Perfect Superstar 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ

ครอบครัวอิ่นมีน้องสาวน่ารักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน จวิ้นซีอายุสามขวบกับพ่อแม่ไปดูน้องเอินซีที่ห้องทารกแรกเกิดด้วยกัน ตอนที่พยาบาลไม่ทันสังเกต จวิ้นซีที่ซุกซนได้สับเปลี่ยนป้ายของเอินซีกับเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ซึ่งเกิดในวันเดียวกัน แล้วเด็กของทั้งสองครอบครัวก็จับพลัดจับผลูถูกสลับตัวกัน

เวลาสิบกว่าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวิ้นซีโตเป็นหนุ่มหล่อ แถมยังมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพทำให้เขามีอิทธิพลมากในโรงเรียน ส่วนเอินซีที่อายุสิบสี่ปีก็ฉลาดน่ารัก และยิ่งเป็นที่รักของคนในครอบครัว

จวิ้นซีผู้เป็นพี่ชายรักและโปรดปรานเอินซีผู้เป็นน้องสาวมาก ความรู้สึกของสองพี่น้องผูกพันแน่นแฟ้น

จิงเหอแม่ของจวิ้นซีก็รักและเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวคนนี้เป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมในบ้านที่กว้างขวาง กับความอบอุ่นและอ่อนโยนของแม่ แถมยังมีพี่ชายที่เก่ง ทุกอย่างทำให้เอินซีกลายเป็นคนที่เพื่อนๆ ในโรงเรียนอิจฉา

กระดาษเอสี่ธรรมดา ราคาปกติอยู่ที่ห้าเหมา ใช้ตัวอักษร Simsun พิมพ์ออกมาโดยเครื่องพิมพ์เอกสารเลเซอร์ที่มีดีพีไอ[1]สูงมาก แต่ละบรรทัดมีความคมชัด การเรียงพิมพ์ก็เป็นระเบียบมาก ทำให้คนที่อ่านรู้สึกสบายตา

โครงเรื่องของบทละครเรื่องนี้มีประมาณห้าพันคำ เขียนเต็มหน้ากระดาษทั้งห้าแผ่น ต้นทุนการพิมพ์ไม่ว่าจะเป็นค่ากระดาษหรือค่าพิมพ์เอกสาร เมื่อเทียบกับตัวเนื้อเรื่องแล้ว สามารถมองข้ามเรื่องต้นทุนไปได้เลย

ในฐานะผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส มีบทละครผ่านมือของหลู่อี้มามากมายนับไม่ถ้วน

เขาจึงเข้าใจถึงมูลค่าของบทละครที่ดีอย่างลึกซึ้ง

หลู่อี้เป็นคนเก่าคนแก่คนหนึ่งของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส เขาช่วยบุกเบิกมาพร้อมกับจางกานและจางเต๋อสองคนพี่น้องตั้งแต่แรก ครอบครองพื้นที่ลงหลักปักฐานในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสือหมอบมังกรซ่อนมาจนถึงทุกวันนี้ จึงเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์

บทละครที่ลู่เฉินให้เขาดูมีชื่อว่า ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แค่ดูชื่อของมันก็รู้แล้วว่าเป็นละครแนวความรักของคนเมือง ในเมื่อลู่เฉินเตรียมที่จะให้ตัวเองเล่นเป็นพระเอก อย่างนั้นก็ต้องเดินสายของละครไอดอลวัยรุ่น

จุดเริ่มต้นของเรื่องสนุกและน่าสนใจมาก เด็กผู้หญิงสองคนเกิดมาก็ถูกสลับตัว โชคชะตาของพวกเธอสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ชมได้อย่างมาก

หลู่อี้ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคนนี้ มีความเข้าใจงานของบริษัทเป็นอย่างดี และด้วยความจำเป็นของงาน เขาเคยดูภาพยนตร์โทรทัศน์มาแล้วอย่างน้อยพันเรื่อง ในความทรงจำไม่เคยมีโครงเรื่องที่คล้ายกันถูกถ่ายทำมาก่อน

ในฐานะละครสุดสัปดาห์ จุดเริ่มต้นเช่นนี้สามารถเป็นจุดขายที่ดึงดูดผู้คนได้

ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์โทรทัศน์มีการเติบโตอย่างพุ่งพรวด ได้รับความนิยมอย่างร้อนแรงไม่หยุดหย่อน แต่ความเจริญรุ่งเรืองของตลาด ก็นำปัญหาเข้ามามากมาย อย่างเช่นการทำละครแนวเดิมซ้ำๆ เลียนแบบสไตล์กันเป็นต้น

ถ้าหากละครเรื่องหนึ่งดังขึ้นมา เช่นนั้นก็จะมีคนลอกเลียนแบบกรูกันเข้ามาเป็นฝูงผึ้ง จนกว่าโครงเรื่องที่คล้ายกันจะถูกถ่ายทำซ้ำกันจนน่าเบื่อแล้วนั่นแหละจึงค่อยหยุดไป และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศก็ไม่มีกฎบัญญัติที่เข้มงวดต่อพฤติกรรมแบบนี้ ขาดมาตรการควบคุม ฉะนั้นตลาดจึงต้องแก้ไขด้วยตัวเอง

ดังนั้นหากมีบทละครที่ดีมีความสร้างสรรค์ ก็เท่ากับประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

เรื่องนี้ของลู่เฉิน หลู่อี้คิดว่าน่าจะดี

แต่พออ่านต่อไป ไม่ช้าเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจู้หมิงเหอถึงไม่สนใจบทละครเรื่องนี้

เป็นละครแนวดราม่า!

