Perfect Superstar 582 ไม่น่าจะดี

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 582 ไม่น่าจะดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 582 ไม่น่าจะดี

วันที่ 21 มีนาคม ภาพยนตร์ ‘สงครามเทพอัคคี’ ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสองวันเกินสองร้อยล้าน

ตามแนวโน้มเช่นนี้ ภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์มีรายได้ตั๋วหนังทะลุหนึ่งพันล้านก็ไม่มีปัญหา จนถึงหนึ่งพันสองร้อยล้าน หนึ่งพันสามร้อยล้านก็เป็นเรื่องปกติมาก แต่ถ้าอยากจะทำให้มากกว่านี้ก็ไม่ง่าย อย่างเช่นหนึ่งพันห้าร้อยล้าน

ฉายภาพยนตร์ได้สองวัน ‘สงครามเทพอัคคี’ มีทิศทางคำวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็นสองขั้ว คนที่ชอบคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเอฟเฟกต์ดีมาก เรื่องราวน่าตื่นเต้น อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง คุ้มค่าตั๋วหนังมาก

ส่วนคำวิจารณ์ของคนดูที่ไม่ชอบภาพยนตร์ ‘สงครามเทพอัคคี’ ก็คือเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดสไตล์ป็อปคอร์นดั้งเดิมทั่วๆ ไป นอกจากสเปเชียลเอฟเฟกต์ฉากต่อสู้แล้ว อย่างอื่นไม่ควรค่าต่อการเอ่ยถึง เนื้อเรื่องมีช่องโหว่เกือบทั้งเรื่อง อย่างมากก็แค่ให้คนรู้สึกถึงความตื่นเต้นอย่างรุนแรงเท่านั้น

และภาพยนตร์ที่คล้ายๆ กัน ทุกคนก็ดูมาเยอะแล้ว ไม่มีความรู้สึกแปลกใหม่อะไร

ไม่พูดถึงคำวิจารณ์แง่บวก ลำพังแค่คำวิจารณ์แง่ลบเหล่านี้ อันที่จริงก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาอย่างหนึ่งที่ภาพยนตร์ในประเทศกำลังเผชิญอยู่ นั่นก็คือคุณภาพของภาพยนตร์มีความคล้ายคลึงกันอย่างรุนแรง เน้นสเปเชียลเอฟเฟกต์มากเกินไป มองข้ามโครงเรื่องรวมทั้งการสร้างตัวละคร เหมือนกับนำอาหารรสเลิศมาเสิร์ฟผู้ชม แต่บนนั้นเต็มไปด้วยผงชูรส

คนหนุ่มสาวจะชอบเป็นส่วนมาก และก็เป็นกลุ่มคนที่ดูภาพยนตร์ฮอลลีวูดประเภทนี้เป็นหลัก

แน่นอนว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูดก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มไปทางศิลปะและวรรณกรรมแบบนั้นนำเข้ามาประเทศจีนยากมาก และหลังจากที่นำเข้ามาแล้วรายได้ตั๋วหนังก็ไม่ค่อยดี ไม่ได้รับการต้อนรับจากโรงภาพยนตร์เท่าไรนัก

ด้วยเหตุนี้ บวกกับประเทศมีนโยบายปกป้องภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ ดังนั้นถึงแม้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะยังโจมตีและมีอิทธิพลมหาศาลต่อภาพยนตร์ของประเทศจีน แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศก็สามารถยึดครองพื้นที่ของตนได้แล้ว

ทว่าภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศเน้นตีตลาดภาพยนตร์ไอดอลและภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายดังเป็นส่วนใหญ่ จึงเผชิญกับปัญหาผลงานมีลักษณะคล้ายคลึงกันอย่างรุนแรง ในขณะที่ตลาดภาพยนตร์ของประเทศกำลังคึกคัก แต่ฉากหน้าก็มีเรื่องราวซับซ้อนยากที่จะแยกแยะได้ชัดเจน

ลู่เฉินเป็นผู้นำของเฉินเฟยมีเดีย ถ้าอยากจะแย่งพื้นที่ในตลาดใหญ่แห่งนี้ กำลัง เส้นสาย โชคลาภ และโอกาสจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้

ในฐานะเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการภาพยนตร์ คนในวงการไม่ได้คาดหวังกับเขามากนัก

วันที่ 26 มีนาคม เวลาสองทุ่ม อี้หว่างหนึ่งในเว็บท่าที่ใหญ่สุดของประเทศจีน รายการบันเทิงวาไรตี้ ‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ ที่อยู่ภายใต้สังกัดอี้หว่างวิดีโอออกอากาศตรงเวลา ในนั้นได้กล่าวถึงลู่เฉินกับภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’

“พร้อมกันกับที่ตลาดภาพยนตร์ในประเทศเปิดกว้างมากขึ้น ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เข้าประเทศจีนหลังจากนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ การปกป้องภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศสุดท้ายก็จะถูกยกเลิก…”

“สองสามปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเกาหลีผุดขึ้นมามากมาย ผลงานที่ดีเยี่ยมหลายชิ้นถูกนำเข้ามาในประเทศจีน กลายเป็นการโอบล้อมภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ ดังนั้นสถานการณ์จึงรุนแรงมาก ส่วนแบ่งตลาดมีความเป็นไปได้ที่จะลดลง!”

แขกรับเชิญที่นั่งอยู่ในห้องส่งพูดจาอย่างฉะฉาน “เพราะฉะนั้นภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศอยากจะฝ่าด่านออกไป ประเด็นสำคัญขึ้นอยู่กับบริษัทผลิตภาพยนตร์ บริษัทผลิตภาพยนตร์ในประเทศจีนต้องทำให้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมากกว่านี้ ด้านเทคนิคก็ต้องตามติดกระแสหลักของสากล เรื่องเนื้อหาจำเป็นต้องติดตลาดในประเทศ ต้องเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเพื่อให้พัฒนา”

‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ เป็นหนึ่งในรายการวาไรตี้ออนไลน์ของอี้หว่างวิดีโอที่ได้รับความนิยมมาก ออกอากาศสัปดาห์ละหนึ่งครึ่ง โดยแต่ละสัปดาห์จะเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ อย่างเช่น ผู้กำกับ นักแสดง โปรดิวเซอร์ คนเขียนบท นักวิจารณ์ภาพยนตร์ เป็นต้น มาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่กำลังจะออกฉายในสัปดาห์นั้น รวมทั้งคาดการณ์ล่วงหน้าสำหรับภาพยนตร์ใหม่ที่จะออกฉายในสัปดาห์หน้า

รายการนี้มียอดวิวสูงมาก

และ ‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ สัปดาห์นี้ก็ได้เชิญ วังเสี่ยวซวี่ คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังมาด้วย

วังเสี่ยวซวี่ไม่ได้มารายการนี้เป็นครั้งแรก เขาคุ้นเคยกับพิธีกรเป็นอย่างมาก บวกกับรายการออนไลน์มีความอิสระสูงกว่ารายการโทรทัศน์ไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงพูดได้อย่างอิสระเสรี ไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก

“สัปดาห์นี้ ‘สงครามเทพอัคคี’ ทำรายได้ไปห้าร้อยล้านแล้ว ทะลุหนึ่งพันล้านไม่น่ามีปัญหา ดังนั้นพวกเราจะเห็นว่า บริษัทภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ประสบความสำเร็จในตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น บริษัทภาพยนตร์ขนาดกลางและขนาดเล็กมีจำนวนน้อยมาก และเมื่อเทียบกับหน่วยงานที่ผลิตภาพยนตร์ในประเทศของพวกเราถึงจะเยอะแต่กระจัดกระจาย ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่ แต่พลังของปัจเจกบุคคลที่แท้จริงยังไม่แข็งแกร่งมากพอ ดังนั้นจึงยากที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้”

พิธีกรพยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แล้วเอ่ยว่า “คุณพูดมีเหตุผลมากครับ และสัปดาห์หน้าจะมีภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศสองเรื่องกำลังจะออกฉาย เรื่องหนึ่งคือ ‘ฤดูนี้เราไม่เหงา’ อีกเรื่องหนึ่งคือ ‘โปเยโปโลเย’”

ในขณะเดียวกันกับที่พิธีกรคนนี้แนะนำ ตัวอย่างภาพยนตร์สองเรื่องก็ปรากฏบนหน้าจอที่อยู่ด้านหลังของเขา

“อาจารย์วัง คุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศสองเรื่องนี้ยังไงบ้างครับ”

วังเสี่ยวซวี่หันไปมองภาพยนตร์ที่อยู่บนหน้าจอ แล้วหันกลับมาเอ่ยว่า “ตัวอย่างภาพยนตร์ใหม่สองเรื่องนี้ผมดูแล้ว ‘ฤดูนี้เราไม่เหงา’ ไม่ต้องพูดอะไรมาก เป็นภาพยนตร์แนวไอดอลวัยรุ่น ดูจากตัวอย่างภาพยนตร์แล้วเป็นสไตล์เดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ น่าจะพอทำรายได้อยู่บ้าง อย่างไรก็ตามตลาดคนที่ดูภาพยนตร์แบบนี้ก็มีอยู่เสมอ”

“ส่วน ‘โปเยโปโลเย’ ภาพยนตร์เรื่องนี้…”

เขาส่ายหน้า

พิธีกรมีความรู้สึกไว “คุณคิดว่าไม่น่าจะดีเหรอ”

วังเสี่ยวซวี่ยิ้มเอ่ยว่า “คิดว่าไม่น่าจะดี เหตุผลก็ง่ายมาก ‘โปเยโปโลเย’ เป็นภาพยนตร์แนวผีแฟนตาซีที่ดัดแปลงมาจาก ‘เรื่องประหลาดจากห้องหนังสือ’ ซึ่งคล้ายกับ ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ที่ออกฉายตั้งแต่วันที่ 14 จนถึงตอนนี้เพิ่งจะทำรายได้ตั๋วหนังเพียงสี่สิบล้านกว่าๆ เท่านั้น”

“‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพนักแสดงหรือว่าเงินลงทุนนั้นมากกว่า ‘โปเยโปโลเย’ เยอะมาก ฉากเอฟเฟกต์ก็เยอะกว่า สุดท้ายก็ยังไม่ได้ต้นทุนคืน แสดงว่าคนดูไม่ค่อยชอบภาพยนตร์แนวนี้เท่าไร บวกกับ ‘สงครามเทพอัคคี’ มีสัดส่วนรอบฉายสูงมาก ‘โปเยโปโลเย’ ไม่น่าจะดีกว่า ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’”

พิธีกรไม่ค่อยเห็นด้วย “อาจารย์วัง เท่าที่ผมทราบ ‘โปเยโปโลเย’ ทำรายได้ทะลุร้อยล้านที่ฮ่องกง ได้รับคำชมและทำรายได้ตั๋วหนังดีกว่า ‘พลิกตำนานโปเยโปโลเย’ อีกนะครับ!”

วังเสี่ยวซวี่ไม่เห็นด้วย “สถานการณ์ที่ฮ่องกงต่างจากประเทศจีนมาก ผู้ชมของที่นั่นค่อนข้างชอบภาพยนตร์ผีสางแบบนี้ และตอนที่ ‘โปเยโปโลเย’ ออกฉาย ก็ไม่ชนกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด และ…”

เขานิ่งไปพักหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “และรายได้เกินร้อยล้านของ ‘โปเยโปโลเย’…ได้ยินว่าขายสินค้าที่ระลึกได้หลายสิบล้าน พูดความจริงผมไม่ค่อยเชื่อครับ”

ความสงสัยเรื่องรายได้ตั๋วหนังที่ฮ่องกงของวังเสี่ยวซวี่ที่มีต่อภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ ถึงแม้จะไม่ได้พูดให้เข้าใจตามตรง แต่อารมณ์ที่อยู่บนสีหน้าไม่ว่าใครเห็นก็รู้แล้ว

ดูเหมือนหัวข้อนี้จะอ่อนไหวเกินไป พิธีกรจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อทันที “เช่นนั้นอาจารย์วัง คุณคิดยังไงกับตลาดภาพยนตร์ในช่วงนี้ที่เกิด…”

เช้าวันที่สองหลัง ‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ ออกอากาศออนไลน์ ลู่เฉินดูที่ออฟฟิศไปหนึ่งรอบ

เดิมทีลู่เฉินไม่รู้ว่ามีรายการแบบนี้ แต่แฟนคลับของเขาไปทะเลาะในบล็อกล่างฉาวของวังเสี่ยวซวี่ที่เป็นแขกรับเชิญของรายการ จนเป็นเรื่องอึกทึกครึกโครม!

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด