Perfect Superstar 52 เพลงที่สาม

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 52 เพลงที่สาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 52 เพลงที่สาม

สิ่งที่เรียกว่า ‘เปิดสินค้า’ เป็นคำที่ใช้ในวงการ หมายถึงร้านหัวหมอจะนำสินค้าที่ออกมาขายเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องเป่าผมเป่าเทปกาวที่แปะอยู่ด้านล่างสุดของกล่องเพื่อเพิ่มความร้อนแล้วแกะออก จากนั้นก็หยิบอะไหล่บางตัวออกหรือสับเปลี่ยนซีพียู กลายเป็นสินค้าตัวใหม่หรือของก็อปปี้ แล้วนำมาขายหวังผลกำไรสูง

ขอเพียงมีฝีมือดี ลูกค้าทั่วไปจะมองจุดนี้ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ และยังคิดว่าเป็นของจริงที่ยังไม่ได้แกะกล่อง แต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัว

ลู่เฉินเห็นพนักงานขายตอบไวมาก ดังนั้นจึงพูดดักอีกฝ่ายไว้ก่อน ให้เขารู้ว่าตัวเองก็เข้าใจเรื่องพวกนี้อย่าแกล้งกันเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและวุ่นวาย

ความจริงเวลาเจอร้านที่แย่หน่อย พนักงานของร้านจะหลอกให้ลูกค้าจ่ายเงินก่อน จากนั้นก็ไปเอาอะไหล่เกรดต่ำที่แบบเหมือนกันแต่คนละรุ่นมาหลอกลูกค้า ธุรกิจการขายคอมพิวเตอร์มีความลึกลับซับซ้อนมาก

แต่พวกลูกค้าพอโดนหลอกบ่อยๆ ก็ฉลาดขึ้น บวกกับตอนนี้การส่งต่อข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วมาก ทุกคนจึงยอมซื้อของในร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้ และร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ดิจิตอลที่ชื่อเสียงไม่ดีจึงไม่อาจทำมาหากินต่อไปได้

พนักงานขายหน้านิ่งทื่อ เผยรอยยิ้มที่แย่กว่าการร้องไห้

“คุณผู้ชายวางใจได้ครับ ร้านของพวกเราทำการค้าขายเน้นเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ไม่หลอกลวงลูกค้าแน่นอนครับ!”

ลู่เฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาที่เชี่ยวชาญด้านนี้จึงไม่โต้เถียงอะไรทั้งนั้น แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะพูดบ่นไม่หยุด!

พนักงานขายวิ่งไปเอาสินค้าจากในโกดัง จั่วซินเถียนพูดอย่างนับถือเป็นที่สุด

“รุ่นพี่คะ พี่เก่งมากจริงๆ!”

เธอกับเยี่ยจื่อถงก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก มีหรือจะมองความใจฝ่อของพนักงานขายไม่ออก ถ้าหากไม่ได้เรียก ลู่เฉินมาช่วยในวันนี้ และเป็นเธอสองคนมาด้วยตัวเอง มีหรือจะรู้วิธีการหลอกลวงได้มากขนาดนี้

และคาดว่าคงซื้อราคาเดียวกันกับในอินเทอร์เน็ต แต่ของข้างในกลับถูกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแล้วก็ยังไม่รู้!

เยี่ยจื่อถงกังวลเล็กน้อย

“อย่างนั้นวันหลังถ้าจะให้พวกเขาซ่อมในระยะเวลารับประกันก็จะมีปัญหาใช่ไหมคะ”

พนักงานขายคนนั้นถูกลู่เฉินบดขยี้จนหมดท่า จึงยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่แก้แค้นในภายหลัง

ลู่เฉินหัวเราะพูด “ถ้าต้องซ่อมในระยะเวลารับประกัน มาหาเขาทำไม ไปหาร้านที่ดูแลบริการหลังการขายของยี่ห้อนี้โดยตรงก็ได้แล้ว มาให้พวกเขาซ่อมก็เท่ากับโดนหลอกเงินอีกรอบ ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด!”