สไตล์แบบนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการสวนกระแสโดยสิ้นเชิง ท้าทายรสนิยมการดูของผู้ชมเป็นอย่างมาก

โดยทั่วไปแล้ว ละครสวนกระแสพวกนี้ถ้าหากสามารถรักษาคุณภาพของผลงานได้ ถ้าไม่ดังก็คือดับไปเลย!

แต่ความน่าจะเป็นของอย่างหลังสูงกว่าอย่างหน้ามาก

บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์และผู้กำกับที่รนหาที่ตายใช่ว่าจะไม่มี ส่วนใหญ่แล้วมักจะล้มจนหาทิศทางไม่เจอ

การพัฒนาเติบโตในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดละครโทรทัศน์มีการกำหนดตำแหน่งทางการตลาดชัดเจนมาก

ละครวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะเดินสายละครตลกคอมเมดี้ ละครตลกโครมคราม หรือไม่ก็ละครที่ทำให้ประหลาดใจ

ถ้าอยากจะทำละครแนวรักดราม่า งั้นก็ถ่ายละครวัยกลางคนเถอะ!

ถ้าอยากจะข้ามแดน อย่างนั้นก็ต้องยอมรับความล้มเหลว และตระหนักรู้ถึงการสูญเสียต้นทุน

พออ่านโครงเรื่องอย่างตั้งใจจนจบแล้ว หลู่อี้รู้สึกปวดฟันมาก

ความเสี่ยงสูงเกินไป การถ่ายทำละครเรื่องนี้เหมือนกับการพนัน หากชนะพนันก็ได้กำไรก้อนโต ถ้าหากแพ้พนัน…

แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้หลู่อี้ยอมแพ้ทันที อย่างแรกเลยเพราะเป็นละครสุดสัปดาห์ ควบคุมต้นทุนได้ง่าย ใช้วิธีการถ่ายทำไปด้วยออนแอร์ไปด้วย ไม่มีทางถึงขั้นที่ถ่ายทำเสร็จหลายสิบตอนแล้วไม่มีใครเหลียวแล

ก็เหมือนกับการเขียนนิยายออนไลน์ ถ้าหากจำนวนคนกดติดตามแย่เกินไป ก็ปล่อยทิ้งร้าง…หยุดเขียนไปเลย

นอกจากนี้ลู่เฉินที่จะรับเล่นบทพระเอก ก็ถือว่ามีจุดขายอยู่เหมือนกัน

ความสับสนของหลู่อี้ ลู่เฉินเข้าใจดี เขาจึงยิ้มเฝื่อนๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมรู้ครับ ว่าแนวนี้ไม่ค่อยน่าถ่ายทำ”

เขาเองก็เสียใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเขียนบทละครไม่ได้ศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดภาพยนตร์โทรทัศน์ในประเทศให้ดี

หากรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเขียน ‘ชายผู้มาจากดวงดาว’ น่าจะดีกว่า ต้นทุนการผลิตอาจจะสูงขึ้น แต่อย่างน้อยก็หาผู้ร่วมงานได้ง่าย

แต่ความคิดเสียใจภายหลังเกิดแวบขึ้นมาในหัวของลู่เฉินเพียงครู่เดียว ถ้าหากไม่มีคนยอมลงทุนถ่ายทำด้วยจริงๆ เขาก็จะเอาเงินของตัวเองลงทุนทั้งหมด…แน่นอนว่าวิธีแบบนี้จะก่อให้เกิดต้นทุนและความเสี่ยงที่สูงขึ้น นี่คือตัวเลือกสุดท้ายถ้าหากหมดหนทางจริงๆ

หลู่อี้ยิ้มเอ่ยว่า “แนวเรื่องอาจจะแหวกแนวนิดหน่อย แต่เนื้อเรื่องดีมาก ผมคิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบ…”

หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เขาจึงค่อยถามว่า “คุณลู่เฉิน ถ้าหากบริษัทของพวกเราอยากจะร่วมงานกับคุณ คุณมีความต้องการอะไรบ้างครับ”

เมื่อครู่หลู่อี้ได้ยินบทสนทนาระหว่างลู่เฉินกับจู้หมิงเหออยู่บ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังทั้งหมด

