ตอนที่ 680 คลื่นลมแรง

ในสังคมสมัยใหม่ อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตมีการพัฒนาอย่างมาก เนื่องจากมีคนจำนวนมากเกินไปบนอินเทอร์เน็ต มันจึงกลายเป็นสถานที่ที่ทั้งถูกและผิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และบล็อกก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเหมือนวัดเทพประจำเมืองแห่งความถูกและผิด

และวัดเทพประจำเมืองในเมืองส่วนมากก็ล้วนคึกคักมาก ลำพังแค่ในประเทศจีนเอง บล็อกล่างฉาวก็รุ่งเรืองที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ชาวเน็ตที่วันๆ โลดแล่นอยู่แต่ในบล็อกก็มีนับพันนับหมื่นทีเดียว

แต่บล็อกล่างฉาวกับวงการบันเทิงก็มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ปล่อยให้ดาราทุกประเภทรวมตัวกัน และปล่อยให้ข่าวบันเทิงเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เรื่องอื้อฉาว และเรื่องโคมลอยถูกเปิดเผยในบล็อก ให้คนได้สัมผัสและประเมินให้พอใจก่อน

ฉะนั้นจึงได้เกิดบัญชีการตลาดและบัญชีทางการรายเล็กรายใหญ่สำหรับวงการบันเทิงโดยเฉพาะ

อย่างเช่น ‘ปาปารัสซี่อันดับหนึ่งของวงการบันเทิงจางเหว่ยเต๋อ’ ‘เรื่องนั้นในวงการบันเทิง’ ‘แฉเรื่องกอสซิปทุกวัน’ และอื่นๆ ที่ล้วนเป็นชื่อบัญชีทางการชื่อดังในบล็อก

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม บัญชีทางการรายใหญ่ ‘นักสืบในวงการ’ ที่มีแฟนคลับกว่า 7.6 ล้านคนได้แจ้งข่าวในบล็อกว่า อันซินที่ได้เป็นแชมป์ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ถูกสงสัยว่าแตกคอกับลู่เฉินและเฉินเฟยเออร์ ทั้งยังปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียแล้ว!

ข่าวซุบซิบนี้ทำให้ชาวเน็ตที่ไม่รู้ความจริงอะไรรีบเข้าเว็บเพื่อดูหน้าหลักทันที

‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันแรกเพิ่งจะจบไปได้ไม่กี่วัน สิ้นเดือนยังจะมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของเดอะวอยซ์อีก เวลานี้กลับมีข่าวเรื่องแชมป์เปี้ยนอันซินแตกคอกับโค้ชระดับบิ๊กทั้งสองออกมา นี่แทบจะทำให้คนถลึงตากันใหญ่เลยทีเดียว

ก่อนอื่นผู้คนต่างสงสัยว่านี่เป็นข่าวปลอมหรือไม่ เพราะระหว่างการถ่ายทำ ความสัมพันธ์ของอันซินและโค้ชซึ่งก็คือเฉินเฟยเอ๋อร์ดีมากๆ การแสดงของอันซินเองก็ได้รับกำลังใจและการยอมรับจากลู่เฉินด้วย ทำไมถึงเกิดแตกคอกันขึ้น

อีกอย่าง ทำไมอันซินถึงได้ปฏิเสธการเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดีย

ข้อสงสัยนับไม่ถ้วนที่ทำให้คนงง แฟนคลับไม่น้อยยังแท็กลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เพื่อหาคำตอบ และแฟนคลับที่ร้อนอกร้อนใจบางคนก็ยังไปก่นด่าในบล็อกของอันซินอีกด้วย

สำหรับพวกเขาแล้ว การที่อันซินแตกคอกับลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ ต้องเป็นเพราะความผิดเธอแน่นอน คนลืมบุญคุณ!

แต่อันซินเองก็มีแฟนคลับมากมาย ทั้งสองฝ่ายต่อกรกันในบล็อก ทะเลาะกันจนฟ้าจะถล่มลงมา

แต่ไม่นาน บล็อกที่มีชื่อบัญชีว่า ‘ผู้จัดการส่วนตัวของอันซิน’ ได้โพสต์ว่าสิ่งที่ ‘นักสืบในวงการ’ โพสต์นั้นไม่เป็นความจริง อันซินไม่ได้แตกคอกับลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ ทั้งสองเพียงแต่มีความเห็นต่างในเรื่องสัญญาเท่านั้น

ต่อมาอันซินเองก็ได้ออกมาพูด เธอบอกว่าลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นโค้ชที่เธอให้ความเคารพที่สุด ที่บอกว่าแตกคอนั้นเป็นเรื่องไร้สาระมาก ไม่ว่าอนาคตเธอจะเซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียหรือไม่ เธอก็ยังคงขอบคุณในความช่วยเหลือของโค้ชทั้งสองคนเสมอ

การประกาศของอันซินและผู้จัดการส่วนตัวของอันซินนั้น ทำให้พายุที่ ‘นักสืบในวงการ’ เริ่มต้นโหมขึ้นค่อยๆ ทอนกำลังลง แต่ทุกคนก็เกิดความสงสัยใหม่อยู่ดี

นั่นเป็นเพราะสัญญามันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า

นั่นก็เป็นไปได้ ตลอดมา บริษัทเอเจนซี่ในวงการบันเทิงเข้มงวดมากในการเซ็นสัญญากับศิลปิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินหน้าใหม่ ซึ่งทำให้เกิดการฟ้องร้องมากมายและกลายเป็นประเด็นร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ลองคิดดู ถ้าเฉินเฟยมีเดียให้สัญญาที่ดีกับอันซินก็ไม่มีเหตุผลที่อันซินจะปฏิเสธอย่างแน่นอน!

ในช่วงเวลาหนึ่ง เสียงแสดงความเห็นอกเห็นใจและสนับสนุนอันซินก็เพิ่มมากขึ้น และแม้แต่จำนวนแฟนคลับของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นนับล้านเลยทีเดียว

และยังมีบัญชีวีไอพีไม่น้อยเลยที่คอยโหมไฟให้ลุกโชน ต่างก็ตำหนิเฉินเฟยมีเดียทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเสียงของคนหมู่มากนี้ทำให้ผิดกลายเป็นถูกได้ ดังนั้นจึงทำให้เฉินเฟยมีเดียถูกผลักขึ้นไปอยู่บนยอดพายุทันที

“ผู้จัดการของอันซินชื่อหวังหาน นั่นไม่ใช่พี่สาวที่เป็นญาติห่างๆ ของเธอ”

ในบล็อกของล่างฉาวร้อนแรงมาก ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มาทราบเรื่องราวเอาก็ตอนตึกแล้ว

เรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ กำลังจะออกอากาศครั้งแรก เพื่อรับประกันคุณภาพ ภารกิจการถ่ายทำจึงรัดกุมมาก ดังนั้นหลังจากกลับมาถึงปักกิ่งเวลาส่วนใหญ่ของทั้งคู่จึงมักจะอยู่ในกองถ่าย ตอนทำงานก็มักจะปิดโทรศัพท์ด้วย

หลังจากนั้นก็เป็นลู่ซีที่นำข่าวมาบอกทั้งคู่ถึงโรงถ่ายไหวโหรว

พี่สาวกลับมาที่ปักกิ่งเมื่อเช้านี้ เมื่อเธอได้รับข่าวเธอก็ทำการตรวจสอบข่าวลือทันที ดังนั้นเธอจึงมีความรู้คร่าวๆ แล้วเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายนี้

ไม่มีอะไรที่ใหม่สำหรับโลกใบนี้ ความลับในวงการบันเทิงก็เป็นเรื่องยากที่จะปิดบัง แต่เส้นสายส่วนตัวที่เฉินเฟยมีเดียมีในวงการบันเทิงก็กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงมีคนส่งข่าวนี้มาทันที

หวังหานที่เป็นผู้จัดการของอันซินนั้นเป็นผู้จัดการดาราที่เก๋าเกมมาก เธออยู่ในวงการบันเทิงนี้มาสิบกว่าปีแล้ว เคยดูแลดารานักแสดงมาแล้วหลายคน มีประสบการณ์โชกโชน และก็รับมือยากมากเช่นกัน

เธอเรียกตัวเองว่าเป็นพี่สาวที่เป็นญาติห่างๆ ของอันซิน อันซินเองก็ยอมรับความสัมพันธ์นี้อย่างเงียบๆ ดังนั้นจึงทำให้ลู่ซีที่ก่อนหน้านี้เจรจาเรื่องสัญญาไม่ได้ระวังตั้งตัวเลย สุดท้ายก็เสียเปรียบไปอย่างเซ็งๆ

ตอนเดินทางกลับมา ลู่ซีจึงไหว้วานให้คนทำการตรวจสอบหวังหานคนนี้

หัวหน้าของหวังหาน คือบริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ยแห่งปักกิ่ง เป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงในแวดวงนี้เช่นกัน

เมื่อทราบสถานะที่แท้จริงของหวังหานแล้ว อย่างนั้นก็ได้คำตอบแล้ว คงเป็นบริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ยที่ทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำอยู่แน่ๆ

“บริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ย ฉันรู้จัก…”

เฉินเฟยเอ๋อร์พูดว่า “พวกเขาไม่ได้เซ็นสัญญาเองตรงๆ แปดเก้าในสิบส่วนต้องเป็นเพราะอยากสร้างกระแสให้อันซินแน่ๆ”

บริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ยเป็นบริษัทจัดการดารานักแสดงโดยเฉพาะ หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือบริษัทที่จัดการเรื่องผู้จัดการดาราโดยเฉพาะ คนที่พวกเขาเซ็นสัญญาด้วยคือผู้จัดการ ไม่ใช่ดารานักแสดง ได้ส่วนแบ่งรายได้จากการที่ผู้จัดการดูแลดารานักแสดงแต่ละคน

ในวงการบันเทิง บริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ยถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ผู้จัดการดาราหลายคนทำงานให้กับบริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ย ชื่อเสียงในด้านอาชีพนี้ค่อนข้างดีเลย

แต่สำหรับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในวงการบันเทิง ผู้จัดการของบริษัทเอเจนซี่เซินเยวี่ยนั้นต้องใช้คำว่ายากที่จะรับมืออย่างไม่ต้องสงสัย

“นี่คือทำตัวเป็นคนเลวแล้วยังตั้งป้ายโชว์อีกเหรอ!”

ลู่ซีพูดอย่างโกรธๆ ว่า “โอ้อวดตัว แล้วยังแกล้งทำท่าทางน่าสงสารทั้งๆ ที่จะฉกฉวยของไป แถมยังถือโอกาสสร้างกระแส มันช่าง…”

คำที่เลวร้ายกว่านี้ พี่สาวด่าไม่ออกแล้ว

ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์สบตากัน ต่างก็รู้สึกปวดหัวมาก

เมื่อเจอกับอีกฝ่ายที่เป็นผู้จัดการมืออาชีพที่มีประสบการณ์เต็มเปี่ยม ช่างเป็นเรื่องยุ่งยากใจจริงๆ และอีกฝ่ายยังพุ่งเป้าชัดเจนมาก ก็คือต้องฮุบเฉินเฟยมีเดียให้ได้ หรือพูดให้ถูกต้องก็คือจะใช้ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นเหมือนบันไดที่ก้าวไปสู่ความก้าวหน้า เพื่อให้อันซินขึ้นไปสู่จุดสุดยอดให้ได้

สิ่งที่บริษัทเซินเยวี่ยได้ก็คือส่วนแบ่ง ยิ่งพวกเขาทำให้อันซินมีชื่อเสียงมากเท่าไร หลังจาก ‘ขายออกไป’ ก็จะได้มากขึ้นเท่านั้น สัญญาที่เฉินเฟยมีเดียให้แน่นอนว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้

หากพูดอย่างจริงจังก็คือ ผลปรากฏออกมาอย่างนี้ก็เกี่ยวข้องกับลู่เฉินโดยตรง เป็นเขาที่กำหนดกฎใหม่นี้ของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ไม่อย่างนั้นหากทำตามกฎเดิม ที่กำหนดให้คนที่เข้ารอบสี่คนสุดท้ายต้องเซ็นสัญญาก่อน อย่างนั้นก็คงไม่มีความยุ่งยากอย่างวันนี้แน่

ในวงการบันเทิง คนดีอาจจะไม่ได้สิ่งดีๆ ตอบแทนก็ได้

ที่จริงแล้วการจะจัดการเรื่องนี้มันง่ายมาก นั่นก็คือตอบสนองความต้องการที่หวังหานเสนอมาเสีย อย่างนั้นทุกคนก็จะชื่นมื่นกันถ้วนหน้า

ทางเซินเยวี่ยเกรงว่าก็คงกำลังคำนวณเรื่องนี้อยู่แน่

เพียงแต่ลู่เฉินไม่มีความคิดที่จะให้พวกเขาสมหวัง!

………………………………

นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปร FIC Goes SIXTH

เปิดตี้ฉลองครบรอบ 6 ปี

อัปเพิ่ม +1

เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 16.00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ

15-28 ส.ค. 65 เท่านั้น!

ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

Ink Stone