เงินค่าซ่อมบำรุงมีความลึกลับซับซ้อนมากกว่าการขายเสียอีก!

เยี่ยจื่อถงสบายใจแล้ว ดวงตาสวยของเธอเป็นประกาย กัดริมฝีปากถามลู่เฉินว่า

“รุ่นพี่ลู่เฉิน ทำไมพี่ถึงบอกว่าจะซื้อสองเครื่องคะ พี่จะซื้ออีกเครื่องเอาไปให้คนอื่นใช่ไหมคะ”

โน้ตบุ๊กสไตล์แบบนี้เหมาะสมกับผู้หญิง เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนลู่เฉินจะเอาไปใช้เอง

ลู่เฉินอธิบายว่า “ใช่ครับ อีกเครื่องพี่จะซื้อให้น้องสาว ปีหน้าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”

เยี่ยจื่อถงหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่ดีกับน้องสาวของพี่จริงๆ นะคะ!”

ผลสรุปคือเธอเห็นสายตากำกวมของจั่วซินเถียนมองมาที่ตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ แล้วจึงหน้าแดงขึ้นมาทันที

ลู่เฉินหัวเราะ แต่กลับถอนหายใจอยู่ในใจ

ลู่เสวี่ยน้องสาวของเขาเดิมทีก็มีโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว หลังจากที่บ้านเกิดเรื่อง จากองค์หญิงน้อยก็กลายสภาพเป็นซินเดอเรลล่าทันที

ลู่เฉินอยากซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ให้เธอมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้สมความปรารถนาแล้ว

โน้ตบุ๊กตัวใหม่สองเครื่องถูกหยิบออกมาแล้ว

ลู่เฉินตรวจสอบสองรอบอย่างละเอียด หลังจากยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาแล้วจึงเปิดกล่องลองเครื่อง สุดท้ายจึงจ่ายเงิน

ตอนนี้สองสาวได้ใช้พรสวรรค์ของตัวเองอย่างเต็มที่ ภายใต้การยืนหยัดของพวกเธอ ในที่สุดร้านค้าก็แถมชุดคีย์ บอร์ดกับเมาส์สองชุดให้พวกเธอ จากการคำนวณแล้วถูกกว่าซื้อในอินเทอร์เน็ตอีก

สุดท้ายพนักงานขายคนนั้นก็หน้าบึ้ง ส่งลูกค้าหน้าเลือดทั้งสามออกจากร้าน

เยี่ยจื่อถงอารมณ์ดีมาก ที่ได้ซื้อโน้ตบุ๊กตัวใหม่ที่ถูกใจ

“รุ่นพี่คะ เย็นนี้ฉันขอเลี้ยงข้าวพี่เพื่อเป็นการขอบคุณค่ะ!”

ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว เป็นเวลารับประทานอาหารเย็นพอดี

จั่วซินเถียนพูดเบาๆ ว่า “เลี้ยงรุ่นพี่แต่ไม่เลี้ยงฉัน เธอไร้น้ำใจมากที่สุดกับเพื่อน…ใช่ไหม!”

จั่วซินเถียนลากท้ายเสียงให้สูงขึ้นกะทันหัน เยี่ยจื่อถงที่อดทนมานานแล้วจึงใช้วิชาจั๊กจี้ไปโดนจุดสำคัญของเธอ จั่วซินเถียนจึงรีบแอบไปหลบข้างหลังลู่เฉินทำท่าทางตกใจ

“รุ่นพี่ช่วยด้วยค่ะ!”

ผู้หญิงสองคนหัวเราะสนุกสนานกันโดยมีลู่เฉินแทรกอยู่ตรงกลาง ไม่รู้ว่าดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมามากแค่ไหน

และลู่เฉินก็รู้สึกใจลอยเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเมื่อครั้งก่อน อบอุ่นและมีความสุขมาก

การรับประทานอาหารเย็นก็ผ่านไปอย่างมีความสุขมากเช่นเดียวกัน

เยี่ยจื่อถงเป็นคนจ่ายเงิน เดิมทีลู่เฉินเตรียมจะจ่ายเงินแล้ว แต่สู้การยืนหยัดของเธอไม่ไหว

เขามองออกว่าเยี่ยจื่อถงเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีมาก ฉลาดและเรียบร้อย สวยแต่ไม่หยิ่ง เธอมีฐานะทางครอบครัวที่ไม่เลว เพราะฉะนั้นจึงไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น

ผู้หญิงแบบนี้ ท่ามกลางผู้คนนับร้อยนับพันใช่ว่าจะหาได้สักคน

ลู่เฉินไม่ปฏิเสธว่าตัวเองมีความรู้สึกที่ดีต่อเยี่ยจื่อถง แต่ตอนนี้เขาไม่มีวาสนากับความรัก

ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนรักกัน เป็นแค่เพื่อนกันก็ไม่เลว!

พอออกมาจากร้านอาหารก็ดึกแล้ว

ลู่เฉินจึงพูดว่า “ขอเชิญทั้งสองคนไปนั่งที่บาร์เดย์ลิลลี่ได้ไหมครับ”

เยี่ยจื่อถงยังไม่ทันตอบ จั่วซินเถียนจึงปรบมือแล้วพูดว่า

“ดีจังเลยค่ะ อย่างนั้นรุ่นพี่ร้องเพลงใหม่ได้ไหมคะ”

ลู่เฉินถามว่า “เพลงใหม่เหรอ ไม่ชอบเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันกับซินเดอเรลล่าหรือ”

สองเพลงนี้กลายเป็นเพลงเรียกลูกค้าของเขาในบาร์เดย์ลิลลี่ไปแล้ว ลูกค้ามากมายมาที่นี่เพื่อมาฟังเขาร้องเพลงโดยเฉพาะ

“เพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันกับซินเดอเรลล่าเพราะมากค่ะ!”

จั่วซินเถียนยิ้มกริ่มพลางพูด “แต่ถ้าหากรุ่นพี่สามารถร้องเพลงใหม่ให้เยี่ยจื่อได้ล่ะก็ จะดีมากกว่าค่ะ!”

ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนชอบของใหม่เบื่อของเก่าแต่กลับดึงเยี่ยจื่อถงมาเป็นไม้กันหมา

เยี่ยจื่อถงเอามือกุมหน้า ด้วยสีหน้าที่พ่ายแพ้เธออย่างจนใจ

ลู่เฉินยิ้มพูดว่า “อย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ พี่จะส่งพวกเธอกลับมหาวิทยาลัยก่อนสี่ทุ่ม”

จั่วซินเถียนพูดเสียงดัง “รุ่นพี่จงเจริญ!”

เยี่ยจื่อถงรีบเดินห่างออกไปสองก้าว เพื่อแสดงว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้หญิงบ้าคนนี้

แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของลู่เฉิน

พอเรียกรถแท็กซี่ได้แล้ว ลู่เฉินกับผู้หญิงสองคนก็มาถึงบาร์เดย์ลิลลี่

คืนแรกของวันหยุดสุดสัปดาห์ กิจการในบาร์ดีมาก เพิ่งจะหนึ่งทุ่มก็แทบไม่มีโต๊ะว่างแล้ว

โชคดีที่หน้าบาร์ยังมีที่นั่งอยู่

ลู่เฉินพาทั้งสองคนเดินเข้าไป แล้วพูดกับบาร์เทนเดอร์ว่า “พี่เดวิด สองคนนี้เป็นเพื่อนของผม รบกวนช่วยดูแลหน่อยนะครับ”

สาวสวยทั้งสองคนนั่งตรงหน้าบาร์ จึงเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนเจ้าชู้มากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรยากาศในบาร์เดย์ลิลลี่กับคุณภาพของลูกค้านั้นไม่เลว แต่ก็ไม่ได้ห้ามจีบสาวเสียหน่อย

มีเดวิดคอยดูแล ช่วยป้องกันความวุ่นวายให้พวกเธอได้ เมื่อมีโต๊ะว่างเขาจึงจัดการที่นั่งให้ทันที

เดวิดตาเป็นประกายทันที ยามที่เห็นเยี่ยจื่อถงกับจั่วซินเถียน

เขาถือแก้วเชค พลางยกมือซ้ายขึ้นมาแตะที่หน้าอก แล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพบุรุษและพูดอย่างมีมารยาท

“สวัสดีตอนเย็นกับคนสวยทั้งสองคนครับ ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณ ชื่อของผมคือเดวิด เดวิด หลี่!”

เยี่ยจื่อถงกับจั่วซินเถียนรู้สึกว่าตลกมาก จึงหัวเราะตอบว่า

“สวัสดีค่ะ”

เดวิดแสร้งทำเป็นครุ่นคิด “ให้ผมลองเดาว่าคนไหนคือแฟนของเถ้าแก่เสี่ยวลู่…”

จั่วซินเถียนใช้นิ้วจิ้มไปที่แขนของเยี่ยจื่อถง จนคนหลังถึงกับเหลือกตาขาวใส่อย่างหมดความเป็นกุลสตรี

จั่วซินเถียนหัวเราะพูด “พวกเราเป็นรุ่นน้องของรุ่นพี่ลู่เฉินค่ะ พี่เดวิด ตอนนี้รุ่นพี่ลู่เฉินไม่มีแฟนเหรอคะ แล้วทำไมพี่ถึงเรียกเขาว่าเถ้าแก่เสี่ยวลู่ด้วยล่ะคะ”

“อะไรนะ”

เดวิดตกใจ “พวกเธอไม่รู้เหรอ”

สุดท้ายลู่เฉินก็ทนฟังต่อไม่ไหว

“พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ พี่จะไปเตรียมตัวร้องเพลงหลังเวทีแล้ว”

เขาจึงได้แต่หนีไปอย่างลนลาน

จั่วซินเถียนตะโกนตามหลังเขา “รุ่นพี่อย่าลืมนะคะ!”

ลู่เฉินวิ่งมาถึงด้านหลังเวทีจึงทักทายกับพวกพี่น่า เขายืมกีตาร์ตัวหนึ่งจากฉินฮั่นหยาง แล้วจึงขึ้นเวที

ลูกค้าในบาร์ที่รู้จักลู่เฉินมีจำนวนไม่น้อย พอเห็นเขาปรากฏตัวจึงดีใจมาก

เวลาการแสดงของลู่เฉินเปลี่ยนเป็นหลังห้าทุ่ม และไม่ได้ร้องเพลงทุกวันเหมือนก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นเขาขึ้นเวทีใน ตอนนี้ จึงเป็นการเซอร์ไพรส์มาก

เสียงปรบมือผิวปากดังขึ้นพร้อมกัน

ลู่เฉินกอดกีตาร์นั่งลงตรงหน้าไมค์ พูดว่า “ขอบคุณทุกคนครับ คืนนี้ผมจะร้องเพลงที่สาม สองเพลงก่อนหน้านั้นเป็นเพลงที่ทุกคนชอบและคุ้นเคยดี ส่วนเพลงที่สามนั้น…”

เขาหยุดไปพักหนึ่ง สายตามองไปทางผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าบาร์

“จะเป็นเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลงครับ!”

“และเป็นการร้องโชว์ในบาร์เดย์ลิลลี่เป็นครั้งแรกเหมือนเดิมครับ!”

เสียงปรบมือที่เพิ่งเงียบไปดังขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังคึกคักกว่าตอนแรกถึงสิบเท่า!

ลูกค้าเก่าพวกนั้นมีใครบ้างไม่รู้จักความสามารถของลู่เฉิน มีใครบ้างไม่ชอบผลงานเพลงของเขา การได้ฟังเพลงใหม่ของเขา จึงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากกว่าเซอร์ไพรส์เสียอีก!

จั่วซินเถียนจับแขนของเยี่ยจื่อถงแล้วพูดอย่างตื่นเต้น

“เยี่อจื่อ รุ่นพี่จะร้องเพลงใหม่จริงๆ ด้วย!”

เยี่ยจื่อถงพยักหน้า นัยน์ตาของเธอเป็นประกายวาววับจับตา

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 52 เพลงที่สาม

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 52 เพลงที่สาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 52 เพลงที่สาม

สิ่งที่เรียกว่า ‘เปิดสินค้า’ เป็นคำที่ใช้ในวงการ หมายถึงร้านหัวหมอจะนำสินค้าที่ออกมาขายเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องเป่าผมเป่าเทปกาวที่แปะอยู่ด้านล่างสุดของกล่องเพื่อเพิ่มความร้อนแล้วแกะออก จากนั้นก็หยิบอะไหล่บางตัวออกหรือสับเปลี่ยนซีพียู กลายเป็นสินค้าตัวใหม่หรือของก็อปปี้ แล้วนำมาขายหวังผลกำไรสูง

ขอเพียงมีฝีมือดี ลูกค้าทั่วไปจะมองจุดนี้ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ และยังคิดว่าเป็นของจริงที่ยังไม่ได้แกะกล่อง แต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัว

ลู่เฉินเห็นพนักงานขายตอบไวมาก ดังนั้นจึงพูดดักอีกฝ่ายไว้ก่อน ให้เขารู้ว่าตัวเองก็เข้าใจเรื่องพวกนี้อย่าแกล้งกันเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและวุ่นวาย

ความจริงเวลาเจอร้านที่แย่หน่อย พนักงานของร้านจะหลอกให้ลูกค้าจ่ายเงินก่อน จากนั้นก็ไปเอาอะไหล่เกรดต่ำที่แบบเหมือนกันแต่คนละรุ่นมาหลอกลูกค้า ธุรกิจการขายคอมพิวเตอร์มีความลึกลับซับซ้อนมาก

แต่พวกลูกค้าพอโดนหลอกบ่อยๆ ก็ฉลาดขึ้น บวกกับตอนนี้การส่งต่อข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วมาก ทุกคนจึงยอมซื้อของในร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้ และร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ดิจิตอลที่ชื่อเสียงไม่ดีจึงไม่อาจทำมาหากินต่อไปได้

พนักงานขายหน้านิ่งทื่อ เผยรอยยิ้มที่แย่กว่าการร้องไห้

“คุณผู้ชายวางใจได้ครับ ร้านของพวกเราทำการค้าขายเน้นเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ไม่หลอกลวงลูกค้าแน่นอนครับ!”

ลู่เฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาที่เชี่ยวชาญด้านนี้จึงไม่โต้เถียงอะไรทั้งนั้น แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะพูดบ่นไม่หยุด!

พนักงานขายวิ่งไปเอาสินค้าจากในโกดัง จั่วซินเถียนพูดอย่างนับถือเป็นที่สุด

“รุ่นพี่คะ พี่เก่งมากจริงๆ!”

เธอกับเยี่ยจื่อถงก็เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก มีหรือจะมองความใจฝ่อของพนักงานขายไม่ออก ถ้าหากไม่ได้เรียก ลู่เฉินมาช่วยในวันนี้ และเป็นเธอสองคนมาด้วยตัวเอง มีหรือจะรู้วิธีการหลอกลวงได้มากขนาดนี้

และคาดว่าคงซื้อราคาเดียวกันกับในอินเทอร์เน็ต แต่ของข้างในกลับถูกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแล้วก็ยังไม่รู้!

เยี่ยจื่อถงกังวลเล็กน้อย

“อย่างนั้นวันหลังถ้าจะให้พวกเขาซ่อมในระยะเวลารับประกันก็จะมีปัญหาใช่ไหมคะ”

พนักงานขายคนนั้นถูกลู่เฉินบดขยี้จนหมดท่า จึงยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่แก้แค้นในภายหลัง

ลู่เฉินหัวเราะพูด “ถ้าต้องซ่อมในระยะเวลารับประกัน มาหาเขาทำไม ไปหาร้านที่ดูแลบริการหลังการขายของยี่ห้อนี้โดยตรงก็ได้แล้ว มาให้พวกเขาซ่อมก็เท่ากับโดนหลอกเงินอีกรอบ ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด!”

เงินค่าซ่อมบำรุงมีความลึกลับซับซ้อนมากกว่าการขายเสียอีก!

เยี่ยจื่อถงสบายใจแล้ว ดวงตาสวยของเธอเป็นประกาย กัดริมฝีปากถามลู่เฉินว่า

“รุ่นพี่ลู่เฉิน ทำไมพี่ถึงบอกว่าจะซื้อสองเครื่องคะ พี่จะซื้ออีกเครื่องเอาไปให้คนอื่นใช่ไหมคะ”

โน้ตบุ๊กสไตล์แบบนี้เหมาะสมกับผู้หญิง เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนลู่เฉินจะเอาไปใช้เอง

ลู่เฉินอธิบายว่า “ใช่ครับ อีกเครื่องพี่จะซื้อให้น้องสาว ปีหน้าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว”

เยี่ยจื่อถงหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่ดีกับน้องสาวของพี่จริงๆ นะคะ!”

ผลสรุปคือเธอเห็นสายตากำกวมของจั่วซินเถียนมองมาที่ตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ แล้วจึงหน้าแดงขึ้นมาทันที

ลู่เฉินหัวเราะ แต่กลับถอนหายใจอยู่ในใจ

ลู่เสวี่ยน้องสาวของเขาเดิมทีก็มีโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว หลังจากที่บ้านเกิดเรื่อง จากองค์หญิงน้อยก็กลายสภาพเป็นซินเดอเรลล่าทันที

ลู่เฉินอยากซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ให้เธอมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้สมความปรารถนาแล้ว

โน้ตบุ๊กตัวใหม่สองเครื่องถูกหยิบออกมาแล้ว

ลู่เฉินตรวจสอบสองรอบอย่างละเอียด หลังจากยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาแล้วจึงเปิดกล่องลองเครื่อง สุดท้ายจึงจ่ายเงิน

ตอนนี้สองสาวได้ใช้พรสวรรค์ของตัวเองอย่างเต็มที่ ภายใต้การยืนหยัดของพวกเธอ ในที่สุดร้านค้าก็แถมชุดคีย์ บอร์ดกับเมาส์สองชุดให้พวกเธอ จากการคำนวณแล้วถูกกว่าซื้อในอินเทอร์เน็ตอีก

สุดท้ายพนักงานขายคนนั้นก็หน้าบึ้ง ส่งลูกค้าหน้าเลือดทั้งสามออกจากร้าน

เยี่ยจื่อถงอารมณ์ดีมาก ที่ได้ซื้อโน้ตบุ๊กตัวใหม่ที่ถูกใจ

“รุ่นพี่คะ เย็นนี้ฉันขอเลี้ยงข้าวพี่เพื่อเป็นการขอบคุณค่ะ!”

ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว เป็นเวลารับประทานอาหารเย็นพอดี

จั่วซินเถียนพูดเบาๆ ว่า “เลี้ยงรุ่นพี่แต่ไม่เลี้ยงฉัน เธอไร้น้ำใจมากที่สุดกับเพื่อน…ใช่ไหม!”

จั่วซินเถียนลากท้ายเสียงให้สูงขึ้นกะทันหัน เยี่ยจื่อถงที่อดทนมานานแล้วจึงใช้วิชาจั๊กจี้ไปโดนจุดสำคัญของเธอ จั่วซินเถียนจึงรีบแอบไปหลบข้างหลังลู่เฉินทำท่าทางตกใจ

“รุ่นพี่ช่วยด้วยค่ะ!”

ผู้หญิงสองคนหัวเราะสนุกสนานกันโดยมีลู่เฉินแทรกอยู่ตรงกลาง ไม่รู้ว่าดึงดูดสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมามากแค่ไหน

และลู่เฉินก็รู้สึกใจลอยเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเมื่อครั้งก่อน อบอุ่นและมีความสุขมาก

การรับประทานอาหารเย็นก็ผ่านไปอย่างมีความสุขมากเช่นเดียวกัน

เยี่ยจื่อถงเป็นคนจ่ายเงิน เดิมทีลู่เฉินเตรียมจะจ่ายเงินแล้ว แต่สู้การยืนหยัดของเธอไม่ไหว

เขามองออกว่าเยี่ยจื่อถงเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรีมาก ฉลาดและเรียบร้อย สวยแต่ไม่หยิ่ง เธอมีฐานะทางครอบครัวที่ไม่เลว เพราะฉะนั้นจึงไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น

ผู้หญิงแบบนี้ ท่ามกลางผู้คนนับร้อยนับพันใช่ว่าจะหาได้สักคน

ลู่เฉินไม่ปฏิเสธว่าตัวเองมีความรู้สึกที่ดีต่อเยี่ยจื่อถง แต่ตอนนี้เขาไม่มีวาสนากับความรัก

ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนรักกัน เป็นแค่เพื่อนกันก็ไม่เลว!

พอออกมาจากร้านอาหารก็ดึกแล้ว

ลู่เฉินจึงพูดว่า “ขอเชิญทั้งสองคนไปนั่งที่บาร์เดย์ลิลลี่ได้ไหมครับ”

เยี่ยจื่อถงยังไม่ทันตอบ จั่วซินเถียนจึงปรบมือแล้วพูดว่า

“ดีจังเลยค่ะ อย่างนั้นรุ่นพี่ร้องเพลงใหม่ได้ไหมคะ”

ลู่เฉินถามว่า “เพลงใหม่เหรอ ไม่ชอบเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันกับซินเดอเรลล่าหรือ”

สองเพลงนี้กลายเป็นเพลงเรียกลูกค้าของเขาในบาร์เดย์ลิลลี่ไปแล้ว ลูกค้ามากมายมาที่นี่เพื่อมาฟังเขาร้องเพลงโดยเฉพาะ

“เพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันกับซินเดอเรลล่าเพราะมากค่ะ!”

จั่วซินเถียนยิ้มกริ่มพลางพูด “แต่ถ้าหากรุ่นพี่สามารถร้องเพลงใหม่ให้เยี่ยจื่อได้ล่ะก็ จะดีมากกว่าค่ะ!”

ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนชอบของใหม่เบื่อของเก่าแต่กลับดึงเยี่ยจื่อถงมาเป็นไม้กันหมา

เยี่ยจื่อถงเอามือกุมหน้า ด้วยสีหน้าที่พ่ายแพ้เธออย่างจนใจ

ลู่เฉินยิ้มพูดว่า “อย่างนั้นก็ไปด้วยกันเถอะ พี่จะส่งพวกเธอกลับมหาวิทยาลัยก่อนสี่ทุ่ม”

จั่วซินเถียนพูดเสียงดัง “รุ่นพี่จงเจริญ!”

เยี่ยจื่อถงรีบเดินห่างออกไปสองก้าว เพื่อแสดงว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้หญิงบ้าคนนี้

แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของลู่เฉิน

พอเรียกรถแท็กซี่ได้แล้ว ลู่เฉินกับผู้หญิงสองคนก็มาถึงบาร์เดย์ลิลลี่

คืนแรกของวันหยุดสุดสัปดาห์ กิจการในบาร์ดีมาก เพิ่งจะหนึ่งทุ่มก็แทบไม่มีโต๊ะว่างแล้ว

โชคดีที่หน้าบาร์ยังมีที่นั่งอยู่

ลู่เฉินพาทั้งสองคนเดินเข้าไป แล้วพูดกับบาร์เทนเดอร์ว่า “พี่เดวิด สองคนนี้เป็นเพื่อนของผม รบกวนช่วยดูแลหน่อยนะครับ”

สาวสวยทั้งสองคนนั่งตรงหน้าบาร์ จึงเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนเจ้าชู้มากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรยากาศในบาร์เดย์ลิลลี่กับคุณภาพของลูกค้านั้นไม่เลว แต่ก็ไม่ได้ห้ามจีบสาวเสียหน่อย

มีเดวิดคอยดูแล ช่วยป้องกันความวุ่นวายให้พวกเธอได้ เมื่อมีโต๊ะว่างเขาจึงจัดการที่นั่งให้ทันที

เดวิดตาเป็นประกายทันที ยามที่เห็นเยี่ยจื่อถงกับจั่วซินเถียน

เขาถือแก้วเชค พลางยกมือซ้ายขึ้นมาแตะที่หน้าอก แล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพบุรุษและพูดอย่างมีมารยาท

“สวัสดีตอนเย็นกับคนสวยทั้งสองคนครับ ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณ ชื่อของผมคือเดวิด เดวิด หลี่!”

เยี่ยจื่อถงกับจั่วซินเถียนรู้สึกว่าตลกมาก จึงหัวเราะตอบว่า

“สวัสดีค่ะ”

เดวิดแสร้งทำเป็นครุ่นคิด “ให้ผมลองเดาว่าคนไหนคือแฟนของเถ้าแก่เสี่ยวลู่…”

จั่วซินเถียนใช้นิ้วจิ้มไปที่แขนของเยี่ยจื่อถง จนคนหลังถึงกับเหลือกตาขาวใส่อย่างหมดความเป็นกุลสตรี

จั่วซินเถียนหัวเราะพูด “พวกเราเป็นรุ่นน้องของรุ่นพี่ลู่เฉินค่ะ พี่เดวิด ตอนนี้รุ่นพี่ลู่เฉินไม่มีแฟนเหรอคะ แล้วทำไมพี่ถึงเรียกเขาว่าเถ้าแก่เสี่ยวลู่ด้วยล่ะคะ”

“อะไรนะ”

เดวิดตกใจ “พวกเธอไม่รู้เหรอ”

สุดท้ายลู่เฉินก็ทนฟังต่อไม่ไหว

“พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ พี่จะไปเตรียมตัวร้องเพลงหลังเวทีแล้ว”

เขาจึงได้แต่หนีไปอย่างลนลาน

จั่วซินเถียนตะโกนตามหลังเขา “รุ่นพี่อย่าลืมนะคะ!”

ลู่เฉินวิ่งมาถึงด้านหลังเวทีจึงทักทายกับพวกพี่น่า เขายืมกีตาร์ตัวหนึ่งจากฉินฮั่นหยาง แล้วจึงขึ้นเวที

ลูกค้าในบาร์ที่รู้จักลู่เฉินมีจำนวนไม่น้อย พอเห็นเขาปรากฏตัวจึงดีใจมาก

เวลาการแสดงของลู่เฉินเปลี่ยนเป็นหลังห้าทุ่ม และไม่ได้ร้องเพลงทุกวันเหมือนก่อน ดังนั้นเมื่อเห็นเขาขึ้นเวทีใน ตอนนี้ จึงเป็นการเซอร์ไพรส์มาก

เสียงปรบมือผิวปากดังขึ้นพร้อมกัน

ลู่เฉินกอดกีตาร์นั่งลงตรงหน้าไมค์ พูดว่า “ขอบคุณทุกคนครับ คืนนี้ผมจะร้องเพลงที่สาม สองเพลงก่อนหน้านั้นเป็นเพลงที่ทุกคนชอบและคุ้นเคยดี ส่วนเพลงที่สามนั้น…”

เขาหยุดไปพักหนึ่ง สายตามองไปทางผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าบาร์

“จะเป็นเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลงครับ!”

“และเป็นการร้องโชว์ในบาร์เดย์ลิลลี่เป็นครั้งแรกเหมือนเดิมครับ!”

เสียงปรบมือที่เพิ่งเงียบไปดังขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังคึกคักกว่าตอนแรกถึงสิบเท่า!

ลูกค้าเก่าพวกนั้นมีใครบ้างไม่รู้จักความสามารถของลู่เฉิน มีใครบ้างไม่ชอบผลงานเพลงของเขา การได้ฟังเพลงใหม่ของเขา จึงเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากกว่าเซอร์ไพรส์เสียอีก!

จั่วซินเถียนจับแขนของเยี่ยจื่อถงแล้วพูดอย่างตื่นเต้น

“เยี่อจื่อ รุ่นพี่จะร้องเพลงใหม่จริงๆ ด้วย!”

เยี่ยจื่อถงพยักหน้า นัยน์ตาของเธอเป็นประกายวาววับจับตา

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+