ลู่เฉินครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ความต้องการก็คือลงทุนร่วมกันครับ ผมสามารถเอาบทละครและค่าตัวมาคิดเป็นหุ้นส่วนในนี้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ตัวนางเอกก็กำหนดไว้แล้ว และผมอยากจะแนะนำผู้กำกับคนหนึ่ง แน่นอนว่าการเลือกผู้กำกับสามารถปรึกษากันได้ครับ”

การร่วมหุ้นผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ร่วมกันเป็นวิธีที่เห็นบ่อยมาก ดังนั้นหลู่อี้จึงไม่คัดค้าน และการที่ลู่เฉินเอาบทละครกับค่าตัวมาคิดเป็นเงินลงทุน ก็มีประโยชน์กับบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ เพราะความเสี่ยงจากการลงทุนลดลง

แต่ว่าลู่เฉินจะเล่นเป็นพระเอก นางเอกก็เลือกแล้ว แถมยังต้องการผู้กำกับ…

เขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเหมือนจู้หมิงเหอ แล้วถามว่า “คุณลู่เฉินครับ คุณอยากแนะนำผู้กำกับคนไหนครับ”

ลู่เฉินกล่าวอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา “รู้จักผู้กำกับฟางฮุ่ยไหมครับ ผมอยากแนะนำเธอ”

ฟางฮุ่ยเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ในวงการเธอมีชื่อเสียงจากการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ถ่ายทอดอารมณ์อันละเอียดอ่อนของผู้หญิงออกมาได้ดี และเคยถ่ายทำมิวสิควิดีโอหลายชิ้น มีประสบการณ์มากมาย

เมื่อเทียบกับผู้กำกับเบอร์ต้นๆ แล้ว เธอยังไม่มีผลงานที่ขายดีและโด่งดัง แต่ชื่อเสียงของเธอก็ดีมาตลอด

คราวที่แล้วลู่เฉินถ่ายมิวสิควิดีโอกับวง MSN ในเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ผู้กำกับก็คือฟางฮุ่ย

การถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงนี้ได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงมาก ถูกเฟยสือเรคคอร์ดนำไปเผยแพร่บนสื่อมีเดียใหญ่ๆ มากมาย ดังนั้นอัลบั้มชุดนี้จึงขายดีมากในเฟยซวิ่นมิวสิค ตอนนี้การระดมทุนเพื่อผลิตซีดีและของที่ระลึกก็กำลังคึกคัก

จากการร่วมงานครั้งที่แล้ว ลู่เฉินจึงมีความประทับใจที่ดีต่อฟางฮุ่ย และทั้งสองคนก็เคยคุยกันหลายครั้ง เขาเชื่อว่าคนหลังจะสามารถควบคุมผลงานเรื่องนี้ได้แน่นอน สามารถถ่ายทำสิ่งที่เขาต้องการออกมาได้อย่างสมบูรณ์

ไม่อย่างนั้นลู่เฉินจะยืนหยัดเพื่อเงื่อนไขนี้ไปทำไม

“ผู้กำกับฟางฮุ่ยเหรอ!”

หลู่อี้เข้าใจทันที “ผมรู้จักเธอ ถึงแม้จะไม่เคยร่วมงานกัน แต่ผมเคยดูละครที่เธอถ่ายมาก่อน”

หลู่อี้คิดอย่างละเอียด การแนะนำของลู่เฉินใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เป็นการแนะนำที่เชื่อถือได้

เพราะว่าสไตล์การถ่ายทำของฟางฮุ่ยเหมาะสมกับละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มาก

ลู่เฉินอธิบายว่า “ความจริงผมยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับผู้กำกับฟางครับ ไม่รู้ว่าเธอจะมีเวลาไหม ดังนั้นจึงได้แค่แนะนำ ถ้าหากพวกคุณมีคนที่เหมาะสมกว่านี้ ก็สามารถมาปรึกษากันได้ครับ”

เดิมทีเขาอยากจะปรึกษากับจู้หมิงเหอที่มาจากบริษัทเป่าหลงฟิล์ม แต่จนใจที่อีกฝ่ายไม่ให้โอกาสเลย

หลู่อี้ดูมีความจริงใจมากกว่า

หลู่อี้ยิ้มเอ่ยว่า “โอเคครับ ปัญหานี้พวกเราวางเอาไว้ก่อน คุณเลือกใครเป็นนางเอกครับ”

ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์มีกฎอย่างหนึ่ง นั่นก็คือฟ้าใหญ่แผ่นดินใหญ่แต่การลงทุนใหญ่กว่า คนที่ออกเงินคือนาย ใครออกเงินเยอะคนนั้นก็เป็นเจ้า ดังนั้นจึงมีสิทธิ์มีเสียงในการพูดมากที่สุด

ลู่เฉินต้องการบทพระเอกกับนางเอก อย่างแรกเขาต้องลงทุนก่อน ไม่อย่างนั้นแค่อาศัยบทละครอย่างเดียวใครเล่าจะสนใจ

หลู่อี้สงสัยกับการเลือกนางเอกเป็นอย่างมาก

ลู่เฉินอยากจะแนะนำใครกัน

เขาอ่านโครงเรื่องจบแล้ว นางเอกที่อยู่ในเรื่องโดดเด่นที่สุด เป็นหัวใจหลักของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย

ศิลปินหนุ่มมีชื่อเสียงและมีเงินอย่างลู่เฉิน ถ้าอยากจะเอาใจผู้หญิงสักคน จะมีอะไรที่โรแมนติกและซาบซึ้งไปกว่าการให้เธอได้เป็นนางเอกในละครเล่า

ลู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยว่า “คือเฉินเฟยเอ๋อร์ครับ”

“เฉินเฟยเอ๋อร์…”

หลู่อี้พูดชื่อนี้อีกครั้งเมื่อได้สติ

วินาทีต่อมา เขาจึงเบิกตาโพลง เผยใบหน้าเหลือเชื่อออกมา “เฉินเฟยเอ๋อร์คนไหนครับ”

ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ก็คือคนที่คุณนึกถึงนั่นแหละครับ”

หลู่อี้ตกตะลึงเหม่อไปเลย

เขาเป็นคนเก่งฉลาดมีประสบการณ์มากคนหนึ่ง น้อยมากที่เขาจะเสียอาการแบบนี้

เพราะข้อมูลที่ลู่เฉินให้มามันน่าตกใจจริงๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นใคร เป็นตัวท็อปในวงการที่มีแฟนคลับหลายสิบล้านคน เป็นราชินีแห่งวงการเพลงที่เข้าวงการมาสิบกว่าปีแล้ว!

แต่ไม่ช้าหลู่อี้ก็ได้สติ เผยสีหน้ายิ้มแย้มชื่นบานออกมาทันที

ถ้าบอกว่าก่อนหน้านั้นความมั่นใจที่เขามีต่อละครเรื่องนี้มีแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างนั้นตอนนี้ก็กลายเป็นเจ็ดสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว

ละครเรื่องหนึ่งหรือภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มีกับไม่มีดาราตัวท็อปร่วมแสดงนั้นเป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้เฉินเฟยเอ๋อร์จะไม่ใช่นักแสดง แต่ก็เคยเล่นเป็นดารารับเชิญให้หนังใหญ่หลายเรื่องเช่นกัน

ถ้าหากลู่เฉินพูดจริง อย่างนั้นละครเรื่องนี้เฉินเฟยเอ๋อร์ก็จะได้เป็นนางเอกครั้งแรก ลูกเล่นในการสร้างกระแสก็มีแล้ว อย่างน้อยขายออกร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอนไม่มีปัญหา จะเหลือก็แค่ปัญหาเรื่องของราคาว่าจะได้สูงหรือต่ำเท่านั้น

มีเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมงานด้วย ปัญหาใหญ่ของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ลดลงไปเยอะมาก ขอเพียงดึงแฟนคลับของเธอให้มาชมได้ เรตติ้งผู้ชมก็มีตัวรับประกันขั้นพื้นฐานแล้ว

เธอเหมือนกับลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญลูกหนึ่ง มากพอที่จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ

ถ้าหากบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สรับผลิตละครเรื่องนี้ จะมีข้อดีมากจริงๆ

ถึงแม้ต้องขาดทุนแต่ก็ใช่ว่าจะไม่นำมาพิจารณา!

จู้หมิงเหอของบริษัทเป่าหลงฟิล์มพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร

มีเพียงคำตอบเดียว นั่นก็คืออีกฝ่ายยังคุยกับลู่เฉินไม่ถึงเรื่องนี้ก็หมดความสนใจแล้ว

เช่นนั้นกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สจะไม่พลาดเด็ดขาด!

เขาอยากจะหัวเราะให้ดังๆ จริงๆ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความอดทนที่มากพอและความจริงใจของตัวเอง

หลู่อี้พยายามอดกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นที่อยู่ในใจ แล้วกล่าวอย่างอดใจไม่ไหวว่า “คุณลู่เฉินครับ ผมขอเป็นตัวแทนบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส หวังว่าจะได้เจรจาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการร่วมกันทำงานละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับคุณครับ!”

ลู่เฉินครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า “ครับ”

เขาพบว่าตัวเองประเมินอิทธิพลของเฉินเฟยเอ๋อร์ต่ำไปจริงๆ ถ้าหากพูดออกมาตอนที่คุยกับเป่าหลงฟิล์ม คาดว่าท่าทางของจู้หมิงเหอคนนั้นคงไม่เหมือนเดิม

แน่นอนว่าลู่เฉินก็แค่คิดเท่านั้น

บางทีบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส อาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

…………………………………………………………………………

[1] ดีพีไอ หรือ Dots per inch เป็นหน่วยวัดความละเอียดหรือความคมของภาพ ยิ่งมีจำนวนจุดสีมากในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว ก็ยิ่งแปลว่าคมชัดมาก ส่วนมากใช้กับเครื่องพิมพ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 229 ลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญ

ครอบครัวอิ่นมีน้องสาวน่ารักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน จวิ้นซีอายุสามขวบกับพ่อแม่ไปดูน้องเอินซีที่ห้องทารกแรกเกิดด้วยกัน ตอนที่พยาบาลไม่ทันสังเกต จวิ้นซีที่ซุกซนได้สับเปลี่ยนป้ายของเอินซีกับเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ซึ่งเกิดในวันเดียวกัน แล้วเด็กของทั้งสองครอบครัวก็จับพลัดจับผลูถูกสลับตัวกัน

เวลาสิบกว่าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวิ้นซีโตเป็นหนุ่มหล่อ แถมยังมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพทำให้เขามีอิทธิพลมากในโรงเรียน ส่วนเอินซีที่อายุสิบสี่ปีก็ฉลาดน่ารัก และยิ่งเป็นที่รักของคนในครอบครัว

จวิ้นซีผู้เป็นพี่ชายรักและโปรดปรานเอินซีผู้เป็นน้องสาวมาก ความรู้สึกของสองพี่น้องผูกพันแน่นแฟ้น

จิงเหอแม่ของจวิ้นซีก็รักและเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวคนนี้เป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมในบ้านที่กว้างขวาง กับความอบอุ่นและอ่อนโยนของแม่ แถมยังมีพี่ชายที่เก่ง ทุกอย่างทำให้เอินซีกลายเป็นคนที่เพื่อนๆ ในโรงเรียนอิจฉา

กระดาษเอสี่ธรรมดา ราคาปกติอยู่ที่ห้าเหมา ใช้ตัวอักษร Simsun พิมพ์ออกมาโดยเครื่องพิมพ์เอกสารเลเซอร์ที่มีดีพีไอ[1]สูงมาก แต่ละบรรทัดมีความคมชัด การเรียงพิมพ์ก็เป็นระเบียบมาก ทำให้คนที่อ่านรู้สึกสบายตา

โครงเรื่องของบทละครเรื่องนี้มีประมาณห้าพันคำ เขียนเต็มหน้ากระดาษทั้งห้าแผ่น ต้นทุนการพิมพ์ไม่ว่าจะเป็นค่ากระดาษหรือค่าพิมพ์เอกสาร เมื่อเทียบกับตัวเนื้อเรื่องแล้ว สามารถมองข้ามเรื่องต้นทุนไปได้เลย

ในฐานะผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส มีบทละครผ่านมือของหลู่อี้มามากมายนับไม่ถ้วน

เขาจึงเข้าใจถึงมูลค่าของบทละครที่ดีอย่างลึกซึ้ง

หลู่อี้เป็นคนเก่าคนแก่คนหนึ่งของบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส เขาช่วยบุกเบิกมาพร้อมกับจางกานและจางเต๋อสองคนพี่น้องตั้งแต่แรก ครอบครองพื้นที่ลงหลักปักฐานในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสือหมอบมังกรซ่อนมาจนถึงทุกวันนี้ จึงเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์

บทละครที่ลู่เฉินให้เขาดูมีชื่อว่า ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แค่ดูชื่อของมันก็รู้แล้วว่าเป็นละครแนวความรักของคนเมือง ในเมื่อลู่เฉินเตรียมที่จะให้ตัวเองเล่นเป็นพระเอก อย่างนั้นก็ต้องเดินสายของละครไอดอลวัยรุ่น

จุดเริ่มต้นของเรื่องสนุกและน่าสนใจมาก เด็กผู้หญิงสองคนเกิดมาก็ถูกสลับตัว โชคชะตาของพวกเธอสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้ชมได้อย่างมาก

หลู่อี้ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจคนนี้ มีความเข้าใจงานของบริษัทเป็นอย่างดี และด้วยความจำเป็นของงาน เขาเคยดูภาพยนตร์โทรทัศน์มาแล้วอย่างน้อยพันเรื่อง ในความทรงจำไม่เคยมีโครงเรื่องที่คล้ายกันถูกถ่ายทำมาก่อน

ในฐานะละครสุดสัปดาห์ จุดเริ่มต้นเช่นนี้สามารถเป็นจุดขายที่ดึงดูดผู้คนได้

ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์โทรทัศน์มีการเติบโตอย่างพุ่งพรวด ได้รับความนิยมอย่างร้อนแรงไม่หยุดหย่อน แต่ความเจริญรุ่งเรืองของตลาด ก็นำปัญหาเข้ามามากมาย อย่างเช่นการทำละครแนวเดิมซ้ำๆ เลียนแบบสไตล์กันเป็นต้น

ถ้าหากละครเรื่องหนึ่งดังขึ้นมา เช่นนั้นก็จะมีคนลอกเลียนแบบกรูกันเข้ามาเป็นฝูงผึ้ง จนกว่าโครงเรื่องที่คล้ายกันจะถูกถ่ายทำซ้ำกันจนน่าเบื่อแล้วนั่นแหละจึงค่อยหยุดไป และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศก็ไม่มีกฎบัญญัติที่เข้มงวดต่อพฤติกรรมแบบนี้ ขาดมาตรการควบคุม ฉะนั้นตลาดจึงต้องแก้ไขด้วยตัวเอง

ดังนั้นหากมีบทละครที่ดีมีความสร้างสรรค์ ก็เท่ากับประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

เรื่องนี้ของลู่เฉิน หลู่อี้คิดว่าน่าจะดี

แต่พออ่านต่อไป ไม่ช้าเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจู้หมิงเหอถึงไม่สนใจบทละครเรื่องนี้

เป็นละครแนวดราม่า!

สไตล์แบบนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการสวนกระแสโดยสิ้นเชิง ท้าทายรสนิยมการดูของผู้ชมเป็นอย่างมาก

โดยทั่วไปแล้ว ละครสวนกระแสพวกนี้ถ้าหากสามารถรักษาคุณภาพของผลงานได้ ถ้าไม่ดังก็คือดับไปเลย!

แต่ความน่าจะเป็นของอย่างหลังสูงกว่าอย่างหน้ามาก

บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์และผู้กำกับที่รนหาที่ตายใช่ว่าจะไม่มี ส่วนใหญ่แล้วมักจะล้มจนหาทิศทางไม่เจอ

การพัฒนาเติบโตในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดละครโทรทัศน์มีการกำหนดตำแหน่งทางการตลาดชัดเจนมาก

ละครวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่จะเดินสายละครตลกคอมเมดี้ ละครตลกโครมคราม หรือไม่ก็ละครที่ทำให้ประหลาดใจ

ถ้าอยากจะทำละครแนวรักดราม่า งั้นก็ถ่ายละครวัยกลางคนเถอะ!

ถ้าอยากจะข้ามแดน อย่างนั้นก็ต้องยอมรับความล้มเหลว และตระหนักรู้ถึงการสูญเสียต้นทุน

พออ่านโครงเรื่องอย่างตั้งใจจนจบแล้ว หลู่อี้รู้สึกปวดฟันมาก

ความเสี่ยงสูงเกินไป การถ่ายทำละครเรื่องนี้เหมือนกับการพนัน หากชนะพนันก็ได้กำไรก้อนโต ถ้าหากแพ้พนัน…

แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้หลู่อี้ยอมแพ้ทันที อย่างแรกเลยเพราะเป็นละครสุดสัปดาห์ ควบคุมต้นทุนได้ง่าย ใช้วิธีการถ่ายทำไปด้วยออนแอร์ไปด้วย ไม่มีทางถึงขั้นที่ถ่ายทำเสร็จหลายสิบตอนแล้วไม่มีใครเหลียวแล

ก็เหมือนกับการเขียนนิยายออนไลน์ ถ้าหากจำนวนคนกดติดตามแย่เกินไป ก็ปล่อยทิ้งร้าง…หยุดเขียนไปเลย

นอกจากนี้ลู่เฉินที่จะรับเล่นบทพระเอก ก็ถือว่ามีจุดขายอยู่เหมือนกัน

ความสับสนของหลู่อี้ ลู่เฉินเข้าใจดี เขาจึงยิ้มเฝื่อนๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมรู้ครับ ว่าแนวนี้ไม่ค่อยน่าถ่ายทำ”

เขาเองก็เสียใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเขียนบทละครไม่ได้ศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดภาพยนตร์โทรทัศน์ในประเทศให้ดี

หากรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเขียน ‘ชายผู้มาจากดวงดาว’ น่าจะดีกว่า ต้นทุนการผลิตอาจจะสูงขึ้น แต่อย่างน้อยก็หาผู้ร่วมงานได้ง่าย

แต่ความคิดเสียใจภายหลังเกิดแวบขึ้นมาในหัวของลู่เฉินเพียงครู่เดียว ถ้าหากไม่มีคนยอมลงทุนถ่ายทำด้วยจริงๆ เขาก็จะเอาเงินของตัวเองลงทุนทั้งหมด…แน่นอนว่าวิธีแบบนี้จะก่อให้เกิดต้นทุนและความเสี่ยงที่สูงขึ้น นี่คือตัวเลือกสุดท้ายถ้าหากหมดหนทางจริงๆ

หลู่อี้ยิ้มเอ่ยว่า “แนวเรื่องอาจจะแหวกแนวนิดหน่อย แต่เนื้อเรื่องดีมาก ผมคิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบ…”

หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เขาจึงค่อยถามว่า “คุณลู่เฉิน ถ้าหากบริษัทของพวกเราอยากจะร่วมงานกับคุณ คุณมีความต้องการอะไรบ้างครับ”

เมื่อครู่หลู่อี้ได้ยินบทสนทนาระหว่างลู่เฉินกับจู้หมิงเหออยู่บ้าง แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังทั้งหมด

ลู่เฉินครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ความต้องการก็คือลงทุนร่วมกันครับ ผมสามารถเอาบทละครและค่าตัวมาคิดเป็นหุ้นส่วนในนี้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ตัวนางเอกก็กำหนดไว้แล้ว และผมอยากจะแนะนำผู้กำกับคนหนึ่ง แน่นอนว่าการเลือกผู้กำกับสามารถปรึกษากันได้ครับ”

การร่วมหุ้นผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ร่วมกันเป็นวิธีที่เห็นบ่อยมาก ดังนั้นหลู่อี้จึงไม่คัดค้าน และการที่ลู่เฉินเอาบทละครกับค่าตัวมาคิดเป็นเงินลงทุน ก็มีประโยชน์กับบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ เพราะความเสี่ยงจากการลงทุนลดลง

แต่ว่าลู่เฉินจะเล่นเป็นพระเอก นางเอกก็เลือกแล้ว แถมยังต้องการผู้กำกับ…

เขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเหมือนจู้หมิงเหอ แล้วถามว่า “คุณลู่เฉินครับ คุณอยากแนะนำผู้กำกับคนไหนครับ”

ลู่เฉินกล่าวอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา “รู้จักผู้กำกับฟางฮุ่ยไหมครับ ผมอยากแนะนำเธอ”

ฟางฮุ่ยเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ในวงการเธอมีชื่อเสียงจากการถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ถ่ายทอดอารมณ์อันละเอียดอ่อนของผู้หญิงออกมาได้ดี และเคยถ่ายทำมิวสิควิดีโอหลายชิ้น มีประสบการณ์มากมาย

เมื่อเทียบกับผู้กำกับเบอร์ต้นๆ แล้ว เธอยังไม่มีผลงานที่ขายดีและโด่งดัง แต่ชื่อเสียงของเธอก็ดีมาตลอด

คราวที่แล้วลู่เฉินถ่ายมิวสิควิดีโอกับวง MSN ในเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ผู้กำกับก็คือฟางฮุ่ย

การถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงนี้ได้ผลงานที่มีคุณภาพสูงมาก ถูกเฟยสือเรคคอร์ดนำไปเผยแพร่บนสื่อมีเดียใหญ่ๆ มากมาย ดังนั้นอัลบั้มชุดนี้จึงขายดีมากในเฟยซวิ่นมิวสิค ตอนนี้การระดมทุนเพื่อผลิตซีดีและของที่ระลึกก็กำลังคึกคัก

จากการร่วมงานครั้งที่แล้ว ลู่เฉินจึงมีความประทับใจที่ดีต่อฟางฮุ่ย และทั้งสองคนก็เคยคุยกันหลายครั้ง เขาเชื่อว่าคนหลังจะสามารถควบคุมผลงานเรื่องนี้ได้แน่นอน สามารถถ่ายทำสิ่งที่เขาต้องการออกมาได้อย่างสมบูรณ์

ไม่อย่างนั้นลู่เฉินจะยืนหยัดเพื่อเงื่อนไขนี้ไปทำไม

“ผู้กำกับฟางฮุ่ยเหรอ!”

หลู่อี้เข้าใจทันที “ผมรู้จักเธอ ถึงแม้จะไม่เคยร่วมงานกัน แต่ผมเคยดูละครที่เธอถ่ายมาก่อน”

หลู่อี้คิดอย่างละเอียด การแนะนำของลู่เฉินใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เป็นการแนะนำที่เชื่อถือได้

เพราะว่าสไตล์การถ่ายทำของฟางฮุ่ยเหมาะสมกับละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มาก

ลู่เฉินอธิบายว่า “ความจริงผมยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับผู้กำกับฟางครับ ไม่รู้ว่าเธอจะมีเวลาไหม ดังนั้นจึงได้แค่แนะนำ ถ้าหากพวกคุณมีคนที่เหมาะสมกว่านี้ ก็สามารถมาปรึกษากันได้ครับ”

เดิมทีเขาอยากจะปรึกษากับจู้หมิงเหอที่มาจากบริษัทเป่าหลงฟิล์ม แต่จนใจที่อีกฝ่ายไม่ให้โอกาสเลย

หลู่อี้ดูมีความจริงใจมากกว่า

หลู่อี้ยิ้มเอ่ยว่า “โอเคครับ ปัญหานี้พวกเราวางเอาไว้ก่อน คุณเลือกใครเป็นนางเอกครับ”

ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์มีกฎอย่างหนึ่ง นั่นก็คือฟ้าใหญ่แผ่นดินใหญ่แต่การลงทุนใหญ่กว่า คนที่ออกเงินคือนาย ใครออกเงินเยอะคนนั้นก็เป็นเจ้า ดังนั้นจึงมีสิทธิ์มีเสียงในการพูดมากที่สุด

ลู่เฉินต้องการบทพระเอกกับนางเอก อย่างแรกเขาต้องลงทุนก่อน ไม่อย่างนั้นแค่อาศัยบทละครอย่างเดียวใครเล่าจะสนใจ

หลู่อี้สงสัยกับการเลือกนางเอกเป็นอย่างมาก

ลู่เฉินอยากจะแนะนำใครกัน

เขาอ่านโครงเรื่องจบแล้ว นางเอกที่อยู่ในเรื่องโดดเด่นที่สุด เป็นหัวใจหลักของเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย

ศิลปินหนุ่มมีชื่อเสียงและมีเงินอย่างลู่เฉิน ถ้าอยากจะเอาใจผู้หญิงสักคน จะมีอะไรที่โรแมนติกและซาบซึ้งไปกว่าการให้เธอได้เป็นนางเอกในละครเล่า

ลู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยว่า “คือเฉินเฟยเอ๋อร์ครับ”

“เฉินเฟยเอ๋อร์…”

หลู่อี้พูดชื่อนี้อีกครั้งเมื่อได้สติ

วินาทีต่อมา เขาจึงเบิกตาโพลง เผยใบหน้าเหลือเชื่อออกมา “เฉินเฟยเอ๋อร์คนไหนครับ”

ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ก็คือคนที่คุณนึกถึงนั่นแหละครับ”

หลู่อี้ตกตะลึงเหม่อไปเลย

เขาเป็นคนเก่งฉลาดมีประสบการณ์มากคนหนึ่ง น้อยมากที่เขาจะเสียอาการแบบนี้

เพราะข้อมูลที่ลู่เฉินให้มามันน่าตกใจจริงๆ

เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นใคร เป็นตัวท็อปในวงการที่มีแฟนคลับหลายสิบล้านคน เป็นราชินีแห่งวงการเพลงที่เข้าวงการมาสิบกว่าปีแล้ว!

แต่ไม่ช้าหลู่อี้ก็ได้สติ เผยสีหน้ายิ้มแย้มชื่นบานออกมาทันที

ถ้าบอกว่าก่อนหน้านั้นความมั่นใจที่เขามีต่อละครเรื่องนี้มีแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ อย่างนั้นตอนนี้ก็กลายเป็นเจ็ดสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว

ละครเรื่องหนึ่งหรือภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มีกับไม่มีดาราตัวท็อปร่วมแสดงนั้นเป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้เฉินเฟยเอ๋อร์จะไม่ใช่นักแสดง แต่ก็เคยเล่นเป็นดารารับเชิญให้หนังใหญ่หลายเรื่องเช่นกัน

ถ้าหากลู่เฉินพูดจริง อย่างนั้นละครเรื่องนี้เฉินเฟยเอ๋อร์ก็จะได้เป็นนางเอกครั้งแรก ลูกเล่นในการสร้างกระแสก็มีแล้ว อย่างน้อยขายออกร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอนไม่มีปัญหา จะเหลือก็แค่ปัญหาเรื่องของราคาว่าจะได้สูงหรือต่ำเท่านั้น

มีเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมงานด้วย ปัญหาใหญ่ของละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ลดลงไปเยอะมาก ขอเพียงดึงแฟนคลับของเธอให้มาชมได้ เรตติ้งผู้ชมก็มีตัวรับประกันขั้นพื้นฐานแล้ว

เธอเหมือนกับลูกตุ้มน้ำหนักที่สำคัญลูกหนึ่ง มากพอที่จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ

ถ้าหากบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สรับผลิตละครเรื่องนี้ จะมีข้อดีมากจริงๆ

ถึงแม้ต้องขาดทุนแต่ก็ใช่ว่าจะไม่นำมาพิจารณา!

จู้หมิงเหอของบริษัทเป่าหลงฟิล์มพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร

มีเพียงคำตอบเดียว นั่นก็คืออีกฝ่ายยังคุยกับลู่เฉินไม่ถึงเรื่องนี้ก็หมดความสนใจแล้ว

เช่นนั้นกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สจะไม่พลาดเด็ดขาด!

เขาอยากจะหัวเราะให้ดังๆ จริงๆ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความอดทนที่มากพอและความจริงใจของตัวเอง

หลู่อี้พยายามอดกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นที่อยู่ในใจ แล้วกล่าวอย่างอดใจไม่ไหวว่า “คุณลู่เฉินครับ ผมขอเป็นตัวแทนบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส หวังว่าจะได้เจรจาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการร่วมกันทำงานละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับคุณครับ!”

ลู่เฉินครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า “ครับ”

เขาพบว่าตัวเองประเมินอิทธิพลของเฉินเฟยเอ๋อร์ต่ำไปจริงๆ ถ้าหากพูดออกมาตอนที่คุยกับเป่าหลงฟิล์ม คาดว่าท่าทางของจู้หมิงเหอคนนั้นคงไม่เหมือนเดิม

แน่นอนว่าลู่เฉินก็แค่คิดเท่านั้น

บางทีบริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส อาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

…………………………………………………………………………

[1] ดีพีไอ หรือ Dots per inch เป็นหน่วยวัดความละเอียดหรือความคมของภาพ ยิ่งมีจำนวนจุดสีมากในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว ก็ยิ่งแปลว่าคมชัดมาก ส่วนมากใช้กับเครื่องพิมพ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด