ตอนที่ 409 จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ

วันที่ 14 สิงหาคม ละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตงได้จบลงโดยสมบูรณ์

สี่ตอนที่ออกอากาศเมื่อสองวันก่อน ได้เรตติ้งมากกว่า 4% ทั้งหมด จนคืนวันที่ 14 ฉายตอนที่ยี่สิบห้าซึ่งเป็นตอนจบ ทั้งสองสถานีได้เรตติ้งรวมสูงถึง 5.17% สุดท้ายเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องเกิน 3% เป็นไปตามคำคุยที่ลู่เฉินได้เคยกล่าวไว้ในตอนแรก

ขณะเดียวกันในประเทศเกาหลี ซีรี่ส์ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ก็ได้เรตติ้งสูงสุดถึง 42.72% เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 32.56% ไม่เพียงแต่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้รายการโทรทัศน์จีนในเกาหลี ยังชนะซีรี่ส์เกาหลีที่ออกอากาศในเวลาเดียวกัน จนเกิดเป็นกระแสโด่งดังในสังคมออนไลน์ของเกาหลี

ส่งผลให้ความนิยมของทั้งลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ในเกาหลีเพิ่มขึ้นมากมาย กลายเป็นนักแสดงชาวจีนที่โด่งดังที่สุดในเกาหลี!

ส่วนละครคู่แข่งที่เดิมทีช่วงชิงเรตติ้งอยู่กับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ อย่างละคร ‘ห้วงทะเลแห่งรัก’ ถูก ‘ฟูลเฮ้าส์’ ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับตำนานเหยียบย่ำอย่างไร้ปรานีจนไม่เหลือชิ้นดี แม้จะแบกหน้าออกอากาศจนจบเรื่องโดยไม่เปลี่ยนเวลาออกอากาศ ก็ยังกลายเป็นเรื่องน่าขบขันอยู่ดี

ผู้ชนะเป็นราชา ผู้แพ้เป็นโจร ฝ่ายที่ชนะย่อมต้องได้รับชื่อเสียงเกียรติยศ ‘ฟูลเฮ้าส์’ แม้จะฉายจบแล้ว แต่ในอินเทอร์เน็ตความร้อนแรงของละครเรื่องนี้ยังไม่ซาลง แฟนคลับที่ติดตามบัญชีทางการของละครมีมากกว่าห้าล้านคน ความนิยมสูงกว่าเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เสียอีก

ความโหยหาของแฟนคลับที่มีต่อ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ยังไม่เสื่อมคลาย จำนวนตอนสั้นๆ เพียงยี่สิบห้าตอนไม่อาจเติมเต็มความต้องการของพวกเขาหรือพวกเธอได้ เสียงเรียกร้องให้มีการฉายซ้ำหรือทำภาคต่อยิ่งมีมากขึ้น

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตงออกมาประกาศพร้อมกันว่าจะฉายเรื่อง ‘ฟูลเฮ้าส์’ ซ้ำอีกครั้งตอนปลายเดือนสิงหาคม

ขณะเดียวกันทางเฟยซวิ่นวิดีโอก็ได้ประกาศว่า ได้รับสิทธิ์ในการออกอากาศ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ทางอินเทอร์เน็ตแล้ว

‘ฟูลเฮ้าส์’ โด่งดังเกินไป เรตติ้งที่สูงจนถึงขั้นเห็นแล้วตาลุกวาว ทำให้สถานีโทรทัศน์สิบกว่าแห่งตามหาลิขสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำ ราคาที่เสนอนั้นช่างล่อตาล่อใจ

แต่ทางสถานีโทรทัศปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตงไม่อยากเสียเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนี้ไป ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายก้อนโตเพื่ออาศัยข้อได้เปรียบในสัญญารักษาสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำเอาไว้ ไม่ยอมให้เนื้อชิ้นนี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่น

อีกอย่างทางเดอะคราวน์พิคเจอร์สที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุน ก็ได้ขอซื้อลิขสิทธิ์ ‘ฟูลเฮ้าส์’ จากสตูดิโอลู่เฉินไปผลิตเป็นภาพยนตร์

เนื่องจากลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่มีความตั้งใจที่จะถ่ายทำ ‘ฟูลเฮ้าส์’ เป็นภาพยนตร์ อีกทั้งฝ่ายเดอะคราวน์ยังแสดงความจริงใจอย่างเปี่ยมล้น ดังนั้นการเซ็นสัญญาแลกเปลี่ยนฉบับนี้จึงตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว ค่าลิขสิทธิ์จบลงที่ยี่สิบห้าล้านหยวน

ส่วนหนังสือนิยายเรื่อง ‘ฟูลเฮ้าส์’ ทางสำนักพิมพ์ซานไห่เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์ในการพิมพ์หนังสือไป จำนวนที่พิมพ์ครั้งแรกสูงถึงห้าแสนเล่ม

ยังมีการ์ตูน แบรนด์สินค้า แผ่นซาวด์แทร็ก…

จากการประเมินรายได้รวมทั้งหมดดังกล่าว สุดท้าย ‘ฟูลเฮ้าส์’ ทำเงินให้กับสตูดิโอลู่เฉินได้เกินกว่าร้อยล้านหยวน ซ้ำยังเป็นตัวเลขหลังหักภาษีแล้ว

แค่ละครโทรทัศน์เรื่องเดียว เพียงพอให้สตูดิโอลู่เฉินกลายเป็นสตูดิโอของนักแสดงอันดับหนึ่ง!

นอกจากรายได้ ยังมีชื่อเสียง แฟนคลับที่ติดตามบล็อกของลู่เฉินมียอดทะลุเกินยี่สิบล้านไปแล้ว

“ในฐานะดาราไอดอลที่เพิ่งเข้าวงการได้ปีกว่า ลู่เฉินเป็นนักแสดงที่สร้างปรากฏการณ์ได้มากที่สุดคนหนึ่ง ความสามารถทางดนตรีของเขาเป็นที่ประจักษ์ ทั้งยังเชี่ยวชาญด้านการเขียนบทละครและการแสดง ความเก่งกาจที่มีทำให้คนอิจฉาตาร้อน ราวกับเป็นพรสวรรค์ที่ฟ้าประทาน”

เจ้าของบล็อกชื่อดังคนหนึ่งได้กล่าวไว้ “บอกว่าลู่เฉินเป็นดาราไอดอล เพราะเขามีทุกอย่างที่ไอดอลควรจะมี ความหนุ่มแน่น รูปร่างสูงใหญ่ ความหล่อเหลา ความแข็งแรง ออร่า…”

“แต่หากบอกว่าเขาเป็นเพียงดาราไอดอลนั้นคงจะไม่ยุติธรรม เขามีศักยภาพที่จะเป็นซูเปอร์สตาร์ที่แท้จริงแล้ว ขาดเพียงแต่รางวัลเกียรติยศที่คู่ควรเท่านั้น!”

สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือหนึ่งในสองรางวัลใหญ่ของวงการละครโทรทัศน์อย่างรางวัลแมกโนเลียอวอร์ดส์ ซึ่งปลายเดือนนี้จะมีการประกาศชื่อผู้เข้าชิง ในฐานะละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดเรื่องหนึ่งในปีที่แล้ว ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ลู่เฉินเป็นทั้งนักเขียนบทและนักแสดงหลัก ต้องเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงอย่างไม่ต้องสงสัย

อดไม่ได้ที่จะมีคนคาดหวังให้ลู่เฉินได้รางวัลแมกโนเลียอวอร์ดส์นี้

ละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักเขียนบทละครยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม เพลงประกอบละครยอดเยี่ยม…

ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ลู่เฉินประกาศว่าสิ้นเดือนนี้จะออกอัลบั้มส่วนตัวชุดที่สอง ‘เส้นทางธรรมดา’ และยังจะจัดกิจกรรมระดมทุนออนไลน์ไปพร้อมกัน อีกทั้งยังมีแผนงานเดินสายโปรโมตในเจ็ดเมืองใหญ่ทั่วประเทศ!

อัลบั้มที่สองของลู่เฉินเรียกได้ว่าเป็นการรอคอยของผู้คนจำนวนมาก เพลงทั้งสิบเพลงอัดเสียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังดำเนินการในขั้นต่อไปอย่างเข้มงวด เขาเลือกเมืองหังโจวเป็นเมืองแรกที่มาทำการโปรโมต

เมืองหังโจวมีความหมายพิเศษสำหรับลู่เฉิน เขาคิดถึงช่วงเวลาที่เรียนมหาวิทยาลัยที่นี่ รวมทั้งความทรงจำที่สวยงามและเจ็บปวดนับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นที่เมืองนี้

มาถึงเมืองหังโจววันแรก ลู่เฉินไปพบปะกับเกาเฮ่อและหวังเสี่ยวหลิงเพื่อนเก่าที่เพิ่งแต่งงานกันไปไม่นาน

อาหารค่ำเกาเฮ่อจองไว้ที่โรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเมืองหังโจว เพื่อเลี้ยงต้องรับลู่เฉิน

แต่การรับประทานอาหารไม่ใช่จุดประสงค์หลัก เกาเฮ่อได้ลาออกจากบริษัทเดิมที่ทำงานอยู่แล้ว

สองเดือนก่อนตอนที่เขาแต่งงานกับหวังเสี่ยวหลิง ลู่เฉินได้ยื่นข้อเสนอให้ทั้งคู่ว่าจะลงทุนสร้างบริษัทเกมแห่งหนึ่งให้ โดยมีลู่เฉินเป็นผู้ลงทุนและออกไอเดีย ให้เขามาจัดการบริหารกิจการ

ผ่านไปสองเดือน เกาเฮ่อเตรียมตัวสร้างกิจการของตัวเองแล้ว แน่นอนว่ามีเหตุผล

“เพราะทางบ้านของหวังเสี่ยวหลิง…”

เกาเฮ่อยิ้มขมขื่นพลางอธิบายให้ลู่เฉินฟังด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย

หวังเสี่ยวหลิงเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก

แม้ทั้งสองคนต่อต้านการขัดขวางของครอบครัวจนได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่พ่อตาแม่ยายของเกาเฮ่อยังคงไม่พอใจ ความจริงเป็นเพราะปัญหาเรื่องซื้อบ้านแท้ๆ

ทั้งสองคนทำงานในบริษัทเหมือนกัน ต่อให้เงินเดือนรวมกันยังไม่รู้จะได้ซื้อบ้านในเมืองหังโจวได้ในปีไหน คิดถึงอนาคตว่าจะมีลูกอีก จะให้เช่าบ้านไปตลอดงั้นหรือ? ดังนั้นจึงมีความคิดเห็นเชิงคัดค้านค่อนข้างมาก

พ่อตาแม่ยายเห็นแก่หน้าตา หวังเสี่ยวหลิงแต่งออกไปแบบนี้ รู้สึกว่าไม่มีหน้ามีตาจะไปพบเพื่อนฝูง จึงเอาแต่พร่ำบ่นกับหวังเสี่ยวหลิงอยู่เรื่อย

หวังเสี่ยวหลิงถูกทางบ้านตำหนิมากๆ เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงคำสัญญาที่ลู่เฉินให้ไว้ เพื่อใช้เป็นหลักประกันว่าตัวเองอยู่กับเกาเฮ่อนั้นมีอนาคต

สุดท้ายพ่อตาแม่ยายของเกาเฮ่อได้ฟัง ก็นำเรื่องนี้ไปพูดกับญาติมิตรคนอื่น แม้แต่เพื่อนร่วมงานของเกาเฮ่อยังรู้เลย

มันน่าอับอาย เกาเฮ่อจะทนทำงานในบริษัทต่อไปได้อย่างไร จึงลาออกจากงานมา

ตอนนี้เขาถูกผลักไปอยู่หน้ากองไฟ ดังนั้นจึงอาศัยจังหวะที่ลู่เฉินมาที่นี่รื้อฟื้นเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีกครั้ง พูดคุยเกี่ยวกับงานของตัวเอง

ฟังจบลู่เฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แน่นอนว่านี่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ตอนแรกเขาไม่ได้ให้คำสัญญาไปแบบส่งๆ เสียหน่อย

ในเมื่อเกาเฮ่อลาออกจากงานมาแล้ว อย่างนั้นก็แค่เริ่มแผนการก่อนกำหนด!

ยิ่งไปกว่านั้นลู่เฉินก็ได้เตรียมการไว้แล้ว

ติดตาม Perfect Superstar ได้ทุกวัน วันละ 2 ตอน!

เวลา 12:00 น. และ 20:00 น.