Perfect Superstar 217 สารภาพรัก

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 217 สารภาพรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 217 สารภาพรัก

โครงการระดมทุนการกุศลเพื่อช่วยเหลือเมิ่งเมิ่ง (ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) สิ้นสุดลงในวันที่ 26

ยอดเงินบริจาคทั้งหมดสี่ล้านเจ็ดแสนกว่าหยวน เนื่องจากแต่ละคนมีอาการเจ็บป่วยที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเมิ่งเมิ่งรวมทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ต้องการความช่วยเหลือได้ทั้งหมดสิบสองคน

ปัญหาด้านการจัดสรรเงิน การดูแลและตรวจสอบ การเปิดเผยบัญชีต่อสาธารณชน ทั้งหมดรับผิดชอบโดยบริษัทระดมทุนมู่เฉิน

ลู่เฉินไม่ถามไถ่อะไรอีก

เพราะตอนนี้สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงส่งเจ้าหน้าที่มาหาเขา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้เท่าใดนัก

สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงตั้งใจมาเพื่อเพลง ‘มอบความรัก’!

สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เป็นองค์กรสังคมสงเคราะห์ที่ไม่แสวงหาผลกำไรระดับประเทศซึ่งมีพลเมือง นิติบุคคล และองค์กรทางสังคมอื่นๆ ที่ทำงานด้านการกุศลเข้าร่วมด้วย มีสมาชิกทั่วประเทศมากกว่าห้าร้อยองค์กร

เมื่อเทียบกับสภากาชาดจีน สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงมีชื่อเสียงดีกว่ามากในสายตาของประชาชน

ตัวแทนที่องค์กรการกุศลแห่งนี้ส่งมาแซ่สวี ชื่อว่าสวีอัน เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของสหพันธ์

สวีอันเป็นหญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี หน้าตาท่าทางดูอ่อนโยนมีเมตตา พูดจานิ่มนวล

เธอเป็นตัวแทนของสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง มาที่นี่เพราะหวังว่าจะได้รับอนุญาตจากลู่เฉินให้ใช้ลิขสิทธิ์เพลง ‘มอบความรัก’ ในงานที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการค้า เพื่อนำไปใช้ในงานโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์และงานโปรโมตของสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง

ลู่เฉินไม่ได้ลังเล เขาตอบตกลงทันที

เขาไม่เคยคิดจะขายเพลงนี้กิน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรการกุศลหรือสภากาชาด หากต้องการ เขาก็อนุญาตให้นำไปใช้ได้ ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใด!

ทางสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง นอกจากขออนุญาตใช้ลิขสิทธิ์เพลง ‘มอบความรัก’ แล้ว ยังหวังว่าลู่เฉินจะเข้าร่วมแสดงในการถ่ายทำโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ด้วย

โฆษณาชุดนี้ใช้เพลง ‘มอบความรัก’ เป็นเนื้อหาหลัก เชิญดารานักร้องระดับซูเปอร์สตาร์หลายคนมาร่วมร้อง มีหลีซิ่ง ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ หลิวจงฮั่น สีหรง…เป็นต้น

เมื่อรวมลู่เฉินอีกคน ก็เท่ากับว่าตอนนี้ตกลงแล้วสิบสองคน!

ถ้าพูดอย่างไม่เกรงใจ ในรายชื่อทั้งหมดที่สวีอันแจ้งมา ทุกคนมีชื่อเสียงและตำแหน่งในวงการเหนือกว่าลู่เฉิน ถ้าหาก ‘เพลงมอบความรัก’ ไม่ใช่เพลงที่เขาแต่ง เกรงว่าคงจะไม่มีสิทธิ์

สวีอันค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อยว่า นี่เกิดจากการที่ลู่เฉินได้ไปให้สัมภาษณ์แก่ ‘หนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี’ ‘

ถือว่าเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ลู่เฉินคิดไม่ออกว่าตัวเองจะหาเหตุผลอะไรมาปฏิเสธ จึงได้ตกลงไปตามระเบียบ

ตามที่เธอบอก ชื่อเสียงเช่นนี้ยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งดี!

แต่เพลง ‘มอบความรัก’ ที่จะถ่ายทำเผยแพร่ออกไปเพื่อสาธารณประโยชน์นั้น ไม่ได้เริ่มถ่ายทำทันที สำหรับองค์กรการกุศลขนาดใหญ่เช่นสหพันธ์การกุศลเหยียนหวงนี้ การเตรียมการก่อนเริ่มงานย่อมเสียเวลามากกว่า

แต่ลู่เฉินได้ร่วมแสดงด้วยแน่นอนไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

หลังจากพบปะกับสวีอันแล้ว ลู่เฉินก็โยนเรื่องนี้ทิ้งไปจากสมอง เอาเป็นว่าพอถึงเวลาก็จะมีคนแจ้งเขามาเอง เขาเป็นศิลปินไร้สังกัด จัดการตารางงานได้อย่างเป็นอิสระอยู่แล้ว

ตอนนี้สิ่งที่ลู่เฉินสนใจคืออัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นแห่งเฟยสือเรคคอร์ด!

ในอัลบั้มชุดใหม่ที่เสร็จหมาดๆ นี้ ลู่เฉินได้ทำผลงานเพลงไว้สามเพลง รวมถึงเพลงหลักอย่างเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’

ทั้งยังทำหน้าที่ควบคุมการผลิตเพลง และแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ด้วย

วันสุดท้ายของเดือนตุลาคม เป็นวันอุ่นเครื่องของอัลบั้มใหม่วงเอ็มเอสเอ็น มิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ และซิงเกิ้ลเพลงนี้ได้เริ่มเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ทางสถานีวิทยุ และทางอินเทอร์เน็ตอย่างยิ่งใหญ่!

เนื่องจากเป็นวงนักร้องสาวที่ตั้งขึ้นเป็นวงแรกในรอบหลายปีในสังกัดของเฟยสือเรคคอร์ด ทางบริษัทจึงตั้งความหวังกับวงเอ็มเอสเอ็นไว้สูงมาก แค่เชิญลู่เฉินมาเขียนเพลงและควบคุมการผลิตให้ก็มีค่าใช้จ่ายเกินหนึ่งล้านหยวนแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการโปรโมตที่มีความสำคัญที่สุดนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ให้ตกหล่น

ว่ากันว่าบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเตรียมค่าโปรโมตไว้สูงถึงห้าล้านหยวน!

ด้วยเหตุนี้จึงนำพาความกดดันมหาศาลมาให้ลู่เฉิน

เขาเขียนเพลงสามเพลงให้วงเอ็มเอสเอ็น รวมถึงเพลงหลักอย่างเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ทั้งหมดเป็นเพลงที่คัดสรรมาแล้วว่าโดดเด่นที่สุด แต่ความนิยมของตลาดกับความชอบของแฟนคลับนั้น ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจยากมาก

บางเพลงเป็นเพลงที่ไม่เลวเลย แต่ไม่โด่งดัง ในขณะที่เพลงแย่ๆ บางเพลงกลับโด่งดังไปทั้งประเทศ

แม้ลู่เฉินจะเชื่อมั่นในตัวเองมาก แต่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ลงทุนไปกับอัลบั้มนี้เกินสิบล้าน หากล้มเหลว ก็จะส่งผลถึงเขามากจริงๆ

เพราะตอนนี้ผลงานเพลงของเขาหนึ่งเพลง ขายออกสู่ภายนอกในราคาสูงถึงสามแสนห้าถึงสี่แสนหยวน ทั้งหมดล้วนเป็นเพลงชั้นยอด

หากขายราคาสูงลิบลิ่วเช่นนี้แต่ไม่ได้ผลตามที่ควรจะเป็น ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานคงจะถูกทำลาย!

ลู่เฉินเติบโตแบบก้าวกระโดดเร็วเกินไป มีหลายคนในวงการที่อิจฉาริษยาเขา

แน่นอนว่ามีอีกมากที่จ้องมองและรอคอยหัวเราะเยาะเขาอยู่!

เรื่องราวเหล่านี้เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นคนบอกลู่เฉินเอง

เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน กลิ่นอายฤดูใบไม้ร่วงค่อยๆ เข้มข้นขึ้น

ตั้งแต่กลับจากเมืองหังโจวมาถึงปักกิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เฉินได้พบหน้าเฉินเฟยเอ๋อร์ ที่ร้านอาหารตะวันตกแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง

ร้านอาหารชื่อดังร้านนี้มีรางวัลมิชลินสตาร์เป็นการันตี ปกติมักจองที่นั่งไม่ค่อยได้

แต่สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์ เห็นชัดว่านี่ไม่เป็นปัญหา

ดูภายนอกลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาพบปะพูดคุยกันเรื่องอัลบั้มใหม่ของฝ่ายหญิง แต่ในใจของทั้งคู่กลับรู้ดีว่า ความจริงแล้วครั้งนี้คือการนัดเดตที่แท้จริง

แต่ไม่มีใครคิดจะเปิดเผยออกมาก่อน

“ฉันกำลังเตือนนาย อย่าทำอะไรเกินตัว!”

เฉินเฟยเอ๋อร์กำลังรับประทานของหวานหลังจากอาหารจานหลัก เมื่อหั่นชีสเค้กเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว เธอพูดกับลู่เฉินอย่างจริงจังว่า “คนหน้าใหม่ในวงการบันเทิงหลายคนที่ดังเร็วเกินไป ถูกยกย่องขึ้นสูง แล้วก็ตกลงมาอย่างน่าอนาถ”

ลู่เฉินพยักหน้า

ช่วงหลังมานี้ เขาดูจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเกินไปหน่อย

อย่างแรกคือช่วยคนกำจัดคนร้ายที่เมืองหังโจว จากนั้นเป็นการระดมทุนเพื่อการกุศล ตามด้วยบทสัมภาษณ์ลง ‘หนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี’ …

ศิลปินหน้าใหม่คนหนึ่ง หากได้ทำข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวไปแม้แต่เพียงข้อเดียว ก็จะได้หน้ามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาทันที

แต่ลู่เฉินกลับทำได้ทั้งสามอย่าง บอกได้ว่าได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์

จนถึงตอนนี้ บล็อกล่างฉาวของเขามีแฟนคลับอย่างเป็นทางการเกินสิบล้านบัญชีไปแล้ว!

ชื่อเสียงย่อมนำมาซึ่งผลประโยชน์

อันดับแรกเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ กำลังเจรจากับลู่ซีเพื่อเตรียมเซ็นสัญญากับลู่เฉินอีกฉบับ

ความร่วมมือของลู่เฉินกับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญาสองปี นอกจากการแบ่งเงินรางวัลแล้ว แต่ละปียังได้ค่าทำสัญญาอีกห้าแสนหยวน

ตอนนั้นสัญญานี้เป็นที่พอใจแก่ทั้งสองฝ่าย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่เหมาะสมเสียแล้ว

เพราะว่าสัญญาฉบับนี้ไม่คู่ควรกับชื่อเสียงและสถานะของลู่เฉินในตอนนี้แล้ว!

ไม่ใช่ลู่เฉินเป็นฝ่ายขอยกเลิกสัญญาก่อน แต่เป็นเพราะทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำสัญญาใหม่

ลู่เฉินอาศัยเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ในการก่อร่างสร้างตัว แล้วมามีชื่อเสียงจากรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ แม้ว่าเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จะให้ค่าตอบแทนที่ดีแก่เขา แต่ลู่เฉินก็ได้มอบผลตอบแทนที่น่าตกใจคืนกลับไปให้ทางเว็บไซต์เช่นกัน

อย่าเพิ่งพูดถึงชื่อเสียงของห้องออกอากาศลู่เฟย แค่ความสำเร็จของเขาก็ทำให้เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ อาศัยสิ่งนี้นำมาใช้ดึงดูดผู้ออกอากาศดีๆ ได้มากมาย จำนวนบัญชีผู้เข้ามาใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม้ทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ สามารถทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รอจนสัญญาของลู่เฉินครบสองปีก่อนก็ได้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ โอกาสที่ลู่เฉินจะเซ็นสัญญาต่อก็ไม่มีอีกแล้ว

จุดสำคัญคือ สัญญาฉบับนี้ได้ถูกคนขุดคุ้ยออกมา ทำให้เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ถูกสั่นคลอน

ค่าเซ็นสัญญาห้าแสน?

น่าขำสิ้นดี!

ดังนั้นเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต และเพื่อเหนี่ยวรั้งลู่เฉินผู้เป็นเหมือนแผ่นป้ายทองคำให้อยู่ต่อ ทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงได้เสนอสัญญาฉบับใหม่ให้สตูดิโอลู่เฉิน

ตอนนี้ลู่ซีเป็นตัวแทนของลู่เฉินในการเจรจากับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ น่าจะได้ค่าเซ็นสัญญาประมาณสามล้านขึ้นไป!

ลู่เฉินตั้งใจจะทำสัญญากับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ต่อไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งอยู่แล้ว แต่เรื่องผลประโยชน์ที่ควรได้รับเขาก็ไม่มีทางยอมปล่อยมือ

นอกจากเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แล้ว ยังมีอีกหลายแห่งที่ต้องการทำสัญญาพรีเซ็นเตอร์กับลู่เฉิน ในนั้นมีทั้งบริษัทในและต่างประเทศ ยังมีบริษัทการแสดงและเอเจนซี่อีกมากมายติดต่อเข้ามา ทำให้ลู่ซีงานยุ่งจนหัวหมุน

ส่วนการเชื้อเชิญในรูปแบบอื่นๆ ก็มีอีกจำนวนนับไม่ถ้วน

วงการบันเทิงเป็นเหมือนแหล่งรวมชื่อเสียงและผลประโยชน์ มีศิลปินมากมายที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนถูกกลืนกินเข้าสู่วงจรชื่อเสียงและผลประโยชน์อันจอมปลอมอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนค่อยๆ สูญเสียความตั้งใจดั้งเดิมของตัวเองไป สุดท้ายเกิดข่าวเสียหายทำลายชื่อเสียงจนดับดิ้น หมดสิ้นอนาคต

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่อยากให้ลู่เฉินเป็นหนึ่งในนั้น

เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าวงการบันเทิงซับซ้อนแค่ไหน ลู่เฉินโชคดีที่เป็นศิลปินอิสระ ถ้าเข้าไปอยู่ในบริษัทเอเจนซี่ดาราเข้าแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเขาจะต้องเผชิญกับอาวุธทั้งในที่ลับและที่แจ้งมากแค่ไหน!

สำหรับคำเตือนด้วยความหวังดีของเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินพยักหน้าเข้าใจ “ผมรู้แล้วครับ พี่เฟย”

บอกตามตรง ช่วงนี้เขาเริ่มรู้สึกตัวลอยอยู่บ้างเหมือนกัน

โชคดีที่รอบข้างเขามีแต่มิตรสหายที่ดี!

ตอนที่ตอบออกไปนั้น รู้สึกเหมือนผีร้ายกำลังบงการเขาอยู่ ลู่เฉินยื่นมือออกไปช่วยเช็ดคราบครีมชีสที่เปื้อนมุมปากของเฉินเฟยเอ๋อร์

เฉินเฟยเอ๋อร์ตื่นตะลึง แล้วพวงแก้มก็แดงเป็นลูกตำลึง ดูสวยน่ารักขึ้นมาทันที!

เธอไม่คิดว่าลู่เฉินจะกล้าขนาดนี้

ลู่เฉินเองก็คิดไม่ถึง

เพียงแค่นิ้วมือของเขาลูบผ่านผิวขาวเนียนนุ่มดังเนื้อหยกเบาๆ ก็ทำให้เกิดความฮึกเหิมขึ้นมา

ลู่เฉินวางมือลง ทับมือของเฉินเฟยเอ๋อร์พอดี

เขาจ้องมองฝ่ายหญิงด้วยสายตาอันเป็นประกาย

ตอนแรกเฉินเฟยเอ๋อร์ถลึงตา แล้วช้อนสายตาไปสบกับสายตาอันแรงกล้าของลู่เฉิน จากนั้นก้มหน้าลงด้วยความเขิน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอดึงสติกลับมา เงยหน้ามองแล้วถลึงตาใส่ลู่เฉินใหม่อีกครั้ง

ราวกับกำลังบอกว่า ‘นายจะกล้ามากเกินไปแล้วนะ!’

ลู่เฉินไม่ปล่อยมือ เขาเอ่ยปากพูดออกไปตามตรง “พี่เฟย ผมชอบพี่ครับ”

เขาไม่ใช่ชายหนุ่มที่เพิ่งมีความรักครั้งแรก และก็ไม่อยากปิดซ่อนความรู้สึกดีๆ ที่แอบมีให้เฉินเฟยเอ๋อร์ไปแบบนี้เรื่อยๆ ดังนั้นจึงเลือกใช้โอกาสนี้สารภาพรักตามตรง

เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง แต่เธอไม่ใช้สาวน้อยอายุสิบแปด เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบว่า “ลู่เฉิน นายให้ฉันคิดทบทวนให้ดีก่อนได้ไหม”

เธอไม่ปฏิเสธว่าเธอก็รู้สึกดีกับลู่เฉินเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ทันได้เตรียมตัวที่จะเริ่มต้นความรักแบบรักต่างวัย

ลู่เฉินพยักหน้า หดมือกลบพร้อมกับตอบไปว่า “ได้ครับ”

เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกผิด เธอคว้ามืออันใหญ่โตของลู่เฉินไว้ เอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “ขอบใจนะ”

ลู่เฉินไม่ได้ดึงมือกลับมาอีก

ทั้งสองคนไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด ต่างฝ่ายต่างซึมซับความอบอุ่นที่ไหลผ่านมือของทั้งคู่อย่างเงียบๆ

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้านนอกดูจะอ่อนโยนลงกว่าเดิม

…………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 217 สารภาพรัก

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 217 สารภาพรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 217 สารภาพรัก

โครงการระดมทุนการกุศลเพื่อช่วยเหลือเมิ่งเมิ่ง (ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) สิ้นสุดลงในวันที่ 26

ยอดเงินบริจาคทั้งหมดสี่ล้านเจ็ดแสนกว่าหยวน เนื่องจากแต่ละคนมีอาการเจ็บป่วยที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเมิ่งเมิ่งรวมทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ต้องการความช่วยเหลือได้ทั้งหมดสิบสองคน

ปัญหาด้านการจัดสรรเงิน การดูแลและตรวจสอบ การเปิดเผยบัญชีต่อสาธารณชน ทั้งหมดรับผิดชอบโดยบริษัทระดมทุนมู่เฉิน

ลู่เฉินไม่ถามไถ่อะไรอีก

เพราะตอนนี้สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงส่งเจ้าหน้าที่มาหาเขา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้เท่าใดนัก

สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงตั้งใจมาเพื่อเพลง ‘มอบความรัก’!

สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เป็นองค์กรสังคมสงเคราะห์ที่ไม่แสวงหาผลกำไรระดับประเทศซึ่งมีพลเมือง นิติบุคคล และองค์กรทางสังคมอื่นๆ ที่ทำงานด้านการกุศลเข้าร่วมด้วย มีสมาชิกทั่วประเทศมากกว่าห้าร้อยองค์กร

เมื่อเทียบกับสภากาชาดจีน สหพันธ์การกุศลเหยียนหวงมีชื่อเสียงดีกว่ามากในสายตาของประชาชน

ตัวแทนที่องค์กรการกุศลแห่งนี้ส่งมาแซ่สวี ชื่อว่าสวีอัน เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของสหพันธ์

สวีอันเป็นหญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี หน้าตาท่าทางดูอ่อนโยนมีเมตตา พูดจานิ่มนวล

เธอเป็นตัวแทนของสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง มาที่นี่เพราะหวังว่าจะได้รับอนุญาตจากลู่เฉินให้ใช้ลิขสิทธิ์เพลง ‘มอบความรัก’ ในงานที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการค้า เพื่อนำไปใช้ในงานโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์และงานโปรโมตของสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง

ลู่เฉินไม่ได้ลังเล เขาตอบตกลงทันที

เขาไม่เคยคิดจะขายเพลงนี้กิน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรการกุศลหรือสภากาชาด หากต้องการ เขาก็อนุญาตให้นำไปใช้ได้ ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใด!

ทางสหพันธ์การกุศลเหยียนหวง นอกจากขออนุญาตใช้ลิขสิทธิ์เพลง ‘มอบความรัก’ แล้ว ยังหวังว่าลู่เฉินจะเข้าร่วมแสดงในการถ่ายทำโฆษณาเพื่อสาธารณประโยชน์ด้วย

โฆษณาชุดนี้ใช้เพลง ‘มอบความรัก’ เป็นเนื้อหาหลัก เชิญดารานักร้องระดับซูเปอร์สตาร์หลายคนมาร่วมร้อง มีหลีซิ่ง ถานหง เฉินเฟยเอ๋อร์ หลิวจงฮั่น สีหรง…เป็นต้น

เมื่อรวมลู่เฉินอีกคน ก็เท่ากับว่าตอนนี้ตกลงแล้วสิบสองคน!

ถ้าพูดอย่างไม่เกรงใจ ในรายชื่อทั้งหมดที่สวีอันแจ้งมา ทุกคนมีชื่อเสียงและตำแหน่งในวงการเหนือกว่าลู่เฉิน ถ้าหาก ‘เพลงมอบความรัก’ ไม่ใช่เพลงที่เขาแต่ง เกรงว่าคงจะไม่มีสิทธิ์

สวีอันค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อยว่า นี่เกิดจากการที่ลู่เฉินได้ไปให้สัมภาษณ์แก่ ‘หนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี’ ‘

ถือว่าเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ลู่เฉินคิดไม่ออกว่าตัวเองจะหาเหตุผลอะไรมาปฏิเสธ จึงได้ตกลงไปตามระเบียบ

ตามที่เธอบอก ชื่อเสียงเช่นนี้ยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งดี!

แต่เพลง ‘มอบความรัก’ ที่จะถ่ายทำเผยแพร่ออกไปเพื่อสาธารณประโยชน์นั้น ไม่ได้เริ่มถ่ายทำทันที สำหรับองค์กรการกุศลขนาดใหญ่เช่นสหพันธ์การกุศลเหยียนหวงนี้ การเตรียมการก่อนเริ่มงานย่อมเสียเวลามากกว่า

แต่ลู่เฉินได้ร่วมแสดงด้วยแน่นอนไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

หลังจากพบปะกับสวีอันแล้ว ลู่เฉินก็โยนเรื่องนี้ทิ้งไปจากสมอง เอาเป็นว่าพอถึงเวลาก็จะมีคนแจ้งเขามาเอง เขาเป็นศิลปินไร้สังกัด จัดการตารางงานได้อย่างเป็นอิสระอยู่แล้ว

ตอนนี้สิ่งที่ลู่เฉินสนใจคืออัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของวงเอ็มเอสเอ็นแห่งเฟยสือเรคคอร์ด!

ในอัลบั้มชุดใหม่ที่เสร็จหมาดๆ นี้ ลู่เฉินได้ทำผลงานเพลงไว้สามเพลง รวมถึงเพลงหลักอย่างเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’

ทั้งยังทำหน้าที่ควบคุมการผลิตเพลง และแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ด้วย

วันสุดท้ายของเดือนตุลาคม เป็นวันอุ่นเครื่องของอัลบั้มใหม่วงเอ็มเอสเอ็น มิวสิควิดีโอเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ และซิงเกิ้ลเพลงนี้ได้เริ่มเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ ทางสถานีวิทยุ และทางอินเทอร์เน็ตอย่างยิ่งใหญ่!

เนื่องจากเป็นวงนักร้องสาวที่ตั้งขึ้นเป็นวงแรกในรอบหลายปีในสังกัดของเฟยสือเรคคอร์ด ทางบริษัทจึงตั้งความหวังกับวงเอ็มเอสเอ็นไว้สูงมาก แค่เชิญลู่เฉินมาเขียนเพลงและควบคุมการผลิตให้ก็มีค่าใช้จ่ายเกินหนึ่งล้านหยวนแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการโปรโมตที่มีความสำคัญที่สุดนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ให้ตกหล่น

ว่ากันว่าบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเตรียมค่าโปรโมตไว้สูงถึงห้าล้านหยวน!

ด้วยเหตุนี้จึงนำพาความกดดันมหาศาลมาให้ลู่เฉิน

เขาเขียนเพลงสามเพลงให้วงเอ็มเอสเอ็น รวมถึงเพลงหลักอย่างเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ทั้งหมดเป็นเพลงที่คัดสรรมาแล้วว่าโดดเด่นที่สุด แต่ความนิยมของตลาดกับความชอบของแฟนคลับนั้น ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจยากมาก

บางเพลงเป็นเพลงที่ไม่เลวเลย แต่ไม่โด่งดัง ในขณะที่เพลงแย่ๆ บางเพลงกลับโด่งดังไปทั้งประเทศ

แม้ลู่เฉินจะเชื่อมั่นในตัวเองมาก แต่บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดได้ลงทุนไปกับอัลบั้มนี้เกินสิบล้าน หากล้มเหลว ก็จะส่งผลถึงเขามากจริงๆ

เพราะตอนนี้ผลงานเพลงของเขาหนึ่งเพลง ขายออกสู่ภายนอกในราคาสูงถึงสามแสนห้าถึงสี่แสนหยวน ทั้งหมดล้วนเป็นเพลงชั้นยอด

หากขายราคาสูงลิบลิ่วเช่นนี้แต่ไม่ได้ผลตามที่ควรจะเป็น ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานคงจะถูกทำลาย!

ลู่เฉินเติบโตแบบก้าวกระโดดเร็วเกินไป มีหลายคนในวงการที่อิจฉาริษยาเขา

แน่นอนว่ามีอีกมากที่จ้องมองและรอคอยหัวเราะเยาะเขาอยู่!

เรื่องราวเหล่านี้เฉินเฟยเอ๋อร์เป็นคนบอกลู่เฉินเอง

เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน กลิ่นอายฤดูใบไม้ร่วงค่อยๆ เข้มข้นขึ้น

ตั้งแต่กลับจากเมืองหังโจวมาถึงปักกิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เฉินได้พบหน้าเฉินเฟยเอ๋อร์ ที่ร้านอาหารตะวันตกแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง

ร้านอาหารชื่อดังร้านนี้มีรางวัลมิชลินสตาร์เป็นการันตี ปกติมักจองที่นั่งไม่ค่อยได้

แต่สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์ เห็นชัดว่านี่ไม่เป็นปัญหา

ดูภายนอกลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาพบปะพูดคุยกันเรื่องอัลบั้มใหม่ของฝ่ายหญิง แต่ในใจของทั้งคู่กลับรู้ดีว่า ความจริงแล้วครั้งนี้คือการนัดเดตที่แท้จริง

แต่ไม่มีใครคิดจะเปิดเผยออกมาก่อน

“ฉันกำลังเตือนนาย อย่าทำอะไรเกินตัว!”

เฉินเฟยเอ๋อร์กำลังรับประทานของหวานหลังจากอาหารจานหลัก เมื่อหั่นชีสเค้กเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว เธอพูดกับลู่เฉินอย่างจริงจังว่า “คนหน้าใหม่ในวงการบันเทิงหลายคนที่ดังเร็วเกินไป ถูกยกย่องขึ้นสูง แล้วก็ตกลงมาอย่างน่าอนาถ”

ลู่เฉินพยักหน้า

ช่วงหลังมานี้ เขาดูจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเกินไปหน่อย

อย่างแรกคือช่วยคนกำจัดคนร้ายที่เมืองหังโจว จากนั้นเป็นการระดมทุนเพื่อการกุศล ตามด้วยบทสัมภาษณ์ลง ‘หนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี’ …

ศิลปินหน้าใหม่คนหนึ่ง หากได้ทำข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวไปแม้แต่เพียงข้อเดียว ก็จะได้หน้ามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาทันที

แต่ลู่เฉินกลับทำได้ทั้งสามอย่าง บอกได้ว่าได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์

จนถึงตอนนี้ บล็อกล่างฉาวของเขามีแฟนคลับอย่างเป็นทางการเกินสิบล้านบัญชีไปแล้ว!

ชื่อเสียงย่อมนำมาซึ่งผลประโยชน์

อันดับแรกเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ กำลังเจรจากับลู่ซีเพื่อเตรียมเซ็นสัญญากับลู่เฉินอีกฉบับ

ความร่วมมือของลู่เฉินกับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญาสองปี นอกจากการแบ่งเงินรางวัลแล้ว แต่ละปียังได้ค่าทำสัญญาอีกห้าแสนหยวน

ตอนนั้นสัญญานี้เป็นที่พอใจแก่ทั้งสองฝ่าย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่เหมาะสมเสียแล้ว

เพราะว่าสัญญาฉบับนี้ไม่คู่ควรกับชื่อเสียงและสถานะของลู่เฉินในตอนนี้แล้ว!

ไม่ใช่ลู่เฉินเป็นฝ่ายขอยกเลิกสัญญาก่อน แต่เป็นเพราะทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำสัญญาใหม่

ลู่เฉินอาศัยเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ในการก่อร่างสร้างตัว แล้วมามีชื่อเสียงจากรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ แม้ว่าเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จะให้ค่าตอบแทนที่ดีแก่เขา แต่ลู่เฉินก็ได้มอบผลตอบแทนที่น่าตกใจคืนกลับไปให้ทางเว็บไซต์เช่นกัน

อย่าเพิ่งพูดถึงชื่อเสียงของห้องออกอากาศลู่เฟย แค่ความสำเร็จของเขาก็ทำให้เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ อาศัยสิ่งนี้นำมาใช้ดึงดูดผู้ออกอากาศดีๆ ได้มากมาย จำนวนบัญชีผู้เข้ามาใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม้ทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ สามารถทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รอจนสัญญาของลู่เฉินครบสองปีก่อนก็ได้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ โอกาสที่ลู่เฉินจะเซ็นสัญญาต่อก็ไม่มีอีกแล้ว

จุดสำคัญคือ สัญญาฉบับนี้ได้ถูกคนขุดคุ้ยออกมา ทำให้เว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ถูกสั่นคลอน

ค่าเซ็นสัญญาห้าแสน?

น่าขำสิ้นดี!

ดังนั้นเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต และเพื่อเหนี่ยวรั้งลู่เฉินผู้เป็นเหมือนแผ่นป้ายทองคำให้อยู่ต่อ ทางเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงได้เสนอสัญญาฉบับใหม่ให้สตูดิโอลู่เฉิน

ตอนนี้ลู่ซีเป็นตัวแทนของลู่เฉินในการเจรจากับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ น่าจะได้ค่าเซ็นสัญญาประมาณสามล้านขึ้นไป!

ลู่เฉินตั้งใจจะทำสัญญากับเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ต่อไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่งอยู่แล้ว แต่เรื่องผลประโยชน์ที่ควรได้รับเขาก็ไม่มีทางยอมปล่อยมือ

นอกจากเว็บไซต์ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แล้ว ยังมีอีกหลายแห่งที่ต้องการทำสัญญาพรีเซ็นเตอร์กับลู่เฉิน ในนั้นมีทั้งบริษัทในและต่างประเทศ ยังมีบริษัทการแสดงและเอเจนซี่อีกมากมายติดต่อเข้ามา ทำให้ลู่ซีงานยุ่งจนหัวหมุน

ส่วนการเชื้อเชิญในรูปแบบอื่นๆ ก็มีอีกจำนวนนับไม่ถ้วน

วงการบันเทิงเป็นเหมือนแหล่งรวมชื่อเสียงและผลประโยชน์ มีศิลปินมากมายที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนถูกกลืนกินเข้าสู่วงจรชื่อเสียงและผลประโยชน์อันจอมปลอมอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนค่อยๆ สูญเสียความตั้งใจดั้งเดิมของตัวเองไป สุดท้ายเกิดข่าวเสียหายทำลายชื่อเสียงจนดับดิ้น หมดสิ้นอนาคต

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่อยากให้ลู่เฉินเป็นหนึ่งในนั้น

เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าวงการบันเทิงซับซ้อนแค่ไหน ลู่เฉินโชคดีที่เป็นศิลปินอิสระ ถ้าเข้าไปอยู่ในบริษัทเอเจนซี่ดาราเข้าแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเขาจะต้องเผชิญกับอาวุธทั้งในที่ลับและที่แจ้งมากแค่ไหน!

สำหรับคำเตือนด้วยความหวังดีของเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินพยักหน้าเข้าใจ “ผมรู้แล้วครับ พี่เฟย”

บอกตามตรง ช่วงนี้เขาเริ่มรู้สึกตัวลอยอยู่บ้างเหมือนกัน

โชคดีที่รอบข้างเขามีแต่มิตรสหายที่ดี!

ตอนที่ตอบออกไปนั้น รู้สึกเหมือนผีร้ายกำลังบงการเขาอยู่ ลู่เฉินยื่นมือออกไปช่วยเช็ดคราบครีมชีสที่เปื้อนมุมปากของเฉินเฟยเอ๋อร์

เฉินเฟยเอ๋อร์ตื่นตะลึง แล้วพวงแก้มก็แดงเป็นลูกตำลึง ดูสวยน่ารักขึ้นมาทันที!

เธอไม่คิดว่าลู่เฉินจะกล้าขนาดนี้

ลู่เฉินเองก็คิดไม่ถึง

เพียงแค่นิ้วมือของเขาลูบผ่านผิวขาวเนียนนุ่มดังเนื้อหยกเบาๆ ก็ทำให้เกิดความฮึกเหิมขึ้นมา

ลู่เฉินวางมือลง ทับมือของเฉินเฟยเอ๋อร์พอดี

เขาจ้องมองฝ่ายหญิงด้วยสายตาอันเป็นประกาย

ตอนแรกเฉินเฟยเอ๋อร์ถลึงตา แล้วช้อนสายตาไปสบกับสายตาอันแรงกล้าของลู่เฉิน จากนั้นก้มหน้าลงด้วยความเขิน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอดึงสติกลับมา เงยหน้ามองแล้วถลึงตาใส่ลู่เฉินใหม่อีกครั้ง

ราวกับกำลังบอกว่า ‘นายจะกล้ามากเกินไปแล้วนะ!’

ลู่เฉินไม่ปล่อยมือ เขาเอ่ยปากพูดออกไปตามตรง “พี่เฟย ผมชอบพี่ครับ”

เขาไม่ใช่ชายหนุ่มที่เพิ่งมีความรักครั้งแรก และก็ไม่อยากปิดซ่อนความรู้สึกดีๆ ที่แอบมีให้เฉินเฟยเอ๋อร์ไปแบบนี้เรื่อยๆ ดังนั้นจึงเลือกใช้โอกาสนี้สารภาพรักตามตรง

เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง แต่เธอไม่ใช้สาวน้อยอายุสิบแปด เธอถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบว่า “ลู่เฉิน นายให้ฉันคิดทบทวนให้ดีก่อนได้ไหม”

เธอไม่ปฏิเสธว่าเธอก็รู้สึกดีกับลู่เฉินเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ทันได้เตรียมตัวที่จะเริ่มต้นความรักแบบรักต่างวัย

ลู่เฉินพยักหน้า หดมือกลบพร้อมกับตอบไปว่า “ได้ครับ”

เฉินเฟยเอ๋อร์รู้สึกผิด เธอคว้ามืออันใหญ่โตของลู่เฉินไว้ เอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “ขอบใจนะ”

ลู่เฉินไม่ได้ดึงมือกลับมาอีก

ทั้งสองคนไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำใด ต่างฝ่ายต่างซึมซับความอบอุ่นที่ไหลผ่านมือของทั้งคู่อย่างเงียบๆ

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนด้านนอกดูจะอ่อนโยนลงกว่าเดิม

…………………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด