฉินเฟยเอ๋อร์กอดเขาพลางถามว่า “ที่นี่นายมีวัตถุดิบทำอาหารไหม เอาแค่พอใช้ทำอาหารเช้าก็พอ”

ลู่เฉินพยักหน้า “มีอยู่ในห้องครัวกับตู้เย็น”

คอนโดที่เขาเช่าเป็นคอนโดแบบห้องเดี่ยว ลู่ซีพี่สาวของเขามาช่วยเก็บกวาดห้องให้เป็นระยะ พร้อมกับนำอาหารสดมาใส่ติดตู้เย็นไว้ให้ด้วย เพื่อให้เขาทำอาหารกินเองแก้หิวได้

“ถ้าอย่างนั้นก็พอแล้ว อาหารเช้าเดี๋ยวฉันทำเอง…”

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้ม “นายไปออกกำลังกายเถอะ ไม่ต้องเสียเวลาเพราะฉัน กลับมาจะได้กินอาหารเช้าพอดี”

เธอรู้ว่าลู่เฉินต้องออกกำลังกายและฝึกการต่อสู้ทุกวัน รูปร่างและฝีมือถึงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้

กิจวัตรที่ดีต้องรักษาเอาไว้!

ลู่เฉินยังจะพูดอะไรได้อีก ความอ่อนหวานท่วมท้นไปทั้งใจ จูบลาเฉินเฟยเอ๋อร์แล้วไปวิ่งออกกำลังกาย

รอจนเขาวิ่งเสร็จกลับมา เฉินเฟยเอ๋อร์ก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

โจ๊กขาวหอมๆ ทั้งหม้อ กับเกี๊ยวทอดสีเหลืองทองลูกอวบๆ มีเครื่องเคียงเป็นผักกาดดองอันสดชื่นกับเต้าหู้หมาล่า วางอยู่บนโต๊ะทำให้ลู่เฉินเจริญอาหารเป็นอย่างดี

“ผมกลับมาแล้ว!”

เขาตะโกนบอก แล้วหยิบเกี๊ยวขึ้นมาด้วยมือเปล่าอย่างอดไม่ได้ ยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ

คิดไม่ถึงว่าเกี๊ยวแช่แข็งจะนำมาทำให้อร่อยได้ขนาดนี้!

ยิ่งคิดไม่ถึงว่า เฉินเฟยเอ๋อร์จะทำกับข้าวเป็น แล้วยังทำได้อร่อยมากด้วย

ทั้งเก่งและดีพร้อมจริงๆ!

ลู่เฉินกินอย่างมีความสุข

เฉินเฟยเอ๋อร์เยี่ยมหน้าออกมาจากห้องครัว เห็นลู่เฉินกำลังแอบขโมยกินเกี๊ยว ก็เอ็ดเข้าให้ “ทำไมใช้มือหยิบเล่า ไม่สะอาดเลย รีบไปล้างมือก่อน ล้างเสร็จแล้วถึงกินได้”

“เอ่อ…”

ลู่เฉินกลืนเกี๊ยวลงคอ แล้วพุ่งเข้าไปในห้องครัว โอบเอวบางของเฉินเฟยเอ๋อร์ไว้

ราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้ไม่รู้ไปหาผ้ากันเปื้อนจากไหนมาสวมไว้รอบเอว มัดผมรวบขึ้นถือทัพพีอยู่ในมือ ดูท่าทางเหมือนภรรยาในบ้านของเขา ทำให้ลู่เฉินยิ่งอบอุ่นหัวใจ

นี่สิถึงจะเป็นการใช้ชีวิตที่แท้จริง เขาก้มหัววางคางลงบนไหล่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ สูดกลิ่นหอมที่โชยมาจากร่างของเธอ ในใจสุขสงบ อยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้ตลอดไป

น่าเสียดายที่เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ให้ความร่วมมือ ใช้ส้นเท้าเหยียบเท้าเขาแล้วเริ่มบ่น “อย่ากวนสิ ไข่ทอดเกือบจะไหม้แล้ว!”

ลู่เฉินหัวเราะอิๆ ปล่อยคนรักอย่างเสียดาย แล้วไปล้างมือในอ่างล้างจาน

รอจนเขากลับมานั่งที่โต๊ะ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ยกไข่ดาวออกมาเสิร์ฟ

อาหารเช้ามื้อนี้ เขากินอย่างมีความสุขเกินบรรยาย

แต่เฉินเฟยเอ๋อร์มีความคิดเห็น “ห้องนี้เล็กเกินไป ห้องครัวแทบจะกลับตัวไม่ได้ นายเปลี่ยนห้องให้ใหญ่กว่านี้เถอะ ซื้อห้องชุดสักห้องในปักกิ่ง

ลู่เฉินหัวเราะ “คุณมีที่ไหนดีๆ แนะนำไหม”

ตอนนี้คอนโดที่เขาเช่า มีห้องครัวและห้องน้ำพร้อมสรรพแต่พื้นที่ออกจะแออัดไปมาก ข้อดีคืออยู่ใกล้กับสตูดิโอของเขา ค่อนข้างสะดวกเวลาไปทำงาน

แต่ตอนนี้ลู่เฉินไม่เหมือนเมื่อก่อน เขามีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ค่อยเหมาะสม

แม้แต่ลู่ซีเองก็ยังเคยเตือนเขาเรื่องนี้

ดังนั้นถึงเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่พูด เรื่องซื้อบ้านลู่เฉินก็ได้วางแผนไว้แต่แรกแล้ว

ถ้าเป็นครึ่งปีก่อน ลู่เฉินที่ทำงานอยู่ในบาร์เดย์ลิลลี่ยังไม่กล้าคิดฝันถึงเรื่องนี้ บ้านในเมืองหลวงหลายปีนี้ราคาพุ่งสูงอย่างโหดร้าย ขนาดนอกเขตวงแหวนรอบที่ห้ายังตารางเมตรละสองสามหมื่นหยวน บ้านที่อยู่ในชุมชนระดับไฮเอนด์ย่านใจกลางเมืองอย่างน้อยต้องหลายแสน ไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจะสู้ไหว

แม้แต่ตอนนี้ ถ้าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่โด่งดัง อาศัยแค่งานลิขสิทธิ์ชิ้นนี้ยังพอหาเงินได้มากอยู่ แต่ลู่เฉินที่เพิ่งใช้หนี้ของครอบครัวและไถ่ถอนบ้านออกมาได้ไม่นาน ยังคงเอาเงินออกมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองหลวงไม่ไหวอยู่ดี…มันแพงเกินไป!

แน่นอนว่าเขาอยากจะซื้อบ้านดีๆ

“ถามฉันถูกแล้ว!”

เฉินเฟยเอ๋อร์เชิดคางขึ้นอย่างได้ใจ “ฉันมีห้องชุดอยู่ในจื่อเฉิงย่วน พื้นที่สามร้อยตารางเมตร มีห้าห้องนอน สองห้องรับแขก และสามห้องน้ำ ตกแต่งอย่างดี ฉันจะขายให้นายถูกๆ”

“จื่อเฉิงย่วน?”

ลู่เฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “ห้องของคุณเหรอ อยู่ตรงไหน”

จื่อเฉิงย่วนเป็นชุมชนระดับไฮเอนด์ ตั้งอยู่ในเขตวงแหวนรอบที่สามใกล้กับแนววงแหวนรอบที่สอง เปิดขายในปี 2007 ส่งมอบห้องในปี 2009 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสูงแห่งนี้คือวั่นหลงแคปปิตอลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

เฉินเฟยเอ๋อร์จองห้องชุดไว้ในปี 2007 เป็นห้องชุดสองชั้นที่มีรูปแบบดีมาก ตั้งอยู่ที่ชั้นสิบเจ็ดถึงสิบแปด แต่หลังจากซื้อแล้วไม่ได้ไปอยู่ และไม่ได้ให้ใครเช่า เก็บไว้เพื่อเก็งกำไรเท่านั้น

ปีนั้นหลังจากหลุดพ้นจากบริษัทเอเจนซี่และก่อตั้งสตูดิโอของตัวเองแล้ว เงินส่วนใหญ่ที่หาได้ล้วนนำไปลงทุนซื้อคอนโดและร้านค้า ห้องชุดในจื่อเฉิงย่วนห้องนี้เป็นหนึ่งในทรัพย์สินของเธอ

ในวงการบันเทิง นิสัยชอบซื้ออสังหาริมทรัพย์ของเฉินเฟยเอ๋อร์นั้นเป็นที่เลื่องลือ กระทั่งมีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาเสนอขายบ้านในโครงการของพวกเขาให้แก่เธอ หวังจะอาศัยชื่อเสียงของเธอมาเพิ่มยอดขาย

วิธีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียวแบบนี้ ทำให้เธอมีทรัพย์สินมากขึ้นเป็นทวีคูณภายในไม่กี่ปี เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีนีตัวจริง!

“เมื่อปี 07 ฉันซื้อห้องชุดห้องนี้และตกแต่งหมดเงินไปแค่หกล้าน…”

เฉินเฟยเอ๋อร์พูดอย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้ขายได้อย่างน้อยสามสิบล้าน!”

ลู่เฉินมีเพียงคำว่า ‘ยอม’ คำเดียว “คุณเก่งมาก แต่ผมซื้อไม่ไหวหรอก!”

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะ “ซื้อไม่ไหวก็ติดไว้ก่อน เอาเป็นว่านายอยากซื้อบ้าน ขายถูกๆ ให้คนอื่นสู้ขายให้นายไม่ดีกว่าเหรอ อนุญาตให้ค่อยๆ ใช้คืน ต้องมีสักวันที่คืนจนครบนั่นแหละ”

ลู่เฉินยิ้ม “แล้วอนุญาตให้เอาตัวเข้าแลกไหม”

“อนุญาต!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่กลัวเขาหยอกล้อ จึงตกลงปลงใจทันที “เขียนสัญญาขายตัวก่อน ต่อไปนายต้องทำงานให้ฉันคนเดียว มีให้กินให้อยู่ แล้วจะให้เงินนายไว้กินขนมอีกวันละร้อยเป็นไง”

ลู่เฉินถอนใจ “เงื่อนไขไม่เลว คิดแล้วก็น่าสนใจ แต่เงินร้อยหยวนไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ”

เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนจะกลอกตาใส่เขาอย่างยั่วยวน

ทั้งสองคนสวีทหวานแหวว รับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างชื่นมื่น จนเก้าโมงกว่าแล้ว

ลู่เฉินโทรศัพท์หาพี่สาว แล้วปิดโทรศัพท์ไม่สนใจกิจการและการงานอะไรทั้งนั้น เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันหาได้ยากอยู่ด้วยกันในคอนโด นั่งเล่นอิงแอบกันบนโซฟาพร่ำพลอดคำหวานใส่กันไม่รู้จบ

จนตอนเที่ยง ลู่เฉินเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเข้าสู่เว็บไซต์ทางการของนิวฮอไรซอน

เมื่อคืนละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เสนอเป็นตอนจบทางสถานีโทรทัศน์ไห่จิน เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์อยากดูว่าเรตติ้งเป็นยังไง

การจัดอันดับเรตติ้งจะอัปเดตในหน้าแรกของเว็บไซต์นิวฮอไรซอนตอนเที่ยงตรง

‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ 3.04%!

ทะลุ 3% แล้ว!

แม้จะคาดเดาไว้ก่อนแล้ว และในใจก็มีความคาดหวัง แต่เมื่อเรตติ้งของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนจบออกมานั้น ทั้งสองคนรู้สึกดีใจที่สุด

ถ้าจำไม่ผิด หลายปีมานี้เรตติ้งของละครภายในประเทศไม่เคยมีเรื่องไหนเกิน 3% ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้ง

การลงทุนขนาดเล็กและขนาดกลางบวกทีมนักแสดงหน้าใหม่รวมกับบริษัทผลิตละครระดับสองระดับสามและธีมละครที่ไม่ใช่กระแสหลัก…

แต่เรตติ้งสูงยิ่งกว่าระดับปรากฏการณ์!

ถ้านี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ ยังจะมีอย่างอื่นอีกหรือ

เฉินเฟยเอ๋อร์จูบที่ใบหน้าของลู่เฉินทีหนึ่ง “ดีจังเลย!”

เรตติ้งที่ได้รับไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเกียรติยศและชื่อเสียง ยิ่งบ่งบอกถึงรายได้อันมหาศาล

สตูดิโอลู่เฉิน สตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์ และบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สทำสัญญาเดิมพันกับสถานีโทรทัศน์ไห่จิน หากเรตติ้งเฉลี่ยของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศสูงกว่า 0.25% ทุกๆ 0.10% ที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มราคาให้ตอนละหนึ่งแสน!

ตอนนี้เรตติ้งเฉลี่ยของทั้งยี่สิบตอนเกิน 2% อย่างไม่มีปัญหา สถานีโทรทัศน์ไห่จินต้องจ่ายเพิ่มให้อีกสามสี่สิบล้าน!

เมื่อมีผลงานนี้เป็นพื้นฐาน ละครเรื่องต่อไปของลู่เฉินจะได้รับเงินเพิ่มหลายเท่าก็ทำได้โดยง่าย คนที่อยากร่วมหุ้นด้วยมีมากมายนับไม่ถ้วน

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างดีใจ “รีบไปดูในบล็อกเร็ว”

ลู่เฉินทำตาม ลงทะเบียนเข้าบล็อกล่างฉาว แล้วก็เห็นว่าสถานีโทรทัศน์ไห่จินได้ประกาศแสดงความยินดีกับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่จบลงอย่างบริบูรณ์และได้รับเรตติ้งในตอนจบสูงเกิน 3% ทั้งยังติดแท็กตัวเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ด้วย!

………………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด