Perfect Superstar 32 บาร์บลูโลตัส

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 32 บาร์บลูโลตัส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม อากาศแจ่มใส

 

ท้องฟ้าคล้ายเพิ่งถูกชะล้างไป แจ่มใสจนคาดไม่ถึง ม่านสีน้ำเงินบริสุทธิ์ไม่ได้ถูกฉาบด้วยปุยเมฆขาว รู้สึกเหมือนไม่จริงยิ่ง

 

ถึงไม่กี่ปีมานี้เมืองหลวงจะปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและขจัดมลภาวะเป็นการใหญ่ จนสลัดหลุดจากสมญานาม“นครฝุ่น”มาได้นานแล้วก็ตาม แต่วันธรรมดานั้นท้องฟ้าสีครามแบบนี้ก็ไม่ค่อยได้พบเห็น ทำให้จิตใจคนอดที่จะเบิกบานขึ้นมาไม่ได้

 

แม้ว่าจะยังไม่ถึงช่วงที่ร้อนที่สุดของปี แต่เหล่าหญิงสาวในเมืองก็เปลี่ยนมาสวมชุดหน้าร้อนอันงดงามนานแล้ว กระโปรงสั้นพริ้วไสวบนท้องถนน โชว์ขายาวและความเป็นวัยรุ่นของพวกเธอตามอำเภอใจ

 

“ต้าเฉิน!”

 

หลี่เฟยอวี่หิ้วกล่องหนังวิ่งหอบตามมา แล้วหันมาพูดเอะอะกับลู่เฉินที่กำลังชื่นชมวิวทิวทัศน์ข้างทางว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ ไปช้าบางทีที่นั่งอาจถูกคนยึดไป!”

*(ฮั่นแน่~ ลู่เฉินแอบส่องกระโปรงสาวๆละสิ!)

 

“ต้าเฉิน”เป็นคำเรียกใหม่ที่สหายเสี่ยวเฟยเกอใช้เรียกลู่เฉิน เดิมทีเขามักจะเรียกว่า“ซุปเปอร์สตาร์”บ้าง “เสี่ยวลู่”บ้าง “พี่น้อง”บ้าง มั่วๆไปหมด ตอนนี้เมื่อพิจารณาถึงสถานะของลู่เฉินที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงครุ่นคิดให้รอบคอบ สุดท้ายจึงตัดสินใจเรียกด้วยชื่อที่เข้าใจไปเองว่าจะแสดงความสนิทสนมนี้

 

อ้างอิงตามสำนวนการพูดของหลี่เฟยอวี่แล้ว คนที่มีฐานะต่างต้องมีคำว่า“ต้า”หรือ“แหย*”ผสมชื่อด้วย ตอนนี้ลู่เฉินยังไม่ถึงกับระดับ“แหย”ชั่วคราว แต่คำว่า“ต้า”นั้นกลับไม่มีปัญหาเลย เรียกไปก็ไม่มีใครดูแคลน

*(ใช้เรียกปู่หรือใช้เรียกเจ้านายซึ่งเป็นคำเก่าๆ สรุป หลี่เฟยอวี่นายแก่นี่!)

 

ลู่เฉินๆ พอเรียกต้าลู่(แผ่นดิน)ก็ไม่เพราะและอาจเข้าใจผิดอีก ครั้นแล้วจึงเรียกว่าต้าเฉินนั่นเอง

 

พอเป็นแบบนี้แล้วลู่เฉินก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีจริงๆ จนใจที่หลี่เฟยอวี่นั้นปากตลาดมาก ปากตลาดระดับที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งตลาดนัด เขาไหนเลยจะพูดห้ามได้ ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

 

“ฉันว่าฉันพูดสามครั้งแล้วนะ ที่นั่งเราเขากำหนดไว้แล้ว…”

 

ลู่เฉินพูดอย่างจนใจ “คงไม่ถูกคนอื่นแย่งหรอก ตอนนี้ก็แค่โผล่ไปดูลาดเลาก่อนสักหน่อยแค่นั้นละ”

 

คืนนี้บาร์บลูโลตัสในโฮ่วไห่จะจัดกิจกรรมค่ำคืนดนตรี บริษัทสปอนเซอร์ก็คือบริษัทไลท์เรนมีเดีย ว่ากันว่างานที่จัดในครั้งนี้นั้นจัดได้ยิ่งใหญ่มาก เป็นครั้งหนึ่งที่จัดงานยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ ทั้งยังเชิญคนในวงการมาไม่น้อย

 

ลู่เฉินเองก็อยู่ในรายชื่อนักร้องรับเชิญ ตอนที่คนฝั่งบลูโลตัสถามเขาว่ามีข้อเรียกร้องอะไรบ้าง เขาก็คิดแล้วจึงขอที่นั่งวีไอพี พร้อมกับหวังว่าบลูโลตัสจะยอมอนุญาตให้เขาทำการไลฟ์สดในค่ำคืนดนตรีอีกด้วย

 

ไม่ผิด โปรแกรมของห้องไลฟ์ลู่เฟยในคืนนี้ จะเป็นการไลฟ์ในค่ำคืนดนตรี!

 

ความคิดนี้เกิดขึ้นในตอนที่เฉินเจี้ยนฮ่าวบอกลู่เฉินเกี่ยวกับคำเชิญ สำหรับรูปแบบเนื้อหาของการไลฟ์ออนไลน์ตอนนี้นั้นยิ่งมาก็ยิ่งหลากหลายมากขึ้น ซึ่งหากให้แต่ละวันมานั่งอยู่หน้าคอมร้องเพลงเล่าเรื่อง เหล่าแฟนๆและผู้ชมก็อาจจะเบื่อได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆเข้ามา

 

การที่เขาขึ้นเวทีแสดงในค่ำคืนดนตรีนั้น ย่อมต้องเป็นมุขที่ยอดเยี่ยมยิ่งแน่นอน!

 

เพื่อบรรลุเป้าหมาย ลู่เฉินไม่เสียดายสักนิดเลยที่จะเอ่ยต่อคนฝั่งบลูโลตัสว่าจะแลกกับการไม่ขอรับค่าตัว

 

เขาเชื่อว่าของขวัญของพวกปลาป่นเหล่านั้นเพียงพอที่จะชดเชยค่าตัวของเขาได้

 

แต่สต๊าฟทางด้านนั้นใจใหญ่มากๆ ไม่เพียงแต่จะเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของลู่เฉินทั้งหมดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นค่าตอบแทนส่วนหนึ่งก็ไม่น้อยเลยด้วย!

 

ค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสนั้นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยห้ามถ่ายวิดีโอ กระทั่งยังถ่ายทอดสดปล่อยไปบนอินเตอร์เน็ตให้รับชมกันก่อนอีกต่างหาก เพราะอย่างนี้เลยสามารถเพิ่มผลเชิงบวกให้กับอีเว้นท์ได้

 

ครั้นแล้วลู่เฉินจึงได้ที่รับที่นั่งวีไอพีมาโต๊ะหนึ่งอย่างราบรื่น ที่นั่งนี้เขาไม่ได้นั่งเอง แต่จะมอบให้กับหลี่เฟยอวี่

 

เพราะการไลฟ์สดนั้นจะต้องมีคนมาช่วย เสี่ยวเฟยเกอย่อมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด และเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่มีอีกด้วย

 

ซึ่งหลังจากที่หลี่เฟยอวี่รับรู้ เขาก็ยินดีเป็นอย่างมาก สองวันก่อนจึงเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าแล้ว

 

ความจริงการไลฟ์กลางแจ้งนั้นง่ายดายมาก แค่ใช้สมาร์ทโฟน4Gเครื่องหนึ่งก็ทำได้แล้ว ซึ่งหลี่เฟยอวี่นั้นกลับไม่สะเพร่าเลยสักนิด นอกจากจะเตรียมกล้องเว็บแคมHDและไมค์คุณภาพสูงที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว เขายังซื้ออุปกรณ์ต่างๆอย่างขาตั้งกล้อง กล่องถ่ายวิดีโอ และอุปกรณ์กรองเสียงแบบครบชุดมาเพิ่มอีกต่างหาก

 

แน่นอนว่าของพวกนี้ย่อมเป็นลู่เฉินจ่ายเงินให้ หลังจากนี้อาจจะมีประโยชน์ก็ได้

 

“เวลาไม่เช้าแล้วรีบๆไปเตรียมตัวกันเหอะ!”

 

หลี่เฟยอวี่หัวเราะฮาฮาแล้วพูดว่า “ฉันเคยได้ยินคนอื่นพูดกันมานานแล้วนะว่าค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสเนี่ย คึกคักมาก เสี่ยวเหม่ยเองก็เคยมา ครั้งนี้ฉันเลยบอกเธอว่าจะได้นั่งโต๊ะวีไอพีทำไลฟ์สดด้วย เธอเลยพูดว่าจะเข้ามาดูห้องไลฟ์ของพวกเราคืนนี้น่ะ!”

 

เขาพูดจนหน้าบาน เผยหางออกมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

 

ลู่เฉินกล่าวถามอย่างประหลาดใจว่า “เสี่ยวเหม่ยไม่ใช่ลาออกแล้วเหรอ? นายติดต่อหล่อนได้ยังไงน่ะ?”

 

เสี่ยวเหม่ยเป็นประชาสัมพันธ์ในร้าน4Sที่หลี่เฟยอวี่ทำงานอยู่ เธอเป็นคนสวยที่มีคนไล่ตามจีบมากมาย และหลี่เฟยอวี่เองก็เป็นหนึ่งในคนที่แอบหลงรักเธอด้วยเช่นกัน

 

จะว่าไปตอนแรกที่หลี่เฟยอวี่เล่นไลฟ์นั้น เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเสี่ยวเหม่ยนี่ล่ะ ว่ากันว่าฝ่ายหลังตั้งแต่ไลฟ์ก็มีรายได้หลายแสน กระทั่งงานในร้าน4Sก็ไม่อยากทำอีกต่อไปแล้ว จะหันมาทำอาชีพไลฟ์สตรีมเมอร์แทน

 

“อย่าพูดถึงเลยน่า!”

 

หลี่เฟยอวี่พูดอย่างเสียดายว่า “ห้องไลฟ์ของเสี่ยวเหม่ยน่ะละเมิดกฎจนโดนแบนไปแล้ว เธอเลยไม่ลาออกน่ะ”

 

แม้น้ำเสียงจะดูเสียดาย แต่ใบหน้าของเขากลับไม่ได้แสดงสีหน้าเสียใจเลยสักนิด กลับมีท่าทางเบิกบานเสียมากกว่า

 

ลู่เฉินหลุดหัวเราะพรืด ไม่ได้พูดมากอะไร

 

เสี่ยวเหม่ยที่รู้จักแต่ไม่เคยเห็นหน้าคนนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ได้สวยมาก แต่หลี่เฟยอวี่ก็ชอบไปแล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก

 

“แท็กซี่!”

 

หลี่เฟยอวี่โบกมือขวางแท็กซี่ที่เพิ่งผ่านมาคันหนึ่ง

 

คนทั้งสองรีบไปโฮ่วไห่ด้วยกัน คนขับแท็กซี่ในเมืองหลวงก็ไม่ใช่ไม่คุ้นเคยแถวนั้น หลังจากบอกที่อยู่จึงแล่นมาจนถึงลานจอดรถนอกบาร์บลูโลตัสอย่างรวดเร็ว

 

แต่เดิมพื้นที่บาร์บลูโลตัสเป็นโรงงานเล็กๆข้างถนน ต่อมาหลังจากปรับปรุงเมืองหลวงก็มีรูปร่างเช่นเดียวกับในปัจจุบัน ด้านหน้าร้านเป็นถนนคนเดินที่คึกคัก ส่วนด้านหลังก็เป็นทะเลสาบเทียมที่มีคลื่นซัดสาด

 

ไม่เหมือนกับบาร์เดย์ลิลลี่ ลานจอดรถที่เป็นของบาร์บลูโลตัสนั้นมีกระทั่งถนนลาดยางสองเลนเลยด้วยซ้ำ เพราะทางเข้าออกสะดวกสบายเช่นนี้เอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเวลาธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือมาช้าก็จะไม่มีที่นั่งว่างเหลือ กิจการนั้นเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง

 

แต่สิ่งที่ทำให้คนอิจฉากันสุดๆนั้นก็คือ กรรมสิทธิ์ที่ดินร้านขนาดใหญ่รวมทั้งลานจอดรถที่มีพื้นที่กว้างขวางทั้งหมดต่างก็ถูกชางเว่ยเถ้าแก่บาร์บลูโลตัสซื้อไว้นานแล้ว ถ้าหากเขาลาวงการไม่ทำงานต่อ แค่ขายอสังหาริมทรัพย์ก็ใช้ได้ไปสามชั่วรุ่นแล้ว!

 

แต่ชางเว่ยไม่เคยมีความคิดนี้เลย เขาบริหารร้านเหล้าของตัวเองอย่างตั้งใจมาโดยตลอด ด้วยความประพฤติเช่นนี้ก็ยิ่งส่องประกายความหาญกล้าของเขา คนในวงการธุรกิจเมื่อพูดถึงทีไร ก็ยังอดยกนิ้วโป้งให้เขาไม่ได้

 

ค่ำคืนดนตรีจะเริ่มงานตอนทุ่มหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ถึงห้าโมงเย็นเลย แต่ก็มีคนมากมายล่วงหน้ามาถึงก่อนเหมือนกับคนทั้งสองแล้วเช่นกัน พวกเขาบางคนก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพของลู่เฉิน เพียงแต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ชม

 

พื้นที่กับเวทีนั้นถูกจัดเตรียมเอาเสร็จแล้ว ระบบไฟระบบเสียงรวมถึงจอLEDขนาดใหญ่ก็ติดตั้งไปไม่น้อย สต๊าฟหลายคนกำลังเร่งทำงานปรับแต่งเครื่องเสียง และมีบางคนกำลังตรวจเช็คสภาพช่วงสุดท้ายอยู่

 

พอลงจากรถตรงทางเข้า หลี่เฟยอวี่ก็มองจนตาตั้ง “ถล่มมัน นี่ยังนับเป็นงานอีเว้นท์ร้องเพลงอยู่อีกไหมเนี่ย!”

 

พื้นที่ลานจอดรถนั้นกว้างขวางเพียงพอ แม้จะแยกเวทีไว้ส่วนหนึ่ง การจุรับผู้ชมสองสามพันคนก็ยังคงไม่มีปัญหา ทั่วโฮ่วไห่ก็มีแค่ที่นี่เท่านั้นที่มีความสามารถพอจัดอีเว้นท์ขนาดใหญ่แบบนี้ได้

 

“ทั้งสองท่านมาเข้าร่วมการแสดงด้วยใช่ไหมครับ?”

 

สต๊าฟของงานคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามอย่างสุภาพ

 

“ใช่ครับ!”

 

ลู่เฉินหยิบบัตรประชาชนกับตั๋ววีไอพีของตัวเองส่งให้อีกฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสนั้นได้จัดมาหลายครั้งแล้ว และมักจะเกิดเรื่องขึ้นเป็นประจำ ดังนั้นหากไม่มีบัตรประชาชนหรือตั๋วผู้ชมก็จะเข้างานไม่ได้

 

กระทั่งเขายังเห็นรถตำรวจสีขาวสลับน้ำเงินจอดอยู่ไม่ไกลนักด้วย น่าจะเป็นตำรวจที่สถานีตำรวจท้องที่ส่งมา

 

หลังจากสต๊าฟตรวจบัตรกับตั๋วแล้ว ก็พูดว่า “เชิญตามผมมาได้เลยครับ”

 

จากการนำทางของอีกฝ่าย ลู่เฉินและหลี่เฟยอวี่ทั้งสองคนก็เดินทะลุลานจอดรถ เข้ามาข้างในบาร์บลูโลตัส

 

การตกแต่งของบาร์บลูโลตัสนั้นให้บรรยากาศหรูหรากว่าเดย์ลิลลี่มาก เพียงแค่ความยาวของเคาน์เตอร์บาร์ที่ทำเป็นลูกคลื่นก็ยาวกว่าฝ่ายหลังสองเท่าแล้ว ตรงหิ้งเหล้าวางเหล้าหลากหลายสีสันจนเต็ม แก้วทรงสูงที่ห้อยลงมาหลายใบส่องแสงระยิบภายใต้แสงแวววาวของหลอดไฟ

 

ร้านแบ่งเป็นสามชั้น เวทีรูปตัวTเป็นแบบสากลมาก จอภาพด้านหลังก็มีขนาดอย่างน้อย500นิ้ว หลอดไฟแต่ละชนิดติดตั้งได้ชาญฉลาด อุปกรณ์ลำโพงทำให้คนอุทานอย่างชื่นชม

 

เนื่องจากคืนนี้มีการจัดงานอีเว้นท์ ดังนั้นภายในร้านจึงยังไม่ได้เปิดกิจการ ซึ่งห้องโถงชั้นล่างก็ถูกใช้เป็นพื้นที่หลังเวทีชั่วคราว โซนที่แบ่งออกมาได้ไม่เท่ากันนั้นมีไว้ให้นักร้องและวงดนตรีที่มาร่วมแสดงไว้ใช้

 

ตำแหน่งของบาร์เดย์ลิลลี่อยู่ติดฝั่งซ้ายด้านในเคาน์เตอร์ โต๊ะสามโต๊ะจัดรวมเป็นโต๊ะยาว พื้นที่ที่มอบให้นับว่าไม่น้อยเลย

 

ตัวแทนของบาร์เดย์ลิลลี่ที่จะขึ้นเวทีแสดงคืนนี้นั้นย่อมไม่ได้มีแค่ลู่เฉินคนเดียว แต่สมาชิกวงผั่งหวงกับพี่สาวนายังไม่มา ส่วนนักร้องร้านเหล้าร้านอื่นที่มาก็ไม่นับว่ามากนัก

 

หลังจากลู่เฉินวางกีตาร์ของตัวเองเอาไว้ ก็ขึ้นมาโซนวีไอพีตรงชั้นสองกับหลี่เฟยอวี่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Perfect Superstar 32 บาร์บลูโลตัส

Now you are reading Perfect Superstar Chapter 32 บาร์บลูโลตัส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม อากาศแจ่มใส

 

ท้องฟ้าคล้ายเพิ่งถูกชะล้างไป แจ่มใสจนคาดไม่ถึง ม่านสีน้ำเงินบริสุทธิ์ไม่ได้ถูกฉาบด้วยปุยเมฆขาว รู้สึกเหมือนไม่จริงยิ่ง

 

ถึงไม่กี่ปีมานี้เมืองหลวงจะปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและขจัดมลภาวะเป็นการใหญ่ จนสลัดหลุดจากสมญานาม“นครฝุ่น”มาได้นานแล้วก็ตาม แต่วันธรรมดานั้นท้องฟ้าสีครามแบบนี้ก็ไม่ค่อยได้พบเห็น ทำให้จิตใจคนอดที่จะเบิกบานขึ้นมาไม่ได้

 

แม้ว่าจะยังไม่ถึงช่วงที่ร้อนที่สุดของปี แต่เหล่าหญิงสาวในเมืองก็เปลี่ยนมาสวมชุดหน้าร้อนอันงดงามนานแล้ว กระโปรงสั้นพริ้วไสวบนท้องถนน โชว์ขายาวและความเป็นวัยรุ่นของพวกเธอตามอำเภอใจ

 

“ต้าเฉิน!”

 

หลี่เฟยอวี่หิ้วกล่องหนังวิ่งหอบตามมา แล้วหันมาพูดเอะอะกับลู่เฉินที่กำลังชื่นชมวิวทิวทัศน์ข้างทางว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ ไปช้าบางทีที่นั่งอาจถูกคนยึดไป!”

*(ฮั่นแน่~ ลู่เฉินแอบส่องกระโปรงสาวๆละสิ!)

 

“ต้าเฉิน”เป็นคำเรียกใหม่ที่สหายเสี่ยวเฟยเกอใช้เรียกลู่เฉิน เดิมทีเขามักจะเรียกว่า“ซุปเปอร์สตาร์”บ้าง “เสี่ยวลู่”บ้าง “พี่น้อง”บ้าง มั่วๆไปหมด ตอนนี้เมื่อพิจารณาถึงสถานะของลู่เฉินที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงครุ่นคิดให้รอบคอบ สุดท้ายจึงตัดสินใจเรียกด้วยชื่อที่เข้าใจไปเองว่าจะแสดงความสนิทสนมนี้

 

อ้างอิงตามสำนวนการพูดของหลี่เฟยอวี่แล้ว คนที่มีฐานะต่างต้องมีคำว่า“ต้า”หรือ“แหย*”ผสมชื่อด้วย ตอนนี้ลู่เฉินยังไม่ถึงกับระดับ“แหย”ชั่วคราว แต่คำว่า“ต้า”นั้นกลับไม่มีปัญหาเลย เรียกไปก็ไม่มีใครดูแคลน

*(ใช้เรียกปู่หรือใช้เรียกเจ้านายซึ่งเป็นคำเก่าๆ สรุป หลี่เฟยอวี่นายแก่นี่!)

 

ลู่เฉินๆ พอเรียกต้าลู่(แผ่นดิน)ก็ไม่เพราะและอาจเข้าใจผิดอีก ครั้นแล้วจึงเรียกว่าต้าเฉินนั่นเอง

 

พอเป็นแบบนี้แล้วลู่เฉินก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีจริงๆ จนใจที่หลี่เฟยอวี่นั้นปากตลาดมาก ปากตลาดระดับที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งตลาดนัด เขาไหนเลยจะพูดห้ามได้ ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

 

“ฉันว่าฉันพูดสามครั้งแล้วนะ ที่นั่งเราเขากำหนดไว้แล้ว…”

 

ลู่เฉินพูดอย่างจนใจ “คงไม่ถูกคนอื่นแย่งหรอก ตอนนี้ก็แค่โผล่ไปดูลาดเลาก่อนสักหน่อยแค่นั้นละ”

 

คืนนี้บาร์บลูโลตัสในโฮ่วไห่จะจัดกิจกรรมค่ำคืนดนตรี บริษัทสปอนเซอร์ก็คือบริษัทไลท์เรนมีเดีย ว่ากันว่างานที่จัดในครั้งนี้นั้นจัดได้ยิ่งใหญ่มาก เป็นครั้งหนึ่งที่จัดงานยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ ทั้งยังเชิญคนในวงการมาไม่น้อย

 

ลู่เฉินเองก็อยู่ในรายชื่อนักร้องรับเชิญ ตอนที่คนฝั่งบลูโลตัสถามเขาว่ามีข้อเรียกร้องอะไรบ้าง เขาก็คิดแล้วจึงขอที่นั่งวีไอพี พร้อมกับหวังว่าบลูโลตัสจะยอมอนุญาตให้เขาทำการไลฟ์สดในค่ำคืนดนตรีอีกด้วย

 

ไม่ผิด โปรแกรมของห้องไลฟ์ลู่เฟยในคืนนี้ จะเป็นการไลฟ์ในค่ำคืนดนตรี!

 

ความคิดนี้เกิดขึ้นในตอนที่เฉินเจี้ยนฮ่าวบอกลู่เฉินเกี่ยวกับคำเชิญ สำหรับรูปแบบเนื้อหาของการไลฟ์ออนไลน์ตอนนี้นั้นยิ่งมาก็ยิ่งหลากหลายมากขึ้น ซึ่งหากให้แต่ละวันมานั่งอยู่หน้าคอมร้องเพลงเล่าเรื่อง เหล่าแฟนๆและผู้ชมก็อาจจะเบื่อได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆเข้ามา

 

การที่เขาขึ้นเวทีแสดงในค่ำคืนดนตรีนั้น ย่อมต้องเป็นมุขที่ยอดเยี่ยมยิ่งแน่นอน!

 

เพื่อบรรลุเป้าหมาย ลู่เฉินไม่เสียดายสักนิดเลยที่จะเอ่ยต่อคนฝั่งบลูโลตัสว่าจะแลกกับการไม่ขอรับค่าตัว

 

เขาเชื่อว่าของขวัญของพวกปลาป่นเหล่านั้นเพียงพอที่จะชดเชยค่าตัวของเขาได้

 

แต่สต๊าฟทางด้านนั้นใจใหญ่มากๆ ไม่เพียงแต่จะเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของลู่เฉินทั้งหมดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นค่าตอบแทนส่วนหนึ่งก็ไม่น้อยเลยด้วย!

 

ค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสนั้นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยห้ามถ่ายวิดีโอ กระทั่งยังถ่ายทอดสดปล่อยไปบนอินเตอร์เน็ตให้รับชมกันก่อนอีกต่างหาก เพราะอย่างนี้เลยสามารถเพิ่มผลเชิงบวกให้กับอีเว้นท์ได้

 

ครั้นแล้วลู่เฉินจึงได้ที่รับที่นั่งวีไอพีมาโต๊ะหนึ่งอย่างราบรื่น ที่นั่งนี้เขาไม่ได้นั่งเอง แต่จะมอบให้กับหลี่เฟยอวี่

 

เพราะการไลฟ์สดนั้นจะต้องมีคนมาช่วย เสี่ยวเฟยเกอย่อมเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด และเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่มีอีกด้วย

 

ซึ่งหลังจากที่หลี่เฟยอวี่รับรู้ เขาก็ยินดีเป็นอย่างมาก สองวันก่อนจึงเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าแล้ว

 

ความจริงการไลฟ์กลางแจ้งนั้นง่ายดายมาก แค่ใช้สมาร์ทโฟน4Gเครื่องหนึ่งก็ทำได้แล้ว ซึ่งหลี่เฟยอวี่นั้นกลับไม่สะเพร่าเลยสักนิด นอกจากจะเตรียมกล้องเว็บแคมHDและไมค์คุณภาพสูงที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว เขายังซื้ออุปกรณ์ต่างๆอย่างขาตั้งกล้อง กล่องถ่ายวิดีโอ และอุปกรณ์กรองเสียงแบบครบชุดมาเพิ่มอีกต่างหาก

 

แน่นอนว่าของพวกนี้ย่อมเป็นลู่เฉินจ่ายเงินให้ หลังจากนี้อาจจะมีประโยชน์ก็ได้

 

“เวลาไม่เช้าแล้วรีบๆไปเตรียมตัวกันเหอะ!”

 

หลี่เฟยอวี่หัวเราะฮาฮาแล้วพูดว่า “ฉันเคยได้ยินคนอื่นพูดกันมานานแล้วนะว่าค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสเนี่ย คึกคักมาก เสี่ยวเหม่ยเองก็เคยมา ครั้งนี้ฉันเลยบอกเธอว่าจะได้นั่งโต๊ะวีไอพีทำไลฟ์สดด้วย เธอเลยพูดว่าจะเข้ามาดูห้องไลฟ์ของพวกเราคืนนี้น่ะ!”

 

เขาพูดจนหน้าบาน เผยหางออกมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

 

ลู่เฉินกล่าวถามอย่างประหลาดใจว่า “เสี่ยวเหม่ยไม่ใช่ลาออกแล้วเหรอ? นายติดต่อหล่อนได้ยังไงน่ะ?”

 

เสี่ยวเหม่ยเป็นประชาสัมพันธ์ในร้าน4Sที่หลี่เฟยอวี่ทำงานอยู่ เธอเป็นคนสวยที่มีคนไล่ตามจีบมากมาย และหลี่เฟยอวี่เองก็เป็นหนึ่งในคนที่แอบหลงรักเธอด้วยเช่นกัน

 

จะว่าไปตอนแรกที่หลี่เฟยอวี่เล่นไลฟ์นั้น เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเสี่ยวเหม่ยนี่ล่ะ ว่ากันว่าฝ่ายหลังตั้งแต่ไลฟ์ก็มีรายได้หลายแสน กระทั่งงานในร้าน4Sก็ไม่อยากทำอีกต่อไปแล้ว จะหันมาทำอาชีพไลฟ์สตรีมเมอร์แทน

 

“อย่าพูดถึงเลยน่า!”

 

หลี่เฟยอวี่พูดอย่างเสียดายว่า “ห้องไลฟ์ของเสี่ยวเหม่ยน่ะละเมิดกฎจนโดนแบนไปแล้ว เธอเลยไม่ลาออกน่ะ”

 

แม้น้ำเสียงจะดูเสียดาย แต่ใบหน้าของเขากลับไม่ได้แสดงสีหน้าเสียใจเลยสักนิด กลับมีท่าทางเบิกบานเสียมากกว่า

 

ลู่เฉินหลุดหัวเราะพรืด ไม่ได้พูดมากอะไร

 

เสี่ยวเหม่ยที่รู้จักแต่ไม่เคยเห็นหน้าคนนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ได้สวยมาก แต่หลี่เฟยอวี่ก็ชอบไปแล้ว เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก

 

“แท็กซี่!”

 

หลี่เฟยอวี่โบกมือขวางแท็กซี่ที่เพิ่งผ่านมาคันหนึ่ง

 

คนทั้งสองรีบไปโฮ่วไห่ด้วยกัน คนขับแท็กซี่ในเมืองหลวงก็ไม่ใช่ไม่คุ้นเคยแถวนั้น หลังจากบอกที่อยู่จึงแล่นมาจนถึงลานจอดรถนอกบาร์บลูโลตัสอย่างรวดเร็ว

 

แต่เดิมพื้นที่บาร์บลูโลตัสเป็นโรงงานเล็กๆข้างถนน ต่อมาหลังจากปรับปรุงเมืองหลวงก็มีรูปร่างเช่นเดียวกับในปัจจุบัน ด้านหน้าร้านเป็นถนนคนเดินที่คึกคัก ส่วนด้านหลังก็เป็นทะเลสาบเทียมที่มีคลื่นซัดสาด

 

ไม่เหมือนกับบาร์เดย์ลิลลี่ ลานจอดรถที่เป็นของบาร์บลูโลตัสนั้นมีกระทั่งถนนลาดยางสองเลนเลยด้วยซ้ำ เพราะทางเข้าออกสะดวกสบายเช่นนี้เอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเวลาธรรมดา วันหยุดสุดสัปดาห์ หรือมาช้าก็จะไม่มีที่นั่งว่างเหลือ กิจการนั้นเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง

 

แต่สิ่งที่ทำให้คนอิจฉากันสุดๆนั้นก็คือ กรรมสิทธิ์ที่ดินร้านขนาดใหญ่รวมทั้งลานจอดรถที่มีพื้นที่กว้างขวางทั้งหมดต่างก็ถูกชางเว่ยเถ้าแก่บาร์บลูโลตัสซื้อไว้นานแล้ว ถ้าหากเขาลาวงการไม่ทำงานต่อ แค่ขายอสังหาริมทรัพย์ก็ใช้ได้ไปสามชั่วรุ่นแล้ว!

 

แต่ชางเว่ยไม่เคยมีความคิดนี้เลย เขาบริหารร้านเหล้าของตัวเองอย่างตั้งใจมาโดยตลอด ด้วยความประพฤติเช่นนี้ก็ยิ่งส่องประกายความหาญกล้าของเขา คนในวงการธุรกิจเมื่อพูดถึงทีไร ก็ยังอดยกนิ้วโป้งให้เขาไม่ได้

 

ค่ำคืนดนตรีจะเริ่มงานตอนทุ่มหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ถึงห้าโมงเย็นเลย แต่ก็มีคนมากมายล่วงหน้ามาถึงก่อนเหมือนกับคนทั้งสองแล้วเช่นกัน พวกเขาบางคนก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพของลู่เฉิน เพียงแต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ชม

 

พื้นที่กับเวทีนั้นถูกจัดเตรียมเอาเสร็จแล้ว ระบบไฟระบบเสียงรวมถึงจอLEDขนาดใหญ่ก็ติดตั้งไปไม่น้อย สต๊าฟหลายคนกำลังเร่งทำงานปรับแต่งเครื่องเสียง และมีบางคนกำลังตรวจเช็คสภาพช่วงสุดท้ายอยู่

 

พอลงจากรถตรงทางเข้า หลี่เฟยอวี่ก็มองจนตาตั้ง “ถล่มมัน นี่ยังนับเป็นงานอีเว้นท์ร้องเพลงอยู่อีกไหมเนี่ย!”

 

พื้นที่ลานจอดรถนั้นกว้างขวางเพียงพอ แม้จะแยกเวทีไว้ส่วนหนึ่ง การจุรับผู้ชมสองสามพันคนก็ยังคงไม่มีปัญหา ทั่วโฮ่วไห่ก็มีแค่ที่นี่เท่านั้นที่มีความสามารถพอจัดอีเว้นท์ขนาดใหญ่แบบนี้ได้

 

“ทั้งสองท่านมาเข้าร่วมการแสดงด้วยใช่ไหมครับ?”

 

สต๊าฟของงานคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามอย่างสุภาพ

 

“ใช่ครับ!”

 

ลู่เฉินหยิบบัตรประชาชนกับตั๋ววีไอพีของตัวเองส่งให้อีกฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งค่ำคืนดนตรีของบลูโลตัสนั้นได้จัดมาหลายครั้งแล้ว และมักจะเกิดเรื่องขึ้นเป็นประจำ ดังนั้นหากไม่มีบัตรประชาชนหรือตั๋วผู้ชมก็จะเข้างานไม่ได้

 

กระทั่งเขายังเห็นรถตำรวจสีขาวสลับน้ำเงินจอดอยู่ไม่ไกลนักด้วย น่าจะเป็นตำรวจที่สถานีตำรวจท้องที่ส่งมา

 

หลังจากสต๊าฟตรวจบัตรกับตั๋วแล้ว ก็พูดว่า “เชิญตามผมมาได้เลยครับ”

 

จากการนำทางของอีกฝ่าย ลู่เฉินและหลี่เฟยอวี่ทั้งสองคนก็เดินทะลุลานจอดรถ เข้ามาข้างในบาร์บลูโลตัส

 

การตกแต่งของบาร์บลูโลตัสนั้นให้บรรยากาศหรูหรากว่าเดย์ลิลลี่มาก เพียงแค่ความยาวของเคาน์เตอร์บาร์ที่ทำเป็นลูกคลื่นก็ยาวกว่าฝ่ายหลังสองเท่าแล้ว ตรงหิ้งเหล้าวางเหล้าหลากหลายสีสันจนเต็ม แก้วทรงสูงที่ห้อยลงมาหลายใบส่องแสงระยิบภายใต้แสงแวววาวของหลอดไฟ

 

ร้านแบ่งเป็นสามชั้น เวทีรูปตัวTเป็นแบบสากลมาก จอภาพด้านหลังก็มีขนาดอย่างน้อย500นิ้ว หลอดไฟแต่ละชนิดติดตั้งได้ชาญฉลาด อุปกรณ์ลำโพงทำให้คนอุทานอย่างชื่นชม

 

เนื่องจากคืนนี้มีการจัดงานอีเว้นท์ ดังนั้นภายในร้านจึงยังไม่ได้เปิดกิจการ ซึ่งห้องโถงชั้นล่างก็ถูกใช้เป็นพื้นที่หลังเวทีชั่วคราว โซนที่แบ่งออกมาได้ไม่เท่ากันนั้นมีไว้ให้นักร้องและวงดนตรีที่มาร่วมแสดงไว้ใช้

 

ตำแหน่งของบาร์เดย์ลิลลี่อยู่ติดฝั่งซ้ายด้านในเคาน์เตอร์ โต๊ะสามโต๊ะจัดรวมเป็นโต๊ะยาว พื้นที่ที่มอบให้นับว่าไม่น้อยเลย

 

ตัวแทนของบาร์เดย์ลิลลี่ที่จะขึ้นเวทีแสดงคืนนี้นั้นย่อมไม่ได้มีแค่ลู่เฉินคนเดียว แต่สมาชิกวงผั่งหวงกับพี่สาวนายังไม่มา ส่วนนักร้องร้านเหล้าร้านอื่นที่มาก็ไม่นับว่ามากนัก

 

หลังจากลู่เฉินวางกีตาร์ของตัวเองเอาไว้ ก็ขึ้นมาโซนวีไอพีตรงชั้นสองกับหลี่เฟยอวี่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+